“เพิ่งมาถึงนี่แหละครับ ต้องขอบคุณคุณภูชิตนะครับ ที่อุตส่าห์ช่วยดูแลหลานสาวคุณพ่อเป็นอย่างดี” ภูชิตยิ้มให้เล็กน้อย
“ไม่เป็นไรครับคนกันเอง”
“หนูไอเป็นหลานของคุณพ่อครับ และอยู่ในฐานะเป็นภรรยาของผม เราจดทะเบียนสมรสกัน และรับรู้กันในเครือญาติแล้ว งานฉลองสมรสเราจะจัดในเดือนหน้า เรียนเชิญคุณภูชิตล่วงหน้าเลยนะครับ” ธีร์ภาณุพูดพร้อมกับดึงไอรักให้ลุกขึ้นแล้วโอบเอวไว้หลวมๆ
ภูชิตยิ้มบางๆที่ริมฝีปาก ไอรักเงยหน้าสบตาธีร์ภาณุ ก่อนจะส่งยิ้มแบบเจื่อนๆให้ภูชิต
“เอ่อ...ผมขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ ที่ไร่แสงตะวันมีนายหญิงน่ารักแบบคุณหนูไอ”
คนที่ถูกเอ่ยถึงสะดุ้งตัวเล็กน้อย เพราะรู้ตัวว่าตัวเองก็โกหกอะไรไว้
ไม่ได้โกหกนี่นา แค่พูดไม่หมดเท่านั้นเอง
“นานๆครั้งคุณธีร์จะให้เกียรติมาที่ไร่ ผมขออนุญาตเป็นเจ้ามืออาหารกลางวันนะครับ” ธีร์ภาณุนิ่งตัดสินใจสักครู่
“ก็ดีเหมือนกันครับ ผมมีธุระอยากปรึกษาคุณภูชิตอยู่พอดี”
“เรื่องไฟไหม้ที่ท้ายไร่แสงตะวันใช่ไหมครับ”
ภูชิตพูดน้ำเสียงจริงจัง
“ครับ” ธีร์ภาณุเองอยากหาเวลามาคุยกับภูชิตเรื่องนี
คนตัวเล็กรู้สึกทั้งโกรธทั้งอับอาย ที่ถูกจับลอกคราบจนร่างเปล่าเปลือย หากแต่ไม่สามารถต่อต้านคนรุกรานได้เลย มือใหญ่ลูบไล้เนื้อเนียนตั้งแต่ลำคอระหงเรื่อยมาจนถึงอกอวบ เขาบีบเคล้นเบาๆและไล้วนตุ่มไตที่หดเกร็งบนยอดอกทั้งสองข้าง ก่อนที่จะแวะเวียนลูบไล้หน้าท้องแบนราบ สมองของไอรักเริ่มสับสนเมื่อความวาบหวามก่อตัวขึ้น แขนขาเริ่มอ่อนแรง หัวใจเต้นโครมครามจนน่ากลัวธีร์ภาณุปล่อยริมฝีปากนุ่มให้เป็นอิสระ แล้วลากไล้ลิ้นร้อนร้ายกาจลงมาตามลำคอระหง เรื่อยลงมายังอกอวบที่กำลังกระเพื่อมขึ้นลงอย่างแรงตามความตื่นเต้นและวาบหวิวของเจ้าของ ชายหนุ่มขบเม้มอกอวบเบาๆทิ้งรอยปื้นแดงไว้หลายจุด อย่างต้องการลงโทษคนดื้อรั้น ก่อนจะดูดดึงตุ่มไตที่หดเกร็งและขบเม้ม สลับกันไปมาทั้งสองข้าง“ปละ...ปล่อยนะพี่ธีร์”“อื้ม” ธีร์ภาณุกำลังสูญเสียการควบคุมตัวเอง เขาถูกความหอมหวนของร่างบางดึงเข้าสู่วังวนของอารมณ์รักรุนแรงจนน่าตกใจ เมื่อทั้งเนื้อตัวของไอรักถูกผู้ชำนาญการสัมผัส และกระตุ้นดึงดูดเข้าสู่วังวนเดียวกัน ร่างเล็กที่ไม่ทันตั้งรับจึงต้องเงยหน้าครางเสียงหวาน และบิดร่างไปมาอย่างห้ามตัวเองไม่ได้ธีร์ภาณุปล
เมื่อใกล้ปลายทางแห่งความสุข ไอรักส่งเสียงอู้อี้ในลำคอ ธีร์ภาณุจึงละจากริมฝีปากบางแล้วก้มลงดูดกลืนอกอวบ หญิงสาวแอ่นกายเข้าหาริมฝีปากหนา และแหงนเงยหน้าขึ้นพร้อมกับขยับสะโพกตามแรงดึงรั้งของมือใหญ่เร็วรัวอีกไม่กี่ครั้ง ร่างบางก็เกร็งกระตุกและครางเสียงหวานออกมา“อ๊า...พี่ธีร์” ธีร์ภาณุจับสะโพกเต่งตึงแน่นเพื่อเร่งจังหวะบดเบียดและถูครูดไปตามลำรักแกร่งของเขา สะโพกสอบยกขึ้นสวนรับทุกจังหวะอย่างหนักแน่น ที่สุดแล้วเสียงห้าวทุ้มต่ำก็ครางออกมา กายแกร่งกระตุกแรงสายธารแห่งความสุขหลั่งรินเปรอะเปื้อนสองร่างที่นั่งกอดก่ายแนบแน่นไอรักไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัว หญิงสาวยังคงกอดคอหนาไว้และซบหน้าลงบนบ่าแกร่ง ลมหายใจกระชั้นถี่ของเธอและธีร์ภาณุเริ่มปรับเป็นจังหวะปกติ ชายหนุ่มยิ้มอย่างมีความสุขมือหนาลูบเรือนผมนุ่มอย่างแสนรัก เพียงแค่สัมผัสภายนอก เขาก็แทบจะสำลักความสุขที่ร่างกายนุ่มนิ่มมอบให้แล้ว จะรอถึงวันแต่งงานได้ไหมหนอ ชายหนุ่มตั้งคำถามกับตัวเอง“พี่อาบน้ำให้นะครับ” พูดจบก็ยังไม่รอคำตอบใดๆ ธีร์ภาณุก็อุ้มร่างบางทั้งที่ขายังเกี่ยวรัดสะโพกของตนเองไว้เข้าห้องน้ำจัดการเปิดฝักบัว แล้วลูบไล้ทำคว
“ก็ได้ครับ หรือหนูไอจะให้พี่แต่งตัวให้ก็ได้นะครับ” ไอรักจิกตามองธีร์ภาณุอย่างรู้ทัน“คนลามก”“ครับๆ พี่ออกไปรอข้างนอกก่อนก็ได้ครับ” พูดจบก็ยังไม่วายฉกวูบมาตรงแก้มนวล แล้วสูดดมฟอดใหญ่ ก่อนจะรีบลุกขึ้นแล้วออกจากห้องไป ทิ้งให้คนโดยขโมยจูบค้อนขวับด้วยรอยยิ้มเขินๆอย่างไม่รู้ตัวเมื่อประตูห้องนอนถูกปิดลง ธีร์ภาณุหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาต่อสายหาคนที่เพิ่งถูกดึงมาเกี่ยวข้องในบทสนทนาเมื่อสักครู่“สวัสดีครับป๊า...” ถ้าเพียงคนที่อยู่ในห้องแอบมาได้ยินบทสนทนาของจอมวางแผนขั้นเทพ อาจจะเกิดปรากฏการณ์ระเบิดปรมาณูลูกใหญ่ตกกระทบไร่แสงตะวันก็เป็นได้ เพราะธีร์ภาณุเพิ่งจะรายงานเรื่องราวต่างๆให้เสี่ยอินฟัง รวมถึงเรื่องข้อมูลเอกสารและรูปถ่ายเจ้าปัญหา ที่เกือบจะทำให้ไอรักใช้เป็นข้ออ้างในการออกจากชีวิตเขาไปได้แล้วเชียวหลังจากกดวางสายโทรศัพท์ธีร์ภาณุยิ้มกว้างถอนหายใจเฮือกใหญ่ ชายหนุ่มยิ้มกรุ้มกริ่มกับตัวเอง ก่อนจะพูดเสียงดังให้คนในห้องได้ยิน“หนูไอครับเย็นนี้เรามีนัดทานข้าวเย็นกับคุณพ่อคุณแม่นะครับ”“เจ้าค่ะ รับทราบค่ะนายเล็ก” ธีร์ภาณุยิ้มกับคำพูดประชดประชันขอ
เธอรู้ดีว่าในค่ำคืนที่แสนเร่าร้อนนั้น ชายหนุ่มไม่ได้ฉวยโอกาส หากแต่พยายามอย่างที่สุดที่จะหักห้ามใจตนเอง เพื่อช่วยเหลือเธอจากความทรมานนั้น และรสิตาก็รู้ตัวดีว่าตนเองเป็นคนทำให้เรื่องราวต่างๆมันวุ่นวายเอง หญิงสาวพ่นลมหายใจออกเบาๆ เธอจะไม่วิ่งหนีความรู้สึกตัวเองหรอกนะ“ค่ะ พี่ไท” รสิตาฉีกยิ้มกว้าง เปิดใจรับความจริงใจของไทธรณ์“ปล่อยมือแนนได้แล้วค่ะ แล้วก็ลงมือทำขนมช่วยแนนด้วย เดี๋ยวคุณย่าตื่นขึ้นมาขนมยังไม่เสร็จจะโดนว่าเอาได้” ไทธรณ์ปล่อยมือจากมือบาง“อ้อ! เย็นนี้พี่จะมารับแนนไปทานข้าวที่บ้านนะครับ แม่สั่งให้มาเชิญสะใภ้ใหญ่ไปหาหน่อย แม่คิดถึง”“ใครเขาไปตกลงเป็นสะใภ้ใหญ่ตั้งแต่เมื่อไร”“ไม่รู้ล่ะ แม่ส่งมอบตำแหน่งนี้ให้แนนแล้ว และพี่ก็ยินดีรับตำแหน่งเป็นลูกเขยบ้านนี้ให้ด้วยนะ ไม่เกี่ยงงอนสักนิด”“ขี้ตู่”“ไม่ได้ขี้ตู่ เขารักจริงหวังแต่งต่างหาก”“ไม่เถียงกับพี่ไทแล้ว”“ถ้าอย่างนั้นถือว่าเรายอมรับซึ่งกันและกันนะครับ”รสิตาไม่ตอบก้มหน้าอมยิ้มปั้นสาคูในมืออย่างตั้งอกตั้งใจ ไทธรณ์มองท่าทางของหญิงสาวก็พลอยยิ้มไปทำขนมไปด้วยท่
“ไม่ต้องเลยนะ ห้ามพี่ธีร์ขึ้นมานอนบนเตียงไม่อย่างนั้นหนูไอจะร้องให้บ้านแตกเลย”“ครับๆ พี่นอนข้างล่างก็ได้ คนใจร้าย” ไอรักโยนหมอนกับผ้าห่มลงข้างเตียง ธีร์ภาณุยิ้มก่อนจะนั่งลงจัดที่นอนสำหรับตัวเองยังมีเวลาอีกทั้งคืน หึๆ“ขอบคุณมานะคะพี่ไท แล้วก็อย่าลืมสัญญาว่าจะมารับแนนไปทานข้าวกลางวันพรุ่งนี้ เป็นการไถ่โทษนะคะ” รสิตาพูดเสียงใสขณะที่ไทธรณ์ลดความเร็วของรถลง แล้วจอดอยู่ริมรั้วสูง“แต่วันนี้พี่เหนื่อยเหลือเกิน ไม่รู้พรุ่งนี้จะมีแรงขับรถมาหาแนนหรือเปล่า?” ไทธรณ์พูดพร้อมกับตีหน้าเศร้าเล็กน้อย“วันนี้พี่ไทไม่ได้ทำงานทั้งวันไม่ใช่หรือคะแล้วจะเหนื่อยอะไร แล้วนี่ทำไมไม่เรียกเด็กๆมาเปิดประตูสักทีล่ะคะ แนนง่วงแล้วค่ะ ฮ้าว!” ไทธรณ์ขยับตัวทำท่าฮึดฮัด“แนนจะไม่ให้รางวัลพี่หน่อยหรือครับ ที่พี่มาส่งเนี่ย” ไทธรณ์ถามสีหน้าจริงจัง จนรสิตาอดขำไม่ได้ หญิงสาวหัวเราะคิก ก่อนจะโน้มใบหน้าเข้าหาคนขับรถแสนงอน แล้วจุมพิตเบาๆบนแก้มสากของชายหนุ่ม“กู๊ดไนท์ค่ะ”“แค่นี้เองหรือ” คนขับรถตัวโตยังประท้วง“แค่นี้ล่ะค่ะ
ธีร์ภาณุนอนยิ้มกับท่าทีที่ไม่ดิ้นรนขัดขืนของไอรัก เขาเองก็นอนไม่หลับเหมือนกัน ก็ในเมื่อต้องนอนร่วมห้องกับร่างบางนุ่มนิ่ม แต่กลับไม่ได้ใกล้ชิด มันทำให้เขารู้สึกกระสับกระส่ายนอนไม่หลับ นอนคิดมาตั้งนานจะหาเหตุผลอะไรปีนขึ้นไปบนเตียงดี ที่สุดแล้วเขาก็หาเหตุผลแบบข้างๆคูๆ และอาศัยวิชาพญามารแถไปเรื่อยขึ้นมานอนบนเตียงได้สำเร็จหลังจากที่นอนกอดได้สักพักคนกอดชักได้ใจ แปลงร่างเป็นปลาหมึก ราวกับว่ามีสักสิบมือลูบไล้ไปทั่วร่างบาง ไอรักตีแรงๆที่มือทั้งสองข้าง แล้วเงยหน้าขึ้นสบตาคนตัวโตในความมืดที่มีแสงสลัว ที่พอให้เห็นกันได้ในระยะใกล้ หญิงสาววางมือนุ่มไปที่แก้มสากของชายหนุ่มทั้งสองข้าง แล้วออกแรงบีบหน้าที่แสนจะเจ้าเล่ห์แรงๆ ดึงหน้าโน้มลงมาหาตนเองให้สบตากันในระยะใกล้“นอนเฉยๆไม่เป็นหรือไงคะ เอามือออกไปไกลๆเลย ถ้าไม่อยากให้หนูไอหยิกจนแก้มขาด”ไอรักขู่พร้อมกับหยิกแก้มสากเต็มแรง“โอ๊ย! ใจร้าย” ธีร์ภาณุใช้มือลูบแก้มที่โดนหยิกเบาๆ ไอรักทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ก่อนจะพลิกตัวหันหลังให้คนตัวโต“ใจร้ายอย่างนี้ต้องโดนทำโทษ” มือหนาจับร่างบางพลิกกลับมานอนทาบทับร่างแกร่งของตนเอง แล้วก
“พี่ขออนุญาตไปรับแขกก่อนนะครับ” พูดจบธีร์ภาณุก็เดินเข้าห้องน้ำไป เพื่อจัดการธุระส่วนตัวก่อนลงไปพบกับแขกคนสำคัญไอรักลุกขึ้นนั่งบนเตียงกว้าง หญิงสาวถอนหายใจยาว และรับรู้ว่าตอนนี้หัวใจตัวเองมันเต้นแรงจนเจ้าของยังตกใจ สัมผัสจากร่างแกร่งของธีร์ภาณุเริ่มจะทำให้เธอรู้สึกว่าตัวเองเป็นเด็กใจแตก ยิ่งได้ใกล้ชิดกับเขาแทนที่เธอจะรังเกียจและตื่นกลัว แต่มันกลับทำให้เธอคุ้นชินและรู้สึกวาบหวิวทุกครั้งที่เขาสัมผัส ที่หนักกว่านั้นคือเธอคิดว่าเธอชอบกับการได้อยู่ใกล้ชิดเขาเป็นอะไรไปหนอหนูไอ ไอรักยกมือปิดหน้าตัวเองแล้วส่ายไปมาอย่างขัดเขินในความรู้สึกของตนเอง“พี่ธีร์ไปไหนคะน้าเรียม” ไอรักเอ่ยถามเมื่อเดินลงจาก แล้วไม่เห็นรถของธีร์ภาณุ คือเธอเป็นภรรยานะ ถึงแม้จะแค่ในนามก็เถอะน่า ถ้าไม่ถามหาสามีแล้วจะให้ถามหาใครล่ะหญิงวัยกลางคนที่กำลังถือสายยางรดน้ำต้นไม้อยู่ หันมายิ้มกว้างให้ไอรัก“นายเล็กออกไปธุระกับคุณมินตราค่ะ” ไอรักขมวดคิ้วสงสัย จนคู่สนทนาต้องอธิบายต่อ“คุณมินตราเป็นเพื่อนของนายเล็กค่ะ เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ เมื่อก่อ
“หนูไอไม่แต่งค่ะคุณแม่ มันหมดสมัยคลุมถุงชนแล้วนะคะ แล้วหนูไอก็ไม่ได้รักผู้ชายคนนั้นด้วย” ไอรักพูดเสียงดังอย่างโมโห “แต่หนูไอก็น่าจะรู้ว่าไม่มีใครขัดใจป๊าได้นะลูก”มารดาพยายามเกลี้ยกล่อมบุตรสาว ที่ตอนนี้นั่งชักสีหน้าแสดงถึงความไม่พอใจอย่างมาก อยู่บนเตียงนอนของตนเอง “แล้วอีกอย่าง ถึงตอนนี้ไม่ได้รัก เดี๋ยวอยู่ๆ กันไปก็รักกันเองแหละลูก”ไอรักหันขวับจ้องมองมารดาอย่างเอาเรื่อง “ไม่มีทางเป็นไปได้ค่ะ หนูไอมีแฟนแล้ว หนูไอโตแล้วนะคะ บรรลุนิติภาวะแล้ว หนูไอไม่ยอม”ไอรักยอมโกหกว่ามีแฟนเพื่อเอาตัวรอดผู้เป็นมารดาถอนหายใจอย่างเหนื่อยใจเต็มที เดินเข้าไปกอดลูกแล้วลูบศีรษะเบาๆ“หนูไอ...แม่เข้าใจเหตุผลของลูกทุกอย่าง แต่มีเหตุผลหนึ่งที่หนูไอลืมไปหรือเปล่า?” ไอรักหันกลับมามองหน้ามารดาก็พบสายตาที่อ่อนโยนแต่จริงจัง “ความเหมาะสมไงจ๊ะ ผู้ชายคนที่ป๊าเลือกให้ เป็นเจ้าของไร่อ้อยพันกว่าไร่ทางภาคตะวันตก และครอบครัวของเขาก็มีกิจการท่าข้าวที่มีส่วนในการเอื้อกับธุรกิจของเรา แม่ไม่อยากบังคับหนูไอ แต่แม่รู้ว่าหนูไอจะเข้าใจความหวังดีของป๊ากับแม่ และเข้าใจคำว่าความเหมาะสมนะ” หญิงสาวนิ่งเงียบกับเหตุผลที่ได้ฟัง ใช่
“พี่ขออนุญาตไปรับแขกก่อนนะครับ” พูดจบธีร์ภาณุก็เดินเข้าห้องน้ำไป เพื่อจัดการธุระส่วนตัวก่อนลงไปพบกับแขกคนสำคัญไอรักลุกขึ้นนั่งบนเตียงกว้าง หญิงสาวถอนหายใจยาว และรับรู้ว่าตอนนี้หัวใจตัวเองมันเต้นแรงจนเจ้าของยังตกใจ สัมผัสจากร่างแกร่งของธีร์ภาณุเริ่มจะทำให้เธอรู้สึกว่าตัวเองเป็นเด็กใจแตก ยิ่งได้ใกล้ชิดกับเขาแทนที่เธอจะรังเกียจและตื่นกลัว แต่มันกลับทำให้เธอคุ้นชินและรู้สึกวาบหวิวทุกครั้งที่เขาสัมผัส ที่หนักกว่านั้นคือเธอคิดว่าเธอชอบกับการได้อยู่ใกล้ชิดเขาเป็นอะไรไปหนอหนูไอ ไอรักยกมือปิดหน้าตัวเองแล้วส่ายไปมาอย่างขัดเขินในความรู้สึกของตนเอง“พี่ธีร์ไปไหนคะน้าเรียม” ไอรักเอ่ยถามเมื่อเดินลงจาก แล้วไม่เห็นรถของธีร์ภาณุ คือเธอเป็นภรรยานะ ถึงแม้จะแค่ในนามก็เถอะน่า ถ้าไม่ถามหาสามีแล้วจะให้ถามหาใครล่ะหญิงวัยกลางคนที่กำลังถือสายยางรดน้ำต้นไม้อยู่ หันมายิ้มกว้างให้ไอรัก“นายเล็กออกไปธุระกับคุณมินตราค่ะ” ไอรักขมวดคิ้วสงสัย จนคู่สนทนาต้องอธิบายต่อ“คุณมินตราเป็นเพื่อนของนายเล็กค่ะ เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ เมื่อก่อ
ธีร์ภาณุนอนยิ้มกับท่าทีที่ไม่ดิ้นรนขัดขืนของไอรัก เขาเองก็นอนไม่หลับเหมือนกัน ก็ในเมื่อต้องนอนร่วมห้องกับร่างบางนุ่มนิ่ม แต่กลับไม่ได้ใกล้ชิด มันทำให้เขารู้สึกกระสับกระส่ายนอนไม่หลับ นอนคิดมาตั้งนานจะหาเหตุผลอะไรปีนขึ้นไปบนเตียงดี ที่สุดแล้วเขาก็หาเหตุผลแบบข้างๆคูๆ และอาศัยวิชาพญามารแถไปเรื่อยขึ้นมานอนบนเตียงได้สำเร็จหลังจากที่นอนกอดได้สักพักคนกอดชักได้ใจ แปลงร่างเป็นปลาหมึก ราวกับว่ามีสักสิบมือลูบไล้ไปทั่วร่างบาง ไอรักตีแรงๆที่มือทั้งสองข้าง แล้วเงยหน้าขึ้นสบตาคนตัวโตในความมืดที่มีแสงสลัว ที่พอให้เห็นกันได้ในระยะใกล้ หญิงสาววางมือนุ่มไปที่แก้มสากของชายหนุ่มทั้งสองข้าง แล้วออกแรงบีบหน้าที่แสนจะเจ้าเล่ห์แรงๆ ดึงหน้าโน้มลงมาหาตนเองให้สบตากันในระยะใกล้“นอนเฉยๆไม่เป็นหรือไงคะ เอามือออกไปไกลๆเลย ถ้าไม่อยากให้หนูไอหยิกจนแก้มขาด”ไอรักขู่พร้อมกับหยิกแก้มสากเต็มแรง“โอ๊ย! ใจร้าย” ธีร์ภาณุใช้มือลูบแก้มที่โดนหยิกเบาๆ ไอรักทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ก่อนจะพลิกตัวหันหลังให้คนตัวโต“ใจร้ายอย่างนี้ต้องโดนทำโทษ” มือหนาจับร่างบางพลิกกลับมานอนทาบทับร่างแกร่งของตนเอง แล้วก
“ไม่ต้องเลยนะ ห้ามพี่ธีร์ขึ้นมานอนบนเตียงไม่อย่างนั้นหนูไอจะร้องให้บ้านแตกเลย”“ครับๆ พี่นอนข้างล่างก็ได้ คนใจร้าย” ไอรักโยนหมอนกับผ้าห่มลงข้างเตียง ธีร์ภาณุยิ้มก่อนจะนั่งลงจัดที่นอนสำหรับตัวเองยังมีเวลาอีกทั้งคืน หึๆ“ขอบคุณมานะคะพี่ไท แล้วก็อย่าลืมสัญญาว่าจะมารับแนนไปทานข้าวกลางวันพรุ่งนี้ เป็นการไถ่โทษนะคะ” รสิตาพูดเสียงใสขณะที่ไทธรณ์ลดความเร็วของรถลง แล้วจอดอยู่ริมรั้วสูง“แต่วันนี้พี่เหนื่อยเหลือเกิน ไม่รู้พรุ่งนี้จะมีแรงขับรถมาหาแนนหรือเปล่า?” ไทธรณ์พูดพร้อมกับตีหน้าเศร้าเล็กน้อย“วันนี้พี่ไทไม่ได้ทำงานทั้งวันไม่ใช่หรือคะแล้วจะเหนื่อยอะไร แล้วนี่ทำไมไม่เรียกเด็กๆมาเปิดประตูสักทีล่ะคะ แนนง่วงแล้วค่ะ ฮ้าว!” ไทธรณ์ขยับตัวทำท่าฮึดฮัด“แนนจะไม่ให้รางวัลพี่หน่อยหรือครับ ที่พี่มาส่งเนี่ย” ไทธรณ์ถามสีหน้าจริงจัง จนรสิตาอดขำไม่ได้ หญิงสาวหัวเราะคิก ก่อนจะโน้มใบหน้าเข้าหาคนขับรถแสนงอน แล้วจุมพิตเบาๆบนแก้มสากของชายหนุ่ม“กู๊ดไนท์ค่ะ”“แค่นี้เองหรือ” คนขับรถตัวโตยังประท้วง“แค่นี้ล่ะค่ะ
เธอรู้ดีว่าในค่ำคืนที่แสนเร่าร้อนนั้น ชายหนุ่มไม่ได้ฉวยโอกาส หากแต่พยายามอย่างที่สุดที่จะหักห้ามใจตนเอง เพื่อช่วยเหลือเธอจากความทรมานนั้น และรสิตาก็รู้ตัวดีว่าตนเองเป็นคนทำให้เรื่องราวต่างๆมันวุ่นวายเอง หญิงสาวพ่นลมหายใจออกเบาๆ เธอจะไม่วิ่งหนีความรู้สึกตัวเองหรอกนะ“ค่ะ พี่ไท” รสิตาฉีกยิ้มกว้าง เปิดใจรับความจริงใจของไทธรณ์“ปล่อยมือแนนได้แล้วค่ะ แล้วก็ลงมือทำขนมช่วยแนนด้วย เดี๋ยวคุณย่าตื่นขึ้นมาขนมยังไม่เสร็จจะโดนว่าเอาได้” ไทธรณ์ปล่อยมือจากมือบาง“อ้อ! เย็นนี้พี่จะมารับแนนไปทานข้าวที่บ้านนะครับ แม่สั่งให้มาเชิญสะใภ้ใหญ่ไปหาหน่อย แม่คิดถึง”“ใครเขาไปตกลงเป็นสะใภ้ใหญ่ตั้งแต่เมื่อไร”“ไม่รู้ล่ะ แม่ส่งมอบตำแหน่งนี้ให้แนนแล้ว และพี่ก็ยินดีรับตำแหน่งเป็นลูกเขยบ้านนี้ให้ด้วยนะ ไม่เกี่ยงงอนสักนิด”“ขี้ตู่”“ไม่ได้ขี้ตู่ เขารักจริงหวังแต่งต่างหาก”“ไม่เถียงกับพี่ไทแล้ว”“ถ้าอย่างนั้นถือว่าเรายอมรับซึ่งกันและกันนะครับ”รสิตาไม่ตอบก้มหน้าอมยิ้มปั้นสาคูในมืออย่างตั้งอกตั้งใจ ไทธรณ์มองท่าทางของหญิงสาวก็พลอยยิ้มไปทำขนมไปด้วยท่
“ก็ได้ครับ หรือหนูไอจะให้พี่แต่งตัวให้ก็ได้นะครับ” ไอรักจิกตามองธีร์ภาณุอย่างรู้ทัน“คนลามก”“ครับๆ พี่ออกไปรอข้างนอกก่อนก็ได้ครับ” พูดจบก็ยังไม่วายฉกวูบมาตรงแก้มนวล แล้วสูดดมฟอดใหญ่ ก่อนจะรีบลุกขึ้นแล้วออกจากห้องไป ทิ้งให้คนโดยขโมยจูบค้อนขวับด้วยรอยยิ้มเขินๆอย่างไม่รู้ตัวเมื่อประตูห้องนอนถูกปิดลง ธีร์ภาณุหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาต่อสายหาคนที่เพิ่งถูกดึงมาเกี่ยวข้องในบทสนทนาเมื่อสักครู่“สวัสดีครับป๊า...” ถ้าเพียงคนที่อยู่ในห้องแอบมาได้ยินบทสนทนาของจอมวางแผนขั้นเทพ อาจจะเกิดปรากฏการณ์ระเบิดปรมาณูลูกใหญ่ตกกระทบไร่แสงตะวันก็เป็นได้ เพราะธีร์ภาณุเพิ่งจะรายงานเรื่องราวต่างๆให้เสี่ยอินฟัง รวมถึงเรื่องข้อมูลเอกสารและรูปถ่ายเจ้าปัญหา ที่เกือบจะทำให้ไอรักใช้เป็นข้ออ้างในการออกจากชีวิตเขาไปได้แล้วเชียวหลังจากกดวางสายโทรศัพท์ธีร์ภาณุยิ้มกว้างถอนหายใจเฮือกใหญ่ ชายหนุ่มยิ้มกรุ้มกริ่มกับตัวเอง ก่อนจะพูดเสียงดังให้คนในห้องได้ยิน“หนูไอครับเย็นนี้เรามีนัดทานข้าวเย็นกับคุณพ่อคุณแม่นะครับ”“เจ้าค่ะ รับทราบค่ะนายเล็ก” ธีร์ภาณุยิ้มกับคำพูดประชดประชันขอ
เมื่อใกล้ปลายทางแห่งความสุข ไอรักส่งเสียงอู้อี้ในลำคอ ธีร์ภาณุจึงละจากริมฝีปากบางแล้วก้มลงดูดกลืนอกอวบ หญิงสาวแอ่นกายเข้าหาริมฝีปากหนา และแหงนเงยหน้าขึ้นพร้อมกับขยับสะโพกตามแรงดึงรั้งของมือใหญ่เร็วรัวอีกไม่กี่ครั้ง ร่างบางก็เกร็งกระตุกและครางเสียงหวานออกมา“อ๊า...พี่ธีร์” ธีร์ภาณุจับสะโพกเต่งตึงแน่นเพื่อเร่งจังหวะบดเบียดและถูครูดไปตามลำรักแกร่งของเขา สะโพกสอบยกขึ้นสวนรับทุกจังหวะอย่างหนักแน่น ที่สุดแล้วเสียงห้าวทุ้มต่ำก็ครางออกมา กายแกร่งกระตุกแรงสายธารแห่งความสุขหลั่งรินเปรอะเปื้อนสองร่างที่นั่งกอดก่ายแนบแน่นไอรักไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัว หญิงสาวยังคงกอดคอหนาไว้และซบหน้าลงบนบ่าแกร่ง ลมหายใจกระชั้นถี่ของเธอและธีร์ภาณุเริ่มปรับเป็นจังหวะปกติ ชายหนุ่มยิ้มอย่างมีความสุขมือหนาลูบเรือนผมนุ่มอย่างแสนรัก เพียงแค่สัมผัสภายนอก เขาก็แทบจะสำลักความสุขที่ร่างกายนุ่มนิ่มมอบให้แล้ว จะรอถึงวันแต่งงานได้ไหมหนอ ชายหนุ่มตั้งคำถามกับตัวเอง“พี่อาบน้ำให้นะครับ” พูดจบก็ยังไม่รอคำตอบใดๆ ธีร์ภาณุก็อุ้มร่างบางทั้งที่ขายังเกี่ยวรัดสะโพกของตนเองไว้เข้าห้องน้ำจัดการเปิดฝักบัว แล้วลูบไล้ทำคว
คนตัวเล็กรู้สึกทั้งโกรธทั้งอับอาย ที่ถูกจับลอกคราบจนร่างเปล่าเปลือย หากแต่ไม่สามารถต่อต้านคนรุกรานได้เลย มือใหญ่ลูบไล้เนื้อเนียนตั้งแต่ลำคอระหงเรื่อยมาจนถึงอกอวบ เขาบีบเคล้นเบาๆและไล้วนตุ่มไตที่หดเกร็งบนยอดอกทั้งสองข้าง ก่อนที่จะแวะเวียนลูบไล้หน้าท้องแบนราบ สมองของไอรักเริ่มสับสนเมื่อความวาบหวามก่อตัวขึ้น แขนขาเริ่มอ่อนแรง หัวใจเต้นโครมครามจนน่ากลัวธีร์ภาณุปล่อยริมฝีปากนุ่มให้เป็นอิสระ แล้วลากไล้ลิ้นร้อนร้ายกาจลงมาตามลำคอระหง เรื่อยลงมายังอกอวบที่กำลังกระเพื่อมขึ้นลงอย่างแรงตามความตื่นเต้นและวาบหวิวของเจ้าของ ชายหนุ่มขบเม้มอกอวบเบาๆทิ้งรอยปื้นแดงไว้หลายจุด อย่างต้องการลงโทษคนดื้อรั้น ก่อนจะดูดดึงตุ่มไตที่หดเกร็งและขบเม้ม สลับกันไปมาทั้งสองข้าง“ปละ...ปล่อยนะพี่ธีร์”“อื้ม” ธีร์ภาณุกำลังสูญเสียการควบคุมตัวเอง เขาถูกความหอมหวนของร่างบางดึงเข้าสู่วังวนของอารมณ์รักรุนแรงจนน่าตกใจ เมื่อทั้งเนื้อตัวของไอรักถูกผู้ชำนาญการสัมผัส และกระตุ้นดึงดูดเข้าสู่วังวนเดียวกัน ร่างเล็กที่ไม่ทันตั้งรับจึงต้องเงยหน้าครางเสียงหวาน และบิดร่างไปมาอย่างห้ามตัวเองไม่ได้ธีร์ภาณุปล
“เพิ่งมาถึงนี่แหละครับ ต้องขอบคุณคุณภูชิตนะครับ ที่อุตส่าห์ช่วยดูแลหลานสาวคุณพ่อเป็นอย่างดี” ภูชิตยิ้มให้เล็กน้อย“ไม่เป็นไรครับคนกันเอง”“หนูไอเป็นหลานของคุณพ่อครับ และอยู่ในฐานะเป็นภรรยาของผม เราจดทะเบียนสมรสกัน และรับรู้กันในเครือญาติแล้ว งานฉลองสมรสเราจะจัดในเดือนหน้า เรียนเชิญคุณภูชิตล่วงหน้าเลยนะครับ” ธีร์ภาณุพูดพร้อมกับดึงไอรักให้ลุกขึ้นแล้วโอบเอวไว้หลวมๆภูชิตยิ้มบางๆที่ริมฝีปาก ไอรักเงยหน้าสบตาธีร์ภาณุ ก่อนจะส่งยิ้มแบบเจื่อนๆให้ภูชิต“เอ่อ...ผมขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ ที่ไร่แสงตะวันมีนายหญิงน่ารักแบบคุณหนูไอ”คนที่ถูกเอ่ยถึงสะดุ้งตัวเล็กน้อย เพราะรู้ตัวว่าตัวเองก็โกหกอะไรไว้ ไม่ได้โกหกนี่นา แค่พูดไม่หมดเท่านั้นเอง“นานๆครั้งคุณธีร์จะให้เกียรติมาที่ไร่ ผมขออนุญาตเป็นเจ้ามืออาหารกลางวันนะครับ” ธีร์ภาณุนิ่งตัดสินใจสักครู่“ก็ดีเหมือนกันครับ ผมมีธุระอยากปรึกษาคุณภูชิตอยู่พอดี”“เรื่องไฟไหม้ที่ท้ายไร่แสงตะวันใช่ไหมครับ”ภูชิตพูดน้ำเสียงจริงจัง“ครับ” ธีร์ภาณุเองอยากหาเวลามาคุยกับภูชิตเรื่องนี
“แล้วเอ่อ...คุณ...”“ไอรักค่ะ เรียกหนูไอก็ได้นะคะ คือว่าหนูไอว่าจะเข้าไปในเมืองน่ะค่ะ” ไอรักแนะนำตัวเอง“ครับ คุณหนูไอ เอ่อ...คือว่าคุณหนูไอไม่ใช่คนแถวนี้หรือครับ ทำไมผมไม่เคยเห็นหน้าหรือรู้จักมาก่อนเลย” ภูชิตถามเพราะเขาเองก็อยากรู้เหมือนกันว่า ผู้หญิงสาวร่างบางหน้าตาจิ้มลิ้ม มาขับรถคันจี๊ปประจำตัวของเจ้าของไร่แสงตะวันได้อย่างไร“อ๋อ!..เอ่อ...หนูไอเป็นหลานของลุงธงน่ะค่ะ บังเอิญขับรถมากินลมชมวิวมาเรื่อยๆ แล้วก็บังเอิญกำลังจะกลับ แต่บังเอิญรถมาน้ำมันหมด แล้วก็บังเอิญมาเจอคุณภูชิตนี่ล่ะค่ะ” ภูชิตยิ้มเล็กน้อยกับคำบอกเล่าของหญิงสาว“ถ้าอย่างนั้นก็บังเอิญที่มาเจอคนใจดีอย่างผมนะครับ” ไอรักมองหน้าภูชิต ทั้งสองหัวเราะเบาๆพร้อมกัน“ลุงธงนี่...ใช่เสี่ยธงชัยเจ้าของกิจการท่าข้าว และเป็นพ่อของเจ้าของไร่แสงตะวันใช่ไหมครับ” ภูชิตถามต่อ“เอ่อ...ค่ะ” ไอรักตอบเบาๆ“คนกันเองนะครับ เอาอย่างนี้ไหมครับ ผมจะไปส่งคุณหนูไอที่บ้านของเสี่ยธงชัย อืม...แต่ผมขออนุญาตกลับเข้าไร่ก่อนได้ไหมครับ มีงานด่วนต้องเคลียร์นิดหน่อย” ไอรักทำท่าลังเลถึงแม้จะดูน่าไว้ใจ แต่เธอก็ยั