...“พี่วีกับยายมยุรีนั่นมีอะไรกันหรือยังคะ” เมื่อเขาเปิดโอกาสให้ถาม เธอก็ถามแบบไม่ถนอมน้ำใจ สองปีที่ผ่านมา มันเลยจุดที่จะพูดอ้อมค้อมเพื่อให้คำถามฟังดูดีแล้ว
“ไม่! ไม่เคยมี และไม่เคยคิดจะมี” คำตอบหนักแน่นของเขาทำให้เธอใจชื้นมาเป็นกอง ทว่าทั้งรูปภาพและคำบอกเล่าจากผู้หวังดีที่ไม่ประสงค์ออกนามหลายคนทำให้เธอไม่เชื่อเขาเต็มหัวใจเท่าไรนัก
“มยุรีต้องการรวบกิจการร้านทั้งหมดไว้ในมือคนเดียว โดยใช้วิธีการสกปรก ที่ไอ้ห่าพลมันขายให้พี่เพราะมันต้องการให้พี่มาจัดการเขี่ยยายนี่ออกจากร้านให้”
“แล้วทำไมพี่พลไม่จัดการเอง ทำไมต้องให้พี่วีช่วย” แม้จะอยากเชื่อ แต่ก็ยังรู้สึกขัดใจ
“ไอ้พลมันก็มีปัญหากับเมีย เหมือนกับที่เรามีปัญหากันนี่แหละ แม่นั่นใช้วิธีสกปรกปล่อยภาพตัดต่อ ปล่อยคลิปเสียง สร้างเรื่องว่ามีอะไรกับมัน ทำลายครอบครัวมัน มันเลยจำเป็นต้องพาลูกเมียออกห่างจากผู้หญิงคนนั้น เพื่อรอเวลากลับมา”
“แล้วพี่วีคนดีก็เลยกระโดดเข้าไปช่วยเหลือเพื่อน ปล่อยให้เมียหอบลูกหนีกลับบ้าน โดยไม่ตามมาอธิบายข้อเท็จจริง ไม่มาดูดำดูดีตั้งสองปี”
“แต่พี่จะหอม”“ไม่ให้หอม”“อย่าดื้อสิ เป็นแค่ลูกกระจ๊อก อย่าริอ่านขัดขืนหัวหน้าแก๊ง”“แบบนี้มันเอาเปรียบกันชัดๆ”“ลงโทษคุณแม่เลยครับป๊ะป๋า” พี่พร้อมบอก เมื่อเห็นป๊ะป๋ากับคุณแม่เอาแต่กระซิบคุยกันงึมงำๆ“น้องพริ้งรอนานแล้วนะค้า ง่วงแล้วด้วยค่ะ คุณแม่ยอมให้ป๊ะป๋าลงโทษสักทีสิค้า เวลาพวกเราทำผิดป๊ะป๋าก็ลงโทษแบบนี้เหมือนกันค่ะ” พูดจบน้องพริ้งก็ใช้สองมือปิดปากขณะอ้าปากหาว ดวงตาปรือ เพราะง่วงนอนจริงๆ“เห็นไหมว่าลูกง่วงแล้ว เด็กๆนอนดึกไม่ดีนะ มามะ...มาให้พี่หอมแก้มซะดีๆ”พรรณดาราหันไปยิ้มแหยให้ลูกทั้งสอง ก่อนจะหันมามองหน้าคนที่ทำปากจู๋เตรียมพร้อมจะหอมแก้มตน“กี่ครั้งคะ” หญิงสาวถามเสียงขุ่น“จนกว่าพี่จะพอใจ”“ขี้โกง” ต่อว่าเขาได้เพียงเท่านั้น คนขี้โกงก็ระดมทั้งหอมทั้งจุ๊บไปบนดวงหน้าเนียน เสียงลูกๆปรบมือร้องเชียร์กันสนุกสนาน พรรณดาราจึงได้แต่ทอดถอนใจ ยอมให้คนลงโทษค้ากำไรกับแก้มนวลจนหนำใจ“เอาล่ะค่ะ ทีนี้ก็กลับไปนอนกันได้แล้วนะคะ” พอเป็นอิสระจากวงแขนแข็งแรง คุณแม่ลูกสองก็หันมาชวนลูกๆกลับไปนอนที่บ้านหลังใหญ่ ทว่าทั้งพี่
“พี่วี!” พรรณดาราตามตะปบมือที่ดึงรั้งเสื้อคลุมออกจากร่างตัวเอง ทว่าเธอก็ไม่อาจสู้แรงเขาได้ ในที่สุดเสื้อคลุมของเธอก็ถูกเขาถอดโยนทิ้งลงบนพื้นระเบียงจนได้“ทีนี้ก็ไม่รุ่มร่ามแล้ว” กวีจับบ่าบอบบาง ดันร่างสาวออกห่างเพียงนิด แล้วกวาดสายตาโลมเลียอย่างไม่ปิดบัง แสงจันทร์ว่านวลสวยแล้ว แต่ยังไม่เทียมเท่าเมียรักในชุดนอนสายเดี่ยวสีครีม แม้ความยาวจะคลุมถึงหัวเข่า แต่เพราะผ้าบางเบาเนื้อนุ่มทำให้มองเห็นทรวดทรงองค์เอวชัดเจน“หยุดมองได้แล้ว จะพูดอะไรก็พูดมาสักที หนูหนาวนะ” แก้มสาวร้อนผ่าว เมื่อถูกตาคมปลาบจับจ้องราวกับจะมองให้ทะลุชุดนอนที่สวมอยู่ เธออุตส่าห์สวมชุดคลุมรัดกุมแล้ว เพราะรู้ว่าเขาจ้องจะเอาเปรียบอยู่ตลอดเวลา แต่เขาก็ยังหน้าด้านหน้ามึนมาถอดมันออกจนได้“หนาวเหรอครับ มามะพี่จะกอดให้หายหนาว” กวีดึงร่างนุ่มมากอดแนบอก เขารัดรั้งเธอไว้แนบแน่น กดจูบเรือนผมหอมกรุ่นหนักๆซ้ำๆ“ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว กลับมาอยู่ด้วยกันเหมือนเดิมนะ” กวีกระซิบเสียงพร่า มือไม้เริ่มลูบไล้ร่างงามไปทั่ว“พี่ไม่เคยมีคนอื่น พี่มีหนูคนเดียว สองปีที่ผ่านมางานยุ่งมาก มีเรื่องวุ่นวายเยอะแยะ พี่อย
พรรณดาราขยุ้มเส้นผมดกหนาเต็มสองมือ หญิงสาวแหงนเงยหน้า ขบกัดริมฝีปากล่างไว้แน่น กันเสียงดังน่าอายเล็ดลอดออกมา เพราะกลัวว่าลูกน้อยจะได้ยินเสียงแล้วตกใจตื่น กระนั้นการรุกรานจากปลายลิ้นสากแบบไม่มีเว้นวรรคให้พักหายใจของสามีก็ทำให้เธอเผลอหลุดครางเสียงพร่าผะแผ่วออกมาเป็นบางครั้งจนได้“พี่วี...อา...” พรรณดาราเด้งสะโพกเข้าหาปากร้อน ปลายทางสุขสมเข้ามาใกล้ทุกขณะ ใกล้จนเธอต้องเร่งเร้าเขาด้วยการจับศีรษะสามีขยับโยกในจังหวะที่ต้องการ ยิ่งเขารุกรานด้วยการประกบดูดเนินเนื้อเต็มคำ พร้อมกับเกร็งปลายลิ้นแล้วสอดแทงกลางร่องรักระรัว พรรณดาราก็ลืมสิ้นทุกสิ่งอย่าง หญิงสาวปล่อยตัวเองล่องลอยไปกับสัมผัสเร่งเร้า วาบหวาม วูบไหวในช่องท้อง จนต้องเกร็งแขม่วแล้วคลายอยู่หลายครั้ง กลีบเนื้อนุ่มไหวระริก เบ่งบาน หญิงสาวห่อปาก หอบหายใจหนัก เมื่อความสุขสมซ่านกระสันถาโถมเข้าใส่อย่างรุนแรง ไม่นานเธอก็ระเบิดพร่าง หวีดร้องออกมาเบาๆ สะโพกอวบแอ่นเกร็งค้าง มือบางกดศีรษะเขาให้ซุกซบแนบสนิทอยู่กลางเรือนกาย พรรณดาราปรนเปรอคนที่จัดการส่งเธอไปแตะเส้นวิมานด้วยการพร่างพรมหยาดน้ำหวานให้เขาได้ลิ้มรสจนอิ่มเอมหลังจากจัดการกับน
“ชู่ว์! อย่าเสียงดังสิครับที่รัก เดี๋ยวลูกก็ตื่นหรอก”“พี่วี! อย่าแกล้งสิ” พรรณดาราบอกเขาด้วยน้ำเสียงที่เบาลง“จะเอายังไงเนี่ยที่รัก แรงก็ว่า ช้าก็บ่น แบบนี้ดีไหม...หืม” กวีโหมห่มสะโพกในจังหวะถี่กระชั้นอย่างต้องการแกล้ง เมียรักต้านทานเขาไม่ไหวจนต้องหมอบลง ไขว่คว้าเอาเสื้อคลุมมากอดแล้วแนบใบหน้าลงกับพื้น หากสะโพกยังลอยเด่นเพราะถูกจับตรึงไว้ด้วยมือแข็งแรง“อื้อ! คะ คนบ้า!” พรรณดาราเกร็งตัว สั่นกระเพื่อมไปทั้งกาย“อ๊ะ! นะ...หนูเจ็บ หะ...หัวเข่า” พรรณดาราบอกกระท่อนกระแท่น เพราะแรงปานม้าคึกที่โหมกระหน่ำอยู่เบื้องหลังทำให้เธอเปล่งเสียงออกมาแทบไม่เป็นคำ“งั้นมาอยู่ข้างบน” กวีผู้ใจดี ยอมพลิกกายนอนหงาย ดันร่างภรรยาขึ้นนั่งคร่อมเหนือร่างตน“พี่วี!”“ขย่มลงมาอย่าบ่น” กวีบอกเสียงเข้ม เขาตบแก้มก้นเด้งหยุ่นดังเพียะ!พรรณดาราขึงตาดุใส่เขา กระนั้นก็ยอมทำตามที่เขาบอก หญิงสาววางสองมือลงบนอกกว้าง ตั้งหัวเข่าสองข้างชันขึ้น วางสองเท้ากับตั้งมั่นกับพื้นระเบียงก่อนเริ่มขยับโยกเชื่องช้า และค่อยเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นเรื่อยๆ จนเสียงสะโพกอวบหนั่นแน่นกระทบห
“ไปกับพี่อีกครั้งนะครับที่รัก” พรรณดาราส่ายหน้าเร็วๆ มือไม้พยายามผลักเขาออกเป็นพัลวัน แต่ก็เพียงชั่วครู่เท่านั้น เพราะเมื่อสามีเริ่มรุกอย่างเอาแต่ใจอีกครั้ง คนที่คิดว่าตัวเองไม่ไหวแล้ว ก็กลับไหวขึ้นมาดื้อๆ เขาสาดส่งแรงมาเท่าไร เธอก็ขยับโยกเด้งสะโพกเข้าหารองรับอย่างเท่าเทียมเท่านั้น และในเมื่อไม่มีใครยอมใคร ณ ริมระเบียงห้องนอนจึงร้อนระอุด้วยเปลวไฟพิศวาสเกือบค่อนคืนวันรุ่งขึ้น คนของกวีนำเสื้อผ้ามาให้เขาตั้งแต่ตะวันยังไม่ทันขึ้นพ้นขอบฟ้า และนำรถตู้มาจอดรอที่ไร่ภูอิงฟ้าด้วยตามคำสั่งของเขา วันนี้เขาจะไปส่งลูกที่โรงเรียนกับเมียรัก ชายหนุ่มอาบน้ำแต่งตัวเสร็จตั้งแต่เช้าตรู่ แล้วจึงปลุกลูกๆและภรรยา เขาอุ้มลูกทั้งสองไว้คนละข้างพาไปส่งถึงบ้านหลังใหญ่ พรรณดาราเดินตามไปด้วยใบหน้าบูดบึ้ง เธอทั้งเหนื่อยทั้งเพลีย แถมยังรู้สึกนอนไม่เต็มอิ่ม แต่ก็จำต้องฝืนใจตื่น เดินตามเขาไป เพื่อเตรียมตัวให้ลูกๆไปโรงเรียนกวีช่วยอาบน้ำแต่งตัวให้พี่พร้อมกับน้องพริ้ง เมื่อเสร็จแล้วจึงพาลูกทั้งสองลงไปรับประทานอาหารเช้ารอผู้เป็นแม่ซึ่งเพิ่งเขาห้องน้ำไปหลังจากตรวจดูความเรียบร
พรรณดาราเดินตามสามีลงมาจากเรือนไม้ ทั้งคู่เดินอ้อมไปด้านหลังตรงระเบียงห้องนอน ต่างพากันก้มๆเงยๆช่วยกันหาอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อไม่มีวี่แววว่าจะเห็น เจ้าของกางเกงในก็เริ่มร้อนรนและชักจะหมดความอดทน เธอโกรธเขามาก โกรธมากจริงๆด้วย ชอบทำอะไรพิเรนทร์อยู่เรื่อย แล้วกะอีแคกางเกงในตัวเล็ก ถอดดีๆก็ได้ ไม่เห็นต้องดึงทึ้งให้มันเสียหาย อีกอย่างในเมื่อเขาเป็นคนถอดมันออกจากตัวเธอ เขาก็ต้องรับผิดชอบใส่คืนให้ หรือไม่ก็ต้องเก็บให้เป็นที่เป็นทางกว่านี้สิ ถ้ามีคนอื่นมาเห็นมันหล่นอยู่ในห้อง หรือตกอยู่แถวนี้ ใครๆก็คงพากันเดาออกว่าเมื่อคืนนี้เธอกับเขาทำอะไรกันที่นี่ ถึงจะยังเป็นสามีภรรยาถูกต้องตามกฎหมายก็ตามเถอะ แต่ในเมื่อใครๆยังเข้าใจว่าเธอกับเขาแยกกันอยู่แล้ว เรื่องแบบนี้มันไม่สมควรเกิดขึ้น จนกว่าจะเคลียร์ทุกอย่างเรียบร้อยพรรณดาราโมโหจนห้ามใจไม่อยู่ หญิงสาวหนีบเนื้อบิดเอวของตัวการที่ทำกางเกงในหายสุดแรง“โอ๊ย! พี่เจ็บนะครับ” กวีโอดครวญเสียงอ่อย“นี่ยังน้อยไป หนูล่ะอยากบีบคอพี่วีนัก” พรรณดาราขึงตาใส่สามี หญิงสาวถอนหายใจแรงด้วยความหงุดหงิด“ใจร้าย พี่ไม่ได้ตั้งใจทำมันหายสักหน่อย”
พี่พร้อมพยักหน้าเข้าใจ เด็กชายตัวน้อยหันไปมองมารดาแล้วถามด้วยน้ำเสียงเป็นการเป็นงาน“แล้วคุณแม่รู้รหัสลับของแก๊งเราหรือยังครับ เวลาจะมาเอาของสำคัญกับป๊ะป๋า คุณแม่ต้องบอกรหัสลับก่อนนะครับ ไม่อย่างนั้นป๊ะป๋าจะไม่ให้นะครับ”“เอ่อ...” พรรณดาราไม่ทราบว่าป๊ะป๋าเจ้าเล่ห์แอบไปตั้งรหัสลับใหม่กับลูกๆว่าอย่างไร หญิงสาวจึงส่ายหน้าเพราะไม่รู้จริงๆ“รหัสลับคือ...”“ชู่ว์! พี่พร้อมคะ อย่าพูดเสียงดังสิคะ เห็นไหมว่ามีคนอื่นอยู่ในรถด้วยนะคะ เดี๋ยวเขาก็รู้รหัสลับของแก๊งเราหรอก” น้องพริ้งรีบปรามพี่ชาย เด็กหญิงตัวน้อยทำปากจู๋ แล้วใช้นิ้วชี้ป้อมๆสั้นๆแตะริมฝีปากคนของกวีเหลือบมองกระจกหลังแวบหนึ่งถึงกับแอบอมยิ้ม เมื่อคุณหนูทำท่าทางมีพิรุธกระซิบกระซาบกับพี่ชาย แต่เสียงกระซิบไม่ได้เบาเลยสักนิดพี่พร้อมพยักหน้าเร็วๆ“พี่เข้าใจแล้ว งั้นคุณแม่ครับเอียงหูมาครับ ผมจะกระซิบเบาๆ”พรรณดารายิ้มหวานให้ลูกรัก ยอมทำตามที่เจ้าตัวน้อยบอกพี่พร้อมใช้สองมือป้องปาก ขยับเข้าไปใกล้มารดา แล้วกระซิบบอกรหัสลับของแก๊งเบาๆ“รหัสลับของแก๊งปลากะพงคำรามคือ เราร
“งั้นก็ไปคุยกับมันให้เข้าใจ พี่จะรอ แต่ห้ามนาน และระหว่างรอ พี่จะไปรับส่งหนูกับลูกทุกวัน”“พูดเฉยๆ ไม่ต้องลูบก็ได้ค่ะ” พรรณดาราหยิกมือที่ลูบไล้อยู่แถวสะโพกมนของเธอ“ซี้ด! มือหนักขึ้นหรือเปล่าเนี่ย” กวียิ้มใส่นัยน์ตาคู่ดุที่มองเขาอยู่“เอาไว้หนูจะคุยกับพี่เพลิงอีกทีนะคะ แต่ตอนนี้พี่วีไปทำงานได้แล้ว” แม้จะเคยตั้งมั่นไว้ว่าจะไม่กลับไปอยู่กับเขาอีกแล้ว ทว่าพอเขากลับมาใกล้ชิด เธอก็กลับหวั่นไหว คำอธิบายเรื่องราวที่ค้างมานานแม้จะคลุมเครือแต่เธอก็ยังเลือกที่จะเชื่อเขา เธอทำทุกอย่างเพื่อลูก เธออยากให้ลูกมีพ่อ เธอไม่ได้ทำไปเพราะหัวใจไม่เคยลืมเขาได้สักหน่อย“ขอกำลังใจหน่อยสิ” กวีอุ้มร่างน่าฟัดของภรรยาขึ้นมานั่งบนตัก“ไหนบอกว่ามีงานด่วนไงคะ มาโอ้เอ้อยู่อย่างนี้ เดี๋ยวก็งานก็มีปัญหาหรอก” พรรณดาราพยายามแกะมือที่เริ่มจะบีบคลึงสะโพกเธอหนักขึ้นออก“ใครมีงานด่วนเหรอ” กวีถามหน้าตายพรรณดาราอยากจะหยิกเนื้อเขาแรงๆนัก ที่บอกว่ามีงานด่วน แสดงว่าโกหกใช่ไหม เขากลัวเธออาละวาด กลัวต้องกลับไปส่งเธอที่ไร่“อ้อ! จริงสิ มีงานด่วนนี่นา พี่นี่ขี้ลืมจริงๆเลย” เ
เรือนร่างสาวสวยสะพรั่งเปลือยเปล่าถูกอุ้มมาวางลงบนเตียงอย่างเบามือที่สุด คนอุ้มสวมเพียงผ้าเช็ดตัวพันเอวสอบอยู่ผืนเดียวถอยห่างไปทันที แต่ไม่ไวไปกว่ามือเรียวบางที่คว้าหมับกระตุกเอาชายผ้าเช็ดตัวหลุดติดมือไป จนเจ้าของผ้าเช็ดตัวต้องถลาตามไปดึงเอาไว้ด้วยความตกใจ แต่กลับพลาดสะดุดขาตัวเองล้มลงทาบทับกายเปลือยนุ่มนิ่มที่นอนหงายอยู่บนเตียงเสียเต็มเปา ยังดีที่เขายั้งตัวเองไว้ได้ทันด้วยการใช้ข้อศอกดันตัวเองไว้ ไม่ให้น้ำหนักตัวทุ่มลงไปบนตัวเธอทั้งหมด ไม่อย่างนั้นคนตัวเล็กอาจจะกระดูกหักก็เป็นได้“กระติ๊บ ทำอะไรของคุณฮึ!” พบรักว่าเสียงเข้มทว่าไม่มั่นคง“นอนๆ นอนด้วยกันค่ะ” พลอยชมพูว่าเสียงอู้อี้ แถมยังใช้สองแขนกอดรัดร่างเกือบเปลือยของคนที่คร่อมทับตัวเองอยู่ไว้แน่น“จะนอนก็นอนไป ปล่อยผม”“ไม่ปล่อย จุ๊บๆก่อนนะคะพี่ต่าย”พบรักถอนหายใจ พลอยชมพูคงเข้าใจว่าเขาเป็นพี่ชายของเธอ ชายหนุ่มจึงตัดใจหลับตาจุ๊บไปหนึ่งทีที่หน้าผากมน“ฝันดีนะคะ” พลอยชมพูว่าแล้วปล่อยวงแขนออก หญิงสาวหลับตาลงเอาดื้อๆ เป็นพบรักเสียเองที่เริ่มลังเลว่าจะลุกไปจากตรงนี้ทั้งที่มีโอกาสแล้วหรือไม่ เขาไ
“กระติ๊บ” พบรักเรียกคนที่ยังเมาไม่รู้เรื่อง หวังให้เธอได้สติสักน้อยนิดก็ยังดี เขาจะได้บอกให้เธอจัดการอาบน้ำทำความสะอาดตัวสักหน่อย ขืนปล่อยไว้อย่างนี้ไม่ดีแน่“ขา...” พลอยชมพูเงยหน้าขึ้น ขานรับเสียงยานคางหวานจ๋อย ทว่าดวงตาคู่งามยังหลับพริ้ม ริมฝีปากอิ่มสวยคลี่ยิ้มหวานเย้ายวน“คุณควรอาบน้ำ” พบรักถอนหายใจ แล้วบอกคนที่ยืนอิงแนบอกตัวเองอยู่ ไม่ใช่เธอคนเดียวที่ควรอาบน้ำหรอก เขาก็ด้วย เพราะเปื้อนไปทั้งตัว ทั้งกลิ่นก็ชวนให้คลื่นเหียนอาเจียนออกมาสมทบกับเธอเหลือเกิน“ไม่อาบ จะนอนค่ะ” พลอยชมพูบอกแล้วซบหน้ากับอกกว้าง“ไม่อาบไม่ได้” พบรักบอกเสียงเข้ม จับบ่าของคนยืนโงนเงนดันตัวเธอออกห่าง“ไม่หวายยย...ง่วงค่ะ มึนหัวด้วย” พลอยชมพูส่ายหน้า โบกไม้โบกมือว่าไม่ไหวจริงๆพบรักถอนหายใจแรง ชักรำคาญยายเมรีขี้เมา ถ้ายังต่อล้อต่อเถียงกับเธออยู่นี่ เขาก็คงไม่ได้พักผ่อนสักที ชายหนุ่มจึงตัดสินใจดันร่างสาวไปยืนใต้ฝักบัว แล้วเปิดน้ำชำระล้างร่างกายเธอ ทว่าเมื่อคนเมาถูกสายน้ำรินรดตัวก็สะดุ้ง กระโดดเข้ามากอดเขาไว้แน่น“กระติ๊บ! ทำบ้าอะไรของคุณเนี่ย” พบรักอยากจะจับแม่ตั
“ถ้าบอกว่าไม่พอใช้ คุณพบจะเพิ่มเงินเดือนให้ติ๊บเหรอคะ” พลอยชมพูถามแล้วยิ้มกว้าง ตาเป็นประกาย“เปล่า จะบอกว่าไม่พอก็ต้องพอ”“โธ่! ก็นึกว่าจะใจดีให้เงินเดือนเพิ่ม” ใบหน้ายิ้มร่าเมื่อครู่หุบลงทันควัน“คนอื่นเขายังพอใช้เลย อยู่ที่นี่บ้านก็ไม่ต้องเช่า ข้าวก็ไม่ต้องซื้อ ผมไม่เห็นว่ากระติ๊บมีความจำเป็นต้องใช้เงินเลยนะ”“ผู้ชายก็งี้แหละ ไม่เข้าใจผู้หญิงเอาเสียเลย คุณพบรู้ไหมว่าผู้หญิงน่ะ เขามีของที่ต้องซื้อใช้ประจำเดือนเยอะแยะ”“ของใช้ประจำเดือน...หมายถึงผ้าอนามัยเหรอ มันก็ไม่น่าจะแพงอะไรขนาดนั้นนะ”พลอยชมพูถอนหายใจแรง ตาคู่งามเหลือบมองบน“ติ๊บไม่คุยกับคุณพบแล้ว ผู้ชายอะไรไม่เข้าใจความเป็นผู้หญิงเอาเสียเลย ติ๊บขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ”ลูกจ้างสาวสวยของพบรักสะบัดค้อนเดินออกจากห้องไปแล้ว ชายหนุ่มมองตามจนกระทั่งประตูห้องปิดลง พบรักเอนกายพิงพนักเก้าอี้ ถอนหายใจบางเบา ระบายยิ้มเต็มใบหน้าคมเข้ม เธอน่ารักสดใส เวลาได้พูดคุย ได้อยู่ใกล้ๆ เขายอมรับว่าหัวใจเต้นในจังหวะที่แปลกไปจากเดิม“เอ้า! ไชโย!” เสียงเ
“คุณกระติ๊บ” ลำดวนกวักมือเรียกเมื่อเห็นคนที่ตามหามาตั้งแต่เช้าเดินเข้ามาใกล้“กินอะไรมาหรือยังคะคุณกระติ๊บ”“กินแล้วค่ะ อิ่มตื้อเลย” ก็จะไม่ให้อิ่มได้อย่างไร เธอกินขนมมาตลอดทาง และกินหมดคนเดียวไม่แบ่งคนขับรถด้วย“แล้วนี่ไปไหนมาคะ รู้หรือเปล่าว่าวันนี้เป็นวันเงินเดือนออก”“วันนี้เงินเดือนออกหรือคะ แล้วติ๊บต้องไปรับเงินเดือนที่ไหนคะ” พลอยชมพูถามกลับด้วยความตื่นเต้น“ของน้าและของคนอื่นที่เป็นพนักงานประจำก็โอนเข้าบัญชีค่ะ แต่ถ้าเป็นพวกจ้างรายวันมาทำงานบางอย่างก็ให้ไปรับกับการเงินที่ออฟฟิศ”“งั้นติ๊บคงต้องไปรับที่ออฟฟิศ เพราะติ๊บไม่ได้ให้เลขที่บัญชีธนาคารไว้ ติ๊บไปรับตอนนี้เลยได้ไหมคะ” เพราะเป็นเงินเดือนจากน้ำพักน้ำแรงเดือนแรก หลังจากที่ออกจากบ้านมาทำงานที่นี่ พลอยชมพูจึงตื่นเต้นเป็นพิเศษ“ตอนนี้ติดพักเที่ยงค่ะ ไปรับหลังบ่ายโมงดีกว่าค่ะ” พลอยชมพูพยักหน้ารับ ยิ้มหวานวาดฝันถึงเงินเดือนก้อนเล็กๆของเธอ“เอ่อ...คุณพบบอกว่าจะเป็นคนจ่ายเงินเดือนให้คุณกระติ๊บเองค่ะ”พลอยชมพูโกรธจนควันออกหู เมื่อเธออุตส่าห์เดินไปถึงออ
พยาบาลเงยหน้ามองสบตาญาติผู้ป่วยยิ้มๆ พบรักค้อมศีรษะให้ และเอ่ยคำขอบคุณ เขารอกระทั่งคุณพยาบาลเดินออกไปจากห้องแล้ว จึงก้มลงมองคนที่ยังคงกอดเขาไว้แน่น“ไหนใครบอกจะไม่ร้องไห้นะ”พลอยชมพูผละหน้าที่เปียกปอนน้ำตาออกมาจากอกกว้าง ใช้หลังมือปาดน้ำตา เงยหน้ามองคนล้อเลียนด้วยสายตางอนๆ“ก็ตอนแรกว่าจะไม่ร้องแล้ว ฮึกๆ แต่มันทนไม่ไหว มันเจ็บ ฮึกๆ คุณพบไม่ได้เป็นคนถูกฉีดยานี่ คุณพบไม่เข้าใจหรอก”“เจ็บเท่ามดกัด แค่นี้ทำมาร้อง”“มดกัดไม่เจ็บขนาดนี้หรอก ติ๊บเคยถูกมดกัดนะ ทำไมจะไม่รู้ว่ามันเจ็บแค่ไหน คุณพบน่ะเป็นผู้ใหญ่เสียเปล่า มาโกหกเด็กทำไม”คนถูกกล่าวหาว่าโกหกเด็กยิ้มในหน้า“เด็กโข่งน่ะสิ”พลอยชมพูสะอึกเมื่อถูกเขาว่า หญิงสาวยืดอก เชิดหน้าขึ้น มองเมินไปทางอื่น ปาดน้ำตาอีกสองที บอกเขาด้วยน้ำเสียงงอนๆ“คุณพบไม่เป็นติ๊บคุณพบไม่มีวันเข้าใจหรอก คนเรามีเรื่องที่ทำให้เจ็บแล้วจำฝังใจทั้งนั้นแหละ แต่ไม่ต้องห่วงหรอกนะคะ ฉีดเข็มสุดท้ายติ๊บคงไปฉีดที่กรุงเทพ เพราะถึงวันนั้นติ๊บคงกลับบ้านแล้ว คงไม่ได้รบกวนคุณพบอีกแล้วค่ะ”หลังขับรถออกมาจากโรงพยา
“มีคนทำแล้วค่ะ บ้านพักตั้งยี่สิบหลัง ต้องช่วยกันหลายคนหน่อยค่ะ ไม่งั้นเสร็จไม่ทันลูกค้าที่จะเข้าเช็กอินช่วงบ่ายแน่”“อ๋อ! ค่ะ...แล้วทำห้องนี้เสร็จแล้ว เราไปกินข้าวกันได้เลยใช่ไหมคะน้าลำดวน” พลอยชมพูถาม ขณะที่เดินตามลำดวนเข้าไปในห้อง เริ่มลงมือจัดเก็บตามขั้นตอนที่ลำดวนแนะนำและทำให้ดูมาหลายห้องแล้ว“หิวแล้วเหรอคะ” ลำดวนถามยิ้มๆ มือก็จัดการดึงผ้าปูที่นอนขึ้นจากเตียง“นิดหน่อยค่ะ” ก็จะไม่ให้เธอหิวได้อย่างไร เมื่อเช้าหลังจากที่พบรักบอกเธอว่าสัปดาห์หน้าต้องไปฉีดยาเข็มที่สอง เธอก็ตื้อไปหมด กินอะไรไม่ลง การกินข้าวมื้อเช้าน้อยเกินไป เลยส่งผลให้หิวเร็วกว่าปกติ“งั้นก็เร่งมือช่วยกันนะคะ เสร็จแล้วเราไปกินข้าวที่ห้องครัวกัน”“ค่ะ เอ่อ...น้าลำดวนคะ ติ๊บสงสัยอย่างหนึ่งค่ะ”“อะไรหรือคะ”“ที่นี่ไม่มีผู้จัดการรีสอร์ตหรือคะ คือตั้งแต่มาทำงานที่นี่ ติ๊บเห็นคุณพบทำโน่นนี่เองทุกอย่างเลย”“ก็คุณพบไงล่ะคะ คุณพบน่ะเป็นทั้งเจ้าของทั้งผู้จัดการ เธอทำเองทุกอย่าง ทำจนแทบไม่มีเวลาพักผ่อน เพราะไม่อยากมีเวลาว่างให้จิตใจต้องคิดเรื่องอื่นฟุ้งซ่าน” ลำดวนพูดไปด้ว
พลอยชมพูตัดสินใจออกแรงดันอกกว้าง พยายามพาตัวออกจากพันธนาการแสนหวาดเสียว ทว่าตัวเล็กๆแรงน้อยๆอย่างเธอไม่สามารถพาตัวเองขยับไปไหนได้เลย หญิงสาวถอนหายใจออกมาสุดแรง ตัดสินใจแล้วว่า การปลุกเขาให้ตื่นดูจะเป็นวิธีการที่ดีที่สุด ไม่อย่างนั้นเธอคงโดนเขากอดจนขาดอากาศหายใจตายแน่ๆพลอยชมพูสูดหายใจลึก รวบรวมพลังกายพลังใจ บอกตัวเองว่าต้องตั้งมั่นอยู่บนความหาญกล้า ก่อนจะเอ่ยเรียกเขาออกไปด้วยเสียงสั่นน้อยๆ“คุณพบคะ”แต่ดูเหมือนว่างูเหลือมตัวโตที่รัดเธอไว้แน่นจะไม่ได้ยิน เขาไม่รู้สึกตัว ไม่ลืมตา และที่สำคัญไม่ยอมคลายอ้อมแขนออกจากตัวเธอด้วย มิหนำซ้ำยังรัดแน่นขึ้นอีกต่างหาก นี่เขาคิดจะรัดเธอจนกระดูกหัก แล้วหลังจากนั้นก็จะเขมือบเธอลงท้องหรือเปล่า“คุณพบคะ! คุณพบๆๆๆๆๆ” พลอยชมพูเรียกเขาเสียงดังขึ้น และเรียกติดๆกันหลายครั้ง ทั้งออกแรงดิ้นดุ๊กดิ๊กอยู่ในอ้อมกอดของเขาด้วย และครั้งนี้มันได้ผล เขาค่อยๆลืมตาขึ้น เธอยิ้มดีใจที่เขารู้สึกตัว เขามองสบตาเธอ แต่ครู่เดียวเขาก็หลับตาลงดังเดิม“อ้าว! คุณพบ! ตื่นสิคะ” พลอยชมพูโวยวาย เมื่อกี้ก็ตื่นแล้วนี่ แล้วก็เห็นอยู่ว่าเธอนอนอยู่ตรงนี้
พบรักยกมือขึ้นกอดอก มองตามร่างบางเดินหนีไปด้วยสายตาอ่อนโยน ก่อนหันไปมองบริเวณที่งานแต่งกำลังดำเนินอยู่ แล้วระบายยิ้มบางเบาโดยไม่รู้ตัวหลังพิธีแต่งงานของลูกค้าเสร็จสิ้นลงแล้ว ช่วงค่ำมีงานเลี้ยงแขกผู้มาร่วมงาน พนักงานรีสอร์ตต้องมาคอยทำหน้าที่บริการอาหารและเครื่องดื่ม พลอยชมพู น้ำหวาน และพนักงานชายอีกคนรับหน้าที่ผสมเครื่องดื่ม“สีสวยจังเลย” แม้จะอยู่ประจำจุดผสมเครื่องดื่ม แต่ดูเหมือนว่าพลอยชมพูก็ทำได้แค่เพียงยืนให้กำลังใจเพื่อนพนักงาน และชื่นชมเมื่อพนักงานชายผสมเครื่องดื่มและจัดวางท็อปปิ้งบนแก้วออกมาได้อย่างสวยงาม“อร่อยด้วยนะคะคุณกระติ๊บ” น้ำหวานกระซิบบอก“อร่อยแต่เมาแหงๆ” พลอยชมพูทำหน้าเหยเก“ไม่เมาหรอกค่ะ ผสมเหล้านิดเดียวเอง ลองชิมดูหน่อยไหมคะ” น้ำหวานยื่นแก้วน้ำสีสวยให้พลอยชมพู“ไม่เอาค่ะ เดี๋ยวเมา เดี๋ยวถูกคุณพบว่า” พลอยชมพูส่ายหน้าปฏิเสธ“ลองชิมดูนิดเดียวเองค่ะ คุณพบไม่เห็นหรอก อย่างน้อยก็จะได้รู้รสชาติ เผื่อวันหลังจะได้มาหัดชงไงคะ” น้ำหวานยื่นแก้วไปแตะมือพลอยชมพู คนถูกคะยั้นคะยอรับมาถือไว้สีหน้าไม่สู้ดีเท่าไร“แก้วเดียวไม่
“เอามันม่วงด้วยนะคะคุณพบ” พลอยชมพูเกาะแขนคนข้างๆ เขย่าอย่างตื่นเต้น ตากลมสุกใสมองมันทิพย์ลูกขนาดพอดีคำทั้งสีขาวสีม่วงที่ถูกปิ้งอยู่บนตะแกรงด้วยความตื่นตาตื่นใจพบรักหลุบตามองมือนุ่มที่เกาะแขนตนอยู่แวบหนึ่ง ก่อนจะหันไปสั่งแม่ค้าให้ พอแม่ค้ายื่นถุงให้ พลอยชมพูก็รับมาถือไว้เอง“ของติ๊บ ติ๊บถือเองค่ะ” เจ้าของมันทิพย์ยิ้มอย่างดีใจ“จะเอาอะไรอีกไหม” พบรักเอ่ยถามคนที่ยังเกาะแขนเขาไว้ด้วยมือข้างเดียว ส่วนอีกมือถือถุงขนมไว้พลอยชมพูมองซ้ายขวา ชะเง้อคอมองร้านค้าที่เรียงรายกันอยู่“แค่นี้ก็พอแล้วค่ะ เรารีบกลับรีสอร์ตกันเถอะ”“แล้วไหนบอกว่าจะซื้ออย่างอื่นด้วย”“ก็ตอนนี้ไม่อยากได้แล้ว ไปเถอะค่ะ” พลอยชมพูดึงแขนที่เธอเกาะอยู่ให้เดินกลับไปที่รถด้วยกัน พบรักยอมเดินตามแต่โดยดี เขายิ้มในหน้า ตาคมอ่อนแสงลงเมื่อหลุบมองมือที่จับอยู่บนแขนของตน“คุณพบรีบๆหน่อยสิคะ” พลอยชมพูเร่ง เมื่อคนขับขับรถด้วยความเร็วที่ไม่ค่อยทันใจเธอเอาเสียเลย“รู้ไหมว่าการขับรถเร็วอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้”“รู้ค่ะ แต่ติ๊บอยากกลับถึงรีสอร์ตก่อนบ