“แนนเป็นไงบ้างตาไท ทางนั้นมีอะไรให้เราช่วยไหม” คุณกานดาถามถึงว่าที่ลูกสะใภ้คนโตอย่างเป็นห่วง
“ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนะครับ งานไม่ล่มแน่นอนครับคุณกานดา” ไทธรณ์ยิ้มให้มารดา ก่อนจะถูกค้อนขวับวงใหญ่จากคุณกานดา
“ไม่ต้องมาประชดประชันแม่เลยตาไท ดีนะที่แนนไม่เป็นไร เพราะเราคนเดียวเลยที่ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ต่อไปต้องดูแลแนนให้ดีๆเข้าใจไหม”
“ครับแม่ ผมจะดูแลสะใภ้คนโตของแม่ให้ดีที่สุด ด้วยเกียรติของกระผมครับ” ไทธรณ์ล้อเลียนรับคำหนักแน่น
“หนูไอคิดถึงพี่บ้างไหมครับ” ธีร์ภาณุยิงคำถามตรงๆเมื่ออยู่กันสองต่อสองภายในสวนหลังบ้าน หลังจากที่ทานอาหารว่างกับคุณกานดาตามคำชวนของผู้เป็นแม่แล้ว ไทธรณ์ก็ขอตัวกลับไปดูงานที่ท่าข้าว คุณกานดาเองก็ติดภารกิจเลือกเครื่องเพชรไว้ให้ว่าที่ลูกสะใภ้ใส่ในวันแต่งงาน
เมื่อถูกถามตรงๆไอรักเลือกที่จะยิ้มหวานแทนคำตอบ ทำเอาคนที่ตั้งคำถามโวยวายประท้วงไม่ยอม
“ไม่เอาครับ อย่ายิ้มอย่างเดียวสิ พี่อยากได้ยินให้หายเหนื่อย พอให้พี่ได้ชื่นใจนะหนูไอ” ไอรักหัวเราะคิก จ้องมองนัยน์ตาของคนที่กำลังรอคำตอบ
“คิดถึงสิคะป๋า” ธีร์ภา
“อ้าว! วอนแล้วไหมล่ะ นั่นเมียเพื่อนนะโว้ย!” ธีร์ภาณุพูดพร้อมกับทำสีหน้าจริงจังเอาเรื่อง“เฮ้ย! ไอ้บ้า ฉันไม่ได้หมายถึงแบบนั้น ฉันหมายถึงว่า น่าจะพาคุณไอรักมาให้ฉันคุ้นเคยหน่อย เผื่อเขาจะมีเพื่อนที่หน้าตาน่ารักเหมือนกัน ฉันจะได้เป็นฝั่งเป็นฝาสักที นี่แม่ก็มาวุ่นวายจับคู่คนโน้น แนะนำคนนี้ให้ฉันอยู่ได้ ไม่รู้อะไรนักหนา”“สมน้ำหน้า ก็แกเล่นทำตัวเป็นพ่อพวงมาลัย ลอยไปลอยมาอยู่ได้ เมื่อไหร่จะหาสะใภ้เป็นตัวเป็นตนให้แม่เขาได้วางใจสักทีล่ะ”“เฮ้ย! ของอย่างนี้มันบังคับใจกันได้ที่ไหน ก็ที่เจอมันเคมีไม่ตรงกันนี่หว่า คบประเดี๋ยวประด๋าวพอได้ แต่ให้เอามาเป็นแม่ของลูก ไม่ไหวว่ะ...ว่าแต่แกเหอะไอ้เสือ คิดยังไงวะ ถึงตัดสินใจลงเอยกับคุณไอรัก เห็นตอนแรกที่มาเล่าให้ฟังโวยวายนักหนาว่าโดนบังคับ บอกตรงๆเซอร์ไพรส์มาก” ปลัดเมฆายิงคำถามจบก็จ้องหน้าเพื่อนรอฟังคำตอบ“แกเคยเชื่อในรักแรกพบไหมวะ” คำตอบที่ได้รับทำให้ปลัดเมฆาสำลักกาแฟ จ้องมองหน้าเพื่อนอย่างขำๆ“ครั้งแรกที่ฉันเจอหนูไอ ฉันก็หลงใหลไปกับหน้าตาเหมือนกับผู้ชายทั่วไปที่เจอผู้หญิงสวยๆแหละ แต่พอได้ใกล้ชิดพูดคุยยิ่งทำให้ฉันรู้
ไอรักอยู่ในชุดเจ้าสาวสีฟ้าอ่อน ผ้าลูกไม้อย่างดีถูกออกแบบให้ดูเรียบหรู ในแบบชุดเกาะอกกระโปรงสั้นเหนือเข่า กับรองเท้าส้นสูงแบบสานสีฟ้าอ่อนเข้ากับชุด บนศีรษะมีช่อดอกไม้สีขาวเล็กๆพร้อมกับผ้าพลิ้วบางสีฟ้าทิ้งตัวลงมาด้านหลัง พอดีกับผมยาวเกือบกลางหลังของหญิงสาว“โอเคไหมคะ” เจ้าของร้านถามไถ่อย่างใส่ใจ ขณะที่ยืนมองไอรักหมุนซ้ายขวาอยู่หน้ากระจกบานใหญ่“เอ่อ หนูไอว่าช่วงเอวจะหลวมไปนิดน่ะค่ะ พี่หลินช่วยแก้ให้หน่อยนะคะ”“ได้ค่ะ แล้วจะให้ใส่อะไรเพิ่มในรายละเอียดของชุดไหมคะ” ไอรักมองดูตัวเองในกระจก แล้วหันมายิ้มให้เจ้าของห้องเสื้อ“ไม่ล่ะค่ะพี่หลิน แก้แค่เอวก็พอแล้วค่ะ”“พี่ขอเวลาแก้สักหนึ่งคืนนะคะ พรุ่งนี้พี่หลินจะให้คนไปส่งที่เรือนไทยนะคะ”“ค่ะ ขอบคุณพี่หลินมากนะคะ”“ไม่เป็นไรค่ะ พี่ยินดีบริการสำหรับคุณไอรักเป็นพิเศษเลยค่ะ” เจ้าของร้านกับลูกค้าต่างยิ้มให้กัน และกำลังจะช่วยกันถอดชุดเจ้าสาวออก“หนูไอครับ หนูไอ”ไอรักชะเง้อฟังเสียงที่เรียกอย่างร้อนรนนั้น“เสียงคุณไทค่ะคุณไอรัก”ไอรักทำสีหน้าแปลกใจเล็กน้อย แล้วรีบเดินออกมาจ
หญิงสาวพูดจบก็กอดคุณนายกานดาแน่น น้ำตาที่สะกดกลั้นเอาไว้ไหลอาบสองแก้มนวล ไอรักสะอื้นจนตัวโยน จึงไม่ทันได้สังเกตว่าคุณกานดาหยุดร้องไห้แล้วคนป่วยที่นั่งอยู่บนรถเข็นถูกเข็นออกมา ทันได้ยินทุกถ้อยคำชัดเจน ธีร์ภาณุยิ้มกว้าง รู้สึกหัวใจพองโตจนคับอก อยากจะดึงตัวคนร่างบางในชุดเจ้าสาวเข้ามากอดแล้วหอมแก้มนวลสักฟอดใหญ่ๆ“พี่จะถือเป็นคำสัญญานะครับ” ไอรักผละจากอ้อมกอดคุณกานดาทันที พร้อมๆกับหันขวับไปทางเจ้าของเสียง“พี่ธีร์...”ไอรักใช้มือปาดน้ำตาป้อยๆยิ้มอย่างเอียงอาย มองดูทุกคนที่อมยิ้มไปกับท่าทางของเธอ“หนูไอครับพี่หิวน้ำ” น้ำเสียงออดอ้อนของคนป่วยช่างน่าหมั่นไส้นัก“ค่ะ” ไอรักรับคำอย่างเสียไม่ได้ไอรักรินน้ำใส่แก้วแล้วนำมายื่นให้คนป่วย ที่นั่งพิงหลังอยู่บนเตียง แต่ธีร์ภาณุก็ไม่รับแก้วไปสักที“รับไปสิคะพี่ธีร์”“พี่ปวดแขน” ไอรักมองหน้าคนตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จอย่างเหนื่อยใจ เพราะจากการสอบถามอาการจากคุณหมอเจ้าของไข้ ก็ทำให้ ไอรักรู้ว่า ธีร์ภาณุไม่ได้เป็นอะไรมาก แค่ศีรษะกระแทกแล้วหมดสติไป เมื่อตรวจ
ชายหนุ่มรุกเร้าหนักขึ้น เขาดึงร่างนุ่มนิ่มขึ้นมานั่งบนตักตัวเอง เพื่อจะได้สัมผัสทุกส่วนของหญิงสาวได้ถนัด เสื้อชั้นในลูกไม้ถูกปลดตะขอหน้าอวดความอวบอิ่มจนคนเห็นแทบคลั่ง ใบหน้าสากก้มลงซุกไซ้อกนิ่มอย่างรวดเร็วด้วยความพึงพอใจ และดูดดึงชิมความหวานจากยอดอกชูชันอย่างไม่รู้จักอิ่ม จนร่างบางสะท้านครั้งแล้วครั้งเล่าไอรักกัดริมฝีปากบางไว้แน่น แต่ก็ยังไม่สามารถกักเก็บอารมณ์หวามไว้ได้จนต้องเผลอครางออกมา เมื่อได้กำไรพอควรจากร่างบางที่มีรสหวานล้ำ ชายหนุ่มก็หยุดการรุกรานซบหน้านิ่งลงกับอกนิ่ม ก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขาเงยหน้าขึ้นสบตาของหญิงสาวที่เต็มไปด้วยเพลิงเสน่หา ซึ่งตนเองเป็นคนก่อ ธีร์ภาณุยิ้มใส่ดวงตาคู่สวยก่อนจะค่อยๆติดตะขอชั้นในและกระดุมเสื้อให้หญิงสาว และจัดชุดให้เรียบร้อยเหมือนเดิม แล้วโอบเอวบางไว้หลวมๆไอรักถอนหายใจด้วยความโล่งอกปนเสียดายอย่างบอกไม่ถูก หญิงสาวยังนั่งนิ่งอยู่บนตักของธีร์ภาณุ มันรู้สึกอบอุ่นเมื่ออยู่ใกล้ๆผู้ชายคนนี้ ไอรักไม่รู้ว่าความรู้สึกรังเกียจเมื่อตอนที่พบครั้งกันครั้งแรกมันหายไปไหน รู้แต่ว่าไม่กลัวสัมผัสจากเขาแล้ว หากแต่รู้สึกดีด้วยซ้ำไป สองหนุ่มสาวสบตาก
“เออ...หายไวๆนะครับนายเล็ก รีบกลับไปเคลียร์งานที่ไร่ให้เสร็จด้วย ไม่อย่างนั้นจะบอกแม่ให้เลื่อนงานแต่งของแกออกไป ให้ฉันแต่งกับแนนคู่เดียวพอ” ไทธรณ์ขู่น้องชาย แต่ดูเหมือนคนไข้จะจงใจหลับตาลงทำหูทวนลมไม่สนใจคำพูดใดๆ“พี่กลับก่อนนะคะหนูไอ อย่าดูแลแต่คุณธีร์จนลืมดูแลสุขภาพตัวเองนะ”“ค่ะพี่แนน ขอบคุณมากนะคะ” ไอรักยิ้มหวานพร้อมกับเดินไปส่ง รสิตากับไทธรณ์ที่ประตู“ฝากดูแล้เจ้าธีร์ด้วยนะหนูไอ พี่กลับก่อนนะครับ” ไทธรณ์พูดพร้อมกับชำเลืองสายตารู้ทันไปที่คนไข้ที่ทำเป็นนอนหลับไม่รู้เรื่องอยู่บนเตียง“ค่ะพี่ไท” ไอรักตอบยิ้มๆแล้วเหลือบสายตามองไปยังร่างของคนตัวโตบนเตียงคนไข้ไอรักดึงประตูห้องปิดแผ่วเบา แต่ก็ต้องสะดุ้งตกใจเมื่อมือใหญ่ปาดหน้ากดปิดล็อกตามทันที“พี่ธีร์! ทำอะไรคะ” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์เหลือร้ายผุดพรายเต็มใบหน้า“มันค้างอะ” ไอรักตีท่อนแขนแกร่งเบาๆ แล้วรุนหลังธีร์ภาณุตรงไปยังเตียง ชายหนุ่มเดินไปตามแรงน้อยนิดที่พยายามบังคับตัวเองอยู่“ไม่ต้องเลยนะ เป็นคนไข้ก็ต้องพักผ่อนเยอะๆ” ไอรักจับคนตัวโตหมุนแล้วเขย่งเท้าเพื่อวางมือบนบ่ากว้าง ออกแรงกดลงเ
“พี่ธีร์” ไอรักเรียกหาคนป่วยเมื่อขึ้นบ้านมาแล้วไม่เห็นธีร์ภาณุนั่งอยู่ที่เดิม“ไปไหนของเขานะ” ไอรักเดินตามเข้าไปหาในห้องนอน มองไปยังประตูห้องน้ำที่ปิดอยู่“พี่ธีร์อยู่ในห้องน้ำหรือเปล่าคะ” ไอรักเคาะประตูห้องน้ำเบาๆ แต่ก็เงียบไม่มีเสียงตอบ หญิงสาวเลยเปิดประตูห้องน้ำ แล้วโผล่หน้าเข้าไปมองหา จึงได้เห็นว่าคนตัวโตนอนหลับตาพริ้มแช่ตัวอยู่ในอ่างอาบน้ำ“พี่ธีร์” ไอรักเรียกเบาๆ ธีร์ภาณุลืมตาขึ้นช้าๆ เขายันกายขึ้นนั่งตัวตรงในอ่างอาบน้ำ“พี่เมื่อยตัวเลยอยากแช่น้ำอุ่นหน่อย นี่เผลอหลับไปหรือเนี่ย” ธีร์ภาณุพูดด้วยน้ำเสียงเพลียๆ“หนูไอรอที่โต๊ะหลังบ้านนะคะ อีกเดี๋ยวป้าบัวจะยกกับข้าวมาให้”“ครับ...โอ๊ย!” ธีร์ภาณุยกมือขึ้นกุมหัว สีหน้าแสดงอาการเจ็บปวดได้อย่างแนบเนียน ไอรักรีบปราดเข้าไปนั่งลงข้างอ่างอาบน้ำ แล้วจับบ่าคนสำออยด้วยความเป็นห่วง“เป็นอะไรคะ ปวดหัวหรือคะ ไปหาหมอไหม” คนเป็นห่วงซักถามอาการเร็วปรื๋อ“เจ็บตรงนี้ ตรงนี้ แล้วก็ตรงนี้” ธีร์ภาณุจับมือบางวางตรงนั้น ตรงนี้แล้วทำหน้าสำออย แต่ไอ้ตรงนี้สุดท้ายของเขาน่ะ มันอยู่ใต้น้ำ คนที่สัมผัสได้ถ
“หนูไอไม่แต่งค่ะคุณแม่ มันหมดสมัยคลุมถุงชนแล้วนะคะ แล้วหนูไอก็ไม่ได้รักผู้ชายคนนั้นด้วย” ไอรักพูดเสียงดังอย่างโมโห “แต่หนูไอก็น่าจะรู้ว่าไม่มีใครขัดใจป๊าได้นะลูก”มารดาพยายามเกลี้ยกล่อมบุตรสาว ที่ตอนนี้นั่งชักสีหน้าแสดงถึงความไม่พอใจอย่างมาก อยู่บนเตียงนอนของตนเอง “แล้วอีกอย่าง ถึงตอนนี้ไม่ได้รัก เดี๋ยวอยู่ๆ กันไปก็รักกันเองแหละลูก”ไอรักหันขวับจ้องมองมารดาอย่างเอาเรื่อง “ไม่มีทางเป็นไปได้ค่ะ หนูไอมีแฟนแล้ว หนูไอโตแล้วนะคะ บรรลุนิติภาวะแล้ว หนูไอไม่ยอม”ไอรักยอมโกหกว่ามีแฟนเพื่อเอาตัวรอดผู้เป็นมารดาถอนหายใจอย่างเหนื่อยใจเต็มที เดินเข้าไปกอดลูกแล้วลูบศีรษะเบาๆ“หนูไอ...แม่เข้าใจเหตุผลของลูกทุกอย่าง แต่มีเหตุผลหนึ่งที่หนูไอลืมไปหรือเปล่า?” ไอรักหันกลับมามองหน้ามารดาก็พบสายตาที่อ่อนโยนแต่จริงจัง “ความเหมาะสมไงจ๊ะ ผู้ชายคนที่ป๊าเลือกให้ เป็นเจ้าของไร่อ้อยพันกว่าไร่ทางภาคตะวันตก และครอบครัวของเขาก็มีกิจการท่าข้าวที่มีส่วนในการเอื้อกับธุรกิจของเรา แม่ไม่อยากบังคับหนูไอ แต่แม่รู้ว่าหนูไอจะเข้าใจความหวังดีของป๊ากับแม่ และเข้าใจคำว่าความเหมาะสมนะ” หญิงสาวนิ่งเงียบกับเหตุผลที่ได้ฟัง ใช่
“วันนี้พี่เขาจะพาหนูไอไปหาลุงธงกับคุณป้าที่บ้าน เพื่อจะได้เป็นการดูตัวทั้งสองฝ่าย เพราะพี่เขาก็มาแนะนำตัวกับบ้านเราแล้ว หนูไอก็ต้องไปแนะนำตัวกับบ้านโน้นด้วย ตอนแรกป๊าว่าจะพาไปเอง แต่ตาธีร์เขาอาสามารับ ป๊าก็เลยว่า ดีเหมือนกัน ป๊าแก่แล้วขี้เกียจนั่งรถนานๆ เอาไว้เจอกันรวมญาติทีเดียวในงานแต่งเลยดีกว่า ฮ่าๆ” ไอรักนิ่งอึ้ง นึกไม่ถึงว่าจะถูกจู่โจมรวดเร็วขนาดนี้ “แต่...แม่คะ” ไอรักพยายามหาตัวช่วย หากแต่มารดากลับนิ่งเงียบ เพราะถือว่าเมื่อเช้าได้อธิบายไปหมดทุกอย่างแล้ว ต่อไปก็เป็นเรื่องของพ่อลูกจะต้องคุยกันเอง “ป๊าคะ” ไอรักกลืนน้ำลายลงคอ กำลังคิดว่าเหตุผลที่เธอคิดไว้ ที่จะมาใช้ปฏิเสธครั้งนี้จะรุนแรงไปหรือเปล่า เธอนั่งเงียบอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตัดสิน ใจโพล่งออกมาว่า “ป๊าคะ แม่คะ หนูไอมีแฟนแล้วค่ะ” เสี่ยอินชะงักมือที่ถือช้อนข้าวต้มค้างไว้ แล้วมองหน้าบุตรสาวก่อนจะพูดว่า “ก็แค่แฟน มีแล้วก็เลิกได้ เอาเป็นว่าวันนี้กินข้าวเช้าเสร็จ หนูไอก็เดินทางไปกับพี่เขาเลยนะ” ไอรักอ้าปากเหวอ ไม่ได้เธอจะยอมไม่ได้ “แต่เราใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันแล้วนะคะป๊า” ได้ผล! ทุกคนนิ่งเงียบ ไอ
“พี่ธีร์” ไอรักเรียกหาคนป่วยเมื่อขึ้นบ้านมาแล้วไม่เห็นธีร์ภาณุนั่งอยู่ที่เดิม“ไปไหนของเขานะ” ไอรักเดินตามเข้าไปหาในห้องนอน มองไปยังประตูห้องน้ำที่ปิดอยู่“พี่ธีร์อยู่ในห้องน้ำหรือเปล่าคะ” ไอรักเคาะประตูห้องน้ำเบาๆ แต่ก็เงียบไม่มีเสียงตอบ หญิงสาวเลยเปิดประตูห้องน้ำ แล้วโผล่หน้าเข้าไปมองหา จึงได้เห็นว่าคนตัวโตนอนหลับตาพริ้มแช่ตัวอยู่ในอ่างอาบน้ำ“พี่ธีร์” ไอรักเรียกเบาๆ ธีร์ภาณุลืมตาขึ้นช้าๆ เขายันกายขึ้นนั่งตัวตรงในอ่างอาบน้ำ“พี่เมื่อยตัวเลยอยากแช่น้ำอุ่นหน่อย นี่เผลอหลับไปหรือเนี่ย” ธีร์ภาณุพูดด้วยน้ำเสียงเพลียๆ“หนูไอรอที่โต๊ะหลังบ้านนะคะ อีกเดี๋ยวป้าบัวจะยกกับข้าวมาให้”“ครับ...โอ๊ย!” ธีร์ภาณุยกมือขึ้นกุมหัว สีหน้าแสดงอาการเจ็บปวดได้อย่างแนบเนียน ไอรักรีบปราดเข้าไปนั่งลงข้างอ่างอาบน้ำ แล้วจับบ่าคนสำออยด้วยความเป็นห่วง“เป็นอะไรคะ ปวดหัวหรือคะ ไปหาหมอไหม” คนเป็นห่วงซักถามอาการเร็วปรื๋อ“เจ็บตรงนี้ ตรงนี้ แล้วก็ตรงนี้” ธีร์ภาณุจับมือบางวางตรงนั้น ตรงนี้แล้วทำหน้าสำออย แต่ไอ้ตรงนี้สุดท้ายของเขาน่ะ มันอยู่ใต้น้ำ คนที่สัมผัสได้ถ
“เออ...หายไวๆนะครับนายเล็ก รีบกลับไปเคลียร์งานที่ไร่ให้เสร็จด้วย ไม่อย่างนั้นจะบอกแม่ให้เลื่อนงานแต่งของแกออกไป ให้ฉันแต่งกับแนนคู่เดียวพอ” ไทธรณ์ขู่น้องชาย แต่ดูเหมือนคนไข้จะจงใจหลับตาลงทำหูทวนลมไม่สนใจคำพูดใดๆ“พี่กลับก่อนนะคะหนูไอ อย่าดูแลแต่คุณธีร์จนลืมดูแลสุขภาพตัวเองนะ”“ค่ะพี่แนน ขอบคุณมากนะคะ” ไอรักยิ้มหวานพร้อมกับเดินไปส่ง รสิตากับไทธรณ์ที่ประตู“ฝากดูแล้เจ้าธีร์ด้วยนะหนูไอ พี่กลับก่อนนะครับ” ไทธรณ์พูดพร้อมกับชำเลืองสายตารู้ทันไปที่คนไข้ที่ทำเป็นนอนหลับไม่รู้เรื่องอยู่บนเตียง“ค่ะพี่ไท” ไอรักตอบยิ้มๆแล้วเหลือบสายตามองไปยังร่างของคนตัวโตบนเตียงคนไข้ไอรักดึงประตูห้องปิดแผ่วเบา แต่ก็ต้องสะดุ้งตกใจเมื่อมือใหญ่ปาดหน้ากดปิดล็อกตามทันที“พี่ธีร์! ทำอะไรคะ” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์เหลือร้ายผุดพรายเต็มใบหน้า“มันค้างอะ” ไอรักตีท่อนแขนแกร่งเบาๆ แล้วรุนหลังธีร์ภาณุตรงไปยังเตียง ชายหนุ่มเดินไปตามแรงน้อยนิดที่พยายามบังคับตัวเองอยู่“ไม่ต้องเลยนะ เป็นคนไข้ก็ต้องพักผ่อนเยอะๆ” ไอรักจับคนตัวโตหมุนแล้วเขย่งเท้าเพื่อวางมือบนบ่ากว้าง ออกแรงกดลงเ
ชายหนุ่มรุกเร้าหนักขึ้น เขาดึงร่างนุ่มนิ่มขึ้นมานั่งบนตักตัวเอง เพื่อจะได้สัมผัสทุกส่วนของหญิงสาวได้ถนัด เสื้อชั้นในลูกไม้ถูกปลดตะขอหน้าอวดความอวบอิ่มจนคนเห็นแทบคลั่ง ใบหน้าสากก้มลงซุกไซ้อกนิ่มอย่างรวดเร็วด้วยความพึงพอใจ และดูดดึงชิมความหวานจากยอดอกชูชันอย่างไม่รู้จักอิ่ม จนร่างบางสะท้านครั้งแล้วครั้งเล่าไอรักกัดริมฝีปากบางไว้แน่น แต่ก็ยังไม่สามารถกักเก็บอารมณ์หวามไว้ได้จนต้องเผลอครางออกมา เมื่อได้กำไรพอควรจากร่างบางที่มีรสหวานล้ำ ชายหนุ่มก็หยุดการรุกรานซบหน้านิ่งลงกับอกนิ่ม ก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขาเงยหน้าขึ้นสบตาของหญิงสาวที่เต็มไปด้วยเพลิงเสน่หา ซึ่งตนเองเป็นคนก่อ ธีร์ภาณุยิ้มใส่ดวงตาคู่สวยก่อนจะค่อยๆติดตะขอชั้นในและกระดุมเสื้อให้หญิงสาว และจัดชุดให้เรียบร้อยเหมือนเดิม แล้วโอบเอวบางไว้หลวมๆไอรักถอนหายใจด้วยความโล่งอกปนเสียดายอย่างบอกไม่ถูก หญิงสาวยังนั่งนิ่งอยู่บนตักของธีร์ภาณุ มันรู้สึกอบอุ่นเมื่ออยู่ใกล้ๆผู้ชายคนนี้ ไอรักไม่รู้ว่าความรู้สึกรังเกียจเมื่อตอนที่พบครั้งกันครั้งแรกมันหายไปไหน รู้แต่ว่าไม่กลัวสัมผัสจากเขาแล้ว หากแต่รู้สึกดีด้วยซ้ำไป สองหนุ่มสาวสบตาก
หญิงสาวพูดจบก็กอดคุณนายกานดาแน่น น้ำตาที่สะกดกลั้นเอาไว้ไหลอาบสองแก้มนวล ไอรักสะอื้นจนตัวโยน จึงไม่ทันได้สังเกตว่าคุณกานดาหยุดร้องไห้แล้วคนป่วยที่นั่งอยู่บนรถเข็นถูกเข็นออกมา ทันได้ยินทุกถ้อยคำชัดเจน ธีร์ภาณุยิ้มกว้าง รู้สึกหัวใจพองโตจนคับอก อยากจะดึงตัวคนร่างบางในชุดเจ้าสาวเข้ามากอดแล้วหอมแก้มนวลสักฟอดใหญ่ๆ“พี่จะถือเป็นคำสัญญานะครับ” ไอรักผละจากอ้อมกอดคุณกานดาทันที พร้อมๆกับหันขวับไปทางเจ้าของเสียง“พี่ธีร์...”ไอรักใช้มือปาดน้ำตาป้อยๆยิ้มอย่างเอียงอาย มองดูทุกคนที่อมยิ้มไปกับท่าทางของเธอ“หนูไอครับพี่หิวน้ำ” น้ำเสียงออดอ้อนของคนป่วยช่างน่าหมั่นไส้นัก“ค่ะ” ไอรักรับคำอย่างเสียไม่ได้ไอรักรินน้ำใส่แก้วแล้วนำมายื่นให้คนป่วย ที่นั่งพิงหลังอยู่บนเตียง แต่ธีร์ภาณุก็ไม่รับแก้วไปสักที“รับไปสิคะพี่ธีร์”“พี่ปวดแขน” ไอรักมองหน้าคนตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จอย่างเหนื่อยใจ เพราะจากการสอบถามอาการจากคุณหมอเจ้าของไข้ ก็ทำให้ ไอรักรู้ว่า ธีร์ภาณุไม่ได้เป็นอะไรมาก แค่ศีรษะกระแทกแล้วหมดสติไป เมื่อตรวจ
ไอรักอยู่ในชุดเจ้าสาวสีฟ้าอ่อน ผ้าลูกไม้อย่างดีถูกออกแบบให้ดูเรียบหรู ในแบบชุดเกาะอกกระโปรงสั้นเหนือเข่า กับรองเท้าส้นสูงแบบสานสีฟ้าอ่อนเข้ากับชุด บนศีรษะมีช่อดอกไม้สีขาวเล็กๆพร้อมกับผ้าพลิ้วบางสีฟ้าทิ้งตัวลงมาด้านหลัง พอดีกับผมยาวเกือบกลางหลังของหญิงสาว“โอเคไหมคะ” เจ้าของร้านถามไถ่อย่างใส่ใจ ขณะที่ยืนมองไอรักหมุนซ้ายขวาอยู่หน้ากระจกบานใหญ่“เอ่อ หนูไอว่าช่วงเอวจะหลวมไปนิดน่ะค่ะ พี่หลินช่วยแก้ให้หน่อยนะคะ”“ได้ค่ะ แล้วจะให้ใส่อะไรเพิ่มในรายละเอียดของชุดไหมคะ” ไอรักมองดูตัวเองในกระจก แล้วหันมายิ้มให้เจ้าของห้องเสื้อ“ไม่ล่ะค่ะพี่หลิน แก้แค่เอวก็พอแล้วค่ะ”“พี่ขอเวลาแก้สักหนึ่งคืนนะคะ พรุ่งนี้พี่หลินจะให้คนไปส่งที่เรือนไทยนะคะ”“ค่ะ ขอบคุณพี่หลินมากนะคะ”“ไม่เป็นไรค่ะ พี่ยินดีบริการสำหรับคุณไอรักเป็นพิเศษเลยค่ะ” เจ้าของร้านกับลูกค้าต่างยิ้มให้กัน และกำลังจะช่วยกันถอดชุดเจ้าสาวออก“หนูไอครับ หนูไอ”ไอรักชะเง้อฟังเสียงที่เรียกอย่างร้อนรนนั้น“เสียงคุณไทค่ะคุณไอรัก”ไอรักทำสีหน้าแปลกใจเล็กน้อย แล้วรีบเดินออกมาจ
“อ้าว! วอนแล้วไหมล่ะ นั่นเมียเพื่อนนะโว้ย!” ธีร์ภาณุพูดพร้อมกับทำสีหน้าจริงจังเอาเรื่อง“เฮ้ย! ไอ้บ้า ฉันไม่ได้หมายถึงแบบนั้น ฉันหมายถึงว่า น่าจะพาคุณไอรักมาให้ฉันคุ้นเคยหน่อย เผื่อเขาจะมีเพื่อนที่หน้าตาน่ารักเหมือนกัน ฉันจะได้เป็นฝั่งเป็นฝาสักที นี่แม่ก็มาวุ่นวายจับคู่คนโน้น แนะนำคนนี้ให้ฉันอยู่ได้ ไม่รู้อะไรนักหนา”“สมน้ำหน้า ก็แกเล่นทำตัวเป็นพ่อพวงมาลัย ลอยไปลอยมาอยู่ได้ เมื่อไหร่จะหาสะใภ้เป็นตัวเป็นตนให้แม่เขาได้วางใจสักทีล่ะ”“เฮ้ย! ของอย่างนี้มันบังคับใจกันได้ที่ไหน ก็ที่เจอมันเคมีไม่ตรงกันนี่หว่า คบประเดี๋ยวประด๋าวพอได้ แต่ให้เอามาเป็นแม่ของลูก ไม่ไหวว่ะ...ว่าแต่แกเหอะไอ้เสือ คิดยังไงวะ ถึงตัดสินใจลงเอยกับคุณไอรัก เห็นตอนแรกที่มาเล่าให้ฟังโวยวายนักหนาว่าโดนบังคับ บอกตรงๆเซอร์ไพรส์มาก” ปลัดเมฆายิงคำถามจบก็จ้องหน้าเพื่อนรอฟังคำตอบ“แกเคยเชื่อในรักแรกพบไหมวะ” คำตอบที่ได้รับทำให้ปลัดเมฆาสำลักกาแฟ จ้องมองหน้าเพื่อนอย่างขำๆ“ครั้งแรกที่ฉันเจอหนูไอ ฉันก็หลงใหลไปกับหน้าตาเหมือนกับผู้ชายทั่วไปที่เจอผู้หญิงสวยๆแหละ แต่พอได้ใกล้ชิดพูดคุยยิ่งทำให้ฉันรู้
“แนนเป็นไงบ้างตาไท ทางนั้นมีอะไรให้เราช่วยไหม” คุณกานดาถามถึงว่าที่ลูกสะใภ้คนโตอย่างเป็นห่วง“ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนะครับ งานไม่ล่มแน่นอนครับคุณกานดา” ไทธรณ์ยิ้มให้มารดา ก่อนจะถูกค้อนขวับวงใหญ่จากคุณกานดา“ไม่ต้องมาประชดประชันแม่เลยตาไท ดีนะที่แนนไม่เป็นไร เพราะเราคนเดียวเลยที่ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ต่อไปต้องดูแลแนนให้ดีๆเข้าใจไหม”“ครับแม่ ผมจะดูแลสะใภ้คนโตของแม่ให้ดีที่สุด ด้วยเกียรติของกระผมครับ” ไทธรณ์ล้อเลียนรับคำหนักแน่น“หนูไอคิดถึงพี่บ้างไหมครับ” ธีร์ภาณุยิงคำถามตรงๆเมื่ออยู่กันสองต่อสองภายในสวนหลังบ้าน หลังจากที่ทานอาหารว่างกับคุณกานดาตามคำชวนของผู้เป็นแม่แล้ว ไทธรณ์ก็ขอตัวกลับไปดูงานที่ท่าข้าว คุณกานดาเองก็ติดภารกิจเลือกเครื่องเพชรไว้ให้ว่าที่ลูกสะใภ้ใส่ในวันแต่งงานเมื่อถูกถามตรงๆไอรักเลือกที่จะยิ้มหวานแทนคำตอบ ทำเอาคนที่ตั้งคำถามโวยวายประท้วงไม่ยอม“ไม่เอาครับ อย่ายิ้มอย่างเดียวสิ พี่อยากได้ยินให้หายเหนื่อย พอให้พี่ได้ชื่นใจนะหนูไอ” ไอรักหัวเราะคิก จ้องมองนัยน์ตาของคนที่กำลังรอคำตอบ“คิดถึงสิคะป๋า” ธีร์ภา
“หนูไอขี้โกง” ไอรักขมวดคิ้วนิดหนึ่งไม่เข้าใจความหมาย ก่อนที่จะรู้ว่าเขาหมายถึงอะไร ร่างกายส่วนที่เพิ่งได้รับการเติมเต็มไปเมื่อสักครู่ก็ถูกรุกรานอีกครั้ง ธีร์ภาณุขยับกายเข้าออกอย่างเชื่องช้าในจังหวะแรก มือหนาบีบเคล้นอกอวบด้วยอารมณ์รัก ก่อนจะเร่งจังหวะสุดท้ายพร้อมกับใช้นิ้วมือบีบเคล้นจุดที่ไวต่อสัมผัสกลางกายสาว ไอรักบิดตัวไปมาครางเสียงหวานเมื่อไม่สามารถต้านทานความรู้สึกเสียวซ่านได้ ในที่สุดชายหนุ่มก็จับจูงหญิงสาวพาไปสัมผัสความรู้สึกสุขสมที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างพร้อมกัน วิมานแสงดาวที่ธีร์ภาณุพาไอรักมาแตะต้องครั้งนี้ ช่างเร่าร้อนและอิ่มเอม จนหญิงสาวต้องกรีดร้องเสียงดังยาวนาน ในขณะที่ชายหนุ่มก็คำรามเสียงทุ้มออกมาอย่างสุดกั้น ธีร์ภาณุซบลงบนตัวหญิงสาว เสียงหายใจถี่กระชั้นของทั้งสองดังประสานกัน“พี่ธีร์...หนูไอหนักค่ะ” เสียงประท้วงอ้อมแอ้มหลังจากพายุอารมณ์รักพัดผ่านไปสักครู่ ทำให้ธีร์ภาณุเลื่อนตัวลงมานอนข้างๆไอรัก ก่อนจะกอดเกี่ยวร่างบางไว้แนบอก แล้วจูบย้ำที่หน้าผากมนแรงๆ“เห็นไหมว่าพี่ไม่เคยบังคับใจใคร” ไอรักก้มหน้างุดกับอกกว้าง หญิงสาวรู้ตัวดีว่าตนเองเป็นฝ่ายเรียกร้องจากช
มือใหญ่ปลดกระดุมออกทุกเม็ดและกำจัดเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ให้พ้นสายตา เขารู้ว่าไอรักไม่ได้ใส่ชุดชั้นในนอน นั่นมันก็ทำให้อารมณ์ของเขาพลุ่งพล่านมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้วทรวงอกอิ่มตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า เมื่อธีร์ภาณุถอนริมฝีปากออกอย่างอ้อยอิ่ง แล้วยกตัวขึ้นทาบทับหญิงสาวไว้โดยที่ตัวเองยังไม่ได้ถอดชุดนอนออกจากร่างกาย มือหนาหยอกเอินอกอวบอย่างเบามือ และไล้ไปมาวนรอบตุ่มไตของยอดอกสีสวยหนักบ้างเบาบ้างเป็นจังหวะเน้นๆ ริมฝีปากหนาก้มลงครอบครองดูดกลืนยอดอกอีกข้าง ลิ้นร้อนสากไล้วนไปมาบนยอดอกช้าๆก่อนจะเพิ่มความเร็วรัวจนร่างบางแอ่นสะท้าน ไอรักแทบจะสำลักลมหายใจตัวเอง หญิงสาวอ้าปากเพื่อช่วยในการดูดอากาศเข้าปอด ถึงกระนั้นเธอก็ยังได้ยินเสียงครางแว่วหวานของตัวเองทุกจังหวะการรุกรานเป็นไปอย่างหนักแน่นและรัวเร็ว ในขณะไอรักคิดว่าตนเองกำลังจะขาดใจ หากต้องผวาเสียววาบไปทั่วท้องน้อย เมื่อนิ้วเรียวใหญ่แทรกผ่านกลางเนินเนื้อสาว ธีร์ภาณุค้นพบว่าไอรักเร่าร้อนพอแล้วสำหรับเขา หากแต่ชายหนุ่มเคยบอกไปแล้วไงว่าจะไม่ทำอะไร หากหญิงสาวไม่เต็มใจนิ้วเรียวใหญ่ช่างร้ายกาจนัก เมื่อชายหนุ่มจงใจกดเน้นล้ำลึกอย่างช้าๆ แล