Share

บทที่ 443

Author: เอเวอลีน เอ็มเอ็ม
เอวาลุกขึ้นและเดินตรงมาหาฉันทันทีที่ฉันก้าวออกจากห้อง

“เป็นยังไงบ้าง?” เธอเอ่ยถาม สายตาเราสองสบกัน

ถ้าจะให้พูดตามตรง ฉันแปลกใจที่เธอยังอยู่ที่นี่ ตอนเธอบอกว่าจะรอฉัน ฉันไม่คิดว่าเธอจะรอจริง ๆ ฉันแค่คิดว่าเธอจะรอจนฉันเข้าไปข้างใน แล้วก็กลับไปเลย ฉันไม่เคยคาดหวังว่าเธอจะรอฉันนานถึงชั่วโมงครึ่ง

“มันดีจนน่าตกใจเลยล่ะ” ฉันตอบไปแบบไม่ค่อยแน่ใจว่าควรอธิบายอย่างไรดี

ฉันชอบการบำบัดนี้มากกว่าที่คิดไว้มาก ฉันเก็บความรู้สึกทุกอย่างเอาไว้ข้างในมานานแสนนาน แน่นอนว่าฉันเคยเล่าเรื่องพวกนี้ให้มอลลี่ฟัง แต่ฉันไม่เคยยอมให้ตัวเองรู้สึกร่วมกับมันจริง ๆ ฉันไม่เคยบอกเธอว่าฉันรู้สึกยังไงกันแน่ ความรู้สึกที่หัวใจนั้นแตกสลาย เจ็บปวด ว่างเปล่า ทุกอย่าง ฉันเก็บมันไว้กับตัวเองมาตลอด

แต่การได้พูดมันออกมากับคุณหมอมีอามันทำให้ฉันตาสว่าง ฉันไม่รู้ว่าเธอทำได้อย่างไร ไม่รู้ว่าเธอทำให้ฉันเปิดใจได้อย่างไร... แต่ทุกสิ่งมันหลุดออกมาจากปากและจากใจจนสิ้น เหมือนทุกอย่างที่ฉันพยายามหนีมาตลอด ทุกความเจ็บปวดที่ฉันพยายามฝังเอาไว้ มันพรั่งพรูออกมาจนหมด

ฉันยังห่างไกลจากคำว่าไม่เป็นไรมาก แต่ฉันรู้สึกดี ฉันรู้สึกโล่งใจที่สามารถป
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ธุลีใจ   บทที่ 444

    หัวใจฉันเจ็บปวดเมื่อได้ยินความเศร้าที่ฝังลึกอยู่ในน้ำเสียงเธอ ฉันเข้าใจแล้วว่าทำไมเอวายังคงต้องไปบำบัดอยู่ เธอยังไม่ได้เยียวยาตัวเองอย่างสมบูรณ์ฉันย้อนมองกลับไปและลองนึกว่าตนเองเป็นเธอ ฉันไม่เคยตั้งคำถามเลยว่าทำไมพ่อแม่ถึงเป็นแบบนั้นกับเอวาตั้งแต่ก่อนที่เธอจะพลาดนอนกับโรแวน ฉันแค่ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่มันเป็น ฉันไม่เคยเพิกเฉยต่อเธอ แต่ฉันก็ไม่เคยพยายามทำให้เธอรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวหลังจากเรื่องวุ่นวายกับโรแวน ฉันจมอยู่ในความเจ็บปวดของตัวเองมากเกินไปจนไม่สนใจเลยว่าพวกเขาปฏิบัติต่อเธออย่างโหดร้ายแค่ไหน ฉันพร่ำบอกกับตัวเองว่าเธอสมควรได้รับมันแล้ว“ฉันไม่ใช่พี่สาวที่ดีเลยใช่ไหม?” ฉันถามออกมาช้า ๆ เมื่อความผิดของตัวเองเริ่มถาโถมเข้าใส่“ไม่เป็นไรหรอก มันไม่มีความหมายอะไรแล้ว ฉันเองก็ไม่ใช่น้องสาวที่ดีเหมือนกัน แถมฉันยังเป็นคนทำลายทุกอย่างเองอีก ฉันรักโนอานะ รักมาก และฉันไม่มีวันเสียใจที่มีเขา แต่ฉันเสียใจที่เรื่องคืนนั้นเกิดขึ้น เชื่อฉันเถอะเอมม่า ว่าฉันไม่เคยตั้งใจจะทำให้เธอเจ็บปวดเลย”ฉันกะพริบตาถี่ ๆ พยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหล เธอเอื้อมมือมากุมมือฉันไว้แล้วบีบเบา ๆ เ

  • ธุลีใจ   บทที่ 445

    เอวาฉันนั่งอยู่ที่โต๊ะเครื่องแป้ง มองไปที่กระจกอย่างว่างเปล่าขณะที่หวีผมไปเรื่อย ๆ มันประมาณ 3 ทุ่มแล้วและความคิดก็ยุ่งเหยิงไปหมดวันนี้ตอนที่ฉันไปเข้ารับการบำบัดกับคุณหมอฉันไม่เคยคิดเลยว่าจะเจอกับเอมม่า ไม่เคยคิดว่าจะเสนอตัวรอเธอ แล้วชวนไปกินไอศกรีม แล้วก็นั่งคุยกับเธอเป็นชั่วโมงเธอบอกว่ามันเป็นการบำบัดครั้งแรกและฉันก็รู้สึกว่าต้องอยู่ข้าง ๆ เธอ ฉันรู้ดีว่าการบำบัดครั้งแรกมันยากแค่ไหน ความกลัวและความวิตกกังวล ความตื่นตระหนกและความกดดัน ฉันไปคนเดียวและเกือบจะทำให้ตัวเองหัวใจวายเพราะความวิตกกังวลและตื่นเต้นเมื่อฉันออกมาจากการบำบัดนั้น ฉันรู้สึกเหมือนบาดแผลที่มามันฉีกออก รู้สึกเหมือนแผลถูกกระชากจนเปิดเผยออกมา ฉันไม่ได้ทำอะไรเพื่อรักษามันเลย แทนที่จะเรียกว่ารักษา เรียกว่าแค่ปกปิดมันและฝังศีรษะลงดินเฉย ๆ พลาสเตอร์ยารักษาแผลโดนยิงไม่ได้แต่ฉันทำแบบนั้นความคิดฉันยุ่งเหยิงไปหมด รู้สึกเหมือนตัวเองถูกอ่านจนทะลุปรุโปร่ง รู้สึกหมดแรง รู้สึกเหมือนมีหลุมกว้าง ๆ อยู่บนหน้าอกและมีคนเห็นหัวใจที่มีแต่บาดแผลดวงนี้เวลานั้นเล็ตตี้ไปธุระและไม่มีใครที่ฉันสามารถโทรหามากอดหรือปลอบใจได้ ดังนั้นเมื่อ

  • ธุลีใจ   บทที่ 446

    ฉันนั่งเงียบพลางมองเขาถอดเสื้อโค้ทออก ตามด้วยเนกไท แล้วก็ถุงเท้า เสื้อผ้าชิ้นอื่นค่อย ๆ หลุดออกจากร่างกาย จนกระทั่งเขาเหลือเพียงแค่บ็อกเซอร์ ฉันมองตามไปขณะที่เขาเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ ไม่กี่วินาทีต่อมา เสียงน้ำจากฝักบัวก็ดังขึ้น ฉันละสายตาจากประตู แล้วจ้องมองตรงไปข้างหน้า โดยไม่ได้จดจ่อกับอะไรเลยจริง ๆจิตใจฉันวกกลับไปหาเอมม่าชีวิตฉันมีตอนจบที่แสนสุข แล้วเอมม่าล่ะ? ฉันควรจะเรียกมันว่าตอนจบแสนสุขจริงหรือในเมื่อตอนแรกโรแวนเคยเป็นของเธอ? พวกเขาจะยังอยู่ด้วยกันไหมถ้าฉันยอมปล่อยมือไป? พวกเขาจะมีความสุขไหม?คำถามพวกนี้ยังคงวิ่งวนอยู่ในหัว ความสงสัยทั้งหมดนี้ทำให้ฉันเริ่มตั้งคำถามกับการตัดสินใจของตัวเองที่เลือกอยู่กับโรแวน ฉันอยากให้ทุกคนมีความสุข ฉันเกลียดที่รู้ว่าฉันได้รับตอนจบแสนสุขแต่เอมม่าและคาลวินกลับไม่ได้รับสิ่งที่เหมือนกันหรือบางทีถ้าฉันปล่อยเรื่องนี้ไปตั้งแต่แรก เอมม่าและโรแวนอาจจะยังคงอยู่ด้วยกัน ยังคงรักกันอยู่ จากนั้นคาลวินก็คงก้าวต่อไปเช่นเดียวกับฉัน ทุกคนคงจะได้รับตอนจบที่มีความสุขได้เหมือนกัน“เอวา เป็นไรไหม?” เสียงของเขาดึงฉันออกจากภวังค์ฉันเงยหน้าขึ้นมองเขา เห็นว่

  • ธุลีใจ   บทที่ 447

    เสียงของโรแวนแหบพร่าขณะที่เขาพยายามกดอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ ความสั่นเครือในน้ำเสียงทำให้ฉันใจสลาย ฉันไม่ชอบเห็นเขาเจ็บปวด ฉันเกลียดมาก“โรแวนคะ…”“ไม่เอวา มันคือเรื่องจริง ผมเกือบจะสายเกินไปแล้ว ลึก ๆ ในใจ ผมรู้ว่าถ้าอีธานไม่ทำพลาด ผมก็คงไม่ได้รับโอกาสจากคุณ คุณคงไม่กลับมาหาผมถ้าไม่ได้เป็นเพราะโชคชะตา ผมจะรู้สึกขอบคุณตลอดไปที่คุณให้โอกาสผมอีกครั้ง ทั้งที่ผมเคยทำแย่ ๆ กับคุณมากมายขนาดนั้น ความผิดพลาดที่คุณคิดว่าคุณก่อขึ้นในคืนนั้นเหรอ? มันไม่นับเป็นอะไรเลยเมื่อเทียบกับสิ่งที่ผมทำให้คุณต้องเจอมาตลอดเก้าปี แต่ถึงอย่างนั้นคุณก็ยังเลือกผม…”“ก็เพราะว่าฉันรักคุณยังไงล่ะคะ”“ครับ แต่อีธานเกือบได้ครอบครองความรักนั้น”ฉันไม่ชอบที่เขารู้สึกไม่มั่นคงเพราะอีธาน ฉันเกือบจะตกหลุมรักอีธานจริง ๆ แต่เขาไม่ได้ถูกลิขิตมาให้คู่กับฉัน อีธานมีที่พิเศษในหัวใจฉันเสมอ ไม่ใช่เพราะฉันรักเขาหรือเพราะเขาเป็นพ่อของไอริส แต่เพราะเขาสอนให้ฉันรู้จักใช้ชีวิตและรักตัวเอง ในวันที่ไม่มีใครรักฉันเลย"คุณไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิดเลย เพราะตอนนี้ผมอยู่ในที่ที่ผมควรจะอยู่แล้ว สิ่งที่ผมกับเอมม่าเคยมีร่วมกันมันเป็นแค่รักแบบเด็

  • ธุลีใจ   บทที่ 448

    เกเบรียลผ่านมาเกือบสองสัปดาห์แล้วตั้งแต่เดตแรกของผมกับฮาร์เปอร์ และตอนนี้ผมไม่รู้เลยว่าควรทำอะไรต่อไปดีผมรู้ว่ามันฟังดูไม่สมเหตุสมผลเลย ผมเคยครอบครองเธอมาก่อนและผมก็เป็นคนหย่ากับเธอก่อนเอง แต่ตอนนี้ผมกลับโหยหาผู้หญิงคนนี้อย่างที่ไม่เคยต้องการใครหรืออะไรเท่านี้มาก่อนเธอเข้ามาอยู่ในทุกห้วงความคิดของผม ตั้งแต่ตอนตื่นนอนจนถึงก่อนหลับตานอน มันแทบทำให้ผมเป็นบ้า แต่ก็ใช่ว่าผมจะบ่นอะไร เพราะผมชอบการคิดถึงเธอผมชอบคิดถึงริมฝีปากนุ่ม ๆ ของเธอ รอยยิ้มที่สวยงาม เสียงหัวเราะ ใบหน้าที่งดงาม และร่างกายแสนเย้ายวน ผมโคตรชอบคิดถึงเธอ แค่เธอคนเดียว เธอสวยทั้งกายและใจ ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้รู้จักเธอมากขึ้นจากการสังเกตเธอเงียบ ๆแล้วทำไมผมไม่ทำแบบนี้ตั้งแต่ตอนที่เรายังแต่งงานกันนะ? ทำไมผมถึงผลักไสเธอไป? ทำไมผมถึงปฏิบัติกับเธอแย่ขนาดนั้น? ผมอาจจะยังเด็กในตอนนั้น แต่มันไม่ใช่ข้ออ้าง ผมมันเป็นไอ้เวรชัด ๆพอมองย้อนกลับไป ผมเห็นทุกอย่างชัดเจนขึ้น แอนดรูว์มอบของขวัญให้ผม แต่ผมกลับไม่เห็นค่าของมันเลย ผมกลับเหยียบย่ำมันด้วยการปฏิบัติกับเธออย่างโหดร้าย เขาแบล็กเมล์ผมก็จริง แต่ตอนนี้ผมก็เริ่มเข้าใจ

  • ธุลีใจ   บทที่ 449

    ทำไมเราถึงมีคนแบบผู้หญิงคนนี้ทำงานอยู่ในบริษัทได้?ความผิดของเธอยาวเป็นหางว่าวยังว่อนอยู่ในหัวและผมไม่สามารถระงับความโกรธที่เริ่มปะทุอยู่ภายในได้“เรียกคนจากฝ่ายบุคคลมา!” ผมพูดผ่านฟันที่ขบแน่น “แล้วส่งอีเมลไล่ผู้หญิงคนนั้นออกไป ผมไม่ต้องการให้เธออยู่ในบริษัทนี้ และไปบอกฝ่ายการเงินให้ชัดด้วยว่าเธอจะไม่ได้ค่าชดเชยอะไรทั้งนั้น เพราะพฤติกรรมน่ารังเกียจที่เธอทำทั้งหมด”“รับทราบครับ บอส”ไม่นานผู้จัดการฝ่ายบุคคลก็มาถึงห้องผม... และเมื่อเขาโผล่หน้าเข้ามา ผมก็โมโหเดือด“ผมได้รับแจ้งมาว่าคุณต้องการพบผมเหรอครับ คุณวู้ด” เขากล่าวด้วยสายตาลุกลี้ลุลนและหลบสายตาผม“เราจ้างคุณมาทำอะไร?” ผมถามพลางหรี่ตามองเขาเขาเป็นผู้ชายสูง ผอมและหัวล้าน สูทที่เขาสวมใส่เกินความกว้างไหล่มากจนหลวมโคร่งแทนที่จะตอบคำถามผม ไอ้โง่นี้กลับทำเพียงแค่จ้องมองผมเหมือนไม่เข้าใจคำถามที่ผมถามไป“ตอนที่ผมถามคำถาม ผมก็หวังว่าจะได้คำตอบนะ” ผมตะคอกเสียงดัง “ตอนนี้บอกมาซิ เราจ้างคุณมาทำอะไร?”เขาตะกุกตะกักด้วยความกลัว ขณะที่เริ่มพูดถึงความรับผิดชอบของเขา“ถ้าเป็นแบบนั้น แล้วทำไมผู้หญิงที่ชื่อมิลลี่ถึงได้เข้ามาทำงานที่นี่ได้

  • ธุลีใจ   บทที่ 450

    ฮาร์เปอร์ตอนนี้ฉันเหนื่อยมากและหิวจนจะตายอยู่แล้ว ฉันไม่ได้ทานอาหารเช้าเมื่อเช้านี้เพราะตื่นสายช่วงนี้มีนัดคุยธุรกิจสำคัญมากมาย ดังนั้นเกบจึงจำเป็นต้องออกไปทำงานเร็วกว่าฉัน เมื่อคืนฉันแทบไม่ได้หลับสนิทเลยจึงทำให้ไม่ได้ยินเสียงนาฬิกาปลุกลิลลี่เริ่มปรับตัวเข้ากับโรงเรียนใหม่ได้มากขึ้น ฉันก็เคยไปส่งเธอบางเป็นครั้งคราว แต่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นคนขับรถมากกว่าที่ทำหน้าที่ไปรับส่งเธอไปโรงเรียน แต่เรายังรับประทานอาหารเย็นร่วมกันทุกวัน และเกบมักจะกลับบ้านก่อนที่ลูกจะเข้านอนเสมอในแง่ของความสัมพันธ์กับเกบ จะบอกว่าตึง ๆ ใส่กันก็ได้ อย่าเพิ่งเข้าใจผิดนะเขาไม่ได้ทำตัวโหดร้ายหรืออะไรอย่างนั้น เรียกว่าตรงกันข้ามด้วยซ้ำ ซึ่งมันทำให้ฉันประหลาดใจ ฉันประหลาดใจเพราะว่ามันดูไม่เหมือนเขาเลยฉันคาดหวังเอาไว้เสมอว่าผู้ชายคนที่ฉันเคยแต่งงานด้วยเมื่อหลายปีก่อนจะปรากฎออกมา แต่เขากลับไม่เคยปรากฎออกมาเลยสักครั้งหนึ่ง ฉันคาดว่าจะได้เห็นชายที่ปรากฏตัวหน้าอะพาร์ตเมนท์ฉันเมื่อหลายเดือนก่อน ทั้งเสียงตวาด ทั้งคำข่มขู่อย่างจริงจัง แต่ชายคนนั้นหายไปไหนไม่รู้นั่นทำให้ฉันรู้สึกสับสนเป็นอย่างมาก หมายถึงเขาหายไปไหนเสียแ

  • ธุลีใจ   บทที่ 451

    “การกระทำกับความคิดป่วย ๆ ของเธอต่างหากที่ทำให้โดนไล่ออก อย่ามาโยนความผิดให้ฉันดีกว่า”“ความผิดแกทั้งนั้น ถ้าแกไม่โผล่หน้ามาที่นี่ มันก็ไม่เกิดเรื่องนี้ขึ้นแน่”ฉันตอบสนองช้าเกินไป พอเธอพุ่งเข้ามาตบ ฉันก็รับมือไม่ทันฉันเซไปก่อนจะตั้งตัวได้อีกครั้ง ฉันทนไม่ไหวแล้ว ผู้หญิงคนนี้ทำเรื่องเลวร้ายแล้วรอดตัวไปได้มากมาย แต่ครั้งนี้คงไม่รอดพ้นมือฉันไปแน่นอนฉันง้างมือแล้วชกเธอโดยไม่ทันได้คิด พวกเรากรีดร้องออกมาพร้อมกัน“บ้าเอ๊ย เจ็บชะมัด” ฉันสบถ“แกต่อยฉันเหรอ!”เธอไม่คิดว่าฉันจะกล้าต่อย เธอล้มลงพลางยกมือกุมจมูกที่มีเลือดไหล แม้ว่ามือฉันจะเจ็บ แต่การได้เห็นเธอนอนเจ็บและเลือดออกกลับทำให้ฉันรู้สึกสะใจแปลก ๆ“ฮาร์เปอร์!” เสียงของเกเบรียลดังขึ้นจากด้านหลัง แต่ฉันยังไม่ละสายตาจากมิลลี่ เผื่อว่าเธอคิดจะโจมตีฉันอีกไม่กี่วินาทีต่อมา วิสัยทัศน์ของฉันก็ถูกบดบัง เหลือเพียงแค่แผงอกกว้างที่ปกคลุมด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาว“เป็นอะไรไหม? ขอโทษที่ผมมาช้าไปนะ” เขาพูดอย่างเร่งรีบ “คิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าเธอจะมาที่นี่หลังได้รีบเมลเรื่องไล่ออก”ฉันเงยหน้ามองเขา ดวงตาสีเทาเต็มไปด้วยความห่วงใยและกังวล ซึ่งทำให้หัวใ

Latest chapter

  • ธุลีใจ   บทที่ 462

    เรียกฉันว่าคนขี้ขลาดก็ได้ ฉันไม่สน แต่ฉันแค่ไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับเขาอย่างไรเมื่อฉันไปถึงห้องนั่งเล่น ฉันโทรสั่งอาหารเช้าให้มาส่งที่ห้องของเรา ก่อนจะนั่งลงรอฉันรู้ว่านี่จะเป็นหายนะตั้งแต่ตอนที่เกเบรียลบอกว่าเราจะใช้ห้องร่วมกัน ฉันคิดว่าหมอนจะช่วยได้ แต่ฉันแค่หลอกตัวเอง มันไม่ได้ช่วยอะไรได้เลยเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น ฉันก็เดินไปเปิด"อรุณสวัสดิ์ค่ะ คุณผู้หญิง" พนักงานเสิร์ฟทักทาย พร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า"อรุณสวัสดิ์ค่ะ""ให้ดิฉันวางตรงไหนดีคะ?" เธอถามขณะที่ฉันหลีกทางให้เธอเข้ามา"บนโต๊ะอาหารก็ได้ค่ะ" ฉันตอบเธอเธอพยักหน้าและเดินไปที่นั่น เธอเพิ่งวางอาหารเช้าลงและกำลังจะออกไป เกเบรียลก็เดินออกจากห้องนอนพร้อมมือที่กำลังติดกระดุมเสื้อฝีเท้าเธอเริ่มช้าลง และเธอเกือบจะสะดุดเมื่อมองเห็นเขา เกเบรียลเป็นผู้ชายที่ดูดีมาก ดังนั้นฉันจึงไม่โทษเธอหรอก"ขอบคุณค่ะ" ฉันพูดเมื่อรู้ว่าสายตาของเธอยังคงอยู่ที่เกเบรียล ขณะที่สายตาของชายหนุ่มก็อยู่ที่ฉันเสียงของฉันดึงเธอออกจากภวังค์ เธอพยักหน้าก่อนจากไป เมื่อเธอไปแล้ว ฉันก็ปิดประตูให้เรียบร้อย"แล้วยังไงดี คุณจะแกล้งทำเหมือนไม่มีอะไรเก

  • ธุลีใจ   บทที่ 461

    ให้ตายเถอะ แค่คิดถึงคืนนั้นรวมถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นตอนนี้ ก็ทำให้ฉันรู้สึกวูบวาบไปทั้งตัวแล้ว ฉันขยับตัวเล็กน้อย หวังว่าจะช่วยให้รู้สึกสบายขึ้นและบรรเทาความปั่นป่วนในร่างกาย แต่มันกลับทำให้ทุกอย่างแย่ลง เพราะการขยับตัวทำให้ร่างกายแนบชิดกับเกเบรียลมากขึ้นกว่าเดิมเกเบรียลส่งเสียงครางต่ำ แหบพร่า และเร้าอารมณ์ เช่นเดียวกับที่เขาเคยเปล่งออกมาในคืนนั้น ทุกครั้งที่เขาเคลื่อนไหว เสียงนั้นพุ่งตรงเข้าสู่ความรู้สึกของฉัน ทำให้ฉันหยุดพยายามจะขยับตัวให้สบายขึ้นฉันค่อย ๆ หันไปมองเขา หวังว่าเขาจะยังหลับอยู่ พอเห็นว่าเปลือกตาของเขายังคงปิดสนิท ฉันก็รู้สึกโล่งใจ แต่แล้วหัวใจก็เต้นแรงขึ้นเมื่อได้มองใบหน้าของเขาชัด ๆตอนหลับ เขาดูสงบและงดงามเหลือเกิน ขนตายาวทอดเงาบนแก้ม ริมฝีปากเผยอเล็กน้อย เพียงแค่มองฉันก็เกิดความรู้สึกอยากสัมผัสเขา อยากแนบจูบลงไปบนริมฝีปากนั้นฉันกำลังจมดิ่งลงไปอีกครั้ง กับผู้ชายที่กุมหัวใจฉันไว้ตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อน คนเดียวกับที่ตอนนี้กำลังขอในสิ่งที่ฉันไม่เคยคิดว่ามันจะเป็นไปได้ฉันหลงใหลในตัวเขามาก จนกระทั่งฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจนสายเกินไปเสียงครางหลุดออกจากริมฝีปากขอ

  • ธุลีใจ   บทที่ 460

    มื้อค่ำที่เหลือเป็นไปอย่างเงียบสงัด เขาก็ยังต้องขอโทษฉันอยู่แต่ฉันไม่รู้จะพูดอะไรดี ถ้าจะพูดตามตรง ฉันไม่เคยคิดว่าเกเบรียลจะมาขอโทษฉันเลย ดังนั้นการที่เขาทำแบบนั้นและทำด้วยความจริงใจแบบนี้ทำให้ฉันพูดไม่ออกจริง ๆเรารับประทานมื้อค่ำเสร็จและโทรเรียกพนักงานจากด้านล่างให้มาเก็บจาน"ฉันจะไปนอนแล้วนะ มีอะไรที่คุณอยากได้ก่อนหรือเปล่า?" ฉันถามเมื่อจานอาหารถูกเก็บไปและพนักงานจากโรงแรมก็ออกจากห้องไปแล้วลึก ๆ ในใจฉันกำลังตกใจและกังวลที่จะต้องนอนในห้องเดียวกับเกเบรียล แต่ความเหนื่อยจากการเดินทางก็ทำให้ความวิตกกังวลหายไป"ผมเองก็จะไปนอนเหมือนกัน เหนื่อยสุด ๆ เลย"ฉันพยายามกลั้นความตกใจที่เริ่มปะทุขึ้นมาในใจ ฉันคิดว่าจะนอนก่อนเขาเหมือนที่เคยทำ นั่นจะทำให้ฉันมีเวลาได้ผ่อนคลายและพักผ่อนก่อนที่เขาจะเข้ามานอน ฉันนึกไว้ว่าจะหลับไปแล้วก่อนที่เขาจะขึ้นมานอนฉันกัดฟันอย่างหงุดหงิดและเครียด ก่อนจะพยักหน้าหงุดหงิดแล้วเดินไปห้องนอน"คุณชอบนอนด้านไหน?" เขาถาม ขณะที่เดินเข้ามาหยุดอยู่ที่ข้างเตียง"ฉันไม่ค่อยมีความชอบอะไรหรอก ขอแค่ได้นอน ด้านไหนก็เหมือนกัน"“รู้เรื่อง งั้นผมนอนฝั่งซ้ายนะ คุณก็ฝั่งขวาแล้

  • ธุลีใจ   บทที่ 459

    "อาบน้ำเสร็จแล้ว" ฉันบอกเกเบรียลเมื่อก้าวออกมาที่ห้องนั่งเล่น"ผมสั่งอาหารไว้แล้ว กินก่อน ไม่ต้องรอผมได้เลยนะครับ" เขาพูดก่อนเดินผ่านฉันเข้าไปในห้องนอนมันรู้สึกแปลกที่จะเริ่มรับประทานโดยที่ไม่มีเขาและฉันก็ไม่ได้หิวมากนัก ฉันเลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูอีเมล และดูว่าวันพรุ่งนี้ต้องทำอะไรบ้างฉันไม่ต้องรอนาน เพราะไม่ถึงสิบนาทีต่อมา เกเบรียลก็เดินออกมาจากห้องนอนในเสื้อยืดเก่า ๆ และกางเกงวอร์ม“ยังไม่กินเหรอ?” เขาถามพลางเลิกคิ้ว สายตาจ้องมองอาหาร“ก็รู้สึกไม่ดีนี่นาที่กินก่อนคุณแบบนั้น แถมคุณเป็นคนสั่งอาหารมาด้วย”เขาทิ้งตัวลงนั่ง ก่อนจะเริ่มเปิดจานอาหาร ฉันตักอาหารเล็กน้อยแล้วเริ่มรับประทาน ความเหนื่อยถาโถมเข้ามา แม้ว่าฉันจะได้นอนบนเครื่องบินแล้วก็ตาม ฉันไม่อาจหยุดคิดถึงเตียงได้ ตอนแรกฉันไม่ชอบใจนักเรื่องการนอนร่วมเตียงกับเกเบรียล แต่ตอนนี้ฉันกลับเอาแต่คิดถึงมันเสียแล้ว ร่างกายร้องหาเพียงการพักผ่อน“แล้วคุณล่ะ เคยตกหลุมรักใครไหม?” คำถามเกเบรียลทำเอาฉันประหม่าฉันหันขวับไปมองเขา เจอสายตาคมกริบที่จ้องตรงมา ฉันกลืนอาหารลงคอและให้ปากทำหน้าที่ ตอนนี้คงมีอยู่แค่สองทางเลือก ไม่โกหกออกไป ก็บอ

  • ธุลีใจ   บทที่ 458

    ไม่กี่นาทีต่อมา เรามายืนอยู่หน้าห้องสวีท ความรู้สึกตื่นเต้นแปลก ๆ จู่โจมฉันทันที เกเบรียลไขกุญแจและผลักประตูเข้าไปโถงทางเข้าต้อนรับเราด้วยพื้นหินอ่อนขัดมันที่เปล่งประกายอยู่ใต้แสงนุ่มนวลของโคมไฟระย้าสุดหรู เงาสะท้อนทอดเป็นลวดลายงดงามบนผนังห้องนั่งเล่นกว้างขวางปรากฎสู่สายตา ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สุดหรู และหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดานที่เปิดมุมมองสู่ทัศนียภาพของเมืองที่ระยิบระยับราวกับทะเลดาวระบบความบันเทิงล้ำสมัยให้คำมั่นถึงค่ำคืนอันแสนอบอุ่น ขณะที่ครัวสไตล์กูร์เมต์ดึงดูดใจด้วยเครื่องใช้สแตนเลสเงาวาวและเคาน์เตอร์กลางขนาดใหญ่ที่เหมาะสำหรับการทำอาหาร ห้องรับประทานอาหารสุดเก๋ให้ความรู้สึกอบอุ่น เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการสังสรรค์เล็ก ๆ ที่เป็นกันเอง"ดูท่าทางคุณจะชอบนะ?" เกเบรียลแกล้งเย้าฉันทำได้แค่พยักหน้า อย่างที่บอกไปแล้ว เราเคยรวย และฉันก็เคยพักในโรงแรมดี ๆ มาก่อน แต่ที่นี่คืออีกระดับหนึ่ง มันเป็นนิยามของความหรูหราที่แท้จริงสายตาฉันยังคงกวาดมองไปรอบ ๆ ห้อง แต่จู่ ๆ ฉันก็ชะงักเท้าเมื่อความจริงบางอย่างตีแสกหน้าเข้ามาเต็ม ๆ"เกเบรียล ห้องฉันอยู่ไหนคะ? ฉันเห็นแค่ห้องนอนเดียวเองนะ" ฉ

  • ธุลีใจ   บทที่ 457

    เครื่องบินลงจอดที่รันเวย์ มือของเกเบรียลจับตัวฉันไว้ไม่ให้กระดอนตอนเครื่องบินลงจอด“ไม่เป็นไรนะ?” เขาเอ่ยถามพลางสบตาฉัน“ค่ะ”หลังจากที่เกเบรียลเล่าเรื่องผู้หญิงที่เขาเคยตกหลุมรัก ก็ไม่มีเรื่องอะไรไปมากกว่านั้น บาดแผลนั้นยังคงหลอกหลอนเขาอยู่ บาดแผลที่ฝังลึกลงไปข้างในฉันเห็นมันปรากฎอยู่ในดวงตาเขาอย่างชัดเจนขณะที่เล่าทุกอย่างให้ฟัง เขาไม่ต้องการพูดอะไรมากกว่านี้ เขาเพิ่งจะเปิดเผยความลับบางสิ่งเกี่ยวกับตัวเขาที่ใครคนอื่นไม่เคยรู้ แม้แต่พี่ชายฝาแฝดเขาก็ไม่เคยรู้ฉันไม่ได้บังคับให้เขาเล่าออกมามากกว่านั้น ฉันไม่ได้ขอให้เขาเล่าให้ฟังว่าหลังจากรับรู้ความจริงพวกนั้นมันเป็นอย่างไรต่อหรือเกิดอะไรขึ้นกับผู้หญิงคนนั้น เขารู้สึกเปราะบาง และฉันก็เข้าใจด้วยว่าเขาต้องการเวลาเพื่อตั้งสติ ดังนั้นฉันจึงให้พื้นที่กับเขาฉันใช้เวลากว่าครึ่งอ่านหนังสือและอีกครึ่งในการนอนหลับพักผ่อน เขายังเอาใจใส่แม้ตอนที่นั่งห่างออกไป เขาถามว่าฉันนั่งสบายไหมหรือต้องการอะไรอีกหรือเปล่าอยู่เป็นระยะมือของเขาเอื้อมมาแตะหน้าท้องฉันจนดึงฉันออกจากภวังค์ ฉันมองลงไปพบว่าเขากำลังปลดเข็มขัดนิรภัยของฉันออก“คุณรู้ใช่ไหมว่าฉันท

  • ธุลีใจ   บทที่ 456

    ก็เป็นความรักที่สวยงามไม่ใช่เหรอ? แต่ฉันรู้สึกได้ว่ามันต้องมีบางสิ่งเกิดขึ้น บางสิ่งที่เปลี่ยนไป ถ้าทุกอย่างมันดีจริง ๆ ตอนนี้เขาก็คงเคียงคู่กับเธอคนนั้นไปแล้ว ไม่น่าจะมาแต่งงานกับฉันแบบนี้เสียงของเขาเริ่มแหบพร่าและเริ่มเล่าต่อ “ทุกสิ่งมันดีไปหมดเลย เธอเป็นผู้หญิงที่สุดยอดมากและผมก็รู้สึกว่าหลงรักเธอมากขึ้นทุกวัน แต่ตอนนั้นก็ยังไม่ได้แนะนำเธอให้โรแวนรู้จัก เพราะผมอยากเก็บเธอไว้กับตัว ผมไม่ได้เจตนาจะคบหาแบบเงียบ ๆ แต่แค่อยากใช้เวลากับเธอมากกว่านี้ก่อนที่จะพบครอบครัวผม ทุกวันที่ตื่นขึ้นมาผมนึกว่าตนเองโชคดีขนาดไหนที่ได้พบเจอคนอย่างเธอ อย่างที่คุณรู้ โลกของเรามันหาคู่รักที่เหมาะกันได้ง่ายเสียที่ไหนล่ะ ฮาร์เปอร์”และนั่นแหละก็เป็นสังคมของเรา มันยากมากเลยนะที่จะพบเจอคนที่รักเราจริง บางคู่ที่แต่งกันก็เป็นเพราะเรื่องของธุรกิจ และน้อยคนนักที่จะรักและเคารพจากใจจริง แล้วก็ยังมีพวกหวังรวยทางลัดอีก เป็นพวกที่แต่งงานกับคนรวย ๆ เท่านั้นและฉันว่านี่คงเกิดขึ้นบ่อยด้วย“ผมอยู่ในห้วงความรักเลยและคิดอะไรอย่างมีเหตุผลไม่ค่อยได้ เธอสามารถทำให้ผมเปลี่ยนแปลงตนเองได้เพราะผมไม่อยากทำร้ายจิตใจเธอ ไม่อยากให้เ

  • ธุลีใจ   บทที่ 455

    “ฮาร์เปอร์?” เสียงของเขาเรียกฉันกลับมาสู่ความเป็นจริง“โอ๊ะขอโทษที ฉันคิดอะไรเพลินไปหน่อย” ฉันส่ายหัวไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกไป “ค่ะ ฉันเก็บของเสร็จแล้ว”“ดีครับ งั้นไปกันเถอะ”หนึ่งชั่วโมงต่อมา เรานั่งอยู่ในเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวของเกเบรียล ครั้งนี้ฉันเดินทางไปกับเขาเพื่อเซ็นสัญญาธุรกิจ“ทุกอย่างเรียบร้อยดีไหม? ต้องการอะไรหรือเปล่า? ผมให้พนักงานต้อนรับเอาอะไรมาให้ได้นะ” กาเบรียลถามขึ้นทันทีที่เครื่องบินเริ่มออกตัวเข้าใจที่ฉันบอกแล้วใช่ไหม? เขาใส่ใจฉันมากเหลือเกินแต่ตอนที่เรายังแต่งงานกัน เขาไม่เคยเป็นแบบนี้เลย ฉันคิดว่าเขาไม่เคยทำอะไรเพื่อทำให้ฉันมีความสุขเลย จริง ๆ แล้วมันตรงกันข้าม เขาไม่เคยสนใจว่าฉันต้องการอะไร หรือว่าฉันสบายดีไหม ไม่เคยสนใจแม้แต่ฉันยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า เขาแค่ไม่เคยสนใจฉันเลยแต่ตอนนี้ทุกอย่างกลับเปลี่ยนไป และนั่นแหละคือสิ่งที่ทำให้ฉันสับสน มันเหมือนเขาเป็นยักษ์ในตะเกียงวิเศษที่คอยทำให้ความปราถนาของฉันเป็นจริง“ไม่ค่ะขอบคุณ ถ้าต้องการอะไร เดี๋ยวฉันจะบอกพนักงานเองได้ค่ะ” ฉันพึมพำตอบกลับเกเบรียลพยักหน้ารับ ก่อนจะหยิบแล็ปท็อปขึ้นมาเปิดฉันเอนตัวลงกับเบาะหน

  • ธุลีใจ   บทที่ 454

    “แม่ต้องไปจริง ๆ เหรอคะ?” ลิลลี่ถาม สายตามองสลับไปมาระหว่างฉันกับกระเป๋าเดินทางที่เปิดอยู่บนเตียงฉันไม่เคยชอบการเก็บกระเป๋าแบบเร่งรีบในนาทีสุดท้ายแบบนี้เลย แต่ช่วงสองสามวันที่ผ่านมา งานที่ทำงานยุ่งจนแทบไม่มีเวลาหายใจ พอกลับถึงบ้าน สิ่งเดียวที่ฉันคิดได้ก็คือการนอนหลับ ฉันเหนื่อยจนแทบยืนไม่ไหว ไม่มีแรงจะทำอะไรนอกจากกินแล้วก็นอน“ต้องไปจ้ะ” ฉันตอบเธออย่างอ่อนโยน “งานนี้สำคัญมากเลยลูก แล้วพ่อหนูต้องไปจัดการด้วยตัวเอง…”“แต่หนูยังไม่เข้าใจเลยว่าทำไมหนูไปด้วยไม่ได้? หนูอยากเห็นว่าพ่อทำงานยังไง หนูอยากรู้ว่าพ่อจัดการเรื่องงานยังไงค่ะ”ฉันพับเสื้อผ้าชิ้นสุดท้าย ซึ่งเป็นเสื้อไหมสีฟ้า ก่อนจะวางมันลงไปในกระเป๋ากับของที่เหลือ พอทุกอย่างเรียบร้อย ฉันรูดซิปปิดแล้ววางกระเป๋าลงบนพื้น“ลูกก็รู้นี่ ว่าไปไม่ได้” ฉันตอบเธอขณะนั่งลงบนเตียง“ทำไมล่ะคะ?”“เพราะลูกยังเป็นเด็กไง ก็เลยไปไม่ได้ ถูกไหมคะ?”“หนูไม่ใช่เด็กนะคะ หนูจะสิบขวบแล้ว"ฉันกลอกตาให้กับคำโกหกที่ชัดเจน ก่อนจะดึงลิลลี่เข้ามากอดและหอมแก้มเนียนนุ่มของเธอเบา ๆ“หนูก็รู้ดีนะว่าเพิ่งแปดขวบ อีกนานเลยกว่าสิบขวบนะลิลลี่… แล้วอีกอย่าง เด็ก ๆ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status