คุณเหนือเดินมาใกล้ๆ ก่อนจะเอื้อมมือมาจับที่ขาอีกข้างของฉันที่มันไม่เจ็บ จากนั้นก็ออกแรงดึง เขาทำแบบนั้นจริงๆ ทำให้ตัวฉันลากไปกับที่นอน ขาพาดลงมาที่ขอบเตียง“คนบ้า!! บอกว่าเจ็บไง” ฉันบอกอีกครั้ง แต่คุณเหนือยังทำเป็นหูทวนลมไม่โต้ตอบอะไร เขานั่งคุกเข่าลงตรงหน้า จากนั้นก็ใช้มือนวดคลึงเท้าข้างที่เจ็บให้“อะ โอ๊ย” ฉันสะดุ้งโหยงเมื่อถูกนวดคลึงบริเวณที่ปวด จึงร้องออกมา มือกำผ้าปูที่นอนแน่นทำเป็นขรึมใส่ ทั้งที่ความจริงแล้วก็เป็นห่วงใช่ไหมล่ะ ไม่อย่างนั้นจะมาสนใจนวดเท้าให้ฉันแบบนี้ทำไม“อ๊ะ จะ เจ็บค่ะ เบาๆ สิคะ”สังเกตเห็นว่าขณะที่กำลังนวดอยู่คุณเหนือก็ขบกรามแน่นไปด้วย เขาเป็นอะไรกัน หรือเป็นเพราะเสียงของฉันที่ทำให้เขาต้องอดกลั้นฉันอมยิ้มเมื่อคิดได้แบบนั้น จึงลองส่งเสียงดูอีกครั้ง และมันก็ใช่จริงๆ ด้วย ลมหายใจของคุณเหนือมันเริ่มเป็นจังหวะที่ถี่และรุนแรงขึ้น“อื้อ โอ้ย~ อ๊ะ” ฉันครางออกมาถ้าใครได้ฟังก็คงไม่คิดว่ากำลังนวดเท้าอยู่หรอก คงคิดไปเป็นอื่น“เจ็บจังเลยค่ะคุณเหนือ อื้อ~” ฉันพยายามเต็มที่ทั้งที่ความจริงเวลาเจ็บคงไม่ทำเสียงกระเส่าขนาดนี้“ซี๊ดดด~” ฉันซี๊ดปากแล้วเชิดหน้าขึ้น นี่ฉันข่มความอา
ยังจะถามอีกหรือไง เขาคิดว่าคำพูดที่ตัวเองพ่นออกมานั้นมันน่าฟังนักหรือยังไง ฉันแทบจะร้องไห้ทุกครั้งจริงๆ“ค่ะ รินรับไม่ได้ ทนฟังไม่ได้”“ทำไมไม่ยั่วต่อล่ะ ทำต่อสิฉันอยากจะรู้ว่าผู้หญิงอย่างเธอจะกล้าสักแค่ไหน”“มะ ไม่ค่ะ”“ทำไม” ใบหน้าคมคายโน้มลงมาใกล้ๆ แล้วถามต่อ “กลัว ? หรือเพิ่งคิดได้ว่าได้กับไอ้ติณไปแล้วไม่ควรมาอ่อยผัวเก่าอย่างฉัน”คุณเหนือพูดแบบนี้อีกแล้ว เขาฝังใจเรื่องที่ฉันทำฉันเข้าใจ แต่ฉันไม่ชอบถ้าเขาจะคิดว่าฉันกับคุณติณมีอะไรกัน เพราะคุณเหนือน่าจะรู้ดีว่าฉันไม่ทำแบบนั้นแน่“รินเคยคิดว่าคุณเหนือรู้จักรินดีที่สุด แต่ตอนนี้ไม่เลย”“เธอไปอยู่กับมันขนาดนั้น จะให้ฉันคิดยังไง”“รินไม่ใช่เมียเก่าของคุณเหนือที่ชื่อลดา ที่จะยอมให้เขาทำเรื่องแบบนั้น”“ไม่ใช่แต่ก็ไม่ต่าง สุดท้ายเธอก็เลือกไปกับมัน” คุณเหนือค่อยๆ ลุกขึ้นไปจากตัวของฉันไม่ว่าฉันจะพูดยังไง ในหัวของคุณเหนือก็ยังคิดว่าฉันตกเป็นของคุณติณแล้วอยู่ดีคุณเหนือเดินออกไปจากห้องนอนของฉัน บอกตามตรงว่าฉันท้อเอามากๆ มองไม่ออกถึงอนาคตว่าความรักของเราทั้งคู่มันจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ฉันอาจจะยังเต็มที่ไม่พอ ง้อได้ไม่มากพอ แต่พอได้ฟังคำพูด
“จะเอายังไงกันแน่คะ พออยู่ก็ไล่ พอจะไปก็ไม่ให้ไป” ฉันถามคุณเหนือด้วยความรู้สึกที่สับสนไม่ต้องการฉันไม่ใช่หรือไง“หายเจ็บขาแล้วหรือไง”“…..”“ทำไม เปลี่ยนใจอยากจะกลับไปหาไอ้ติณแล้วหรือไง พออ่อยฉันไม่สำเร็จก็จะกลับไปให้มันช่วยแก้ขัดให้ อย่างนั้นใช่ไหม!!”เพียะ!! ฉันตบหน้าคุณเหนือจนสุดแรงเมื่อเขาพ่นประโยคต่ำๆ แบบนั้นออกมาจนจบอะไรฉันก็ทนได้ทั้งนั้น แต่คำพูดพวกนี้ฉันไม่สามารถอดทนได่อีกต่อไป ถึงแม้ว่าฉันจะรักผู้ชายตรงหน้ามากขนาดไหนก็ตาม“อยากให้เป็นแบบนั้นมากใช่ไหมคะ” ฉันสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พยายามข่มเสียงที่สั่นเครือเอาไว้ แล้วพูดต่อ “ค่ะ รินจะกลับไปหาคุณติณ รินต้องการให้เขาตอบสนองในสิ่งที่คุณเหนือรังเกียจ”นี่คงเป็นคำตอบที่คุณเหนืออยากฟังมากที่สุด ในเมื่อเขาเอาแต่ผลักไสฉันนัก ก็คงไม่คิดจะแยแสอะไรฉันอยู่แล้ว“ได้! ถ้าเธอต้องการแบบนั้นฉันจะเป็นคนไปส่งเธอเอง” คุณเหนือคว้ามามาจับแขนฉันอีกครั้ง ทว่าฉันรีบสะบัดออก “ไม่ต้องค่ะ รินจะไปเองไม่ต้องใจดีมากขนาดนั้น”ลมหายใจร้อนผ่าวของคุณเหนือถูกพ่นออกมาแรงๆ จากนั้นเขาก็คว้ามาจับแขนฉันอีกครั้ง แต่ไม่ได้พาเดินไปที่ประตู คุณเหนือลากตัวฉันเข้ามาในห้องนอนแ
เช้าวันต่อมา…ฉันลืมตาตื่นขึ้นมาก็ต้องรีบมองข้างๆ ของตัวเองเพื่อดูว่าคุณเหนือยังนอนอยู่ด้วยหรือเปล่า เพราะฉันกลัวว่าตื่นมาแล้วจะไม่เจอเขา กลัวว่าที่คุณเหนือพูดเมื่อคืนมันเป็นแค่เรื่องโกหกแต่เมื่อหันมองแล้วเห็นคุณเหนือนอนหลับอยู่มันก็ทำให้ฉันลอบถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก หากที่นี่คือบ้านของคุณเหนือฉันคงลงไปทำอาหารเตรียมไว้ให้เขาฉันนอนมองหน้าคุณเหนือแล้วยิ้ม มันมีความสุขในที่สุดก็ได้รับโอกาสจากผู้ชายคนนี้สักที ต่อไปนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นฉันจะต้องไตร่ตรองให้ดีก่อน และควรเชื่อใจ“จะมองอีกนานไหม” เสียงทุ้มของคุณเหนือพูดขึ้นมาทั้งที่เขายังหลับตาอยู่ ทำให้ฉันสะดุ้งตกใจเล็กน้อย“ตื่นตั้งแต่เมื่อไหร่คะ”คุณเหนือลืมตาขึ้นมามองหน้าฉันแล้วตอบ “ตั้งแต่เธอพลิกตัว”“รินกวนหรือเปล่าคะ คุณเหนือจะนอนต่อก็ได้นะเดี๋ยวรินจะไปอาบน้ำ”“ฉันจะกลับห้อง”ใบหน้าของฉันสลดลงทันทีเมื่อได้ยินที่คุณเหนือบอก เขาลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปหยิบเสื้อของตัวเองที่เมื่อคืนถอดทิ้งไว้ที่พื้นขึ้นมาสวมใส่“หะ หายโกรธรินแล้วจริงๆ ใช่ไหมคะ”คุณเหนือที่กำลังหันหลังให้ฉันอยู่ เขาค่อยๆ หมุนตัวหันหน้ามาแล้วพูด “ทำไมถึงถามแบบนั้น ?”“….คุณเ
คุณเหนือยกขาของฉันขึ้นข้างหนึ่ง เขาย่อตัวลงเล็กน้อยก่อนจะสอดใส่แก่นกายใหญ่ของตัวเองเข้ามา“อ๊า~” เสียงทุ้มเข้มครางออกมาเบาๆ เมื่อสามารถแทรกลำกายเข้ามาได้จนสุดความยาวปัก ปัก ปัก ~ ไม่รอให้ฉันได้ปรับตัวจนคุ้นชิน ทันทีที่สอดท่อนเนื้อเข้ามาได้ คุณเหนือก็เริ่มขยับเอวเข้าออกถี่ๆ จนฉันหายใจแทบไม่ทันฝ่ามือใหญ่บีบเคล้นเต้านมของฉันแรงขึ้นกว่าเดิมจนมันแดงเถือกขึ้นเป็นรอยนิ้ว“อ๊ะ อ๊ะ อ๊า อ๊าง~” ฉันครางออกมาเสียงดังก้องไปทั่วบริเวณห้องน้ำอย่างไม่สามารถอดกลั้นได้ ยิ่งคุณเหนืออัดกระแทกรุนแรงมากเท่าไหร่มันก็ยิ่งทำให้ความเสียวซ่านปะทุมากขึ้นเป็นเท่าตัวคุณเหนือก้มลงมาตะโบมดูดดุนปลายถันทั้งสองข้างพร้อมกับใช้ฝ่ามือเคล้นคลึงเต้านมสองลูกอวบ สัมผัสจากปลายลิ้นสากมันทำให้ฉันเสียวสะท้านและเริ่มเกร็งกระตุกไม่นานคุณเหนือก็ผละใบหน้าออก เขาดึงแก่นกายออกจากร่องแคบจากนั้นก็พลิกตัวฉันให้หันหลัง ใบหน้าของฉันแนบชิดติดกับผนังห้องน้ำแล้วคุณเหนือก็ดันแก่นกายใหญ่เข้ามาอีกครั้งจากทางด้านหลังปัก ปัก ปัก~ คุณเหนืออัดกระแทกแรงๆ จนทำให้เกิดเสียงเนื้อกระทบกันดังลั่นไปทั่วทั้งห้อง“อ๊า ระ รินจุก อื้อ~” ฉันจับมือคุณเหนือแล้ว
Talk ทิศเหนือผมเดินหนีเข้ามาในห้องนอน ยอมรับว่าผิดหวัง เหตุผลก็เพราะว่ารินเธอปฏิเสธเรื่องที่ผมอยากพาเธอไปเจอกับพ่อที่คิดไว้เธอต้องตอบตกลงแล้วไปเจอพ่อกับผม ไม่ใช่ปฏิเสธแบบนี้การที่ผมอยากพาเธอไปเจอพ่อก็เพื่อแสดงให้เธอเห็นว่าผมจริงจัง ผมเลือกเธอ ถ้าผมไม่เลือกเธอคงไม่ยอมให้อภัยอีกครั้ง ทั้งที่เธอทำให้ผมเจ็บปวดจนแทบคลั่งตายยอมรับว่าผมโกรธและผิดหวังมากๆ ผมตั้งใจจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเธออีก แต่แล้วพอวารินเธอกลับมาทุกอย่างที่ตั้งใจไว้ผมก็ไม่สามารถทำได้เธอคือผู้หญิงคนเดียวที่ผมไม่เคยหมดรักถึงแม้เธอจะเคยทิ้งผมไปอยู่กับไอ้ติณ และผมก็รู้ดีว่าที่เธอทำแบบนั้นก็แค่ต้องการให้ผมเลิกยุ่ง ทุกอย่างมันเกิดขึ้นมาจากความเข้าใจผิด ผมจึงละทิ้งความโกรธแล้วเลือกจะจับมือเดินหน้าต่อกับผู้หญิงคนนี้ผมเดินหนีเข้ามาในห้องนอนไม่นานรินเธอก็เดินตามเข้ามาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวล เธอเดินมานั่งลงข้างๆ กับผม ผมจึงรีบขยับตัวหนีจะมองว่าผมเป็นผู้ชายที่งี่เง่าขี้น้อยใจก็ได้ ใช่! ผมเป็นแบบนั้น เวลาที่ผมรู้สึกรักผู้หญิงคนไหนมากๆ ก็มักจะแสดงความงี่เง่าออกมาโดยไม่รู้ตัว“คุณเหนืออย่าโกรธรินสิคะ” วารินเธอมองหน้าผมตาแป๋ว เ
#กรุงเทพเรามาถึงกรุงเทพช่วงเย็นๆ เพราะช่วงเช้าคุณเหนือต้องไปธุระ พอมาถึงที่บ้านก็ถูกสายตาลูกน้องของคุณเหนือมองอย่างงุนงงกันแทบทุกคน เพราะก่อนจะไปต่างจังหวัดคุณเหนือยังทำตัวเย็นชาแถมยังไล่ฉัน แต่พอกลับมาจากต่างจังหวัดเขาเหมือนแมวน้อยตัวหนึ่งของฉัน และยังเป็นแมวน้อยที่แสนจะขี้อ้อนอีกด้วย“มองอะไร ไม่เคยเห็นคนมีความรักหรือไง”คุณเหนือหันไปตวาดถามลูกน้องในขณะที่กำลังกอดเอวฉันเดินเข้าบ้าน น้ำเสียงอำมหิตต่างจากคำพูดติดตลกของคุณเหนือทำให้ลูกน้องของเขาแตกกระเจิงไปคนละทิศคนละทาง“ไม่เห็นต้องทำเสียงดุแบบนั้นเลยค่ะ”“อ่า! เธอนั่นแหละทำไมต้องทำเสียงดุ ก็พวกมันมองฉันก็แค่ถาม”“ก็ถามเสียงปกติก็ได้นี่คะ ไม่เห็นต้องถามเสียงดุเลย”“ขึ้นห้องดีกว่า” คุณเหนือเดินนำฉันเข้าไปในลิฟต์ฉันจึงรีบตามเขาไป“จะไปไหน ?” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถามเมื่อฉันกดลิฟต์ที่ชั้นสี่“ก็ห้องรินอยู่ชั้นสี่นี่คะ”“ห้องเธออยู่ชั้นห้าต่างหาก”“…คะ ?”“ต่อไปนี้เตียงที่เธอต้องนอนทุกคืนคือเตียงของฉัน ไม่สิไม่ใช่ทุกคืน” คุณเหนือหยุดพูด เขาโน้มใบหน้าลงมาใกล้ๆ แล้วพูดเสียงหวาน “ฉันหมายถึงตลอดชีวิต”“คุณเหนือบ้า” ฉันตีอกแกร่งเบาๆ “ทำไมชอบพูดให้
“เข้าไปกับฉันไหม ?” คุณเหนือหันมาถาม แน่นอนว่าฉันรีบส่ายหน้าปฏิเสธรัวๆ พอฉันส่ายหน้าคุณเหนือก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาเบาๆ โดยที่ไม่ได้บังคับอะไรฉันเล่นมาแบบไม่ทันตั้งตัวอย่างนี้ ฉันทำใจไม่ทันคุณเหนือปล่อยมือออกจากเอวของฉัน จากนั้นก็เปิดประตูเข้าไปในห้องทำงาน หัวใจดวงน้อยมันยังเต้นรัวไม่ยอมหยุดเลยตอนนี้“ทำไมไม่เข้าไปเจอท่านล่ะริน” พอคุณเหนือเข้าไปในห้องทำงานแล้วพี่รุ้งก็รีบถามขึ้นมาด้วยสีหน้าที่แปลกใจ“จะบอกนะ ตอนที่คุณเหนือยังเลี้ยงพวกอีหนูไว้เนี่ย หล่อนพวกนั้นเสนอหน้าอยากเจอท่านกันทั้งนั้น เพราะการจะได้เจอท่านต้องเป็นคนสำคัญของคุณเหนือมากๆ”“…รินยังไม่พร้อมค่ะ”“ไม่พร้อมอะไรกันริน ถ้าเป็นพี่นะคงยิ้มหน้าบานวิ่งแจ้นไปแนะนำตัวกับท่านแล้วว่าเป็นอะไรกับลูกชายเขาน่ะ”“คือรินกลัว มันรู้สึกเหมือนรินยังไม่คู่ควรกับเขา…”“คิดแบบนั้นได้ยังไง คุณเหนือเลือกรินเขายังมองข้ามเรื่องนี้ไปเลยนะ”“……” นั่นสิ ทำไมต้องเป็นฉันที่เอาแต่กังวลด้วยนะ“ท่านใจดีเชื่อพี่สิ ^_^”ฉันสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ได้ฟังคำพูดของพี่รุ้งแล้วมันทำให้มีความรู้สึกฮึกเหิมขึ้นมาเยอะเลย“สู้ๆ ริน!” พี่รุ้งยกมือขึ้นมาเป็นกำลังใจให้ฉัน