หยางเอ้อหลางปลอมกายออกจากจวน โดยที่ไม่มีผู้ใดล่วงรู้เขาออกไปสืบข่าวลับถึงสองวันหลังกลับมาก็แสร้งว่าตนเองทำงานในห้องหนังสือห้ามผู้ใดรบกวนเขาทำท่าเมื่อยล้าหลังจากนั้นหยางเอ้อหลางเดินเอื่อยเฉื่อยไปจนถึงเรือนขององค์หญิงสิบสาม ยังไม่ทันจะก้าวเข้าไปในเรือนเขาก็ต้องดื่มยาบำรุงชามใหญ่ที่ท่านย่าสั่งให้เขากินไม่ขาดอย่างรวดเร็วเขากับองค์หญิงสิบสามในแต่ละคืนแทบจะไม่ได้หลับไม่ได้นอนแม้ไม่ได้ใช้ยาต้มพวกนี้แต่ดูเหมือนว่าหยางเอ้อหลางก็ยังยินดีที่จะดื่ม การหลับนอนกับภรรยามากหน่อยนับเป็นความสำราญที่เขาชื่นชอบยิ่งหยางเอ้อหลางลูบที่อกตนเองคล้ายกำลังจัดอาภรณ์ กุญแจที่เขาแอบนำออกมาจากตำหนักของฝ่าบาทยังคงอยู่ในกายเขา ด้วยความช่วยเหลือของกงกงคนสนิทของฝ่าบาทนั้นหลังจากเข้าวังไปเข้าเฝ้าเมื่อสองวันก่อน กงกงก็นำกุญแจออกมาให้เขาจนได้ในวังนั้นมีคนที่เขาเลี้ยงดูอยู่มาก ทุกคนนั้นบรรพบุรุษล้วนถูกสกุลหยางช่วยเหลือมาและส่งพวกเขาไปทำงานในวังอย่างลับๆ โดยที่ไม่มีผู้ใดล่วงรู้หากเขาต้องการข่าวในวังแม้จะเป็นตำหนักฮองเฮาหยางเอ้อหลางย่อมหาทางนำข่าวออกมาให้จงได้ ตอนที่ฝ่าบาทพบว่ากุญแจหายไปนั้นได้สั่งคนค้นตัวของคนสนิทท
แต่ดื่มมาตั้งนานเตรียมตัวมาก็มากสามีของนางก็ยังไม่กลับมา บัดนี้หลินฮุ่ยหมินเมาจนตาลายแล้ว นางโยนไหสุราทิ้งแตกกระจายหยางเอ้อหลางมองตามพลางกลืนน้ำลายลงคอ ภาพเรือนร่างงดงามไร้ที่ติในอาภรณ์บางยั่วยวน ใบหน้าหวานล้ำกว่าสตรีใดที่พานพบ อีกทั้งกิริยาเกรี้ยวกราดนี้ทำให้อารมณ์ขุ่นมัวเกี่ยวกับคุณชายผู้นั้นที่เขาลืมชื่อไปแล้วมลายสิ้น "เป็นท่านพี่ใช่หรือไม่"เสียงหวานของนางเกรี้ยวกราดนัก แต่กระนั้นท่าทางเช่นนี้ก็แสนยั่วยวนให้คนตกหลุมเสน่ห์หาจนเมามัวไม่อาจหาทางออกไปอีกต่อไป"มะ มะ ไม่ใช่ข้าเป็นแน่ภรรยาเจ้าฟังสามีก่อน" หยางเอ้อหลางแทบสะดุดลมหายใจเมื่อนางกระโดดครั้งเดียวก็คร่อมร่างของเขาเอาไว้แล้วหลินฮุ่ยหมินดีใจที่นางตัดสินใจเลือกกระโดดตามกลิ่นของเขาจนถึงตัวในที่สุด หากนางโกรธเพราะคิดว่าเขากำลังจะหาอนุหยางเอ้อหลางก็พร้อมให้นางลงโทษอย่างสาสมแม้ว่าเขาจะไม่ได้เป็นผู้กระทำความผิดก็ตามเห็นท่าทางเมามายของภรรยาอีกทั้งพื้นนั้นก็ทั้งแข็งทั้งเย็น หยางเอ้อหลางจึงอุ้มนางขึ้นแล้วพามายังเตียงนอน เขาวางร่างของนางลงอย่างอ่อนโยน กลับถูกหลินฮุ่ยหมินดึงตัวของเขาลงพร้อมกับพลิกกายกดร่างของเขาอีกครั้งนางถอดอาภรณ์
หลินฮุ่ยหมินใช้มือโอบรอบอาวุธของเขาไว้ หญิงสาวนิ่วหน้าเมื่อรู้ว่ามือเดียวของนางไม่พอโอบรอบ จึงใช้สองมือประคองมันเอาไว้แล้วเริ่มรูดดึงช้าๆ สัมผัสของนางที่โอบล้อมค่อนข้างรุนแรงตามอารมณ์ที่ต้องการลงโทษเขา ความฉ่ำชื้นไหลออกมาจากปลายยอดอวบ องค์หญิงสิบสามใช้น้ำลื่นใสของเขาละเลงไปจนทั่วโคนใหญ่ เขาครางแหบโหยด้วยสุขล้ำ ปากร้องซี๊ดเมื่อนางขยำมันเบาๆ"ข้าจะลงโทษท่าน"หยางเอ้อหลางร้างครางเสียงต่ำเมื่อนางอ้าปากกว้างแล้วดูดกลืนเขาเอาไว้ทั้งลำ ปากเล็กๆ ของนางกลับสามารถยัดความใหญ่ยักษ์เข้าไปจนหมด องค์หญิงสิบสามใช้สองมือกุมลำของเขาเอาไว้แน่นเพราะฤทธิ์สุราทำให้สติของนางนั้นหลุดลอย ได้ยินเพียงเสียงครางแหบโหยของสามีที่กระตุ้นตนเองให้ฮึกเหิมนางดูดกลืนเขาอย่างรุนแรงกระหายอยากจะให้หยางเอ้อหลางครางยิ่งกว่านี้ กระตุ้นนางมากกว่านี้นางตวัดเลียเขาซ้ำๆ กระทั่งถุงทองสองข้างนางยังไม่ละเว้น หยางเอ้อหลางยินยอมแล้วต่อให้สตรีอื่นมาทอดกายเขาก็คงมองพวกนางเป็นเพียงก้อนหินใบไม้ คงมีเพียงภรรยาที่ร้อนแรงของเขาเท่านั้นที่หยางเอ้อหลางจะยินยอมได้เพียงนี้มือขององค์หญิงสิบสามรูดแก่นกายไม่หยุด ปากแม้จะยังกลืนส่วนนั้นนางก็ยั
บางส่วนที่ขาวผ่องของเขาองค์หญิงสิบสามใช้กำลังดูดแรงขึ้นทำให้เกิดรอยจ้ำแดงๆ อยู่ตรงนั้นสีแดงช้ำตัดกับสีผิวขาวๆ ของสามีจึงเห็นร่องรอยชัดเจนขึ้นเขาไม่มีหินจันทราคอยลบรอยแผลเช่นนี้แล้วรอยพวกนี้คงอยู่ติดตัวเขาไปอีกนานหรือแม้หากมันจางนางก็จะขยันทิ้งร่องรอยเอาไว้ทุกๆ วัน นางจะคอยดูว่าจะมีสตรีหน้าด้านใดกล้ามาแตะของๆ นางอีกองค์หญิงสิบสามพอใจแล้วไม่ว่าสตรีใดเห็นก็ต้องรู้ว่าบุรุษนี้มีเจ้าของ ลิ้นของนางขยับขึ้นด้านบนจวบจนพบปลายถันเล็กที่แข็งชันนางจึงดูดรวบเข้าไว้มืออีกข้างไต่วนตุ่มไตอีกข้างของเขา นางกัดแรงๆ จนเกิดเลือดซิบหยางเอ้อหลางรู้สึกเสียวแปลบความเจ็บปวดเล็กๆ กระตุ้นให้เขาบ้าคลั่ง ขาของภรรยาที่ยังวนคลึงกับความแข็งแกร่งนั้นอ่อนนุ่ม นางเสียดสีส่วนที่อ่อนไหวของตนเองเข้ากับส่วนแข็งขึงของเขา ชุ่มฉ่ำไปทั่วหน้าขานางดูดกลืนป้านถันเล็กๆ ของเขา ยั่วเย้าด้วยปลายลิ้น หยางเอ้อหลางแอ่นอกให้ภรรยาย่ำยีอย่างเต็มใจ กลิ่นของสามีหอมหวาน เขาเป็นชายงามที่ดึงดูดคนนางจึงตั้งใจกินเขาทุกสัดส่วน ทั้งรุนแรงและป่าเถื่อนด้วยอารมณ์เมามาย สุราทำให้นางเมากลิ่นกายสามีก็ทำให้องค์หญิงสิบสามหูอื้อตาลายด้วยความต้องการเช
หยางเอ้อหลางกลืนน้ำลายเหนียวเขากระหายในตัวภรรยายิ่ง ไม่ต้องร่ำไรเมื่อเขาพุ่งลิ้นลงมาปาดเลียบนกลีบบุปผาแดงฉ่ำของนางเข้าเต็มๆ "อ๊า..ท่านพี่"เสียงร้องด้วยความตกใจของนางเป็นเสียงครางหวานล้ำ เมื่อหยางเอ้อหลางเกี่ยวแขนตวัดโอบสะโพกของนางแล้วยกสูงขึ้นอีก เขาอ้าปากปักลิ้นลงมาที่ปลายเกสรงดงามปากของเขาดูดเม้มกลีบหอมหวานที่ขยายบวมรอรับดูดดึงกลีบรวบเกสรเข้าไปในโพรงปากที่ร้อนระอุ เขาทั้งเม้ม ดูด ตอด แหย่นางด้วยปลายลิ้นร้าย เขาเลียนาง รักนางด้วยการลากลิ้นเลียช้าๆ ยาวๆ จนองค์หญิงสิบสามมีอาการสะอึกด้วยความเสียวจนเกือบถึงที่สุดเขารวบดูดแรงขึ้นกดลิ้นลงมาแล้วจ้วงลึกเข้าไปในโพรงหวานฉ่ำ องค์หญิงสิบสามครางเสียวไร้ซึ่งยางอาย นางกดเรียวขาหนีบเขาเข้าหาสัมผัสกับใบหน้าอ่อนนุ่มที่มีไรเคราของบุรุษบางๆ ชวนให้อารมณ์เตลิดช่วงปลายคางแข็งแรงของเขาฝังลึกอยู่กับกายของนาง ในขณะที่เขาเลียนางคล้ายกำลังกินอาหารที่สวรรค์ประทานมาให้เขาหมุนลิ้นควงใส่กลีบเกสรอีกทั้งดูดเม้มส่วนปลาย น้ำหวานฉ่ำเยิ้มของนางถูกหยางเอ้อหลางกินจนไม่เหลือ เขากระหายราวกับสัตว์ป่าแสนดุร้าย ทั้งปากทั้งลิ้นกระหน่ำรักนางไม่ยอมหยุด คละเคล้าไปกับเสียงคร
คำถามของหยางเอ้อหลางที่มีต่อภรรยาถูกลืมเลือนไปชั่วขณะ เขาไว้ใจนางแม้ในใจจะมีเจ็บปวดบ้างเพราะหึงหวงภรรยาของเขางดงามเช่นนี้จึงหลีกเลี่ยงได้อยากที่ผู้อื่นจะไม่หมายปอง เช่นนี้เขาก็จะหวงนางให้มากขึ้น รักนางให้มากขึ้น ดีต่อนางให้มากขึ้นเพื่อที่นางจะไม่เปลี่ยนใจจากเขาและอยู่กันตราบชั่วชีวิตนี้ดั่งที่เขาต้องการคืนวันหนึ่งองค์หญิงสิบสามพบว่าตนเองกำลังยืนอยู่ในสถานที่แห่งหนึ่งงดงามยิ่ง อีกทั้งตนเองยังแต่งกายด้วยอาภรณ์สีขาวบริสุทธิ์ประดุจเทพเซียนนางเดินไปช้าๆ แม้ไม่เคยมาที่นี่แต่กลับไม่รู้สึกว่าตนเองหลงทางเลยแม้แต่น้อยเมื่อเดินมาได้สักพักด้านหน้าพบศาลาหยกหลังใหญ่ด้านหลังศาลาเป็นน้ำตกใสแจ๋วภาพน้ำตกที่ไหลลงมาเอื่อยเฉื่อยเสียงของน้ำตกไพเราะประดุจเสียงเพลงพิณ บริเวณโดยรอบศาลาปรากฏเป็นแปลงดอกไม้งดงามมีผีเสื้อตัวโตสยายปีกบินวนอยู่เป็นกลุ่ม เมฆลอยต่ำอยู่เหนือกลีบเกสรดอกไม้ งดงามจนนางตกตะลึงสวนดอกไม้ในวังหลวงว่างดงามมากแล้วก็ยังไม่อาจเปรียบกับที่นี่แม้เพียงเศษเสี้ยว สถานที่นี้คือที่ใดกัน"หมินเออร์เจ้ามาแล้ว"เป็นเสียงสตรีผู้หนึ่งน้ำเสียงไพเราะอ่อนโยนอีกทั้งคุ้นเคยกับนางยิ่ง หลินฮุ่ยหมินมองเห็นไ
เพียงคำตอบเดียวหลินฮุ่ยหมินพลันพบว่าด้านหน้าของนางเป็นถ้ำที่งดงามแห่งหนึ่งด้านในถ้ำมีเพชรนิลจินดา อีกทั้งทองคำเครื่องประดับล้ำค่ากองพะเนินมากมายแทบจะเป็นภูเขาลูกย่อมๆ อยู่หลายลูก นางตาโตพลางคิดว่าหากทั้งหมดนี่เป็นของนางเช่นนั้นนางก็ไม่กลัวลำบากแล้ว นางตื่นเต้นดีใจจนเหงื่อท่วมมือ หลินฮุ่ยหมินอดใจไม่ได้ที่จะกระโดดเข้าไปแหวกว่ายในกองเงินกองทองตรงหน้า อย่างสนุกสนาน นางร่ำรวยและมีความสุขแล้ว"ชอบหรือไม่""ชอบมากเจ้าค่ะ" องค์หญิงสิบสามตอบอย่างกระตือรือร้นที่สุด "ทั้งหมดเป็นของเจ้า""จริงหรือเจ้าคะ"หลินฮุ่ยหมินตาโตนางกำสร้อยมุกในมือแล้วหว่านเล่นอย่างสนุกสนาน อีกทังเพชรนิลจินดาเหล่านั้น ที่อยู่แทบเท้าสมบัติล้ำค่าและมากมายจนสุดลูกหูลูกตา"จริงทุกสิ่งขอเพียงแต่เจ้าต้องยอมสละหยางเอ้อหลางทิ้งเสีย อยู่กับข้าที่นี่ทุกอย่างจะเป็นของเจ้า"หลินฮุ่ยหมินครุ่นคิด นางยอมรับว่าลังเลแล้ว นิ่งคิดอยู่ชั่วครู่นางจึงเอ่ยว่า"หากไม่มีท่านแม่ทัพ ชีวิตของข้าแม้จะมีเงินทองมากมายคงไม่มีความสุขข้าไม่เอาของเหล่านี้แล้ว ข้าอยากอยู่กับสามีของข้า""เช่นนั้นเจ้าจะยอมละทิ้งสิ่งของเหล่านี้เพื่ออยู่กับหยางเอ้อหลางหรือ"
"นอนเสียเถิด พรุ่งนี้ดื่มของบำรุงมากหน่อยอย่าดื้อเข้าใจหรือไม่หินจันทราคงไม่เคลื่อนย้ายไปอีกนาน แต่กระนั้นข้ายังไม่วางใจหากรู้สึกถึงสิ่งผิดปกติให้รีบบอกข้าเข้าใจหรือไม่""อืม"หลินฮุ่ยหมินเอ่ยคำนี้พลางกุมมือของเขาไว้แน่น ไม่นานหยางเอ้อหลางก็พบว่าภรรยาหลับไปแล้วเขาควานมือเข้าไปใต้ฟูกนอนพร้อมกับเปิดช่องลับช้าๆ พบว่ากุญแจที่เขาแอบซ่อนเอาไว้ยังอยู่ที่เดิม คราแรกตั้งใจจะรอเวลาสักหน่อยเพื่อไม่ให้ฝ่าบาททรงสงสัยจึงจะทำการนำตำราจันทราออกมาจากตำหนักเทพ แต่เมื่อภรรยาเกิดอาการหินจันทราเคลื่อนย้ายอีกทั้งพลังของกระพรวนผู้พิทักษ์ไม่อาจสกัดการเคลื่อนย้ายได้เช่นนี้ทำให้หยางเอ้อหลางตัดสินใจแล้ว เขาต้องนำตำราจันทราออกมาจากตำหนักเทพให้เร็วที่สุดหยางเอ้อหลางลืมตาตื่นพบว่าผู้เป็นภรรยากำลังเบิกดวงตาดำขลับมองเขาอยู่นานเท่าไหร่ไม่รู้ได้หยางเอ้อหลางยันกายลุกขึ้นนั่ง พร้อมกับใช้หลังมือสัมผัสที่แก้มเนียนของภรรยาแล้วเอ่ยขึ้น"เหตุใดจึงตื่นเช้า ไม่สบายตรงไหนหรือไม่"หยางเอ้อหลางไม่สบายใจนัก เมื่อคืนนางได้รับการทรมานจากหินจันทราอย่างถึงที่สุด ปกติแล้วควรจะหลับยาวกว่านี้ พักผ่อนมากกว่านี้"ท่านพี่หากข้าตายท่านจะท
ส่วนองค์หญิงใหญ่นั้นแทบจะไม่เคยถามถึงเด็กเลยทั้งนี้คงเป็นเพราะเด็กคนนั้นคือตราบาปของนาง องค์หญิงใหญ่จึงรังเกียจเด็กยิ่งกว่าไส้เดือนกิ้งกือในหัวคิดเพียงแต่เรื่องสังหารเด็กนั่นให้ตายไปเสียให้พ้น องค์หญิงสิบสามถอนหายใจคิดแล้วก็รู้สึกหดหู่ยิ่งหลังออกจากตำหนักองค์หญิงใหญ่ สามีจึงพานางเข้าร่วมงานเลี้ยง ท่านย่าของหยางเอ้อหลางพาท่านชายทั้งสองเข้าร่วมงานด้วย ทุกคนห้อมล้อมเอาอกเอาใจอีกทั้งเด็กทั้งสองยังเป็นหลานรักของฝ่าบาทและขององค์รัชทายาทยิ่ง ไม่ว่าใครต่างก็แสดงความชื่นชมออกมา ก้อนแป้งน้อยของนางทั้งสองยังเด็กแต่รู้ความนัก เมื่อเห็นมารดาเพียงแต่โผหานางเบาๆ ไม่ได้งอแงเหมือนเด็กทั่วไป ภรรยาของขุนนางใหญ่หลายคนต่างหมายตาพวกเขาเอาไว้ พยายามทาบทามตั้งแต่ยังเด็ก องค์หญิงสิบสามเอ่ยปากปฏิเสธเพราะคิดว่าบุตรยังเล็กนัก การกระทำของนางไม่ไว้หน้าผู้ใดกระนั้นก็ไม่มีใครกล้าตำหนิ กลางดึกคืนนั้นหยางเอ้อหลางนอนกอดภรรยาที่ร่างกายเปล่าเปลือยเอาไว้ในอ้อมกอด คิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมาระหว่างพวกเขาแล้วอดยิ้มออกมาไม่ได้ องค์หญิงสิบสามหลับแล้วเขากลับยังคงต้องการ เช่นนั้นจึงจับขานางแยกออกแล้วดันกายเข้าไประหว่างขา องค์หญ
องค์รัชทายาทครั้นเห็นว่าพี่หญิงของเขาและพี่เขยมาถึงแล้ว ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวก็สดใสขึ้น องค์หญิงสิบสามยิ้มให้กำลังใจ องค์รัชทายาทที่มีชันษาแปดขวบอีกทั้งรู้ความเป็นอันมากด้วยถูกฮูหยินชราและสตรีสกุลหยางอบรมมาด้วยตนเองจึงเข้าพิธีสถาปนาอย่างกล้าหาญ องค์หญิงสิบสามเห็นน้องชายกำลังเติบโตเช่นนั้นก็ตื้นตันใจนัก นางเกือบหยุดน้ำตาไม่ได้อยู่หลายคราคิดถึงเพื่อนของนางมารดาของรัชทายาทที่จากไปก็พลันสบายใจ คนผู้นั้นคงตายตาหลับแล้วหยางเอ้อหลางเห็นภรรยาเหม่อลอย อีกทั้งมีน้ำใสคลอที่หน่วยตาจึงกุมมือของนางเอาไว้ จวบจนพิธีจบสิ้นองค์รัชทายาทก็ก้าวเข้ามาหาพวกเขาอย่างสง่างามสิ่งที่เอ่ยออกมาคำแรกสร้างความตื้นตันให้กับองค์หญิงสิบสามยิ่ง นางรู้สึกว่าองค์รัชทายาทช่างกตัญญูนักไม่เสียแรงที่นางปกป้องซาลาเปาน้อยก้อนนี้ด้วยชีวิต"พี่หญิงเมื่อข้าโตแล้ว ทรัพย์สมบัติทั้งหมดของข้าข้าจะยกให้ท่าน"เพราะรัชทายาทพูดแบบนี้นางจึงซาบซึ้งจนไม่อาจกลั้นน้ำตาได้อีกต่อไป หยางเอ้อหลางได้แต่ส่ายหน้าโรคบ้าสมบัติของภรรยาเห็นทีว่าจะรักษาไม่หายจริงๆ หลังจากนั้นแฝดผู้น้องของซาลาเปาน้อยพลันวิ่งมาหานางวันนี้เด็กหญิงตัวน้อยก็ได้รับ
ในขณะที่หยางเอ้อหลางจุมพิตประกบขยี้ไปบนริมฝีปากงามอีกทั้งนิ้วมือของเขายังไต่ลงไปบดขยี้ปลายเกสรเพิ่มความต้องการกระสันอยากให้ภรรยามากขึ้นอีกทั้งยังจ้วงแทงลงมาใช้แรงกระแทกนางถี่ยิบ อ้าปากคว้าเต้าอวบกลมใหญ่ของนาง ปากดูดกลืนสองเต้าเต็มรัก สะโพกแข็งแรงซอยกระแทกรุนแรงจนทำให้ร่างกายขององค์หญิงสิบสามเต้นระริกองค์หญิงสิบสามกอดศีรษะของเขาไว้ ก่อนที่เขาจะจับนางพลิกร่างให้หันหลังอีกทั้งยังขยับสะโพกของนางเข้าหาตน แนบร่างลงมาหานางจากด้านหลัง ให้นางคุกเข่าอยู่บนเก้าอี้กอดตระกองรวบร่างบางเอาไว้ในอ้อมแขนหยางเอ้อหลางดูดแผ่นหลังของนางแรงๆ อีกทั้งยังลากลิ้นเลียนางจนทั่วแผ่นหลังเนียนนุ่มในขณะที่เร่งจังหวะของสะโพกตนอัดร่างลงมาครั้งแล้วครั้งเล่า ปากครางบอกรักภรรยา เนื้อนุ่มนิ่มในอ้อมกอดหอมกรุ่นทำให้มัวเมายิ่ง เขาจุมพิตแผ่นหลังนางจนทั่ว ฝากรอยแดงเอาไว้แทบทุกตารางผิวองค์หญิงสิบสามแหงนใบหน้าหาเขา อ้าปากเย้ายวน หยางเอ้อหลางประกบปากของตนลงมาทันใด สองลิ้นพัวพันต่างคนต่างสูบลมหายใจซึ่งกันและกันแลกจุมพิตหวานฉ่ำรุนแรง ยิ่งจุมพิตยิ่งมัวเมาส่วนสะโพกบดเบียดและจ้วงแทงลงมาจากด้านหลัง นางบีบรัดเขาจนเขาต้องห่อปาก กระนั
หยางเอ้อหลางสัมผัสได้ถึงกลีบอวบอูมที่เต็มปากของตน น้ำหวานพรั่งพรูออกมา เขาสูดปากแรงๆ พร้อมดูดนางเต็มรัก นางบิดกายเร่งเร้า หยางเอ้อหลางหยอกเย้ากลีบนุ่มของนางจนอิ่มเอม ลิ้นร้อนของเขาห่อเป็นแท่งกระแทกเข้าไปในร่องลึก ไซร้สัมผัสกับปลายเกสรสีแดงที่สั่นระริกอยู่ที่ปลายลิ้น ก่อนจะดุนลิ้นตนเองลงมาหนักๆ จนภรรยาแทบจะแดดิ้นอยู่เบื้องล่างองค์หญิงสิบสามที่กำลังสติกระเจิงไปกับรสสวาทบัดนี้หาได้สนใจสิ่งใดไม่ นางยกสะโพกค้างให้เขาใช้ลิ้นรักนางอย่างเต็มที่ ความงดงามอวบอูมของภรรยาทำให้เขาฉ่ำเยิ้มเช่นกัน พูเนื้อของนางช่างเย้ายวนใจโดยแท้"ตรงนี้ของท่านงดงามมากรู้หรือไม่" เขากล่าวจบพลันสูดปากลากลิ้นแทงลงมาเต็มๆ องค์หญิงสิบสามกำเก้าอี้แน่น เขากำลังทำให้นางใกล้จะถึงจุดหมายแล้ว"อ๊า ท่านพี่ อื้อ" นางครางไม่หยุดปากในขณะที่สามีละเลงลิ้นลากดุนวนไซร้ไปตามกลีบเกสร ดูดกลืนปลายสีแดงสดที่สั่นระริกเต้นเร้า หญิงงามที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่เบื้องหน้าดวงตาฉ่ำเยิ้มประดุจมีหมอกจาง ๆ อยู่ด้านในดวงตาคู่งามนั้นช่างยั่วยวนเขายิ่งนักเขาเงยหน้าเพ่งพิศที่เต้าคู่งาม ขยับกายว่องไวอ้าปากแล้วดูดรวบปลายถันไว้ในปาก ดูดแรงๆคล้ายกลั่นแกล
เขาเอ่ยเสียงพร่า พร้อมทั้งแลบลิ้นปาดเลียกลีบเกสรหอมหวานล้ำค่าของภรรยาอย่างเอร็ดอร่อยเมื่อเห็นภรรยาบิดกายร้อนรุ่ม อีกทั้งส่งเสียงครางแผ่วเบาออกมาหยางเอ้อหลางเร่งเติมเชื้อไฟสวาทด้วยการลากไล้นิ้วมือเรียวไปตามโคนขาอ่อนขาวเนียนแผ่วเบา ร่างงามสั่นสะท้านระทดระทวยเอนหลังพิงกำแพงเพื่อช่วยพยุงกายของตนไม่ให้ล้มลงด้วยพลังปลายลิ้นของเขา"ทะท่านพี่ อือ อือ"ปากงดงงามครางครวญ หยางเอ้อหลางยิ่งปลุกเร้าลงบนเนื้ออูมตรงหน้า ร่างของนางกระตุกบิดไปมาอีกทั้งยังอ้าขาของตนให้เขาดูดกินได้ลึกขึ้น จากเดิมที่หวังจะให้เขากระทำการอย่างว่องไวบัดนี้กลับไม่คิดจะเร่งรัดแล้ว ปล่อยให้เขากระทำการอ้อยอิ่งกับร่างกายของตนเองเช่นนี้โดยไร้ซึ่งสติเมื่อเห็นว่าตนเองจู่โจมภรรยาจนนางยืนไม่ติดแล้ว เขาจึงอุ้มนางขึ้นแล้วพานางมานั่งยังเก้าอี้บุขนแกะนุ่ม จับขาของภรรยาแยกออกให้พาดไปที่พนักเก้าอี้ทั้งสองข้าง เผยความงดงามสีแดงสดเบื้องหน้าอย่างเต็มที่ในเวลานี้เป็นเวลากลางวันจึงมองเห็นนางแจ่มชัดเต็มสองตาประตูด้านหน้าถูกปิดแน่นหนาชนิดที่เรียกว่าไม่อาจมีแม้แต่แมลงสักตัวที่สามารถเล็ดลอดเข้ามาได้ หยางเอ้อหลางจึงกระทำกับภรรยาอย่างหย่ามใจอีกทั้ง
คิดแล้วก็ต้องขอบคุณสามีเช่นเขา ทำให้ชะตาชีวิตของนางเปลี่ยนได้ดุจพลิกฝ่ามือนางจึงอดขยับกายจุมพิตปลายคางของเขาอย่างขอบคุณไม่ได้ อีกทั้งมือน้อยยังสอดเข้าไปในสาบเสื้อเพื่อสัมผัสความอบอุ่นด้านในอย่างแนบชิดแม้จะอยู่ในชุดคลุมที่มิดชิดจึงไม่มีผู้ใดเห็นการกระทำอุกอาจไร้ยางอายของนาง แต่หยางเอ้อหลางนั้นรับรู้อีกทั้งยังถูกนางลูบคลำอกของตนไปมาไม่หยุดเช่นนี้ ใบหน้าจึงแดงก่ำ สิ่งที่ควรอ่อนลงกลับผงาดแข็งกร้าวมากกว่าเดิมเพราะนางลูบไล้อกของเขาอีกทั้งซุกอยู่ในอ้อมกอด กลิ่นกายของนางก็หอมยิ่งหอมจนทำให้เขากลัวว่าผู้อื่นจะได้กลิ่นจนทำให้รู้สึกหึงหวงขึ้นมา เขากอดนางแน่นขึ้น เห็นสายตาทหารหลายคนแอบลอบมองภรรยาตนแล้วก็รู้สึกโมโหนัก กระนั้นก็ไม่อาจปัดเรื่องอยากกินนางในตอนนี้ออกจากสมองได้ หัวหน้าขันทีนำพวกสองสามีภรรยาไปยังตำหนักปีกรับรอง อีกทั้งยังรายงานกำหนดการต่าง ๆ ในพิธีแต่งตั้งองค์รัชทายาทอย่างละเอียดให้พวกเขาฟังหยางเอ้อหลางทั้งพยายามควบคุมตนเองจึงทำท่าสนใจข้อมูลที่หัวหน้าขันทีรายงาน แต่องค์หญิงสิบสามนั้นไม่สนใจฟังแม้แต่น้อย สามีพาทำสิ่งใดนางก็แค่ปฏิบัติตามเท่านั้น มือของนางจึงยังป้วนเปี้ยนอยู่แถวหัวนมเล
หยางเอ้อหลางพลันอมยิ้ม เขาชอบที่นางชอบเขาที่สุด แม้จะเป็นสิ่งของเขาก็อดหึงหวงไม่ได้กล่าวจบพลันนางโน้มคอเขาลงมาจุมพิตดูดดื่ม เนื้อตัวของนางนุ่มนิ่ม แม้จะมีบุตรถึงสองคนแล้วร่างกายหาได้เปลี่ยนแปลงไปเช่นสตรีอื่น ที่ควรมีก็มีมากขึ้น อีกทั้งยังตึงแน่นยิ่งกว่าเดิม นับวันเขายิ่งหลงใหลภรรยาจนทนแยกห่างจากนางนานๆ ไม่ได้ยามที่เขาห่างนางต้องไปทำงานต่างเมือง หลายครั้งที่มีสตรีมากมายพยายามปีนขึ้นเตียงส่งสายตาหวานเยิ้มให้ ในใจหยางเอ้อหลางมองพวกนางเหล่านั้นแล้วรู้สึกว่าช่างดูน่ารำคาญ ในสายตาของเขามีเพียงภรรยาผู้เดียวที่สำคัญยิ่ง เขาไม่มีวันชายตาแลสตรีอื่นให้นางน้อยเนื้อต่ำใจเป็นอันขาดองค์หญิงสิบสามเบียดกายเข้าหาเขา หยางเอ้อหลางใช้ผ้าห่มขนสุนัขจิ้งจอกห่อร่างเขาและนางเข้าด้วยกัน พันกายหนาแน่นด้วยกลัวว่านางจะต้องลมเย็นจากด้านนอกจนเจ็บป่วย ร่างกายของเขาแข็งแรง อึกทั้งยังอบอุ่นองค์หญิงสิบสามชอบซุกในอกแข็งแกร่งยิ่งมือของนางซุกซนล้วงเข้าไปในกางเกงเขาแล้วลูบอาวุธเขาเล่นจนผงาดแข็งชัน หยางเอ้อหลางปล่อยให้นางซนเสมอ นางชอบทำอะไรเขาล้วนตามใจโดยเฉพาะเรื่องนี้ เขายิ่งตามใจนางยิ่งกว่าเรื่องใด“ท่านพี่มันโตแล้ว”“
ผู้ช่วยหมอทำคลอดพลันเปิดประตูออกมา หยางเอ้อหลางไม่รอช้า ผลักประตูเข้าไปด้านในแม้คนจะทัดทานเขาก็ไม่สนใจแล้วเขาโผไปหาภรรยาที่เหนื่อยจนหมดสติไปแล้วอย่างว่องไว กุมมือนางไว้ด้วยใบหน้าซีดเซียว"หมินเออร์ ท่านเป็นอย่างไรบ้าง""องค์หญิงปลอดภัยดีเจ้าค่ะ เพียงแต่เหนื่อยมากจึงหลับไป"หมอหญิงผู้เก่งกาจประจำจวนเอ่ยขึ้น หยางเอ้อหลางพยักหน้าแต่ไม่วางใจ เขาดึงภรรยามากอดไว้ สำรวจร่างที่ยังเปียกชื้นด้วยเหงื่อของนางปากก็พร่ำขอโทษภรรยาที่ทำให้นางเจ็บปวดด้วยสำนึกผิดเป็นอย่างยิ่ง"ข้าจะไม่ให้ท่านท้องอีกแล้ว ขอสัญญา ข้าขอโทษ"ความเจ็บปวดของภรรยาในวันนี้ทำให้เขารู้สึกปวดร้าวยิ่ง เขาจะไม่มีวันยอมให้นางเป็นเช่นนี้อีกจวบจนแม่นมอุ้มก้อนแป้งอวบก้อนหนึ่งมาหาเขา หยางเอ้อหลางเห็นหน้าบุตรเป็นครั้งแรก พลันตื้นตันจวบจนน้ำตาจะไหล ความรู้สึกรักและผูกพันท่วมท้นในอก บัดนี้เขาเข้าใจลึกซึ้งแล้ว ว่าบิดามารดารักเขาเพียงใด เขาค่อย ๆ วางร่างภรรยาลงบนเตียงให้ท่านหมอดูแลเต็มที่ ส่วนตัวเองยื่นมือไปรับห่อผ้าสีแดงนั้นมาไว้ในอ้อมกอด"เป็นท่านชายเจ้าค่ะ" แม่นมเอ่ยด้วยความยินดี"ดีมาก ดีจริงๆ "หยางเอ้อหลางหัวเราะทั้งน้ำตาแล้ว ความตื้
กินเสร็จได้ไม่นาน องค์หญิงสิบสามกลับรู้สึกอยากอาบน้ำ"ท่านพี่นอกจากเขาจะเลือกกินแล้ว ยังรักสะอาดยิ่ง อากาศหนาวเช่นนี้ข้ากลับอยากอาบน้ำวันละหลายรอบ"หยางเอ้อหลางจึงสั่งอาชิงให้เตรียมน้ำอุ่น หลังจากนั้นเขากลับเป็นฝ่ายดูแลนางด้วยตนเอง ถอดอาภรณ์ให้นาง ค่อยๆ พานางลงอ่างอย่างระวัง ผิวขององค์หญิงสิบสามเปล่งประกายบอบบาง ส่วนข้อเท้าเนียนนุ่มเล็กๆ ของนาง ยิ่งไม่อาจรับร่างกายที่หนักอึ้งของครรภ์ได้ หยางเอ้อหลางจึงต้องระวังเป็นพิเศษอาบน้ำยังไม่ทันเสร็จ องค์หญิงสิบสามกลับรู้สึกถึงบางสิ่งที่ผิดปกติยิ่ง มีเลือดไหลออกมาจากช่องทางลับของนาง ก่อนที่ความรู้สึกเจ็บปวดจะวิ่งจากท้องน้อยถึงไขสันหลัง นางจับข้อมือของหยางเอ้อหลางแน่นห่อปากด้วยความเจ็บปวด"ท่านพี่ ข้าเจ็บ"เพียงเห็นเลือดที่เริ่มไหลออกมาปนกับน้ำในอ่าง เทพสงครามเช่นหยางเอ้อหลางแทบเป็นลมหมดสติยิ่งเห็นนางเจ็บปวดยิ่งรู้สึกคล้ายหายใจไม่ออก ช่วงท้องบิดมวน ปากร้องตะโกนให้อาชิงที่รออยู่ด้านนอกรีบตามหมอตำแยที่เขานำมาเลี้ยงดูในจวนตั้งแต่เดือนก่อนเพื่อเตรียมความพร้อมให้ภรรยาหยางเอ้อหลางตั้งใจจะอุ้มนางขึ้นจากอ่างน้ำ แต่กลับถูกองค์หญิงสิบสามทั้งข่วนทั้งตบตี