ห้องอาหารของโรงแรมที่เขานัดไว้"พี่คะ""มารอกันนานแล้วเหรอ""ยังไม่นานค่ะ คนนี้ไงคะคือคุณพ่อที่เลี้ยงดูไอเดียมา" ใช่แล้วคนที่นรสิงห์นัดเจอที่โรงแรมก็คือไอเดียน้องสาวที่เกิดจากมารดาแท้ๆ ของเขา เธอเป็นลูกสาวกับสามีใหม่ ทั้งสองเพิ่งรับรู้ว่าต่างก็มีพี่น้อง พ่อกับแม่ของไอเดียประสบอุบัติเหตุตั้งแต่เธอยังจำความไม่ได้ ตอนนั้นมีพลเมืองดีเข้ามาช่วย แล้วพลเมืองดีคนนั้นก็รับเลี้ยงน้องสาวของเขามาจนเติบโต (เรื่องนี้ติดตามอ่านได้ในเรื่องของเจ้าเวหา[มาเฟียร้ายรัก]เลยนะคะ ไอเดียคู่กับเจ้าวายุน้องชายของเจ้าเวหาค่ะ)"สวัสดีครับ" ที่เขานัดมาทานข้าวที่นี่เพราะอยากขอบพระคุณท่านที่ดูแลน้องสาวเขามาเป็นอย่างดี"สวัสดีครับ" ชัยนาทก็คือพลเมืองดีคนนั้น"ผมต้องขอบพระคุณคุณมาก ที่ดูแลน้องสาวผมเติบโตมาเป็นคนดีได้แบบนี้""คุณไม่ต้องขอบคุณผมหรอกครับ ผมเห็นไอเดียเป็นลูกสาวแท้ๆ คนหนึ่งของผมเลยครับ" ท่านยอมอดมื้อกินมื้อเพื่อเลี้ยงให้เธอเติบโต แม้แต่ทะเลาะกับภรรยาเรื่องที่ท่านส่งเสียไอเดียเรียน ท่านก็ทำเป็นหูทวนลมยังคงกัดฟันส่งเสียเธอเรียนจนถึงระดับมหาวิทยาลัย"ผมมีสินน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ ให้กับท่าน" นรสิงห์ยื่นเช็คเงินสดให
หลังจากที่แจกจ่ายเอกสารกับผู้ถือหุ้นเสร็จแล้ว ไอรีสก็เลื่อนเก้าอี้มานั่งลงด้านหลัง แล้วเตรียมอุปกรณ์ของเธอให้พร้อม ระหว่างที่ท่านผู้บริหารทำการประชุมอยู่ เธอก็นั่งอยู่เงียบๆ พร้อมกับเก็บรายละเอียดไปด้วย"เธอไม่เห็นเหรอว่าประชุมกันอยู่ เธอเป็นเลขาทำไมไม่จด" ระหว่างที่ผู้บริหารกำลังพูดคุยกันอัญญาก็รู้สึกขวางหูขวางตา ที่ขวางหูขวางตาเพราะเห็นไอรีสเอาแต่มองมาที่นรสิงห์ บางทีเธอก็มองเขาเพลินไป ยอมรับว่าผู้ชายคนนี้สามารถดึงดูดเพศตรงข้ามได้ดีนัก แม้แต่เธอยังถูกดึงดูดเลย"ฉันบันทึกเสียงไว้แล้วค่ะ" จริงๆ ในห้องประชุมก็มีเครื่องบันทึกเสียงอยู่แล้ว เลขาคนก่อนๆ ก็ทำกันแบบนี้ แต่นอกจากบันทึกเสียงแล้วก็จดรายละเอียดไว้ด้วยเผื่อตอนที่ดึงข้อมูลออกมาอาจจะช้าและก็กันพลาดด้วย"เผื่อเครื่องบันทึกมีปัญหาไง เธอไม่คิดจะจดเลยเหรอ""ฉันบันทึกใส่เครื่องนี้ด้วยค่ะ" ไอรีสยกแท็บเล็ตของสำนักงานขึ้นมา เธอไม่เชื่อเครื่องบันทึกอยู่แล้วเผื่อเกิดเหตุขัดข้อง เธอเลยต้องบันทึกใส่อีกเครื่องหนึ่งไว้"ฉันพูดอะไรทำไมเธอไม่ฟัง รู้จักแต่จะเถียง" เห็นว่าสู้เธอไม่ได้ก็ดึงอำนาจออกมาใช้ "ถ้างานออกมาพลาดเหมือนเลขาคนก่อน บอกไว้ก่อนเล
หลังจากที่ทุกคนเห็น resume ของไอรีสแล้วในห้องประชุมเงียบไปชั่วขณะหนึ่ง ..ก่อนสายตาทุกคู่จะจับจ้องมาที่เธอคนเดียว"คุณจบด็อกเตอร์เลยเหรอ?" ธันวาเป็นคนที่ทำลายความเงียบในห้องประชุมก่อนแต่เวลานั้นเธออยากเห็นสีหน้าของคนที่เอาแต่พร่ำพรรณนาดูถูกเธอมาก"เดี๋ยวนะ ปริญญาโทสองใบ??" ผู้บริหารอีกท่านมองดูใหม่อีกรอบ ว่าจบปริญญาเอกน่าทึ่งแล้วได้ปริญญาโทมาสองใบนี่น่าทึ่งกว่าอีก"ตามนั้นเลยค่ะ" ที่จริงเธอว่าจะทำปริญญาเอกสองใบเหมือนกัน แต่พ่อเร่งเร้าให้กลับประเทศก่อน"เธอจะอายุเท่าไรเชียว ฉันไม่เชื่อหรอกว่าอายุแค่นี้จะจบปริญญาเอก" อัญญายังคงไม่ย่อท้อที่จะหาเรื่องอีกฝ่าย"ขอบคุณนะคะที่คุณมองว่าฉันยังเด็กอยู่"นรสิงห์เป็นอีกคนที่อยากรู้ว่าเธออายุเท่าไร เขาเลยมองดูวันเดือนปีเกิดในเอกสารนั้น ชายหนุ่มหายใจโล่งขึ้นมาหน่อยที่เธอยังอายุน้อยกว่าเขาอยู่ แต่ผู้หญิงอะไรเก่งชิบหายเลยหลังจากที่เหตุการณ์น่าตะลึงนี้ผ่านพ้นไปทุกคนก็กลับมานั่งประจำที่"แสดงว่า..""แสดงว่าอะไรของคุณคุณธันวา" ผู้บริหารที่นั่งอยู่ใกล้ๆ ธันวาถาม"ก็แสดงว่าคุณเลขาท่านรองประธาน เรียนจบสูงกว่าผู้บริหารในบริษัทนี้น่ะสิครับ" สิ้นคำพูดของธันวา
ถึงว่าเธอควบคุมอารมณ์ได้ดีมาก เขาหมายถึงตอนที่เขาเรียกเธอมาคุยส่วนตัว อยากจะทำความเข้าใจกับเธอ เรื่องที่ทั้งสองจำใจต้องหมั้นหมายโดยผู้ใหญ่ และเรื่องที่เขาบอกว่าถ้าเขาต้องการอิสรภาพหวังว่าเธอคงจะคืนให้ คำตอบที่เธอให้มามีแค่ "ค่ะ" คำเดียว ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นเขาคงเจอตบไปแล้ว"มึงคิดอะไรอยู่วะ""หือ? มึงว่าอะไรนะ""กูเห็นมึงยกแก้วนั้นนานแล้วนะเมื่อไรจะดื่มหมด""ชวนเพื่อนออกมาดื่มแบบนี้เมียที่บ้านมึงไม่ว่าเหรอ""ขอร้องมึงอย่าพูดถึงเมียได้ไหม""ฮ่าา มึงก็เจออีกคนแล้วใช่ไหมล่ะ""ทำเป็นขำเดี๋ยวมึงก็เจอเหมือนพวกกู""ไม่มีวันสะหรอก" เขาคงไม่ปล่อยให้ผู้หญิงมาควบคุมตัวเองได้หรอก"ว่าแต่เรื่องของมึง หมั้นแล้วจริงเหรอ""อืม""ไม่เห็นเชิญเพื่อนสักคน""ไว้วันแต่งเดี๋ยวกูเชิญ""อะไรนะ เมื่อกี้กูฟังผิดหรือเปล่า" ขุนรามแทบขยี้หูฟังใหม่ เพราะเคยได้ยินแต่เพื่อนบอกเซ็งไม่อยากหมั้นไม่อยากแต่งเลย มาคราวนี้พูดถึงเรื่องแต่งงานเดี๋ยวจะเชิญเพื่อนอีกที"สวัสดีค่ะเสี่ย" เด็กเอนเตอร์เทนเห็นว่าเสี่ยนั่งดื่มกันอยู่แค่สองคนเลยจะเข้ามาดูแล"ไม่ต้องหรอกดูแลเพื่อนผมเถอะ" ขุนรามรีบปฏิเสธบอกผู้หญิงให้ไปนั่งเป็นเพื่อนนรสิง
"ฉันหมายถึงเธอช่วยเว้นระยะห่างจากพวกนั้นด้วย""เว้นระยะห่าง? บอกตัวเองดีกว่ามั้งคะ"ก๊อกๆ "สิงห์คะ" ประตูห้องถูกเคาะแค่ไม่กี่ทีก่อนจะเปิดเข้ามา คนทั้งสองที่กำลังพูดคุยกันอยู่หันไปมอง "คุยเรื่องงานกันอยู่หรือคะ"เห็นว่าเป็นใครเข้ามาไอรีสก็ตวัดหางตากลับไปมองเขา"ทีหลังถ้าจะเข้ามา ต้องรอให้อนุญาตก่อน" น้ำเสียงเย็นชาพูดตักเตือนคนที่เสียมารยาทเปิดประตูเข้ามาโดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาต"ทำไมสิงห์ถึงพูดกับอัญแบบนี้ล่ะคะ แต่ก่อนอัญก็ทำแบบนี้มาตลอด""จะให้ฉันออกไปก่อนไหมคะ" หญิงสาวเอ่ยพูดแทรกเผื่อเขาอยากจะง้อผู้หญิงของเขาโดยไม่ต้องมีบุคคลอื่นอยู่ด้วย"เข้ามามีธุระอะไร" เขายังไม่ได้อนุญาตให้เธอออกไป แต่ก็พูดถามคนที่เข้ามาใหม่เรื่องธุระ"เอ่อ.. อัญจะมาบอกว่าในที่ประชุมพร้อมแล้วค่ะ" ทำไมเขาถึงมีท่าทีแบบนี้กับเรา แต่ก่อนเขาไม่เย็นชาขนาดนี้นี่"ถ้าผมจำไม่ผิดคุณคือผู้จัดการ หน้าที่นี้มันต้องเป็นของเลขาไม่ใช่เหรอ" คำพูดประโยคนี้ออกจากปากของนรสิงห์ อีกคนที่อยู่ในห้องแอบมีรอยยิ้ม จนเขาเผลอมองไปดูรอยยิ้มของเธอ"คือ.." เขากำลังจะตีตัวออกห่างเราเหรอ เป็นเพราะผู้หญิงคนนี้แน่เลย เราจะทำยังไงถึงจะไล่ผู้หญิงคนนี
"แต่ผมไม่คิดว่าเป็นคุณไอรีสที่ทำ" หลังจากที่อัญญากล่าวหาไอรีสไปแล้วธันวาก็เอ่ยขึ้นมา"เราทำงานร่วมกันมากี่ปีต่อกี่ปีแล้วเรื่องแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้น แต่พอผู้หญิงคนนี้เข้ามาเรื่องเกิดขึ้นกี่ครั้งแล้วคะ"ไอรีสที่เพิ่งช่วยงานพวกเขาจบได้แต่นั่งเงียบปล่อยให้พวกเขาพูดกันไปก่อน"รู้ไหมว่าหลุดไปทางไหน" นรสิงห์ก็สงสัย เหตุการณ์พวกนี้ไม่เคยเกิดขึ้นเลยพอเธอย่างกรายเข้ามาเท่านั้นแหละ แต่เขาก็ไม่ได้สงสัยเธอหรอกว่าเป็นคนของคู่แข่ง แต่เหตุการณ์พวกนี้มันประจวบเหมาะกับตอนที่เธอเข้ามาเหลือเกิน"พวกเรายังจับสัญญาณไม่ได้ครับ แต่รู้ว่ามันกำลังดึงข้อมูลออกไป""คุณไอรีสพอมีทางจะช่วยไหมครับ" คุณานนท์หันมาถามไอรีส"คุณยังจะไปถามผู้ต้องสงสัยอยู่อีกหรือคะ" อัญญาพูดแทรก"เราจะกล่าวหาใครลอยๆ ไม่ได้นะครับ" ธันวาช่วยพูดอีกแรง และในระหว่างที่ทุกคนกำลังช่วยเธออยู่เขากลับไม่พูดอะไรเลย"ข้อมูลอาจจะรั่วไหลผ่านเครื่องที่ฉันเพิ่งใช้ไปก็ได้ค่ะ" เธอผิดเองแหละที่ไม่รอบคอบตรวจเช็คสัญญาณดูก่อน เพราะเธอเห็นว่ามันเป็นเครื่องของสำนักงานเลยไม่ได้ตรวจสอบให้ดีนรสิงห์หันมองดูเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เธอเพิ่งใช้งานไป แล้วก็หันมาถามว่าใครเป
"หอมจังคุณใช้น้ำหอมอะไร"หญิงสาวที่ถูกกอดอยู่กำลังจะขยับตัวออกแต่อีกฝ่ายก็กอดไว้แน่นไม่ยอมปล่อย"น้ำหอมฉันคงไม่หอมเท่ากับ น้ำหอมที่ติดตัวคุณมาคืนนั้นหรอกมั้งคะ""ก็แค่เด็กชงเหล้าในบาร์""ถ้างั้นคุณก็ไปให้เด็กชงเหล้าในบาร์ปลอบเถอะค่ะ" มือเรียวดันศีรษะเขาออกจากที่แนบอยู่กับหน้าอก"ปลอบผมอีกหน่อยสิ""ฉันจะออกไปทำงานแล้วค่ะ คุณก็เหมือนกันออกไปทำงานได้แล้ว มันไม่ใช่เรื่องต้องมานั่งเศร้าสักหน่อย""คุณกำลังจะพูดอะไร""ถ้าฉันพูดไปเดี๋ยวก็หาว่าฉันสอน""ผมยอมให้คุณสอนครับคุณดอกเตอร์" เขายอมรับว่ายังไม่รู้จักผู้หญิงคนนี้มากพอ แต่ต่อจากนี้ไปเขาจะพยายามทำความรู้จักกับเธอให้มากขึ้น"ที่ดินในประเทศออกกว้างขวาง ไม่ได้ที่ตรงนี้คุณก็หาที่ใหม่สิคะ เจ้าของที่ต้องการขายมีอีกตั้งมากมาย""คุณก็รู้ว่าผมซื้อที่ดินทำนิคมอุตสาหกรรม กว่าจะได้พื้นที่กว้างมากพอ"เที่ยงวันนั้น..ก๊อกๆ "ไปทานข้าวกันค่ะ" ประตูห้องท่านรองประธานเปิดอยู่ อัญญาที่มาชวนเขาออกไปทานข้าวแค่เคาะประตูคนด้านในก็หันออกมามองแล้ว"เอาตามที่ผมบอกนี่แหละ""ครับ" คุณานนท์แค่เข้ามาคุยงานครู่หนึ่งเลยไม่ปิดประตู"สิงห์คะ ออกไปทานข้าวกันค่ะ" พอคุณานนท์ออ
"ผู้จัดการเรียกเธอเข้าไปพบที่ห้องหน่อย" หลังจากที่ไอรีสออกมาจากห้องท่านรองประธานแล้ว กรกนกเลขาของผู้จัดการทั่วไปก็มาตามเธอไปพบไอรีสลุกเดินตามเลขาผู้จัดการไป โดยที่ไม่ได้ถามว่ามีธุระอะไร เพราะมันหน้าที่ของเธออยู่แล้วเผื่อว่าผู้จัดการเรียกไปรับงาน"เข้าไปสิ" มาถึงกรกนกก็เปิดประตูให้ไอรีสเข้าไปก่อนที่จะปิดประตูไว้"ผู้จัดการมีธุระอะไรกับฉันคะ""เธออาจจะยังไม่รู้ว่าฉันคบกับคุณสิงห์มาหลายปีแล้ว""คบ?""ใช่""แล้วผู้ชายรู้เรื่องนี้ไหมล่ะคะ""เธอหมายความว่ายังไง""ฉันหมายถึงว่าคุณสิงห์ของคุณรู้เรื่องที่คุณคบกับเขามาหลายปีไหม""ทำไมจะไม่รู้""แสดงว่าพวกคุณเป็นแฟนกัน""ก็ไม่เชิง""เอาให้แน่สิคะ""เธอเป็นแค่เด็กใหม่และตำแหน่งของเธอเป็นแค่เลขาหน้าห้อง อย่ามาทำเป็นเก่งที่บริษัทนี้เด็ดขาด""ฉันก็ไม่อยากทำเป็นเก่งหรอกนะคะ แต่เผอิญว่าพวกเขาขอความช่วยเหลือจากฉัน""ถึงแม้ที่นี่จะไม่มีเธอ บริษัทเขาก็ดำเนินไปได้ ฉันคิดว่าเธอยื่นใบลาออก แล้วไปทำงานที่อื่นเถอะ ถ้าเธอทำงานที่อื่นอาจจะได้ตำแหน่งสูงกว่านี้ก็ได้""ฉันจะเก็บไว้พิจารณาแล้วกันนะคะ คุณเรียกฉันมาคุยแค่นี้ใช่ไหมคะ""เธอจบสูงขนาดนั้นทำไมต้องมาทำง
Set มาเฟียร้ายรัก Ep 116 ตอนจบทันน์"ทำไมมานอนตรงนี้ล่ะ ชอบนอนโซฟาไม่ใช่เหรอก็ไปนอนที่เดิมสิ" อลิสรู้สึกตัวตอนที่ทันน์ขยับตัวเข้ามานอนใกล้ๆทันน์ไม่ได้ตอบแต่เขาขยับมือต่ำลงไปสำรวจดูว่าทางโล่งหรือเปล่า เพราะเมื่อวานได้ยินว่าเธอใกล้จะเป็นประจำเดือน"คุณ!" อลิสดึงมือนั้นออกไป ทันน์ยอมเอามือออกมาแต่ที่เอาออกมาเพราะจะถอดเสื้อผ้า "ไปนอนโซฟาเลยนะถ้าไม่งั้นก็กลับไปนอนที่คอนโด"ไม่ว่าเธอจะพูดอะไรเขาก็ทำเฉย แถมยังถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกก่อนจะโน้มตัวไปจับเธอคว่ำลงโดยที่อีกฝ่ายไม่ทันตั้งตัว"โอ๊ยฉันเจ็บนะ" หลังจากที่จับเธอคว่ำลงแล้วเขาก็ดึงกางเกงชุดนอนที่เธอใส่อยู่ขยับออกจนเลยสะโพกลงมา "คุณทันน์!"ผ่านไปครู่หนึ่งจากเสียงต่อว่าเมื่อครู่กลายเป็นเสียงคราง เพราะเขาสอดใส่ผ่านทางด้านหลังเข้ามาแล้วก็กระแทก ตัวแค่นี้หรือจะมาสู้ได้ ก็รู้อยู่ว่าเขาเป็นคนชอบใช้กำลังไม่ชอบพูดจากท่าคว่ำทันน์ก็เปลี่ยนเป็นท่าตะแคงข้างโดยที่เขายังคงสอดใส่ผ่านทางด้านหลังอยู่เวลาผ่านไปทุกอย่างก็ได้หยุดลงพร้อมกับคนตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมกอดแบบหมดเรี่ยวแรง"อารมณ์ดีขึ้นหรือยัง" เห็นว่าเธอไม่โวยวายเหมือนตอนแรกแล้ว"ยังจะมาพูดอีก!" นี่
Set มาเฟียร้ายรัก Ep 115 ตอนจบตุนท์อัคคีมองตามสาวเอ็นเตอร์เทรน อยู่ดีๆ เธอก็ลุกเดินออกจากห้องไปเลย ที่จริงมันทำได้มากกว่านี้ไม่ใช่เหรอ บางทียังเห็นแขกคนอื่นล้วงอยู่เลยแต่เขาทำแค่จูบเองนะข้าวปุ้นพยายามอดกลั้นอารมณ์ตัวเองมาก ถ้าไม่ใช่เพื่อนของเสี่ยป่านนี้ถูกฝ่ามือเธอไปแล้ว อยู่ดีๆ ก็มาขโมยจูบไป"นั่นใช่คุณข้าวปุ้นไหม" ระย้ามองเห็นตอนเดินผ่านห้องทำงานแค่แว๊บเดียว"ใช่.. แล้วทำไมออกมาแล้วล่ะ" อลิสเลยรีบไปดูแขกที่ห้องพิเศษ พอไปถึงก็เห็นว่ามีเด็กใหม่เข้ามาเอ็นเตอร์เทนเสี่ยอัคคีแล้ว หรือว่าข้าวปุ้นงอนเรื่องนี้ ต้องใช่แน่ๆ เลยใครปล่อยให้เด็กเข้ามาเนี่ย ..ค่อยหาโอกาสใหม่แล้วกัน อุตส่าห์ได้โอกาสดีๆ แล้วเชียวดึกๆ ของคืนเดียวกัน..นเรศวรแวะเข้ามาดูงานได้ครู่หนึ่งพอรู้ว่าอัคคียังไม่ออกไปเลยแวะมาที่ห้องพิเศษ"เป็นยังไงบ้างครับคุณอัคคี" ทั้งสองไม่ได้สนิทกันมากมายรู้จักกันผ่านทางเพื่อน เวลาพูดคุยเลยใช้คำเหมือนที่พูดกับเพื่อนสนิทไม่ได้"นึกว่าคุณจะไม่เข้า""ภรรยาผมใกล้คลอดเลยไม่อยากปล่อยไว้คอนโดตามลำพังครับ""อ้าว ใกล้คลอดแล้วเหรอครับ"ระหว่างที่ทั้งสองพูดคุยกัน ก็เห็นว่าทันน์ที่ยืนรอรับใช้อยู่เหมื
ช่วงเที่ยงคืนของคืนนั้น.."ไปทานข้าวด้วยกันค่ะ" ระย้าถือวิสาสะเปิดประตูเข้ามาในห้องของข้าวปุ้นเพื่อชวนออกไปทานข้าวด้วยกัน"ชวนข้าวเหรอคะ" นอกจากคุณทรงอัปสรแล้วคนอื่นไม่ค่อยมาชวนเธอไปทานข้าวด้วยหรอก อาจเพราะเธอทำงานอยู่คนละโซนกัน และส่วนมากข้าวปุ้นก็จะสั่งอาหารที่นี่เข้ามาทานในห้อง"หรือว่าคุณข้าวจะทานข้าวในห้องคะ""ข้าวไปได้ค่ะ" ข้าวปุ้นเอื้อมไปหยิบกระเป๋าสะพายแล้วก็เดินตามระย้าออกมาทีแรกคิดว่าจะมากันแค่สามคน แต่ที่ไหนได้พอออกมาถึงด้านหน้าแฟนของทั้งสองก็รออยู่ แสดงว่าเราเป็นส่วนเกินหรือเปล่าเนี่ย"คุณข้าวชอบทานอะไรคะ""ทานเหมือนกันนั่นแหละค่ะ""ถ้างั้นสั่งทีเดียวเลยนะคะ"เข้ามาผู้ชายก็เดินไปเตรียมน้ำมาให้ ทีแรกข้าวปุ้นจะไปเตรียมน้ำของตัวเองแล้ว แต่อลิสบอกว่าไม่ต้องเดี๋ยวมีคนเตรียมมาให้ไม่นานอาหารก็ถูกนำมาวางบริการ ข้าวปุ้นเพิ่งรู้สึกว่าส่วนเกินมันเป็นแบบนี้นี่เอง เพราะคนรักเขาเทคแคร์กันแบบไม่สนใจคนโสดเลยที่อลิสและระย้าทำแบบนี้อยากให้ข้าวปุ้นมีความกล้าขึ้นมาหน่อยหลังทานข้าวเสร็จพวกเธอก็กลับเข้ามาที่ทำงาน ส่วนทันน์และตุนท์ก็ต้องแบ่งงานกันทำเหมือนเคยจนถึงช่วงเลิกงานอลิสเดินกลับมาที่
"เท้าไม่เป็นอะไรแล้วเหรอทำไมใส่ส้นสูง" หลังจากส่งเจ้านายห้องทำงานเสร็จแล้วตุนท์ก็รีบออกมาดูระย้า เห็นตอนที่เธอกำลังคุยอยู่กับข้าวปุ้นพอดี"โอ๊ย.." ทีแรกก็ยืนดีๆ อยู่นี่แหละ แต่พอเห็นสามีเดินเข้ามาเริ่มเจ็บเท้าขึ้นมาเลย และข้าวปุ้นที่ยืนอยู่ด้วยกันอดมองลงไปดูเท้าของระย้าไม่ได้ เมื่อสักครู่ยังเห็นเดินปกติอยู่เลย หรือว่าจะเริ่มเจ็บแผลแล้ว"คุณเจ็บแผลเหรอคะ""เปล่าค่ะคุณลุกขึ้นมาก่อน เดี๋ยวฉันทำอะไรให้ดู" ระย้ารีบบอกข้าวปุ้นที่กำลังจะก้มลงไปช่วยขยับรองเท้าออกให้ลุกขึ้นมาก่อน "รู้สึกเจ็บนิดหน่อยค่ะ" แต่พอตุนท์เดินเข้ามาใกล้ระย้าก็ทำทีเป็นยืนไม่อยู่ จนฝ่ายชายต้องรีบเข้าไปประคอง"โอ๊ยยังเจ็บอยู่เลยค่ะ" เห็นว่าเธอยังเจ็บอยู่ตุนท์เลยโน้มลำตัวลงไปอุ้มร่างของเธอขึ้นมา ตอนที่ร่างของเธอลอยขึ้นจากพื้นระย้าก็หันไปขยิบตาใส่ข้าวปุ้น และก็บอกให้ข้าวปุ้นดูไว้ผู้หญิงต้องมีมารยาบ้าง"หึหึหึ" ข้าวปุ้นอดขำในความน่าเอ็นดูของระย้าไม่ได้ คิดว่าพอจะรู้แล้วที่ระย้าทำเมื่อครู่คงอยากให้เธอเรียนรู้เรื่องนี้ไปใช้กับผู้ชายที่ชื่ออัคคีแน่เลย โอ๊ยฉันจะบ้าตาย หวังว่าเรื่องนี้คงจะจบลงแค่นี้นะ"คุณจะพาฉันไปไหน" มัวบอกให้
"ผมทำอะไรผิดอีกหรือเปล่า" ตุนท์เห็นเธอยิ้มตอนเขาเดินเข้ามาหาเลยรู้สึกเสียวๆ"ฉันจะกลับขึ้นห้องแล้วค่ะ คุณจะทำงานต่อหรือจะกลับด้วยกัน" หลังจากที่รับรู้ว่าข้าวปุ้นไม่ได้สนใจสามีเธอก็รู้สึกสบายใจขึ้นมา จริงๆ ถ้าเขาจะชอบกับข้าวปุ้นป่านนี้คงไม่เหลือรอดมาถึงเธอหรอก แต่ไม่รู้ทำไมอยู่ดีๆ ก็รู้สึกหึง ถึงแม้ว่าเขาจะไม่สนใจผู้หญิงคนอื่นแต่เธอก็ไม่อยากให้ผู้หญิงคนอื่นมาสนใจเขา"ผมเคลียร์งานเสร็จแล้ว เดี๋ยวหลังเลิกงานผมค่อยลงมาดูแลเจ้านาย" ทิ้งงานให้ทันน์ทำมาหลายวันแล้ว ถ้าจะทิ้งอีกก็กลัวมันจะโวยวายระย้ายอมให้เขาโอบร่างพาเดินกลับห้องพัก เท้าเธอดีขึ้นมากแล้วแต่มันก็ยังรู้สึกเจ็บอยู่"ฉันขออาบน้ำก่อนค่ะ" เข้ามาถึงตุนท์ก็ไม่ปล่อยเวลาให้เสียเปล่า แต่ตอนที่เขากำลังจะจูบระย้าก็เบือนหน้าหลบ"ผมเห็นคุณเปลี่ยนชุดแล้วนี่""อาบน้ำตั้งหลายชั่วโมงแล้วค่ะ""หลายชั่วโมงก็ยังหอมอยู่""ไม่ได้ค่ะยังไงฉันก็ต้องไปอาบน้ำก่อน" ยังไงต้องไปล้างให้สะอาดก่อนแล้วกัน เพราะเขาเล่นสัมผัสทุกส่วนของร่างกายตอนที่น้ำฝักบัวกำลังไหลรินลงมาชโลมร่างกาย ประตูห้องน้ำก็ถูกเปิดเข้ามา"ฉันอาบน้ำยังไม่เสร็จเลย""อาบด้วยกันก็ได้"เข้ามาแทน
กลับไปถึงห้องก็ไม่เห็นเธอ ตุนน์เลยรีบออกไปดูร้านอาหารหน้าสถานบันเทิง ที่เขาไม่ได้โทรไปเพราะเห็นอยู่ว่าโทรศัพท์เธอไม่ได้ถือออกไปด้วย แต่พอเดินดูก็ไม่เห็น ..แม้แต่ร้านที่เธอไม่เคยมาทานเขาก็ยังไปดูเลย"ไปไหนของเธอเนี่ย" หรือว่าบางทีเธออาจจะไปหาอลิส คิดได้แบบนั้นตุนท์เลยลองกดโทรเข้าเครื่องของอลิสดู แต่คำตอบที่ได้ไม่เห็นระย้ามา และอลิสยังถามอีกว่าระย้ากลับมาด้วยเหรอ ตอนนั้นยังนึกเสียใจอยู่เลยว่ายังไม่ได้บอกลากันก๊อกๆ ตอนที่ระย้านั่งเศร้าอยู่ก็มีคนมาเคาะประตูห้องเธอเลยเงยหน้าขึ้นมอง"อ้าวคุณระย้า?" คนที่เข้ามาก็คือข้าวปุ้น ข้าวปุ้นว่าจะเข้ามาคุยงานกับอลิสมองเห็นว่ามีคนนั่งอยู่ในห้องหัวหน้าก็คิดว่าเป็นอลิส"ทำไมเห็นฉันแล้วต้องตกใจด้วยล่ะคะ""?" ข้าวปุ้นแปลกใจกับคำถามนี้ แต่ก็ต้องรีบสลัดมันออกไปก่อน"ได้ยินคุณตุนท์บอกว่าคุณอยู่ที่ห้องนี่คะ""เขาบอกแบบนั้นหรือคะ""เอ่อ..ค่ะ..?" ข้าวปุ้นชักจะสงสัยกับท่าทีนี้แล้ว ก่อนหน้าระย้าไม่ได้เป็นคนแบบนี้นี่ ทำไมช่วงหลังมาถึงพูดกับเธอแปลกๆ"มาอยู่นี่เองบอกแล้วใช่ไหมว่าให้อยู่ห้อง" ตุนท์เดินตามหาไม่เจอเลยเข้ามาดูในห้องทำงานและก็เป็นแบบที่เขาคิดไว้จริงๆ "อ้
"???" เห็นนายทะเบียนยื่นเอกสารสำคัญมาให้เซ็น เธอถึงได้รู้ว่าที่เขาพามาคือมาจดทะเบียนสมรส เพราะแบบนี้เองเหรอที่เขาบอกจะทำให้เชื่อใจว่าเขาจะไม่ทิ้งขว้างเธอตุนท์หยิบปากกามาแล้วก็เซ็นชื่อนามสกุลลงไปก่อน หลังจากที่เขาเซ็นเสร็จแล้วก็ส่งปากกาให้กับเธอ"คุณไม่ได้บอกฉันเรื่องนี้" ยอมรับว่าตกใจมากแต่งงานก็ยังไม่ได้ขอแต่ง บอกรักปุ๊บก็พามาจดทะเบียนสมรสเลยใครจะไม่ตกใจล่ะ"คุณพูดเมื่อคืนนี้เองไม่ใช่เหรอ กลัวว่าผมจะไม่จริงจังกับความสัมพันธ์ครั้งนี้" นี่แหละมันเป็นสิ่งที่ยืนยันยิ่งกว่าการกระทำและคำพูดว่าเขาจริงจังกับเธอแค่ไหน"ทั้งสองได้ตกลงกันมาเรียบร้อยแล้วใช่ไหมครับ" เป็นหน้าที่ของนายทะเบียนที่ต้องดูให้แน่ใจว่าไม่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งถูกบังคับให้มาจดทะเบียนสมรส"เราตกลงกันแล้วค่ะ" หญิงสาวพูดพร้อมกับเอื้อมมือไปหยิบปากกานั้นมาเขียนชื่อและนามสกุลของเธอลงไป และนายทะเบียนก็สอบถามว่าฝ่ายหญิงจะยังใช้นามสกุลตัวเองหรือเปลี่ยนมาใช้นามสกุลฝ่ายชาย "ฉันจะใช้นามสกุลสามีค่ะ"ตุนท์เผยรอยยิ้มออกมาตอนได้ยินเธอบอกจะใช้นามสกุลสามี แบบนี้สินะเขาถึงเรียกว่าคนที่ใช่มักมาในเวลาที่เหมาะสมตามด้วยพยานอีกสองคนที่ต้องเซ็น เพราะ
บ้าหรือไงเล่นขอกันตรงๆ แบบนี้ จากที่นอนหันหลังให้ระย้าก็ค่อยๆ นอนหงาย ทีแรกตุนท์ก็เตรียมตัวตั้งการ์ดไว้แล้วล่ะ เผื่อกำปั้นของเธอสวนกลับมาจะได้ไม่ถูกจุดสำคัญ แต่พอนอนหงายระย้าก็นิ่งเงียบไม่พูดไม่จา"?" ตุนท์รับรู้ได้ในทันทีว่าเธออนุญาต ถึงแม้ไม่อนุญาตเขาก็ไม่รอแล้วนะผ้าเช็ดตัวที่ยังคงพันรอบเอวอยู่ถูกเขากระชากดึงทิ้งลงไปข้างเตียงก่อนจะพลิกกายคร่อมร่างเธอครั้งนี้เขาจะทำให้ดีที่สุดให้เธอติดใจถึงแม้ว่าเธอจะไม่ยอมกลับไปด้วย ก็จะให้เธอไม่มีวันลืมเขาไปตลอดชีวิตแต่ปัญหาคือเธอเจ็บขาเล่นท่ายากไม่ได้ด้วยสิ เขาต้องพลิกแพลงท่าใหม่แล้วล่ะ"พอก่อนค่ะ" ระย้าแทบจะหายใจไม่ทั่วท้อง ตอนที่บอกให้เขาพอก่อนไม่รู้ว่าเสียงพูดหรือเสียงหอบหายใจดังกว่ากัน แต่ตุนท์ก็ไม่คิดจะหยุดเขายังคงเดินหน้าต่อ ตั้งแต่ลีลาการคว้านลิ้นแล้วจนมาถึงการคว้านท่อนเอ็นงัดซ้ายทีขวาที ทุกครั้งเขาก็ไม่ใช่ย่อยแต่ครั้งนี้เขาร้อนแรงกว่าทุกครั้งอีกกว่าจะจบครั้งแรกไปก็กินเวลาเป็นชั่วโมง"ขะ.. คุณจะทำอะไรอีก""แค่นี้คิดจะยอมแพ้แล้วเหรอ""คุณไปกินดีเสือมาหรือไง""จนกว่าคุณจะล้มเลิกเรื่องนั้นผมถึงจะปล่อยให้คุณพัก"ระย้ารู้ว่าเขาหมายถึงเรื่องอ
"คุณจะทำอะไร" ระย้าขยับใบหน้าหลบริมฝีปากอีกฝ่ายที่โน้มเข้ามา แต่เขาก็ไม่ได้ตอบ หลังจากที่เธอเบือนหน้าหลบริมฝีปากนั้นก็ฝังจูบลงซอกคอแทนระย้านอนนิ่งโดยที่ไม่เอ่ยปากพูดอะไรอีก จนชุดที่เธอใส่อยู่ค่อยๆ ถูกถอดออกทีละชิ้นแบบระมัดระวังเพราะกลัวว่าจะไปถูกเท้าที่มีแผลเข้าหลังจากนั้นใบหน้าคมคายก็ได้ขยับต่ำลงไปซุกลงกับเนินน้องสาว"อือ" หญิงสาวทำได้แค่นอนเกร็ง จังหวะนั้นมือหนาก็ได้เกี่ยวเรียวขาข้างที่ได้รับบาดเจ็บยกขึ้นก่อนจะนำหมอนมาวางใต้ท้องขา เพื่อทำให้แผลไม่ต้องสัมผัสกับที่นอนจากนั้นตุนท์ก็ขยับใบหน้าต่ำลงพร้อมกับใช้ลิ้นชโลมเลียร่องสวาทที่เขาโหยหา"อื้อออ" ตอนลิ้นสากตวัดเกี่ยวยอดเม็ดเสียว คนตัวเล็กที่นอนเกร็งอยู่ถึงกับกระตุกไปตามแรงตวัดลิ้นความต้องการในร่างกายเธอมันสูงมาก สูงจนเขาคิดว่าคืนนี้ยังไงก็ยับยั้งตัวเองไม่อยู่แน่ จังหวะนั้นเขาก็ยังคงลงลิ้นให้เธอต่อเพราะเสียงครวญครางนั้นช่างน่าหลงใหลไม่ต่างจากร่างกายของเธอเลยระย้าทนความช่ำชองในการใช้ลิ้นของเขาไม่ไหว จนเท้าเผลอจิกลงพื้นที่นอน แต่เธอก็รีบเอามือมาปิดปากไว้ไม่อยากร้องเจ็บกลัวว่าเขาจะหยุดเห็นเธอดิ้นพล่านชายหนุ่มก็อดไม่ได้อีกต่อไปแล้ว ร