ฉันนั่งสงบสติอารมณ์ในรถของน้ำมนต์นานพอสมควรกว่าจะหยุดร้องไห้ได้“ทีนี้จะบอกฉันได้หรือยังว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมเธอถึงได้ร้องไห้หนักขนาดนี้” น้ำมนต์ถามขึ้นเมื่อสิ้นเสียงสะอื้นของฉัน“ฉันไม่ดีเอง ฉันทรยศคุณเหนือ”“ทรยศอะไรกัน ?” น้ำมนต์เธอขมวดคิ้วเป็นปมเมื่อฉันบอกไปแบบนั้น“เรื่องคืนนั้น ภาพที่ฉันเห็นมันไม่อาจจะทำใจได้ ฉันเลยตัดสินใจแบบโง่ๆ ด้วยการไปอยู่กับศัตรูของเขา” ฉันบอกปนเสียงสะอื้น “แต่ฉันเพิ่งมารู้จากปากของนาลินว่าคืนนั้นเธอตั้งใจทำให้ฉันกับคุณเหนือเข้าใจผิดกัน”“ศัตรูของเฮีย ?” พอบอกแบบนั้นน้ำมนต์ก็ยิ่งสงสัยมากกว่าเดิม นี่เธอไม่รู้เรื่องที่คุณเหนือมีศัตรูอย่างนั้นเหรอ“เธอหมายถึงใครอย่างนั้นเหรอริน” น้ำมนต์ถามอีกครั้ง“คุณติณ เขากับคุณเหนือ….”“…พะ พี่ติณเหรอ” จู่ๆ น้ำมนต์ก็ทำตาโตขึ้นมาเมื่อได้ยินชื่อของคุณติณ จากนั้นเธอก็ถามต่อ “เธออยู่กับพี่ติณอย่างนั้นเหรอ”“ไม่หรอก ฉันขอเขาย้ายมาอยู่ที่คอนโด ไม่ได้อยู่ที่บ้านของเขา”“…….” ตอนนี้น้ำมนต์เหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรอยู่สักอย่าง เธอเงียบไปไม่ได้ถามอะไรต่อส่วนฉันเองก็เงียบ ในหัวเริ่มคิดฟุ้งซ่านถึงคุณเหนืออีกครั้ง แต่คิดได้ไม่นานน้ำมนต์
ตอนนี้คุณเหนือคงพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อให้ไม่เจอหน้าฉันอีก ต่างกับฉันที่พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ได้คุณเหนือคนเดิมกลับมา“รินจะไม่ไปไหนหรอกค่ะ” คุณเหนือพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ อีกครั้งเมื่อได้ฟังคำตอบที่หนักแน่นของฉัน“ออกไปจากห้องทำงานของฉัน!!”“ไม่รินไม่ไป”“เธอไม่ไป ?” คุณเหนือไม่รอให้ฉันตอบ พูดจบเขาก็ลุกขึ้นยืน “ถ้าอย่างนั้นฉันไปเอง”“ปะ ไปไหนคะ” ฉันรีบเดินมาดักหน้าประตูห้องไว้ ไม่ยอมให้คุณเหนือเปิดประตูออกไปได้กริ่ง~ เสียงโทรศัพท์ของคุณเหนือดังขึ้น เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดรับสายแถมยังเปิดลำโพงให้ฉันฟัง( ไหนคุณเหนือบอกว่าจะมาหาหนูไงคะ นี่คิดจะเบี้ยวนัดอีกแล้วใช่ไหม เป็นแบบนี้บ่อยๆ มันน่าน้อยใจนะคะ )ปลายสายเป็นผู้หญิง เธอยั่วยวนคุณเหนือเสียงหวาน ฉันที่ได้ยินก็ถึงกับใจสั่น ทำอะไรไม่ถูก รู้เหตุผลแล้วว่าทำไมเขาถึงเปิดลำโพงให้ฉันได้ฟังด้วย เพราะปลายสายเป็นผู้หญิงนี่เอง( ฉันกำลังจะไป )หมับ! ฉันพุ่งปรี่ไปคว้าแย่งโทรศัพท์มาจากมือของคุณเหนือ แล้วพูดกับปลายสาย( เลิกยุ่งกับผู้ชายของฉัน ฉันไม่มีทางปล่อยให้เขาไปหาเธอแน่!! )พูดจบฉันก็กดตัดสายพร้อมกับกำโทรศัพท์แน่น ส่วนคุณเหนือตอนนี้เขากำลังมองฉ
ฉันร้องไห้ฟูมฟายอยู่ครู่ใหญ่ก่อนจะคิดขึ้นมาได้ว่าตัวเองไม่ควรมานั่งร้องไห้อยู่แบบนี้ ฉันควรตามคุณเหนือไปสิพอคิดได้แบบนั้นฉันก็รีบใส่เสื้อผ้าแล้วเปิดประตูออกไปจากห้องทำงานของคุณเหนือ“พี่รุ้งคะ คุณเหนือไปไหนคะ”“พี่เองก็ไม่รู้เหมือนกันจ้ะ เมื่อกี้คุณเหนือไม่ได้บอกไว้”เป็นแบบนี้แล้วฉันจะไปตามหาคุณเหนือได้จากที่ไหน ไม่ใช่ว่าเขาไปหาผู้หญิงคนนั้นหรอกเหรอ ผู้หญิงที่โทรมาน่ะฉันได้แต่เดินมานั่งลงบนโต๊ะของตัวเองด้วยความรู้สึกที่มันเจ็บปวดอีกครั้งแต่ไม่นานนักคุณเหนือก็เดินกลับมา ทำให้ฉันลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก เขาไม่ได้ไปหาใครแน่ๆ ไม่อย่างนั้นคงไม่กลับมาเร็วขนาดนี้คุณเหนือเดินมาหยุดที่โต๊ะทำงานของฉัน แล้วพูด“ฉันจะย้ายเธอให้กลับไปฝึกงานที่แผนกเดิม”ด้วยความที่พี่รุ้งนั่งอยู่ตรงนี้ฉันจึงไม่สามารถแย้งอะไรได้มาก“ทะ ทำไมล่ะคะ”“อยู่ตรงนี้มันรกหูรกตาฉัน”ฉันถอนหายใจออกมาเบาๆ อีกครั้ง คุณเหนือให้ฉันย้ายไปแผนกเดิมมันก็ยังดีกว่าเขาไล่ให้ฉันออกไปจากบริษัทเหมือนก่อนหน้านี้“ย้ายไปมามันจะดีเหรอคะคุณเหนือ” พี่รุ้งค้านขึ้นมา แต่คุณเหนือเขาไม่สนใจหรอก แถมยังไม่ตอบแล้วเดินกลับไปในห้องทำงานของตัวเอง“ระ ร
พอคุณเหนือสั่งงานลูกน้องเสร็จเขาก็เดินไปที่ห้องทำงาน ห้องทำงานของคุณเหนือจะอยู่ใกล้ๆ กับห้องรับแขก ฉันจึงรีบเดินตามถึงแม้ว่าตอนนี้จะกลายเป็นคนที่ไม่มีตัวตนในสายตาของเขาแล้วก็ตาม#ภายในห้องทำงานคุณเหนือนั่งลงบนเก้าอี้ตัวใหญ่เปิดเอกสารบนโต๊ะ ให้เขาไล่ฉันมันยังดีกว่าเงียบไปแบบนี้“เมื่อคืนคุณเหนือนอนที่ไหนเหรอคะ”พอเห็นว่าคุณเหนือเงียบฉันก็ถามต่ออีก “หิวไหมคะ รินไปทำข้าวต้มมาให้เอาไหม”ฉันกำชายเสื้อตัวเองแน่น การพูดอะไรออกไปแล้วไม่ได้รับคำตอบกลับมันช่างจุกแน่นอกดีจริงๆ“คุณเหนือบอกว่าจะไม่อยู่สามวัน จะไปไหนเหรอคะ”“……” คำตอบที่ได้กลับมาคือความเงียบสงัด ทำเอาฉันไปไม่เป็นเลยจริงๆฉันถามอะไรไปตั้งหลายอย่างแต่คุณเหนือไม่ตอบเลย ความเงียบของเขากำลังทำให้ฉันจะร้องไห้“…พูดกับรินหน่อยได้ไหมคะ” ฉันบอกออกไปอย่างอ้อนวอน ทั้งน้ำเสียงและแววตา“อย่าเงียบไปแบบนี้สิคะ รินไม่ชอบเลย” น้ำเสียงของฉันมันเริ่มสั่นเครือเพราะคุณเหนือไม่ยอมพูดอะไรจริงๆ“ถ้าอย่างนั้น ดะ เดี๋ยวรินไปทำข้าวต้มมาให้ดีกว่านะคะ”“ไม่ต้อง!!”ในที่สุดคุณเหนือก็ยอมปริปากพูดออกมา ถึงแม้จะเป็นคำตอบที่ดูจะรำคาญฉันเอามากๆ แต่พอได้ฟังมันก็ทำให
คุณเหนือเดินมาใกล้ๆ ก่อนจะเอื้อมมือมาจับที่ขาอีกข้างของฉันที่มันไม่เจ็บ จากนั้นก็ออกแรงดึง เขาทำแบบนั้นจริงๆ ทำให้ตัวฉันลากไปกับที่นอน ขาพาดลงมาที่ขอบเตียง“คนบ้า!! บอกว่าเจ็บไง” ฉันบอกอีกครั้ง แต่คุณเหนือยังทำเป็นหูทวนลมไม่โต้ตอบอะไร เขานั่งคุกเข่าลงตรงหน้า จากนั้นก็ใช้มือนวดคลึงเท้าข้างที่เจ็บให้“อะ โอ๊ย” ฉันสะดุ้งโหยงเมื่อถูกนวดคลึงบริเวณที่ปวด จึงร้องออกมา มือกำผ้าปูที่นอนแน่นทำเป็นขรึมใส่ ทั้งที่ความจริงแล้วก็เป็นห่วงใช่ไหมล่ะ ไม่อย่างนั้นจะมาสนใจนวดเท้าให้ฉันแบบนี้ทำไม“อ๊ะ จะ เจ็บค่ะ เบาๆ สิคะ”สังเกตเห็นว่าขณะที่กำลังนวดอยู่คุณเหนือก็ขบกรามแน่นไปด้วย เขาเป็นอะไรกัน หรือเป็นเพราะเสียงของฉันที่ทำให้เขาต้องอดกลั้นฉันอมยิ้มเมื่อคิดได้แบบนั้น จึงลองส่งเสียงดูอีกครั้ง และมันก็ใช่จริงๆ ด้วย ลมหายใจของคุณเหนือมันเริ่มเป็นจังหวะที่ถี่และรุนแรงขึ้น“อื้อ โอ้ย~ อ๊ะ” ฉันครางออกมาถ้าใครได้ฟังก็คงไม่คิดว่ากำลังนวดเท้าอยู่หรอก คงคิดไปเป็นอื่น“เจ็บจังเลยค่ะคุณเหนือ อื้อ~” ฉันพยายามเต็มที่ทั้งที่ความจริงเวลาเจ็บคงไม่ทำเสียงกระเส่าขนาดนี้“ซี๊ดดด~” ฉันซี๊ดปากแล้วเชิดหน้าขึ้น นี่ฉันข่มความอา
ยังจะถามอีกหรือไง เขาคิดว่าคำพูดที่ตัวเองพ่นออกมานั้นมันน่าฟังนักหรือยังไง ฉันแทบจะร้องไห้ทุกครั้งจริงๆ“ค่ะ รินรับไม่ได้ ทนฟังไม่ได้”“ทำไมไม่ยั่วต่อล่ะ ทำต่อสิฉันอยากจะรู้ว่าผู้หญิงอย่างเธอจะกล้าสักแค่ไหน”“มะ ไม่ค่ะ”“ทำไม” ใบหน้าคมคายโน้มลงมาใกล้ๆ แล้วถามต่อ “กลัว ? หรือเพิ่งคิดได้ว่าได้กับไอ้ติณไปแล้วไม่ควรมาอ่อยผัวเก่าอย่างฉัน”คุณเหนือพูดแบบนี้อีกแล้ว เขาฝังใจเรื่องที่ฉันทำฉันเข้าใจ แต่ฉันไม่ชอบถ้าเขาจะคิดว่าฉันกับคุณติณมีอะไรกัน เพราะคุณเหนือน่าจะรู้ดีว่าฉันไม่ทำแบบนั้นแน่“รินเคยคิดว่าคุณเหนือรู้จักรินดีที่สุด แต่ตอนนี้ไม่เลย”“เธอไปอยู่กับมันขนาดนั้น จะให้ฉันคิดยังไง”“รินไม่ใช่เมียเก่าของคุณเหนือที่ชื่อลดา ที่จะยอมให้เขาทำเรื่องแบบนั้น”“ไม่ใช่แต่ก็ไม่ต่าง สุดท้ายเธอก็เลือกไปกับมัน” คุณเหนือค่อยๆ ลุกขึ้นไปจากตัวของฉันไม่ว่าฉันจะพูดยังไง ในหัวของคุณเหนือก็ยังคิดว่าฉันตกเป็นของคุณติณแล้วอยู่ดีคุณเหนือเดินออกไปจากห้องนอนของฉัน บอกตามตรงว่าฉันท้อเอามากๆ มองไม่ออกถึงอนาคตว่าความรักของเราทั้งคู่มันจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ฉันอาจจะยังเต็มที่ไม่พอ ง้อได้ไม่มากพอ แต่พอได้ฟังคำพูด
“จะเอายังไงกันแน่คะ พออยู่ก็ไล่ พอจะไปก็ไม่ให้ไป” ฉันถามคุณเหนือด้วยความรู้สึกที่สับสนไม่ต้องการฉันไม่ใช่หรือไง“หายเจ็บขาแล้วหรือไง”“…..”“ทำไม เปลี่ยนใจอยากจะกลับไปหาไอ้ติณแล้วหรือไง พออ่อยฉันไม่สำเร็จก็จะกลับไปให้มันช่วยแก้ขัดให้ อย่างนั้นใช่ไหม!!”เพียะ!! ฉันตบหน้าคุณเหนือจนสุดแรงเมื่อเขาพ่นประโยคต่ำๆ แบบนั้นออกมาจนจบอะไรฉันก็ทนได้ทั้งนั้น แต่คำพูดพวกนี้ฉันไม่สามารถอดทนได่อีกต่อไป ถึงแม้ว่าฉันจะรักผู้ชายตรงหน้ามากขนาดไหนก็ตาม“อยากให้เป็นแบบนั้นมากใช่ไหมคะ” ฉันสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พยายามข่มเสียงที่สั่นเครือเอาไว้ แล้วพูดต่อ “ค่ะ รินจะกลับไปหาคุณติณ รินต้องการให้เขาตอบสนองในสิ่งที่คุณเหนือรังเกียจ”นี่คงเป็นคำตอบที่คุณเหนืออยากฟังมากที่สุด ในเมื่อเขาเอาแต่ผลักไสฉันนัก ก็คงไม่คิดจะแยแสอะไรฉันอยู่แล้ว“ได้! ถ้าเธอต้องการแบบนั้นฉันจะเป็นคนไปส่งเธอเอง” คุณเหนือคว้ามามาจับแขนฉันอีกครั้ง ทว่าฉันรีบสะบัดออก “ไม่ต้องค่ะ รินจะไปเองไม่ต้องใจดีมากขนาดนั้น”ลมหายใจร้อนผ่าวของคุณเหนือถูกพ่นออกมาแรงๆ จากนั้นเขาก็คว้ามาจับแขนฉันอีกครั้ง แต่ไม่ได้พาเดินไปที่ประตู คุณเหนือลากตัวฉันเข้ามาในห้องนอนแ
เช้าวันต่อมา…ฉันลืมตาตื่นขึ้นมาก็ต้องรีบมองข้างๆ ของตัวเองเพื่อดูว่าคุณเหนือยังนอนอยู่ด้วยหรือเปล่า เพราะฉันกลัวว่าตื่นมาแล้วจะไม่เจอเขา กลัวว่าที่คุณเหนือพูดเมื่อคืนมันเป็นแค่เรื่องโกหกแต่เมื่อหันมองแล้วเห็นคุณเหนือนอนหลับอยู่มันก็ทำให้ฉันลอบถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก หากที่นี่คือบ้านของคุณเหนือฉันคงลงไปทำอาหารเตรียมไว้ให้เขาฉันนอนมองหน้าคุณเหนือแล้วยิ้ม มันมีความสุขในที่สุดก็ได้รับโอกาสจากผู้ชายคนนี้สักที ต่อไปนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นฉันจะต้องไตร่ตรองให้ดีก่อน และควรเชื่อใจ“จะมองอีกนานไหม” เสียงทุ้มของคุณเหนือพูดขึ้นมาทั้งที่เขายังหลับตาอยู่ ทำให้ฉันสะดุ้งตกใจเล็กน้อย“ตื่นตั้งแต่เมื่อไหร่คะ”คุณเหนือลืมตาขึ้นมามองหน้าฉันแล้วตอบ “ตั้งแต่เธอพลิกตัว”“รินกวนหรือเปล่าคะ คุณเหนือจะนอนต่อก็ได้นะเดี๋ยวรินจะไปอาบน้ำ”“ฉันจะกลับห้อง”ใบหน้าของฉันสลดลงทันทีเมื่อได้ยินที่คุณเหนือบอก เขาลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปหยิบเสื้อของตัวเองที่เมื่อคืนถอดทิ้งไว้ที่พื้นขึ้นมาสวมใส่“หะ หายโกรธรินแล้วจริงๆ ใช่ไหมคะ”คุณเหนือที่กำลังหันหลังให้ฉันอยู่ เขาค่อยๆ หมุนตัวหันหน้ามาแล้วพูด “ทำไมถึงถามแบบนั้น ?”“….คุณเ
ฉันตั้งใจว่าจะไปหาพราวที่บ้านแต่จู่ๆ มันก็หน้ามืด เหมือนจะเป็นลม และก็ไม่รู้ว่าคุณเหนือมายังไง เขารีบวิ่งมาประคองตัวฉันไว้ ทั้งที่บอกว่าจะออกไปบริษัทแท้ๆ“ไปหาหมอ”“ไม่เอาค่ะ รินไม่ได้เป็นอะไรมาก”“ทำไมถึงไม่ยอมไปหาหมอ เธอเป็นแบบนี้บ่อยเกินไปแล้วนะวาริน”“เดี๋ยวรินกับคุณเหนือก็ต่างคนต่างนอนคนละห้องตั้งหนึ่งเดือน อาการคงจะดีขึ้นค่ะเพราะรินได้พักผ่อนเต็มที่” ฉันพูดในเชิงประชดประชัน“ฝันไปเถอะ! แค่คืนเดียวฉันก็นอนไม่หลับ”“ไม่โกรธรินแล้วเหรอคะ ?” ฉันยิงคำถามใส่คุณเหนือก็ทำหน้างอนๆ นั่นแหละ จากนั้นเขาก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ “คิดว่าฉันทำได้หรือไง คิดว่าฉันไม่สนใจเธอได้หรือไง”“เมื่อกี้คุณเหนือก็เมินริน”“ฉันน้อยใจเธอต่างหาก แต่เธอแม่งไม่ง้อ” คุณเหนือบอกจากนั้นก็อุ้มตัวฉันขึ้นพาเดินมาที่ห้องรับแขก แล้ววางฉันลงบนโซฟาแปลกเนอะ เมื่อกี้เรายังทำเมินใส่กันแต่สุดท้ายเราก็ไม่สามารถโกรธกันได้นานกว่านี้จริงๆ“ไปหาหมอได้ไหม รู้บ้างไหมว่าฉันเป็นห่วงเธอมากขนาดไหน” คุณเหนือแสดงความเป็นห่วงออกมาผ่านแววตาของเขา“งั้นหลังจากรับปริญญารินจะไปหาหมอนะคะ”“สัญญา ?”“ค่ะ ^_^” บางทีฉันก็คืดว่าตัวเองอารมณ์แปรปรวนแปลกๆ
#คฤหาสน์หลังใหญ่ตอนนี้ฉันกับคุณเหนือกำลังนั่งกินข้าวที่บ้านคุณพ่อของคุณเหนือ ที่ผ่านมาฉันได้เจอกับท่านบ่อยๆ จึงทำให้ไม่รู้สึกเกร็งแล้ว“ฉันได้ฤกษ์แต่งงานมาแล้ว ฤกษ์ดีที่สุดก็อีกสองเดือน”หัวใจดวงน้อยมันเต้นรัวเมื่อได้ยินแบบนั้น นี่ฉันใกล้จะได้แต่งงานแล้วหรอเนี่ย“แกก็พาหนูรินไปลองชุดเดี๋ยวต้องสั่งตัดชุดอีกคงใช้เวลานาน ส่วนเรื่องสถานที่ฉันจะจัดการให้เอง”“ครับพ่อ” คุณเหนือตอบก่อนจะหันมายิ้มกริ่มให้ฉัน“แล้วนี่พร้อมจะมีลูกเมื่อไหร่ ฉันว่าทำลูกมันซะตอนนี้เลยก็ดีเหมือนกันนะ ยังไงก็จะแต่งงานกันอยู่แล้ว ฉันเองก็อยากเห็นหน้าหลานเร็วๆ”“อะ เอ่อคือเรื่องนั้นริน….”“ยังไม่พร้อมสินะ อืมๆ ฉันเข้าใจว่าการมีลูกมันเป็นเรื่องใหญ่ แต่ก็อย่าให้มันนานจนเกินไปแล้วกัน”ฉันถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเมื่อพ่อของคุณเหนือนั้นเข้าใจและไม่ได้เร่งรัดอะไร แต่พอหันมองคุณเหนือก็ได้เห็นว่าตอนนี้เขากำลังทำหน้ายักษ์ใส่ฉันอยู่“กินข้าวสิคะ” ฉันยิ้มแบบกวนๆ ให้คุณเหนือไปหนึ่งกรุบก่อนจะก้มหน้ากินข้าวต่อหลังจากกินข้าวเสร็จแล้วฉันกับคุณเหนือก็อยู่คุยเรื่องงานแต่งต่อสักพัก ด้วยความที่ฉันไม่มีญาติที่ไหนแล้วจึงไม่ต้องไปคุยกับผู
วันเวลาล่วงเลยมาจนกระทั่งในวันที่ฉันฝึกงานจบ จริงๆ ก็ไม่ได้ฝึกงานหรอก นั่งๆ นอนๆ อยู่ที่บ้านซะมากกว่า พอฝึกงานจบแล้วตอนนี้ก็เหลือแค่รับปริญญา วันนี้ฉันต้องเข้าไปทำธุระที่มหาวิทยาลัยด้วยไม่รู้ว่าคุณเหนือเป็นอะไรพอรู้ว่าฉันจะเข้าไปที่มหาวิทยาลัยก็ออกอาการงอแงบอกว่าจะไปด้วย จะรอที่รถ ซึ่งฉันเองก็นัดกับพราวไว้ว่าจะไปกับพราว“วันนี้รินเช็กตารางงานคุณเหนือกับพี่รุ้งแล้ว มีประชุมตอนเก้าโมงเช้านี่คะ จะไปกับรินได้ยังไง”“ไม่อยากให้ฉันไปด้วยถึงขนาดต้องโทรเช็กตารางงานเลยหรือไง” คุณเหนือชักสีหน้าใส่ฉัน มันใช่เรื่องหรือเปล่าเนี่ย นั่นงานของเขานะ“บอกเหตุผลมาได้ไหมคะว่าทำไมถึงอยากไปกับรินขนาดนั้น”“ก็หวง! อยากไปด้วยกลัวผู้ชายจะมายุ่งกับเมีย” คุณเหนือบอก เขาก้มหน้าลงแล้วทำแก้มป่อง น่าเอ็นดูจริงๆ พ่อคุณ“ให้รินใส่กระโปรงยาวจนถึงตาตุ่มแบบนี้ยังหวงอีกเหรอคะ” ฉันบอกพร้อมกับก้มมองกระโปรงที่ตัวเองใส่ มันยาวจนคลุมตาตุ่มเลยนะ ก็เพราะคุณเหนือนั่นแหละสั่งให้ใส่แบบนี้“เดี๋ยวฉันจะโทรไปเลื่อนประชุม” คุณเหนือทำท่าจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออก ฉันจึงรีบค้านไว้ “หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะคะ แยกแยะหน่อยสิ”“แยกแยะแล้ว จะไป
#ภายในห้องตอนนี้เสื้อผ้าของฉันกับคุณเหนือถูกถอดและโยนทิ้งไว้บนพื้นจนมันกระจัดกระจายไปทั่วทั้งห้อง“ให้รินทำให้นะคะ รินอยากทำให้คุณเหนือบ้าง” ฉันพูดอย่างยั่วยวนก่อนจะผลักร่างกำยำลงไปนอนราบกับเตียงฉันคลานเข่ามาขึ้นคร่อมคุณเหนือเอาไว้ พร้อมกับใช้มือกุมแก่นกายใหญ่ที่ค่อยๆ ขยายตัวจนล้นอุ้งมือของฉัน“ทำไมวันนี้เธอถึงอยากทำ ?” คุณเหนือเงยศีรษะขึ้นมาขมวดคิ้วถาม“รินอยากทำให้คุณเหนือติดใจรินไงคะ ^_^”“แค่เธอนอนเฉยๆ ฉันก็แทบจะคลั่งตาย อ๊า~”ฉันใช้มือชักรูดแก่นกายในขณะที่คุณเหนือกำลังพูดอย่างกลั่นแกล้ง นั่นจึงทำให้เขาเผลอร้องครางออกมา“รินยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะคะ”“มือเธอกำลังทำให้ฉันหมดแรง ซี๊ด~”“แล้วถ้ารินใช้ปากละคะ”ฉันถามด้วยน้ำเสียงที่ยั่วยวนก่อนจะก้มหน้าลงใช้ริมฝีปากสัมผัสกับแก่นกายใหญ่ รู้สึกได้ถึงร่างกายที่เริ่มเกร็งของคุณเหนือในตอนที่ฉันตวัดปลายลิ้นเลียหยอกเย้าหัวเห็ดแดงก่ำ“ริน อ๊า~ เธอคิดจะฆ่าฉันหรือไง”“ชอบไหมคะ รินทำเก่งไหม”ฉันเงยหน้าขึ้นถามจากนั้นก็ก้มหน้าลงอีกครั้ง ทว่าครั้งนี้ไม่ใช่แค่ลิ้น แต่ฉันใช้ริมฝีปากอุ่นร้อนครอบงำท่อนเนื้อดุ้นใหญ่แล้วอมให้ลึกจนขอบปากแนบชิดกับปลายโคนจากน
ถึงฉันจะเคยพูดว่ายังไม่พร้อม แต่พอมาถูกขอแต่งงานแบบนี้จะปฏิเสธลงได้ยังไงล่ะ คุณเหนือมัดมือชกกันชัดๆ เลย“อยากให้รินตอบตกลงใช่ไหมคะ” ฉันถามคุณเหนือเพราะคิดอะไรสนุกๆ ขึ้นมาได้ มันนึกอยากจะแกล้งเขาเล่นๆ“ทำขนาดนี้แล้วยังจะถามอีก”“ถ้าอย่างนั้นคุณเหนือก็ต้องลงไปแช่ในน้ำทะเลห้านาที แล้วรินจะตอบตกลง ^_^”คุณเหนือมองไปที่น้ำในทะเล “ตอนนี้?”“ก็ใช่ไงคะ ตอนนี้ ^_^”“ได้”คุณเหนือเก็บแหวนไว้ในกระเป๋ากางเกง จากนั้นเขาก็ถอดเสื้อแล้วเดินดุ่มๆ ไปอย่างไม่ลังเลตอนนี้บรรยากาศถูกปกคลุมไปด้วยความมืด ทะเลตอนกลางคืนนั้นน่ากลัว แต่คุณเหนือกลับทำตามคำสั่งของฉันอย่างไม่คิดลังเลอะไรเลย เป็นแบบนี้ใครจะไม่ใจอ่อนยอมแต่งงานด้วยกันล่ะ“อ่า! น้ำเย็นชะมัด” คุณเหนือพูดขึ้น เขานั่งแช่อยู่ในน้ำอย่างเด็ดเดี่ยว ถึงปากจะบ่นว่าน้ำเย็นก็ตาม“จริงๆ ถ้าคุณเหนือไม่ลงไปแช่ในน้ำทะเลแบบนั้นรินก็คงตอบตกลงอยู่แล้วนะคะ ^_^” ฉันบอก ทำให้ถูกคุณเหนือจ้องเขม็ง“เธอแกล้งฉัน?”“หลอกง่ายเหมือนกันนะเนี่ย”จบคำพูดของฉันคุณเหนือก็ลุกขึ้นมาจากน้ำ เขาเดินตรงมาที่ฉัน“คะ คุณเหนือจะทำอะไรคะ” ฉันถามพร้อมกับถอยหนี รู้สึกไม่ปลอดภัยยังไงก็ไม่รู้“ไม
หมับ! คุณเหนือรีบเดินตามมาคว้าแขนฉันเอาไว้ จากนั้นก็ก้าวขามาหยุดตรงหน้าของฉัน“ปล่อย! รินจะไปซื้อบิกินี่”“ก็บอกว่าไม่ให้ใส่”“รินจะใส่”“ก็ลองดูว่าซื้อมาแล้วจะได้ใส่หรือเปล่า”ฉันพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ อย่างหงุดหงิด จากนั้นก็เมินหน้าหนีคุณเหนือ คิดว่าจะได้มาพักผ่อนแบบสบายใจ แต่กลับต้องมาหงุดหงิดแบบนี้ทำให้เสียบรรยากาศจริงๆ ไม่อยากจะอยู่ต่อแล้ว อยากจะกลับไปกรุงเทพมันตอนนี้เลย“มันไม่ใช่เรื่องแปลกที่ฉันจะมองผู้ชายหรือผู้หญิงที่เดินผ่านไปมาไม่ใช่หรือไง”“ค่ะมันไม่แปลก แต่การที่มองแล้วจ้องค้างแบบนั้นจะไม่ให้รินคิดอะไรคงไม่ได้หรอกนะคะ ถ้าเกิดว่ามีผู้ชายเดินผ่านแล้วรินมองแบบที่คุณเหนือมองผู้หญิงสองคนนั้นล่ะคะ คุณเหนือก็คงจะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ”“ฉัน….”“ไม่ต้องมาเถียงหรอกค่ะ อีกอย่างผู้หญิงสองคนนั้นก็ส่งตาหวานเชื่อมให้ด้วยนิ หึ!”“โอเคต่อไปนี้ฉันจะไม่มองผู้หญิงคนไหน กลับไปกินข้าวก่อน ฉันหิวจนจะกินเธอได้ทั้งตัวอยู่แล้วนะ” คุณเหนือจับมือฉันหวังจะให้เดินตามตัวเอง แต่ฉันยังทำตัวแข็งทื่ออยู่ไม่ยอมขยับ“ไม่ค่ะ รินไม่กิน!!”“รินเธอจะงอนเอาเป็นเอาตายเลยหรือไง ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเกินเลยไปมากกว่ามองเลยนะ”
เช้าวันต่อมา….ฉันแทบจะลุกจากเตียงไม่ขึ้นเนื่องจากเมื่อคืนถูกทำโทษ กล่องถุงยางอนามัยที่ใช้แล้วมันถูกทิ้งไว้เกลื่อนห้องไปหมดเลยตอนนี้โชคดีที่คุณเหนือไม่ได้ใช้ถุงยางอนามัยหมดทั้งแพ็กเพราะเขาเห็นใจฉัน แต่ก็หมดไปหลายกล่องเลย“ลุกขึ้นแต่งตัวสิ” คุณเหนือเดินออกมาจากห้องน้ำแล้วบอกฉัน คิดว่าไปทำงานแล้วซะอีก“ไปไหนคะ รินลุกไม่ไหวหรอก”“ไปพัทยา”“หื้อ ไปทำไมคะ คุณเหนือมีงานที่นั่นเหรอคะ”“เปล่า ฉันจะพาเธอไปพักผ่อน”“ว่างเหรอคะ”“ฉันมีเวลาว่างให้เธอทั้งชีวิต” คุณเหนือบอกเสียงหวานจากนั้นก็เดินมาที่เตียงแล้วอุ้มฉันขึ้น“อื้อ อุ้มรินทำไมคะ”“จะพาไปอาบน้ำ เดินไม่ไหวไม่ใช่หรือไง”ฉันถามคุณเหนือเพราะมันรู้สึกเขิน ส่วนคุณเหนือเขาก็อุ้มฉันมาในห้องน้ำ แถมยังทำตัวน่ารักหวังจะถอดเสื้อออกให้ด้วย ฉันจึงรีบเบรกไว้ เพราะการให้คุณเหนือเห็นเรือนร่างมันรู้สึกไม่ค่อยปลอดภัยยังไงก็ไม่รู้“เดี๋ยวรินถอดเองค่ะ คุณเหนือไปรอข้างนอกนะคะ”“แต่ฉันอยากถอดให้เธอ” คุณเหนือบอกจากนั้นเขาก็โน้มใบหน้าลงมาจูบที่ต้นคอของฉันนี่อย่าบอกนะว่ากำลังจะเริ่มอีกแล้วน่ะ“หยุดนะคะ รินหมดแรงแล้ว”คุณเหนือหยุดชะงักพร้อมกับค่อยๆ ผละใบหน้าออก “
คุณเหนือแบกตัวของฉันมาที่ห้องนอน เขาไม่ยอมวางฉันลงไม่ว่าจะดิ้นแรงแค่ไหนตุบ! ร่างของฉันถูกโยนลงบนเตียง ย้ำนะคะว่าโยน ถึงเตียงมันจะนิ่มแต่ก็รู้สึกเจ็บอยู่ดี“ทำไมต้องรุนแรงด้วยล่ะคะ” บอกตามตรงว่ามันเริ่มรู้สึกโกรธขึ้นมาอีกครั้ง คุณเหนือจะวางฉันลงดีๆ ก็ได้นิ ไม่เห็นจำเป็นต้องโยนกันรุนแรงแบบนี้เลย“เธอพูดไม่ฟังเอง”“ก็คุณเหนือนั่นแหละงี่เง่า”“ฉันงี่เง่า ? งี่เง่าตรงไหน”“ก็ตรงที่ขี้น้อยใจเหมือนผู้หญิงไงล่ะคะ”โอเคฉันรู้แหละว่าการทะเลาะกันมันคือปัญหาปกติของชีวิตคู่ แต่ก็ไม่อยากให้เป็นแบบนี้สักนิด แต่มันเหลืออดจริงๆคุณเหนือพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ เขายกมือขึ้นมาเท้าเอวแล้วจ้องหน้าฉันพร้อมกับใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้มด้วยสีหน้าที่ไม่สบอารมณ์เหอะ! เขาคิดว่าตัวเองหงุดหงิดเป็นคนเดียวหรือไง“เธอก็เลยประชดฉันด้วยวิธีนี้ว่างั้น ?”“ทำไมไม่ปล่อยให้รินเดินออกไปนอกบ้านล่ะคะ จะได้รู้ว่าประชดหรือเปล่า”“เสื้อชั้นในก็ไม่ใส่ ใส่แค่กางเกงในแบบนี้มั่นใจว่าเธอจะเดินออกไปที่สนามหญ้า”“ค่ะ รินจะไป”“วาริน!!”“ไม่ต้องมาทำเสียงเข้มขู่รินหรอกค่ะ คุณเหนือจะไปไหนก็ไม่บอกรินสักคำ แถมโทรไปไม่รับด้วย”“แต่เธอก็ไม่ควรทำแบบน
ฉันรีบวิ่งขึ้นมาบนห้องเพื่อมาเอาโทรศัพท์กดโทรออกไปหาคุณเหนือ ไม่ได้จะโทรไปขอบคุณแต่จะโทรไปต่อว่าที่เขาใช้เงินมากมายซื้อของพวกนี้มา( ชอบของที่ฉันซื้อให้หรือเปล่า )พอฉันกดรับสายคุณเหนือก็ถามคำนี้ออกมา เขาดูจะมีความสุขไม่ได้เดือดร้อนที่เสียเงินไปมากมายมหาศาลเลยสักนิด เป็นฉันคนเดียวที่นึกเสียดาย( ไม่ชอบค่ะ )( ถ้าอย่างนั้นเธอชอบแบบไหน เดี๋ยวประชุมเสร็จฉันจะพาไปเลือกใหม่ )แทนที่จะหงุดหงิดหรือโกรธที่ฉันไม่ชอบ แต่คุณเหนือกลับอารมณ์ดีแถมจะพาฉันไม่เลือกใหม่อีกต่างหาก( รินไม่ชอบให้คุณเหนือใช้เงินฟุ่มเฟือยแบบนี้ )( ฟุ่มเฟือยที่ไหนกัน เงินแค่ไม่กี่สิบล้าน )( สะ สิบล้านเลยเหรอคะ )( ห้าสิบกว่าล้าน ) คุณเหนือตอบกลับมาทำให้ฉันแทบจะเป็นลมจนต้องจับขอบเตียงเพื่อพยุงตัวเองเขาพูดออกมาง่ายๆ คำว่าห้าสิบล้าน ไม่รู้สึกเสียดายบ้างหรือไง( ต่อไปนี้ห้ามใช้เงินแบบนี้อีกนะคะ รินอยากให้คุณเหนือเก็บเงินไว้ )( เดือนๆ หนึ่งบริษัทฉันได้กำไรร้อยกว่าล้าน ของพวกนั้นฉันตั้งใจอยากจะซื้อให้ แต่ถ้าเธอไม่ชอบจะเอาไปทิ้งในถังขยะฉันก็ไม่ว่าอะไร )( อย่ามาประชดกันแบบนี้นะคะคุณเหนือ )( ในเมื่อฉันตั้งใจจะให้แต่เธอไม่รับ จ