เขาตัวสูงกว่าคาลวินเล็กน้อย แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ชายหนุ่มถอยหลังหนี“ฉันเบื่อนายเต็มทนแล้วว่ะ โคตรจะเหลืออดกับนายที่มันชอบเข้ามาบ่งการชีวิตฉันแล้วตาย ๆ ไปซะ เราจะได้ใช้ชีวิตกันอย่างสงบสุขสักที” คาลวินเอ่ยกับโรแวนฉันยืนตัวแข็งทื่อเพราะไม่ต้องการเชื่อหูตนเองว่าคาลวินจะพูดเช่นนั้นอออกมา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความอาฆาตมาดร้าย มีบางสิ่งบางอย่างที่ฉันสามารถสัมผัสได้จากคาลวิน ทั้งความโกรธเกรี้ยวและความขมขื่น ทว่าความรู้สึกอาฆาตมาดร้ายนี่ไม่เคยสัมผัสได้มาก่อนเลย“แค่หายไปมันไม่ยากหรอกนะเว้ย? ตลอดหลายปีที่ผ่านมานายพยายามพิสูจน์ว่าตัวเองเปลี่ยนไปแล้ว แต่ความจริงคือนายไม่มีวันเหมือนกับฉันได้หรอก เอมม่าไม่ได้รักนายแล้ว แล้วตอนนี้เอวาก็ไม่มีวันรักนายด้วยเพราะว่าหัวใจเธอเป็นของฉันแล้ว”คำพูดเหล่านั้นเปรียบดั่งหมัดตรงของคาลวินเพราะเขาเหวี่ยงหมัดเข้าที่สันกรามของโรแวนอย่างจัง โรแวนตั้งตัวได้ในเวลาไม่นานก่อนจะตอบโต้กลับไป ไม่นานชายทั้งสองก็เริ่มประเคนหมัดใส่กันไม่ยั้งฉันยืนมองทั้งสองอยู่อย่างนั้น หวังว่าจะหลีกหนีออกไปสถานที่อื่นไม่ใช่ที่นี่ฉันพยายามแยกทั้งสองออกจากกัน แต่กลับไร้ผล และเกือบจะโดนล
หัวของฉันเหมือนจะระเบิดและกระจายเศษเนื้อไปทั่วห้องนั่งเล่น ไม่ได้มีช่วงเวลาเงียบสงบเลยสักวินาทีเดียวความคิดต่าง ๆ วิ่งวนอยู่ในหัว ไม่เคยหยุด ไม่เคยจบสิ้น มันทำให้ฉันแทบจะบ้าตายอยู่แล้ว“เอาล่ะ ตอนนี้เรามาตั้งใจเรียนเรื่องเครื่องมือกับพวกแมลงกันดีกว่านะ” ฉันบอกแมรี่ หนึ่งในนักเรียนที่มาเรียนพิเศษด้วย “ถ้าหนูอยากเก่งเรื่องไดโคทอมันสคีย์ หนูก็จำเป็นต้องเก่งทั้งสองเรื่องนี้ก่อนนะ” ฉันหวังว่านี่จะช่วยให้ฉันเบี่ยงเบนความคิดออกไปได้บ้าง แต่ฉันคิดผิดเต็มประตู ความคิดยังคงหลุดลอยออกไปเรื่อย ๆ ทุกครั้งแมรี่พยักหน้าให้ฉันเป็นสัญญาณว่าเธอเข้าใจแล้ว“ลักษณะตัวแรกคือมีปีกขนาดใหญ่ และมีปีกขนาดเล็กหรือไม่มีปีกเลย... คิดว่าคำตอบคืออะไร?”เธอตรวจดูกลุ่มภาพแมลงในหนังสือก่อนหันมาหาฉัน ตอนแรกเธอดูไม่มั่นใจ แต่ในที่สุดก็ตอบออกมา"มีแค่แมลงตัวเดียวที่มีปีกใหญ่ในลิสต์นี้ ผีเสื้อก็ควรจะอยู่ในหมวดนั้นค่ะ"ฉันส่งยิ้มให้เธอเนื่องจากดีใจที่เธอเข้าใจ “ดีมากจ้ะ ในเมื่อผีเสื้ออยู่ในหมวดหมู่แมลงปีกใหญ่ ดังนั้นแมลงชนิดอื่นที่เหลืออยู่ในนี้จึงจัดอยู่ในหมวดแมลงปีกเล็กหรือไม่มีปีกจ้ะ อันนี้มันเหมือนเกมจัดกลุ่มป
“ไม่ต้องก็ได้ค่ะ”เขามักจะเก็บเงียบเรื่องแม่ของลูกชายเสมอ ฉันไม่รู้อะไรเลย พวกเขาเคยแต่งงานกันแล้วหย่าหรือเปล่า? หรือแค่เคยมีความสัมพันธ์กัน? รู้จักกันมานานแค่ไหน?นึกสงสัยว่าเขาจะยอมบอกข้อมูลทั้งหมดเพื่อให้ฉันได้ปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมดได้หรือไม่ นอกจากนั้นฉันก็ไม่อยากทำให้เขาเจ็บปวดอีกด้วย ดูเหมือนทุกครั้งที่ฉันเอ่ยถึงเธอ เขาจะโกรธจัดหรือหงุดหงิดอย่างมาก“อ๋อครับ…ผมเข้าใจ หลาย ๆ ครั้ง ผมเองก็ชอบจัดการเรื่องพวกนี้ด้วยเองเหมือนกัน” เขาหยุดไปครู่ “แต่ก็ไม่ได้บอกนะครับว่าผมช่วยเรื่องนี้คุณไม่ได้” เขาชี้นิ้วไปยังแปลงผักเล็ก ๆ “ขอบคุณค่ะ” ฉันยิ้มให้ขณะที่เขานั่งลงคุกเข่าข้าง ๆฉันส่งถุงมือให้เขา และเขาก็สวมถุงมือทำตามฉัน“พวกเด็ก ๆ ทำอะไรกันอยู่คะ?” ฉันถาม“กำลังเล่นเกมกันอยู่ครับ…เอาเข้าจริง ผมแปลกใจมากเลยนะครับที่ทั้งสองสนิทกันขนาดนี้ แบบตัวติดกันมากเลย ในสมองของผมไม่เคยวาดฝันว่าจะเกิดฉากแบบนี้ขึ้นมาได้เลยครับ เพราะผมเกลียดพ่อของโนอามาก”ฉันขมวดคิ้วกับคำพูดนั้น เขาไม่แม้แต่จะยอมพูดชื่อของเขาด้วยซ้ำ ทำไมกัน?“ทำไมถึงเกลียดเขานัก? เข้าใจนะคะว่าอาจเกิดเรื่องอะไรขึ้นระหว่างพวกคุณ
โรแวน“"โนอามาไหมลูก?" แม่ของผมเอ่ยถาม“วันนี้ไม่ครับแม่ ผมลืมบอกเอวาให้รู้ด้วย แล้วก็ไม่อยากบอกเธอแบบปุบปับ” ผมบอกเธอขณะก้าวเข้าบ้านของเคทไปมันเป็นการรวมตัวประจำเดือนของครอบครัวเรา เหมือนครั้งที่แล้ว ผมไม่อยากอยู่ที่นี่ แต่ที่มาเพราะผมสัญญากับแม่แล้ว “แม่คิดถึงหลานมาก ๆ เลยนะ เคทก็ด้วย เธอเองก็อยากเจอหน้าหลานเหมือนกัน” เธอหยุดครู่หนึ่ง “ยิ่งตอนนี้เธอกับเอวาห่างเหินกันขนาดนี้ด้วย โอกาสเดียวที่จะได้เจอหน้าหลานโนอาคืองานร่วมญาตินี่เท่านั้นแหละ”ผมอยากรู้สึกสงสารพวกเธอนะ แต่กลับทำไม่ได้ สิ่งนี้ทำให้ผมดูเป็นคนใจร้ายก็จริง ทว่าสิ่งนี้ก็เป็นสิ่งที่เราทุกคนสมควรได้รับแล้ว เป็นการลงโทษสำหรับสิ่งที่เราทำกับเอวา“ครั้งหน้านะครับ” ผมเอ่ยพร้อมเดินผ่านแม่ไปแม่และเคทเป็นเพื่อนกันมาหลายปีแล้ว เธอจะทำทุกอย่างเพื่อเพื่อนสนิทคนนี้ สิ่งที่ผมไม่ต้องการมากที่สุดคือการยืนฟังเรื่องความทุกข์ของเคทเกือบครึ่งชั่วโมงผมไม่ต้องการได้ยินถึงความทุกข์ของคนอื่น เพราะตนเองก็กำลังจัดการกับทุกข์อยู่เหมือนกันแม่เดินตามมาขณะผมมุ่งหน้าไปยังสนามหลังบ้าน ผมรู้จักบ้านของเคททุกซอกทุกมุมเพราะมาที่นี่นับครั้งไม่ถ้ว
“ไงจ๊ะ โรแวน ดีใจนะที่มาได้นะ” เคทจูบแก้มทั้งสองข้างของผม"ครับผม" นั่นเป็นคำตอบเดียวที่ผมสามารถตอบได้ เพราะจริง ๆ แล้วผมไม่ได้ดีใจที่ได้มาอยู่ที่นี่เลยเคทหันไปคุยกับพ่อแม่ผม และผมก็เห็นเป็นโอกาสเหมาะเจาะที่จะหายตัวออกมา ผมตรงไปหาเจ้าน้องชายทันที"เป็นยังไงบ้าง?" เขาถามหลังจากทักทายตามธรรมเนียม"แย่ว่ะ" ผมบ่นเพราะนึกถึงเรื่องทะเลาะกับคาลวินเมื่อสุดสัปดาห์ก่อนนั่นไม่ใช่ช่วงเวลาที่ดีที่สุดของผมเลย แต่เขาแค่ทำให้ผมนึกถึงตอนที่เขาเคยวิ่งไล่ตามเอมม่า ซึ่งทำให้ผมกลัว เพราะผมกลัวว่าเขาจะทำแบบเดียวกันกับเอวา แม้ว่าผมจะไม่อยากยอมรับ แต่คาลวินก็เป็นคนดี และนั่นแหละที่ทำให้ผมกลัวที่สุด เพราะหมายความว่าหากเขาตัดสินใจเดินหน้าจริง ๆ โชคต้องเข้าข้างเขาแน่“มีความคืบหน้าอะไรบ้างไหมพี่?” เขาถาม“ไม่มี ความคืบหน้าเดียวคือฉันดันไปทำให้เธอโกรธมากกว่าเดิมน่ะสิ”เกเบรียลถอนหายใจ “ไปทำอะไรเข้าล่ะ?”“ก็ดันไปต่อยกับเจ้าคาลวินน่ะสิ แล้วดันกลายเป็นว่ามันเป็นพ่อของเจ้าหนูกันเนอร์ซะได้”ผมไม่ต้องอธิบายว่ากันเนอร์คือใคร เพราะโนอาพูดถึงเขาแทบตลอดเวลา โนอาบอกทุกคนว่าเขาเป็นเพื่อนใหม่ที่ดีที่สุด“ไม่เข้
เอมม่าวันที่ฉันหวาดกลัวมากที่สุดก็มาถึง วันที่ความลับที่ฉันพยายามปกปิดมาเนิ่นนานถูกเปิดเผย แต่ไม่เคยคิดแม้แต่เสี้ยวเดียวเลยว่าเอวาจะเป็นคนเปิดเผยออกมาฉันพยายามจะปิดผนึกเรื่องนี้ไว้เป็นความลับอย่างมาก มันเป็นความละอายที่ต้องแบกรับไว้ และตอนนี้ทุกคนรู้แล้ว โรแวนก็รู้ด้วย ในบรรดาคนเหล่านั้น เขาคือคนที่ฉันไม่อยากให้รู้เรื่องนี้ที่สุด“หมายถึงเพื่อนสนิทของโนอาคนนั้นเหรอ? เจ้าหนูกันเนอร์นั่นเหรอ?” เกเบรียลถามขึ้นด้วยเสียงเจือความตกใจฉันสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อได้ยินชื่อเด็กชาย ฉันพยายามสุดกำลังที่จะใช้ชีวิตให้ห่างไกลจากเขา พยายามไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับชีวิตของเขาเลย แต่ตอนนี้ทุกอย่างกลับกลายเป็นความวุ่นวายไม่หมด“ใช่แล้ว เกเบรียล มันไม่บังเอิญไปหน่อยเหรอ? ถ้ากันเนอร์กับคาลวินไม่ย้ายเข้ามาอยู่ข้างบ้านเรา ฉันก็ไม่มีวันรู้เรื่องนี้หรอกและเอมม่าก็จะเงียบปากแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องต่อไป ปล่อยให้เด็กคนหนึ่งร้องเรียกหาความรักจากคนเป็นแม่”ฉันรู้สึกได้ถึงความโกรธเกรี้ยวที่ส่งมาจากตัวเอวา มันช่างเดือดดาล ฉันไม่เคยเห็นเอวาเป็นเช่นนี้มาก่อนเลยในชีวิตนี้ฉันขอสาปแช่งโชคชะตาของเธอเลย ฉันไม่เคยรู้มาก่อ
แม่ทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้หลังจากได้ยินฉันสารภาพออกมา สายตาของเธอบ่งบอกถึงหัวใจที่แตกสลาย สายตาแสนผิดหวังแทบทำให้ฉันล้มทั้งยืนทราวิสซึ่งคอยประคองฉันไว้ปล่อยมือออกอย่างรวดเร็วราวกับว่าร่างฉันแผดเผาเขา เขาค่อย ๆ ถอยหลังออกไปจนยืนห่างจากฉันหลายฟุตฉันรู้ว่าคนที่เหลือตกใจไม่ต่างกัน แต่ตอนนี้พวกเขาไม่ได้สำคัญสำหรับฉันเลย ยิ่งเป็นตอนที่ครอบครัวตนเองจ้องมองฉันราวกับว่าไม่รู้จักกันมาก่อน ราวกับว่าเป็นคนแปลกหน้าอย่างนั้น“บอกแม่มาทีว่าลูกแค่ล้อแม่เล่น” แม่อ้อนวอน “เรื่องที่มีลูกและเก็บซ่อนเอาไว้ตลอดหลายปีที่ผ่านมามันเป็นเรื่องโกหกใช่ไหมลูก”ฉันต้องการโกหกพวกเขาเพราะให้สายตาที่บอกถึงหัวใจแตกสลายและแสนผิดหวังในตัวฉันจะได้หายไปเสียที แต้รู้ดีว่าฉันไม่สามารถทำแบบนั้นได้อีกแล้ว มันไม่มีที่ให้หลบซ่อนอีกแล้ว ไม่มีหนทางให้หลบหนีจากความจริงอีกแล้ว“หนูขอโทษค่ะ หนูขอโทษด้วยจริง ๆ” ฉันร้องไห้พร้อมเดินโซซัดโซเซไปหาแม่ “หนูอยากจะบอกใจจะขาดแต่รู้สึกละอายใจขึ้นมา” ฉันเดินไปกุมมือเธอเอาไว้ แต่แม่ก็สะดุ้งและกระชากมือออกไปแล้วนี่คือสิ่งที่ฉันหวาดกลัวมาโดยตลอด เอวาพูดถูก ฉันเป็นลูกสาวแสนสมบูรณ์แบบ ไม่มีมีค
ให้ตายสิ ยากเย็นเหลือเกิน ฉันต้องการหยุด ทว่าเมื่อเดินมาถึงตรงนี้ ฉันรู้ดีกว่าทุกคนไม่ยอมเป็นแน่“อย่างที่เคยบอกไป หลายสิ่งดีขึ้นหลังจากนั้น แต่ก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบอะไรมากมาย หนูรู้สึกว่ามันพอทนอยู่ จนกระทั่งคืนนั้น แม่โทรมาบอกให้รู้ว่าเอวาคลอดลูกชายออกมา และโรแวนก็ตกหลุมรักเด็กคนนั้นตั้งแต่แรกเห็น ทุกอย่างก็แตกสลายอีกครั้ง ความเจ็บปวดที่หนูพยายามเก็บซ่อนเอาไว้ก็เอ่อล้นออกมา” ฉันพยายามสูดหายใจผ่านความเจ็บปวดจากความทรงจำเหล่านั้น แต่ก็ยากเย็นนัก“หนูรู้สึกเจ็บปวดไปหมด แล้วโกรธมากเลยด้วย โกรธที่ตัวเองไม่ยอมตอบตกลงแต่งงานกับโรแวนวันนั้น โกรธที่โรแวนดันเมาไม่ได้สติ แล้วเผลอไปนอนกับเอวา โกรธที่เอวาท้องและแต่งงานกับผู้ชายที่หนูรัก โกรธที่เด็กนั่นมันเกิดมา”ฉันได้ยินเสียงถอนหายใจออกมา ฉันไม่อยากหันไปรับรู้ว่านั่นมาจากโรแวน ฉันยังคงลำบากใจกับโนอาอยู่เพราะหากทุกสิ่งเป็นไปตามที่คิด โรแวนคงมีลูกกับฉัน ไม่ใช่กับเอวา“หนูอยากทำให้โรแวนเจ็บปวด อยากให้เขาเจ็บเหมือนที่หนูเจ็บ หนูรู้มาตลอดว่าเขาไม่ชอบคาลวินเพราะเขาตามจีบหนูมาตลอด คืนนั้นหนูก็เลยตั้งใจเข้าไปยั่วเขา แต่รู้ด้วยว่าเรื่องนี้ถึงหูโรแวนแน่
“แล้วทำไมมานั่งดื่มเหล้าอยู่ที่นี่แทนที่จะอยู่บ้านเป็นเพื่อนเอวา” เกเบรียลเอ่ยถามขณะเข้ามานั่งข้างผมตอนนี้ผมอารมณ์ไม่ดีมากนักถึงขั้นที่มองว่าสิ่งต่าง ๆ จากบริษัทน่ารำคาญ รวมถึงน้องชายตนเองด้วย ผมจึงเมินเฉยต่อคำถามเขาและดื่มวิสกี้เข้าไปอีกหนึ่งอึกผมนั่งอยู๋ในโซนวีไอพีของหนึ่งในร้านเหล้าที่เราชื่นชอบ เพลงเปิดเสียงดังกระหึ่ม ผีเสื้อราตรีต่างพากันโยกย้านและออกลวดลายกันอย่างสนุกสนาน พร้อมน้ำเมาที่ลอยล่อง และไม่สิ่งใดเป็นผลกับผมเลยค่ำคืนนี้ผมเพียงต้องการลืมเลือน ลืมภาพแห่งความทุกข์ระทมของเอวา ผมรู้ดึว่าอาจเป็นเป็นเพิ่งเรื่องเพ้อเจ้อหากคิดจะลืมเลือนนั้นเพราะว่าภาพนั้นยังคงฝังแน่นในจิตใจ แต่ผมก็อยากลองลืมภาพเหล่านั้นการอยู่บ้านกลายเป็นสิ่งที่น่าอึดอัดใจขึ้นมา บรรยากาศแห่งความรื่นรมย์น่ายินดีไม่มีอีกต่อไปแล้ว ผมปรารถนาให้มันกลายไปเป็นอย่างเดิมที่ควร แต่ก็ไม่รู้เลยว่าจะต้องทำอย่างไร ผมไม่รู้เลยจริง ๆ ว่า จะต้องแก้ไขเรื่องเหล่านี้อย่างไรดีคำพูดที่เคยออกจากปากไม่มีวันหวนกลับและไม่มีวันลบออกไปได้ ผมไม่สามารถย้อนเวลาไปแก้ไขความผิดพลาดได้ หากเป็นไปได้ ผมคงรีบลงมือทำไปแล้วเพราะผมรักเธอเหลือเ
หัวใจของผมแทบหยุดเต้นลง เมื่อความกลัวว่าเธอจำเรื่องทุกอย่างแล้วประดังเข้ามา“บอกผมหน่อยสิว่าเกิดอะไรขึ้น เอวา ผมช่วยไม่ได้ถ้าผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น” ผมวิงวอนเธอน้ำตาของเธอยังคงไหลรินลงมาบนใบหน้า ความเจ็บปวดรวดร้าวบดบังดวงตาของเธอ มันทำให้หัวใจผมสลายจริง ๆ ที่เห็นเธอเป็นแบบนี้“ความทรงจำฉันกลับมาแล้ว” เธอกล่าวก่อนจะเริ่มหัวเราะราวกับเป็นบ้า “รู้ไหม ฉันอยากมีเซ็กส์กับคุณ ฉันอยากนอนกับคุณ แถมฉันยังบอกให้ตัวเองคุยกับคุณเกี่ยวกับเรื่องนี้เพราะฉันต้องการคุณมาก พอฉันเห็นคุณช่วยตัวเองในห้องน้ำ ฉันก็อยากจะร่วมด้วย ฉันถึงกับจินตนาการว่าตัวเองกำลังออรัลเซ็กส์กับคุณในขณะที่คุณหลั่งบนหน้าอกของฉัน”ผมขมวดคิ้วแต่ก็เงียบไว้ อะไรบางอย่างบอกผมว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น และผมจะไม่ชอบสิ่งที่เธอจะพูดต่อไป “ฉันเคยรู้สึกกระหายคุณ โหยหาคุณ แต่สมองของฉันกลับย้ำเตือนบางสิ่งที่คุณเคยพูด” เธอสะอื้น “คุณอยากรู้ไหมว่ามันคืออะไร”ผมไม่อยากรู้ เพราะผมรู้ว่ามันจะทำลายการพัฒนาเล็ก ๆ ที่เรามีร่วมกัน แต่ผมก็ยังพยักหน้าตอบ“คุณพยายามจะทำให้ดีในการมีเซ็กส์ แต่คุณไม่เก่งเลย ทุกครั้งที่ผมอยู่ข้างในคุณ คนที่ผมต้องการคือเอ
โรแวนการเดตนั้นสมบูรณ์แบบ ถ้าผมเลือกได้ ผมคงไม่อยากให้มันจบลง ทุกช่วงเวลาที่ผมอยู่กับเธอเหมือนอยู่ในสวรรค์ และผมหวังว่าผมจะได้อยู่กับเธอเร็วกว่านี้ผมไม่รู้จริง ๆ ว่าทำไมผมถึงไม่เคยให้โอกาสตัวเองได้มีความสุขกับเอวาเลย ผมรู้สึกแย่ที่เราอาจจะได้มีความสุขกันมาตลอดหลายปีนี้ถ้าผมปล่อยเอมม่าไปความรักที่ผมมีต่อเอมม่าคือความรักของวัยรุ่น มันคงไม่ยืนยาว เมื่อมันถูกทดสอบก็พังทลายลง สิ่งที่ผมรู้สึกต่อเอวานั้นเป็นแบบผู้ใหญ่ แข็งแกร่งและลึกซึ้งกว่าสิ่งที่ผมคิดว่ามันคือความรักตอนอายุสิบเจ็ดผมเริ่มเชื่อว่าเกเบรียลพูดถูก ความรักไม่ได้เกิดขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัว เหมือนอย่างที่เขาพูด ผมคิดว่าลึก ๆ แล้วผมรักเอวา ผมแค่ปล่อยให้ความรู้สึกผิดที่ทำร้ายเอมม่าครอบงำผม ผมยื้อเอมม่าไว้เพราะรู้สึกว่าผมต้องการควบคุม ซึ่งการแต่งงานกับเอวาและอยู่กับเธอก็ทำให้รู้สึกว่าเป็นสิ่งที่อยู่เหนือการควบคุมของผมผมยังเชื่อด้วยว่าการปล่อยให้ความรู้สึกของผมที่มีต่อเอวาเติบโตขึ้นนั้นเหมือนกับการทรยศต่อความรักที่ผมมีต่อเอมม่า สิ่งที่ผมไม่รู้ในตอนนั้นก็คือความรักนั้นได้ตายไปนานแล้วผมถอนหายใจและถอดเสื้อผ้าออกก่อนจะมุ่งหน้าไปอา
“งั้นก็ตกลงตามนี้ เราจะเปลี่ยนแปลงสิ่งต่าง ๆ ในบ้านนี้” โรแวนพูดขณะที่ฉันจ้องมองเขาฉันรู้สึกตกใจ แต่ก็มีความสุขไปพร้อม ๆ กัน ฉันอยากเปลี่ยนอะไรหลายอย่างมานานแล้ว แต่ฉันก็รู้ว่าเขาคงไม่ยอมแน่ไม่รู้สิ เหมือนกับว่านี่เป็นอีกหนึ่งหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าเขาปล่อยวางจากเอมม่าได้จริง ๆ และแสดงให้เห็นว่าเขาใส่ใจฉันจริง“โอเค” ฉันยิ้มให้เขา ปล่อยให้ความจริงนั้นซึมลึกเข้าไปในใจ"เราสามารถปรึกษากับนักออกแบบตกแต่งภายในได้พรุ่งนี้ ผมมั่นใจว่าเบียงก้า เมเยอร์ส จะสามารถรับงานเราได้ แม้เธอจะมีตารางงานแน่นแค่ไหนก็ตาม คุณสามารถบอกเธอได้เลยว่าอยากได้อะไรแล้วปล่อยให้เธอจัดการ หรือจะเข้าไปมีส่วนร่วมด้วยก็ได้ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับคุณ"และเซอร์ไพรส์ก็ยังไม่หมด ทุกคนรู้จักเบียงก้า เมเยอร์ส เธอเป็นนักออกแบบตกแต่งภายในที่เก่งที่สุดในประเทศ และเธอทำงานเฉพาะให้กับคนรวยและผู้มีอิทธิพลเท่านั้น ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่าฉันจะได้ร่วมงานกับเธอ“ตกลง” ฉันบอกเขาโดยพยายามเก็บความตื่นเต้นไม่ให้ล้นจนเกินไป “แต่ฉันอยากให้คุณกับโนอามีส่วนร่วม เพราะยังไงที่นี่ก็เป็นบ้านของพวกคุณเหมือนกัน และฉันก็อยากให้พวกคุณรู้สึกสบายใจที่นี่”"ผ
“ใช่แล้ว มันเป็นเรื่องจริง” ในที่สุดเขาก็ตอบฉันตกใจมาก ฉันคิดเสมอว่ามันเป็นแค่ข่าวลือโง่ ๆ“มันเกิดขึ้นได้ยังไงกัน แล้วตอนนั้นคุณอายุเท่าไร? ไม่ใช่ว่าฉันตัดสินหรืออะไรทำนองนั้นนะ”“ผมอายุสิบเจ็ด ส่วนหล่อนอายุยี่สิบหก ผมคิดว่า... ผมเป็นเด็กหนุ่มฮอร์โมนพลุ่งพล่าน แถมแมนดี้โคตรเซ็กซี่ ผมอยากมีเซ็กส์กับคนที่อายุมากกว่าผมเสมอ และหล่อนก็ยิ่งทำให้มันง่ายขึ้นเมื่อหล่อนเอาหน้าอกของหล่อนมาแนบหน้าผม หรือกางขาออกในขณะที่ใส่กระโปรงตัวจิ๋วทุกครั้งที่หล่อนเรียกผมไปที่โต๊ะของหล่อน”ฉันประทับใจแต่ในขณะเดียวกันก็รังเกียจแมนดี้ ฉันหมายถึงเธอเป็นครูนะ ให้ตายเถอะ แต่กลับพยายามล่อลวงนักเรียนของตัวเอง ฉันเองก็เป็นครูเหมือนกัน และฉันจะไม่มีวันก้าวข้ามเส้นนั้นเด็ดขาด“คุณเป็นคนขอเองนะ” โรแวนพูดเมื่อสังเกตเห็นหน้านิ่วคิ้วขมวดของฉัน “ฉันรู้ แต่ฉันรู้สึกไม่สบายใจที่ครูตั้งใจจะล่อลวงนักเรียนอายุสิบเจ็ดปี”เขาเพียงแค่ยักไหล่ เหมือนกับว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่ หลังจากนั้นการสนทนาก็ผ่อนคลายลง ฉันเพลิดเพลินไปกับมันอย่างเต็มที่ ราวกับมันเป็นความฝันและฉันไม่อยากให้เดตจบลง เราคุยกันทุกเรื่องเป็นชั่วโมงภายใต้แสงจันท
ฉันจ้องมองเขาอย่างมึนงง ไม่รู้จะพูดหรือทำอะไรดี“คุณชอบกลิ่นหอม และคุณชอบกลิ่นที่มีเบอร์รี่ผสมอยู่มากกว่า ขอแค่น้ำหอมหรือสบู่เหลวอาบน้ำมีส่วนผสมของเบอร์รี่ คุณก็จะยอมซื้อ คุณไม่มีอาหารจานโปรดจริง ๆ เพราะคุณจะกินอะไรก็ได้ตราบใดที่มันอร่อย คุณชอบอาบน้ำอุ่นนาน ๆ เพราะมันทำให้คุณผ่อนคลาย คุณเกลียดความสูง คุณเกลียดการไปสาย และคุณเกลียดการขึ้นเครื่องบินด้วย คุณเกลียดแมลงสาบ คุณมักจะพูดว่าอยากให้บ้านของคุณเต็มไปด้วยแมงมุมมากกว่าพวกแมลงสีน้ำตาลน่ารังเกียจนั่น... ให้ผมจะพูดต่อไหม”เขาไม่ให้โอกาสฉันตอบ“คุณชอบรวบผมเป็นหางม้าและมวยผม คุณไม่ชอบแต่งหน้ามากนักและแต่งหน้าเฉพาะเมื่อจำเป็นหรืออยากแต่ง คุณไม่ชอบนอนหงายเพราะมันทำให้คุณนึกถึงคนตายในโลงศพ คุณเกลียดความไม่เป็นระเบียบและสีเหลืองด้วย…”ฉันยกมือให้เขาหยุดพูดเพราะฉันพูดอะไรไม่ออกเลย ทุกอย่างที่เขาพูดเป็นความจริง ฉันไม่เข้าใจเลยว่าเขารู้เรื่องทั้งหมดนี้ได้ยังไง เพราะเราไม่เคยสนิทกันมาก่อน ครอบครัวชาร์พคงไม่ได้บอกเขาหรอก เพราะพวกเขาแทบจะไม่รู้จักฉันด้วยซ้ำ“ได้ยังไง?” ฉันพูดติดขัด ในหัวไม่สามารถประมวณผลทุกอย่างได้“ผมบอกคุณแล้ว” เขากล่าวพร้
ฉันมองออกไปนอกรถแล้วตะลึงงัน สถานที่แห่งนี้ดูราวกับเป็นสวรรค์ มันเป็นพื้นที่โล่งกว้างที่มีหญ้าเขียวขจีและคงมีดอกไม้มากมายนานาพันธุ์ นั่นไม่ใช่สิ่งที่ฉันชอบที่สุดของที่นี่ แต่มันคือเพราะทิวทัศน์ต่างหาก ดวงดาวนับพันเปล่งแสงระยิบระยับราวกับกำลังเห็นด้วยกับเดตนี้“คุณชอบไหม” โรแวนถาม และคำตอบเดียวของฉันคือการพยักหน้าฉันค่อย ๆ ออกจากรถ สูดอากาศบริสุทธิ์และชมทิวทัศน์ที่สวยงามจับใจ ฉันเดินไปเกือบถึงขอบถนนและมองลงไปที่เมืองเบื้องล่าง ฉันไม่รู้ว่าโรแวนไปเจอสถานที่แห่งนี้ได้อย่างไร และฉันก็ไม่สนใจฉันหลับตาลง รู้สึกว่าความกังวลทั้งหมดมลายหายไป นี่คือฉากในแบบที่ฉันชอบ ฉันชอบมันมากเมื่อฉันหันกลับไป ฉันพบว่าโรแวนจัดเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว มีผ้าห่มและตะกร้าปิกนิกพร้อมสิ่งที่ฉันเดาว่าเป็นช็อกโกแลต สตรอเบอร์รี่และไวน์ นอกจากนี้ก็ยังมีอาหารที่เราสั่งอยู่ด้วยฉันเดินช้า ๆ ไปหาเขา ถอดรองเท้าและนั่งลงข้าง ๆ เขา “นี่มันสุดยอดเลย โรแวน ขอบคุณนะคะ”เขาพยักหน้า “อะไรก็ตามที่จะทำให้คุณมีความสุขที่รัก ตอนนี้เรามาทานอาหารกันเถอะ เพราะผมหิวจะแย่แล้ว”เราทานอาหารกันเงียบ ๆ ฉันใช้โอกาสนี้ชื่นชมทิวทัศน์
การเดินทางใช้เวลาไม่นานนัก และนอกจากการคุยกันเล็กน้อยเป็นครั้งคราว เราก็เงียบกันเกือบตลอดเวลา แต่ก็เป็นครั้งแรกเท่าที่ฉันจำได้ ที่ความเงียบระหว่างเราให้ความรู้สึกสบายใจในช่วงเวลาที่หาได้ยากที่เราขับรถไปด้วยกัน โรแวนมักจะพยายามทำเป็นไม่สนใจฉัน ขณะที่ฉันพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อชวนเขาคุย ซึ่งมันมักจะทำให้บรรยากาศดูอึดอัดและแปลก ๆ เสมอ“คุณยิ้มทำไม” ฉันถามเขาเมื่อเขาลงจากรถเพื่อช่วยฉันออกจากรถรอยยิ้มของเขาควรจะเป็นอาวุธทำลายล้างสำหรับผู้หญิงโดยแท้ แน่นอนว่าเขาหล่ออยู่แล้ว แต่เมื่อโรแวนยิ้ม มันยิ่งทำให้ความหล่อของเขาก้าวไปอีกระดับหนึ่ง“ผมจะมีความสุขที่พาผู้หญิงของตัวเองออกมาข้างนอกไม่ได้เหรอ” เขาถามพร้อมเอียงศีรษะเล็กน้อยไม่รู้ทำไม ฉันถึงหัวเราะคิกคักขึ้นมา ทั้ง ๆ ที่ปกติฉันไม่ใช่ผู้หญิงที่จะหัวร่อต่อกระซิก ฉันไม่เคยหัวเราะแบบนี้มาก่อนเลยทั้งชีวิต จริง ๆ แล้วฉันเคยคิดว่ามันดูน่ารังเกียจด้วยซ้ำเมื่อเห็นผู้หญิงที่เป็นผู้ใหญ่แล้วทำแบบนี้ แต่ตอนนี้ฉันกลับเป็นคนที่ทำเสียเอง“ขอโทษที ฉันไม่รู้ว่าทำไมฉันถึงหัวเราะแบบนั้น” ฉันเอ่ยขอโทษขณะที่พยายามรวบรวมสติเขาจับมือฉัน และฉันก็คล้อ
ฉันมองตัวเองในกระจก และมีความสุขกับลุคของตัวเอง ฉันเกล้าผมเป็นมวยต่ำและม้วนผมเป็นลอนเข้ากับกรอบหน้า คืนนี้ฉันต้องการอะไรที่แปลกใหม่ เพราะเป็นเดตครั้งแรกของฉันกับโรแวน ฉันจึงตัดสินใจเลือกอายแชโดว์สีสโมกี้ที่ดูไม่ฉูดฉาดแต่เย้ายวนกับลิปสติกสีแดงส่วนชุดเดรส ฉันเลือกชุดเดรสสีดำยาวระดับเข่า มีคอเสื้อเว้าลึกที่ยึดด้วยสายรัดบาง ๆ เผยให้เห็นเนินอกเล็กน้อย พอให้ดูยั่วยวนแต่ไม่เกินงาม อีกทั้งเป็นชุดเปิดหลังซึ่งฉันมั่นใจว่าจะทำให้บรรดาหนุ่ม ๆ ต้องคลั่งฉันยังคงจ้องมองตัวเองในขณะที่ลูบมือไปตามเนื้อผ้าที่นุ่มนวล ชุดนี้เข้ารูปพอดีตัว และต้องขอบคุณที่ฉันเพิ่งผ่านช่วงตั้งครรภ์ เลยทำให้ตอนนี้ฉันมีส่วนเว้าโค้งที่พอดิบพอดี“โอ้โหที่รัก ถ้าฉันไม่ได้ชอบผู้ชาย ฉันคงจีบเธอไปแล้วแน่ ๆ” เล็ตตี้กล่าวชมด้วยน้ำเสียงปลื้มปริ่ม “เธอเซ็กซี่มาก แบบที่ไม่มีอะไรจะเทียบได้เลย” “เธอพูดถูก” โครินพูดเสริมพวกเธอกลับไปเมื่อสองสามชั่วโมงก่อน ตอนนี้เรากำลังคุยกันทางวิดิโอคอล เพราะฉันต้องการฟังความคิดเห็นที่จริงใจของพวกเธอ เดตครั้งนี้สำคัญมาก อย่างที่ฉันบอก นี่เป็นเดตครั้งแรกของโรแวนกับฉัน ฉันจึงอยากให้ทุกอย่างออกมาสมบูร