"ฉันเจ็บจ้ะพี่ โอ๊ย...!"
เสียงร้องโหยหวนดังขึ้นจากบ้านหลังใหญ่ แพรวรินทร์ที่กำลังอ่านหนังสือสอบ ได้ยินเสียงทะเลาะเบาะแว้งดังมาจากชั้นล่าง จึงรีบวางทุกอย่างลงบนโต๊ะหนังสือ จากนั้นก็รีบวิ่งลงมาเพราะสถานการณ์อันคุ้นเคย ที่เธอพบเจอมาตลอดหลายปีมานี้ ก็คือการที่ต้องทนเห็นคุณแม่ของตัวเอง ถูกทุบตีร่างกาย ตบตีสารพัดแต่เธอที่เป็นลูกไม่เคยช่วยอะไรได้เลยแม้สักครั้งเดียว
"เจ็บสิดี มึงจะได้รู้ว่าไม่ควรมาขึ้นเสียงใส่กู ทุกวันนี้มึงกับลูกใช้เงินกูรู้ใช่ไหม คิดที่จะหือกับกู ก็ต้องมีปัญญาดูแลตัวเอง"
พูดไปก็ใช้ฝ่ามือทุบตีภรรยาจนช้ำไปแทบทั้งตัว แพรวรินทร์ที่เดินลงมาชั้นล่าง เห็นสภาพของคุณแม่นั่งอยู่ที่พื้น ก็เบิกตากว้างอย่างตกใจ ก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปประคองท่านไว้
"แม่จ๋าเป็นอะไรไหม"
"สั่งสอนแม่มึงบ้างนะ ว่าไม่ควรมาชวนกูทะเลาะ ไม่อย่างนั้นกูจะไล่พวกมึงสองคนออกไปจากบ้าน แล้วมึงรู้ใช่ไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้น"
ลุงพลพลเป็นสามีใหม่ของคุณแม่ หรือเรียกว่าเป็นพ่อเลี้ยงของเธอนั่นเอง เราสองคนมาอาศัยอยู่กับเขาได้หลายปีแล้ว ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมคุณแม่ถึงตัดสินใจแบบนั้น แต่ทว่าครั้งแรกที่เจอกัน ลุงพลพลเป็นคนสุภาพ อ่อนโยน พูดจาไพเราะ ไม่ได้เป็นคนเกรี้ยวกราด และใช้ความรุนแรงแบบนี้มาก่อน ซึ่งไม่รู้ว่าเขาเริ่มเปลี่ยนไปตั้งแต่ตอนไหน หรือว่าจริงๆ แล้วมันเป็นกมลสันดาน เพียงแค่ว่าไม่เผยธาตุแท้ออกมาในตอนที่เจอกันครั้งแรก
"ทำไมลุงต้องตบตีแม่ขนาดนี้ด้วยคะ ต้องทำขนาดนี้เลยเหรอ"
"อ๋อ... มึงอยากโดนด้วยสินะ"
ลุงพลพลขยับตัวเดินเข้ามาก่อนจะฟาดมือลงไปยังแผ่นหลังของลูกเลี้ยง ใบหน้าของเขาในตอนนี้แดงก่ำด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ ถ้าเกิดว่าไม่เมาก็จะมีสภาพเหมือนคนปกติ แต่พอเหล้าเข้าปากก็แปรเปลี่ยนเป็นใครก็ไม่รู้
"โอ๊ย...!"
"แพร...!"
พิมพ์เห็นลูกสาวถูกตีก็เบิกตากว้างอย่างตกใจ รีบขยับตัวเข้าไปสวมกอดลูกสาว ปกป้องอย่างไม่คิดชีวิต เธอเองพาลูกมาลำบากอยู่ที่นี่ ถึงแม้ว่าจะมีเงินใช้อย่างสุขสบาย แต่ลูกไม่เคยมีความสุขเลยสักวัน เธอพยายามให้ลูกไปอยู่หอพักข้างนอก ให้ใช้ชีวิตเหมือนเด็กปกติไม่ต้องมาทนเห็นภาพแบบนี้ แต่เธอเองก็ไม่ยอม เพราะอยากจะปกป้องคนเป็นแม่
ตั้งแต่เกิดมาเธอไม่เคยทำงานด้วยตัวเองเลยสักครั้ง ตอนอยู่กับสามีเก่าเขาก็เลี้ยงดูมาอย่างดี แต่พอมารู้ตัวอีกทีก็กลายเป็นเมียคนที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ ถูกเมียหลวงเขาไล่ตบตีทั้งที่เธอไม่รู้เรื่องอะไรด้วยซ้ำ โชคดีที่มาเจอคุณพลพล เขาทำให้เธอหลุดพ้นจากการถูกรังแกของเมียหลวง
แต่ท้ายที่สุดก็เหมือนหนีเสือปะจระเข้ โดยปกติคุณพลพลเป็นคนที่ใจดีมาก เขาให้เงินใช้ไม่ขาดมือ ส่งเสียลูกสาวของเธอเรียนโรงเรียนที่ดี จนตอนนี้จะเรียนจบพยาบาลแล้ว แต่ดูเหมือนว่าแพรวรินทร์ไม่อยากที่จะรบกวนเขามาก ถึงไปขอทุนการศึกษา และด้วยความที่เรียนเก่งจึงได้มาไม่ยาก
"อย่าตีลูกเลยค่ะ ฮึก...!"
"แม่คะออกไปเดี๋ยวนี้ จะไม่ไหวแล้วนะ"
แพรวรินทร์ร้องไห้ออกมาน้ำตานองหน้า เธอเองเจ็บปวดทุกครั้งที่ต้องเห็นคนเป็นแม่ถูกทุบตี การใช้กำลังในครอบครัวเป็นเรื่องที่รุนแรงมาก เธอพยายามที่จะดึงคุณแม่ออกมาหลายครั้ง แต่ทว่าคุณพลพลเขาเป็นคนที่หวงคุณแม่มากๆ แต่ถ้าท่านดื้อดึงอยากจะออกไปจากชีวิตเขา ก็จะถูกตามตัวกลับมาและจับขัง สิ่งที่คุณแม่เจอเธอเองก็คงจะมีส่วน เพราะถ้าเกิดว่าท่านไม่มีเธอ ก็คงจะไม่ต้องอดทนถึงขนาดนี้
"ฮึก...!"
"อย่ามาทำเก่งกับกูนะพวกมึง ไม่งั้นจะโดนอีก"
พูดจบเขาก็เตะรองเท้าที่พื้นใส่กำแพง จากนั้นก็เดินโซเซขึ้นไปชั้นบน แพรวรินทร์สวมกอดคุณแม่เอาไว้แน่น เธอรู้สึกสงสารท่านมาก และไม่เข้าใจเหตุผลที่ต้องอดทนมากมายขนาดนี้
"แม่คะ... ออกไปเถอะนะคะอย่าทนเลย"
คุณแม่ของเธอยื่นมือไปเช็ดน้ำตาให้ลูกสาว มือไม้สั่นไปหมด เธออยากให้ลูกออกไปจากที่นี่ ไปอยู่ที่ไหนก็ได้ทั้งนั้น แต่ไม่ใช่ที่บ้านแห่งนี้
"พรุ่งนี้หนูย้ายออกไปอยู่ข้างนอกนะ แม่จะเอาเงินให้ไปเช่าคอนโดอยู่ จะอยู่ที่ไหนก็ได้"
"พรุ่งนี้หนูสอบวันสุดท้ายก็จะเรียนจบแล้ว จะได้ทำงานที่โรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง หนูสามารถดูแลแม่ได้นะคะ เราหนีไปด้วยกันไหม"
"ไม่ได้หรอก คุณพลพลเขามีบุญคุณกับเรา แม่ต้องดูแลเขาเพราะว่าเขาไม่มีใคร พรุ่งนี้เขาก็เป็นคนเดิมเมื่อสร่างเมา หนูก็รู้ว่าถ้าเขาไม่ดื่ม เขาเป็นคนดีคนหนึ่งเลยนะ ให้เงินเราใช้ดูแลอย่างดี แม่อยากจะตอบแทนเขา"
แพรวรินทร์ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจ เธอไม่เคยคิดเลยว่าคนเป็นแม่จะมีความคิดที่ซื่อสัตย์กับเขามากขนาดนี้ ทั้งที่ถูกกระทำมาโดยตลอด ถึงแม้ว่าตอนที่ไม่เมาจะเป็นคนดีคนหนึ่ง และก็ปฏิเสธไม่ได้อีก ว่าเขาให้เงินเธอใช้ไม่ขาดมือ ส่งเสียให้เรียนในสถานที่ดีๆ ถึงแม้ว่าช่วงหลังเธอจะใช้ทุนของโรงพยาบาล แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเงินที่ไปโรงเรียนทุกวันก็เป็นของเขา
"แม่รู้ไหมคะกำลังเอาตัวเองอยู่กับอันตราย"
"ท้ายที่สุดแม่ก็เป็นคนเลือกเอง แต่หนูมีทางเลือกมากกว่าแม่นะ ไปใช้ชีวิตให้มีความสุข ไม่ต้องห่วงแม่"
"แม่รู้ไหมคะว่าหนูเกลียดพ่อมากๆ เกลียดมากกว่าลุงพลพลอีก"
หญิงสาวเอ่ยออกมาน้ำตาคลอเบ้า เธอเคยเจอคุณพ่อตอนเด็ก ท่านไม่ได้อยู่ด้วยกันกับคุณแม่ ให้เหตุผลว่าทำงานไม่ค่อยมีเวลามาหา ให้เงินใช้จนวันหนึ่งความลับแตก เมียหลวงจับได้ว่าเขาซุกบ้านน้อย แทนที่จะสารภาพว่าตัวเองผิด อย่างน้อยก็ต้องแก้ตัวว่าแม่ไม่รู้เรื่อง เขากลับเงียบแล้วปล่อยให้ภรรยามาก่อความวุ่นวายกับคุณแม่ จนต้องหนีหัวซุกหัวซุน คงเพราะความประทับใจแรกที่ลุงพลพลปกป้องแม่จากเรื่องเลวร้าย จึงทำให้ท่านอดทนอยู่ทั้งที่เวลาเมาแล้วชอบทำร้ายร่างกาย แต่เธอเกลียดผู้ชายอีกคนมากกว่า หลังจากที่ภรรยาจับได้ก็ไม่เคยมารับผิดชอบกับสิ่งที่ตัวเองทำไว้เลย
"อย่าไปเกลียดเขาเลยหนูจะเป็นบาปเสียเปล่า เรื่องมันก็ผ่านมานานแล้ว เขาเองก็ได้รับบทเรียนแล้ว ลูกกับภรรยาหลวงก็เสียชีวิตตั้งแต่อายุยังเด็ก ตอนนี้ก็ไม่มีทายาทสืบสกุล เขาคงได้รับบทเรียนอย่างสาสมแล้วล่ะ"
"ทำไมเราสองคนถึงต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ด้วยคะแม่ หนีเสือปะจระเข้ ชีวิตจะไม่เจอเรื่องดีๆ เลยเหรอ"
"ไม่ต้องคิดมากนะลูก หนูเป็นเด็กดีต้องได้เจอสิ่งดีๆ สักวัน"
แพรวรินทร์พาคุณแม่ไปพักผ่อนที่ห้องนอนอีกฝั่ง เธอประคองให้ท่านนั่งลงบนเตียง จากนั้นก็เดินออกไปหยิบกล่องปฐมพยาบาล และก็ทำแผลให้ท่านเป็นบางจุดในเบื้องต้น พิมประภายื่นมือไปลูบแก้มลูกสาวอย่างรู้สึกผิด ทำให้ลูกมีปมด้อยกับชีวิตในแต่ละวัน และพรุ่งนี้เธอจะทำทุกวิธี เพราะอยากให้ลูกออกไปจากจุดนี้"พรุ่งนี้หนูเก็บของออกไปอยู่ข้างนอกเลยนะ""แต่หนูเป็นห่วงแม่ค่ะ ไม่อยากไปอยู่ที่อื่น"แพรวรินทร์เอ่ยออกมาน้ำตาคลอเบ้า จะให้เธอทอดทิ้งท่านได้ยังไง คนเป็นลูกสาวมีเงินได้ร่ำเรียนตามที่คาดหวัง ใช้ชีวิตเป็นคนปกติในขณะที่คนเป็นแม่ ต้องมารองรับอารมณ์ของผู้ชายที่ไม่ปกติ เหมือนคนเป็นโรคสองบุคลิก แต่ถ้าให้คาดเดาก็คงเป็นฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ ที่ทำให้คนนิสัยเปลี่ยนไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ"แม่ขอร้อง อยากให้หนูใช้ชีวิตอย่างมีความสุขเหมือนคนอื่น ไม่ต้องห่วงแม่""แต่ว่า...""ไปนอนพักผ่อนได้แล้ว ช่วงนี้มีสอบไม่ใช่หรือไง เดี๋ยวแม่ทำแผลเอง แต่เมื่อกี้แม่เห็นหนูโดนคุณลุงตีด้วย เจ็บตรงไหนไหมแม่ขอดูหน่อย"หญิงสาวรีบส่ายหน้าทันที เธอไม่อยากให้ท่านรู้สึกแย่ไปมากกว่านี้อีก จึงทำเป็นเหมือนว่าเธอไม่ได้รู้สึกเจ็บหรือเป็นอะไรมาก ทั้งที่เ
วันต่อมา...แพรวรินทร์เก็บกระเป๋าเดินทางมาที่คฤหาสน์ของนายใหญ่แห่ง west sands เธอได้รับมอบหมายจากอาจารย์หมอ ให้มาดูแลคุณท่านของบ้าน ซึ่งตอนนี้เธอต้องมาที่คฤหาสน์ล่วงหน้า เพื่อเก็บของ และเตรียมอาหารเพื่อสุขภาพให้คุณท่านตอนที่เดินทางมาถึงหญิงสาวลงจากรถส่งเงินให้กับแท็กซี่ จากนั้นก็หิ้วกระเป๋าเดินเข้าไปข้างใน และเมื่อเข้ามาถึงโถงภายในคฤหาสน์ ก็เจอกับแม่บ้านที่ยืนรออยู่"สวัสดีค่ะคุณแพรวรินทร์ พยาบาลส่วนตัวของคุณท่านใช่ไหมคะ""ใช่ค่ะ สวัสดีค่ะ เรียกแพรเฉยๆ ก็ได้ค่ะ""ได้เลยค่ะคุณแพร ถ้าอย่างนั้นเชิญทางนี้นะคะ เดี๋ยวพี่จะพาคุณแพรขึ้นไปห้องนอนชั้นบน เก็บของให้เรียบร้อยอีกสักชั่วโมงหนึ่งคุณท่าน และนายใหญ่น่าจะกลับมาค่ะ"เธอพยักหน้ารับทราบ จากนั้นก็รีบเอากระเป๋าไปเก็บไว้ที่ห้องนอน ตอนนี้เธอยังอยู่ในชุดพยาบาลเพราะว่าเพิ่งออกเวร แต่หลังจากนี้อาจจะต้องแต่งตัวชุดธรรมดาให้เรียบร้อย น่าจะสะดวกสบายกว่าแพรวรินทร์รีบเดินลงมาจากชั้นบน ตรงเข้าไปยังห้องครัว เธอกำลังทำข้าวต้มให้คุณท่าน ตอนนี้เป็นเวลาที่สมควรแก่การกินยา เธอได้อ่านตัวยาที่ท่านต้องกินในเบื้องต้นมาจากอาจารย์หมอเรียบร้อยแล้ว ท่านควรจะต้องกิน
และระยะเวลาในการที่ลูกน้องของนายใหญ่แห่ง west sands ไปต่อคิวมา ก็กินเวลาไปเกือบชั่วโมงครึ่ง ถึงกับต้องบอกลูกน้องว่าวันนี้จะไม่คิดค่าที่ของร้านขนมเจ้าดัง เพื่อที่จะได้ขนมมาด้วยความรวดเร็ว แต่ทว่าลูกน้องตัวดีบอกว่าทำแบบนั้นไม่ได้ ลูกค้ารับรู้นายใหญ่จะเสียหาย ทำให้กินเวลาไปนานเกือบสองชั่วโมงและตอนนี้พวกเขาก็เดินทางกลับมาที่คฤหาสน์สุดหรู เฉินเปิดประตูให้นายใหญ่ลงไปก่อน ส่วนเขาก็ถือถุงขนมเดินตามเข้าไปด้วย และตอนนี้คุณท่านกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ โดยมีคุณพยาบาลนั่งเล่นอยู่เป็นเพื่อน"หนูแพรอยากทำอะไรก็ไปทำเถอะ ไม่ต้องมาอยู่เป็นเพื่อนลุงหรอก อยู่กับคนแก่น่าเบื่อจะตาย""ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แพรอยู่ได้ แต่ถ้าเกิดว่าคุณลุงอยากมีเวลาเป็นส่วนตัวก็บอกได้นะคะ เดี๋ยวแพรออกไปทำอย่างอื่น""ลุงไม่ได้อยากมีเวลาไปส่วนตัวอะไรหรอก ก็แค่รู้สึกสงสารที่หนูต้องมานั่งเบื่อหน่ายอยู่ที่นี่ ว่าแต่หนูมาอยู่ที่นี่แล้วไม่กลับบ้านเหรอ หรือว่ามีวันไหนที่อยากกลับบ้านไหม บอกได้เลยนะลุงอนุญาตให้หนูกลับได้เลย"ไฮดรารู้สึกว่าหญิงสาวน่าจะเบื่อกับการมาดูแลคนป่วยอย่างเขา และเด็กอายุนามแบบนี้ก็น่าจะอยากมีเวลาอยู่กับพ่อแม่ หรือไม่อ
ฟินิกซ์ อิลิแกนซ์ อายุ 28 ปี นายใหญ่แห่ง west sands เจ้าของธุรกิจร้านทอง และอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ปล่อยเช่าตึก บ้านโครงการ และตลาดสดขนาดใหญ่หลายสาขา เขาเป็นผู้ชายที่ค่อนข้างสุขุม ภายนอกดูใจดีมากๆ แต่ลึกๆ เขาเองเป็นคนเด็ดขาด และถ้าใครทำตัวขวางโลก เขาไม่เคยไว้หน้าทั้งนั้น"ทำไมมีรอยช้ำ ไปทำอะไรมา ใครทำอะไรให้หรือเปล่า""มะ...ไม่มีค่ะ แพรเดินชนประตูค่ะ""งั้นเหรอ..."ลูกแพร แพรวรินทร์ สังวาลย์วิทยา อายุ 24 ปี เธอเรียนจบพยาบาล และก็เข้าทำงานทันที เพราะว่าเป็นเด็กที่เรียนเก่ง และตอนนี้ต้องใช้ทุนให้กับมหาวิทยาลัย เธอจึงได้รับหน้าที่มาดูแลคุณท่านให้กับนายใหญ่แห่ง west sands เพราะว่าทางโรงพยาบาลเป็นคนส่งมา เนื่องจากเขาเป็นผู้สนับสนุนงบประมาณในทุกปี ชีวิตแสนจะเพอร์เฟค แต่เบื้องลึกเบื้องหลังของครอบครัวเธอก็คือ..."ฉันเลี้ยงแกกับแม่มาหลายสิบปี มีทุกวันนี้ได้ก็เพราะฉัน ไม่คิดจะตอบแทนกันหน่อยหรือไง"..."แม่จะทนทำไมคะ เขาทุบตีแม่ทุกวันเลยเราออกไปจากที่นี่เถอะค่ะ""ลูกออกไปเถอะแม่ไปไม่ได้ เราใช้เงินเขามาตลอดหลายปี ที่หนูเรียนจบได้ก็เพราะว่าเป็นเงินที่คุณลุงเขาส่งเสียเลี้ยงดู ถ้าแม่หนีหนูก็จะเป็นอั
และระยะเวลาในการที่ลูกน้องของนายใหญ่แห่ง west sands ไปต่อคิวมา ก็กินเวลาไปเกือบชั่วโมงครึ่ง ถึงกับต้องบอกลูกน้องว่าวันนี้จะไม่คิดค่าที่ของร้านขนมเจ้าดัง เพื่อที่จะได้ขนมมาด้วยความรวดเร็ว แต่ทว่าลูกน้องตัวดีบอกว่าทำแบบนั้นไม่ได้ ลูกค้ารับรู้นายใหญ่จะเสียหาย ทำให้กินเวลาไปนานเกือบสองชั่วโมงและตอนนี้พวกเขาก็เดินทางกลับมาที่คฤหาสน์สุดหรู เฉินเปิดประตูให้นายใหญ่ลงไปก่อน ส่วนเขาก็ถือถุงขนมเดินตามเข้าไปด้วย และตอนนี้คุณท่านกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ โดยมีคุณพยาบาลนั่งเล่นอยู่เป็นเพื่อน"หนูแพรอยากทำอะไรก็ไปทำเถอะ ไม่ต้องมาอยู่เป็นเพื่อนลุงหรอก อยู่กับคนแก่น่าเบื่อจะตาย""ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แพรอยู่ได้ แต่ถ้าเกิดว่าคุณลุงอยากมีเวลาเป็นส่วนตัวก็บอกได้นะคะ เดี๋ยวแพรออกไปทำอย่างอื่น""ลุงไม่ได้อยากมีเวลาไปส่วนตัวอะไรหรอก ก็แค่รู้สึกสงสารที่หนูต้องมานั่งเบื่อหน่ายอยู่ที่นี่ ว่าแต่หนูมาอยู่ที่นี่แล้วไม่กลับบ้านเหรอ หรือว่ามีวันไหนที่อยากกลับบ้านไหม บอกได้เลยนะลุงอนุญาตให้หนูกลับได้เลย"ไฮดรารู้สึกว่าหญิงสาวน่าจะเบื่อกับการมาดูแลคนป่วยอย่างเขา และเด็กอายุนามแบบนี้ก็น่าจะอยากมีเวลาอยู่กับพ่อแม่ หรือไม่อ
วันต่อมา...แพรวรินทร์เก็บกระเป๋าเดินทางมาที่คฤหาสน์ของนายใหญ่แห่ง west sands เธอได้รับมอบหมายจากอาจารย์หมอ ให้มาดูแลคุณท่านของบ้าน ซึ่งตอนนี้เธอต้องมาที่คฤหาสน์ล่วงหน้า เพื่อเก็บของ และเตรียมอาหารเพื่อสุขภาพให้คุณท่านตอนที่เดินทางมาถึงหญิงสาวลงจากรถส่งเงินให้กับแท็กซี่ จากนั้นก็หิ้วกระเป๋าเดินเข้าไปข้างใน และเมื่อเข้ามาถึงโถงภายในคฤหาสน์ ก็เจอกับแม่บ้านที่ยืนรออยู่"สวัสดีค่ะคุณแพรวรินทร์ พยาบาลส่วนตัวของคุณท่านใช่ไหมคะ""ใช่ค่ะ สวัสดีค่ะ เรียกแพรเฉยๆ ก็ได้ค่ะ""ได้เลยค่ะคุณแพร ถ้าอย่างนั้นเชิญทางนี้นะคะ เดี๋ยวพี่จะพาคุณแพรขึ้นไปห้องนอนชั้นบน เก็บของให้เรียบร้อยอีกสักชั่วโมงหนึ่งคุณท่าน และนายใหญ่น่าจะกลับมาค่ะ"เธอพยักหน้ารับทราบ จากนั้นก็รีบเอากระเป๋าไปเก็บไว้ที่ห้องนอน ตอนนี้เธอยังอยู่ในชุดพยาบาลเพราะว่าเพิ่งออกเวร แต่หลังจากนี้อาจจะต้องแต่งตัวชุดธรรมดาให้เรียบร้อย น่าจะสะดวกสบายกว่าแพรวรินทร์รีบเดินลงมาจากชั้นบน ตรงเข้าไปยังห้องครัว เธอกำลังทำข้าวต้มให้คุณท่าน ตอนนี้เป็นเวลาที่สมควรแก่การกินยา เธอได้อ่านตัวยาที่ท่านต้องกินในเบื้องต้นมาจากอาจารย์หมอเรียบร้อยแล้ว ท่านควรจะต้องกิน
แพรวรินทร์พาคุณแม่ไปพักผ่อนที่ห้องนอนอีกฝั่ง เธอประคองให้ท่านนั่งลงบนเตียง จากนั้นก็เดินออกไปหยิบกล่องปฐมพยาบาล และก็ทำแผลให้ท่านเป็นบางจุดในเบื้องต้น พิมประภายื่นมือไปลูบแก้มลูกสาวอย่างรู้สึกผิด ทำให้ลูกมีปมด้อยกับชีวิตในแต่ละวัน และพรุ่งนี้เธอจะทำทุกวิธี เพราะอยากให้ลูกออกไปจากจุดนี้"พรุ่งนี้หนูเก็บของออกไปอยู่ข้างนอกเลยนะ""แต่หนูเป็นห่วงแม่ค่ะ ไม่อยากไปอยู่ที่อื่น"แพรวรินทร์เอ่ยออกมาน้ำตาคลอเบ้า จะให้เธอทอดทิ้งท่านได้ยังไง คนเป็นลูกสาวมีเงินได้ร่ำเรียนตามที่คาดหวัง ใช้ชีวิตเป็นคนปกติในขณะที่คนเป็นแม่ ต้องมารองรับอารมณ์ของผู้ชายที่ไม่ปกติ เหมือนคนเป็นโรคสองบุคลิก แต่ถ้าให้คาดเดาก็คงเป็นฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ ที่ทำให้คนนิสัยเปลี่ยนไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ"แม่ขอร้อง อยากให้หนูใช้ชีวิตอย่างมีความสุขเหมือนคนอื่น ไม่ต้องห่วงแม่""แต่ว่า...""ไปนอนพักผ่อนได้แล้ว ช่วงนี้มีสอบไม่ใช่หรือไง เดี๋ยวแม่ทำแผลเอง แต่เมื่อกี้แม่เห็นหนูโดนคุณลุงตีด้วย เจ็บตรงไหนไหมแม่ขอดูหน่อย"หญิงสาวรีบส่ายหน้าทันที เธอไม่อยากให้ท่านรู้สึกแย่ไปมากกว่านี้อีก จึงทำเป็นเหมือนว่าเธอไม่ได้รู้สึกเจ็บหรือเป็นอะไรมาก ทั้งที่เ
"ฉันเจ็บจ้ะพี่ โอ๊ย...!"เสียงร้องโหยหวนดังขึ้นจากบ้านหลังใหญ่ แพรวรินทร์ที่กำลังอ่านหนังสือสอบ ได้ยินเสียงทะเลาะเบาะแว้งดังมาจากชั้นล่าง จึงรีบวางทุกอย่างลงบนโต๊ะหนังสือ จากนั้นก็รีบวิ่งลงมาเพราะสถานการณ์อันคุ้นเคย ที่เธอพบเจอมาตลอดหลายปีมานี้ ก็คือการที่ต้องทนเห็นคุณแม่ของตัวเอง ถูกทุบตีร่างกาย ตบตีสารพัดแต่เธอที่เป็นลูกไม่เคยช่วยอะไรได้เลยแม้สักครั้งเดียว"เจ็บสิดี มึงจะได้รู้ว่าไม่ควรมาขึ้นเสียงใส่กู ทุกวันนี้มึงกับลูกใช้เงินกูรู้ใช่ไหม คิดที่จะหือกับกู ก็ต้องมีปัญญาดูแลตัวเอง"พูดไปก็ใช้ฝ่ามือทุบตีภรรยาจนช้ำไปแทบทั้งตัว แพรวรินทร์ที่เดินลงมาชั้นล่าง เห็นสภาพของคุณแม่นั่งอยู่ที่พื้น ก็เบิกตากว้างอย่างตกใจ ก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปประคองท่านไว้"แม่จ๋าเป็นอะไรไหม""สั่งสอนแม่มึงบ้างนะ ว่าไม่ควรมาชวนกูทะเลาะ ไม่อย่างนั้นกูจะไล่พวกมึงสองคนออกไปจากบ้าน แล้วมึงรู้ใช่ไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้น"ลุงพลพลเป็นสามีใหม่ของคุณแม่ หรือเรียกว่าเป็นพ่อเลี้ยงของเธอนั่นเอง เราสองคนมาอาศัยอยู่กับเขาได้หลายปีแล้ว ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมคุณแม่ถึงตัดสินใจแบบนั้น แต่ทว่าครั้งแรกที่เจอกัน ลุงพลพลเป็นคนสุภาพ อ่อนโยน พ
ฟินิกซ์ อิลิแกนซ์ อายุ 28 ปี นายใหญ่แห่ง west sands เจ้าของธุรกิจร้านทอง และอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ปล่อยเช่าตึก บ้านโครงการ และตลาดสดขนาดใหญ่หลายสาขา เขาเป็นผู้ชายที่ค่อนข้างสุขุม ภายนอกดูใจดีมากๆ แต่ลึกๆ เขาเองเป็นคนเด็ดขาด และถ้าใครทำตัวขวางโลก เขาไม่เคยไว้หน้าทั้งนั้น"ทำไมมีรอยช้ำ ไปทำอะไรมา ใครทำอะไรให้หรือเปล่า""มะ...ไม่มีค่ะ แพรเดินชนประตูค่ะ""งั้นเหรอ..."ลูกแพร แพรวรินทร์ สังวาลย์วิทยา อายุ 24 ปี เธอเรียนจบพยาบาล และก็เข้าทำงานทันที เพราะว่าเป็นเด็กที่เรียนเก่ง และตอนนี้ต้องใช้ทุนให้กับมหาวิทยาลัย เธอจึงได้รับหน้าที่มาดูแลคุณท่านให้กับนายใหญ่แห่ง west sands เพราะว่าทางโรงพยาบาลเป็นคนส่งมา เนื่องจากเขาเป็นผู้สนับสนุนงบประมาณในทุกปี ชีวิตแสนจะเพอร์เฟค แต่เบื้องลึกเบื้องหลังของครอบครัวเธอก็คือ..."ฉันเลี้ยงแกกับแม่มาหลายสิบปี มีทุกวันนี้ได้ก็เพราะฉัน ไม่คิดจะตอบแทนกันหน่อยหรือไง"..."แม่จะทนทำไมคะ เขาทุบตีแม่ทุกวันเลยเราออกไปจากที่นี่เถอะค่ะ""ลูกออกไปเถอะแม่ไปไม่ได้ เราใช้เงินเขามาตลอดหลายปี ที่หนูเรียนจบได้ก็เพราะว่าเป็นเงินที่คุณลุงเขาส่งเสียเลี้ยงดู ถ้าแม่หนีหนูก็จะเป็นอั