แชร์

บทที่ 4

ผู้เขียน: ชะนีติดมันส์
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-28 08:06:06

"ว่าแต่พี่ชื่ออะไรคะฉันยังไม่รู้จักชื่อพี่เลย"

"พี่ชื่อสิธาจ้ะ แล้วเราล่ะชื่ออะไร"

"ไอรีสค่ะ"

"ชื่อเพราะหน้าตาก็สะสวย ถ้าเราแต่งตัวดีๆ ถอดแว่นตานี่ออก พี่ว่าแมวมองคงชวนเข้าวงการแน่เลย"

ไอรีสได้แต่ยิ้มบางๆ ให้กับเพื่อนใหม่ จริงๆ ในชีวิตประจำวันเธอก็ไม่ได้ใส่แว่นตาหรอก แต่เรื่องแต่งตัวเธอชอบแต่งตัวง่ายๆ บางวันกางเกงขาสั้นเสื้อยืดก็อยู่ได้ทั้งวันแล้ว

พ่อเคยจ้างคนมาปรับลุคใหม่ของเธอ เพราะเวลาอยู่บ้านเธอกลมกลืนกับแม่บ้านมาก จนคนดูไม่ออกว่าคนไหนคุณหนูคนไหนแม่บ้าน

"แม่สีทาบ้าน เลขาผู้จัดการตามกาแฟแล้ว" เสียงเดิมตะโกนเข้ามาในห้องเครื่องดื่ม พอได้ยินชื่อที่คนข้างนอกเรียกไอรีสก็อดหันมามองดูแม่บ้านประจำชั้นผู้บริหารไม่ได้ พี่เขาชื่อสิธาไม่ใช่เหรอทำไมเรียกสีทาบ้านล่ะ

"ตายแล้วมัวแต่คุยกันลืมกาแฟผู้จัดการเลย ห้องผู้จัดการอยู่ถัดจากห้องท่านรองไปนะ"

ไอรีสเก็บความสงสัยไว้ก่อน เพราะเธอต้องรีบเอากาแฟไปเสิร์ฟเจ้าใหญ่นายโต

"กาแฟของผู้จัดการค่ะ"

"เราเป็นพนักงานใหม่เหรอ" เลขาหน้าห้องของผู้จัดการเห็นว่าเธอไม่คุ้นหน้าเลย

"ใช่ค่ะ"

"เอาเข้าไปบริการผู้จัดการเลย"

ก๊อกๆ "กาแฟมาแล้วค่ะ"

"เข้ามา"

หลังจากที่ได้รับอนุญาตไอรีสก็ยกแก้วกาแฟนั้นเข้าไป

"เอาวางไว้"

ไอรีสแอบมองหน้าผู้จัดการก่อนจะวางกาแฟลง

"ฉันไม่เคยเห็นหน้าเธอมาก่อน"

"ฉันเพิ่งเข้าทำงานวันแรกค่ะ"

"เป็นผู้ช่วยหรือว่าเป็นแม่บ้าน" ถึงแม้จะมองแค่แว๊บเดียวก็เห็นความโดดเด่นในตัวเธอคนนี้ และคนที่จะขึ้นมาบนชั้นผู้บริหารได้ ต้องเป็นคนที่ถูกคัดกรองมาแล้วอย่างดี

"ฉันยังไม่มีตำแหน่งค่ะ"

"ยังไม่มีตำแหน่งหมายความว่ายังไง"

"หมายความว่าฉันกำลังรอตำแหน่งอยู่ค่ะ"

"เธอใช้เส้นสายของใครเข้ามา"

"คะ?" ถามตรงขนาดนี้เลยเหรอ แล้วเราจะบอกว่าเส้นสายใครดี ชั่วขณะเดียวกันนั้นเธอก็นึกอะไรสนุกๆ ได้ "ไม่แน่ใจว่าจะเรียกว่าเส้นสายไหมนะคะ แต่ถ้าคุณอยากรู้คุณลองถามกับท่านรองประธานดูค่ะ ฉันขอตัวนะคะ"

"รองประธาน? คุณสิงห์น่ะเหรอ?"

ห้องเครื่องดื่ม..

"มีอะไรหรือเปล่าทำไมเอากาแฟเข้าไปให้ผู้จัดการนานจัง"

"มันแปลกนักเหรอคะที่มีพนักงานใหม่ขึ้นมาทำงานที่ชั้นนี้" เห็นสายตาทุกคนที่มองเธอเหมือนมันไม่ใช่เรื่องปกติ

"ส่วนมากชั้นนี้จะมีแต่คนที่ไว้วางใจได้เท่านั้นที่ขึ้นมาทำ เพราะกลัวว่าข้อมูลของบริษัทจะรั่วไหล"

"แสดงว่าพี่ก็เป็นบุคคลที่น่าไว้วางใจ"

"แม่พี่เป็นแม่บ้านเก่าแก่ที่นี่"

"ถึงว่า"

เธอยังคงช่วยงานแม่บ้านมาจนถึงช่วงเย็น ตอนกลับรถที่บ้านก็มารอรับเหมือนเดิม

"ลุงฉันถามอะไรหน่อยสิ"

"ถามอะไรครับ" ลุงที่ทำหน้าที่ขับรถอยู่หันไปมองคนที่นั่งอยู่ข้างๆ เธอไม่ได้ไปนั่งด้านหลังเหมือนเจ้านายทั่วไปหรอก เพราะเธอให้คุณค่าของคนเท่ากันหมด

"ลุงรู้จักผู้จัดการทั่วไปไหม"

"ผู้จัดการทั่วไป?"

"ถ้าลุงไม่รู้จักก็ไม่เป็นไรนะคะ" เพราะลุงทำหน้าที่ขับรถที่บ้านไม่น่าจะรู้เรื่องงาน

"คุณหมายถึงคุณอัญญาเหรอครับ"

"ลุงรู้หรือคะ"

"คุณอัญญาเคยไปที่บ้านครับ"

"เขามีความสัมพันธ์อะไรกับเจ้านายของลุงเหรอคะ"

กึก! เท้าลุงคนขับเผลอไปแตะถูกเบรก

"คุณถามทำไมครับ"

"เขาเป็นมากกว่าเจ้านายกับลูกน้องเหรอคะ"

"ผมก็ไม่แน่ใจหรอกครับ คงมาเจอกันเพราะเรื่องงานมั้งครับ"

ขนาดคนขับรถยังมีพิรุธเลย ถ้ามีคนรักอยู่แล้วทำไมต้องรับหมั้นกับเราด้วย ยังไงเธอก็ไม่ปล่อยเรื่องนี้ไปแน่ ถึงแม้ว่าอยากจะช่วยเรื่องธุรกิจของพ่อ แต่ถ้าเป็นเรื่องผิดศีลธรรมเธอก็ไม่เอาด้วยหรอก

ใช้เวลาอยู่บนท้องถนนนานพอสมควรกว่าจะกลับมาถึงบ้าน เพราะช่วงเลิกงานเป็นช่วงเวลาที่รถติดมาก

>>{"ไว้วันเสาร์นี้เจอกันนะ"}

เดินเข้ามาก็เห็นว่าเขากำลังคุยโทรศัพท์อยู่ แต่พอเห็นเธอเข้ามาเขาก็วางสายไป

"คุณผู้หญิงมาพอดีเลยค่ะ เดี๋ยวป้าตั้งโต๊ะเลยนะคะ"

"คุณพ่อไปดูงานแล้วใช่ไหมคะ"

"ใช่ค่ะ"

โต๊ะอาหาร..

นานๆ ทีทั้งสองจะนั่งร่วมทานอาหารด้วยกันแบบนี้ แต่ถึงแม้จะนั่งทานร่วมกันมันก็ไม่ได้แตกต่างจากทานคนเดียวหรอก เพราะไม่มีการสนทนาใดๆ เกิดขึ้นในระหว่างทานข้าวเลย

ไอรีสอยากจะถามเรื่องงาน แต่มองอีกฝ่ายแล้วคงไม่มีอารมณ์ตอบเธอ เพราะมือข้างหนึ่งจับช้อนตักข้าวใส่ปาก ส่วนมืออีกข้างก็เลื่อนโทรศัพท์เหมือนว่ากำลังนั่งทานข้าวอยู่คนเดียวยังไงยังงั้น

เช้าวันต่อมา..

"คุณผู้ชายล่ะคะ"

"ออกไปทำงานแล้วค่ะ"

"ออกไปแล้วเหรอ?" ว่าจะถามเรื่องงานสักหน่อย แต่ก็ไม่เป็นไรหรอกวันนี้เลขาของเขาคงจัดงานให้เธอแล้ว

[บริษัทดำรงฤทธิ์]

ไม่คิดว่ารถจะติดขนาดนี้ กว่าจะมาถึงก็สายมากแล้ว

"รอด้วยค่ะ" มาถึงประตูลิฟต์กำลังจะปิดพอดี แต่ทำไมพนักงานถึงไม่รีบเข้ากัน หญิงสาวเดินเข้าไปในลิฟต์ ด้านในมีคนยืนอยู่ไม่กี่คนเอง ส่วนพนักงานคนอื่นเหมือนจะรอลิฟต์เที่ยวถัดไป

"......." เข้ามาด้านในก็รู้เลยว่าทำไมพนักงานถึงไม่ติดลิฟต์ขึ้นมาด้วย

"วันหลังถ้ามีผู้บริหารใช้งานอยู่เธอรอใช้ลิฟต์รอบถัดไปนะ" เป็นเสียงของเลขาท่านรองประธาน และตอนนี้ทั้งท่านรองประธานและผู้จัดการทั่วไปก็กำลังอยู่ในลิฟต์ตัวเดียวกับเธอ

บทที่เกี่ยวข้อง

  • นรสิงห์ [มาเฟียร้ายรัก]   บทที่ 5

    เพียงไม่นานลิฟต์ก็เปิดออกที่ชั้นผู้บริหาร พอประตูเปิดออกคนที่ก้าวออกไปคนแรกก็คือไอรีส"มาคุยกับฉันหน่อย" อิ่มเอมเรียกไอรีสต่อหน้านรสิงห์และอัญญาที่เดินตามกันออกมา และที่เรียกต่อหน้าเพราะจะทำให้พวกท่านรู้ว่าตัวเองจะไม่ปล่อยเรื่องที่พนักงานเสียมารยาทไป"ค่ะ" ถึงไม่เรียกเธอก็ไปอยู่ดีเพราะเธอยังไม่รู้ว่าตัวเองต้องทำงานอะไรเลยโต๊ะทำงานของเลขาหน้าห้องท่านรองประธาน.."วุฒิการศึกษาเราจบอะไรมา""จบ..""ที่ฉันถามไม่ใช่อะไรหรอกนะ ฉันอยากรู้ว่าเธอเรียนมาแค่ไหนทำไมถึงไม่มีมารยาท" ที่ถามไม่ได้ต้องการอยากรู้หรอกว่าจบอะไรมา แค่อยากจะพูดให้อีกฝ่ายรู้ถึงฐานะตัวเอง"ตกลงจะให้ฉันบอกไหมคะว่าเรียนจบอะไรมา""ไม่ต้องหรอกข้อมูลของเธอคงอยู่ที่ฝ่ายบุคคลแล้ว""ฉันยังไม่ได้ยื่นเอกสารค่ะ""ไม่ได้ยื่นเอกสาร?"คนที่นั่งทำงานอยู่ที่ชั้นนั้นต่างก็ให้ความสนใจ พวกเขาและเธอก็อยากจะรู้เหมือนกันผู้หญิงคนนี้เป็นใคร อยู่ดีๆ โผล่ขึ้นมาอยู่ชั้นผู้บริหาร"คุณอิ่มเอมเข้ามาหาผมหน่อย" เสียงจากเครื่องสื่อสารบนโต๊ะเลขาดังขึ้นมาขัดจังหวะพอดีก๊อกๆ "มาแล้วค่ะ""ไฟล์เอกสารที่ประชุมเมื่อวานนี้เหมือนจะมีปัญหานะ""คะ?""คุณมีไฟล์สำรองใช่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-28
  • นรสิงห์ [มาเฟียร้ายรัก]   บทที่ 6

    เที่ยงวันนั้น..ก๊อกๆ "ไปทานข้าวกันเถอะค่ะ" พนักงานที่ทำงานอยู่ชั้นผู้บริหารเห็นกันจนชินตาแล้ว เลยไม่ค่อยสนใจเหตุการณ์นี้มากนัก เหตุการณ์ที่ว่าก็คือผู้จัดการทั่วไปจะมาชวนท่านรองประธานออกไปทานข้าวเที่ยงด้วยกันแต่คนที่ไม่ชินตาก็คือไอรีส เพราะเสียงเคาะประตูและเสียงชวนไปทานข้าวมันดังกึกก้องมาจนถึงโต๊ะทำงานของเธอ ตอนนี้ไอรีสได้รับตำแหน่งเป็นผู้ช่วยทั่วไป ผู้ช่วยทั่วไปหมายถึงช่วยทุกคนที่ต้องการให้เธอช่วยแม้แต่แม่บ้านทีแรกธันวาผู้จัดการฝ่ายการตลาดขอตัวเธอไปเป็นผู้ช่วยแต่ก็ถูกปฏิเสธโดยนรสิงห์ และเขาก็ได้มอบหมายตำแหน่งนี้ให้เธอทำโดยตรงนั่นคือเป็นผู้ช่วยของทุกคน ที่เขาไม่ปล่อยให้เธอไปกับธันวาถ้าพ่อรู้มีหวังเล่นงานเขาแน่"วันนี้ผมงานเยอะออกไปไม่ได้ เดี๋ยวผมจะให้.." ขณะเดียวกันนั้นสายตาเขาก็มองไปเห็นคนที่เขาเพิ่งให้ตำแหน่งใหม่ๆ"จะให้อะไรคะ" อัญญามองตามสายตานรสิงห์ออกไป เพราะตอนที่เธอเข้ามาประตูห้องไม่ได้ปิด"ให้ผู้ช่วยทั่วไปไปจัดหามาให้""ผู้ช่วยทั่วไปหรือคะ?" อัญญายังไม่รู้ว่ามีตำแหน่งนี้ด้วย บนชั้นนี้มีผู้ช่วยหลายตำแหน่ง แต่ยังไม่เคยได้ยินผู้ช่วยทั่วไปเลย"เธอ" อิ่มเอมที่นั่งอยู่หน้าห้องได้ย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-28
  • นรสิงห์ [มาเฟียร้ายรัก]   บทที่ 7

    "เรียกทุกคนมาพบฉันที่ห้องประชุม" มาถึงเขาก็สั่งทุกคนที่อยู่ชั้นผู้บริหารให้เข้ามาในห้องประชุม และยังมีคำสั่งอีกอย่างก็คือทุกคนวางโทรศัพท์มือถือไว้ข้างนอก แม้แต่กระเป๋าตังค์ก็ห้ามนำเข้ามา"เกิดอะไรขึ้น""นั่นสิมันเกิดอะไรขึ้น" เหตุการณ์แบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้น ถ้าท่านรองจะเรียกคือเรียกแค่แผนก อย่างเช่นแผนกเลขานุการหรือผู้ช่วยเลขา แต่นี่เล่นเรียกทั้งหมดแม้แต่แม่บ้านยังเรียก"มาครบทุกคนหรือยัง""ยังไม่ครบค่ะพนักงานใหม่ยังไม่มา""มันเกิดอะไรขึ้นครับท่านรอง" ธันวาสงสัยเพราะเหมือนมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น"ใช่ค่ะมันเกิดอะไรขึ้น" อีกคนที่สงสัยก็คืออัญญาที่อยู่ในห้องประชุมด้วย"พนักงานใหม่มาแล้วค่ะ""มีอะไรคะ" ไอรีสถามสิธาแต่เธอก็คิดไว้แล้วแหละว่ามันต้องเกี่ยวกับเรื่องที่เขารับโทรศัพท์เมื่อเช้านี้แน่เลยก๊อกแก๊ก~ ขณะเดียวกันด้านนอกก็กำลังมีคนค้นหาหลักฐาน ไอรีสที่อยู่ใกล้ประตูที่สุดมองผ่านช่องประตูออกไปดู ก็เห็นว่าแผนกไอทีและแผนกรักษาความปลอดภัยกำลังเดินกันให้วุ่นก๊อกๆ ผ่านไปไม่นานก็มีคนมาเคาะประตู"เจอหลักฐานแล้วครับ""หลักฐานอะไร!?" พอได้ยินคำพูดประโยคเมื่อครู่ทุกคนต่างก็ตื่นตกใจ มันต้องเกี่ยวกับที่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-28
  • นรสิงห์ [มาเฟียร้ายรัก]   บทที่ 8

    เขาจะมองอะไรเรานักหนา ตอนที่เธอเล่านิทานจนจบเรื่อง สายตาของท่านรองประธานเอาแต่จับจ้องมาที่เธอ จนตอนนี้เขายังไม่ละสายตาไปจากใบหน้าของเธอเลย"สิงห์คะ" เห็นสายตาของทั้งสองมองกันอัญญาก็รีบขัดจังหวะ​ "ฉันอยากให้คุณตรวจสอบให้ดีก่อน อย่าเพิ่งเชื่อคำพูดของพนักงานใหม่ เพราะเราก็ไม่รู้ว่าเป็นเธอเองหรือเปล่าที่เป็นหนอนบ่อนไส้""เชิญตรวจสอบเลยค่ะ ถ้าข้อมูลฉันหายากคุณถามจากท่านรองประธานได้เลยนะคะ" นอกจากจะไม่กลัวแล้วเธอยังท้าทายอีกผู้หญิงคนนี้ตอนอยู่บ้านกับอยู่ที่ทำงานคนละแบบกันเลย เธอเป็นคนที่มีสองบุคลิกหรือเปล่า ..เขาไม่ได้สงสัยเธอเรื่องข้อมูลที่หลุดออกไปเลย แต่เขาสงสัยว่าเธอเป็นคนยังไงกันแน่"เธอหมายความว่ายังไง ทำไมข้อมูลของเธอต้องถามจากท่านรองด้วย""ก็ไม่รู้สิคะ พวกคุณยังอยากจะสอบสวนอะไรฉันอีกไหม""ออกไปก่อน" ได้ยินคำพูดประโยคนี้อิ่มเอมลุกก่อนใครเพื่อนเลย เพราะไม่อยากจะนั่งอยู่ในห้องนี้อีกแล้ว ..แต่ก็ถูกขวางไว้โดยหน่วยรักษาความปลอดภัย"คนอื่นออกไปได้ยกเว้นเธอ""ท่านรองค่ะอิ่มทำงานกับท่านรองมาก็หลายปีแล้ว อิ่มไม่เคยทำเรื่องแบบนี้เลย""ถ้าทำไม่ได้ทำไมไม่บอก" หลังจากที่ทุกคนไปแล้วเขาถึงได้หันมา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-28
  • นรสิงห์ [มาเฟียร้ายรัก]   บทที่ 9

    "อะไรนะคะสิงห์?" อัญญารีบเดินตามนรสิงห์เข้าไปในห้องทำงาน"ผมยังพูดไม่ชัดอีกเหรอ""ไม่ใช่แบบนั้นค่ะ แต่อัญอยากให้คุณคิดดูดีๆ ค่ะ ขนาดเลขาที่ทำงานมาด้วยกันตั้งหลายปียังไว้ใจไม่ได้ แล้วผู้หญิงคนนี้คุณจะไว้ใจให้มาเป็นเลขาส่วนตัวได้ยังไงคะ""เรื่องนั้นปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผมเอง คุณก็กลับไปทำงานได้แล้ว"ทีแรกไอรีสก็ตกใจที่เขาสั่งให้เธอไปนั่งตำแหน่งเลขา แต่พอเห็นท่าทีของคุณผู้จัดการแล้วเธอเลยคิดว่าเล่นกับเขาสักยกก็ดีเหมือนกัน​"เดี๋ยวพี่ช่วย" สิธารีบเข้าไปช่วยไอรีสเก็บของจากโต๊ะเดิมมาไว้ที่โต๊ะเลขา ..ทำงานที่นี่มาเกือบทั้งชีวิต ไม่สิ ต้องเรียกว่าทำงานมาตั้งแต่รุ่นแม่ เพิ่งเคยเจอคนนี้คนแรกที่กล้าต่อกรกับคนพวกนี้"ขอบคุณพี่มากนะคะที่ช่วย""ต่อไปนี้ไม่ต้องขอบคุณพี่แล้วนะมันเป็นหน้าที่""ถึงแม้จะเป็นหน้าที่ก็ต้องขอบคุณค่ะ"สิธามองเด็กคนนี้ไม่ผิดจริงๆ เธอต้องก้าวหน้าในหน้าที่การงานแน่ น้อยครั้งมากที่จะได้ยินคำว่าขอบคุณจากคนที่ทำงานบนชั้นนี้ เพราะทุกคนคิดว่ามันเป็นหน้าที่ของแม่บ้านตอนที่ไอรีสกำลังจัดโต๊ะประตูห้องท่านรองประธานก็เปิดออกมา พร้อมกับใบหน้าที่บึ้งตึงของคุณผู้จัดการ"เข้าไปชาร์จแบตตั้ง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-28
  • นรสิงห์ [มาเฟียร้ายรัก]   บทที่ 10

    ตอนที่ได้ยินพ่อกับลูกคุยกันนรสิงห์เอื้อมไปหยิบแก้วไวน์มาดื่ม เหมือนว่าไม่ได้สนใจกับคำพูดพวกนั้น ไอรีสที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็อดมองเขาไม่ได้ เขาต้องแอบสงสัยเรื่องนี้แน่ แต่ก็ช่างสิเปลี่ยนตัวคู่หมั้นไปเลยได้ยิ่งดี"อย่าสนใจคำพูดไอด้าลูกสาวคนเล็กผมเลยนะครับ แกเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ""ใช่ค่ะเพราะไอด้าไปต่างประเทศนี่แหละถึงได้มีคนมาสวมรอย""ที่หนูไอด้าพูดหมายความว่ายังไงหรือ" เด็กพูดมาขนาดนี้จะไม่ถามก็คงไม่ได้ อิทธิฤทธิ์เลยถามดู"คือเรื่องมันเป็นอย่างนี้ค่ะ""ไอด้า! ตามพ่อออกมานี่ก่อน" อดิเรกลากตัวลูกสาวออกมาคุยกันด้านนอก "เราเองไม่ใช่เหรอที่หัวเด็ดตีนขาดยังไงก็ไม่ยอมหมั้น""ก็ไอด้าไม่รู้นี่คะว่าเขาจะหล่อขนาดนี้""แต่มันสายไปแล้ว จำวันที่เราหนีตามไอ้หมอนั่นไปได้ไหม""ไอด้าก็กลับมาแล้วนี่ไงคะ แถมเลิกกับผู้ชายคนนั้นแล้วด้วย""พ่อก็บอกแล้วไงว่ามันสายไปแล้ว เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้อีกแล้ว""ทำไมจะเปลี่ยนแปลงไม่ได้ล่ะคะ วันนี้ไม่ใช่หรือคะที่เป็นวันฉลองการหมั้น พ่อก็บอกไปเลยสิว่าคู่หมั้นของคุณสิงห์คือไอด้า""ลูกรู้ไหมว่าคุณอิทธิฤทธิ์เป็นใคร คิดจะเปลี่ยนตัวเจ้าสาวก็เปลี่ยนได้ง่ายๆ งั้นหรือ""ยังไงไอด้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-28
  • นรสิงห์ [มาเฟียร้ายรัก]   บทที่ 11

    "คุณจะมานอนในห้องนี้ไม่ได้นะ""ทำไม.." ชายหนุ่มที่หันหลังถอดเสื้ออยู่ค่อยๆ หันกลับไปมองคนที่พูด"ก็..ก็..""อย่าลืมสิว่าวันนี้คือวันอะไร""ก็แค่หมั้น เรายังไม่ได้แต่งงานกันสักหน่อย""แต่คุณก็ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านผมแล้ว อย่าบอกนะว่าคุณคิดว่าผมจะทำอะไร" สายตาคนที่พูดมองตั้งแต่ใบหน้าต่ำลงไปจนถึงเท้า และสายตาเขาก็ไปสะดุดตรงเท้าของเธอ ตอนนี้มันบวมแดงคงเกิดจากการใส่รองเท้าส้นสูงนานไปหน่อย"ไม่ทำอะไรก็ดีแล้ว คุณหาที่นอนเสริมมาด้วย""หาที่นอนเสริม คนก็รู้น่ะสิว่าเราไม่ได้นอนด้วยกัน""ใครจะรู้ก็ช่างเขาปะไร""คุณก็เห็นแล้วว่าพ่อผมเป็นคนนิสัยยังไง""คุณกลัวพ่อด้วยเหรอ""ขนาดคุณยังกลัวเลย" ถ้าเป็นแต่ก่อนเขาคงพูดคำนี้ออกมาไม่ได้ แต่วันนี้เขาเห็นอะไรหลายๆ อย่าง"ไม่รู้ล่ะ ยังไงฉันก็ไม่ให้คุณนอนบนเตียงด้วย"ชายหนุ่มส่ายศีรษะเหมือนเอือมระอาก่อนจะถอดเสื้อออกเผยให้เห็นรอยสักนี่เขาสักลายเยอะขนาดนี้เลยเหรอ มาอยู่ที่นี่ก็เดือนกว่าแล้วมั้ง เพิ่งเห็นนี่แหละว่าร่างกายของเขามีรอยสักด้วย"จะมองอีกนานไหม""....." เผลอไปสำรวจรอยสักของเขาจนเจ้าตัวจับได้ "แล้วนี่ทำไมคุณต้องมาถอดเสื้อผ้าในห้องฉันด้วย""จะอาบน้ำก็ต้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-04
  • นรสิงห์ [มาเฟียร้ายรัก]   บทที่ 12

    "พ่อเพิ่งรู้ว่าเราให้น้องรับตำแหน่งเลขา" คำพูดแรกที่เห็นหน้าลูกชายในห้องทำงานชายหนุ่มเหลือบตาขึ้นมองดูพ่อเล็กน้อยก่อนจะตวัดสายตาไปมองเธอที่เดินเข้ามาพร้อมกับท่าน"ชั้นผู้บริหารตอนนี้ว่างแค่เลขาครับพ่อ""ก็ให้น้องเป็นผู้ช่วยของเราไง เรายังไม่มีผู้ช่วยไม่ใช่เหรอ" ถึงแม้มันจะเป็นคำถามแต่ก็เหมือนเป็นคำสั่งไปในตัว"คงยังไม่ได้หรอกครับพ่อ เธอเพิ่งเข้ามาทำงาน ยังไม่รู้เลยว่าเธอทำอะไรได้บ้าง"ไอรีสไม่ได้เสียมารยาทพูดแทรก เธอทำแค่ยืนฟังอยู่เงียบๆ"ถ้าเราไม่ให้น้องเป็นผู้ช่วยงั้นพ่อจะให้เป็นผู้ถือหุ้นเลยดีไหม จะได้นั่งตำแหน่งเดียวกับเราไปเลย""ไม่ได้นะครับพ่อ" ชายหนุ่มรีบหยุดยั้งพ่อไว้ก่อน ช่วงนี้ท่านยิ่งทำอะไรเอาแต่ใจ ไม่เคยจะปรึกษาเขาหรอก"วิกฤตครั้งนี้ผ่านพ้นไปได้เพราะน้องเรายังไม่เชื่อใจอีกเหรอ""เรายังจับตัวการไม่ได้เลยครับ ผมขอเวลาหน่อยแล้วกัน"ถามเราหรือยังว่าอยากเป็นผู้ช่วยเขาไหม แค่เลขายังไม่อยากเป็นเลย ..เธอทำได้แค่คิดอยู่ในใจ ถ้าสิ่งนี้ไม่เกี่ยวกับธุรกิจของพ่อ สาบานได้เลยว่าเธอคงไม่ยืนอยู่ตรงนี้แน่"เที่ยงนี้ออกไปทานข้าวด้วยกันนะ""ค่ะ" ไอรีสเห็นว่าประโยคนี้ท่านหันมาพูดกับเธอ แต่พอพ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-04

บทล่าสุด

  • นรสิงห์ [มาเฟียร้ายรัก]   บทที่ 116 ตอนจบ 2 ทันน์

    Set มาเฟียร้ายรัก Ep 116 ตอนจบทันน์"ทำไมมานอนตรงนี้ล่ะ ชอบนอนโซฟาไม่ใช่เหรอก็ไปนอนที่เดิมสิ" อลิสรู้สึกตัวตอนที่ทันน์ขยับตัวเข้ามานอนใกล้ๆทันน์ไม่ได้ตอบแต่เขาขยับมือต่ำลงไปสำรวจดูว่าทางโล่งหรือเปล่า เพราะเมื่อวานได้ยินว่าเธอใกล้จะเป็นประจำเดือน"คุณ!" อลิสดึงมือนั้นออกไป ทันน์ยอมเอามือออกมาแต่ที่เอาออกมาเพราะจะถอดเสื้อผ้า "ไปนอนโซฟาเลยนะถ้าไม่งั้นก็กลับไปนอนที่คอนโด"ไม่ว่าเธอจะพูดอะไรเขาก็ทำเฉย แถมยังถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกก่อนจะโน้มตัวไปจับเธอคว่ำลงโดยที่อีกฝ่ายไม่ทันตั้งตัว"โอ๊ยฉันเจ็บนะ" หลังจากที่จับเธอคว่ำลงแล้วเขาก็ดึงกางเกงชุดนอนที่เธอใส่อยู่ขยับออกจนเลยสะโพกลงมา "คุณทันน์!"ผ่านไปครู่หนึ่งจากเสียงต่อว่าเมื่อครู่กลายเป็นเสียงคราง เพราะเขาสอดใส่ผ่านทางด้านหลังเข้ามาแล้วก็กระแทก ตัวแค่นี้หรือจะมาสู้ได้ ก็รู้อยู่ว่าเขาเป็นคนชอบใช้กำลังไม่ชอบพูดจากท่าคว่ำทันน์ก็เปลี่ยนเป็นท่าตะแคงข้างโดยที่เขายังคงสอดใส่ผ่านทางด้านหลังอยู่เวลาผ่านไปทุกอย่างก็ได้หยุดลงพร้อมกับคนตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมกอดแบบหมดเรี่ยวแรง"อารมณ์ดีขึ้นหรือยัง" เห็นว่าเธอไม่โวยวายเหมือนตอนแรกแล้ว"ยังจะมาพูดอีก!" นี่

  • นรสิงห์ [มาเฟียร้ายรัก]   บทที่ 115 ตอนจบ 1 ตุนท์

    Set มาเฟียร้ายรัก Ep 115 ตอนจบตุนท์อัคคีมองตามสาวเอ็นเตอร์เทรน อยู่ดีๆ เธอก็ลุกเดินออกจากห้องไปเลย ที่จริงมันทำได้มากกว่านี้ไม่ใช่เหรอ บางทียังเห็นแขกคนอื่นล้วงอยู่เลยแต่เขาทำแค่จูบเองนะข้าวปุ้นพยายามอดกลั้นอารมณ์ตัวเองมาก ถ้าไม่ใช่เพื่อนของเสี่ยป่านนี้ถูกฝ่ามือเธอไปแล้ว อยู่ดีๆ ก็มาขโมยจูบไป"นั่นใช่คุณข้าวปุ้นไหม" ระย้ามองเห็นตอนเดินผ่านห้องทำงานแค่แว๊บเดียว"ใช่.. แล้วทำไมออกมาแล้วล่ะ" อลิสเลยรีบไปดูแขกที่ห้องพิเศษ พอไปถึงก็เห็นว่ามีเด็กใหม่เข้ามาเอ็นเตอร์เทนเสี่ยอัคคีแล้ว หรือว่าข้าวปุ้นงอนเรื่องนี้ ต้องใช่แน่ๆ เลยใครปล่อยให้เด็กเข้ามาเนี่ย ..ค่อยหาโอกาสใหม่แล้วกัน อุตส่าห์ได้โอกาสดีๆ แล้วเชียวดึกๆ ของคืนเดียวกัน..นเรศวรแวะเข้ามาดูงานได้ครู่หนึ่งพอรู้ว่าอัคคียังไม่ออกไปเลยแวะมาที่ห้องพิเศษ"เป็นยังไงบ้างครับคุณอัคคี" ทั้งสองไม่ได้สนิทกันมากมายรู้จักกันผ่านทางเพื่อน เวลาพูดคุยเลยใช้คำเหมือนที่พูดกับเพื่อนสนิทไม่ได้"นึกว่าคุณจะไม่เข้า""ภรรยาผมใกล้คลอดเลยไม่อยากปล่อยไว้คอนโดตามลำพังครับ""อ้าว ใกล้คลอดแล้วเหรอครับ"ระหว่างที่ทั้งสองพูดคุยกัน ก็เห็นว่าทันน์ที่ยืนรอรับใช้อยู่เหมื

  • นรสิงห์ [มาเฟียร้ายรัก]   บทที่ 114

    ช่วงเที่ยงคืนของคืนนั้น.."ไปทานข้าวด้วยกันค่ะ" ระย้าถือวิสาสะเปิดประตูเข้ามาในห้องของข้าวปุ้นเพื่อชวนออกไปทานข้าวด้วยกัน"ชวนข้าวเหรอคะ" นอกจากคุณทรงอัปสรแล้วคนอื่นไม่ค่อยมาชวนเธอไปทานข้าวด้วยหรอก อาจเพราะเธอทำงานอยู่คนละโซนกัน และส่วนมากข้าวปุ้นก็จะสั่งอาหารที่นี่เข้ามาทานในห้อง"หรือว่าคุณข้าวจะทานข้าวในห้องคะ""ข้าวไปได้ค่ะ" ข้าวปุ้นเอื้อมไปหยิบกระเป๋าสะพายแล้วก็เดินตามระย้าออกมาทีแรกคิดว่าจะมากันแค่สามคน แต่ที่ไหนได้พอออกมาถึงด้านหน้าแฟนของทั้งสองก็รออยู่ แสดงว่าเราเป็นส่วนเกินหรือเปล่าเนี่ย"คุณข้าวชอบทานอะไรคะ""ทานเหมือนกันนั่นแหละค่ะ""ถ้างั้นสั่งทีเดียวเลยนะคะ"เข้ามาผู้ชายก็เดินไปเตรียมน้ำมาให้ ทีแรกข้าวปุ้นจะไปเตรียมน้ำของตัวเองแล้ว แต่อลิสบอกว่าไม่ต้องเดี๋ยวมีคนเตรียมมาให้ไม่นานอาหารก็ถูกนำมาวางบริการ ข้าวปุ้นเพิ่งรู้สึกว่าส่วนเกินมันเป็นแบบนี้นี่เอง เพราะคนรักเขาเทคแคร์กันแบบไม่สนใจคนโสดเลยที่อลิสและระย้าทำแบบนี้อยากให้ข้าวปุ้นมีความกล้าขึ้นมาหน่อยหลังทานข้าวเสร็จพวกเธอก็กลับเข้ามาที่ทำงาน ส่วนทันน์และตุนท์ก็ต้องแบ่งงานกันทำเหมือนเคยจนถึงช่วงเลิกงานอลิสเดินกลับมาที่

  • นรสิงห์ [มาเฟียร้ายรัก]   บทที่ 113

    "เท้าไม่เป็นอะไรแล้วเหรอทำไมใส่ส้นสูง" หลังจากส่งเจ้านายห้องทำงานเสร็จแล้วตุนท์ก็รีบออกมาดูระย้า เห็นตอนที่เธอกำลังคุยอยู่กับข้าวปุ้นพอดี"โอ๊ย.." ทีแรกก็ยืนดีๆ อยู่นี่แหละ แต่พอเห็นสามีเดินเข้ามาเริ่มเจ็บเท้าขึ้นมาเลย และข้าวปุ้นที่ยืนอยู่ด้วยกันอดมองลงไปดูเท้าของระย้าไม่ได้ เมื่อสักครู่ยังเห็นเดินปกติอยู่เลย หรือว่าจะเริ่มเจ็บแผลแล้ว"คุณเจ็บแผลเหรอคะ""เปล่าค่ะคุณลุกขึ้นมาก่อน เดี๋ยวฉันทำอะไรให้ดู" ระย้ารีบบอกข้าวปุ้นที่กำลังจะก้มลงไปช่วยขยับรองเท้าออกให้ลุกขึ้นมาก่อน "รู้สึกเจ็บนิดหน่อยค่ะ" แต่พอตุนท์เดินเข้ามาใกล้ระย้าก็ทำทีเป็นยืนไม่อยู่ จนฝ่ายชายต้องรีบเข้าไปประคอง"โอ๊ยยังเจ็บอยู่เลยค่ะ" เห็นว่าเธอยังเจ็บอยู่ตุนท์เลยโน้มลำตัวลงไปอุ้มร่างของเธอขึ้นมา ตอนที่ร่างของเธอลอยขึ้นจากพื้นระย้าก็หันไปขยิบตาใส่ข้าวปุ้น และก็บอกให้ข้าวปุ้นดูไว้ผู้หญิงต้องมีมารยาบ้าง"หึหึหึ" ข้าวปุ้นอดขำในความน่าเอ็นดูของระย้าไม่ได้ คิดว่าพอจะรู้แล้วที่ระย้าทำเมื่อครู่คงอยากให้เธอเรียนรู้เรื่องนี้ไปใช้กับผู้ชายที่ชื่ออัคคีแน่เลย โอ๊ยฉันจะบ้าตาย หวังว่าเรื่องนี้คงจะจบลงแค่นี้นะ"คุณจะพาฉันไปไหน" มัวบอกให้

  • นรสิงห์ [มาเฟียร้ายรัก]   บทที่ 112

    "ผมทำอะไรผิดอีกหรือเปล่า" ตุนท์เห็นเธอยิ้มตอนเขาเดินเข้ามาหาเลยรู้สึกเสียวๆ"ฉันจะกลับขึ้นห้องแล้วค่ะ คุณจะทำงานต่อหรือจะกลับด้วยกัน" หลังจากที่รับรู้ว่าข้าวปุ้นไม่ได้สนใจสามีเธอก็รู้สึกสบายใจขึ้นมา จริงๆ ถ้าเขาจะชอบกับข้าวปุ้นป่านนี้คงไม่เหลือรอดมาถึงเธอหรอก แต่ไม่รู้ทำไมอยู่ดีๆ ก็รู้สึกหึง ถึงแม้ว่าเขาจะไม่สนใจผู้หญิงคนอื่นแต่เธอก็ไม่อยากให้ผู้หญิงคนอื่นมาสนใจเขา"ผมเคลียร์งานเสร็จแล้ว เดี๋ยวหลังเลิกงานผมค่อยลงมาดูแลเจ้านาย" ทิ้งงานให้ทันน์ทำมาหลายวันแล้ว ถ้าจะทิ้งอีกก็กลัวมันจะโวยวายระย้ายอมให้เขาโอบร่างพาเดินกลับห้องพัก เท้าเธอดีขึ้นมากแล้วแต่มันก็ยังรู้สึกเจ็บอยู่"ฉันขออาบน้ำก่อนค่ะ" เข้ามาถึงตุนท์ก็ไม่ปล่อยเวลาให้เสียเปล่า แต่ตอนที่เขากำลังจะจูบระย้าก็เบือนหน้าหลบ"ผมเห็นคุณเปลี่ยนชุดแล้วนี่""อาบน้ำตั้งหลายชั่วโมงแล้วค่ะ""หลายชั่วโมงก็ยังหอมอยู่""ไม่ได้ค่ะยังไงฉันก็ต้องไปอาบน้ำก่อน" ยังไงต้องไปล้างให้สะอาดก่อนแล้วกัน เพราะเขาเล่นสัมผัสทุกส่วนของร่างกายตอนที่น้ำฝักบัวกำลังไหลรินลงมาชโลมร่างกาย ประตูห้องน้ำก็ถูกเปิดเข้ามา"ฉันอาบน้ำยังไม่เสร็จเลย""อาบด้วยกันก็ได้"เข้ามาแทน

  • นรสิงห์ [มาเฟียร้ายรัก]   บทที่ 111

    กลับไปถึงห้องก็ไม่เห็นเธอ ตุนน์เลยรีบออกไปดูร้านอาหารหน้าสถานบันเทิง ที่เขาไม่ได้โทรไปเพราะเห็นอยู่ว่าโทรศัพท์เธอไม่ได้ถือออกไปด้วย แต่พอเดินดูก็ไม่เห็น ..แม้แต่ร้านที่เธอไม่เคยมาทานเขาก็ยังไปดูเลย"ไปไหนของเธอเนี่ย" หรือว่าบางทีเธออาจจะไปหาอลิส คิดได้แบบนั้นตุนท์เลยลองกดโทรเข้าเครื่องของอลิสดู แต่คำตอบที่ได้ไม่เห็นระย้ามา และอลิสยังถามอีกว่าระย้ากลับมาด้วยเหรอ ตอนนั้นยังนึกเสียใจอยู่เลยว่ายังไม่ได้บอกลากันก๊อกๆ ตอนที่ระย้านั่งเศร้าอยู่ก็มีคนมาเคาะประตูห้องเธอเลยเงยหน้าขึ้นมอง"อ้าวคุณระย้า?" คนที่เข้ามาก็คือข้าวปุ้น ข้าวปุ้นว่าจะเข้ามาคุยงานกับอลิสมองเห็นว่ามีคนนั่งอยู่ในห้องหัวหน้าก็คิดว่าเป็นอลิส"ทำไมเห็นฉันแล้วต้องตกใจด้วยล่ะคะ""?" ข้าวปุ้นแปลกใจกับคำถามนี้ แต่ก็ต้องรีบสลัดมันออกไปก่อน"ได้ยินคุณตุนท์บอกว่าคุณอยู่ที่ห้องนี่คะ""เขาบอกแบบนั้นหรือคะ""เอ่อ..ค่ะ..?" ข้าวปุ้นชักจะสงสัยกับท่าทีนี้แล้ว ก่อนหน้าระย้าไม่ได้เป็นคนแบบนี้นี่ ทำไมช่วงหลังมาถึงพูดกับเธอแปลกๆ"มาอยู่นี่เองบอกแล้วใช่ไหมว่าให้อยู่ห้อง" ตุนท์เดินตามหาไม่เจอเลยเข้ามาดูในห้องทำงานและก็เป็นแบบที่เขาคิดไว้จริงๆ "อ้

  • นรสิงห์ [มาเฟียร้ายรัก]   บทที่ 110

    "???" เห็นนายทะเบียนยื่นเอกสารสำคัญมาให้เซ็น เธอถึงได้รู้ว่าที่เขาพามาคือมาจดทะเบียนสมรส เพราะแบบนี้เองเหรอที่เขาบอกจะทำให้เชื่อใจว่าเขาจะไม่ทิ้งขว้างเธอตุนท์หยิบปากกามาแล้วก็เซ็นชื่อนามสกุลลงไปก่อน หลังจากที่เขาเซ็นเสร็จแล้วก็ส่งปากกาให้กับเธอ"คุณไม่ได้บอกฉันเรื่องนี้" ยอมรับว่าตกใจมากแต่งงานก็ยังไม่ได้ขอแต่ง บอกรักปุ๊บก็พามาจดทะเบียนสมรสเลยใครจะไม่ตกใจล่ะ"คุณพูดเมื่อคืนนี้เองไม่ใช่เหรอ กลัวว่าผมจะไม่จริงจังกับความสัมพันธ์ครั้งนี้" นี่แหละมันเป็นสิ่งที่ยืนยันยิ่งกว่าการกระทำและคำพูดว่าเขาจริงจังกับเธอแค่ไหน"ทั้งสองได้ตกลงกันมาเรียบร้อยแล้วใช่ไหมครับ" เป็นหน้าที่ของนายทะเบียนที่ต้องดูให้แน่ใจว่าไม่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งถูกบังคับให้มาจดทะเบียนสมรส"เราตกลงกันแล้วค่ะ" หญิงสาวพูดพร้อมกับเอื้อมมือไปหยิบปากกานั้นมาเขียนชื่อและนามสกุลของเธอลงไป และนายทะเบียนก็สอบถามว่าฝ่ายหญิงจะยังใช้นามสกุลตัวเองหรือเปลี่ยนมาใช้นามสกุลฝ่ายชาย "ฉันจะใช้นามสกุลสามีค่ะ"ตุนท์เผยรอยยิ้มออกมาตอนได้ยินเธอบอกจะใช้นามสกุลสามี แบบนี้สินะเขาถึงเรียกว่าคนที่ใช่มักมาในเวลาที่เหมาะสมตามด้วยพยานอีกสองคนที่ต้องเซ็น เพราะ

  • นรสิงห์ [มาเฟียร้ายรัก]   บทที่ 109

    บ้าหรือไงเล่นขอกันตรงๆ แบบนี้ จากที่นอนหันหลังให้ระย้าก็ค่อยๆ นอนหงาย ทีแรกตุนท์ก็เตรียมตัวตั้งการ์ดไว้แล้วล่ะ เผื่อกำปั้นของเธอสวนกลับมาจะได้ไม่ถูกจุดสำคัญ แต่พอนอนหงายระย้าก็นิ่งเงียบไม่พูดไม่จา"?" ตุนท์รับรู้ได้ในทันทีว่าเธออนุญาต ถึงแม้ไม่อนุญาตเขาก็ไม่รอแล้วนะผ้าเช็ดตัวที่ยังคงพันรอบเอวอยู่ถูกเขากระชากดึงทิ้งลงไปข้างเตียงก่อนจะพลิกกายคร่อมร่างเธอครั้งนี้เขาจะทำให้ดีที่สุดให้เธอติดใจถึงแม้ว่าเธอจะไม่ยอมกลับไปด้วย ก็จะให้เธอไม่มีวันลืมเขาไปตลอดชีวิตแต่ปัญหาคือเธอเจ็บขาเล่นท่ายากไม่ได้ด้วยสิ เขาต้องพลิกแพลงท่าใหม่แล้วล่ะ"พอก่อนค่ะ" ระย้าแทบจะหายใจไม่ทั่วท้อง ตอนที่บอกให้เขาพอก่อนไม่รู้ว่าเสียงพูดหรือเสียงหอบหายใจดังกว่ากัน แต่ตุนท์ก็ไม่คิดจะหยุดเขายังคงเดินหน้าต่อ ตั้งแต่ลีลาการคว้านลิ้นแล้วจนมาถึงการคว้านท่อนเอ็นงัดซ้ายทีขวาที ทุกครั้งเขาก็ไม่ใช่ย่อยแต่ครั้งนี้เขาร้อนแรงกว่าทุกครั้งอีกกว่าจะจบครั้งแรกไปก็กินเวลาเป็นชั่วโมง"ขะ.. คุณจะทำอะไรอีก""แค่นี้คิดจะยอมแพ้แล้วเหรอ""คุณไปกินดีเสือมาหรือไง""จนกว่าคุณจะล้มเลิกเรื่องนั้นผมถึงจะปล่อยให้คุณพัก"ระย้ารู้ว่าเขาหมายถึงเรื่องอ

  • นรสิงห์ [มาเฟียร้ายรัก]   บทที่ 108

    "คุณจะทำอะไร" ระย้าขยับใบหน้าหลบริมฝีปากอีกฝ่ายที่โน้มเข้ามา แต่เขาก็ไม่ได้ตอบ หลังจากที่เธอเบือนหน้าหลบริมฝีปากนั้นก็ฝังจูบลงซอกคอแทนระย้านอนนิ่งโดยที่ไม่เอ่ยปากพูดอะไรอีก จนชุดที่เธอใส่อยู่ค่อยๆ ถูกถอดออกทีละชิ้นแบบระมัดระวังเพราะกลัวว่าจะไปถูกเท้าที่มีแผลเข้าหลังจากนั้นใบหน้าคมคายก็ได้ขยับต่ำลงไปซุกลงกับเนินน้องสาว"อือ" หญิงสาวทำได้แค่นอนเกร็ง จังหวะนั้นมือหนาก็ได้เกี่ยวเรียวขาข้างที่ได้รับบาดเจ็บยกขึ้นก่อนจะนำหมอนมาวางใต้ท้องขา เพื่อทำให้แผลไม่ต้องสัมผัสกับที่นอนจากนั้นตุนท์ก็ขยับใบหน้าต่ำลงพร้อมกับใช้ลิ้นชโลมเลียร่องสวาทที่เขาโหยหา"อื้อออ" ตอนลิ้นสากตวัดเกี่ยวยอดเม็ดเสียว คนตัวเล็กที่นอนเกร็งอยู่ถึงกับกระตุกไปตามแรงตวัดลิ้นความต้องการในร่างกายเธอมันสูงมาก สูงจนเขาคิดว่าคืนนี้ยังไงก็ยับยั้งตัวเองไม่อยู่แน่ จังหวะนั้นเขาก็ยังคงลงลิ้นให้เธอต่อเพราะเสียงครวญครางนั้นช่างน่าหลงใหลไม่ต่างจากร่างกายของเธอเลยระย้าทนความช่ำชองในการใช้ลิ้นของเขาไม่ไหว จนเท้าเผลอจิกลงพื้นที่นอน แต่เธอก็รีบเอามือมาปิดปากไว้ไม่อยากร้องเจ็บกลัวว่าเขาจะหยุดเห็นเธอดิ้นพล่านชายหนุ่มก็อดไม่ได้อีกต่อไปแล้ว ร

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status