Share

บทที่ 61

last update Huling Na-update: 2025-04-21 14:41:17

บัดนี้เป็นยามพลบค่ำท้องฟ้ามืดมิด ภายในห้องหอถูกประดับงดงามตามประเพณี องค์หญิงสิบสามในที่สุดก็ฟื้นแล้ว ทันทีที่ฟื้นขึ้นมานางกลับเรียกหาคนผู้หนึ่งทันใด

"พี่ใหญ่ พี่ใหญ่ ท่านอยู่ที่ใด พี่ใหญ่"

องค์หญิงสิบสามรู้สึกสายตาพร่ามัวมองมองเห็นไม่ชัดแจ้งนัก นางจึงหลับตาอีกครั้งยกมือคลึงขมับตนเองลูบหน้าเบาๆ ก่อนจะลืมตาขึ้นเต็มที่ในห้องสว่างไสวด้วยแสงเทียนเรืองรอง

องค์หญิงสิบสามมองรอบกายแล้วก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นเป็นสถานที่ไม่คุ้นเคย อีกทั้งหาได้มีพี่ใหญ่ของนางอยู่เคียงข้างดั่งเช่นทุกครั้ง

"ท่านตื่นแล้วหรือ"

เสียงคนผู้หนึ่งดังขึ้นพร้อมกับถือชามยาเข้ามาในห้องเขาเดินตรงเข้ามานั่งข้างกายนางเปิดฝาชามยาออก

กลิ่นอวลของยาที่ฟุ้งขึ้นมาเพียงเห็นก็รู้ว่ารสชาติขมเพียงใด องค์หญิงสิบสามเห็นเขาเต็มตาจึงเอ่ยถามออกมาอย่างแปลกใจ

"แม่ทัพหยางเหตุใดเป็นท่าน แล้วพี่ใหญ่ของข้าเล่า"

"ท่าทางองค์หญิงคงหัวฟาดพื้นจนลืมทุกสิ่งแล้ว" น้ำเสียงของเขาไม่หนักไม่เบานัก

องค์หญิงสิบสามนิ่งไปชั่วครู่ นางขมวดคิ้วพลางมองใบหน้าของคนตรงข้าม ครั้นเห็นริมฝีปากที่มีรอยแตกเล็กๆของเขาพลันนึกออก

นางยกมือปิดปากของตนทันใดฉับพลันเมื่อมือสัมผัสก
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Kaugnay na kabanata

  • ท่านแม่ทัพ ข้าคือศรีภรรยา   บทที่ 62

    องค์หญิงสิบสามตอบเรื่อยเปื่อยในใจเมื่อหวนคิดเมื่อครั้นยังเยาว์ที่มีเพียงพี่ใหญ่คอยห่วงใย จวบจนทุกวันนี้ก็ยังมีเพียงเขาที่ดีกับนางที่สุด ย้อนคิดถึงภาพที่เขามองนางขึ้นเกี้ยวเจ้าสาว องค์หญิงสิบสามเห็นชัดเจนแม้เขาจะยืนอยู่ไกล เขากำลังร้องไห้ด้วยปวดใจเป็นแน่ พี่ใหญ่คงเหงาและโดดเดี่ยวอีกทั้งคงคิดว่าต่อไปนางไม่อาจเป็นเพื่อนเล่นให้พี่ใหญ่ได้แล้ว นางเพียงแต่ยิ้มให้เขาอย่างสดใสไม่นานหรอกที่นางกับหยางเอ้อหลางต้องหย่ากันในตอนนั้นหากพี่ใหญ่ยังไม่ออกเรือนนางจะอยู่เป็นเพื่อนพี่ใหญ่จวบจนวาระสุดท้ายในชีวิต แม้จะเป็นชีวิตที่แสนสั้นนางก็จะอยู่เคียงข้างเขาเหม่อลอยอยู่ชั่วครู่ นางพลันยิ้มน้อยๆออกมา แต่เมื่อสบตากับหยางเอ้อหลางจึงพบว่าคนผู้นี้ขมวดคิ้วมุ่น รอบกายเขาดูมืดคลึ้มราวกับกำลังมีพายุฝนตั้งเค้า คนผู้นี้เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายเมื่อสักครู่ยังดูห่วงใยนางเหตุใดเพียงชั่วพริบตาเดียวก็กลับมาทำท่าทางเย็นชาแปลกประหลาดอีกครั้ง หลินฮุ่ยหมินยักไหล่พลางคิดว่านางไม่อาจเดาทางคนผู้นี้ได้จริงๆ นางคงต้องศึกษาเขาให้มากขึ้นเพื่อหาทางหนีทีไล่แล้ว"ประเดี๋ยวข้าจะให้คนมาปรนนิบัติท่านล้างหน้าล้างตา กินอาหารเสียหน่อยจะได้มีแ

    Huling Na-update : 2025-04-21
  • ท่านแม่ทัพ ข้าคือศรีภรรยา   บทที่ 63

    องค์หญิงสิบสามยกชามโจ๊กขึ้นซดเพียงพริบตาเดียวก็กินเกลี้ยงชาม รับน้ำจากอาชิงมาบ้วนปากก่อนจะถามออกมา"แล้วเรื่องคนร้ายเล่าผู้ใดต้องการทำร้ายข้า" "จับคนร้ายได้เพคะแต่คนทุกคนล้วนยอมพลีชีพ ท่านแม่ทัพบอกว่าคนพวกนี้พร้อมตายหากทำงานไม่สำเร็จจึงยังสืบไม่ได้เพคะ""อ่อนหัด" นางเอ่ยขึ้นมาคำหนึ่งพร้อมคิดดูถูกหยางเอ้อหลางในใจแล้วถามต่อว่า "ข้าไม่เคยมีศัตรูที่ใด เหตุใดในวันแต่งงานจึงมีคนคิดลงมือแปลกอย่างยิ่งหรือว่าเรื่องนี้เกี่ยวพันกับตำหนักธิดาเทพ""ท่านอ๋องก็คิดเช่นนั้นเพคะ ให้บ่าวทูลองค์หญิงว่าจะรีบสืบหาคนร้ายให้ได้เร็วที่สุดขอองค์หญิงอยู่ในจวนแม่ทัพอย่าได้คิดวุ่นวาย""เห๊อะ พี่ใหญ่อีกคนข้าวรยุทธ์ดีเพียงใดเป็นเขาที่รู้ หากมีข้าอีกคนช่วยสืบเรื่องย่อมกระจ่างเร็วขึ้นคิดจะกักขังข้าไว้ในจวนแม่ทัพหยางหรือ ไม่มีทางหรอก"นางขยับกายหวังเดินลมปราณพลันรู้สึกอ่อนล้าคล้ายคนไร้ซึ่งวรยุทธ์ อาชิงเห็นเช่นนั้นจึงเอ่ยตะกุกตะกักออกมา"เอ่อ ท่านแม่ทัพฝากทูลองค์หญิงว่า เขาให้ท่านเสวยยาสงบจิตช่วงนี้เพื่อเป็นการพักผ่อนร่างกายจึงไม่อาจใช้วรยุทธ์ได้สักสามสี่วันเพคะ""นี่พวกเขารวมหัวกันหรือ""น่าจะเป็นเช่นนั้นเพคะ""ดี ด

    Huling Na-update : 2025-04-21
  • ท่านแม่ทัพ ข้าคือศรีภรรยา   บทที่ 64

    สีหน้าของนางดูดีขึ้นมากจึงทำให้เขาวางใจ ในขณะที่หยิบหนังสือขึ้นมาอ่านได้ไม่กี่หน้าฉับพลันองค์หญิงสิบสามเตะผ้าห่มออกจากตัว พร้อมขยับกายไปมาหยางเอ้อหลางย่นหน้าผากเพราะเช่นนี้สินะอาชิงจึงบอกเรื่องนี้กับเขา แม่ทัพหยางห่มผ้าให้องค์หญิงสิบสามแน่นหนา ตั้งใจอ่านหนังสือข้างกายนางเงียบๆ ไม่นานนางก็เตะผ้าห่มออกอีก ครานี้เขาจึงจับขาของนางไว้จัดท่าทางการนอนของนางให้เรียบร้อยขึ้น พลางสอดกายของตนเข้าไปใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน เขาสะบัดมือดับเทียนที่ส่องสว่าง กอดนางไว้อย่างนั้นในใจคิดเพียงว่า ตัวเขาเองไม่อยากให้ภรรยาต้องนอนป่วยทั้งๆ ที่เพิ่งแต่งงานกันให้ท่านย่าของเขาตำหนิได้ หาได้คิดไปไกลกว่าเรื่องนี้ นอนกอดนางได้ไม่นานหยางเอ้อหลางกลับรู้สึกร้อนรุ่ม องค์หญิงสิบสามสวมเพียงเสื้อตัวในเขาจึงสัมผัสได้ถึงนวลเนื้อสาวนุ่มนิ่มได้อย่างชัดเจนหยาง เอ้อหลางเหงื่อออกแล้ว กลิ่นของนางหอมเกินไป เขากลับรู้สึกหายใจไม่ออก นางขยับกายพาดมือบนอกเขา ยิ่งนางแนบชิดลมหายใจของเขายิ่งติดขัดนางทำให้เขาไม่อาจข่มตาหลับจึงตัดสินใจลุกขึ้นห่มผ้าให้นางแน่นหนาส่วนตนเองสั่งสาวใช้นำผ้าห่มมาอีกผืน หยางเอ้อหลางขยับกายไปนอนที่เก้าอี้

    Huling Na-update : 2025-04-21
  • ท่านแม่ทัพ ข้าคือศรีภรรยา   บทที่ 65

    จู่ๆ เมื่อคิดได้ว่าเขานอนกับนางทั้งคืนพลันกล่าวออกมาเช่นนั้นด้วยความตกใจแม้ว่านางจะไม่รู้สึกว่าร่างกายผิดปกติแต่ประการใดแต่นางไม่เคยมีประสบการณ์ตรงกับเรื่องพวกนี้ ในนิทานที่เคยอ่านมาพอถึงฉากนี้ส่วนใหญ่หนังสือล้วนตัดภาพไปที่แสงเทียนดับลง ตื่นมาพวกเขาก็ร่วมหอกันเรียบร้อยความรู้เรื่องนี้องค์หญิงสิบสามจึงอ่อนด้อยนัก แต่ในเมื่อเขากับนางนอนด้วยกันมาทั้งคืนอีกทั้งแสงเทียนก็ดับดั่งในนิทานแล้ว ตื่นขึ้นมาก็คือร่วมหอลงกันแล้วเป็นแน่หยางเอ้อหลางสำลักก่อนจะไอแค่กๆ ออกมา"ข้ามิใช่คนฉวยโอกาสเช่นนั้นหากคิดจะทำสิ่งใดกับผู้ใด คนผู้นั้นต้องยินยอมเสียก่อน""ท่านพูดจริงหรือ ยังไม่ได้ล่วงเกินข้าใช่หรือไม่" องหญิงสิบสามยกมือกอดอกอย่างปกป้องตนเอง เขายังกอดนางแน่นแม้อยากขยับกายก็ลำบากยิ่ง หยางเอ้อหลางผู้นี้ยิ่งนางขัดขืนเขายิ่งชอบเอาชนะในใจจึงคิดไตร่ตรองปล่อยให้เขากอดดีกว่าให้เขากระทำการอย่างอื่นโดยที่นางไม่ยินยอม"ข้าหาใช่คนชอบโกหก" เขาเอ่ยเบาๆ พลางยิ้มหล่อเหลา ในเวลาเช้าที่ไร้แสงตะวันเช่นนี้เหตุใดรอยยิ้มของคนผู้นี้ถึงได้สว่างไสวแสบตาเช่นนี้องค์หญิงสิบสามชะงักงันอีกทั้งสายตายังจับจ้องอยู่ที่รอยยิ้มร้าย

    Huling Na-update : 2025-04-21
  • ท่านแม่ทัพ ข้าคือศรีภรรยา   บทที่ 66

    เขาช่วยประคองนางให้เดิน องค์หญิงสิบสามรู้สึกหงุดหงิดกับร่างกายที่อ่อนแอราวกับสตรีไร้วรยุทธ์พวกนั้น อีกทั้งการมีคนมาคอยเอาใจใส่ทำให้นางไม่เคยชินเสียเลย แต่การขัดขืนเขาอย่างที่ตั้งใจนั้นก็เป็นไปอย่างลำบากในเมื่อนางรู้สึกเหมือนตนเองคล้ายยังเป็นผักที่เหี่ยวเฉาเช่นนี้"ข้าเดินไม่ไหวแล้ว" องค์หญิงสิบสามเอ่ยขึ้น เป็นเพราะเขาที่ทำให้นางเป็นเช่นนี้จึงคิดจะเอาเปรียบเขาไว้ให้มาก หากต่อไปถ้าเขาคิดรังแกนางก็ถือว่านางไม่ขาดทุนแล้วในใจคิดกลั่นแกล้งเขาให้สำนึกบ้างหยางเอ้อหลางขมวดคิ้วท่าทางเป็นกังวลอยู่มาก องค์หญิงสิบสามลอบยิ้มชั่วร้าย คนผู้นี้คงสำนึกผิดในใจดีให้เขารู้สึกผิดจนตายไปเลยที่กล้าทำเช่นนี้กับสตรีเช่นนาง"ท่านเดินไม่ไหวหรือ""ใช่ก้าวขาไม่ออกแล้ว จะไม่ไปเคารพผู้อาวุโสก็เห็นจะไม่สมควร ท่านจะอุ้มข้าได้หรือไม่" นางอ้อนหน้าไม่อายอีกทั้งวาจายังอ่อนหวานนัก หยางเอ้อหลางผู้นี้หน้าบางนางจะทำให้เขาอับอายต่อหน้าบ่าวไพร่“ได้สิ” เขาตอบรับไม่รีรอตวัดแขนใต้ขาของนางแล้วยกนางขึ้นทันใด องค์หญิงสิบสามเห็นเขาอุ้มนางเดินลิ่วก็เริ่มไม่แน่ใจในความคิดของตนเองว่าการแกล้งเขาแบบนี้จะทำให้เขาอับอายหรือไม่แต่ครั้น

    Huling Na-update : 2025-04-21
  • ท่านแม่ทัพ ข้าคือศรีภรรยา   บทที่ 67

    องค์หญิงสิบสามเอ่ยขึ้น ในใจรู้สึกสงสารเขาอยู่ไม่น้อย บุรุษล้วนทิ้งชีวิตในสนามรบปล่อยคนข้างหลังให้เดียวดายความจริงพวกนางต่างได้รับปูนบำเหน็จกันมามากสามารถออกเรือนแต่งงานใหม่ได้ สตรีสกุลหยางใบหน้าหมดจดงดงาม อีกทั้งฐานะทรัพย์สินที่ได้รับพระราชทานมาแต่ละคนถือว่ามากเป็นที่หมายปองของบุรุษรวมทั้งขุนนาง แต่พวกนางกลับเลือกใช้ชีวิตที่เหลือด้วยกันไม่มีผู้ใดออกเรือนใหม่ "บุรุษสกุลหยางทำเพื่อบ้านเมือง สตรีผู้อยู่ด้านหลังจึงได้อยู่อย่างมีศักดิ์ศรีไม่มีเรื่องใดให้เสียใจ องค์หญิงข้าจะปล่อยวางเรื่องกองทัพและอยู่กับท่านที่นี่ ข้าดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ท่านสนใจเรื่องราวของสกุลข้า"น้ำเสียงของเขาราบเรียบฟังไม่รู้ว่าเขาพูดจริงหรือกล่าวประชดกันแน่ องค์หญิงสิบสามจึงพยักหน้ารับ ใช่ว่านางศึกษาเรื่องสกุลหยางอะไรหรอก ความจริงสิ่งที่นางรู้ล้วนมาจากนิทานขุนศึกตระกูลหยางที่ชาวบ้านแต่งขึ้น เพียงแต่ไม่คิดว่ามันจะมีความจริงปะปนอยู่หลายส่วนจนน่าตกใจเช่นนี้"เหตุใดทุกคนจึงไม่แต่งงานใหม่เล่า ข้ารู้มาว่าพวกนางล้วนเป็นที่ชื่นชมต่อบุรุษกันมาก อีกทั้งแต่ละคนล้วนงดงามไร้ที่ติ""สตรีในสกุลหยางทั้งรักและเคารพท่านย่ากันมากจึงไ

    Huling Na-update : 2025-04-21
  • ท่านแม่ทัพ ข้าคือศรีภรรยา   บทที่ 68

    "บ่าวหมายถึงเดินในจวน ไปด้านนอกต้องได้รับอนุญาตจากท่านแม่ทัพเสียก่อน""ได้อย่างไร ข้าอยู่ในวังต้องขออนุญาตฮองเฮา แต่งออกมายังต้องขออนุญาตคนผู้นั้นอีก อาชิงเหตุใดจึงได้รู้สึกเหมือนว่าข้าติดคุกอยู่ตลอดเวลาเล่า""ทำเช่นไรได้เพคะ ท่านถูกลอบสังหารผู้ใดจะวางใจให้ท่านออกไปเดินเพ่นพ่านนอกจวน""แต่ว่าอาชิง แม้แต่พี่ชายใหญ่ก็ไม่มาพบข้า ที่นี่ช่างน่าเบื่อเหลือเกินข้ามีหนังสือที่ต้องการจำเป็นต้องไปที่ร้านหนังสือ""ท่านอ๋องได้รับมอบหมายให้ไปชายแดนเพคะ ข่าวว่าอาจเป็นท่านอ๋องที่ได้รับตราควบคุมกองทัพต่อจากท่านแม่ทัพ""จริงหรือ" องค์หญิงสิบสามดีใจยิ่งในความสำเร็จของพี่ชาย "เพคะ""เช่นนั้นก็ไม่สำคัญแล้วข้าไม่โกรธเขา หากออกไปอย่างเปิดเผยไม่ได้เราต้องปลอมกายเสียหน่อย อาชิงเจ้าไปหาอาภรณ์ของบุรุษมา"อาชิงอิดออดแต่ก็ทนการรบเร้าของผู้เป็นนายไม่ไหว สุดท้ายนางสามารถหาชุดบุรุษมาได้ทั้งคู่เปลี่ยนเครื่องแต่งกายเป็นบุรุษ พร้อมแฝงตัวออกมากับเด็กรับใช้ขนผักองค์หญิงสิบสามดีใจยิ่งที่ไม่มีผู้ใดจับได้ นางและอาชิงออกมาจากจวนอย่างสบายใจ จวบจนเข้ามาในเมืองผู้คนต่างมองมาที่นางโดยเฉพาะสตรีที่เห็นนางแล้วใบหน้าแดงก่ำ ต่างลอบ

    Huling Na-update : 2025-04-21
  • ท่านแม่ทัพ ข้าคือศรีภรรยา   บทที่ 69

    การจับกุมคนของหยางเอ้อหลางช่างรวดเร็วทันใจนางนัก เพียงไม่นานคนของเขาก็พาคนต้นเรื่องที่ทำให้นางขุ่นเคืองมาคุกเข่าลงด้านหน้า ร้านหนังสือถูกหยางเอ้อหลางสั่งปิดภายนอกมีองครักษ์คุ้มกันแน่นหนาราวกับว่าพวกเขากำลังจับโจรกบฎ ก็ไม่ปานถึงแม้ว่าส่วนหนึ่งภายในของหลินฮุ่ยหมินจะรู้สึกว่าเขาจะทำเกินไปบ้าง แต่อีกใจก็เห็นด้วยหากหยางเอ้อหลางไม่กระทำการเชือดไก่ให้ลิงดูคราวหน้าอาจเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นอีกพวกฝีมือต่ำต้อยจะได้ไม่กล้าวาดภาพนางซี้ซั้วเป็นคนพิกลพิการเหมือนนักวาดที่กำลังคุกเข่ายืนตัวสั่นอยู่เบื้องหน้าตอนนี้"แรงจูงใจในการวาดมาจากที่ใด"นางเอ่ยถามพยายามทำน้ำเสียงให้ดุดันน่ากลัวที่สุด นางทำให้คนผู้นั้นเอาแต่นั่งสั่นอยู่เช่นนั้นแม้แต่ปากก็อ้าไม่ออกแล้ว องค์หญิงสิบสามนับถือในความเหี้ยมโหดของตนเองจนทำให้คนหวาดกลัวได้เช่นนี้"ว่าอย่างไรข้าถามเจ้าเหตุใดไม่ตอบ" องค์หญิงสิบสามถามซ้ำ แต่เขายังคงนั่งเงียบราวกับมีสิ่งใดอุดปากเขาไว้ "หากไม่รีบตอบข้าจะตัดลิ้นเจ้าเสีย" เป็นหยางเอ้อหลางที่เอ่ยขึ้น เมื่อคนผู้นั้นเอาแต่นิ่งเงียบอ้ำอึ้งอยู่เช่นนั้นหลินฮุ่ยหมินมองหน้าท่านแม่ทัพพร้อมกัดฟัน คนผู้นี้แย่งบทบาทขอ

    Huling Na-update : 2025-04-21

Pinakabagong kabanata

  • ท่านแม่ทัพ ข้าคือศรีภรรยา   บทที่ 280 ตอนจบ

    ส่วนองค์หญิงใหญ่นั้นแทบจะไม่เคยถามถึงเด็กเลยทั้งนี้คงเป็นเพราะเด็กคนนั้นคือตราบาปของนาง องค์หญิงใหญ่จึงรังเกียจเด็กยิ่งกว่าไส้เดือนกิ้งกือในหัวคิดเพียงแต่เรื่องสังหารเด็กนั่นให้ตายไปเสียให้พ้น องค์หญิงสิบสามถอนหายใจคิดแล้วก็รู้สึกหดหู่ยิ่งหลังออกจากตำหนักองค์หญิงใหญ่ สามีจึงพานางเข้าร่วมงานเลี้ยง ท่านย่าของหยางเอ้อหลางพาท่านชายทั้งสองเข้าร่วมงานด้วย ทุกคนห้อมล้อมเอาอกเอาใจอีกทั้งเด็กทั้งสองยังเป็นหลานรักของฝ่าบาทและขององค์รัชทายาทยิ่ง ไม่ว่าใครต่างก็แสดงความชื่นชมออกมา ก้อนแป้งน้อยของนางทั้งสองยังเด็กแต่รู้ความนัก เมื่อเห็นมารดาเพียงแต่โผหานางเบาๆ ไม่ได้งอแงเหมือนเด็กทั่วไป ภรรยาของขุนนางใหญ่หลายคนต่างหมายตาพวกเขาเอาไว้ พยายามทาบทามตั้งแต่ยังเด็ก องค์หญิงสิบสามเอ่ยปากปฏิเสธเพราะคิดว่าบุตรยังเล็กนัก การกระทำของนางไม่ไว้หน้าผู้ใดกระนั้นก็ไม่มีใครกล้าตำหนิ กลางดึกคืนนั้นหยางเอ้อหลางนอนกอดภรรยาที่ร่างกายเปล่าเปลือยเอาไว้ในอ้อมกอด คิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมาระหว่างพวกเขาแล้วอดยิ้มออกมาไม่ได้ องค์หญิงสิบสามหลับแล้วเขากลับยังคงต้องการ เช่นนั้นจึงจับขานางแยกออกแล้วดันกายเข้าไประหว่างขา องค์หญ

  • ท่านแม่ทัพ ข้าคือศรีภรรยา   บทที่ 279

    องค์รัชทายาทครั้นเห็นว่าพี่หญิงของเขาและพี่เขยมาถึงแล้ว ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวก็สดใสขึ้น องค์หญิงสิบสามยิ้มให้กำลังใจ องค์รัชทายาทที่มีชันษาแปดขวบอีกทั้งรู้ความเป็นอันมากด้วยถูกฮูหยินชราและสตรีสกุลหยางอบรมมาด้วยตนเองจึงเข้าพิธีสถาปนาอย่างกล้าหาญ องค์หญิงสิบสามเห็นน้องชายกำลังเติบโตเช่นนั้นก็ตื้นตันใจนัก นางเกือบหยุดน้ำตาไม่ได้อยู่หลายคราคิดถึงเพื่อนของนางมารดาของรัชทายาทที่จากไปก็พลันสบายใจ คนผู้นั้นคงตายตาหลับแล้วหยางเอ้อหลางเห็นภรรยาเหม่อลอย อีกทั้งมีน้ำใสคลอที่หน่วยตาจึงกุมมือของนางเอาไว้ จวบจนพิธีจบสิ้นองค์รัชทายาทก็ก้าวเข้ามาหาพวกเขาอย่างสง่างามสิ่งที่เอ่ยออกมาคำแรกสร้างความตื้นตันให้กับองค์หญิงสิบสามยิ่ง นางรู้สึกว่าองค์รัชทายาทช่างกตัญญูนักไม่เสียแรงที่นางปกป้องซาลาเปาน้อยก้อนนี้ด้วยชีวิต"พี่หญิงเมื่อข้าโตแล้ว ทรัพย์สมบัติทั้งหมดของข้าข้าจะยกให้ท่าน"เพราะรัชทายาทพูดแบบนี้นางจึงซาบซึ้งจนไม่อาจกลั้นน้ำตาได้อีกต่อไป หยางเอ้อหลางได้แต่ส่ายหน้าโรคบ้าสมบัติของภรรยาเห็นทีว่าจะรักษาไม่หายจริงๆ หลังจากนั้นแฝดผู้น้องของซาลาเปาน้อยพลันวิ่งมาหานางวันนี้เด็กหญิงตัวน้อยก็ได้รับ

  • ท่านแม่ทัพ ข้าคือศรีภรรยา   บทที่ 278

    ในขณะที่หยางเอ้อหลางจุมพิตประกบขยี้ไปบนริมฝีปากงามอีกทั้งนิ้วมือของเขายังไต่ลงไปบดขยี้ปลายเกสรเพิ่มความต้องการกระสันอยากให้ภรรยามากขึ้นอีกทั้งยังจ้วงแทงลงมาใช้แรงกระแทกนางถี่ยิบ อ้าปากคว้าเต้าอวบกลมใหญ่ของนาง ปากดูดกลืนสองเต้าเต็มรัก สะโพกแข็งแรงซอยกระแทกรุนแรงจนทำให้ร่างกายขององค์หญิงสิบสามเต้นระริกองค์หญิงสิบสามกอดศีรษะของเขาไว้ ก่อนที่เขาจะจับนางพลิกร่างให้หันหลังอีกทั้งยังขยับสะโพกของนางเข้าหาตน แนบร่างลงมาหานางจากด้านหลัง ให้นางคุกเข่าอยู่บนเก้าอี้กอดตระกองรวบร่างบางเอาไว้ในอ้อมแขนหยางเอ้อหลางดูดแผ่นหลังของนางแรงๆ อีกทั้งยังลากลิ้นเลียนางจนทั่วแผ่นหลังเนียนนุ่มในขณะที่เร่งจังหวะของสะโพกตนอัดร่างลงมาครั้งแล้วครั้งเล่า ปากครางบอกรักภรรยา เนื้อนุ่มนิ่มในอ้อมกอดหอมกรุ่นทำให้มัวเมายิ่ง เขาจุมพิตแผ่นหลังนางจนทั่ว ฝากรอยแดงเอาไว้แทบทุกตารางผิวองค์หญิงสิบสามแหงนใบหน้าหาเขา อ้าปากเย้ายวน หยางเอ้อหลางประกบปากของตนลงมาทันใด สองลิ้นพัวพันต่างคนต่างสูบลมหายใจซึ่งกันและกันแลกจุมพิตหวานฉ่ำรุนแรง ยิ่งจุมพิตยิ่งมัวเมาส่วนสะโพกบดเบียดและจ้วงแทงลงมาจากด้านหลัง นางบีบรัดเขาจนเขาต้องห่อปาก กระนั

  • ท่านแม่ทัพ ข้าคือศรีภรรยา   บทที่ 277

    หยางเอ้อหลางสัมผัสได้ถึงกลีบอวบอูมที่เต็มปากของตน น้ำหวานพรั่งพรูออกมา เขาสูดปากแรงๆ พร้อมดูดนางเต็มรัก นางบิดกายเร่งเร้า หยางเอ้อหลางหยอกเย้ากลีบนุ่มของนางจนอิ่มเอม ลิ้นร้อนของเขาห่อเป็นแท่งกระแทกเข้าไปในร่องลึก ไซร้สัมผัสกับปลายเกสรสีแดงที่สั่นระริกอยู่ที่ปลายลิ้น ก่อนจะดุนลิ้นตนเองลงมาหนักๆ จนภรรยาแทบจะแดดิ้นอยู่เบื้องล่างองค์หญิงสิบสามที่กำลังสติกระเจิงไปกับรสสวาทบัดนี้หาได้สนใจสิ่งใดไม่ นางยกสะโพกค้างให้เขาใช้ลิ้นรักนางอย่างเต็มที่ ความงดงามอวบอูมของภรรยาทำให้เขาฉ่ำเยิ้มเช่นกัน พูเนื้อของนางช่างเย้ายวนใจโดยแท้"ตรงนี้ของท่านงดงามมากรู้หรือไม่" เขากล่าวจบพลันสูดปากลากลิ้นแทงลงมาเต็มๆ องค์หญิงสิบสามกำเก้าอี้แน่น เขากำลังทำให้นางใกล้จะถึงจุดหมายแล้ว"อ๊า ท่านพี่ อื้อ" นางครางไม่หยุดปากในขณะที่สามีละเลงลิ้นลากดุนวนไซร้ไปตามกลีบเกสร ดูดกลืนปลายสีแดงสดที่สั่นระริกเต้นเร้า หญิงงามที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่เบื้องหน้าดวงตาฉ่ำเยิ้มประดุจมีหมอกจาง ๆ อยู่ด้านในดวงตาคู่งามนั้นช่างยั่วยวนเขายิ่งนักเขาเงยหน้าเพ่งพิศที่เต้าคู่งาม ขยับกายว่องไวอ้าปากแล้วดูดรวบปลายถันไว้ในปาก ดูดแรงๆคล้ายกลั่นแกล

  • ท่านแม่ทัพ ข้าคือศรีภรรยา   บทที่ 276

    เขาเอ่ยเสียงพร่า พร้อมทั้งแลบลิ้นปาดเลียกลีบเกสรหอมหวานล้ำค่าของภรรยาอย่างเอร็ดอร่อยเมื่อเห็นภรรยาบิดกายร้อนรุ่ม อีกทั้งส่งเสียงครางแผ่วเบาออกมาหยางเอ้อหลางเร่งเติมเชื้อไฟสวาทด้วยการลากไล้นิ้วมือเรียวไปตามโคนขาอ่อนขาวเนียนแผ่วเบา ร่างงามสั่นสะท้านระทดระทวยเอนหลังพิงกำแพงเพื่อช่วยพยุงกายของตนไม่ให้ล้มลงด้วยพลังปลายลิ้นของเขา"ทะท่านพี่ อือ อือ"ปากงดงงามครางครวญ หยางเอ้อหลางยิ่งปลุกเร้าลงบนเนื้ออูมตรงหน้า ร่างของนางกระตุกบิดไปมาอีกทั้งยังอ้าขาของตนให้เขาดูดกินได้ลึกขึ้น จากเดิมที่หวังจะให้เขากระทำการอย่างว่องไวบัดนี้กลับไม่คิดจะเร่งรัดแล้ว ปล่อยให้เขากระทำการอ้อยอิ่งกับร่างกายของตนเองเช่นนี้โดยไร้ซึ่งสติเมื่อเห็นว่าตนเองจู่โจมภรรยาจนนางยืนไม่ติดแล้ว เขาจึงอุ้มนางขึ้นแล้วพานางมานั่งยังเก้าอี้บุขนแกะนุ่ม จับขาของภรรยาแยกออกให้พาดไปที่พนักเก้าอี้ทั้งสองข้าง เผยความงดงามสีแดงสดเบื้องหน้าอย่างเต็มที่ในเวลานี้เป็นเวลากลางวันจึงมองเห็นนางแจ่มชัดเต็มสองตาประตูด้านหน้าถูกปิดแน่นหนาชนิดที่เรียกว่าไม่อาจมีแม้แต่แมลงสักตัวที่สามารถเล็ดลอดเข้ามาได้ หยางเอ้อหลางจึงกระทำกับภรรยาอย่างหย่ามใจอีกทั้ง

  • ท่านแม่ทัพ ข้าคือศรีภรรยา   บทที่ 275

    คิดแล้วก็ต้องขอบคุณสามีเช่นเขา ทำให้ชะตาชีวิตของนางเปลี่ยนได้ดุจพลิกฝ่ามือนางจึงอดขยับกายจุมพิตปลายคางของเขาอย่างขอบคุณไม่ได้ อีกทั้งมือน้อยยังสอดเข้าไปในสาบเสื้อเพื่อสัมผัสความอบอุ่นด้านในอย่างแนบชิดแม้จะอยู่ในชุดคลุมที่มิดชิดจึงไม่มีผู้ใดเห็นการกระทำอุกอาจไร้ยางอายของนาง แต่หยางเอ้อหลางนั้นรับรู้อีกทั้งยังถูกนางลูบคลำอกของตนไปมาไม่หยุดเช่นนี้ ใบหน้าจึงแดงก่ำ สิ่งที่ควรอ่อนลงกลับผงาดแข็งกร้าวมากกว่าเดิมเพราะนางลูบไล้อกของเขาอีกทั้งซุกอยู่ในอ้อมกอด กลิ่นกายของนางก็หอมยิ่งหอมจนทำให้เขากลัวว่าผู้อื่นจะได้กลิ่นจนทำให้รู้สึกหึงหวงขึ้นมา เขากอดนางแน่นขึ้น เห็นสายตาทหารหลายคนแอบลอบมองภรรยาตนแล้วก็รู้สึกโมโหนัก กระนั้นก็ไม่อาจปัดเรื่องอยากกินนางในตอนนี้ออกจากสมองได้ หัวหน้าขันทีนำพวกสองสามีภรรยาไปยังตำหนักปีกรับรอง อีกทั้งยังรายงานกำหนดการต่าง ๆ ในพิธีแต่งตั้งองค์รัชทายาทอย่างละเอียดให้พวกเขาฟังหยางเอ้อหลางทั้งพยายามควบคุมตนเองจึงทำท่าสนใจข้อมูลที่หัวหน้าขันทีรายงาน แต่องค์หญิงสิบสามนั้นไม่สนใจฟังแม้แต่น้อย สามีพาทำสิ่งใดนางก็แค่ปฏิบัติตามเท่านั้น มือของนางจึงยังป้วนเปี้ยนอยู่แถวหัวนมเล

  • ท่านแม่ทัพ ข้าคือศรีภรรยา   บทที่ 274

    หยางเอ้อหลางพลันอมยิ้ม เขาชอบที่นางชอบเขาที่สุด แม้จะเป็นสิ่งของเขาก็อดหึงหวงไม่ได้กล่าวจบพลันนางโน้มคอเขาลงมาจุมพิตดูดดื่ม เนื้อตัวของนางนุ่มนิ่ม แม้จะมีบุตรถึงสองคนแล้วร่างกายหาได้เปลี่ยนแปลงไปเช่นสตรีอื่น ที่ควรมีก็มีมากขึ้น อีกทั้งยังตึงแน่นยิ่งกว่าเดิม นับวันเขายิ่งหลงใหลภรรยาจนทนแยกห่างจากนางนานๆ ไม่ได้ยามที่เขาห่างนางต้องไปทำงานต่างเมือง หลายครั้งที่มีสตรีมากมายพยายามปีนขึ้นเตียงส่งสายตาหวานเยิ้มให้ ในใจหยางเอ้อหลางมองพวกนางเหล่านั้นแล้วรู้สึกว่าช่างดูน่ารำคาญ ในสายตาของเขามีเพียงภรรยาผู้เดียวที่สำคัญยิ่ง เขาไม่มีวันชายตาแลสตรีอื่นให้นางน้อยเนื้อต่ำใจเป็นอันขาดองค์หญิงสิบสามเบียดกายเข้าหาเขา หยางเอ้อหลางใช้ผ้าห่มขนสุนัขจิ้งจอกห่อร่างเขาและนางเข้าด้วยกัน พันกายหนาแน่นด้วยกลัวว่านางจะต้องลมเย็นจากด้านนอกจนเจ็บป่วย ร่างกายของเขาแข็งแรง อึกทั้งยังอบอุ่นองค์หญิงสิบสามชอบซุกในอกแข็งแกร่งยิ่งมือของนางซุกซนล้วงเข้าไปในกางเกงเขาแล้วลูบอาวุธเขาเล่นจนผงาดแข็งชัน หยางเอ้อหลางปล่อยให้นางซนเสมอ นางชอบทำอะไรเขาล้วนตามใจโดยเฉพาะเรื่องนี้ เขายิ่งตามใจนางยิ่งกว่าเรื่องใด“ท่านพี่มันโตแล้ว”“

  • ท่านแม่ทัพ ข้าคือศรีภรรยา   บทที่ 273

    ผู้ช่วยหมอทำคลอดพลันเปิดประตูออกมา หยางเอ้อหลางไม่รอช้า ผลักประตูเข้าไปด้านในแม้คนจะทัดทานเขาก็ไม่สนใจแล้วเขาโผไปหาภรรยาที่เหนื่อยจนหมดสติไปแล้วอย่างว่องไว กุมมือนางไว้ด้วยใบหน้าซีดเซียว"หมินเออร์ ท่านเป็นอย่างไรบ้าง""องค์หญิงปลอดภัยดีเจ้าค่ะ เพียงแต่เหนื่อยมากจึงหลับไป"หมอหญิงผู้เก่งกาจประจำจวนเอ่ยขึ้น หยางเอ้อหลางพยักหน้าแต่ไม่วางใจ เขาดึงภรรยามากอดไว้ สำรวจร่างที่ยังเปียกชื้นด้วยเหงื่อของนางปากก็พร่ำขอโทษภรรยาที่ทำให้นางเจ็บปวดด้วยสำนึกผิดเป็นอย่างยิ่ง"ข้าจะไม่ให้ท่านท้องอีกแล้ว ขอสัญญา ข้าขอโทษ"ความเจ็บปวดของภรรยาในวันนี้ทำให้เขารู้สึกปวดร้าวยิ่ง เขาจะไม่มีวันยอมให้นางเป็นเช่นนี้อีกจวบจนแม่นมอุ้มก้อนแป้งอวบก้อนหนึ่งมาหาเขา หยางเอ้อหลางเห็นหน้าบุตรเป็นครั้งแรก พลันตื้นตันจวบจนน้ำตาจะไหล ความรู้สึกรักและผูกพันท่วมท้นในอก บัดนี้เขาเข้าใจลึกซึ้งแล้ว ว่าบิดามารดารักเขาเพียงใด เขาค่อย ๆ วางร่างภรรยาลงบนเตียงให้ท่านหมอดูแลเต็มที่ ส่วนตัวเองยื่นมือไปรับห่อผ้าสีแดงนั้นมาไว้ในอ้อมกอด"เป็นท่านชายเจ้าค่ะ" แม่นมเอ่ยด้วยความยินดี"ดีมาก ดีจริงๆ "หยางเอ้อหลางหัวเราะทั้งน้ำตาแล้ว ความตื้

  • ท่านแม่ทัพ ข้าคือศรีภรรยา   บทที่ 272

    กินเสร็จได้ไม่นาน องค์หญิงสิบสามกลับรู้สึกอยากอาบน้ำ"ท่านพี่นอกจากเขาจะเลือกกินแล้ว ยังรักสะอาดยิ่ง อากาศหนาวเช่นนี้ข้ากลับอยากอาบน้ำวันละหลายรอบ"หยางเอ้อหลางจึงสั่งอาชิงให้เตรียมน้ำอุ่น หลังจากนั้นเขากลับเป็นฝ่ายดูแลนางด้วยตนเอง ถอดอาภรณ์ให้นาง ค่อยๆ พานางลงอ่างอย่างระวัง ผิวขององค์หญิงสิบสามเปล่งประกายบอบบาง ส่วนข้อเท้าเนียนนุ่มเล็กๆ ของนาง ยิ่งไม่อาจรับร่างกายที่หนักอึ้งของครรภ์ได้ หยางเอ้อหลางจึงต้องระวังเป็นพิเศษอาบน้ำยังไม่ทันเสร็จ องค์หญิงสิบสามกลับรู้สึกถึงบางสิ่งที่ผิดปกติยิ่ง มีเลือดไหลออกมาจากช่องทางลับของนาง ก่อนที่ความรู้สึกเจ็บปวดจะวิ่งจากท้องน้อยถึงไขสันหลัง นางจับข้อมือของหยางเอ้อหลางแน่นห่อปากด้วยความเจ็บปวด"ท่านพี่ ข้าเจ็บ"เพียงเห็นเลือดที่เริ่มไหลออกมาปนกับน้ำในอ่าง เทพสงครามเช่นหยางเอ้อหลางแทบเป็นลมหมดสติยิ่งเห็นนางเจ็บปวดยิ่งรู้สึกคล้ายหายใจไม่ออก ช่วงท้องบิดมวน ปากร้องตะโกนให้อาชิงที่รออยู่ด้านนอกรีบตามหมอตำแยที่เขานำมาเลี้ยงดูในจวนตั้งแต่เดือนก่อนเพื่อเตรียมความพร้อมให้ภรรยาหยางเอ้อหลางตั้งใจจะอุ้มนางขึ้นจากอ่างน้ำ แต่กลับถูกองค์หญิงสิบสามทั้งข่วนทั้งตบตี

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status