แชร์

บทที่ 8

ผู้เขียน: ชะนีติดมันส์
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-28 08:07:26

เขาจะมองอะไรเรานักหนา ตอนที่เธอเล่านิทานจนจบเรื่อง สายตาของท่านรองประธานเอาแต่จับจ้องมาที่เธอ จนตอนนี้เขายังไม่ละสายตาไปจากใบหน้าของเธอเลย

"สิงห์คะ" เห็นสายตาของทั้งสองมองกันอัญญาก็รีบขัดจังหวะ​ "ฉันอยากให้คุณตรวจสอบให้ดีก่อน อย่าเพิ่งเชื่อคำพูดของพนักงานใหม่ เพราะเราก็ไม่รู้ว่าเป็นเธอเองหรือเปล่าที่เป็นหนอนบ่อนไส้"

"เชิญตรวจสอบเลยค่ะ ถ้าข้อมูลฉันหายากคุณถามจากท่านรองประธานได้เลยนะคะ" นอกจากจะไม่กลัวแล้วเธอยังท้าทายอีก

ผู้หญิงคนนี้ตอนอยู่บ้านกับอยู่ที่ทำงานคนละแบบกันเลย เธอเป็นคนที่มีสองบุคลิกหรือเปล่า ..เขาไม่ได้สงสัยเธอเรื่องข้อมูลที่หลุดออกไปเลย แต่เขาสงสัยว่าเธอเป็นคนยังไงกันแน่

"เธอหมายความว่ายังไง ทำไมข้อมูลของเธอต้องถามจากท่านรองด้วย"

"ก็ไม่รู้สิคะ พวกคุณยังอยากจะสอบสวนอะไรฉันอีกไหม"

"ออกไปก่อน" ได้ยินคำพูดประโยคนี้อิ่มเอมลุกก่อนใครเพื่อนเลย เพราะไม่อยากจะนั่งอยู่ในห้องนี้อีกแล้ว ..แต่ก็ถูกขวางไว้โดยหน่วยรักษาความปลอดภัย

"คนอื่นออกไปได้ยกเว้นเธอ"

"ท่านรองค่ะอิ่มทำงานกับท่านรองมาก็หลายปีแล้ว อิ่มไม่เคยทำเรื่องแบบนี้เลย"

"ถ้าทำไม่ได้ทำไมไม่บอก" หลังจากที่ทุกคนไปแล้วเขาถึงได้หันมาคุยกับเลขาส่วนตัว

"คืออิ่มอยากจะเป็นคนที่ทำงานเก่งในสายตาของท่านรองค่ะ"

"เธอน่าจะรู้นะว่าข้อมูลบริษัทห้ามนำออกไปภายนอกเด็ดขาด"

"อิ่มจะจำบทเรียนครั้งนี้ไว้ อภัยให้อิ่มด้วยนะคะ"

"แสดงว่าเธอยอมรับแล้ว..ว่าเป็นฝีมือของเธอที่ทำข้อมูลรั่วไหล"

หลังจากที่ทุกคนออกมาไม่นาน ตำรวจก็ขึ้นมาพาตัวอิ่มเอมออกไป ไม่ว่าจะพูดยังไงมันก็คือความผิด ต้องดำเนินคดีไปตามกฎหมาย เพราะความผิดครั้งนี้ทำให้บริษัทสูญเสียไปไม่ใช่น้อย

"ไม่คิดเลยว่าคุณอิ่มจะทำเรื่องนี้ได้" หลายคนต่างก็วิพากษ์วิจารณ์กัน

"ใช่ไม่น่าพลาดเลย พวกเราก็ระวังให้ดีแล้วกัน"

ในห้องเครื่องดื่ม..

"พี่ดีใจนะที่เราไม่เกิดเรื่อง"

"ก็เกือบไปแล้วล่ะค่ะ"

"ทีหลังก็ระวังหน่อยนะ จำไว้ว่าถ้าใครใช้ให้ทำอะไรต้องคิดให้ดีก่อนว่ามันจะเข้าตัวเราไหม"

"พี่น่าจะทำอะไรได้มากกว่าจำเจอยู่แต่ในห้องนี้นะคะ"

"แบบพี่จะทำอะไรได้ล่ะ เรียนก็ไม่จบ"

"พี่เรียนอะไรมาคะ"

"ช่างมันเถอะ พี่พอใจกับงานที่ทำอยู่แล้วล่ะ"

"แม่สีทาบ้าน ไม่เห็นหรือไงว่าท่านรองออกมาจากห้องประชุมแล้ว ทำไมยังไม่ไปเก็บทำความสะอาดอีก มัวแต่คุยกันอยู่นั่นแหละ" คนที่มาตามสิธาชื่อกรกนกเป็นเลขาของผู้จัดการทั่วไป

เพล้ง!! เสียงแก้วกาแฟในมือกระทบกับซิงค์ล้างจานอย่างแรง จนคนที่ยืนคุยกันอยู่หน้าห้องท่านรองประธานหันมามองแทบจะทุกคน และหนึ่งในนั้นก็มีเจ้าของห้องอยู่ด้วย

"เป็นบ้าอะไรของเธอ" เป็นกรกนกอีกนั่นแหละที่ตะคอกให้ไอรีส​ เพราะเธอวางแก้วกาแฟเหมือนประชดประชัน​

"สมองคุณมีปัญหาหรือเปล่า พี่เขาไม่ได้ชื่อสีทาบ้านเรียกกันอยู่ได้"

"เขาก็เรียกกันมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว เธอเพิ่งเข้ามายังไม่รู้อะไรหรอก"

"แล้วคุณรู้ไหมว่าสิ่งที่คุณพูดมันคือการบูลลี่ ถ้าคุณไม่เข้าใจคำว่าบูลลี่ฉันจะบอกให้ มันเป็นการกลั่นแกล้งรังแกผู้อื่นทั้งทางวาจาและทางกาย"

"ฉันไปกลั่นแกล้งอะไรเธอแม่สี" เห็นว่าพูดสู้ไอรีสไม่ได้เลยหันไปใช้อำนาจกับแม่บ้าน

"สี? ฉันว่าสมองคุณคงสับสนแล้วล่ะ เป็นเลขาผู้จัดการได้ยังไง พี่เขาชื่อสิไม่ได้ชื่อสี" ขนาดเลี่ยงที่จะพูดกับไอรีสแล้วยังเจอเธอต่อว่าให้อีก

"เกิดอะไรขึ้น" อัญญาที่ยืนคุยอยู่หน้าห้องของท่านรองประธาน พร้อมกับผู้จัดการอีกหลายฝ่าย เพราะทุกคนกำลังพูดถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น แต่เรื่องในห้องเครื่องดื่มดึงความสนใจของทุกคนหมดเลย

"ก็แม่ผู้ช่วยนี่สิคะ ปากเก่งมากเลยค่ะ"

"เธอจะก่อเรื่องอะไรอีก ถ้าเธอยังก่อเรื่องอยู่อีกฉันคงให้เธออยู่ชั้นผู้บริหารไม่ได้แล้วนะ" อัญญาหันไปใช้อำนาจกับไอรีส

"ฉันก็ไม่อยากจะอยู่หรอกค่ะ ฝากคุณบอกท่านรองประธานด้วยนะคะว่ากรุณาย้ายฉันไปอยู่แผนกอื่นสักทีเถอะ" สายตาเธอตอนที่พูดประโยคนี้มองคนที่เธอกล่าวถึงโดยตรง

"สิงห์คะ"

"สิงห์คะแหวะ"

"หนูไอ" สิธาไม่อยากให้ไอรีสทำกิริยาแบบนี้กับผู้จัดการ แถมประโยคสุดท้ายยังพาดพิงไปถึงท่านรองประธานอีก

"อัญญาคิดว่าให้แม่นี่ลงไปทำงานฝ่ายประชาสัมพันธ์ดีไหมคะ ปากดีนัก"

"ดีค่ะ ฉันก็ไม่อยากจะอยู่ที่นี่เหมือนกันแหละ"

"เก็บของของเธอ"

"ท่านรองประธานคะ สิขอโทษแทนหนูไอด้วยค่ะ เธอไม่ได้ตั้งใจ"

"พี่ไม่ต้องพูดหรอก" ไอรีสรีบห้ามสิธาไม่ให้ขอร้อง เพราะเธอก็ไม่อยากจะอยู่ชั้นนี้หรอก ไม่รู้อะไรเหมือนเล่นขายของกันเลย "ให้ฉันเก็บของไปอยู่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ใช่ไหมคะ"

ดวงตาหลายคู่ ไม่สิ..ต้องเรียกว่าดวงตาทุกคู่เลยที่มองมาดูเหตุการณ์นี้ และต่างก็พึงพอใจมากที่เด็กใหม่จะถูกย้ายออกไป

"เก็บจากโต๊ะนั้นมานั่งโต๊ะนี้" สายตาคมมองต่ำลงไปดูโต๊ะหน้าห้องที่ตอนนี้มันว่างลงแล้ว

บทที่เกี่ยวข้อง

  • นรสิงห์ [มาเฟียร้ายรัก]   บทที่ 9

    "อะไรนะคะสิงห์?" อัญญารีบเดินตามนรสิงห์เข้าไปในห้องทำงาน"ผมยังพูดไม่ชัดอีกเหรอ""ไม่ใช่แบบนั้นค่ะ แต่อัญอยากให้คุณคิดดูดีๆ ค่ะ ขนาดเลขาที่ทำงานมาด้วยกันตั้งหลายปียังไว้ใจไม่ได้ แล้วผู้หญิงคนนี้คุณจะไว้ใจให้มาเป็นเลขาส่วนตัวได้ยังไงคะ""เรื่องนั้นปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผมเอง คุณก็กลับไปทำงานได้แล้ว"ทีแรกไอรีสก็ตกใจที่เขาสั่งให้เธอไปนั่งตำแหน่งเลขา แต่พอเห็นท่าทีของคุณผู้จัดการแล้วเธอเลยคิดว่าเล่นกับเขาสักยกก็ดีเหมือนกัน​"เดี๋ยวพี่ช่วย" สิธารีบเข้าไปช่วยไอรีสเก็บของจากโต๊ะเดิมมาไว้ที่โต๊ะเลขา ..ทำงานที่นี่มาเกือบทั้งชีวิต ไม่สิ ต้องเรียกว่าทำงานมาตั้งแต่รุ่นแม่ เพิ่งเคยเจอคนนี้คนแรกที่กล้าต่อกรกับคนพวกนี้"ขอบคุณพี่มากนะคะที่ช่วย""ต่อไปนี้ไม่ต้องขอบคุณพี่แล้วนะมันเป็นหน้าที่""ถึงแม้จะเป็นหน้าที่ก็ต้องขอบคุณค่ะ"สิธามองเด็กคนนี้ไม่ผิดจริงๆ เธอต้องก้าวหน้าในหน้าที่การงานแน่ น้อยครั้งมากที่จะได้ยินคำว่าขอบคุณจากคนที่ทำงานบนชั้นนี้ เพราะทุกคนคิดว่ามันเป็นหน้าที่ของแม่บ้านตอนที่ไอรีสกำลังจัดโต๊ะประตูห้องท่านรองประธานก็เปิดออกมา พร้อมกับใบหน้าที่บึ้งตึงของคุณผู้จัดการ"เข้าไปชาร์จแบตตั้ง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-28
  • นรสิงห์ [มาเฟียร้ายรัก]   บทที่ 10

    ตอนที่ได้ยินพ่อกับลูกคุยกันนรสิงห์เอื้อมไปหยิบแก้วไวน์มาดื่ม เหมือนว่าไม่ได้สนใจกับคำพูดพวกนั้น ไอรีสที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็อดมองเขาไม่ได้ เขาต้องแอบสงสัยเรื่องนี้แน่ แต่ก็ช่างสิเปลี่ยนตัวคู่หมั้นไปเลยได้ยิ่งดี"อย่าสนใจคำพูดไอด้าลูกสาวคนเล็กผมเลยนะครับ แกเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ""ใช่ค่ะเพราะไอด้าไปต่างประเทศนี่แหละถึงได้มีคนมาสวมรอย""ที่หนูไอด้าพูดหมายความว่ายังไงหรือ" เด็กพูดมาขนาดนี้จะไม่ถามก็คงไม่ได้ อิทธิฤทธิ์เลยถามดู"คือเรื่องมันเป็นอย่างนี้ค่ะ""ไอด้า! ตามพ่อออกมานี่ก่อน" อดิเรกลากตัวลูกสาวออกมาคุยกันด้านนอก "เราเองไม่ใช่เหรอที่หัวเด็ดตีนขาดยังไงก็ไม่ยอมหมั้น""ก็ไอด้าไม่รู้นี่คะว่าเขาจะหล่อขนาดนี้""แต่มันสายไปแล้ว จำวันที่เราหนีตามไอ้หมอนั่นไปได้ไหม""ไอด้าก็กลับมาแล้วนี่ไงคะ แถมเลิกกับผู้ชายคนนั้นแล้วด้วย""พ่อก็บอกแล้วไงว่ามันสายไปแล้ว เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้อีกแล้ว""ทำไมจะเปลี่ยนแปลงไม่ได้ล่ะคะ วันนี้ไม่ใช่หรือคะที่เป็นวันฉลองการหมั้น พ่อก็บอกไปเลยสิว่าคู่หมั้นของคุณสิงห์คือไอด้า""ลูกรู้ไหมว่าคุณอิทธิฤทธิ์เป็นใคร คิดจะเปลี่ยนตัวเจ้าสาวก็เปลี่ยนได้ง่ายๆ งั้นหรือ""ยังไงไอด้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-28
  • นรสิงห์ [มาเฟียร้ายรัก]   บทที่ 11

    "คุณจะมานอนในห้องนี้ไม่ได้นะ""ทำไม.." ชายหนุ่มที่หันหลังถอดเสื้ออยู่ค่อยๆ หันกลับไปมองคนที่พูด"ก็..ก็..""อย่าลืมสิว่าวันนี้คือวันอะไร""ก็แค่หมั้น เรายังไม่ได้แต่งงานกันสักหน่อย""แต่คุณก็ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านผมแล้ว อย่าบอกนะว่าคุณคิดว่าผมจะทำอะไร" สายตาคนที่พูดมองตั้งแต่ใบหน้าต่ำลงไปจนถึงเท้า และสายตาเขาก็ไปสะดุดตรงเท้าของเธอ ตอนนี้มันบวมแดงคงเกิดจากการใส่รองเท้าส้นสูงนานไปหน่อย"ไม่ทำอะไรก็ดีแล้ว คุณหาที่นอนเสริมมาด้วย""หาที่นอนเสริม คนก็รู้น่ะสิว่าเราไม่ได้นอนด้วยกัน""ใครจะรู้ก็ช่างเขาปะไร""คุณก็เห็นแล้วว่าพ่อผมเป็นคนนิสัยยังไง""คุณกลัวพ่อด้วยเหรอ""ขนาดคุณยังกลัวเลย" ถ้าเป็นแต่ก่อนเขาคงพูดคำนี้ออกมาไม่ได้ แต่วันนี้เขาเห็นอะไรหลายๆ อย่าง"ไม่รู้ล่ะ ยังไงฉันก็ไม่ให้คุณนอนบนเตียงด้วย"ชายหนุ่มส่ายศีรษะเหมือนเอือมระอาก่อนจะถอดเสื้อออกเผยให้เห็นรอยสักนี่เขาสักลายเยอะขนาดนี้เลยเหรอ มาอยู่ที่นี่ก็เดือนกว่าแล้วมั้ง เพิ่งเห็นนี่แหละว่าร่างกายของเขามีรอยสักด้วย"จะมองอีกนานไหม""....." เผลอไปสำรวจรอยสักของเขาจนเจ้าตัวจับได้ "แล้วนี่ทำไมคุณต้องมาถอดเสื้อผ้าในห้องฉันด้วย""จะอาบน้ำก็ต้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-04
  • นรสิงห์ [มาเฟียร้ายรัก]   บทที่ 12

    "พ่อเพิ่งรู้ว่าเราให้น้องรับตำแหน่งเลขา" คำพูดแรกที่เห็นหน้าลูกชายในห้องทำงานชายหนุ่มเหลือบตาขึ้นมองดูพ่อเล็กน้อยก่อนจะตวัดสายตาไปมองเธอที่เดินเข้ามาพร้อมกับท่าน"ชั้นผู้บริหารตอนนี้ว่างแค่เลขาครับพ่อ""ก็ให้น้องเป็นผู้ช่วยของเราไง เรายังไม่มีผู้ช่วยไม่ใช่เหรอ" ถึงแม้มันจะเป็นคำถามแต่ก็เหมือนเป็นคำสั่งไปในตัว"คงยังไม่ได้หรอกครับพ่อ เธอเพิ่งเข้ามาทำงาน ยังไม่รู้เลยว่าเธอทำอะไรได้บ้าง"ไอรีสไม่ได้เสียมารยาทพูดแทรก เธอทำแค่ยืนฟังอยู่เงียบๆ"ถ้าเราไม่ให้น้องเป็นผู้ช่วยงั้นพ่อจะให้เป็นผู้ถือหุ้นเลยดีไหม จะได้นั่งตำแหน่งเดียวกับเราไปเลย""ไม่ได้นะครับพ่อ" ชายหนุ่มรีบหยุดยั้งพ่อไว้ก่อน ช่วงนี้ท่านยิ่งทำอะไรเอาแต่ใจ ไม่เคยจะปรึกษาเขาหรอก"วิกฤตครั้งนี้ผ่านพ้นไปได้เพราะน้องเรายังไม่เชื่อใจอีกเหรอ""เรายังจับตัวการไม่ได้เลยครับ ผมขอเวลาหน่อยแล้วกัน"ถามเราหรือยังว่าอยากเป็นผู้ช่วยเขาไหม แค่เลขายังไม่อยากเป็นเลย ..เธอทำได้แค่คิดอยู่ในใจ ถ้าสิ่งนี้ไม่เกี่ยวกับธุรกิจของพ่อ สาบานได้เลยว่าเธอคงไม่ยืนอยู่ตรงนี้แน่"เที่ยงนี้ออกไปทานข้าวด้วยกันนะ""ค่ะ" ไอรีสเห็นว่าประโยคนี้ท่านหันมาพูดกับเธอ แต่พอพ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-04
  • นรสิงห์ [มาเฟียร้ายรัก]   บทที่ 13

    ห้องอาหารของโรงแรมที่เขานัดไว้"พี่คะ""มารอกันนานแล้วเหรอ""ยังไม่นานค่ะ คนนี้ไงคะคือคุณพ่อที่เลี้ยงดูไอเดียมา" ใช่แล้วคนที่นรสิงห์นัดเจอที่โรงแรมก็คือไอเดียน้องสาวที่เกิดจากมารดาแท้ๆ ของเขา เธอเป็นลูกสาวกับสามีใหม่ ทั้งสองเพิ่งรับรู้ว่าต่างก็มีพี่น้อง พ่อกับแม่ของไอเดียประสบอุบัติเหตุตั้งแต่เธอยังจำความไม่ได้ ตอนนั้นมีพลเมืองดีเข้ามาช่วย แล้วพลเมืองดีคนนั้นก็รับเลี้ยงน้องสาวของเขามาจนเติบโต (เรื่องนี้ติดตามอ่านได้ในเรื่องของเจ้าเวหา[มาเฟียร้ายรัก]เลยนะคะ ไอเดียคู่กับเจ้าวายุน้องชายของเจ้าเวหาค่ะ)"สวัสดีครับ" ที่เขานัดมาทานข้าวที่นี่เพราะอยากขอบพระคุณท่านที่ดูแลน้องสาวเขามาเป็นอย่างดี"สวัสดีครับ" ชัยนาทก็คือพลเมืองดีคนนั้น"ผมต้องขอบพระคุณคุณมาก ที่ดูแลน้องสาวผมเติบโตมาเป็นคนดีได้แบบนี้""คุณไม่ต้องขอบคุณผมหรอกครับ ผมเห็นไอเดียเป็นลูกสาวแท้ๆ คนหนึ่งของผมเลยครับ" ท่านยอมอดมื้อกินมื้อเพื่อเลี้ยงให้เธอเติบโต แม้แต่ทะเลาะกับภรรยาเรื่องที่ท่านส่งเสียไอเดียเรียน ท่านก็ทำเป็นหูทวนลมยังคงกัดฟันส่งเสียเธอเรียนจนถึงระดับมหาวิทยาลัย"ผมมีสินน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ ให้กับท่าน" นรสิงห์ยื่นเช็คเงินสดให

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-04
  • นรสิงห์ [มาเฟียร้ายรัก]   บทที่ 14

    หลังจากที่แจกจ่ายเอกสารกับผู้ถือหุ้นเสร็จแล้ว ไอรีสก็เลื่อนเก้าอี้มานั่งลงด้านหลัง แล้วเตรียมอุปกรณ์ของเธอให้พร้อม ระหว่างที่ท่านผู้บริหารทำการประชุมอยู่ เธอก็นั่งอยู่เงียบๆ พร้อมกับเก็บรายละเอียดไปด้วย"เธอไม่เห็นเหรอว่าประชุมกันอยู่ เธอเป็นเลขาทำไมไม่จด" ระหว่างที่ผู้บริหารกำลังพูดคุยกันอัญญาก็รู้สึกขวางหูขวางตา ที่ขวางหูขวางตาเพราะเห็นไอรีสเอาแต่มองมาที่นรสิงห์ บางทีเธอก็มองเขาเพลินไป ยอมรับว่าผู้ชายคนนี้สามารถดึงดูดเพศตรงข้ามได้ดีนัก แม้แต่เธอยังถูกดึงดูดเลย"ฉันบันทึกเสียงไว้แล้วค่ะ" จริงๆ ในห้องประชุมก็มีเครื่องบันทึกเสียงอยู่แล้ว เลขาคนก่อนๆ ก็ทำกันแบบนี้ แต่นอกจากบันทึกเสียงแล้วก็จดรายละเอียดไว้ด้วยเผื่อตอนที่ดึงข้อมูลออกมาอาจจะช้าและก็กันพลาดด้วย"เผื่อเครื่องบันทึกมีปัญหาไง เธอไม่คิดจะจดเลยเหรอ""ฉันบันทึกใส่เครื่องนี้ด้วยค่ะ" ไอรีสยกแท็บเล็ตของสำนักงานขึ้นมา เธอไม่เชื่อเครื่องบันทึกอยู่แล้วเผื่อเกิดเหตุขัดข้อง เธอเลยต้องบันทึกใส่อีกเครื่องหนึ่งไว้"ฉันพูดอะไรทำไมเธอไม่ฟัง​ รู้จักแต่จะเถียง" เห็นว่าสู้เธอไม่ได้ก็ดึงอำนาจออกมาใช้ "ถ้างานออกมาพลาดเหมือนเลขาคนก่อน​ บอกไว้ก่อนเล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-04
  • นรสิงห์ [มาเฟียร้ายรัก]   บทที่ 15

    หลังจากที่ทุกคนเห็น resume ของไอรีสแล้วในห้องประชุมเงียบไปชั่วขณะหนึ่ง ..ก่อนสายตาทุกคู่จะจับจ้องมาที่เธอคนเดียว"คุณจบด็อกเตอร์เลยเหรอ?" ธันวาเป็นคนที่ทำลายความเงียบในห้องประชุมก่อนแต่เวลานั้นเธออยากเห็นสีหน้าของคนที่เอาแต่พร่ำพรรณนาดูถูกเธอมาก"เดี๋ยวนะ ปริญญาโทสองใบ??" ผู้บริหารอีกท่านมองดูใหม่อีกรอบ ว่าจบปริญญาเอกน่าทึ่งแล้วได้ปริญญาโทมาสองใบนี่น่าทึ่งกว่าอีก"ตามนั้นเลยค่ะ" ที่จริงเธอว่าจะทำปริญญาเอกสองใบเหมือนกัน แต่พ่อเร่งเร้าให้กลับประเทศก่อน"เธอจะอายุเท่าไรเชียว ฉันไม่เชื่อหรอกว่าอายุแค่นี้จะจบปริญญาเอก" อัญญายังคงไม่ย่อท้อที่จะหาเรื่องอีกฝ่าย"ขอบคุณนะคะที่คุณมองว่าฉันยังเด็กอยู่"นรสิงห์เป็นอีกคนที่อยากรู้ว่าเธออายุเท่าไร เขาเลยมองดูวันเดือนปีเกิดในเอกสารนั้น ชายหนุ่มหายใจโล่งขึ้นมาหน่อยที่เธอยังอายุน้อยกว่าเขาอยู่ แต่ผู้หญิงอะไรเก่งชิบหายเลยหลังจากที่เหตุการณ์น่าตะลึงนี้ผ่านพ้นไปทุกคนก็กลับมานั่งประจำที่"แสดงว่า..""แสดงว่าอะไรของคุณคุณธันวา" ผู้บริหารที่นั่งอยู่ใกล้ๆ ธันวาถาม"ก็แสดงว่าคุณเลขาท่านรองประธาน เรียนจบสูงกว่าผู้บริหารในบริษัทนี้น่ะสิครับ" สิ้นคำพูดของธันวา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-04
  • นรสิงห์ [มาเฟียร้ายรัก]   บทที่ 16

    ถึงว่าเธอควบคุมอารมณ์ได้ดีมาก เขาหมายถึงตอนที่เขาเรียกเธอมาคุยส่วนตัว อยากจะทำความเข้าใจกับเธอ เรื่องที่ทั้งสองจำใจต้องหมั้นหมายโดยผู้ใหญ่ และเรื่องที่เขาบอกว่าถ้าเขาต้องการอิสรภาพหวังว่าเธอคงจะคืนให้ คำตอบที่เธอให้มามีแค่ "ค่ะ" คำเดียว ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นเขาคงเจอตบไปแล้ว"มึงคิดอะไรอยู่วะ""หือ? มึงว่าอะไรนะ""กูเห็นมึงยกแก้วนั้นนานแล้วนะเมื่อไรจะดื่มหมด""ชวนเพื่อนออกมาดื่มแบบนี้เมียที่บ้านมึงไม่ว่าเหรอ""ขอร้องมึงอย่าพูดถึงเมียได้ไหม""ฮ่าา มึงก็เจออีกคนแล้วใช่ไหมล่ะ""ทำเป็นขำเดี๋ยวมึงก็เจอเหมือนพวกกู""ไม่มีวันสะหรอก" เขาคงไม่ปล่อยให้ผู้หญิงมาควบคุมตัวเองได้หรอก"ว่าแต่เรื่องของมึง หมั้นแล้วจริงเหรอ""อืม""ไม่เห็นเชิญเพื่อนสักคน""ไว้วันแต่งเดี๋ยวกูเชิญ""อะไรนะ เมื่อกี้กูฟังผิดหรือเปล่า" ขุนรามแทบขยี้หูฟังใหม่ เพราะเคยได้ยินแต่เพื่อนบอกเซ็งไม่อยากหมั้นไม่อยากแต่งเลย มาคราวนี้พูดถึงเรื่องแต่งงานเดี๋ยวจะเชิญเพื่อนอีกที"สวัสดีค่ะเสี่ย" เด็กเอนเตอร์เทนเห็นว่าเสี่ยนั่งดื่มกันอยู่แค่สองคนเลยจะเข้ามาดูแล"ไม่ต้องหรอกดูแลเพื่อนผมเถอะ" ขุนรามรีบปฏิเสธบอกผู้หญิงให้ไปนั่งเป็นเพื่อนนรสิง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-04

บทล่าสุด

  • นรสิงห์ [มาเฟียร้ายรัก]   บทที่ 116 ตอนจบ 2 ทันน์

    Set มาเฟียร้ายรัก Ep 116 ตอนจบทันน์"ทำไมมานอนตรงนี้ล่ะ ชอบนอนโซฟาไม่ใช่เหรอก็ไปนอนที่เดิมสิ" อลิสรู้สึกตัวตอนที่ทันน์ขยับตัวเข้ามานอนใกล้ๆทันน์ไม่ได้ตอบแต่เขาขยับมือต่ำลงไปสำรวจดูว่าทางโล่งหรือเปล่า เพราะเมื่อวานได้ยินว่าเธอใกล้จะเป็นประจำเดือน"คุณ!" อลิสดึงมือนั้นออกไป ทันน์ยอมเอามือออกมาแต่ที่เอาออกมาเพราะจะถอดเสื้อผ้า "ไปนอนโซฟาเลยนะถ้าไม่งั้นก็กลับไปนอนที่คอนโด"ไม่ว่าเธอจะพูดอะไรเขาก็ทำเฉย แถมยังถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกก่อนจะโน้มตัวไปจับเธอคว่ำลงโดยที่อีกฝ่ายไม่ทันตั้งตัว"โอ๊ยฉันเจ็บนะ" หลังจากที่จับเธอคว่ำลงแล้วเขาก็ดึงกางเกงชุดนอนที่เธอใส่อยู่ขยับออกจนเลยสะโพกลงมา "คุณทันน์!"ผ่านไปครู่หนึ่งจากเสียงต่อว่าเมื่อครู่กลายเป็นเสียงคราง เพราะเขาสอดใส่ผ่านทางด้านหลังเข้ามาแล้วก็กระแทก ตัวแค่นี้หรือจะมาสู้ได้ ก็รู้อยู่ว่าเขาเป็นคนชอบใช้กำลังไม่ชอบพูดจากท่าคว่ำทันน์ก็เปลี่ยนเป็นท่าตะแคงข้างโดยที่เขายังคงสอดใส่ผ่านทางด้านหลังอยู่เวลาผ่านไปทุกอย่างก็ได้หยุดลงพร้อมกับคนตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมกอดแบบหมดเรี่ยวแรง"อารมณ์ดีขึ้นหรือยัง" เห็นว่าเธอไม่โวยวายเหมือนตอนแรกแล้ว"ยังจะมาพูดอีก!" นี่

  • นรสิงห์ [มาเฟียร้ายรัก]   บทที่ 115 ตอนจบ 1 ตุนท์

    Set มาเฟียร้ายรัก Ep 115 ตอนจบตุนท์อัคคีมองตามสาวเอ็นเตอร์เทรน อยู่ดีๆ เธอก็ลุกเดินออกจากห้องไปเลย ที่จริงมันทำได้มากกว่านี้ไม่ใช่เหรอ บางทียังเห็นแขกคนอื่นล้วงอยู่เลยแต่เขาทำแค่จูบเองนะข้าวปุ้นพยายามอดกลั้นอารมณ์ตัวเองมาก ถ้าไม่ใช่เพื่อนของเสี่ยป่านนี้ถูกฝ่ามือเธอไปแล้ว อยู่ดีๆ ก็มาขโมยจูบไป"นั่นใช่คุณข้าวปุ้นไหม" ระย้ามองเห็นตอนเดินผ่านห้องทำงานแค่แว๊บเดียว"ใช่.. แล้วทำไมออกมาแล้วล่ะ" อลิสเลยรีบไปดูแขกที่ห้องพิเศษ พอไปถึงก็เห็นว่ามีเด็กใหม่เข้ามาเอ็นเตอร์เทนเสี่ยอัคคีแล้ว หรือว่าข้าวปุ้นงอนเรื่องนี้ ต้องใช่แน่ๆ เลยใครปล่อยให้เด็กเข้ามาเนี่ย ..ค่อยหาโอกาสใหม่แล้วกัน อุตส่าห์ได้โอกาสดีๆ แล้วเชียวดึกๆ ของคืนเดียวกัน..นเรศวรแวะเข้ามาดูงานได้ครู่หนึ่งพอรู้ว่าอัคคียังไม่ออกไปเลยแวะมาที่ห้องพิเศษ"เป็นยังไงบ้างครับคุณอัคคี" ทั้งสองไม่ได้สนิทกันมากมายรู้จักกันผ่านทางเพื่อน เวลาพูดคุยเลยใช้คำเหมือนที่พูดกับเพื่อนสนิทไม่ได้"นึกว่าคุณจะไม่เข้า""ภรรยาผมใกล้คลอดเลยไม่อยากปล่อยไว้คอนโดตามลำพังครับ""อ้าว ใกล้คลอดแล้วเหรอครับ"ระหว่างที่ทั้งสองพูดคุยกัน ก็เห็นว่าทันน์ที่ยืนรอรับใช้อยู่เหมื

  • นรสิงห์ [มาเฟียร้ายรัก]   บทที่ 114

    ช่วงเที่ยงคืนของคืนนั้น.."ไปทานข้าวด้วยกันค่ะ" ระย้าถือวิสาสะเปิดประตูเข้ามาในห้องของข้าวปุ้นเพื่อชวนออกไปทานข้าวด้วยกัน"ชวนข้าวเหรอคะ" นอกจากคุณทรงอัปสรแล้วคนอื่นไม่ค่อยมาชวนเธอไปทานข้าวด้วยหรอก อาจเพราะเธอทำงานอยู่คนละโซนกัน และส่วนมากข้าวปุ้นก็จะสั่งอาหารที่นี่เข้ามาทานในห้อง"หรือว่าคุณข้าวจะทานข้าวในห้องคะ""ข้าวไปได้ค่ะ" ข้าวปุ้นเอื้อมไปหยิบกระเป๋าสะพายแล้วก็เดินตามระย้าออกมาทีแรกคิดว่าจะมากันแค่สามคน แต่ที่ไหนได้พอออกมาถึงด้านหน้าแฟนของทั้งสองก็รออยู่ แสดงว่าเราเป็นส่วนเกินหรือเปล่าเนี่ย"คุณข้าวชอบทานอะไรคะ""ทานเหมือนกันนั่นแหละค่ะ""ถ้างั้นสั่งทีเดียวเลยนะคะ"เข้ามาผู้ชายก็เดินไปเตรียมน้ำมาให้ ทีแรกข้าวปุ้นจะไปเตรียมน้ำของตัวเองแล้ว แต่อลิสบอกว่าไม่ต้องเดี๋ยวมีคนเตรียมมาให้ไม่นานอาหารก็ถูกนำมาวางบริการ ข้าวปุ้นเพิ่งรู้สึกว่าส่วนเกินมันเป็นแบบนี้นี่เอง เพราะคนรักเขาเทคแคร์กันแบบไม่สนใจคนโสดเลยที่อลิสและระย้าทำแบบนี้อยากให้ข้าวปุ้นมีความกล้าขึ้นมาหน่อยหลังทานข้าวเสร็จพวกเธอก็กลับเข้ามาที่ทำงาน ส่วนทันน์และตุนท์ก็ต้องแบ่งงานกันทำเหมือนเคยจนถึงช่วงเลิกงานอลิสเดินกลับมาที่

  • นรสิงห์ [มาเฟียร้ายรัก]   บทที่ 113

    "เท้าไม่เป็นอะไรแล้วเหรอทำไมใส่ส้นสูง" หลังจากส่งเจ้านายห้องทำงานเสร็จแล้วตุนท์ก็รีบออกมาดูระย้า เห็นตอนที่เธอกำลังคุยอยู่กับข้าวปุ้นพอดี"โอ๊ย.." ทีแรกก็ยืนดีๆ อยู่นี่แหละ แต่พอเห็นสามีเดินเข้ามาเริ่มเจ็บเท้าขึ้นมาเลย และข้าวปุ้นที่ยืนอยู่ด้วยกันอดมองลงไปดูเท้าของระย้าไม่ได้ เมื่อสักครู่ยังเห็นเดินปกติอยู่เลย หรือว่าจะเริ่มเจ็บแผลแล้ว"คุณเจ็บแผลเหรอคะ""เปล่าค่ะคุณลุกขึ้นมาก่อน เดี๋ยวฉันทำอะไรให้ดู" ระย้ารีบบอกข้าวปุ้นที่กำลังจะก้มลงไปช่วยขยับรองเท้าออกให้ลุกขึ้นมาก่อน "รู้สึกเจ็บนิดหน่อยค่ะ" แต่พอตุนท์เดินเข้ามาใกล้ระย้าก็ทำทีเป็นยืนไม่อยู่ จนฝ่ายชายต้องรีบเข้าไปประคอง"โอ๊ยยังเจ็บอยู่เลยค่ะ" เห็นว่าเธอยังเจ็บอยู่ตุนท์เลยโน้มลำตัวลงไปอุ้มร่างของเธอขึ้นมา ตอนที่ร่างของเธอลอยขึ้นจากพื้นระย้าก็หันไปขยิบตาใส่ข้าวปุ้น และก็บอกให้ข้าวปุ้นดูไว้ผู้หญิงต้องมีมารยาบ้าง"หึหึหึ" ข้าวปุ้นอดขำในความน่าเอ็นดูของระย้าไม่ได้ คิดว่าพอจะรู้แล้วที่ระย้าทำเมื่อครู่คงอยากให้เธอเรียนรู้เรื่องนี้ไปใช้กับผู้ชายที่ชื่ออัคคีแน่เลย โอ๊ยฉันจะบ้าตาย หวังว่าเรื่องนี้คงจะจบลงแค่นี้นะ"คุณจะพาฉันไปไหน" มัวบอกให้

  • นรสิงห์ [มาเฟียร้ายรัก]   บทที่ 112

    "ผมทำอะไรผิดอีกหรือเปล่า" ตุนท์เห็นเธอยิ้มตอนเขาเดินเข้ามาหาเลยรู้สึกเสียวๆ"ฉันจะกลับขึ้นห้องแล้วค่ะ คุณจะทำงานต่อหรือจะกลับด้วยกัน" หลังจากที่รับรู้ว่าข้าวปุ้นไม่ได้สนใจสามีเธอก็รู้สึกสบายใจขึ้นมา จริงๆ ถ้าเขาจะชอบกับข้าวปุ้นป่านนี้คงไม่เหลือรอดมาถึงเธอหรอก แต่ไม่รู้ทำไมอยู่ดีๆ ก็รู้สึกหึง ถึงแม้ว่าเขาจะไม่สนใจผู้หญิงคนอื่นแต่เธอก็ไม่อยากให้ผู้หญิงคนอื่นมาสนใจเขา"ผมเคลียร์งานเสร็จแล้ว เดี๋ยวหลังเลิกงานผมค่อยลงมาดูแลเจ้านาย" ทิ้งงานให้ทันน์ทำมาหลายวันแล้ว ถ้าจะทิ้งอีกก็กลัวมันจะโวยวายระย้ายอมให้เขาโอบร่างพาเดินกลับห้องพัก เท้าเธอดีขึ้นมากแล้วแต่มันก็ยังรู้สึกเจ็บอยู่"ฉันขออาบน้ำก่อนค่ะ" เข้ามาถึงตุนท์ก็ไม่ปล่อยเวลาให้เสียเปล่า แต่ตอนที่เขากำลังจะจูบระย้าก็เบือนหน้าหลบ"ผมเห็นคุณเปลี่ยนชุดแล้วนี่""อาบน้ำตั้งหลายชั่วโมงแล้วค่ะ""หลายชั่วโมงก็ยังหอมอยู่""ไม่ได้ค่ะยังไงฉันก็ต้องไปอาบน้ำก่อน" ยังไงต้องไปล้างให้สะอาดก่อนแล้วกัน เพราะเขาเล่นสัมผัสทุกส่วนของร่างกายตอนที่น้ำฝักบัวกำลังไหลรินลงมาชโลมร่างกาย ประตูห้องน้ำก็ถูกเปิดเข้ามา"ฉันอาบน้ำยังไม่เสร็จเลย""อาบด้วยกันก็ได้"เข้ามาแทน

  • นรสิงห์ [มาเฟียร้ายรัก]   บทที่ 111

    กลับไปถึงห้องก็ไม่เห็นเธอ ตุนน์เลยรีบออกไปดูร้านอาหารหน้าสถานบันเทิง ที่เขาไม่ได้โทรไปเพราะเห็นอยู่ว่าโทรศัพท์เธอไม่ได้ถือออกไปด้วย แต่พอเดินดูก็ไม่เห็น ..แม้แต่ร้านที่เธอไม่เคยมาทานเขาก็ยังไปดูเลย"ไปไหนของเธอเนี่ย" หรือว่าบางทีเธออาจจะไปหาอลิส คิดได้แบบนั้นตุนท์เลยลองกดโทรเข้าเครื่องของอลิสดู แต่คำตอบที่ได้ไม่เห็นระย้ามา และอลิสยังถามอีกว่าระย้ากลับมาด้วยเหรอ ตอนนั้นยังนึกเสียใจอยู่เลยว่ายังไม่ได้บอกลากันก๊อกๆ ตอนที่ระย้านั่งเศร้าอยู่ก็มีคนมาเคาะประตูห้องเธอเลยเงยหน้าขึ้นมอง"อ้าวคุณระย้า?" คนที่เข้ามาก็คือข้าวปุ้น ข้าวปุ้นว่าจะเข้ามาคุยงานกับอลิสมองเห็นว่ามีคนนั่งอยู่ในห้องหัวหน้าก็คิดว่าเป็นอลิส"ทำไมเห็นฉันแล้วต้องตกใจด้วยล่ะคะ""?" ข้าวปุ้นแปลกใจกับคำถามนี้ แต่ก็ต้องรีบสลัดมันออกไปก่อน"ได้ยินคุณตุนท์บอกว่าคุณอยู่ที่ห้องนี่คะ""เขาบอกแบบนั้นหรือคะ""เอ่อ..ค่ะ..?" ข้าวปุ้นชักจะสงสัยกับท่าทีนี้แล้ว ก่อนหน้าระย้าไม่ได้เป็นคนแบบนี้นี่ ทำไมช่วงหลังมาถึงพูดกับเธอแปลกๆ"มาอยู่นี่เองบอกแล้วใช่ไหมว่าให้อยู่ห้อง" ตุนท์เดินตามหาไม่เจอเลยเข้ามาดูในห้องทำงานและก็เป็นแบบที่เขาคิดไว้จริงๆ "อ้

  • นรสิงห์ [มาเฟียร้ายรัก]   บทที่ 110

    "???" เห็นนายทะเบียนยื่นเอกสารสำคัญมาให้เซ็น เธอถึงได้รู้ว่าที่เขาพามาคือมาจดทะเบียนสมรส เพราะแบบนี้เองเหรอที่เขาบอกจะทำให้เชื่อใจว่าเขาจะไม่ทิ้งขว้างเธอตุนท์หยิบปากกามาแล้วก็เซ็นชื่อนามสกุลลงไปก่อน หลังจากที่เขาเซ็นเสร็จแล้วก็ส่งปากกาให้กับเธอ"คุณไม่ได้บอกฉันเรื่องนี้" ยอมรับว่าตกใจมากแต่งงานก็ยังไม่ได้ขอแต่ง บอกรักปุ๊บก็พามาจดทะเบียนสมรสเลยใครจะไม่ตกใจล่ะ"คุณพูดเมื่อคืนนี้เองไม่ใช่เหรอ กลัวว่าผมจะไม่จริงจังกับความสัมพันธ์ครั้งนี้" นี่แหละมันเป็นสิ่งที่ยืนยันยิ่งกว่าการกระทำและคำพูดว่าเขาจริงจังกับเธอแค่ไหน"ทั้งสองได้ตกลงกันมาเรียบร้อยแล้วใช่ไหมครับ" เป็นหน้าที่ของนายทะเบียนที่ต้องดูให้แน่ใจว่าไม่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งถูกบังคับให้มาจดทะเบียนสมรส"เราตกลงกันแล้วค่ะ" หญิงสาวพูดพร้อมกับเอื้อมมือไปหยิบปากกานั้นมาเขียนชื่อและนามสกุลของเธอลงไป และนายทะเบียนก็สอบถามว่าฝ่ายหญิงจะยังใช้นามสกุลตัวเองหรือเปลี่ยนมาใช้นามสกุลฝ่ายชาย "ฉันจะใช้นามสกุลสามีค่ะ"ตุนท์เผยรอยยิ้มออกมาตอนได้ยินเธอบอกจะใช้นามสกุลสามี แบบนี้สินะเขาถึงเรียกว่าคนที่ใช่มักมาในเวลาที่เหมาะสมตามด้วยพยานอีกสองคนที่ต้องเซ็น เพราะ

  • นรสิงห์ [มาเฟียร้ายรัก]   บทที่ 109

    บ้าหรือไงเล่นขอกันตรงๆ แบบนี้ จากที่นอนหันหลังให้ระย้าก็ค่อยๆ นอนหงาย ทีแรกตุนท์ก็เตรียมตัวตั้งการ์ดไว้แล้วล่ะ เผื่อกำปั้นของเธอสวนกลับมาจะได้ไม่ถูกจุดสำคัญ แต่พอนอนหงายระย้าก็นิ่งเงียบไม่พูดไม่จา"?" ตุนท์รับรู้ได้ในทันทีว่าเธออนุญาต ถึงแม้ไม่อนุญาตเขาก็ไม่รอแล้วนะผ้าเช็ดตัวที่ยังคงพันรอบเอวอยู่ถูกเขากระชากดึงทิ้งลงไปข้างเตียงก่อนจะพลิกกายคร่อมร่างเธอครั้งนี้เขาจะทำให้ดีที่สุดให้เธอติดใจถึงแม้ว่าเธอจะไม่ยอมกลับไปด้วย ก็จะให้เธอไม่มีวันลืมเขาไปตลอดชีวิตแต่ปัญหาคือเธอเจ็บขาเล่นท่ายากไม่ได้ด้วยสิ เขาต้องพลิกแพลงท่าใหม่แล้วล่ะ"พอก่อนค่ะ" ระย้าแทบจะหายใจไม่ทั่วท้อง ตอนที่บอกให้เขาพอก่อนไม่รู้ว่าเสียงพูดหรือเสียงหอบหายใจดังกว่ากัน แต่ตุนท์ก็ไม่คิดจะหยุดเขายังคงเดินหน้าต่อ ตั้งแต่ลีลาการคว้านลิ้นแล้วจนมาถึงการคว้านท่อนเอ็นงัดซ้ายทีขวาที ทุกครั้งเขาก็ไม่ใช่ย่อยแต่ครั้งนี้เขาร้อนแรงกว่าทุกครั้งอีกกว่าจะจบครั้งแรกไปก็กินเวลาเป็นชั่วโมง"ขะ.. คุณจะทำอะไรอีก""แค่นี้คิดจะยอมแพ้แล้วเหรอ""คุณไปกินดีเสือมาหรือไง""จนกว่าคุณจะล้มเลิกเรื่องนั้นผมถึงจะปล่อยให้คุณพัก"ระย้ารู้ว่าเขาหมายถึงเรื่องอ

  • นรสิงห์ [มาเฟียร้ายรัก]   บทที่ 108

    "คุณจะทำอะไร" ระย้าขยับใบหน้าหลบริมฝีปากอีกฝ่ายที่โน้มเข้ามา แต่เขาก็ไม่ได้ตอบ หลังจากที่เธอเบือนหน้าหลบริมฝีปากนั้นก็ฝังจูบลงซอกคอแทนระย้านอนนิ่งโดยที่ไม่เอ่ยปากพูดอะไรอีก จนชุดที่เธอใส่อยู่ค่อยๆ ถูกถอดออกทีละชิ้นแบบระมัดระวังเพราะกลัวว่าจะไปถูกเท้าที่มีแผลเข้าหลังจากนั้นใบหน้าคมคายก็ได้ขยับต่ำลงไปซุกลงกับเนินน้องสาว"อือ" หญิงสาวทำได้แค่นอนเกร็ง จังหวะนั้นมือหนาก็ได้เกี่ยวเรียวขาข้างที่ได้รับบาดเจ็บยกขึ้นก่อนจะนำหมอนมาวางใต้ท้องขา เพื่อทำให้แผลไม่ต้องสัมผัสกับที่นอนจากนั้นตุนท์ก็ขยับใบหน้าต่ำลงพร้อมกับใช้ลิ้นชโลมเลียร่องสวาทที่เขาโหยหา"อื้อออ" ตอนลิ้นสากตวัดเกี่ยวยอดเม็ดเสียว คนตัวเล็กที่นอนเกร็งอยู่ถึงกับกระตุกไปตามแรงตวัดลิ้นความต้องการในร่างกายเธอมันสูงมาก สูงจนเขาคิดว่าคืนนี้ยังไงก็ยับยั้งตัวเองไม่อยู่แน่ จังหวะนั้นเขาก็ยังคงลงลิ้นให้เธอต่อเพราะเสียงครวญครางนั้นช่างน่าหลงใหลไม่ต่างจากร่างกายของเธอเลยระย้าทนความช่ำชองในการใช้ลิ้นของเขาไม่ไหว จนเท้าเผลอจิกลงพื้นที่นอน แต่เธอก็รีบเอามือมาปิดปากไว้ไม่อยากร้องเจ็บกลัวว่าเขาจะหยุดเห็นเธอดิ้นพล่านชายหนุ่มก็อดไม่ได้อีกต่อไปแล้ว ร

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status