แชร์

บทที่ 301

ผู้เขียน: เอเวอลีน เอ็มเอ็ม
ฉันจ้องมองชายตรงหน้าที่เป็นพ่อของลูกสาวฉัน คนที่ฉันเคยไว้ใจมากพอที่จะร่วมสร้างชีวิตใหม่กับเขา สายตากวาดมองใบหน้าเขา พยายามเรียกสติกลับมา

เขาดูเปลี่ยนไป อย่าเพิ่งเข้าใจฉันผิดไป ไม่ใช่ว่าเขาไม่น่ามองหรืออะไรทำนองนั้น แต่เขาดูแตกต่างจากชายที่ปรากฏในเศษเสี้ยวความทรงจำ ตอนนี้เขามีหนวดเครา ซึ่งยิ่งทำให้ดูดีขึ้นไปอีก

ฉันรู้ดีว่าฉันรักโรแวน แล้วทำไมฉันถึงมองอีธานแบบนั้น? ไม่หรอก ฉันไม่ได้มองเขาแบบนั้น ฉันแค่สังเกตว่าเขายังดูหล่ออยู่เช่นเดิม

“สวัสดีค่ะ” ในที่สุดฉันก็เอ่ยคำตอบออกไป มันเป็นเพียงคำเดียวที่ฉันสามารถพูดได้

ความอึดอัดพลันเกาะกุม ฉันไม่รู้ว่าควรทำอะไรหรือพูดอะไรดี

สายตาเขาเลื่อนลงจากฉันไปยังลูกสาวของเรา ท่าทีแข็งกระด้างแปรเปลี่ยนไป ดวงตาพลันอ่อนโยนและเต็มไปด้วยความรัก

“ขอผมอุ้มหน่อยได้ไหม?” เขาถาม ดวงตายังไม่ละจากไอริส

ช่างชัดเจนเหลือเกินว่าเขารักลูกสาวของเราขนาดไหน เพียงแค่นี้ก็ทำให้หัวใจฉันอบอุ่น ฉันกลัวมาตลอดว่าเขาอาจจะไม่ต้องการเธอ หรือคิดว่าเธอเป็นความผิดพลาดไหม? เพราะเขาเคยใช้ฉันเป็นเครื่องมือในแผนการร้ายมาก่อน

“ได้สิคะ”

ฉันลุกขึ้นและค่อย ๆ วางไอริสลงในอ้อมแขนที่ยื่นออก
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ธุลีใจ   บทที่ 302

    โรแวน“แกได้เรื่องอะไรมาบ้างไหม รีเปอร์…เรื่องอะไรก็ได้แล้วตอนนี้” น้ำเสียงของผมตึงเครียด และผมต้องพยายามอย่างมากที่จะไม่ระเบิดอารมณ์ออกมามันน่าหงุดหงิดจนแทบคลั่งที่เรายังไม่รู้ว่าใครอยู่เบื้องหลังการทำร้ายเอวา การที่คนที่ทำร้ายเธอยังคงลอยนวล เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งที่มันควรจะได้รับผลกรรมได้แล้ว เรื่องนี้ทำให้ผมแทบบ้า ทุกวันนี้ตอนที่ผมหรือเอวาออกจากบ้าน ความกังวลก็เข้าครอบงำผมทันที มีแต่คำถามที่คอยโจมตีจิตใจผมไม่หยุดหย่อน ถ้ามีใครทำร้ายเธอที่บ้านล่ะ? หรือถ้ามีใครเล่นงานเธอข้างนอกล่ะ? แม้ว่าผมจะจ้างคนคุ้มกันฝีมือดีมากแล้วก็ตาม และรีเปอร์ก็มอบหมายคนของมันมาช่วยดูแลสมทบอีก แต่ผมก็ยังไม่วายคิดถึงสถานการณ์เลวร้ายที่สุดที่อาจเกิดขึ้นเสมอ“นายไม่ได้เป็นคนเดียวหรอกที่ร้อนใจในสถานการณ์แบบนี้” รีเปอร์ตอบกลับอย่างฉุนเฉียว น้ำเสียงสะท้อนความกระวนกระวาย “ฉันเองก็พยายามทุกวิถีทางตามหาไอ้เวรนั่นแล้ว แต่ก็ไม่ได้เลย ไม่ได้อะไรเลยจริง ๆ ขนาดรถที่มันใช้ยังไม่รู้เลย”คิ้วผมขมวดแน่นเมื่อได้ยินรายละเอียด ผมแทบจะสวนกลับไป แต่คำพูดทำให้ผมสะดุด“มันจะเป็นไปได้ยังไงกัน? มันจะไม่มีหลักฐานหรือบันทึ

  • ธุลีใจ   บทที่ 303

    ผมก้าวผ่านพรมเนื้อนุ่มออกจากห้องทำงานอย่างไม่รอช้า มุ่งหน้าไปยังห้องทำงานของเกเบรียล ผมเดินไปตามทางเดินจนถึงฝั่งของเขา“น้องผมอยู่ข้างในหรือเปล่า?” ผมหันไปถามเลขา ฯ ทันทีที่เดินมาถึงอีกฝั่งเราเป็นเพียงสองคนในฝ่ายบริหารที่มีห้องทำงานอยู่ชั้นนี้ เพราะเรามีหุ้นส่วนสูงสุดร่วมกับพ่อ แม้ว่าเขาจะเกษียณไปแล้วก็ตาม“ค่ะ คุณเกเบรียลยังอยู่ด้านในค่ะ”ผมพยักหน้าให้ก่อนเดินเข้าไปในห้องทำงานของน้องชายทันที นี่คงเป็นเลขา ฯ คนใหม่เป็นแน่ เกเบรียลเปลี่ยนเลขาเป็นว่าเล่น ผมโทษว่าเป็นเพราะเขายังคงเป็นเสือผู้หญิงตัวพ่อเลยก็ว่าได้ เขามักจะนอนกับพวกเลขา ฯ และพอพวกเธอเริ่มผูกพัน เขาก็ไล่พวกเธอออก“โรแวน…”“เกิดอะไรขึ้นกับคนที่แล้วล่ะ?” ผมเอ่ยถามและรู้ว่าไม่จำเป็นต้องเกริ่นก่อน “นี่เลขาคนที่สี่ของเดือนแล้วนะ”“ก็นะ มันไม่ใช่ความผิดของฉันสักหน่อย พวกเธอเอาแต่คาดหวังว่าจะต้องพัฒนาความสัมพันธ์ให้ไปถึงขั้นนั้น แล้วก็แต่งงานกัน เพราะแค่นอนกันสองสามครั้งเอง” เขายิ้มกวน ๆ ซึ่งผมรู้ดีว่าเป็นอาวุธที่เขาใช้มัดใจผู้หญิงเหล่านั้นผมส่ายหัวพร้อมมองน้องชายอย่างเหนื่อยใจ พลางคิดว่ามีผู้หญิงคนไหนบ้างที่จะสามารถกำราบเข

  • ธุลีใจ   บทที่ 304

    เอวา“วันมะรืนเดี๋ยวฉันกับโครินเข้าไปหาได้ไหม?” เล็ตตี้เอ่ยถาม เธอโทรมาหาเมื่อสักครู่ ฉันตกใจเล็กน้อย แต่ก็รู้สึกดีที่เธอโทรมา ครั้งสุดท้ายที่เธอมาที่นี่ เราคุยกันและฉันก็เข้าใจว่าทำไมฉันถึงได้กลายเป็นเพื่อนกับเธอ ถึงแม้เล็ตตี้คบหากับทราวิสอยู่ก็ตามเธอเป็นคนสนุกสนาน จึงชวนให้ใกล้ชิดได้ง่าย นอกจากนี้เธอยังน่ารักและใจดีมาก ฉันชอบเธอตั้งแต่แรก และดีใจที่มีเธอในชีวิตฉันขยับตัวไปมาในครัวพร้อมไอริสในอ้อมแขน ลูกสาวไม่ยอมนอนกลางวันเสียที และเพราะเหตุนี้ เธอจึงมีอารมณ์หงุดหงิดมากทุกครั้งที่ฉันพยายามวางเธอลง เธอจะร้องไห้จนน้ำตาไหล และจะสงบก็ต่อเมื่อฉันอุ้มขึ้นใหม่“เอวา?”ฉันลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ครั้งสุดท้ายที่ได้เจอโครินคือที่โรงพยาบาล เธอไม่ได้ติดต่อหรือมาเยี่ยมฉัน ฉันไม่เข้าใจ เพราะเธอน่าจะเป็นหนึ่งในเพื่อนสนิท “สำหรับโครินจะไม่เป็นไรจริง ๆ ใช่ไหม?” ฉันเอ่ยถามออกไปโดยไม่รู้สึกไม่มั่นใจ “คือเราไม่ได้เจอกันตั้งแต่วันนั้นที่โรงพยาบาลเลย”“ก็เพราะว่าโครินอยากให้เวลากับเธอได้จัดการเรื่องต่าง ๆ กับคุ้นชินกับสิ่งแวดล้อมนี้ไงเล่า” เธอเอ่ยตอบ “สรุป วันพุธนะ?”“ได้สิ เอาเข้าจริง ฉันก็ไม่มี

  • ธุลีใจ   บทที่ 305

    หัวใจเต้นรัวราวกับจะหลุดออกมาจากอกเมื่อได้ยินสองพี่น้องพูดนายคิดว่าเขาบอกความจริงกับเอวาหรือเปล่า?ประโยคเดียวนั้นวนเวียนอยู่ในหัวซ้ำแล้วซ้ำเล่า เหมือนเครื่องเล่นแผ่นเสียงชำรุด ฉันรู้สึกเหมือนถูกตรึงไว้กับที่ขณะนิ่งรอคำตอบจากโรแวนฉันกอดไอริสไว้แน่นเพราะรู้สึกได้ไม่เพียงแค่มือที่สั่นเท่านั้น แต่ทั้งร่างกายกำลังสั่นสะท้าน ฉันพยายามสูดลมหายใจเข้าออกลึก ๆ แต่เหมือนอากาศทั้งหมดติดค้างอยู่ในหลอดลมเสียอย่างนั้นฉันเอนตัวพิงกำแพงเพื่อพยุงตัวให้ยืนอยู่ได้ เพราะเข่าอ่อนแรงจนกลัวว่าจะทรุดลงไปกองกับพื้นขณะอุ้มลูกสาวในอ้อมแขน โชคดีที่ไอริสหลับไปแล้ว มิเช่นนั้นฉันคงถูกจับได้ไปแล้ว“ไม่รู้เหมือนกัน” โรแวนพึมพำ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความกดดัน จำได้ไหมที่ฉันบอกว่าหัวใจเต้นแรงแทบแหกอกออกมา? บอกเลยว่าตอนนี้มันแย่กว่านั้นร้อยเท่า“เธอสงสัยนายอยู่นะ นั่นหมายความว่ามีใครบางคนพูดบางอย่างให้เธอได้ฟัง และในเมื่ออีธานไม่ชอบนาย ก็คงเป็นเขานั่นแหละ”ความเงียบเข้ามาปกคลุม หูอื้ออึงไปหมด ฉันได้ยินเพียงเสียงหัวใจของตัวเองเต้นดังสนั่นในหูราวกับว่าพวกเขาจะได้ยินและรู้ว่าฉันยังอยู่ตรงนี้ไม่ได้เดินจากไปไหน“แล

  • ธุลีใจ   บทที่ 306

    “เอวา ตื่นเถอะ ข้าวเย็นพร้อมแล้วนะ” เสียงของโรแวนดังขึ้นเรียกฉันจากความฝันก็ไม่ใช่ทั้งความฝันแสนดี แต่ก็ไม่ใช่ฝันร้ายเช่นกัน เป็นเพียงความฝันที่ทำให้รู้สึกสับสนและมีเพียงความพร่าเลือนแล่นอยู่ตลอดห้วงฝันนั่น “ไอริสล่ะค่ะ?”“ไม่ต้องห่วงเมื่อกี้ตื่นแล้ว แต่ผมป้อนนมไปขวดหนึ่งแล้วก็หลับต่อแล้ว” เขาเอ่ยตอบขณะมองฉันประหนึ่งว่ากำลังหาบางสิ่งฉันพยักหน้ารับจากนั้นจึงผลักผ้าห่มออกไปด้านข้าง ฉันยืดเส้นยืดสายรู้สึกว่ากระดูกทุกท่อนยืดออกและมีความรู้สึกเหมือนร่างกายเบาหวิว“ไม่ไปนอนห้องเราล่ะ มานอนนี่ทำไม?” โรแวนเอ่ยถามพร้อมมองตรงเข้ามาในดวงตาฉันทุกสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้ากระแทกเข้าใจฉันอย่างจัง กลับมาย้ำเตือนฉันถึงเหตุผลว่าทำไมฉันถึงนอนอยู่ตรงนี้แทนที่จะเป็นเตียงกว้างแทนฉันรู้สึกถึงความหงุดหงิดและโกรธเกรี้ยวภายใน ความสงบนิ่งหายไปจนหมดสิ้น จากนั้นจึงแทนที่ด้วยความขมขื่นแทน ทำไมถึงต้องโกหกกันด้วย? ทำไมถึงต้องเก็บซ่อนบางสิ่งจากฉันด้วย? แบบนี้เรียกว่าอยากให้เราสองคนเริ่มต้นความสัมพันธ์กันใหม่จริง ๆ เหรอ? เริ่มด้วยคำโกหกและมีความลับต่อกันอย่างนั้นเหรอ“อย่าหาเรื่องกันนะ โรแวน ฉันยังไม่มีอารมณ

  • ธุลีใจ   บทที่ 307

    ความสุขที่ฉันรู้สึกอยู่เพียงครู่เดียวพลันหายไปหมดสิ้น แทนที่ด้วยความหงุดหงิดที่เข้ามาครอบงำร่างกายอย่างรวดเร็ว"ตอนที่แม่บอกว่าทุกคน แม่หมายถึงทุกคนจริง ๆ โนอา ไม่มีข้อยกเว้นทั้งนั้น" ฉันพูดผ่านฟันที่ขบแน่น "แต่ผมไม่อยากให้เธอมานี่" เขาโต้กลับด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด"เซียร่าคือใคร?" โรแวนถามขึ้น“เป็นเพื่อนร่วมห้องผู้หญิงครับ ผมไม่ชอบเธอเลย เธอน่ารำคาญจะตาย แล้วถ้าต้องเห็นหน้าเธอในงานวันเกิด ผมต้องรู้แย่ไปตลอดแน่เลยครับ”ฉันเข้าใจว่าเซียร่าน่ารำคาญสำหรับเขา แต่การไม่เชิญเธอมางานวันเกิด ทั้งที่เชิญคนอื่นทั้งห้อง มันออกจะใจร้ายเกินไปหน่อย“แล้วลูกรู้ไหมว่าหนูเซียร่าจะรู้สึกแย่ขนาดไหนที่ไม่ได้มางานคนเดียวทั้ง ๆ ที่เพื่อนคนอื่นเขามากันหมด? มันแย่มากแน่ ๆ”“ผม ไม่ สน” คำตอบของลูกชายดังชัด ฉันเริ่มจะหมดความอดทนกับโนอาแล้ว ไม่ใช่ว่าฉันเข้าข้างเด็กหญิงคนนั้นหรอกนะ แต่ฉันเคยผ่านเรื่องแบบนี้มาก่อน ฉันรู้ดีว่ามันรู้สึกอย่างไรเมื่อทุกคนได้รับเชิญไปงานวันเกิดหรือโอกาสพิเศษต่าง ๆ ยกเว้นคุณมันเจ็บปวดแค่ไหนเมื่อคนอื่นปฏิบัติต่อคุณเหมือนคุณไม่มีค่า ทั้งที่คุณไม่ได้ทำอะไรผิดเลยที่สมควรจะได้รับค

  • ธุลีใจ   บทที่ 308

    ช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นอะไรที่วุ่นวายสุด ๆ และไม่ได้หมายถึงช่วงเวลาที่ฉันอยู่ในคุกด้วยซ้ำ ฉันสบายดีไหมน่ะเหรอ? บอกตามตรงเลยว่าไม่ ฉันห่างไกลจากคำว่าสบายดีมาก ทุกสิ่งในชีวิตตอนนี้เหมือนไม่มีอะไรสมเหตุสมผลเลยฉันจะไม่ปิดบังหรอกว่ารู้สึกหลงทาง ฉันเคยมีแผน มีเป้าหมาย และมีความฝันว่าจะได้อยู่กับโรแวนในสักวันหนึ่ง ฉันมุ่งมั่นกับความฝันนั้นมานานจนมันกลายเป็นอากาศที่ฉันหายใจ ทุกสิ่งที่ฉันทำ ล้วนขับเคลื่อนด้วยความฝันที่จะได้โรแวนกลับมาให้ตายเถอะ ฉันถึงกับเลือกเป็นทนายความเพราะเขา ฉันรู้ว่าสักวันหนึ่งเขาจะต้องขอหย่ากับเอวา และฉันจะอยู่ตรงนั้นเพื่อสนับสนุนเขา ฉันเชื่ออย่างสุดใจว่าเอวาจะต้องต่อสู้ ต้องไม่ยอมปล่อยเขาไป และฉันจะเป็นคนสู้แทนเขา เพราะฉันไม่เคยแพ้คดีใด ๆ ฉันเป็นทนายหย่าร้างที่เก่งที่สุดในวงการแต่ทุกอย่างก็พังลงในพริบตา ตอนที่โรแวนส่งฉันเข้าคุก ความฝันในเทพนิยายของฉันก็พังทลาย เหลือเพียงความจริงที่โหดร้าย ทุกวันนี้ฉันรู้สึกเหมือนถูกดึงพรมออกจากใต้เท้า ไม่มีทิศทาง ไม่มีเป้าหมาย ทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะฉันทำให้ผู้ชายคนหนึ่งกลายเป็นศูนย์กลางของชีวิตอย่าเข้าใจฉันผิด ฉันยอมรับแล้ว

  • ธุลีใจ   บทที่ 309

    ฉันจะบอกเธออย่างไรดีว่าฉันรู้สึกหลงทาง? ฉันจะบอกเธอยังไงดีว่าชีวิตของฉันไม่มีความหมายอะไรเลย? ฉันถูกส่งมาบนโลกนี้เพื่ออะไรตั้งแต่แรก? ฉันหมดพลังและความตั้งใจที่จะทำอะไรทุกอย่าง เพราะฉันรู้สึกเหมือนไม่มีอะไรสำคัญอีกต่อไปแล้ว“หนูอยากอยู่คนเดียว แม่” ฉันตอบ “มันมีเรื่องที่หนูต้องจัดการเอง”ฉันไม่อยากบอกแม่ว่าฉันกำลังต่อสู้กับทุกสิ่ง รวมถึงตัวตนของฉันเอง เพราะแม่จะโยงทุกอย่างกลับไปที่โรแวน แล้วบอกให้ฉันก้าวต่อไปและทิ้งอดีตไว้ข้างหลัง ฉันรู้ว่าควรทำ แต่การทิ้งอดีตไว้เบื้องหลังมันยากเหลือเกิน เมื่อคุณยึดมั่นกับมันมาเป็นเวลานาน มันยากที่จะปล่อยมันไป เมื่อคุณปล่อยให้มันกลายเป็นสมอเรือของชีวิต“แม่รู้ แม่รู้ว่าทุกอย่างมันไม่ง่ายสำหรับลูก แต่แม่สัญญา ถ้าลูกให้โอกาสตัวเอง ทุกอย่างจะเข้าที่เข้าทาง แล้วลูกจะเจอความสุขของตัวเอง” แม่ดึงฉันเข้าไปในอ้อมกอด และฉันซบลงบนไหล่ของเธอ ปล่อยน้ำตาให้ไหลอาบแก้ม“หนูไม่รู้ว่าควรทำยังไง ไม่รู้เลยว่าจะมีความสุขได้หรือเปล่า เพราะหนูไม่ได้มีความสุขมาหลายปีแล้ว ส่วนใหญ่หนูก็แค่แสร้งทำไปเท่านั้น”“ลูกบอกว่าไม่รู้ว่าจะทำยังไงใช่ไหม? งั้นก็เริ่มจากการแก้ไขสิ่งที่

บทล่าสุด

  • ธุลีใจ   บทที่ 478

    ขณะที่เราคุยกัน ดวงตาของเอวาก็ยังคงมองกลับไปหาโรแวน คุณจะเห็นความรักในแววตาเธอ จากทุกสิ่งที่เขาทำกับเธอ เธอก็ยังคงให้โอกาสเขาอีกครั้งและแน่นอนดวงตาของโรแวนก็คอยมองไปที่ภรรยาของเขาเช่นกัน มันเหมือนกับว่าเขาไม่สามารถละสายตาจากเธอได้ รวมถึงมือของเขาด้วยเพราะเขาหาทางแตะเนื้อต้องตัวเธอตลอดฉันรู้จากเกเบรียลว่าโรแวนโหดร้ายกับเอวาขนาดไหนในช่วงสามปีของชีวิตแต่งงาน เขาปฏิบัติเหมือนเธอไร้ค่า แต่ตอนนี้เธอดูเหมือนจะเป็นโลกทั้งใบของเขา ความรักที่เขามีต่อเธอแสดงออกมาให้เห็นชัด ฉันไม่เคยคิดว่าเขาจะเปลี่ยนเพื่อเธอมากขนาดนี้ แต่หลักฐานการเปลี่ยนแปลงและความรักของเขาประจักษ์อยู่ตรงหน้าฉัน“มีอะไรกวนใจสิท่า” เอวากระซิบ ดึงฉันออกจากห้วงความคิดฉันหันหน้าไปหา ดวงตากวาดทั่วใบหน้าของเธอ "เธอให้อภัยโรแวนจริง ๆ เหรอ? ทำได้ยังไง? เธอปล่อยวางอดีตได้ไง?”ฉันเพียงแค่ไม่เข้าใจ และถ้าฉันจะพูดตามตรง ฉันกลัวที่จะก้าวเดินไปพร้อมกับเกเบรียลในอนาคตดวงตาเอวาเลื่อนไปมองสามีก่อนที่จะกลับมาที่ฉัน"ฉันยกโทษให้เขาแล้วนะและนั่นเป็นเรื่องง่ายที่สุดด้วย ส่วนเรื่องยากคือการปล่อยวางและลืมมันไป ฉันจะไม่โกหกเธอหรอกนะฮาร์เปอร์

  • ธุลีใจ   บทที่ 477

    “รีบไปกันก่อนจะสายเถอะค่ะ” ฉันบอกหลังจากที่เราหายใจหายคอกันทันแล้วเขาพยักหน้าขณะที่มือลูบไล้มือของฉันก่อนประสานนิ้วของเราเข้าด้วยกันและดึงฉันออกจากห้องนอน"คุณสวยมากเลยค่ะ คุณฮาร์เปอร์!" หนูเซียร่าร้องออกมา น้ำเสียงเต็มไปด้วยความยินดีเมื่อเธอเห็นฉัน"ใช่! แม่สวยมากเลยค่ะ" ลิลลี่กล่าวเสริมพร้อมกระโดดโลดเต้น“ขอบใจจ้ะ สาว ๆ”อีกครู่หนึ่งเซียร่าก็จะกลับบ้านเพราะต้องไปโรงเรียนวันพรุ่งนี้ เนื่องจากทั้งฉันและกาเบรียลไม่อยู่ที่นี่เพื่อรอส่งเธอกลับบ้าน เราจึงได้จัดเตรียมกับคนขับรถให้ไปส่งเธอ เขาจะดูแลให้เธอกลับบ้านอย่างปลอดภัย"ตอนนี้พวกลูกต้องทำตัวดี ๆ กับคุณชารอนด้วยนะ อย่าสร้างปัญหาให้เธอด้วย เข้าใจกันไหมเอ่ย?" ฉันหยอกล้อเชิงตักเตือน“ไม่สร้างปัญหาแน่นอนค่ะ” ทั้งสองพูดพร้อมกันตั้งแต่ที่สบตากับเซียร่า ฉันก็คอยจะมองเธอเสมอ อย่างที่ฉันบอกมีบางอย่างเกี่ยวกับเธอที่ดึงดูดฉัน บางสิ่งที่ดูคุ้นเคยหลังจากบอกลาเด็กหญิงทั้งสองคน เกเบรียลและฉันก็ออกเดินทาง ระหว่างทางเราไม่ได้พูดอะไรกันมากนัก แต่เขาจับมือฉันไว้ตลอดเวลาซึ่งทำให้ฉันรู้สึกสบายใจเราไปถึงสถานที่จัดงานในเวลาอันรวดเร็ว และฉันเริ่ม

  • ธุลีใจ   บทที่ 476

    “เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ”เพราะฉันหาชุดที่เหมาะกับโอกาสเช่นนี้ไม่ได้ เกเบรียลก็เลยให้ความช่วยเหลือ ทีมงานทั้งหมดมาถึงเมื่อประมาณสามชั่วโมงที่แล้วเพื่อช่วยฉันแต่งหน้าและแต่งตัวการแต่งหน้านั้นไร้ที่ติ ช่างแต่งหน้าเลือกใช้แนวหรูหรา ดวงตาแต่งแต้มด้วยอายแชโดว์อันนุ่มนวลแต่โดดเด่นซึ่งช่วยเพิ่มความลุ่มลึกของดวงตาเพิ่มด้วยขนตายาวหนา ทำให้แววตาน่าดึงดูดมากยิ่งขึ้น ช่างแตะแต้มสีทองระยิบระยับที่หัวตาทำให้ดวงตาดูสว่างขึ้นช่วยดึงดูดความสนใจมาที่ดวงตาแสนอบอุ่นนี้ ในขณะที่ทรงผมม้วนเป็นลอนหลวม เงางามเหมือนผ้าไหมภายใต้แสงอ่อนโยนเรื่องชุด เราเลือกชุดราตรีสีแดงยาวเพราะสีแดงกลายเป็นสีโปรดที่เกเบรียลชอบให้ฉันสวม ชุดราตรีเป็นการผสมผสานที่น่าทึ่งระหว่างความเย้ายวนและความสง่างาม ถักทอจากผ้าซาตินสีแดงทับทิมเข้มทิ้งตัวอย่างสวยงามไปตามส่วนโค้งเว้า คอเสื้อเว้าลงเล็กน้อยพอที่จะขับเสน่ห์ออกมา ในขณะที่รายละเอียดลูกไม้อันสลับซับซ้อนตามริมผ้าช่วยเพิ่มความหรูหรา เสื้อท่อนบนที่พอดีเน้นบริเวณเอว ตัวกระโปรงบานออกเล็กน้อยยาวพริ้วลากพื้นเมื่อฉันขยับ ผ้าจะเล่นแสง ส่องประกายเหมือนของผืนน้ำขณะที่เผยเรียวขาให้เห็นเพียงเล็ก

  • ธุลีใจ   บทที่ 475

    "เข้ามาได้" ในที่สุดเขาก็ตอบ ขณะฉันกำลังจะยอมแพ้คิดว่าเขายังหลับอยู่เมื่อเปิดประตูฉันก็เข้าไป ฉันพบเขานั่งอยู่บนเตียง เมื่อเขาเห็นฉัน เขาก็ขยับลงมานั่งอยู่ตรงขอบเตียง ฉันปิดประตูและเดินตรงไปหาเขา"วันของสาว ๆ เป็นยังไงบ้างครับ?" เขาเอ่ยถาม น้ำเสียงงัวเงีย“ว้าวมากค่ะ”“ยังไงครับ?”“ถามอะไรหน่อยได้ไหมคะ? ช่วยสัญญาด้วยนะคะว่าจะพูดความจริง”เขาหันมาหาฉันอย่างเต็มที่ ตอนนี้เขาตื่นเต็มที่แล้ว ดวงตาจ้องมองมาที่ใบหน้าของฉันราวกับว่าเขากำลังพยายามคิดว่าฉันกำลังจะถามอะไร หลังจากนั้นสักครู่ เขาก็พยักหน้า"ฉันรู้ว่าพี่แอนดรูว์ต้องแบล็กเมล์คุณให้แต่งงานกับฉันในครั้งแรกแน่ พอคิดเรื่องที่คุณอกหักแล้ว คุณคงไม่เต็มใจจะแต่งงานในตอนนั้นแน่นอนค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับต้องมาแต่งงานผู้หญิงที่คุณแทบไม่รู้จัก ช่วยบอกทีได้ไหมคะว่าพี่เขาใช้อะไรบังคับคุณ?"ฉันบอกได้ว่าเขาไม่อยากทำจริง ๆ แต่ฉันต้องการคำตอบ ฉันอยากรู้ว่าพี่แอนดรูว์สามารถจัดการเรื่องแต่งงานระหว่างเราได้อย่างไร“ฮาร์เปอร์…”“นะคะ?”“พอโรแวนแต่งงานกับเอวา พี่เขาก็ดูแย่ลงจริง ๆ พี่เขาดูไม่ดีเลย แอนดรูว์ได้หลักฐานว่าโรแวนดื่มเหล้าและใช้ยาเส

  • ธุลีใจ   บทที่ 474

    อย่างที่ฉันบอก ฉันให้อภัยเกเบรียลแล้ว แต่ทำไมฉันยังคงยึดติดกับอดีตอีก? ทำไมฉันยังคงเปรียบเทียบเขากับตัวตนที่เขาเคยเป็น? เห็นได้ชัดว่าเขาเปลี่ยนไปแล้ว แต่สมองยังคงสงสัยเขาคุณรู้จักคำกล่าวที่ว่า 'ถ้าเขาอยากทำ เขาคงทำไปแล้ว?' นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับเกเบรียลในตอนนี้ ในตอนนั้นเขาไม่อยากทำ เขาไม่อยากรักฉัน เขาไม่อยากสนใจฉัน ให้ตายสิ เขาแค่ไม่อยากได้ฉันด้วยซ้ำ... และเพราะเขาไม่อยากได้ฉัน เขาเลยปฏิบัติกับฉันเหมือนไม่สำคัญอะไรลึกลงไปฉันเข้าใจเขาดี ถ้าฉันคิดไม่ผิด เขาแต่งงานกับฉันหนึ่งปีครึ่งหลังจากที่ผู้หญิงคนนั้นหักอกเขา หากพี่แอนดรูว์รู้ พี่คงจะแบล็กเมล์เขาหรืออะไรบางอย่างเพื่อให้เกเบรียลแต่งงานกับฉันแน่ฉันไม่ได้คิดถึงมันตอนที่เราแต่งงานกัน อันที่จริงฉันไม่อยากคิดถึงมันเพราะมันจะทำลายภาพลวงตาที่ฉันสร้างว่าเขาแต่งงานกับฉันเพราะเขารู้สึกอะไรบางอย่างกับฉัน หลายปีต่อมาฉันยอมรับว่าเกเบรียลแต่งงานกับฉันเพราะเขาถูกบังคับให้ทำ ไม่ใช่เพราะเขาต้องการฉันทำได้แค่จินตนาการว่าเขารู้สึกอย่างไร เขาอาจจะยังไม่หายอกหักจากแฟนเก่า เขาโกรธและขมขื่น และอาจจะคิดว่าผู้หญิงทุกคนก็เหมือนกัน จากนั้นเขาถูกบังค

  • ธุลีใจ   บทที่ 473

    "ใช่เลย! เขาไม่ต้องหลบซ่อนอีกต่อไปแล้ว" เธอเปล่งประกายความสุขและความตื่นเต้นแพร่กระจายไปทั่ว "เขาถึงกับขอแต่งงานอย่างไม่เป็นทางการแล้วด้วยนะ""หมายความว่ายังไงก่อนเรื่องขอแต่งงานแบบไม่เป็นทางการ?" ฉันถามด้วยความงงงวยเมื่อมองจากท่าทีของคนอื่น พวกเธอก็สับสนเช่นกัน ปกติก็มีแค่ขอกับไม่ได้ขอแต่งงาน ถูกขอแต่งงานอย่างไม่เป็นทางการมันคืออะไรกัน"คืองี้ตอนที่ฉันบอกเขาว่าท้องน่ะ เขาบอกว่าเขาตั้งใจจะขอแต่งงาน แต่ด้วยเจ้าตัวน้อยนี่มาเซอร์ไพรส์เราก่อน เขาเลยจะเลื่อนการขอแต่งงานขึ้นมาเพื่อให้เราแต่งงานกันก่อนที่ลูกจะเกิดไง" เธอตอบ ดวงตายังคงเปล่งประกายด้วยความปิติและความสุขอย่างแท้จริงนั่นสมเหตุสมผล ฉันเข้าใจว่าทำไมเธอถึงเรียกคำพูดนั้นว่าเป็นการขอแต่งงานอย่างไม่เป็นทางการมีเสียงกรีดร้องด้วยความยินดีดังขึ้นขณะที่เรากอดเธอและแสดงความยินดีอีกครั้ง การที่ผู้ชายของเธอกลับมามีผลกระทบอย่างมาก ตอนนี้เธอดูเหมือนเป็นอิสระ ภาระที่เธอแบกไว้เมื่อครั้งที่เราเจอกันไม่มีอีกต่อไป เธอเปล่งประกายหลังจากที่รีเปอร์กลับมาอยู่กับเธอ"แล้วเธอล่ะ เล็ตตี้?" ฉันหันไปหาเธอ "เธอคบกับทราวิสมานานแล้วนะ ทำไมเขายังไม่ขอแ

  • ธุลีใจ   บทที่ 472

    ฉันถอนหายใจและพยายามควบคุมลมหัวใจ นี่คือบทสนทนาหนึ่งที่ฉันไม่เคยคิดว่าจะได้คุยกับลิลลี่ในวัยนี้ สิ่งหนึ่งที่ฉันรู้สึกขอบคุณคือเธอไม่ได้ถามว่าเด็กทารกมาจากที่ไหนกันแน่ นั่นคงจะเป็นบทสนทนาที่ยากมาก“เดี๋ยวแม่ขอกลับไปห้องก่อนแล้วค่อยออกไปนะ” ฉันบอกพวกเขาและเพิกเฉยต่อการพูดคุยเกี่ยวกับเด็กทารกไปเลย“ยังไม่ได้บอกผมเลยว่าจะไปไหน” เกเบรียลถามย้ำฉันคงจะบอกเขาไปแล้วถ้าไม่ได้มัวแต่นึกปัดป้องตนเองอยู่ แต่เขาทำให้ฉันไขว้เขวไปหมด“ฉันจะออกไปกินข้าวกลางวันกับพวกเอวาค่ะ”ฉันรู้สึกอยากจะยกเลิกนัดกับพวกเธอแล้วนอนพักผ่อน แต่ฉันตัดสินใจไม่ทำแบบนั้น เอวาโทรมาสองสามวันก่อนที่เราจะออกจากโตเกียว เธอเอ่ยถามว่าฉันจะไปร่วมทานอาหารกลางวันกับพวกเธอในวันเสาร์ได้ไหม ฉันตอบตกลงทันทีโดยไม่ได้คิดว่าฉันจะเหนื่อยแค่ไหนหลังจากเที่ยวบินสิบสามชั่วโมงรอยยิ้มปรากฏบนริมฝีปากของเขา "ดีใจจริง ๆ ที่เห็นว่าคุณมีเพื่อน"“ค่ะพวกเธอเจ๋งมากเลย”"พูดถึงเพื่อน" ลิลลี่พูดแทรก "คืนนี้เซียร่ามานอนค้างที่บ้านเรานะคะ"“แม่จำได้จ้ะ ลูกรัก” ฉันเอ่ยตอบ “หนูมีอะไรฝากมาแม่ซื้อเตรียมตัวสำหรับคืนนี้บ้างไหมลูก?”เธอส่ายหัว “หนูขอขนมกับน

  • ธุลีใจ   บทที่ 471

    ฮาร์เปอร์ฉันมองตัวเองในกระจกเป็นครั้งสุดท้าย ฉันสวมกางเกงยีนส์เอวสูงและเสื้อผ้าไหม ผมมวยขึ้นเป็นมวยยุ่ง ๆ และนอกจากมาสคาร่าและคอนซีลเลอร์ ฉันไม่ได้แต่งหน้ามากนักเรากลับถึงบ้านประมาณสามทุ่มได้ ลิลลี่หลับไปแล้ว ดังนั้นเราจึงเข้านอนทันทีที่ถึงบ้านฉันหยิบกระเป๋าออกมาจากห้องขณะมองดูเวลา ฉันมีเวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงก่อนที่ฉันจะต้องไปที่ร้านอาหาร"จะไปไหนครับ?" เกเบรียลถามทันทีที่ฉันก้าวเข้าไปในห้องครัวให้ตายสิ ผู้ชายคนนี้ดูดีมากฉันรักเกเบรียลที่สวมใส่ชุดสูท เขาดูร้อนแรงมากในชุดสูทเสมอ แต่มันก็มีบางอย่างเวลาที่เขาแค่เท้าเปล่าพร้อมสวมเสื้อยืดรัดรูปและกางเกงวอร์ม แล้วก็เวลาที่เขาไม่ได้ใส่เสื้อแต่ใส่แค่กางเกงวอร์มเอวหลวม ๆ ด้วยไม่ว่าจะภาพลักษณ์แบบไหน ฉันก็เห็นมาทั้งหมดแล้ว และฉันยังตัดสินใจไม่ได้ว่าภาพลักษณ์ไหนที่ฉันชอบที่สุด ไม่แน่อาจเป็นตอนที่เขาไม่ใส่อะไรเลยก็ได้นะ "ฮาร์เปอร์?" เสียงขบขันของเขาดังขึ้น "น้ำลายไหลเยิ้มหมดแล้ว"ฉันหัวเราะเบา ๆ พยายามซ่อนความเขินอายไว้ "เยิ้มที่ไหนล่ะ"วันนี้เขาอยู่ในเสื้อยืดรัดรูปและกางเกงวอร์มตัวหนึ่งและเขาดูน่าอร่อยมาก ฉันอยากจะใช้ลิ้นตนเองทดสอ

  • ธุลีใจ   บทที่ 470

    คอนนี่ฉันแทบจะยืนไม่อยู่ขณะที่ขึ้นลิฟต์ไปที่เพนท์เฮาส์ของฉัน นี่ก็เป็นอีกหนึ่งวันผ่านไป ที่ฉันทำงานล่วงเวลาจนเป็นเรื่องปกติเพื่อที่ตนเองจะได้ไม่ต้องกลับมาเจอกับห้องนอนที่ว่างเปล่าฉันคิดถึงรีเปอร์มากจริง ๆตอนที่ฉันได้เห็นเขาครั้งแรกที่โรงพยาบาลหลังจากที่เอวาถูกยิงครั้งนั้น ฉันไม่ได้คิดอะไรมากเกี่ยวกับแรงดึงดูดที่ฉันรู้สึกต่อเขา แน่นอนว่าแรงดึงดูดนั้นเกิดขึ้นทันที และฉันแค่รู้สึกเหมือนจิตวิญญาณตนเองรู้จักเขา แต่เขาคือรีเปอร์เชียวนะ ชายคนเดียวกับที่เคยลักพาตัวเพื่อนสนิทของฉันไปถ้าพูดกันตามตรง ฉันไม่เคยรู้สึกกับผู้ชายคนไหนเหมือนที่ฉันรู้สึกกับรีเปอร์ในครั้งแรกนั้นเลย ฉันไม่เคยรู้สึกดึงดูดกับผู้ชายตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉันเห็นพวกเขา มันเป็นสิ่งที่ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นเมื่อฉันได้รู้จักพวกเขามากขึ้น ทว่ากับรีเปอร์มันแตกต่างออกไป และนั่นทำให้ฉันกลัวแทบตายฉันคิดว่าการพบกันครั้งแรกนั้นจบแล้ว ว่ามันจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันได้เจอเขา และในไม่ช้าแรงดึงดูดก็จะจากหายไป และนั่นคือความตั้งใจที่เกิดขึ้น จนกระทั่งเขาปรากฏตัวที่หน้าห้องฉันในคืนหนึ่งฉันควรจะรู้สึกอับอายที่จะบอกว่าฉันยอมนอนกับเขาในคืนนั้

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status