ฝ่ายแม่ทัพตงเหวินจูงมือจงเพ่ยอิง เดินเข้าไปนั่งประจำที่ตำแหน่งของเขาที่ในงานจัดไว้ให้ เขานั่งเคียงข้างนางดูเหมาะสมกันมาก เมื่อแขกทั้งงานเห็นดังนั้น ต่างนึกว่าท่านแม่ทัพน่าจะประกาศกลายๆว่าจะตบแต่งจงเพ่ยอิงแน่นอนแล้ว ถ้าอย่างนั้นจะไม่กล้าจับจูงมือกัน และนั่งเคียงข้างกันในที่นั่งประจำตำแหน่งของท่านแม่ทัพตงหยวน ฝ่ายบิดาท่านแม่ทัพตงฮั่ว และฮูหยินใหญ่เหม่ยเซียง ได้มองบุตรชายตัวเองจับจูงมือ จงเพ่ยอิงเดินเข้ามานั่งประจำที่นั้น ฝ่ายท่านแม่ทัพตงฮั่วมีความเอ็นดูเพ่ยอิงมาตั้งแต่เด็กจึงไม่ได้รู้สึกอะไร แต่ฮูหยินใหญ่เหม่ยเซียง แม้จะเอ็นดูนางอยู่บ้างเพราะเคยเห็นกันมาตั้งแต่เด็ก แต่มีตำหนิในตัวของนางก็คือผ่านการแต่งงานมาแล้ว เป็นแม่หม้ายจะคู่ควรกับแม่ทัพอนาคตไกลอย่างตงเหวินได้อย่างไร เรื่องนี้ทำนางขุ่นใจเล็กน้อย แต่ยังไม่กล้าเอ่ยอะไรออกมา ได้แต่เฝ้ามองทั้งสองเงียบๆ เพื่อดูว่าแม่ทัพตงเหวินบุตรชายแสดงท่าทีกับจงเพ่ยอิงอย่างไรบ้าง ในงานนี้นอกจากแขกเหรื่อกังขาในความสัมพันธ์ของท่านแม่ทัพตงเหวินและจงเพ่ยอิง ยังมีฟางถิงถิงอีกหนึ่งคน ซึ่งนางถือเป็นลูกพี่ลูกน้องทางฝ่ายมารดาของแม่ทัพตงเหวิน ซึ่งฮูหยินใหญ่เหม่
สองวันต่อมา ฟางถิงถิงไปจวนเสนาบดีจง เพื่อขอพบจงเพ่ยอิง เมื่อนางไปถึงบ่าวให้นางไปรอที่ศาลาริมสระบัว เมื่อนางไปนั่งรอได้สักพักใหญ่ จงเพ่ยอิงก็เดินมาพร้อมกับสาวใช้ของนาง เมื่อเดินมาถึงทรุดนั่ง แล้วสอบถามว่า ฟางถิงถิงมีธุระอะไรกับนาง ถึงได้มาขอพบถึงจวนเช่นนี้ฟางถิงถิงกล่าวว่า" ที่ต้องมาขอพบเจ้าในวันนี้เพราะว่า ข้าได้ยินมาว่าเจ้ากับท่านพี่ตงเหวินจะตบแต่งกันเร็วๆนี้ ข้าจึงมาพบเจ้าเพื่อจะบอกเจ้าว่า ข้าเป็นหญิงที่ฮูหยินเหม่ยเซียงต้องการให้มาเป็นลูกสะใภ้ นางบอกกับข้าเมื่อหลายปีมาแล้วให้เตรียมตัวตบแต่งกับท่านพี่ตงเหวิน ข้าเฝ้ารอท่านพี่ที่ไปออกรบที่ชายแดนมาหลายปี ข้าเตรียมตัวทุกอย่าง เรียนทุกอย่างที่สตรีต้องทำก็เพื่อจะเป็นฮูหยินน้อยจวนแม่ทัพแต่เจ้าเป็นใครกัน แถมยังเป็นแม่หม้าย จะมาคู่ควรกับท่านพี่ที่เป็นแม่ทัพที่ยังมีอนาคตอีกยาวไกลได้อย่างไร เจ้าไม่คิดว่าเจ้าไม่คู่ควรหรอกหรือ “ เพ่ยอิงได้ยินนางพูดก็เข้าใจถึงหัวอกของนาง แต่เรื่องนี้นั้นต้องให้ฝ่ายชายเป็นคนตัดสินใจ ” ข้าเข้าใจหัวอกของเจ้านะ แต่ว่าเรื่องแบบนี้ขอให้เจ้าไปสอบถามที่จวนแม่ทัพจะดีกว่า ข้าไม่ใช่ผู้ตัดสินใจเจ้าก็รู้ว่าเรื่องเช่นนี้หากผ
ท่านแม่ทัพตงฮั่วส่งแม่สื่อไปทาบทามสู่ขอจงเพ่ยอิง และได้ส่งสินสอดไปที่จวนเสนาบดีจงแล้ว จากนั้นเหลือเพียงแค่หาฤกษ์ที่ดีตบแต่งนางให้บุตรชายของเขา เมื่อเขาและฮูหยินได้พูดคุยกับแม่ทัพตงเหวินแล้ว เขาไม่ยินยอมที่จะเลิกคบหากับจงเพ่ยอิงเพราะเขานั้นหลงรักนางนานมานานแล้ว เพียงแต่ไม่มีเวลาเกี้ยวนางมาเป็นภรรยา เลยทำให้นางหลุดลอยไปเป็นของคนอื่น จนเมื่อได้โอกาสที่นางจะหย่าร้างเขาถึงกับขอราชโองการเพื่อให้นางหย่าร้างโดยสมบูรณ์เพื่อจะได้นางมาเป็นภรรยา แถมยังสารภาพว่าได้เสียกับนางแล้วในวันที่ขออนุญาติท่านเสนาบดีพานางออกไปเที่ยว เขาสารภาพว่าตั้งใจจะให้เรื่องเป็นแบบนี้ เขากลัวนางหลุดลอยไปอีก เมื่อท่านแม่ทัพได้ยินเช่นนั้นแล้ว จึงบังคับบุตรชายไม่ลงเพราะเขามุ่งมั่นทำขนาดนี้คงจะรักนางมากจริงๆ เพราะเขารู้จักลูกชายตัวเองดี หากต้องการสิ่งใดมักจะมุ่งมั่นทำสิ่งนั้นให้สำเร็จให้จงได้ จึงได้จัดการสู่ขอนางให้บุตรชาย เมื่อได้ฤกษ์ที่ดีแล้ว จึงจัดพิธีแต่งงานใหญ่โตให้บุตรชายทันที เมื่อถึงวันแต่งงาน เกี้ยวมารับเจ้าสาวที่หน้าประตูจวน เจ้าบ่าวขี้ม้ามารับเจ้าสาวด้วยตัวเอง คงไม่ต้องถามว่าอยากจะแต่งงานมากเพียงใดหน้าเจ้าบ่าวบ
จากนั้นประคองนางไปนั่งลงที่เตียงวิวาห์ ร่างหนาเชยคางนางขึ้นมา ประกบริมฝีปากหนาลงไปบนปากอวบอิ่มนั้น ค่อยสอดแทรกเรียวลิ้นสากเจ้าไปในปากจิ้มลิ้มนั้น ควานชิมความหวานในปากจนเจอลิ้นเล็ก จึงตรงเข้าเกี่ยวพันกันดูดดื่ม เพ่ยอิงรู้สึกถึงรสสุราในปากของสามีหมาดๆจูบนั้นยาวนานจนแทบสูบวิญญาณ ร่างบางอ่อนระทวย เมื่อละจากริมฝีปากจิ้มลิ้มนั้น แม่ทัพตงประคองร่างอวบขึ้น มือหนาถอดเครื่องประดับของเจ้าสาว และชุดเจ้าสาวอย่างเร่งรีบ จนร่างบางเปลือยเปล่า จากนั้นจึงถอดชุดเจ้าบ่าวของตัวเอง ทิ้งลงกับพื้นหน้าเตียง และเข้ากอดรัดร่างอวบ ใบหน้าคมก้มลงประกบจูบร่างอวบอย่างเร่าร้อน จูบนั้นยาวนานจนพอใจจึงเลื่อนไปพรมจูบแก้มนวลปลั่งนั้น เลี้ยไล้ใบหูเล็กจนร่างอวบสั่นระริก เลาะเล็มลงไปเรื่อยๆจนถึงทรวงอกอวบบีบเค้นจนขึ้นสี ไล้เลี้ยผลอิงเถาจนแข็งเป็นไตและอ้าปากดูดดึงเข้าไปจนเกือบทั้งเต้า ร่างอวบสั่นสะท้านจนหลังแอ่นโค้งขึ้น มือหนาเลื่อนลงไปฟอนเฟ้นเนินอวบด้านล่างกรีดนิ้วร้ายเข้าไปในร่องอวบนั้น จนสุดโคนนิ้ว ค่อยชักเข้าสุดออกสุด เร่งความเร็วขึ้นเรื่อยๆจนเพ่ยอิงครางเสียงกระเส่า สะโพกอวบเกร็งกระตุกหลายๆครั้ง ร่างอวบเสร็จสมไปทันที เ
เพ่ยอิงตื่นขึ้นแต่เช้า เหลือบตามองสามีเห็นยังไม่รู้สึกตัวจึงค่อยๆยกแขนล่ำสันนั้นออกจากเอวบางของนาง และค่อยๆขยับกายลงจากเตียงขึ้นช้าๆ จึงเข้าไปอาบน้ำและเปลี่ยนเครื่องแต่งกาย จากนั้นให้ใช่ใช่เกล้าผมให้นาง เลือกปักปิ่นน่ารักอันเล็กๆ สีเขียวสดใส แค่อันเดียว กับต่างหูเข้าชุดกัน เมื่อแต่งกายเสร็จเรียบร้อยก็ออกไปดูสามีเห็นยังนอนอยู่จึงค่อยๆขยับกายออกไปเงียบๆ เดินออกไปที่โรงครัวเพื่อดูอาหารที่จะนำมาขึ้นโต๊ะให้สามีเช้านี้ ในโรงครัวกำลังตระเตรียมอาหารเช้าอยู่ บ่าวไพร่ในโรงครัวเมื่อเห็นฮูหยินน้อย ต่างทำความเคารพฮูหยินน้อยคนใหม่ เพ่ยอิงเข้าไปดูอาหารว่ามีอะไรบ้าง เห็นผัดผักสองอย่าง น้ำแกงปลา ขาหมูต้มเค็ม ปลานึ่งซีอี๊วก็พึงพอใจจึงคิดว่าไม่ต้องทำอย่างอื่นเพิ่มแล้วจึงให้นำอาหารขึ้นโต๊ะเพียงเท่านี้ จากนั้นถามถึงหัวหน้าคนครัว คนชื่ออี้ชวนบอกว่าเขาคือหัวหน้าที่ควบคุมเรื่องในโรงครัวทั้งหมด นางจึงทำความรู้จักเขาไว้และชมว่าอาหารที่จวนนี้อร่อยมาก อี้ชวนยิ้มปลื้มใจ นางสอบถามว่าจวนนี้ตั้งอาหารเวลาเท่าไหร่ จากนั้นก็เดินกลับไปเรือนของตนเองเพื่อปลุกสามีไปรับอาหารเช้าพร้อมท่านพ่อท่านแม่ของสามี เมื่อถึงเรือนต
สายๆวัยต่อมา ฮูหยินใหญ่เอ่ยขึ้นหลังทั้งหมดทานอาหารเช้ากันเรียบร้อยแล้ว "ข้าจะให้ถิงถิงแต่งเข้ามาเป็นเมียรองอีกคน เจ้าจะว่าอย่างไร " พลางหันไปที่ท่านแม่ทัพตงเหวิน เมื่อได้ยินคำพูดของมารดา เขานิ่งงันไปชั่วขณะ หันไปมองหน้าของเมียรักเห็นนางนิ่งเงียบไป เขาใจไม่ค่อยดีกลัวนางจะน้อยใจ จึงหันไปบอกท่านแม่ว่า"ข้าไม่ได้รักชอบถิงถิงในเชิงชู้สาว เห็นนางมาตั้งแต่เด็กคิดกับนางเพียงน้องสาวคนหนึ่งเท่านั้น " ฮูหยินใหญ่อึ้งไปครู่หนึ่งกับคำตอบของบุตรชาย " แล้วเพ่ยเอ๋อจะว่าอย่างไร ถ้าแม่จะให้ถิงถิงมาเป็นเมียรอง " เพ่ยอิงเงยหน้าขึ้นมองแม่สามีในใจนางเจ็บแปลบเล็กๆ พลางตอบว่า" เรื่องอย่างนี้แล้วแต่ท่านพี่เจ้าค่ะ หากท่านพี่ต้องการมีเมียรอง หรืออนุเพิ่มข้าคงจะไม่สามารถขัดท่านพี่ได้" เพ่ยอิงตอบไปตามตรงแม้นางจะไม่อยากให้สามีมีภรรยาและอนุหลายคน กังวลว่าจะมีเรื่องวุ่นวายในครอบครัว เช่นท่านพ่อของนางที่รักเดียวใจเดียวไม่คิดจะแต่งงานใหม่ มีเพียงหญิงอุ่นเตียงที่ไม่ค่อยสร้างความวุ่ยวายในจวนเลยเท่านั้น“ลูกไม่อยากมีเมียหลายคนขอรับ ลูกรักเพ่ยเอ๋อมากไม่อยากให้นางเสียใจ หรือทุกข์ใจอันใด ลูกจะยังไม่รับใครมาเป็นเมียรองหรือนุ
ฟางถิงถิงอึ้งงันไป "หลานจะขอให้ท่านป้าช่วยหลานเรื่องหนึ่งจะได้หรือไม่เจ้าคะ " ฮูหยินใหญ่เงยหน้ามองหลานสาว "จะให้ป้าช่วยอะไร " ถิงถิงยื่นหน้าเข้าไปกระซิบที่หูของท่านป้า เมื่อได้ฟังเรื่องราวจบลงแล้วนั้น นางเอามือทาบอก ทำหน้าตกใจกึ่งประหลาดใจในแผนการณ์ของถิงถิง" เจ้าจะกล้าทำเรื่องเช่นนี้จริงหรือ หากว่ามีอะไรผิดพลาดเจ้าจะอับอายมากนะ จะแต่งให้ใครอื่นอีกจะได้หรือ " ถิงถิง จับมือท่านป้าอ้อนวอนน้ำตาคลอ หลานรักปักใจเพียงท่านพี่มามาเนิ่นนานแล้ว แม้หลานจะรู้ว่าท่านพี่ไม่มีใจให้หลาน แต่หลานไม่มีวิธีการใดอีกที่หลานจะสมหวังกับท่านพี่ จึงต้องทำเช่นนี้ ขอท่านป้าได้โปรดเห็นใจหลานด้วยเจ้าค่ะ" ฮูหยินใหผ่นิ่งงันไปครู่ใหญ่ มองใบหน้านองน้ำตาอย่างเห็นใจ " เอาละป้าจะช่วยเจ้าอีกครั้งหนึ่ง หากสำเร็จเจ้าก็จะสมหวัง ตงเหวินคงต้องรับผิดชอบเจ้า ป้าก็คิดว่าหากจะทำทางอื่นคงไม่สำเร็จเพราะตงเหวินไม่ยินยอมรับใครมาเป็นเมียรองอย่างแน่นอนๆ ถิงถิงเช็ดน้ำตาป้อยๆ เหมือนเด็กๆ"เจ้าค่ะ" หลายวันผ่านไป วันนั้นเพ่ยอิงกลับจวนไปเยี่ยมท่านเสนาบดีจง เมื่อฮูหยินใหญ่และถิงถิงเห็นเป็นโอกาสที่เฝ้ารอกันมาหลายๆวัน อีกทั้งท่านแม่ทัพตงฮั
เพ่ยเอ๋อลงจากรถม้าหน้าจวนแม่ทัพพร้อมใช่ใช่ บ่าวหน้าจวนดูลุกลี้ลุกลนชอบกล ชักช้าเหมือนถ่วงเวลา จากนั้นรีบไปเรียนฮูหยินใหญ่ว่าฮูหยินน้อยมาแล้ว ใช่ใช่เห็นความผิดปกติของบ่าวหน้าจวนสังหรณ์ใจว่าต้องเกิดเรื่องอะไรขึ้นแน่นอน "ฮูหยินน้อยรีบเข้าไปหาท่านแม่ทัพในจวนเถิดเจ้าค่ะ ใช้ใช่สังหรณ์ว่าจะเกิดเรื่องกับท่านแม่ทัพ ไปเจ้าค่ะ"ใช่ใช่ รีบฉุดมือฮูหยินน้อยวิ่งไปโดยเร็ว เมื่อไปถึงหน้าเรือนที่พำนักกับสามี เมื่อแม่ทัพตงได้ยินเสียงเมียก็รีบส่งเสียงเรียก" เพ่ยเอ๋อรีบเข้ามาช่วยพี่เร็วๆ" เพ่ยอิงตรงเข้าไปหลังฉากกั้นที่มีถังอาบน้ำขนาดใหญ่ที่แช่ได้ครั้งละสามคน เห็นแม่ทัพตงเหวินถอดเสื้อผ้าแช่ตัวอยู่ ใบหน้าขึ้นสีแดงแปลกๆดวงตาแดงก่ำ จึงรีบตรงไปหา “ท่านพี่เป็นอะไร” แม่ทัพตงร้องเสียงดัง “ถอดเสื้อผ้าเจ้าเดียวนี้ แล้วรีบลงมาในอ่างพี่ถูกยาปลุกกำหนัดเร็วๆเข้า” เพ่ยเอ๋อรีบถอดเสื้อจนหมดก้าวลงไปในอ่างทันทีพร้อมขึ้นคร่อมสามี แม่ทัพตงประกบจูบเมียรัก ไล้เลียผลอิงเถาสีแดงเล็กน้อย ก่อนค่อยๆขยับลำกายแกร่งเข้าสอดใส่จนสุดลำกาย แล้วขยับโยกช้าๆ เพ่ยอิงยกสะโพกกระแทกลงมาจนร่องอวบกลืนกินท่อนแกร่งของสามีจนมิดลำกาย ยกสะโพกขึ้นลงข
จวนเฉินหลี่หมิง เขามักจะชอบไปนั่งเล่นที่เรือนเล็กที่เคยเป็นของเพ่ยอิง เขามักจะเหม่อมองและเห็นไปว่าในเรือนเล็กนั้นมีร่างของนางเดินไปมาทำกิจวัตรประจำวันอยู่ บางครั้งก็เห็นบ่าวของนางเดินไปมาในนั้นอยู่ไหวเมื่อมองจากที่ไกล ๆ หรือไม่ เขามองมาก็มักจะเห็นเพ่ยอิงนั่งอยู่ที่ชิงช้าและไกวมันเล่นช้าๆ บางครั้งเห็นนางรดน้ำต้นไม้หรือถอนหญ้าหน้าเรือนของนาง บางครั้งเขานอนหลับก็ฝันไปว่านางทำอาหารและขนมมาให้เขารับประทานเช่นที่นางเคยทำ ในฝันนั้นเขารับมันเอาไว้อย่างเต็มใจ โอบกอดนางไว้ในอ้อมแขนและหอมแก้มนางอย่างรักใคร่ เขาพานางไปนั่งที่โต๊ะกลมในห้องโถงกลางของเรือนเขา แล้วชิมอาหารหรือขนมของนางอย่างเอร็ดอร่อย นางหยิบมันป้อนให้เขา ทั้งสองนั่งหยอกเย้ากัน พลอดรักกันอย่างมีความสุข บางครั้งเขาก็ฝันถึงวันที่เขาบรรเลงเพลงรักกับนางอย่างเร่าร้อน รุนแรง ในฝันนั้นเขามีความสุขมากเหลือเกิด เมื่อจบเพลงรักนั้นเขาโอบกอดนางไว้ในอ้อมแขนแกร่งของเขาแล้วผล็อยหลับไปด้วยกัน เขายิ้มมุมปากอย่างมีความสุขเหลือเกิน หากเขาไปทำงานในตอนเช้านางจะมาส่งเขาขึ้นรถม้าและนางมักจะห่ออาหารหรือขนมที่นางทำเองส่งให้เขาเพื่อนำไปกินที่ทำงาน แล
ท่านแม่ทัพตงเหวินเดินเป็นเสือติดจั่นที่หน้าเรือนตัวเอง สลับกับพ่อตาท่านเสนาบดีจง ผลัดกันเดินสลับไปมาจนกระทั่งท่านแม่ทัพตงฮั่วกับฮูหยินใหญ่ทนไม่ไหว “โอ้ย จะเดินไปมาทำไมกันข้าเวียนหัวจะตายแล้ว ใช่ใช่เอายามาให้ข้าเดี๋ยวนี้ข้าไม่ไหวแล้ว ”ฮูหยินใหญ่เอ่ยขึ้นอย่างอดรนทนไม่ไหว เพราะเฝ้ามองทั้งสองคนเดินสวนสนามกันไปมาได้สักพักใหญ่แล้ว เสียงกรีดร้องเจ็บปวดของเพ่ยอิงดังขึ้นเป็นระยะ ทำให้ทั้งหมดขะเง้อคอมองเข้าไปในห้องแม้จะไม่มีใครเห็นอะไรก็ตาม ก็ยังจะชะเง้อกันเป็นระยะถ้าได้ยินเสียงอะไรดังขึ้น สักพักแม่นมลู่วิ่งออกมารายงานใกล้แล้วเจ้าค่ะ อีกสักครู่ก็น่าจะได้เห็นคุณหนูตัวน้อยๆแล้ว ทุกคนพยักหน้าพร้อมกันดีใจสุดๆ จากนั้นแม่นมลู่ก็กลับเข้าไปในเรือนอีกครั้ง เสียงกรีดร้องของเพ่ยอิงดังขึ้นกว่าเดิมจนทุกคนตะลึง จากนั้นก็มีเสียงทารกร้องแว่วๆออกมา ทุกคนพากันโห่ร้องขึ้นมาแม้แต่บ่าวไพร่ก็ร่วมขบวนนี้ด้วย จากนั้นแม่นมลู่ก็ออกมาอีกครั้ง “ ได้คุณหนูแฝดเจ้าค่ะ ชายหนึ่ง หญิงหนึ่งคน ”สิ้นเสียงแม่นมลู่ เสียงโห่ร้องดีใจประสานกันอีกครั้ง หน้าท่านแม่ทัพตงเหวินบานยิ่งกว่าจานเชิง ส่วนพ่อตาเสนาบดีจงก็บานแข่งกัน พากันวิ่งแ
เมื่อท่านแม่ทัพตงเหวินและฮูหยินน้อยมาถึงห้องโถงกลาง พบว่าทุกคนนั่งรออยู่บนเก้าอี้มุกรอบๆหลายๆคน มีทั้งท่านแม่ทัพตงฮั่วและฮูหยินใหญ่ ข้างมีบิดามารดาของฟางถิงถิงซึ่งเป็นญาติผู้น้องของฮูหยินเหม่ยเซียง ถัดมาเป็นบิดามารดาของรองแม่ทัพซีห้าวเมื่อเดินไปถึงเก้าอี้ที่ว่างอยู่ทั้งสองสามีภรรยาก็นั่งลงข้างกัน ทั้งสองมองที่บนพื้นตรงหน้าของท่านแม่ทัพใหญ่กับฮูหยินมี รองแม่ทัพซีห้าว และฟางถิงถิงนั่งอยู่ข้างกัน “ เมื่อมาครบกันแล้ว เรื่องราวเป็นอย่างไร เจ้าลองเล่ามา ใครจะพูดก่อน ” เสียงท่านแม่ทัพใหญ่ดังขึ้นวันนี้เสียงค่อนข้างจะเกรี้ยวกราดผิดจากทุกวันเพ่ยอิงมองไปที่คู่ที่นั่งอยู่ข้างล่าง แม่ทัพซีห้าวเอ่ยปากพูดขึ้นก่อนว่าเขามาเยี่ยมท่านแม่ทัพตงเหวินแล้วเข้าไปในห้องหนังสือที่ปกติเขาเข้าไปพบปะกันที่นั่นเป็นประจำ วันนี้เข้าไปไม่พบท่านแม่ทัพ แต่มีถ้วยน้ำแกงวางอยู่เขารู้สึกระหายก็เลยยกขึ้นดื่มจนหมดถ้วย จากนั้นเขารู้สึกร้อนรุ่มเกิดอารมณ์กำหนัดอย่างรุนแรงเขาเป็นทหารที่เคยฝึกเกี่ยวกับเรื่องพิษมาก่อนจึงรู้ว่าใช่อาการของยาปลุกกำหนัดแต่มันเป็นชนิดรุนแรงมาต้องใช้ยาแก้ทันทีหรือไม่ก็ต้องเสพสมกับสตรีในทันทีเช่นกันไม่อ
เพ่ยเอ๋อลงจากรถม้าหน้าจวนแม่ทัพพร้อมใช่ใช่ บ่าวหน้าจวนดูลุกลี้ลุกลนชอบกล ชักช้าเหมือนถ่วงเวลา จากนั้นรีบไปเรียนฮูหยินใหญ่ว่าฮูหยินน้อยมาแล้ว ใช่ใช่เห็นความผิดปกติของบ่าวหน้าจวนสังหรณ์ใจว่าต้องเกิดเรื่องอะไรขึ้นแน่นอน "ฮูหยินน้อยรีบเข้าไปหาท่านแม่ทัพในจวนเถิดเจ้าค่ะ ใช้ใช่สังหรณ์ว่าจะเกิดเรื่องกับท่านแม่ทัพ ไปเจ้าค่ะ"ใช่ใช่ รีบฉุดมือฮูหยินน้อยวิ่งไปโดยเร็ว เมื่อไปถึงหน้าเรือนที่พำนักกับสามี เมื่อแม่ทัพตงได้ยินเสียงเมียก็รีบส่งเสียงเรียก" เพ่ยเอ๋อรีบเข้ามาช่วยพี่เร็วๆ" เพ่ยอิงตรงเข้าไปหลังฉากกั้นที่มีถังอาบน้ำขนาดใหญ่ที่แช่ได้ครั้งละสามคน เห็นแม่ทัพตงเหวินถอดเสื้อผ้าแช่ตัวอยู่ ใบหน้าขึ้นสีแดงแปลกๆดวงตาแดงก่ำ จึงรีบตรงไปหา “ท่านพี่เป็นอะไร” แม่ทัพตงร้องเสียงดัง “ถอดเสื้อผ้าเจ้าเดียวนี้ แล้วรีบลงมาในอ่างพี่ถูกยาปลุกกำหนัดเร็วๆเข้า” เพ่ยเอ๋อรีบถอดเสื้อจนหมดก้าวลงไปในอ่างทันทีพร้อมขึ้นคร่อมสามี แม่ทัพตงประกบจูบเมียรัก ไล้เลียผลอิงเถาสีแดงเล็กน้อย ก่อนค่อยๆขยับลำกายแกร่งเข้าสอดใส่จนสุดลำกาย แล้วขยับโยกช้าๆ เพ่ยอิงยกสะโพกกระแทกลงมาจนร่องอวบกลืนกินท่อนแกร่งของสามีจนมิดลำกาย ยกสะโพกขึ้นลงข
ฟางถิงถิงอึ้งงันไป "หลานจะขอให้ท่านป้าช่วยหลานเรื่องหนึ่งจะได้หรือไม่เจ้าคะ " ฮูหยินใหญ่เงยหน้ามองหลานสาว "จะให้ป้าช่วยอะไร " ถิงถิงยื่นหน้าเข้าไปกระซิบที่หูของท่านป้า เมื่อได้ฟังเรื่องราวจบลงแล้วนั้น นางเอามือทาบอก ทำหน้าตกใจกึ่งประหลาดใจในแผนการณ์ของถิงถิง" เจ้าจะกล้าทำเรื่องเช่นนี้จริงหรือ หากว่ามีอะไรผิดพลาดเจ้าจะอับอายมากนะ จะแต่งให้ใครอื่นอีกจะได้หรือ " ถิงถิง จับมือท่านป้าอ้อนวอนน้ำตาคลอ หลานรักปักใจเพียงท่านพี่มามาเนิ่นนานแล้ว แม้หลานจะรู้ว่าท่านพี่ไม่มีใจให้หลาน แต่หลานไม่มีวิธีการใดอีกที่หลานจะสมหวังกับท่านพี่ จึงต้องทำเช่นนี้ ขอท่านป้าได้โปรดเห็นใจหลานด้วยเจ้าค่ะ" ฮูหยินใหผ่นิ่งงันไปครู่ใหญ่ มองใบหน้านองน้ำตาอย่างเห็นใจ " เอาละป้าจะช่วยเจ้าอีกครั้งหนึ่ง หากสำเร็จเจ้าก็จะสมหวัง ตงเหวินคงต้องรับผิดชอบเจ้า ป้าก็คิดว่าหากจะทำทางอื่นคงไม่สำเร็จเพราะตงเหวินไม่ยินยอมรับใครมาเป็นเมียรองอย่างแน่นอนๆ ถิงถิงเช็ดน้ำตาป้อยๆ เหมือนเด็กๆ"เจ้าค่ะ" หลายวันผ่านไป วันนั้นเพ่ยอิงกลับจวนไปเยี่ยมท่านเสนาบดีจง เมื่อฮูหยินใหญ่และถิงถิงเห็นเป็นโอกาสที่เฝ้ารอกันมาหลายๆวัน อีกทั้งท่านแม่ทัพตงฮั
สายๆวัยต่อมา ฮูหยินใหญ่เอ่ยขึ้นหลังทั้งหมดทานอาหารเช้ากันเรียบร้อยแล้ว "ข้าจะให้ถิงถิงแต่งเข้ามาเป็นเมียรองอีกคน เจ้าจะว่าอย่างไร " พลางหันไปที่ท่านแม่ทัพตงเหวิน เมื่อได้ยินคำพูดของมารดา เขานิ่งงันไปชั่วขณะ หันไปมองหน้าของเมียรักเห็นนางนิ่งเงียบไป เขาใจไม่ค่อยดีกลัวนางจะน้อยใจ จึงหันไปบอกท่านแม่ว่า"ข้าไม่ได้รักชอบถิงถิงในเชิงชู้สาว เห็นนางมาตั้งแต่เด็กคิดกับนางเพียงน้องสาวคนหนึ่งเท่านั้น " ฮูหยินใหญ่อึ้งไปครู่หนึ่งกับคำตอบของบุตรชาย " แล้วเพ่ยเอ๋อจะว่าอย่างไร ถ้าแม่จะให้ถิงถิงมาเป็นเมียรอง " เพ่ยอิงเงยหน้าขึ้นมองแม่สามีในใจนางเจ็บแปลบเล็กๆ พลางตอบว่า" เรื่องอย่างนี้แล้วแต่ท่านพี่เจ้าค่ะ หากท่านพี่ต้องการมีเมียรอง หรืออนุเพิ่มข้าคงจะไม่สามารถขัดท่านพี่ได้" เพ่ยอิงตอบไปตามตรงแม้นางจะไม่อยากให้สามีมีภรรยาและอนุหลายคน กังวลว่าจะมีเรื่องวุ่นวายในครอบครัว เช่นท่านพ่อของนางที่รักเดียวใจเดียวไม่คิดจะแต่งงานใหม่ มีเพียงหญิงอุ่นเตียงที่ไม่ค่อยสร้างความวุ่ยวายในจวนเลยเท่านั้น“ลูกไม่อยากมีเมียหลายคนขอรับ ลูกรักเพ่ยเอ๋อมากไม่อยากให้นางเสียใจ หรือทุกข์ใจอันใด ลูกจะยังไม่รับใครมาเป็นเมียรองหรือนุ
เพ่ยอิงตื่นขึ้นแต่เช้า เหลือบตามองสามีเห็นยังไม่รู้สึกตัวจึงค่อยๆยกแขนล่ำสันนั้นออกจากเอวบางของนาง และค่อยๆขยับกายลงจากเตียงขึ้นช้าๆ จึงเข้าไปอาบน้ำและเปลี่ยนเครื่องแต่งกาย จากนั้นให้ใช่ใช่เกล้าผมให้นาง เลือกปักปิ่นน่ารักอันเล็กๆ สีเขียวสดใส แค่อันเดียว กับต่างหูเข้าชุดกัน เมื่อแต่งกายเสร็จเรียบร้อยก็ออกไปดูสามีเห็นยังนอนอยู่จึงค่อยๆขยับกายออกไปเงียบๆ เดินออกไปที่โรงครัวเพื่อดูอาหารที่จะนำมาขึ้นโต๊ะให้สามีเช้านี้ ในโรงครัวกำลังตระเตรียมอาหารเช้าอยู่ บ่าวไพร่ในโรงครัวเมื่อเห็นฮูหยินน้อย ต่างทำความเคารพฮูหยินน้อยคนใหม่ เพ่ยอิงเข้าไปดูอาหารว่ามีอะไรบ้าง เห็นผัดผักสองอย่าง น้ำแกงปลา ขาหมูต้มเค็ม ปลานึ่งซีอี๊วก็พึงพอใจจึงคิดว่าไม่ต้องทำอย่างอื่นเพิ่มแล้วจึงให้นำอาหารขึ้นโต๊ะเพียงเท่านี้ จากนั้นถามถึงหัวหน้าคนครัว คนชื่ออี้ชวนบอกว่าเขาคือหัวหน้าที่ควบคุมเรื่องในโรงครัวทั้งหมด นางจึงทำความรู้จักเขาไว้และชมว่าอาหารที่จวนนี้อร่อยมาก อี้ชวนยิ้มปลื้มใจ นางสอบถามว่าจวนนี้ตั้งอาหารเวลาเท่าไหร่ จากนั้นก็เดินกลับไปเรือนของตนเองเพื่อปลุกสามีไปรับอาหารเช้าพร้อมท่านพ่อท่านแม่ของสามี เมื่อถึงเรือนต
จากนั้นประคองนางไปนั่งลงที่เตียงวิวาห์ ร่างหนาเชยคางนางขึ้นมา ประกบริมฝีปากหนาลงไปบนปากอวบอิ่มนั้น ค่อยสอดแทรกเรียวลิ้นสากเจ้าไปในปากจิ้มลิ้มนั้น ควานชิมความหวานในปากจนเจอลิ้นเล็ก จึงตรงเข้าเกี่ยวพันกันดูดดื่ม เพ่ยอิงรู้สึกถึงรสสุราในปากของสามีหมาดๆจูบนั้นยาวนานจนแทบสูบวิญญาณ ร่างบางอ่อนระทวย เมื่อละจากริมฝีปากจิ้มลิ้มนั้น แม่ทัพตงประคองร่างอวบขึ้น มือหนาถอดเครื่องประดับของเจ้าสาว และชุดเจ้าสาวอย่างเร่งรีบ จนร่างบางเปลือยเปล่า จากนั้นจึงถอดชุดเจ้าบ่าวของตัวเอง ทิ้งลงกับพื้นหน้าเตียง และเข้ากอดรัดร่างอวบ ใบหน้าคมก้มลงประกบจูบร่างอวบอย่างเร่าร้อน จูบนั้นยาวนานจนพอใจจึงเลื่อนไปพรมจูบแก้มนวลปลั่งนั้น เลี้ยไล้ใบหูเล็กจนร่างอวบสั่นระริก เลาะเล็มลงไปเรื่อยๆจนถึงทรวงอกอวบบีบเค้นจนขึ้นสี ไล้เลี้ยผลอิงเถาจนแข็งเป็นไตและอ้าปากดูดดึงเข้าไปจนเกือบทั้งเต้า ร่างอวบสั่นสะท้านจนหลังแอ่นโค้งขึ้น มือหนาเลื่อนลงไปฟอนเฟ้นเนินอวบด้านล่างกรีดนิ้วร้ายเข้าไปในร่องอวบนั้น จนสุดโคนนิ้ว ค่อยชักเข้าสุดออกสุด เร่งความเร็วขึ้นเรื่อยๆจนเพ่ยอิงครางเสียงกระเส่า สะโพกอวบเกร็งกระตุกหลายๆครั้ง ร่างอวบเสร็จสมไปทันที เ
ท่านแม่ทัพตงฮั่วส่งแม่สื่อไปทาบทามสู่ขอจงเพ่ยอิง และได้ส่งสินสอดไปที่จวนเสนาบดีจงแล้ว จากนั้นเหลือเพียงแค่หาฤกษ์ที่ดีตบแต่งนางให้บุตรชายของเขา เมื่อเขาและฮูหยินได้พูดคุยกับแม่ทัพตงเหวินแล้ว เขาไม่ยินยอมที่จะเลิกคบหากับจงเพ่ยอิงเพราะเขานั้นหลงรักนางนานมานานแล้ว เพียงแต่ไม่มีเวลาเกี้ยวนางมาเป็นภรรยา เลยทำให้นางหลุดลอยไปเป็นของคนอื่น จนเมื่อได้โอกาสที่นางจะหย่าร้างเขาถึงกับขอราชโองการเพื่อให้นางหย่าร้างโดยสมบูรณ์เพื่อจะได้นางมาเป็นภรรยา แถมยังสารภาพว่าได้เสียกับนางแล้วในวันที่ขออนุญาติท่านเสนาบดีพานางออกไปเที่ยว เขาสารภาพว่าตั้งใจจะให้เรื่องเป็นแบบนี้ เขากลัวนางหลุดลอยไปอีก เมื่อท่านแม่ทัพได้ยินเช่นนั้นแล้ว จึงบังคับบุตรชายไม่ลงเพราะเขามุ่งมั่นทำขนาดนี้คงจะรักนางมากจริงๆ เพราะเขารู้จักลูกชายตัวเองดี หากต้องการสิ่งใดมักจะมุ่งมั่นทำสิ่งนั้นให้สำเร็จให้จงได้ จึงได้จัดการสู่ขอนางให้บุตรชาย เมื่อได้ฤกษ์ที่ดีแล้ว จึงจัดพิธีแต่งงานใหญ่โตให้บุตรชายทันที เมื่อถึงวันแต่งงาน เกี้ยวมารับเจ้าสาวที่หน้าประตูจวน เจ้าบ่าวขี้ม้ามารับเจ้าสาวด้วยตัวเอง คงไม่ต้องถามว่าอยากจะแต่งงานมากเพียงใดหน้าเจ้าบ่าวบ