สองเดือนต่อมา หลังจากเลิกคลาสฯ วันนี้ อัณชญาปฏิเสธที่จะไปซ้อมยิงปืนและต่อยมวยกับพีท เพราะเธอมีภารกิจสำคัญในบ่ายวันนี้นั่นก็คือการต้องรีบไปห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ที่มีงานอีเว้นต์ของซุป’ ตาร์คนดังอย่างปาลิน กับงานพรีเซ็นเตอร์น้ำหอมแบรนด์ดัง ซึ่งเธอคาดเดาว่างานใหญ่ขนาดนี้ บางทีชินภพอาจหอบช่อดอกไม้ไปเซอร์ไพรส์คู่หมั้น ซึ่งเป็นเหมือนกิมมิกของงานอีเว้นต์ของซุป’ ตาร์หลายคน ปาลินก็ไม่น่าจะพลาดโมเมนต์แบบนี้เพราะกลัวไม่ทันงาน อัณชญาจึงนั่งวินมอเตอร์ไซค์มายังห้างสรรพสินค้า จากนั้นก็ตรงไปยังสถานที่จัดงาน ซึ่งเป็นแฟชั่นฮอลล์ชั้นหนึ่งคนเยอะมาก ที่นั่งหน้าเวทียกพื้นเตี้ยๆ นั้นคนนั่งเต็ม ที่ยืนเบียดเสียดด้านหลังอีก บนชั้นที่สูงขึ้นไปก็มีคนยืนเกาะราวกั้น เพื่อมองลงมายังงาน ตั้งแต่ชั้นสองขึ้นไปยันชั้นสี่ บ่งบอกความเป็นซุป’ ตาร์อันดับต้นๆ ของปาลินงานเพิ่งเริ่ม ปาลินกำลังโชว์ร้องเพลง เป็นนักแสดงสาวที่ไม่ได้เก่งแค่การแสดง แต่ร้องเพลงได้เพราะคนหนึ่งเมื่อร้องเพลงเสร็จก็มีเปิดพรีเซ็นสเตชั่นภาพยนตร์โฆษณา จากนั้นก็พูดคุยกับพิธีกรเกี่ยวกับน้ำหอมที่เจ้าตัวเป็นพรีเซ็นเตอร์ ซึ่งปาลินก็พูดคุยได้อย่างเป็นกันเ
บทนำ เด็กใหม่“ยังเด็กอยู่เลย กูไม่รับ!” หนุ่มใหญ่วัยสี่สิบต้นๆ ตะโกนอย่างหัวเสีย เมื่อลูกน้องคนสนิทนำเด็กสาวที่มองปราดเดียวก็รู้ว่าอายุยังไม่บรรลุนิติภาวะ ซึ่งตอนนี้เจ้าตัวกำลังนั่งก้มหน้าตัวลีบอยู่บนพื้นในห้องรับแขก ใส่เสื้อยืดเก่าๆ กับกางเกงขาสั้นแค่เข่า ผมสั้นหน้าม้า บ่งบอกว่ายังเป็นนักเรียนมัธยม“มันดูผอมไปบ้าง แต่ร่างกายมันโตเต็มวัยแล้วนะนาย รับไว้เถอะครับ”“นี่มึงอยากให้กูติดคุก ข้อหาพรากผู้เยาว์เหรอไอ้พล!” ถึงเขาจะชอบเซ็กซ์ แต่ก็ไม่คิดจะทำผิดกฎหมายหรือไร้ศีลธรรมเกี่ยวกับเรื่องทำนองนี้ เพราะมีผู้หญิงมากมายที่รองรับอารมณ์ของเขาได้ โดยไม่ต้องไปยุ่งกับเด็กผู้หญิงให้สุ่มเสี่ยง“ถ้านายกลัวตะราง ก็ให้มันทำงานอย่างอื่น หรือทำงานบ้านไปก่อนก็ได้ อีกไม่กี่เดือนนังอัณมันก็สิบแปดแล้ว ถ้านายไม่เอา ลุงทิตย์เขาก็คงไปขายให้คนอื่น สงสารเด็กมันที่อาจจะถูกขายต่อเข้าซ่อง ยังไงก็เห็นมาตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอย จน...”“เออๆ เอาไว้ก็ได้ และมึงก็หางานให้ทำเองแล้วกัน เสือกดีนัก!” เขากระแทกเสียงใส่อย่างหงุดหงิด ก่อนปรายตามองเด็กสาวที่ยังก้มหน้างุด จนคางจะถึงหน้าอกตัวเองอยู่แล้ว ถึงเด็กสาวจะหน้าตาผิวพรรณดี แ
แซ่บเท่านั้นที่จะครองใจนาย “พี่นุ่ม หนูจะต้องใส่ชุดพวกนี้จริงๆ เหรอ” อัณชญามองเสื้อผ้าที่นุ่มสรรหามาให้อย่างไม่แน่ใจ เพราะแต่ละชุด ไม่สั้นเสมอจิ๋ม ก็คว้านคอลึกเกือบถึงสะดือ“เออ ใส่ชุดพวกนี้ อัณก็แซ่บเลยนะ เดี๋ยวพี่ช่วยแต่งหน้าอีก รับรองแซ่บเด็ด เผ็ดเหมือนกินพริกทั้งสวน”“พี่นุ่มแน่ใจนะว่าใส่แล้วนายจะชอบ”“ก็แหงสิ อีพวกที่อยู่ตึกส้ม ก็แต่งแบบนี้ทั้งนั้น บางคนนะใส่แค่ชุดชั้นในเดินไปมาในบ้านเสียอีก” ขณะป้าหมายและเด็กรับใช้คนอื่นง่วนอยู่กับงานบ้านที่ตึกใหญ่ นุ่มก็ถือโอกาสมาเรือนพัก เพื่อจัดแจงความแซ่บให้อัณชญาอย่างที่รับปากไว้“ถ้าใส่แล้ว นายชอบ หนูก็จะใส่”“เออ ใส่เลยๆ เดี๋ยวพี่แต่งหน้าให้ แล้วเดี๋ยววันนี้นายกลับบ่าย พี่จะให้อัณยกของว่างไปให้นายในห้องหนังสือ นายชอบนั่งทำงานที่นั่น หลังกลับจากไร่”อัณชญารีบหยิบชุดแซกสีแดงเพลิง สั้นเสมอจิ๋มและคว้านลึกจนเห็นนมครึ่งเต้ามาใส่“โห เห็นผอมๆ ตัวเล็กเหมือนเด็กประถม ไม่คิดว่านมจะระดับมหา’ลัย” นุ่มกวาดสายตาสำรวจร่างเล็กด้วยแววตาชื่นชม เพราะไม่คิดว่าเด็กสาวจะซ่อนรูป เห็นผอมๆ แต่มีทรวดทรง อก เอว และสะโพกกลมกลึง ก้นงอนจนนึกอยากฟาดมือตีอย่างมันเขี้ย
ดวงตาคมกริบเหมือนใบมีดโกนนั้น กวาดมองทั่วร่างเธออย่างสำรวจ ก่อนจะนั่งบนโซฟา นั่งนิ่งๆ จ้องมองร่างเล็กที่อยู่ในชุดแซกสั้น พอนั่งกับพื้นแบบนี้ชายกระโปรงก็ร่นไปถึงโคนขา ที่ทั้งเรียวสวยและขาวกระจ่างตา แล้วไหนจะท่านั่งที่ก้มหน้าตัวงอ คอเสื้อที่คว้านลึกอยู่แล้วก็ยิ่งลึกลงไปจนเห็นเต้าอวบขาวนวลลออตาชินภพถึงกับพรูหายใจเพื่อระงับความรู้สึกพลุ่งพล่านภายใน ทั้งจากความโกรธ และอารมณ์บางอย่างที่จู่ๆ ก็พวยพุ่งขึ้นมาอย่างไม่ทันเตรียมใจ ทว่าเสียงที่เปล่งออกมาคำแรกในตอนนี้“เธอแต่งตัวบ้าอะไรเนี้ย!”ร่างเล็กถึงกับสะดุ้ง ยิ่งก้มหน้างุดลงไปอีก แน่นอนคอเสื้อก็ลึกตาม จนจะเห็นทั้งเต้าอยู่แล้ว“เงยหน้าขึ้น แล้วตอบฉันมา!”อัณชญาสะดุ้งอีกครั้ง แล้วค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองผู้ชายที่หล่อเหมือนฟ้าประทาน แต่ก็ช่างดุเหลือเกิน แล้วเธอก็เอ่ยเสียงตะกุกตะกัก“คือ...เอ่อ...หนู....คือ....”“คืออะไร!” ชินภพตะเบ็งเสียงใส่อย่างหงุดหงิด เพราะโมโหกับความอ้ำอึ้งของเด็กสาว“หนูอยากแซ่บค่ะ”“หา อะไรนะ!”“พี่นุ่มบอกว่านายชอบผู้หญิงแซ่บ หนูเลยให้พี่นุ่มหาชุดแซ่บๆ และแต่งหน้าให้หนูค่ะ” เธอสารภาพไปตรงๆ เผื่อนายจะเลิกโมโหเสียที แต่ดูเหมือน
อัณชญาเป็นเด็กดี “จะรีบไปไหน” เสียงห้าวทุ้มถามขึ้น เมื่อเห็นลูกน้องคนสนิทกำลังเดินลงมาจากอาคารสำนักงานภายในบริเวณไร่ ที่มีโรงงานผลิตไวน์รวมอยู่ด้วย ส่งออกทั้งในและต่างประเทศ“จะไปโรงเรียนนังอัณ”“ไปทำไม นี่ยังไม่ถึงเวลาเลิกเรียนไม่ใช่เหรอ” มันเพิ่งจะบ่ายโมง จริงๆ แล้วเด็กคนนั้นไปโรงเรียนเองได้ แต่ต้องเดินไปขึ้นสองแถวที่อยู่ห่างจากตัวบ้านค่อนข้างไกล เขาเลยให้พล หรือคนขับรถไปรับส่งอีกฝ่าย“พอดีมีเรื่องนิดหน่อย” พลตอบด้วยสีหน้าลำบากใจ“มีเรื่องอะไร”“นังอัณทะเลาะกับเพื่อนที่โรงเรียนครับ”“เรื่องแค่นี้ทำไมต้องเรียกผู้ปกครอง เด็กทำผิดครูก็สั่งสอนหรือลงโทษไปสิ”“เพื่อนหัวแตก เข้าโรง’ บาลครับ ผู้ปกครองเด็กจะแจ้งความ”“เอ้า เวร! ทำไมต้องทำรุนแรงขนาดนั้น”“ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ปกติอัณเป็นเด็กดี เรียบร้อย ไม่เคยหาเรื่องใครก่อนนะครับนาย” พลกลัวว่าผู้เป็นนายจะคิดว่าหลานสาวเป็นเด็กเกเร และอาจไม่อยากให้อยู่ด้วยแล้ว“หลานมึงเป็นเด็กดีว่างั้นเหอะ”“ก็ที่ผ่านมาอัณก็ไม่เคยมีเรื่องมีราวกับใครมาก่อนนะครับ คิดว่าเด็กคนนั้นต้องมาหาเรื่องอัณก่อนแน่นอน”“งั้นรีบไปดูหลานคนดีของมึงเหอะ!” ชินภพพูดประชดก่อนโบ
“นายสั่งไม่ให้เอาหน้าไปให้เห็นไม่ใช่เหรอ มึงก็ทำตามเถอะ อย่าหาเรื่องใส่ตัวอีก กูเหนื่อยแล้วนะ”“หนูแค่อยากขอบคุณ”“เออ เข้าใจ แต่มึงอยู่เฉยๆ เถอะ และอย่าไปก่อเรื่องไรอีก แค่นี้นายก็คงพอใจแล้ว”“เขาเกลียดหนูขนาดนั้นเลยเหรอ”“ถ้าเกลียด เขาคงไล่มึงออกจากที่นี่แล้ว เอาง่ายๆ เลยนะ มึงตั้งใจเรียนหนังสือ สนใจแต่เรื่องของตัวเองพอ เรื่องนายไม่ต้องสนใจหรอก”“พี่นุ่มก็ไม่ยอมให้หนูไปทำงานบ้านที่ตึกใหญ่เลย ให้แค่รดน้ำต้นไม้โน่นเลย ไกลจากตึกใหญ่”“ก็ดีแล้ว มึงจะอยากเสนอหน้าไปให้นายเห็นอีกหรือไง เดี๋ยวนุ่มก็เดือดร้อนอีกหรอก ดีนะนายยกโทษให้ หักเงินเดือนแค่เดือนเดียว”“ที่เหลือหนูจะใช้คืนพี่นุ่มเอง”“ก็ดีเหมือนกัน มันเดือดร้อนเพราะมึงอยากแซ่บแท้ๆ”“ก็คิดว่านายจะชอบนี่” เด็กสาวพูดทำหน้าง้อใส่พล“ไม่ว่ามึงจะแซ่บหรือไม่แซ่บ เขาก็ไม่เอามึงทำเมียตอนนี้หรอก”“หนูไม่สวยเหรอ”“มึงเป็นเด็ก นายไม่ชอบเด็ก!” พูดจบ พลก็เบื่อจะคุยกับหลานสาว เลยเดินลงบันไดกลับตึกใหญ่ไปเลย ปล่อยอัณชญาพึมพำอยู่คนเดียว“คนเรามันก็ต้องโตสักวันไหมล่ะ!”หลังจากเหตุการณ์ไอ้ฟีลหัวแตก สถานการณ์ที่โรงเรียนก็เป็นปกติ แต่เพื่อนที่มีน้อยอยู่แล้ว
ต่อไปนี้นอกจากจะไม่ต้องเสนอหน้าไปให้เขาเห็น ต้องอย่าออกไปไหนคนเดียวเพิ่มอีกกระทงหวังว่าคงไม่มีอะไรเพิ่มเติมมากกว่านี้นะเมื่อกลับมาถึงบ้าน นายผู้มีใบหน้าหล่อเหลาและแสนเย็นชานั้น ก็ไม่พูดไม่จาอะไรอีก เหมือนพาฝุ่นไรที่เกาะหลังคารถกลับบ้านมาด้วยเมื่อเดินกลับมายังเรือนพัก ซึ่งตอนนี้ไม่มีคนอยู่ เพราะป้าหมายกับนุ่มจะกลับเรือนพักประมาณสองทุ่มครึ่ง แต่นี่เพิ่งสองทุ่มเอง และเจ้านายก็เพิ่งกลับอัณชญาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า นั่งทำการบ้านอยู่ตามลำพัง กระทั่งทุกคนกลับเรือนพัก รวมทั้งน้าพลของเธอด้วย อีกฝ่ายเรียกเธอไปสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้น หลังจากได้ยินจากเจ้านายมาบ้างแล้วพลก็อยากต่อว่าหลานสาว เพราะเพิ่งเกิดเรื่องที่โรงเรียนไปแท้ๆ ดันมีเรื่องไอ้เสี่ยโตเข้ามาอีก แต่พอเห็นหน้าเศร้าๆ ก็เลยได้แต่บ่นไม่จริงจังนัก“ดวงมึงตกแน่ๆ เลยนังอัณ มีแต่เรื่อง”“หนูก็ว่างั้นแหละ เดินอยู่ดีๆ ก็เจอไอ้เสี่ยโต มันจะจับหนูขึ้นรถหน้าตาเฉย ถ้าหนูไม่สะบัดมือจนมันล้ม ป่านนี้หนูอาจถูกปู้ยี่ปู้ยำแล้วก็ได้ ฮือๆ” เจ้าตัวก็สะอื้นขึ้นมาเบาๆ“เออๆ มึงไม่เป็นไรแล้ว ไม่ต้องร้อง เดี๋ยวพรุ่งนี้พาไปทำบุญที่วัด”“นุ่มไปด้วยนะพี่พล” นุ่
ดวงตกอย่างแรก เพราะเป็นวันหยุดยาว เจ้านายเข้ากรุงเทพฯ คนงานในบ้านหลายคนก็มีโอกาสได้ออกเที่ยว เธอก็เช่นกัน วันนี้นัดกับนุ่มจะเข้าไปเมืองไปหาซื้อของใช้ และเดินเล่นเตร็ดเตร่ ชอบที่สุดคือตลาดนัดกลางคืน สองสาวเพลิดเพลินกระทั่งท้องไส้ปั่นป่วนจึงหาร้านอาหารที่ไม่ไกลจากตลาด“กินซาบูกันนะพี่ อัณเลี้ยงเอง”“โห รวย”“ก็ไม่รวย แต่หนูก็ได้เงินเดือนไง”“อ๋อ ลืมไป ยังไงอัณก็ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้หญิงของนาย เงินเดือนเยอะกว่าพี่อีก”พอนุ่มพูดถึงนาย อัณชญาก็ยิ้มเศร้า เพราะตั้งแต่วันเกิดเรื่องที่ประตูซุ้มดอกไม้ทางเข้าออกตึกส้ม เธอก็ไม่เคยได้เจอหน้าชินภพอีกเลย อยู่แบบเจียมตัวและใจ แทบจะขังตัวเองอยู่บนเรือนพัก อยากยืดแข้งยืดขาก็ออกมาเดินรอบๆ บ้าน ไม่กล้าเฉียดใกล้ตึกใหญ่ หรือตึกส้ม เพราะกลัวจะมีเหตุหรือเรื่องร้ายต่างๆ ให้เขาให้เขาหัวเสีย เพราะหากเกิดเรื่องขึ้นอีกครั้ง นายอาจเฉดหัวเธอออกจากบ้านก็ได้“ตอนแรกหนูก็เกรงใจนะ เขาให้เงินเดือน ทั้งที่หนูไม่ได้ทำหน้าที่ตัวเองเลย แต่น้าพลบอกว่าเก็บไว้สำหรับการเรียนต่อม’ หาลัย” เพราะอีกเดือนเดียวก็จบแล้วมัธยมปลายแล้วทั้งสองพากันไปกินซาบูอย่างเอร็ดอร่อย ตามด้วยขนมหวานอีก
สองเดือนต่อมา หลังจากเลิกคลาสฯ วันนี้ อัณชญาปฏิเสธที่จะไปซ้อมยิงปืนและต่อยมวยกับพีท เพราะเธอมีภารกิจสำคัญในบ่ายวันนี้นั่นก็คือการต้องรีบไปห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ที่มีงานอีเว้นต์ของซุป’ ตาร์คนดังอย่างปาลิน กับงานพรีเซ็นเตอร์น้ำหอมแบรนด์ดัง ซึ่งเธอคาดเดาว่างานใหญ่ขนาดนี้ บางทีชินภพอาจหอบช่อดอกไม้ไปเซอร์ไพรส์คู่หมั้น ซึ่งเป็นเหมือนกิมมิกของงานอีเว้นต์ของซุป’ ตาร์หลายคน ปาลินก็ไม่น่าจะพลาดโมเมนต์แบบนี้เพราะกลัวไม่ทันงาน อัณชญาจึงนั่งวินมอเตอร์ไซค์มายังห้างสรรพสินค้า จากนั้นก็ตรงไปยังสถานที่จัดงาน ซึ่งเป็นแฟชั่นฮอลล์ชั้นหนึ่งคนเยอะมาก ที่นั่งหน้าเวทียกพื้นเตี้ยๆ นั้นคนนั่งเต็ม ที่ยืนเบียดเสียดด้านหลังอีก บนชั้นที่สูงขึ้นไปก็มีคนยืนเกาะราวกั้น เพื่อมองลงมายังงาน ตั้งแต่ชั้นสองขึ้นไปยันชั้นสี่ บ่งบอกความเป็นซุป’ ตาร์อันดับต้นๆ ของปาลินงานเพิ่งเริ่ม ปาลินกำลังโชว์ร้องเพลง เป็นนักแสดงสาวที่ไม่ได้เก่งแค่การแสดง แต่ร้องเพลงได้เพราะคนหนึ่งเมื่อร้องเพลงเสร็จก็มีเปิดพรีเซ็นสเตชั่นภาพยนตร์โฆษณา จากนั้นก็พูดคุยกับพิธีกรเกี่ยวกับน้ำหอมที่เจ้าตัวเป็นพรีเซ็นเตอร์ ซึ่งปาลินก็พูดคุยได้อย่างเป็นกันเ
เผชิญหน้า แม้จะถูกสั่งให้กลับบ้านใหญ่ แต่อัณชญาก็มีสีหน้ายิ้มแย้มอย่างมีความสุข จนนุ่มแปลกใจ“ถูกไล่กลับบ้าน แต่ยังอารมณ์ดี ไม่โกรธนายเหรอ”“ไม่หรอกค่ะ นายไม่อยากให้ทำงานบ้าน” ให้เหตุผลกับนุ่มได้แค่นั้น แต่จริงๆ อัณชญาเองก็ไม่ได้รู้เหตุผลของชินภพอย่างชัดเจน แต่เธอเป็นเด็กดี ต้องเชื่อฟังนาย เพราะกลัวว่าไม่ทำตามที่นายสั่ง เธอจะไม่ได้เจอเขาอีก เพราะถ้าเป็นเช่นนั้น เธอต้องคิดถึงเขาจนขาดใจตายแน่ๆเพราะฉะนั้นปิดเทอมของเธอ นอกจากไปเที่ยวกับแตงกวาและเพื่อนใหม่ของอีกฝ่ายแล้ว เวลาว่างอัณชญาก็ไปช่วยงานที่ตึกใหญ่ เข้าครัวกับป้าหมาย ซึ่งทำให้เธอทำอาหารได้เก่งขึ้น กลับไปกรุงเทพฯ อยู่คนเดียวก็สามารถทำอาหารเมนูโปรดกินเองได้อย่างสบายๆเวลาผ่านไปจนใกล้จะเปิดเทอม นายก็ไม่เคยมาบ้านใหญ่ และไม่เคยติดต่อเธอ ได้ยินจากนุ่ม ที่ได้รู้จากเด็กรับใช้ในตึกส้มว่านายเรียกผู้หญิงในตึกให้ไปหาที่บ้านพักในไร่ค่อนข้างบ่อยฟังด้วยความแปลบๆ ในอก แต่เธอก็ทำใจยอมรับสภาพตัวเองได้ ว่าสถานะตัวเองนั้นก็ไม่ต่างจากผู้หญิงในตึกส้ม แค่รอวันที่เขาเรียกหาแต่จนแล้วจนรอดชินภพก็ไม่เรียก กระทั่งวันที่เธอต้องกลับกรุงเทพฯ เพียงลำพัง โดยมีน
ตอนแรกอัณชญาตกใจเพราะตั้งรับจุมพิตที่จู่โจมไม่ทัน ทว่านาทีต่อมาความหวิวไหวก็ค่อยๆ ถาโถม จนเคลิบเคลิ้มกับจูบของเขา เปิดปากต้อนรับลิ้นอุ่นที่กวาดต้อนลิ้นเล็กของเธออย่างวาบหวามอัณชญาครางเสียงแผ่ว เมื่อลิ้นสากไล้ไปทั่วไรฟัน แล้วขบเบาๆ กับริมฝีปากบนสลับล่าง ก่อนบดจูบอย่างหนักหน่วงจนกายเธออ่อนระทวย ก่อนเขาก็อุ้มเธอวางบนโต๊ะกลางห้องที่มีข้าวของวางอยู่เพียงเล็กน้อยขาของเธอเปิดกว้างเพื่อรับกายแกร่งที่แทรกเข้ามาระหว่างขา มือทั้งสองข้างยังประคองดวงหน้าเธอเพื่อรับจุมพิตที่แสนดูดดื่มนั้น ตอนนี้ริมฝีปากอุ่นของเขาจูบไล้ไปทั่วดวงหน้า ไม่เว้นแม้กระทั่งใบหูเล็กๆ ซึ่งน่าแปลกมากที่มันสร้างความรัญจวนจนเธอครางเสียงดัง“อือ นาย อ๊า” เธอครางต่อเนื่อง เพราะมืออีกข้างของเขาสอดเข้ามาในชายเสื้อ ไล้หน้าท้องเบาๆ แล้วเลื้อยสูงขึ้นมายังฐานอก ขณะที่ริมฝีปากอุ่นผ่าวนั้นจูบไล้มายังลำคอ ลิ้นสากลากไปตรงแอ่งชีพจร จูบเม้มไปยังลำคอจนเสียวแปลบ“นาย อ๊ะ หนู...”“หนูอะไร หือ..”“หนู อือ ไม่รู้ค่ะ อ๊ะ...” เธอบอกอาการไม่ถูก ยิ่งตอนนี้มือหนานั้นเลื่อนมายังทรวงอก ลูบไล้เนิน ไม่นานก็เลื่อนไปด้านหลังปลดตะขอบราของเธออย่างคล่องแคล่ว
ชินภพรู้สึกพอใจเมื่อการปรับหน้าดินสำหรับสร้างที่พักของรีสอร์ตนั้นเรียบร้อยแล้ว ส่วนรอบๆ รีสอร์ตก็กำลังลงต้นไม้ เพื่อสร้างภูมิทัศน์ตามแบบที่วางไว้ พื้นที่เดิมนั้นเป็นไร่สวน แต่ต้นไม้ที่ร่มครึ้มก็มีบางส่วน ซึ่งไม่ต้องปรับอะไรมาก เพราะรีสอร์ตแบ่งพื้นที่เป็นบ้านพัก สวนพักผ่อน และลานกิจกรรมต่างๆ แล้วยังมีพื้นที่ของป่าโปร่งและเส้นทางปั่นจักรยาน หรือสำหรับรถเอทีวีสำหรับขับเล่นชมธรรมชาติ ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับไร่และโรงงาน สำหรับแขกที่ต้องการเยี่ยมชมเมื่อตะวันกำลังคล้อยลับเหลี่ยมเขา ชินภพขับรถกลับบ้านพักทันที วันนี้อากาศในฤดูร้อนก็ร้อนมากกว่าปกติ ทำให้เขาทั้งเหนื่อยและล้าร่างกาย ถึงบ้านพักก็นอนแช่ตัวในอ่างน้ำอุ่น จิบไวน์อยู่ราวครึ่งชั่วโมง จึงลุกขึ้นไปล้างสบู่ใต้เรนชาวเวอร์ ล้างตัวจนสะอาด พร้อมทั้งสระผมและก็ล้างหน้า หยิบผ้าขนหนูที่วางอยู่บนชั้น ซึ่งวางแยกระหว่างผ้าขนหนูเช็ดตัวกับผ้าเช็ดหน้า และผ้าเช็ดผมอย่างเป็นระเบียบเขานึกชมเด็กใหม่ที่มาทำงานบ้านแทนแจน ที่ทำงานได้อย่างน่าพอใจชายหนุ่มเดินไปยังห้องแต่งตัว โดยมีผ้าขนหนูพันกายท่อนล่าง และผ้าขนหนูผืนเล็กพันรอบศีรษะเมื่อเลื่อนประตูห้องแต่งตั
เพราะมันเป็นครั้งแรกที่อัณชญาได้เข้ามาในบริเวณไร่สุขวสันต์ ก็รู้สึกตื่นเต้น พื้นที่อันกว้างใหญ่ โอบล้อมด้วยภูเขา มองไปทางไหนก็เขียวครึ้มไปหมด ให้ความรู้สึกสดชื่นบ้านพักของนายอยู่ในโซนที่เงียบสงบ ซ่อนตัวอยู่อีกฝั่งของไร่และโรงงานผลิตไวน์ เป็นเหมือนอาณาเขตส่วนตัวหรือเขตหวงห้าม นอกจากคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องเท่านั้นจะเข้าไปในพื้นที่ได้เป็นบ้านปีกไม้หลังใหญ่สองชั้นบนเนินสูง บริเวณบ้านร่มครึ้มด้วยต้นไม้ใหญ่ที่มีระยะห่างให้ดูโปร่ง โล่งไม่อึบทึบ อากาศก็เย็นสบาย เพราะมีลมพัดผ่านตลอด“เข้าบ้านมาเสียที จะได้แนะนำให้รู้จักป้าพิมพ์” พลเรียกอัณชญาที่กำลังมองสำรวจบริเวณบ้าน ดูจากสีหน้าก็คงชอบบ้านพักหลังนี้ไม่น้อยอัณชญาขึ้นเดินตามหลังพลไป กระทั่งมาถึงห้องโถง ก็ได้เจอกับสตรีสูงวัยไล่เลี่ยกับป้าหมาย“อัณ นี่ป้าพิมพ์ เป็นแม่บ้านของที่นี่”“สวัสดีค่ะป้าพิมพ์ หนูขอฝากตัวด้วยนะคะ” อัณชญายกมือไหว้คนสูงวัยกว่าอย่างนอบน้อมพร้อมส่งยิ้ม“มันเป็นหลานห่างๆ ของฉันเอง ใช้งานมันได้ตามสบายนะป้าพิมพ์ กว่ามันจะกลับไปเรียนก็อีกสองเดือนมั้ง” ก่อนหน้านั้นพลก็บอกเรื่องหลานสาวให้ป้าพิมพ์ได้ฟังบ้างแล้ว แต่ไม่ได้ลงรายละเอียด
หนูจะเป็นเด็กดีของนายกลับมาถึงบ้านสุขวสันต์ในตอนเที่ยง อัณชญาจึงได้กินข้าวกับนุ่มและป้าหมายอย่างเอร็ดอร่อย ทั้งสองเตรียมอาหารเหนือเมนูโปรดของเธอไว้ให้“จะว่าไปนายก็ใจดีกับอัณมากนะ ทั้งซื้อเค้ก ให้กำไลและพาไปกินข้าวด้วย” นุ่มชวนคุยหลังจากกินข้าวอิ่ม ทั้งสองนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น ขณะที่ป้าหมายนั่งเอนหลังดูโทรทัศน์อยู่ใกล้ๆ“ค่ะ นายใจดีกับหนูมาก นายไม่โกรธด้วยที่หนูเสียใจเรื่องที่เขาจะแต่งงานกับพี่ปลา”“หรือจริงๆ นายก็ชอบอัณอยู่”“เขาสงสารหนูแค่นั้นแหละ”“อือ อาจใช่”“ว่าแต่พี่นุ่มเถอะ สมัครงานที่ร้านในเมืองเป็นไงมั้ง มีแววจะได้ไหม”“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน เพราะมีคนสมัครเยอะ วันที่ไปสมัคร เจ้าของร้านให้ลองสระผม ไดร์ผม ทาเล็บ แต่งหน้า และมีหลายคนไปสมัครเหมือนกัน”“พี่นุ่มต้องได้แน่นอนค่ะ เพราะพี่นุ่มทำได้ทุกอย่าง โดยเฉพาะแต่งหน้า เริ่ดสุด” อัณชญาไม่ได้ยกยอ เพราะนุ่มทำได้ทุกอย่างจริงๆ“ถ้าพี่ได้งาน คงไม่ได้กลับไปอยู่กรุงเทพฯ กับอัณแล้วนะ พี่อยากอยู่ใกล้ๆ พี่พล”“ไม่เป็นไรค่ะ หนูอยู่คนเดียวได้ โตแล้ว”“แต่ก็เป็นห่วงอัณนะ อยู่คนเดียวจะเหงาไปหรือเปล่า”“ไม่เหงาหรอกค่ะ เพราะเรียนทั้งวัน กลับห้อ
ร้านอาหารที่ชินภพพาอัณชญามากินในค่ำคืนนี้ ก็คือร้านอาหารของครอบครัวพีทนั่นเอง เข้าไปในห้องวีไอพีของร้าน เจออาหารเต็มโต๊ะแล้วก็ยังเจอพีทยิ้มแฉ่งรออยู่แล้ว“โอ๊ย มาเสียที ผมรอจนไส้กิ่วแล้วเนี้ย” เจ้าตัวโอดครวญสีหน้าไม่ได้จริงจังมากนัก แต่ยิ้มล้อเลียนให้อัณชญาพร้อมเปรยเบาๆ“คนเราก็นะ ชวนมากินข้าวไม่มา พอผู้ปกครองชวน ก็มาทันที น้อยใจจุง”อัณชญาไม่ต่อปากต่อคำกับพีท เพราะเธอรู้สึกผิดหวังนิดๆ ที่คิดว่าชินภพจะพาเธอมากินข้าวสองต่อสองคงหวังมากไป แค่นี้ก็ดีถมเถ ได้ทั้งเค้ก ของขวัญวันเกิด และเขาพามากินข้าว สามคนก็ดีกว่านั่งเหงาๆ เคล้าน้ำตาอยู่ในห้องพักเพียงลำพัง ต่อไปนี้เธอตั้งใจไว้ว่าจะไม่คิดมากเรื่องของชินภพกับปาลิน หรือผู้หญิงคนอื่นๆ เพราะเขาก็เป็นผู้ชาย ที่มีผู้หญิงเกินสองคนอยู่ในชีวิตมาตั้งแต่ไหนแต่ไรเธอก็แค่เด็กสาวคนหนึ่งที่เขาอุปการะไว้ แม้จะมีตำแหน่งนางบำเรอ แต่ก็ไม่เคยได้ทำหน้าที่ แต่มันก็ดีกว่าการถูกเขาเมินเฉย เพราะอย่างน้อยเขาก็ดูแลเธออย่างดี ทั้งส่งเรียนหนังสือ ดูแลค่าใช้จ่าย มีของขวัญ มีพามากินข้าว เวลาร้องไห้ก็เช็ดน้ำตาให้มันดีมากๆ แล้วสำหรับเด็กผู้หญิงที่เกิดมาในครอบครัวยากจน แล
ใกล้อีกนิด‘คิดผิดหรือเปล่านะ ที่ไม่ยอมออกไปกินข้าวกับพี่พีท’ อัณชญาได้แต่คิดอยู่เพียงลำพัง ในห้องพักที่แสนกว้างใหญ่อย่างเหงาๆ วันนี้เป็นวันเกิดอายุครบ 19 ปีเต็ม แต่ต้องอยู่คนเดียวในห้องนี้ เพื่อนๆ ก็กลับบ้านต่างจังหวัดกันหมดไม่เคยคิดฝันอยากฉลองวันเกิด เพราะตั้งแต่เกิดมาก็ไม่เคยมีวันแบบนั้น แต่การอยู่ในเมืองใหญ่ด้วยความรู้สึกโดดเดี่ยวแบบนี้ มันก็เศร้าเกินไปสมน้ำหน้าตัวเองที่ไม่ยอมกลับบ้านไปกับนุ่มไม่น่าเลย ไม่น่าเสียใจกับเรื่องที่นายขอปาลินแต่งงาน ทั้งที่ไม่มีสิทธิ์อะไรในตัวนาย แค่นางบำเรอที่ไม่เคยถูกเรียกใช้เท่านั้นไม่เจียมตัวจริงๆ นังอัณ!ก่นด่าตัวเองในใจ พร้อมๆ กับน้ำตาซึม ก่อนหยดแหมะรินแก้ม ข้างนอกฝนก็ตกหนัก แถมฟ้าร้องเสียงดังก้องฟ้า แสงสีขาวที่ลอดผ่านระเบียงห้องนั่งเล่นเข้ามาทำให้เธอต้องหลับตาเพราะความตกใจแต่แล้วก็ต้องสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงลิฟต์ขึ้นมาจอดหน้าโถง พร้อมกับร่างสูงสง่าของใครบางคนปรากฏตัว ในมือมีถุงสองใบ สีหน้าเคร่งขรึม และดวงตามีประกายคมปลาบ พอๆ กับแสงเงินที่เปรี้ยงปร้างอยู่ข้างนอก“นาย...” เธอครางเสียงแผ่วสั่น บอกไม่ถูกว่าตกใจ ดีใจ หรือคาดไม่ถึง อาจจะทั้งสามอย่
หลังดินเนอร์ชินภพพาปาลินเข้าไปเที่ยวในไนต์คลับของโรงแรม เจอคนรู้จักทักทายดื่มกันเพลิดเพลินกระทั่งดึก จึงพากันกลับแต่เพราะมันดึกมากแล้ว เขาจึงพาปาลินกลับบ้านใหญ่ที่ใกล้กว่าบ้านพักในไร่อาบน้ำเรียบร้อย ยังไม่ทันจะใส่ชุดนอนปาลินก็เข้ามาคลอเคลีย นัวเนีย แต่วันนี้เขารู้สึกเหนื่อย และมีบางอย่างรบกวนจิตใจเกินกว่าจะตอบสนองต่ออาการยั่วยวนของเธอ“ไว้วันหลังนะ วันนี้ผมง่วง”“จะหลับลงจริงๆ เหรอคะ”“ครับ วันหลังนะ”“งั้นกูดไนท์ค่ะ” เธอจูบแก้มสาก แล้วผละออกห่างจากร่างเขา เพื่อไปสวมชุดนอนชินภพเองก็เช่นกัน พอสวมชุดนอนเรียบร้อย เขาก็ทิ้งตัวบนเตียงแล้ว ตั้งใจจะหลับ แต่ก็เผลอคิดถึงเด็กดื้อคนหนึ่ง ขณะที่ปาลินนั้นยังไม่กลับเข้ามาในห้องนอน ชินภพก็ไม่ได้สนใจ อีกอย่างที่เขาคบหากับปาลินได้ อีกฝ่ายเป็นคนพูดจารู้เรื่องไม่เซ้าซี้มากความ กระทั่งผ่านไปครู่ใหญ่ เขาก็ผล็อยหลับไปทันทีในขณะที่ปาลินกำลังนั่งถางขาชันขึ้น เพื่อสอดนิ้วเข้าไปกึ่งกลางร่างกายตัวเอง ขยับรัวเร็ว พร้อมเปล่งเสียงครางด้วยความเสียวซ่าน สายตาก็จ้องมองแท็บเล็ตที่กำลังมีหนังโป๊เต็มหน้าจอ“อ๊า คุณภพขา ช่วยปลาด้วย อา อ๊ะ...”นางเอกสาวร้องเรียกชื่อชาย