แชร์

บทที่ 176

ผู้เขียน: เอเวอลีน เอ็มเอ็ม
เขาเอาส่วนไหนมาคิดว่าฉันจะหลงเชื่อเขา? เก้าปีที่ผ่านมา ทั้งโรแวนและทุกคนต่างก็บอกเสมอว่าฉันนั้นไร้ค่า ไร้ความหมายในชีวิตเขา จู่ ๆ เขาก็คิดจะกลับลำทุกอย่างและคิดให้ฉันเชื่อเขาอย่างนั้นหรือ?

ฉันมีคำถามเต็มหัวไปหมด กลับหาคำตอบไม่ได้ คำถามเหล่านี้ชวนปวดหัวเกินไป ฉันเลยพยายามผลักพวกมันออกไป ไม่ว่าโรแวนคิดอย่างไร นั่นก็ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของฉัน เรื่องระหว่างเราสองจบลงไปแล้ว มันไม่ใช่หน้าที่ของฉันที่จะพยายามทำความเข้าใจตานั่นอีก

ความเหนื่อยล้าทำให้ฉันเผลอหลับไปอย่างไม่ได้ตั้งใจ

เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมา ฉันพบว่าพ่อแม่อยู่ในห้องกับฉัน พวกเขาดูเหนื่อยล้าไม่แพ้กันเลย มือของทั้งสองกุมมือทั้งสองข้างของฉันเอาไว้ และในวินาทีนั้นเอง ฉันรู้สึกได้รับความรักมากกว่าครั้งไหน ๆ

นี่คือสิ่งที่ฉันโหยหาจากโรแวนและคนตระกูลชาร์พ ในตอนนี้ฉันได้รับสิ่งที่โหยหาเสียที ความรู้สึกมากมายต่างเอ่อล้นออกมา

ฉันอาจส่งเสียงดังเกินไป พวกท่านจึงเงยหน้าขึ้นมามอง

“เอวา” แม่เรียกชื่อฉันด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “เป็นไงบ้างลูก?”

น้ำตาเอ่อล้นขึ้นในดวงตา ฉันกะพริบตาเพื่อกลั้นไว้ แต่ก็ไร้ผล

“หนูรักพ่อกับแม่จังเลยค่ะ ขอบคุณนะคะที่เป็นทุ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ธุลีใจ   บทที่ 177

    ผ่านมาแล้วสองวันนับตั้งแต่ที่เอมม่าและฉันถูกลักพาตัวไป เจ้าหน้าที่ตำรวจรีบพยายามตามล่าตัวเจ้ารีเปอร์ ทว่าเขากลับหายเข้ากลีบแมฆไปอีกครั้ง พวกเขาไม่สามารถตามหาตัวเจอได้เพราะลูกน้องของมันที่ถูกจับมาไม่ยอมเปิดปากพูดสิ่งใดเลย ฉันใช้ชีวิตอยู่อย่างหวาดกลัวนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ไม่อยากให้สิ่งนี้เกิดขึ้นซ้ำสองอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่อยากให้ตนเองตกเป็นเป้าหมายของพวกมันเพราะเหตุผลบางประการที่ฉันไม่มีส่วนข้องเกี่ยวด้วยเลย “แม่ครับ ผมขอเล่นเกมได้ไหม?” โนอาเอ่ยถาม ทำให้ฉันตื่นจากภวังค์มีสติกับงานในมือฉันทำงานบ้านจนเสร็จหมดทุกอย่างเพราะหวังว่าจะไม่คิดมากกับเรื่องนี้ ขณะที่พูดอยู่ ก็กำลังพับเสื้อผ้า หลังจากนั้นก็ไม่รู้ว่าจะทำสิ่งใดต่อดี“ได้จ้ะ แล้วหนุ่มน้อยกันเนอร์บอกว่าจะมากี่โมงนะ?”เด็กน้อยทั้งสองแทบจะตัวติดกันตลอดเวลา พวกเขาทำทุกสิ่งด้วยกันเสมอ แม้แต่ตอนที่อยู่โรงเรียนก็ตามมิตรภาพของเด็กน้อยช่างวิเศษซึ่งย้ำเตือนฉันถึงความสัมพันธ์ระหว่างโรแวน เกเบรียล และทราวิส พวกเขาก็เป็นเช่นนี้ตั้งแต่สมัยก่อนแล้ว“บ่ายสามมั้งครับ”“จ้ะ เดี๋ยวแม่เตรียมขนมเอาไว้ให้นะ”เด็กน้อยจูบแก้มฉัน “แม่น่ารักท

  • ธุลีใจ   บทที่ 178

    หลังจากที่ไม่ได้เจอกับคาลวินมาตั้งแต่คราวก่อน กันเนอร์มาแทบทุกวันและบางครั้งโนอาก็ไปที่บ้านพวกเขาด้วย แต่ฉันแทบไม่ได้เจอหรือพูดคุยกับคาลวินเลย ดูเหมือนว่าเขาพยายามหลบหน้าฉันเพราะเหตุผลบางอย่างที่ฉันไม่รู้“เข้ามาไหมคะ?” ฉันเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าเขาจ้องมองเท้าสลับไปมา ดูท่าทางไม่มั่นใจ“ถ้าไม่รบกวน ก็ได้ครับ”ฉันหลบไปด้านข้างเพื่อให้เขาเข้ามา แม้ดูไม่มั่นใจในตอนแรก แต่เขาก็เดินพ้นธรณีประตูเข้ามาภายในบ้านในที่สุดฉันนำทางเขามายังห้องครัวพร้อมผายมือเชิญให้นั่งลง ฉันจึงเดินไปเตรียมขนมให้กับเด็กทั้งสอง“ผมรู้แล้วนะครับว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง แค่อยากมาดูว่าคุณไม่เป็นไรแล้วใช่ไหม” เขาเอ่ยหลังจากนั้นครู่หนึ่งก็ไม่ถึงกับเป็นข่าวไปทั้งเมืองหรอก แต่มีใครบางคนสังเกตเห็นและตั้งข้อสงสัย ในเย็นวันนั้นเอมม่าและฉันก็กลายเป็นข่าวดัง ไม่มีใครรู้ว่าฉันเป็นคนในตระกูลโฮเวลล์ และฉันก็ต้องการให้มันเป็นเช่นนั้นเพราะว่ายังไม่พร้อมรับสายตาทั้งมวลที่จะจับจ้องมายังตระกูลนี้ พวกเขาต่างเชื่อว่าฉันยังเป็นคนของตระกูลชาร์พอยู่ และตอนนี้ทุกคนต่างคาดเดากันไปว่าทำไมลูกสาวตระกูลชาร์พทั้งสองคนถึงได้ถูกลักพาตัวไปได้“เอ่อ…ข

  • ธุลีใจ   บทที่ 179

    ฉันรู้สึกเบื่อมาก เบื่อสุด ๆ แต่ละวันในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ไม่ค่อยแย่เท่าไรเพราะโนอาอยู่ด้วย แต่พอถึงวันธรรมดา มันแทบทนไม่ไหวเล็ตตี้กับโครินทำงานตลอดทั้งวัน เช่นเดียวกับพ่อแม่ของฉัน ฉันได้จ้างแมรี่ให้มาดูแลงานประจำวันของมูลนิธิโฮป แม้ว่าจะไปที่นั่น ก็ไม่ค่อยมีอะไรให้ทำ นอกจากเซ็นเอกสารที่ต้องการการอนุมัติจากฉันเท่านั้นฉันและคาลวินกลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ฉันได้รู้ว่าเขามีบริษัทรับเหมาก่อสร้างของตัวเอง ซึ่งเริ่มก่อตั้งเมื่อสองปีที่แล้วมาจนถึงตอนนี้ เขาบอกว่ากิจการกำลังไปได้ดี นั่นหมายความว่าเขาก็ไม่ว่างในช่วงกลางวันเช่นกันฉันเบื่อจนคิดจะกลับไปทำงาน อายุครรภ์ห้าเดือนแล้วยังพอมีเวลาอีกสักพักก่อนจะถึงกำหนดคลอด แต่แทนที่จะกลับไปทำงาน ฉันหยิบโทรศัพท์แล้วกดโทรออก“สวัสดีค่ะ คุณเดอร์รี่ เป็นยังไงบ้างคะ?” ฉันเอ่ยถามเราทั้งสองอาศัยอยู่ในละแวกเดียวกัน และเธอคิดต่อมาหาเมื่อไม่กี่วันก่อน เธอมีลูกวัยแตกเนื้อสาวซึ่งกำลังเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลาย เธอไม่ค่อยถนัดวิชาชีววิทยามากนัก คุณเดอร์รี่จึงถามฉันว่าพอจะช่วยติวให้ได้ไหม“ดีค่ะ ดีใจจังเลยที่คุณโทรมา เป็นยังไงบ้างคะ?” เ

  • ธุลีใจ   บทที่ 180

    วันนี้ฉันตัดสินใจแต่งหน้าสักหน่อยเลือกลุคสีนู้ด หลังจากนั้น ก็ม้วนผมให้เป็นลอนแทนที่จะปล่อยตรงธรรมดา ฉันพอใจกับภาพลักษณ์นี้มาก ก่อนหยิบรองเท้าทรงสวยมาใส่แล้วกำลังจะออกจากบ้าน แต่แล้วโทรศัพท์ก็ดังขึ้นฉันไม่รู้จักเบอร์นั้น แต่ก็รับสายอยู่ดี“สวัสดีค่ะ?”“สวัสดี เอวา อีธานนะ” เสียงทุ้มดังมาจากปลายสายแม้ไม่แนะนำตัว ฉันก็ยังรู้ว่าเป็นเขาอยู่ดี ฉันจำเสียงของเขาได้จากช่วงเวลาที่ฉันมีความสุขมาก ๆ กับเขา มันเป็นช่วงเวลาที่เขาพูดคุยกับฉันอย่างอบอุ่นและใส่ใจจนฉันรู้สึกว่าตนเองมีค่า แต่นั่นไม่ใช่เรื่องจริง เป็นเพียงแค่เกมที่สร้างขึ้นฉันสลัดความคิดพวกนั้นออกไป พยายามผลักไล่ความทรงจำอันเจ็บปวดออกไป“สวัสดีค่ะ อีธาน เป็นยังไงบ้าง?” ฉันเอ่ยถามพลางควบคุมน้ำเสียงอยู่ฉันไม่ได้ไปเยี่ยมเขาอีกเลย เราคุยกันผ่านจดหมายเท่านั้น ส่วนใหญ่เป็นเรื่องอัพเดตการตั้งครรภ์ของฉันให้เขารู้“เรื่อย ๆ ครับ” เขาตอบ จากนั้นจึงเงียบเป็นช่วงเวลาที่อึดอัดน่าดู เขาเคยเป็นชายที่ฉันสะดวกใจพูดออกไปทุกอย่าง แต่ตอนนี้ทุกสิ่งกับอึดอัดไปหมด“ได้คุยกับแม่พ่อหรือยัง?” ฉันถามหลังจากเงียบไปพักใหญ่ เพียงต้องการทำลายความเงียบ

  • ธุลีใจ   บทที่ 181

    โรแวนผมนั่งรอเอวาอยู่บริเวณม้านั่งอย่างร้อนใจ ผมรู้ดีว่าเธอต้องหัวเสียมากเป็นแน่ แต่ก็ห้ามความรู้สึกที่อยากจะอยู่ใกล้ ๆ และคอยอยู่เคียงข้างเธอไว้ไม่ได้เธอไม่ยอมบอกวันนัดหมอครั้งต่อไปให้ผมรู้ ดังนั้นจึงต้องสืบหาข้อมูลเอง รู้ดีว่ามันทำให้ผมดูเหมือนพวกเอาแต่ใจ แต่ผมเคยชินกับการได้ในสิ่งที่ต้องการ และสิ่งที่ผมต้องการในตอนนี้ก็คือการได้อยู่ข้างเธอหากเป็นไปได้ ผมคงไปรับเธอด้วยตนเอง แต่ก็เลือกที่จะมารออยู่ที่นี่แทน เพราะรู้ตัวว่าการทำแบบนี้ก็ถือว่าฝืนใจเธอมากพอแล้วนานมาแล้วที่ผมไม่เคยประหม่าแบบนี้ ครั้งแรกและครั้งเดียวที่ผมเคยรู้สึกประหม่าขนาดนี้ก็คือตอนมีเซ็กซ์ครั้งแรก ผมอายุแค่สิบสามและยังไม่รู้ว่าควรจะทำอะไรเลย ตอนนั้นมันแย่มากเพราะไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ แค่ไม่กี่วินาทีก็เสร็จเสียแล้ว ปล่อยให้ผู้หญิงที่กำลังมีอะไรกันด้วยไม่พอใจเท่าไรผมสะบัดความคิดนั้นออกจากหัวแล้วจ้องมองประตู ผมมารอก่อนเวลา และรู้ว่าต้องรออีกสักพักกว่าเธอจะมาถึง“โรแวน? คุณมาทำอะไรที่นี่?” เสียงของเธอดึงผมออกจากห้วงความคิดผมไม่รู้เลยว่านั่งรอนานขนาดไหนแล้ว ผมจดจ่อมากจนไม่ได้สังเกตว่าเธอมาถึงแล้วเมื่อหันไปห

  • ธุลีใจ   บทที่ 182

    “อย่างที่เราเคยทำกันนะ เดี๋ยวไปเปลี่ยนชุดแล้วกลับมานั่งบนเตียง เราจะได้ตรวจดูกันว่าเจ้าตัวน้อยเป็นยังไงบ้างนะคะ”เอวาเดินเข้าไปในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าพร้อมเสื้อคลุมท้อง ไม่กี่นาทีต่อมา เธอก็ออกมาและนอนลงบนเตียง“วันนี้เราจะทำการตรวจอัลตราซาวนด์แบบผ่านช่องคลอดก่อนนะคะ แล้วค่อยแสกนปกตินะ” คุณหมอเรเวนบอก“มีอะไรที่ผมควรกังวลไหมครับ?” ผมถามขึ้น“ไม่มีค่ะ ดิฉันทำแบบนี้ให้กับคนไข้ทุกคน เป็นการตรวจดูว่าปากมดลูกยังแข็งแรงดีอยู่หรือเปล่าค่ะ” เธอยิ้มให้เอวา “เดี๋ยวจะใส่เครื่องมือนี้เข้าไปในช่องคลอดแล้วนะคะ ถ้ามีอะไรไม่สบายตัว บอกหมอเลยนะ”เอวามองผมตาขวางก่อนจะพยักหน้าตอบรับ ผมไม่เข้าใจว่ามีอะไรให้อาย หากเธอลืมไป ผมก็เคยเห็นเธอเปลือยกายมาก่อนแล้วเธอยกขาขึ้นแล้วคุณหมอเรเวนก็เริ่มทำการตรวจ พอตรวจเสร็จ เธอก็ทำการแสกนปกติก่อนจะปิดเครื่อง“ทุกอย่างเรียบร้อยนะคะ ทั้งคุณและเด็กในครรภ์สุขภาพดี หมอดีใจนะคะที่ท้องรอบนี้เป็นเรื่องง่ายกว่าตอนท้องน้องโนอามากเลย” คุณหมอเรเวนพูดขณะที่เอวานั่งขึ้น“หมายความว่าไงที่ว่าตอนที่ท้องโนอา เอวามีปัญหาตอนท้องเหรอครับ?” ให้ตายสิ ตอนนั้นผมกำลังจมอยู่กับแอลกอฮอล์เพรา

  • ธุลีใจ   บทที่ 183

    ผมยิ้มออกมา “ผมไล่เธออกไปแล้ว ตอนนี้ก็จ้างเลขาใหม่มาทำงานแล้ว”“ตั้งแต่เมื่อไหร่คะ?”“ก็ตั้งแต่งานกินเลี้ยงกาล่าตอนเย็นวันนั้นไง ผมไม่ชอบที่เธอพูดกับคุณอย่างนั้น”เธอดูตกใจมาก ผมจ้างคริสตินเป็นเลขานุการส่วนตัวเป็นเวลาหลายปี และไม่รู้เลยว่าเธอเป็นตัวปัญหาโดยแท้ หากพูดให้ตรงกว่านั้นคือ ผมไม่ได้สนใจเลยว่าเธอทำตัวน่ารังเกียจใส่เอวาอย่างไรบ้างรอยยิ้มผมมืดลงเมื่อตระหนักได้ว่าผมยอมให้คนอื่นรวมถึงตนเองดูถูกเธอมากขนาดนี้ได้อย่างไร เธอเป็นทั้งภรรยาและแม่ของลูกชายผม ผมไม่ควรปล่อยผ่านเรื่องเลวร้ายแบบนี้ไปง่าย ๆ เลยเธอไม่ได้พูดอะไรเลยหลังจากนั้น เพียงแค่จ้องมองผมราวกับว่าไม่เคยรู้จักกันมาก่อน“แล้วคุณหมอเรเวนพูดถึงเรื่องที่คุณท้องครั้งแรกน่ะ มันมีอะไรเหรอ?” ผมเอ่ยถามเมื่อนึกเรื่องที่พูดกันในคลินิกขึ้นมาได้“คุณช่วยปล่อยผ่านไปได้ไหม? มันไม่ได้สำคัญอะไรนักหรอก โนอาก็แข็งแรงสมบูรณ์ดีและทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี มันก็เป็นแค่อดีตไปแล้ว” เธอหลบสายตา ทว่าน้ำเสียงของเธอสั่นเครือและรู้ได้ทันทีว่ามันเจ็บปวดขนาดไหน“เอวา? บอกผมมาเถอะ ผมอยากรู้จริง ๆ” ผมยืนกราน และรู้สึกสิ้นหวังเหลือเกินการที่ได้มา

  • ธุลีใจ   บทที่ 184

    เอวาฉันยังรู้สึกสะเทือนใจไม่หายเลยเมื่อเห็นความหน้าทนของโรแวนที่โผล่หน้าไปวันนัดหมอแบบนั้น ฉันหมายถึงเขากล้าดีอย่างไรถึงทำเป็นไม่รับรู้ว่าตอนตั้งท้อง ฉันต้องผ่านอะไรมาบ้างทั้งเขา ทั้งคนตระกูลชาร์พและพ่อแม่ของเขาต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ทั้งหมด ฉันเกือบต้องสูญเสียลูกในท้องไปเพราะพวกเขา และยังมีหน้ามาสงสัยว่าทำไมฉันถึงให้อภัยพวกเขาไม่ได้กันอีก?เมื่อคิดเช่นนั้นก็ทำให้ฉันหัวเสียเป็นอย่างมาก ฉันจะเป็นจะตายอย่างไร พวกเขาก็ไม่ได้ใส่ใจ และไม่สะทกสะท้านอะไร เอาแต่ก่นด่าฉันเรื่องเมื่อคืนนั้น ฉันขย่มเขาคนเดียวมั้ง? ฉันบังคับลากโรแวนไปถึงเตียงนอนเลยล่ะสิ? เขาเองก็เต็มใจแต่กลับก่นด่าแต่ฉัน ลงโทษฉันเพียงคนเดียวเมื่อฉันมองย้อนกลับไปบางครั้ง ก็คิดว่ามันเป็นเพียงข้ออ้าง พวกเขาใช้เรื่องคืนนั้นและผลที่เกิดขึ้นผลักไสฉันออกไป พวกเขาไม่เคยปฏิบัติกับฉันเช่นคนในครอบครัวเลย และนี่เองก็เป็นข้ออ้างแสนสมบูรณ์แบบที่จะตัดความสัมพันธ์กับฉันสิ่งที่ฉันบอกโรแวนไปนั้นเป็นเรื่องจริงทั้งหมด ฉันไม่เคยกล่าวโทษเขาเลยเพราะเขาเป็นคนทำให้โนอาเกิดมา แต่ฉันต้องการหนีไปให้ไกลเมื่อรู้ว่าตนเองตั้งท้อง ไม่แน่หากเป็นเช่นนั้น ชี

บทล่าสุด

  • ธุลีใจ   บทที่ 408

    ลิลลี่มองพวกเราสลับไปมาระหว่างฉันกับพ่อเธอ ฉันเห็นคำถามมากมายในสายตาเธอ ความสงสัยเกี่ยวกับฉันและเกเบรียลอย่างที่ฉันพูดไปแล้วว่ามันไม่ควรจะเป็นแบบนี้ ฉันไม่ควรจะรู้สึกดึงดูดใจต่อเกเบรียลอีกหลังจากที่ห่างกันไปหลายปี ฉันเคยคิดว่าความรู้สึกที่มีต่อเขาจะจบลงไปแล้ว การปฏิบัติที่เขาเคยทำกับฉันเมื่อหลายปีก่อนควรจะฆ่าความรู้สึกทั้งหมดที่ฉันเคยมีต่อเขาแต่ฉันคิดผิด เพราะตอนนี้ฉันกลับมายืนอยู่ตรงนี้ เกือบจะจูบเขา ฉันรู้สึกแย่มากที่ปล่อยให้ตัวเองอ่อนแอเพียงชั่วขณะ และปล่อยให้ร่างกายพาฉันหลงใหลในตัวเขา“สองคนจะจูบกันเหรอคะ?” ลิลลี่ถามอย่างไร้เดียงสา ฉันอดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเข้าลึกจิตใจฉันวุ่นวาย ฉันไม่รู้จะตอบเธออย่างไร ควรจะบอกความจริงเธอไหม? แต่ถึงอย่างนั้น ฉันก็โกหกไม่ได้เมื่อเธอเห็นเต็มสองตา“เอ่อ…เอ่อ...” ฉันพยายามหาคำพูดที่เหมาะสมจะตอบในหัวของฉันยังคิดถึงเรื่องเลียม เขาเป็นผู้ชายเพียงคนเดียวที่ลิลลี่เคยเห็นฉันจูบ ผู้ชายคนเดียวที่เคยอยู่ในชีวิตของเรา ฉันกลัวว่าถ้าฉันบอกว่า ‘ใช่’ เธอจะเข้าใจผิด ฉันรู้ว่าเกเบรียลพยายามสร้างความสัมพันธ์กับเธอ แต่ตลอดเวลาห้าปีที่ผ่านมา เลียมคือพ่อของเธอ

  • ธุลีใจ   บทที่ 407

    ฉันเหมือนตกอยู่ในภวังค์ ขณะที่ยกแก้วกาแฟขึ้นจรดริมฝีปาก แต่ทุกอย่างพังทลายทันทีเมื่อรสชาติของมันกระแทกลิ้น ฉันถึงกับพ่นมันออกมา.“รสชาติสุดจะทนมาก กระเดือกลงได้ไงคะเนี่ย?” ฉันถามพลางเช็ดปากครั้งแรกในชีวิตที่ฉันได้ยินเกเบรียลหัวเราะ เสียงหัวเราะของเขาทุ้มลึกและเย้ายวนจนทำให้ร่างกายฉันสั่นไหว เสียงหัวเราะแบบที่ทำให้คุณลืมแม้กระทั่งชื่อของตัวเอง ฉันคนเดียวหรือเปล่าที่รู้สึกว่าเสียงหัวเราะของคนอื่นมีเสน่ห์?เขายักไหล่ “มันเป็นรสชาติที่ต้องค่อย ๆ ฝึกถึงจะชอบได้ มันไม่ได้เหมาะสำหรับทุกคนหรอก”ฉันทำได้แค่พยักหน้าเหมือนเสียงหายไป ฉันยังคงตกใจอยู่ที่เกเบรียลหัวเราะ เสียงหัวเราะกลายเป็นรอยยิ้มที่แท้จริง เป็นรอยยิ้มที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน มันชวนให้หลงใหลจนฉันเกลียดตัวเองที่เผลอหลงเสน่ห์เขา“เป็นอะไรไหม?” เขาเข้ามาใกล้มากขึ้น “เหมือนตะลึงอะไรอยู่เลย”“คุณยิ้มสวย เสียงหัวเราะก็เพราะ”ทันทีที่คำพูดเหล่านี้หลุดจากปาก ฉันรู้สึกอยากต่อยตัวเอง ฉันพูดอะไรออกไป? ทำไมฉันถึงปล่อยคำเหล่านั้นหลุดออกมา? สิ่งสุดท้ายที่ฉันต้องการคือให้เขาคิดว่าฉันยังมีใจให้เขา“อะไรนะ?”“เปล่า” ฉันรีบตอบก่อนจะหมุนตัวและ

  • ธุลีใจ   บทที่ 406

    เมื่อเกเบรียลบอกฉันว่าเราจะไปเยี่ยมครอบครัวของเขาในงานบาร์บีคิวประจำสัปดาห์ ฉันไม่คิดว่ามันจะเร็วขนาดนี้เมื่อวานนี้ที่ออฟฟิศวุ่นวายมาก มันชัดเจนเลยว่าเกเบรียลมีพนักงานผู้หญิงหลายคนที่อยากได้เขาไปครอบครอง พูดตามตรงฉันไม่ถือหรอก ช่วยไม่ได้ที่เขาหล่อและเซ็กซี่ขนาดนั้น สิ่งที่ฉันไม่ชอบคือสายตาอิจฉาและเกลียดชังที่ฉันได้รับจากผู้หญิงพวกนั้นบางคนฉันเคยคิดว่ามิลลี่เป็นคนเดียวที่อยากครองเขาไว้ ฉันคิดผิดแน่นอน นับไม่ถ้วนเลยว่าฉันถูกผู้หญิงหยุดไว้กี่ครั้งตอนที่คริสโตเฟอร์ส่งฉันไปทำงานบางอย่างดูเหมือนว่าผู้หญิงสองคนที่เกเบรียลเคยต่อว่าคือคนที่แพร่ข่าวว่าฉันคือผู้หญิงคนใหม่ของเกเบรียล ฉันเดาว่ามือของเขาที่แตะแผ่นหลังของฉันคงบอกชัดเจนแล้ว ข่าวดีคือพวกเขาทุกคนคิดว่าฉันเป็นแค่ความสัมพันธ์ชั่วคราวและเขาจะเบื่อฉันในไม่ช้าพวกเธอรู้สึกว่าควรเตือนฉันว่าอย่าทำตัวสบายเกินไปที่นี่ เพราะเกเบรียลจะเบื่อฉันในไม่กี่สัปดาห์ ฉันสงสัยจังว่าพวกเธอจะมีปฏิกิริยายังไงเมื่อรู้ว่าฉันเป็นภรรยาของเขาตอนห้าโมงเย็น เกเบรียลทำให้ฉันประหลาดใจด้วยการกลับบ้านมาพร้อมฉัน ตอนนั้นเองที่เขาบอกเรื่องบาร์บีคิวประจำสัปดาห์ที่บ้

  • ธุลีใจ   บทที่ 405

    “ยินดีที่ได้รู้จักครับ คุณนายวู้ด” เขาพูดออกมาหลังจากนั้นครู่หนึ่งพร้อมรอยยิ้มเจื่อน“ยินดีเช่นกันค่ะ” ฉันตอบ พร้อมจับมือทักทาย “แล้วก็เรียกฉันว่าฮาร์เปอร์ดีกว่าค่ะ”“คริสโตเฟอร์ตั้งแต่ตอนนี้ ฮาร์เปอร์จะค่อยช่วยงานคุณ รบกวนคุณช่วยสอนงานสองสามอย่าง แล้วก็แนะนำทุกเรื่องที่พอจะแนะได้ด้วย” เกเบรียลพูดพร้อมมุ่งเป้าไปยังเลขา“ได้ครับ บอส”เขากำลังหันหลังกลับไปแต่ก็หยุดลง “แล้วช่วยปิดเรื่องที่เธอเป็นภรรยาผมเอาไว้ก่อน ถ้าใครถามก็เงียบเอาไว้” เขาเสริม ก่อนหมุนเก้าอี้ให้เข้าตำแหน่งสายตาคริสโตเฟอร์มองสลับไปมาระหว่างฉันกับเกเบรียล ซึ่งฉายแววความสับสนปนอยู่ด้วย แต่ฉันก็ไม่สามารถทำให้เรื่องนี้กระจ่างชัดให้เขาได้“ทั้งสองคนออกไปได้แล้ว” เกเบรียลบอกเราด้วยน้ำเสียงห่างเหิน ในมือถือเอกสาร และเราก็ไม่มีตัวตนสำหรับเขาอีก“ไปกันเถอะครับ ฮาร์เปอร์” คริสโตเฟอร์เปิดประตูรอฉันอยู่ “ผมจะช่วยพาคุณเยี่ยมชมแต่ละแผนกก่อน พนักงานคนอื่นจะได้รู้จักคุณเอาไว้ด้วย”ฉันเดินผ่านประตูและคริสโตเฟอร์ก็เดินตามหลังฉันมา เขาเดินนำหน้าและฉันก็เดินตามเขาไปติด ๆ“คุณเป็นเลขาของเกเบรียลนานแค่ไหนแล้วเหรอคะ?” ฉันเอ่ยถามด้วยค

  • ธุลีใจ   บทที่ 404

    เขาเริ่มเดินอีกครั้ง และฉันก็เดินตามเขาไปข้างหลัง"นี่เป็นห้องทำงานของโรแวน" เขาพูดเมื่อเราหยุดอยู่หน้าประตูบานหนึ่งที่ประตูมีชื่อของพี่ชายเขาติดอยู่ ฉันพยักหน้าเล็กน้อยโดยไม่แน่ใจว่าทำไมฉันต้องรู้เรื่องนี้ แน่นอนว่าฉันจะมาทำงานให้เขา แต่ฉันจะต้องมีปฏิสัมพันธ์กับคนในระดับสูงคนอื่น ๆ ด้วยเหรอ?"ห้องทำงานผมอยู่ถัดจากของเขา แต่ให้ผมพาคุณชมรอบ ๆ สักเดี๋ยวหนึ่งก่อนจะให้ผู้ช่วยผมอีกคนแนะนำส่วนที่เหลือและอธิบายงานที่คุณต้องทำ""ไม่ต้องทำขนาดนี้ก็ได้ค่ะ... ฉันมั่นใจว่าผู้ช่วยของคุณสามารถพาชมได้ คุณคงมีอะไรต้องทำเยอะแยะ" ฉันบอกเขาด้วยน้ำเสียงหวานเลี่ยนเกเบรียลขึ้นชื่อเรื่องการมีความสัมพันธ์กับผู้ช่วยส่วนตัวของเขา และเขาก็ไม่เคยพยายามปิดบังความจริงสกปรกนี้เลยมันทำให้ฉันรำคาญใจมากในตอนที่เรายังแต่งงานกัน ฉันเกลียดที่รู้ว่าเขาเป็นสามีของฉันแต่ไม่ยอมหยุดเที่ยวนอนไปทั่ว ทั้งที่เขาสามารถมีอะไรกับฉันได้ตลอด แต่ฉันก็รู้ดีกว่าเขาไม่มีทางต้องการนอนกับฉันนอกจากจะเป็นคนเจ้าชู้ที่ชอบผู้หญิงหลายแบบแล้ว กาเบรียลยังชอบความจริงที่ว่ามันทำให้ฉันเจ็บปวด เขาใช้มันเป็นเครื่องมือในการลงโทษฉันเพราะการแต่งง

  • ธุลีใจ   บทที่ 403

    “ฮาร์เปอร์ คุณจะลงจากรถได้หรือยัง? มันเสียเวลาผมนะ” เกเบรียลตวาดใส่ฉันฉันเงยหน้าขึ้นมองเขา คิ้วของเขาขมวดมุ่น แสดงถึงความหงุดหงิดและไม่พอใจ ฉันถอนหายใจก่อนจะลงจากรถ นี่แหละเกเบรียลที่ฉันคุ้นเคย เย็นชา หยิ่งผยอง และหยาบคายฉันจัดกระโปรงให้เรียบร้อยก่อนจะหยิบกระเป๋าถือขึ้นมา เขาเริ่มเดินนำไป และฉันก็เดินตามหลังเขาเหมือนลูกแกะที่ถูกนำไปสู่โรงฆ่าสัตว์ ฉันประหม่าเสียจนรู้สึกเหมือนหัวใจกำลังจะกระเด็นออกมาจากอกฉันกำลังย่างเท้าเข้าสู่โลกของเกเบรียล เข้าสู่ดินแดนของเขา มันทั้งอึดอัดและน่ากลัวที่จะอยู่ในที่ที่เขามีอำนาจควบคุมทุกอย่างโดยสิ้นเชิงเกเบรียลกดปุ่มลิฟต์ พอลิฟต์เปิด เขาก้าวเข้าไป ฉันเดินตามและยืนอยู่ข้าง ๆ พยายามสงบใจที่เต้นรัวเกินควบคุม“คนที่สามารถใช้ลิฟต์นี้ได้มีแค่ครอบครัวผม มันจะพาเราขึ้นตรงไปยังชั้นบนสุดซึ่งเป็นห้องทำงานของเรา” เขาเริ่มพูดต่อ “ผมจะเพิ่มชื่อคุณในระบบ จะได้ไม่ต้องใช้ลิฟต์ธรรมดา”ฉันประหลาดใจกับระดับความพิเศษนี้ ครอบครัวของฉันก็ร่ำรวย แต่เราไม่เคยมีลิฟต์ส่วนตัวในตึกเลย ทุกคน รวมถึงประธานและครอบครัวผู้ก่อตั้ง ต้องใช้ลิฟต์สองตัวที่มีร่วมกัน“ค่ะ” ฉันตอบกลับ

  • ธุลีใจ   บทที่ 402

    ฮาร์เปอร์แจ็คสัน หนึ่งในคนขับรถของเกเบรียลเปิดประตูให้ฉัน ฉันก้าวขึ้นไปในรถโดยมีเกเบรียลตามเข้ามานั่งข้างฉันฉันยังคงไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองตกลงเรื่องนี้ แต่ในส่วนลึกฉันรู้ว่ามันสมเหตุสมผล เกเบรียลพูดถูกว่าจะมีอะไรที่เหมาะสมไปกว่าการได้เรียนรู้จากคนที่เก่งที่สุดในธุรกิจล่ะ เกเบรียลกับโรแวนเป็นคนที่เก่งที่สุดในวงการ พวกเขายังเก่งกว่าพ่อของพวกเขาเอง ซึ่งตอนนี้เกษียณไปแล้วแต่ยังคงเป็นหัวหน้าคณะกรรมการบริหารฉันใช้เวลาอยู่พักใหญ่กว่าจะตัดสินใจได้ว่าจะใส่อะไรดี ฉันเคยทำงานจากที่บ้านเป็นส่วนใหญ่ และเวลาที่ต้องไปบริษัท ฉันก็มักจะใส่ชุดลำลอง เพราะบริษัทที่ฉันเคยทำงานให้มีบรรยากาศในการทำงานที่ผ่อนคลายฉันอยากดูดีและสร้างความประทับใจแรกให้ได้ดี ฉันไม่มีเสื้อผ้าสำหรับทำงานมากนักและวางแผนจะไปช้อปปิ้งสุดสัปดาห์นี้ ถึงแม้เงินจะตึงมือ แต่ฉันคิดว่าซื้อกระโปรงกับเสื้อเชิ้ตเพิ่มอีกสักสองสามชุดก็คงเป็นเรื่องจำเป็นหลังจากเลือกชุดเสร็จ ฉันลงไปกินอาหารเช้า เกเบรียลมองฉันผ่าน ๆ ก่อนจะหันกลับไปสนใจโทรศัพท์ พอกินเสร็จ ก็ถึงเวลาที่เราต้องออกจากบ้าน ลิลลี่ยังไม่ตื่น ฉันเลยฝากข้อความไว้กับชารอน“คุณจะให้

  • ธุลีใจ   บทที่ 401

    เกเบรียลผมตื่นขึ้นมาพร้อมกับเสียงครางเบา ๆ และความรู้สึกว่าตัวเองกำลังแข็งตัวอย่างกับหินแกรนิต บ้าเอ้ย ตอนที่ผมตัดสินใจเซ็นสัญญาแต่งงานกับฮาร์เปอร์ ผมไม่ได้คาดคิดเลยว่ามันจะยากขนาดนี้ และไม่ได้คาดคิดเลยว่าเธอจะส่งต่อผมได้ขนาดนี้ผมมีปัญหาแบบผู้ชายที่เจ็บปวดที่สุด และไอ้นั่นของผมก็แข็งจนแทบระเบิดผมลุกขึ้นจากเตียง เดินไปที่ห้องน้ำด้วยระยะทางสั้น ๆ โดยที่ไอ้นั่นชี้ทางให้ ผมยังคงไม่เข้าใจว่ามันเป็นไปได้อย่างไร หมายถึงว่าผมไม่ใช่วัยรุ่นที่ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้แล้วนี่ ผมจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าครั้งสุดท้ายที่ตื่นมาแบบนี้คือตอนไหน แต่ตั้งแต่ฮาร์เปอร์กลับมายังไม่ถึงเดือนเลยด้วยซ้ำ ผมกลับทำตัวเหมือนเด็กหนุ่มไร้เดียงสาอีกครั้งผมไม่เข้าใจเลยว่าเธอทำแบบนี้กับผมได้ยังไง ก่อนหน้านี้เธอไม่เคยส่งผลอะไรแบบนี้กับผมเลย เธอก็ยังคงเป็นฮาร์เปอร์คนเดิมที่ผมรู้จัก มีเพียงรูปร่างกับท่าทีที่เปลี่ยนไป แต่ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมมันถึงมีผลกับผมขนาดนี้ผมสลัดความคิดพวกนั้นออกจากหัวก่อนก้าวเข้าไปในห้องน้ำ น้ำเย็น ๆ น่าจะช่วยแก้ปัญหาสุดแข็งตัวนี้ได้ผ่านไปหลายสิบนาที ผมออกมาจากห้องน้ำด้วยความรู้สึกที่ยังอัดอ

  • ธุลีใจ   บทที่ 400

    ฮาร์เปอร์"ดึกดื่นปานนี้ กำลังมองอะไรอยู่เหรอ?" เสียงทุ้มทำให้ฉันสะดุ้งจากด้านหลัง"ตกใจหมดเลย" ฉันพึมพำขณะพยายามสงบใจที่เต้นแรง "อย่าโผล่มาจากข้างหลังอย่างนั้นสิ"เกเบรียลเดินวนรอบเคาน์เตอร์ครัวและมายืนตรงข้ามกับฉัน เมื่อเขาทำแบบนั้น ให้สายตาฉันได้เห็นเขา คอก็แห้งขึ้นทันที รู้สึกกระหายน้ำเหมือนไม่ได้ดื่มน้ำมานานแล้วและการกลืนก็กลายเป็นปัญหาใหญ่เกเบรียลใส่เสื้อผ้าชิ้นเดียวคือกางเกงขาสั้นสีเทาที่หลวมต่ำบนสะโพก ผู้ชายคนนั้นเป็นงานศิลปะที่มีร่างกายเหมือนเทพเจ้ากรีก ไหล่กว้าง กล้ามท้องเป็นลอน และเส้นวีไลน์ที่ทำให้ผู้หญิงทุกคนคลั่งไคล้แนวไรขนสีเข้มที่เริ่มจากสะดือแล้วหายไปในกางเกง ราวกับว่าไรขนนั้นชี้ไปยังสวรรค์ฉันอยากจะเบนสายตาออกไปแต่ไม่สามารถทำได้ สายตาฉันดื่มด่ำราวกับเขาเป็นแหล่งน้ำเดียวที่มี สายตาจ้องไปที่ทุกซอกทุกมุมของร่างกายเขา สังเกตเห็นรอยสักแบบชนเผ่าบนหน้าอก นั่นเป็นสิ่งใหม่ มันไม่ได้มีตอนที่เราเคยมีอะไรกันเมื่อหลายปีที่แล้ว และการเห็นมันทำให้ฉันอยากรู้ว่ามันหมายถึงอะไรไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเกเบรียลเป็นผู้ชายที่น่าทึ่ง โดยเฉพาะตอนนี้ อย่าคิดว่าฉันพูดแบบนี้แค่ตอนนี้ แม้แต่ต

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status