ภาพความทรงจำนั้นหวนคืนมาหลายส่วน เพียงแต่สตรีที่อยู่เบื้องหน้านั้นยังเล็กนักเขาไม่อาจมองเห็นนางได้ชัดเจนหลังจากนางช่วยเขาทำให้นางได้รับบาดแผล สตรีที่มีบาดแผลยากที่จะออกเรือนเมื่อโตขึ้น หยางเอ้อหลางรู้สึกว่าตนเองต้องรับผิดชอบ จึงคิดเพียงแต่ต้องตอบแทนคุณโดยการรับนางเข้าจวน"คำสัญญาของแม่ทัพหยางเป็นเพียงลมปากใช่หรือไม่ ข้าหลินฉีอับอายนักที่เฝ้ารอท่านทั้งหมดล้วนเป็นเพียงความเพ้อฝันของข้าเพียงผู้เดียว"องค์หญิงใหญ่หลั่งน้ำตาออกมาอย่างเศร้าสร้อย นางเปิดเปลือยเหมือนสตรีไร้ค่าเช่นนี้หากเขายังไม่เห็นค่านางคงไม่รู้ว่าจะเอาหน้าของตนเองไปไว้ที่ใดแล้ว"ข้าหยางเอ้อหลางเป็นนักรบกล่าวสิ่งใดออกมามีกระทั่งหลักฐานย่อมรักษาคำสัตย์ที่ให้"องค์หญิงใหญ่ดีใจยิ่งนางรอคอยเวลานี้มาเนิ่นนานเกินไปแล้ว"ท่านกล่าวจริงหรือ รักษาสัญญาของท่านข้าเข้าใจท่านหากไม่มีเรื่องของสิบสามเสียก่อนคงเป็นข้าที่ได้แต่งเข้าจวนของท่าน""ขอองค์หญิงใหญ่อย่าได้กล่าวเช่นนั้นแม้จะไม่มีเรื่องอันใดใจของข้าก็เป็นขององค์หญิงสิบสามไปตั้งแต่แรกพบแล้ว เรื่องของเราหากข้าได้พิสูจน์ว่าเป็นจริงถึงเวลานั้นเราค่อยมาถกกันดีหรือไม่ หยางเอ้อหลางสัญญาว่าจ
ฝ่าบาทสังเกตเห็นว่าองค์หญิงใหญ่ที่ตอนนี้มองสามีภรรยาด้วยความรู้สึกเศร้าสร้อย จึงรู้สึกสงสารบุตรสาวคนโตนัก เหตุใดฝ่าบาทจะไม่รู้ว่าองค์หญิงใหญ่มีใจให้แก่แม่ทัพหยาง แม้เขาจะเป็นฮ่องเต้เรื่องบางเรื่องก็ไม่อาจฝืนใจคนได้ หยางเอ้อหลางยอมเอาชีวิตเข้าเสี่ยงเพื่อองค์หญิงสิบสามหลายครั้ง อีกทั้งยังยืนกรีนไม่แต่งสตรีอื่น เพราะเช่นนี้เขาจึงไม่อาจบังคับหยางเอ้อหลางได้แม้องค์หญิงหลินฉีถึงวัยออกเรือน อีกทั้งยังโดนองค์หญิงสิบสามตัดหน้าไปอีก ราชบุตรเขยที่จะมาอภิเษกกับองค์หญิงหลินฉี ฮ่องเต้จำต้องคัดเลือกให้ได้คนที่เพียบพร้อมที่สุดฝ่าบาทมองไปยังฉางอ๋องผู้ที่ทรงเลี้ยงดูมาแต่เยาว์วัยอีกทั้งยังเก่งกล้าสามารถ เรื่องหน้าตาก็ไม่ได้เป็นรองหยางเอ้อหลางแต่อย่างใด หากว่าพระองค์ไม่ต้องการใช้งานเขาให้ดูแลกองทัพสืบต่อจากหยางเอ้อหลาง อ๋องฉางอันก็ดูจะเหมาะสมที่สุดองครักษ์ฝานก็อยู่ในสายตาของพระองค์ แต่เพราะองครักษ์ฝานเป็นคนของสกุลหยาง เรื่องนี้เขาไม่อาจข้ามหน้าข้ามตาฮูหยินชราได้ อีกทั้งความตั้งใจของฮูหยินชราคือไม่ต้องการให้คนของนางเกี่ยวข้องกับราชวงศ์"ฉีเออร์เจ้าเสียใจที่แพ้หรือ" ฝ่าบาทครั้นเห็นพระธิดาใบหน้าเศร้าหม
เมื่อพลบค่ำ งานเลี้ยงกินอาหารเย็นถูกจัดขึ้นหน้าพระพักตร์วันนี้อาหารคือหม้อไฟ เนื้อที่ได้ก็คือเนื้อสัตว์ที่ทุกคนล่ามา วันนี้จึงนับว่าครึกครื้นยิ่ง หยางเอ้อหลางสั่งการบางอย่างกับองครักษ์ฝาน องค์หญิงสิบสามสังเกตทุกการกระทำของเขา เมื่อกลับมายังกระโจมนางจึงเอ่ยถามสามี"ท่านแม่ทัพ หลังจากท่านกลับมาจากล่าสัตว์ดูเหมือนท่านมีเรื่องในใจ"เขาโอบร่างของนางเข้าหา กอดนางจากด้านหลังอีกทั้งยังวางคงไว้บนไหล่ของนางพลางกล่าวว่า"เป็นเพียงเรื่องอารักขาฝ่าบาท ไม่มีอะไรหรอก""ท่านไม่ปิดข้าใช่หรือไม่ สัญญากันแล้วว่าไม่ว่ามีเรื่องอันใดท่านก็จะบอกข้า""ท่านไม่ต้องห่วง เป็นเพียงเรื่องเล็กที่ไม่สมควรใส่ใจ""แต่ท่าทางเช่นนี้ของท่าน" นางหันมาลูบใบหน้าของเขา อีกทั้งยังคลายขมวดคิ้วให้เขาอย่างอ่อนโยน"ได้อยู่กับท่านเช่นนี้ทุกสิ่งก็เป็นเรื่องเล็กแล้ว" กล่าวจบหยางเอ้อหลางพลันเปลี่ยนเรื่อง เขาไม่ต้องการให้ภรรยากังวล ก้มลงปิดปากของนางด้วยจุมพิตพานางเข้าสู่ความหลงใหลในร่างกายของกันและกัน ปิดกั้นสมองของนางให้ว่างเปล่า อย่าได้คิดถึงเรื่องอื่นใดนอกจากตัวเขาหลายวันต่อมาหลังจากกลับจากการล่าสัตว์ ในค่ำคืนหนึ่ง หยางเอ้อหลางมอ
หลังอาชิงจัดการนิ้วมือแม่ทัพหยางอย่างเรียบร้อย นางจึงออกไปอีกทั้งยังกำชับท่านแม่ทัพห้ามปล่อยองค์หญิงให้ทำแผลเป็นอันขาด นอกจากเขาจะไม่หายแล้วยังอาจจะอาการหนักกว่าเดิมอีกด้วย องค์หญิงสิบสามที่นั่งดื่มนมอุ่นอยู่ข้างๆ จึงทำตาวิบวับใส่อาชิงอยู่หลายที “เจ้าออกไปเถิด ข้าเข้าใจแล้ว”"คราหน้าหากข้ากลายร่างอีกท่านแม่ทัพจงหลีกหนีให้ไกล ไม่เช่นนั้นข้าอาจทำร้ายท่านได้""ตายด้วยมือของเจ้านับว่าคุ้มค่า" เขากลับกล่าวพร้อมรอยยิ้มขบขัน"ใช่เวลามาพูดเล่นหรือ ท่านตายแล้วผู้ใดจะช่วยข้าเอาหินนี่ออกจากร่างกัน" นางบ่นอุบอิบตีแขนเขาไม่แรงนัก"ข้าไม่ตายง่ายๆ หรอกหากตายไปใครจะดูแลท่านเพราะมีท่านอยู่บนโลกใบนี้ข้าจึงไม่อาจตายกลัวว่าท่านจะลำบาก""ท่านแม่ทัพอย่าได้กังวล สินสมรสท่านมีมากข้าเห็นว่าหากทิ้งสมบัติไว้ให้ข้ามากหน่อยข้าก็อยู่อย่างสุขสบายแล้ว"นางทำหน้าตาพิลึกพิลั่นราวกับว่าตนเองเป็นสตรีม่ายที่สามีตายไปแล้ว แต่ทว่าแม้จะทำหน้าตาประหลาดเช่นนี้คนงามเช่นนางก็ยังดูน่ารักน่าชังนัก"ท่านช่างเป็นคนที่แช่งสามีให้ตายแล้วโกรธไม่ลงเสียจริง""ผู้ใดอยากให้ท่านตายกันเล่า ไม่พูดเรื่องไม่เป็นมงคลแล้วท่านแม่ทั
องค์หญิงสิบสามหัวเราะ ที่ผ่านมาใครใช้ให้เขาเข้ามาเป็นตัวกลางระหว่างนางกับพี่หญิงใหญ่จนต้องผิดใจกันเล่า หากไม่ใช่เพราะความอิจฉาริษยาจนพี่หญิงใหญ่ของนางลงมือหนักจนเกือบเอาตัวไม่รอด หลินฮุ่ยหมินคงได้หาทางหย่ากับเขาไปแล้วองค์หญิงสิบสามมองผู้เป็นสามี แล้วเอ่ยว่า"แล้วพี่ข้าไม่อยากให้ท่านเดือดร้อนเพราะข้า""เหตุใดกล่าวเช่นนั้นมีเรื่องอันใดในใจอีกหรือ"“ไม่มีแล้ว เพียงแต่ตัวข้ามีเรื่องราวมากมายเหลือเกิน คิดว่าตอนนี้กำลังเอาเปรียบท่านอยู่”“ท่านก็ชดใช้ด้วยการปรนนิบัตินับว่าไม่เอาเปรียบแล้ว”เขาถอดอาภรณ์ของนางออก แล้วลูบหลังเนียนของนางแผ่วเบา องค์หญิงสิบสามยิ้มยั่วเย้า อีกทั้งยังเป็นฝ่ายฉีกกระชากเสื้อตัวในของสามีออกเช่นกันนางคล่อมร่างของเขาไว้ก่อนจะค่อยๆ เบียดร่างนุ่มนิ่มลงมา องค์หญิงสิบสามไล้มือเข้าไปในกางเกงของเขาครั้นมือน้อยพบอาวุธใหญ่โตที่แข็งขึงและกำลังขยายเหยียดเต็มกำลังนางก็กำรอบเอาไว้เบาๆ จวบจนหยางเอ้อหลางครางออกมาด้วยความพอใจ"อืม.." หยางเอ้อหลางลูบไล้ตามเนื้อนวลเนียนเขาเพียงใส่เสื้อและกางเกงตัวบางให้นางตัวเดียวความร้อนจากฝ่ามือจึงส่งผ่านไปถึงร่างของนางคล้ายไม่มีสิ่งใดปิดกั้น เขาล
การนั่งด้วยที่ท่าละอายอีกทั้งยังแยกขาให้เขาล่วงเกินเช่นนี้ทำให้องค์หญิงสิบสามอับอายนัก แต่หยางเอ้อหลางผู้เป็นสามีกำลังทำให้อารมณ์ของนางปั่นป่วน จากที่ต้องการจะกินเขากลายเป็นว่าตนเองถูกกินจนไม่เหลือร่างกายที่เว้นว่างแม้แต่ตารางเดียวหยางเอ้อหลางไล่จุมพิตตั้งแต่ต้นขาลากลิ้นขึ้นไปจนถึงหัวเข่าของนางแล้ววกกลับลงมา เขาเงยหน้ามองใบหน้าสีแดงของภรรยาแล้วตรึงสายตาอยู่อย่างนั้น องค์หญิงสิบสามที่กำลังหลับตาพริ้มคล้ายกำลังรอคอยเขาทำให้หยางเอ้อหลางครางออกมาใบหน้าของเขาโผดิ่งเข้าซุกซบตรงกลางแอ่งพูเนื้อพร้อมแลบลิ้นเลียดูดกลืนเอาไว้ในปาก เขาใช้ลิ้นปัดไล้รอบเกสรเล็กๆ ไปโดยรอบองค์หญิงสิบสามหวีดร้องออกมาเมื่อหยางเอ้อหลางจงใจใช้ลิ้นเลียตรงนั้นแผ่วเบา"อ๊า ท่านแม่ทัพ"หยางเอ้อหลางห่อปากดูดตอดปลายเกสรเบาๆ ในขณะที่สองมือของเขาเลื่อนขึ้นเฟ้นฟอนปลายถันคลึงเคล้าปลุกปั่นอารมณ์ของผู้เป็นภรรยาองค์หญิงสิบสามตวัดเรียวขาโอบรอบลำคอของเขา กดใบหน้าของเขาให้ฝังลึกลงตามแรงอารมณ์แอ่นสะโพกเข้าหาเขาแล้วเว้าวอนไม่หยุดท้องน้อยของนางร้อนผ่าวสะโพกของนางขยับตามจังหวะที่ลิ้นของเขาจาบจ้วงเขาใช้ปลายลิ้นทิ่มแทงเข้าไปด้านใน องค์หญ
หลายวันต่อมา"องค์หญิงเพคะท่านแม่นมส่งข่าวมาว่าของสำคัญในหีบเหล็กขององค์หญิงหายไปเพคะ""หายไปได้อย่างไร" องค์หญิงสิบสามตกใจ ของสำคัญของนางที่มีความจริงแล้วหาได้มีค่าสำหรับผู้อื่น ของเช่นนี้จะมีผู้ใดสนใจที่จะขโมยกัน"ดูเหมือนจะมีคนนำไปเพคะแม่นมมั่นใจว่าไม่ได้นำไปไว้ที่อื่นแน่เพียงแต่ต้องการนำมาทำความสะอาดพอเปิดหีบออกมาก็หายไปแล้วเพคะ""ไปอาชิง ข้าจะเข้าวังกลับตำหนักสิบสาม""เพคะ""ฮูหยินน้อยจะไปที่ใดขอรับ"พ่อบ้านของจวนแม่ทัพหยางเอ่ยขึ้น เขากำลังนำยาบำรุงมาให้ฮูหยินน้อยแต่กลับพบว่านางกำลังหน้าตาตื่นออกจากเรือนมา"ท่านพ่อบ้านรีบรายงานท่านแม่ทัพ ข้าต้องเข้าวังเป็นการด่วน""อั๊ยหยา ฮูหยินน้อยท่านลืมไปแล้วหรือว่าท่านแม่ทัพสั่งห้ามท่านออกจากจวนบัดนี้ท่านแม่ทัพเดินทางไปวัดกวนอิมเพื่อพบฮูหยินผู้เฒ่าแล้ว""จริงด้วยข้าเลอะเลือนแล้ว เช่นนั้นหากท่านแม่ทัพกลับมาก็แจ้งแก่ท่านแม่ทัพแทนข้า ข้าจะเข้าวังหลายวันหน่อย ไม่ต้องห่วงในวังคุ้มกันแน่นหนาย่อมไม่มีอันตรายอันใดเป็นแน่""ฮูหยินน้อยกำลังทำให้บ่าวลำบากใจแล้ว""ข้ามีเรื่องสำคัญต้องเข้าวังหรือเจ้าต้องรอให้มีราชโองการจากฝ่าบาทมาที่จวนหรือจึงจะปล่อยข้า
องค์หญิงสิบสามรู้สึกสงสัย ตำหนักของนางความจริงนับว่าเป็นตำหนักที่ไร้ของมีค่าที่สุดในตำหนักองค์หญิงทั้งหมด"ของทั้งหมดเหวินเฟยทำด้วยมือทั้งหมดนั้นเป็นหม่อมฉันคอยช่วยทำขึ้นมา เหตุนี้เมื่อหายไปจึงทำใจไม่ได้จริงๆ เพคะ”"ไม่เป็นไรเป็นเพียงของนอกกายเรื่องของเสด็จแม่ข้าเก็บไว้ในใจทั้งหมดแล้วแม่นมอย่าได้เสียใจไป""เพียงแต่แม่นมคิดไม่ตกเพคะว่าโจรผู้นั้นจะขโมยขององค์หญิงไปด้วยจุดประสงค์ใด เช่นนี้องค์หญิงต้องระวังตนให้มากนะเพคะ""ช่วงนี้ท่านแม่ทัพไม่อยู่ข้าคิดจะพักที่นี่อยู่เป็นเพื่อนแม่นมหลายวันหน่อย อีกทั้งจะหาโอกาสเข้าเฝ้าเสด็จพ่อเพื่อทูลขอท่านไปอยู่ที่จวนด้วย มีคนร้ายเข้ามาในตำหนักเช่นนี้ไม่ปลอดภัยแล้ว""องค์หญิง" แม่นมซาบซึ้งใจนัก ตัวนางนั้นแม้จะเป็นแม่นมขององค์หญิงสิบสามที่เลี้ยงดูนางมาตั้งแต่เกิดแต่อย่างไรเสียก็นับเป็นคนของตำหนักในผู้ที่สามารถให้นางออกจากวังได้นอกจากฮองเฮาแล้วก็มีเพียงฝ่าบาทเท่านั้นฮองเฮานั้นไม่ชอบองค์หญิงสิบสามเป็นทุนเดิมเรื่องใดที่จะทำให้องค์หญิงสิบสามเสียใจนางย่อมไม่รีรอ การพรากแม่นมกับองค์หญิงสิบสามออกจากกันได้นับว่าฮองเฮาคงยินดี แต่หากจะร้องขอให้แม่นมออกนอกวังไปอย
ส่วนองค์หญิงใหญ่นั้นแทบจะไม่เคยถามถึงเด็กเลยทั้งนี้คงเป็นเพราะเด็กคนนั้นคือตราบาปของนาง องค์หญิงใหญ่จึงรังเกียจเด็กยิ่งกว่าไส้เดือนกิ้งกือในหัวคิดเพียงแต่เรื่องสังหารเด็กนั่นให้ตายไปเสียให้พ้น องค์หญิงสิบสามถอนหายใจคิดแล้วก็รู้สึกหดหู่ยิ่งหลังออกจากตำหนักองค์หญิงใหญ่ สามีจึงพานางเข้าร่วมงานเลี้ยง ท่านย่าของหยางเอ้อหลางพาท่านชายทั้งสองเข้าร่วมงานด้วย ทุกคนห้อมล้อมเอาอกเอาใจอีกทั้งเด็กทั้งสองยังเป็นหลานรักของฝ่าบาทและขององค์รัชทายาทยิ่ง ไม่ว่าใครต่างก็แสดงความชื่นชมออกมา ก้อนแป้งน้อยของนางทั้งสองยังเด็กแต่รู้ความนัก เมื่อเห็นมารดาเพียงแต่โผหานางเบาๆ ไม่ได้งอแงเหมือนเด็กทั่วไป ภรรยาของขุนนางใหญ่หลายคนต่างหมายตาพวกเขาเอาไว้ พยายามทาบทามตั้งแต่ยังเด็ก องค์หญิงสิบสามเอ่ยปากปฏิเสธเพราะคิดว่าบุตรยังเล็กนัก การกระทำของนางไม่ไว้หน้าผู้ใดกระนั้นก็ไม่มีใครกล้าตำหนิ กลางดึกคืนนั้นหยางเอ้อหลางนอนกอดภรรยาที่ร่างกายเปล่าเปลือยเอาไว้ในอ้อมกอด คิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมาระหว่างพวกเขาแล้วอดยิ้มออกมาไม่ได้ องค์หญิงสิบสามหลับแล้วเขากลับยังคงต้องการ เช่นนั้นจึงจับขานางแยกออกแล้วดันกายเข้าไประหว่างขา องค์หญ
องค์รัชทายาทครั้นเห็นว่าพี่หญิงของเขาและพี่เขยมาถึงแล้ว ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวก็สดใสขึ้น องค์หญิงสิบสามยิ้มให้กำลังใจ องค์รัชทายาทที่มีชันษาแปดขวบอีกทั้งรู้ความเป็นอันมากด้วยถูกฮูหยินชราและสตรีสกุลหยางอบรมมาด้วยตนเองจึงเข้าพิธีสถาปนาอย่างกล้าหาญ องค์หญิงสิบสามเห็นน้องชายกำลังเติบโตเช่นนั้นก็ตื้นตันใจนัก นางเกือบหยุดน้ำตาไม่ได้อยู่หลายคราคิดถึงเพื่อนของนางมารดาของรัชทายาทที่จากไปก็พลันสบายใจ คนผู้นั้นคงตายตาหลับแล้วหยางเอ้อหลางเห็นภรรยาเหม่อลอย อีกทั้งมีน้ำใสคลอที่หน่วยตาจึงกุมมือของนางเอาไว้ จวบจนพิธีจบสิ้นองค์รัชทายาทก็ก้าวเข้ามาหาพวกเขาอย่างสง่างามสิ่งที่เอ่ยออกมาคำแรกสร้างความตื้นตันให้กับองค์หญิงสิบสามยิ่ง นางรู้สึกว่าองค์รัชทายาทช่างกตัญญูนักไม่เสียแรงที่นางปกป้องซาลาเปาน้อยก้อนนี้ด้วยชีวิต"พี่หญิงเมื่อข้าโตแล้ว ทรัพย์สมบัติทั้งหมดของข้าข้าจะยกให้ท่าน"เพราะรัชทายาทพูดแบบนี้นางจึงซาบซึ้งจนไม่อาจกลั้นน้ำตาได้อีกต่อไป หยางเอ้อหลางได้แต่ส่ายหน้าโรคบ้าสมบัติของภรรยาเห็นทีว่าจะรักษาไม่หายจริงๆ หลังจากนั้นแฝดผู้น้องของซาลาเปาน้อยพลันวิ่งมาหานางวันนี้เด็กหญิงตัวน้อยก็ได้รับ
ในขณะที่หยางเอ้อหลางจุมพิตประกบขยี้ไปบนริมฝีปากงามอีกทั้งนิ้วมือของเขายังไต่ลงไปบดขยี้ปลายเกสรเพิ่มความต้องการกระสันอยากให้ภรรยามากขึ้นอีกทั้งยังจ้วงแทงลงมาใช้แรงกระแทกนางถี่ยิบ อ้าปากคว้าเต้าอวบกลมใหญ่ของนาง ปากดูดกลืนสองเต้าเต็มรัก สะโพกแข็งแรงซอยกระแทกรุนแรงจนทำให้ร่างกายขององค์หญิงสิบสามเต้นระริกองค์หญิงสิบสามกอดศีรษะของเขาไว้ ก่อนที่เขาจะจับนางพลิกร่างให้หันหลังอีกทั้งยังขยับสะโพกของนางเข้าหาตน แนบร่างลงมาหานางจากด้านหลัง ให้นางคุกเข่าอยู่บนเก้าอี้กอดตระกองรวบร่างบางเอาไว้ในอ้อมแขนหยางเอ้อหลางดูดแผ่นหลังของนางแรงๆ อีกทั้งยังลากลิ้นเลียนางจนทั่วแผ่นหลังเนียนนุ่มในขณะที่เร่งจังหวะของสะโพกตนอัดร่างลงมาครั้งแล้วครั้งเล่า ปากครางบอกรักภรรยา เนื้อนุ่มนิ่มในอ้อมกอดหอมกรุ่นทำให้มัวเมายิ่ง เขาจุมพิตแผ่นหลังนางจนทั่ว ฝากรอยแดงเอาไว้แทบทุกตารางผิวองค์หญิงสิบสามแหงนใบหน้าหาเขา อ้าปากเย้ายวน หยางเอ้อหลางประกบปากของตนลงมาทันใด สองลิ้นพัวพันต่างคนต่างสูบลมหายใจซึ่งกันและกันแลกจุมพิตหวานฉ่ำรุนแรง ยิ่งจุมพิตยิ่งมัวเมาส่วนสะโพกบดเบียดและจ้วงแทงลงมาจากด้านหลัง นางบีบรัดเขาจนเขาต้องห่อปาก กระนั
หยางเอ้อหลางสัมผัสได้ถึงกลีบอวบอูมที่เต็มปากของตน น้ำหวานพรั่งพรูออกมา เขาสูดปากแรงๆ พร้อมดูดนางเต็มรัก นางบิดกายเร่งเร้า หยางเอ้อหลางหยอกเย้ากลีบนุ่มของนางจนอิ่มเอม ลิ้นร้อนของเขาห่อเป็นแท่งกระแทกเข้าไปในร่องลึก ไซร้สัมผัสกับปลายเกสรสีแดงที่สั่นระริกอยู่ที่ปลายลิ้น ก่อนจะดุนลิ้นตนเองลงมาหนักๆ จนภรรยาแทบจะแดดิ้นอยู่เบื้องล่างองค์หญิงสิบสามที่กำลังสติกระเจิงไปกับรสสวาทบัดนี้หาได้สนใจสิ่งใดไม่ นางยกสะโพกค้างให้เขาใช้ลิ้นรักนางอย่างเต็มที่ ความงดงามอวบอูมของภรรยาทำให้เขาฉ่ำเยิ้มเช่นกัน พูเนื้อของนางช่างเย้ายวนใจโดยแท้"ตรงนี้ของท่านงดงามมากรู้หรือไม่" เขากล่าวจบพลันสูดปากลากลิ้นแทงลงมาเต็มๆ องค์หญิงสิบสามกำเก้าอี้แน่น เขากำลังทำให้นางใกล้จะถึงจุดหมายแล้ว"อ๊า ท่านพี่ อื้อ" นางครางไม่หยุดปากในขณะที่สามีละเลงลิ้นลากดุนวนไซร้ไปตามกลีบเกสร ดูดกลืนปลายสีแดงสดที่สั่นระริกเต้นเร้า หญิงงามที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่เบื้องหน้าดวงตาฉ่ำเยิ้มประดุจมีหมอกจาง ๆ อยู่ด้านในดวงตาคู่งามนั้นช่างยั่วยวนเขายิ่งนักเขาเงยหน้าเพ่งพิศที่เต้าคู่งาม ขยับกายว่องไวอ้าปากแล้วดูดรวบปลายถันไว้ในปาก ดูดแรงๆคล้ายกลั่นแกล
เขาเอ่ยเสียงพร่า พร้อมทั้งแลบลิ้นปาดเลียกลีบเกสรหอมหวานล้ำค่าของภรรยาอย่างเอร็ดอร่อยเมื่อเห็นภรรยาบิดกายร้อนรุ่ม อีกทั้งส่งเสียงครางแผ่วเบาออกมาหยางเอ้อหลางเร่งเติมเชื้อไฟสวาทด้วยการลากไล้นิ้วมือเรียวไปตามโคนขาอ่อนขาวเนียนแผ่วเบา ร่างงามสั่นสะท้านระทดระทวยเอนหลังพิงกำแพงเพื่อช่วยพยุงกายของตนไม่ให้ล้มลงด้วยพลังปลายลิ้นของเขา"ทะท่านพี่ อือ อือ"ปากงดงงามครางครวญ หยางเอ้อหลางยิ่งปลุกเร้าลงบนเนื้ออูมตรงหน้า ร่างของนางกระตุกบิดไปมาอีกทั้งยังอ้าขาของตนให้เขาดูดกินได้ลึกขึ้น จากเดิมที่หวังจะให้เขากระทำการอย่างว่องไวบัดนี้กลับไม่คิดจะเร่งรัดแล้ว ปล่อยให้เขากระทำการอ้อยอิ่งกับร่างกายของตนเองเช่นนี้โดยไร้ซึ่งสติเมื่อเห็นว่าตนเองจู่โจมภรรยาจนนางยืนไม่ติดแล้ว เขาจึงอุ้มนางขึ้นแล้วพานางมานั่งยังเก้าอี้บุขนแกะนุ่ม จับขาของภรรยาแยกออกให้พาดไปที่พนักเก้าอี้ทั้งสองข้าง เผยความงดงามสีแดงสดเบื้องหน้าอย่างเต็มที่ในเวลานี้เป็นเวลากลางวันจึงมองเห็นนางแจ่มชัดเต็มสองตาประตูด้านหน้าถูกปิดแน่นหนาชนิดที่เรียกว่าไม่อาจมีแม้แต่แมลงสักตัวที่สามารถเล็ดลอดเข้ามาได้ หยางเอ้อหลางจึงกระทำกับภรรยาอย่างหย่ามใจอีกทั้ง
คิดแล้วก็ต้องขอบคุณสามีเช่นเขา ทำให้ชะตาชีวิตของนางเปลี่ยนได้ดุจพลิกฝ่ามือนางจึงอดขยับกายจุมพิตปลายคางของเขาอย่างขอบคุณไม่ได้ อีกทั้งมือน้อยยังสอดเข้าไปในสาบเสื้อเพื่อสัมผัสความอบอุ่นด้านในอย่างแนบชิดแม้จะอยู่ในชุดคลุมที่มิดชิดจึงไม่มีผู้ใดเห็นการกระทำอุกอาจไร้ยางอายของนาง แต่หยางเอ้อหลางนั้นรับรู้อีกทั้งยังถูกนางลูบคลำอกของตนไปมาไม่หยุดเช่นนี้ ใบหน้าจึงแดงก่ำ สิ่งที่ควรอ่อนลงกลับผงาดแข็งกร้าวมากกว่าเดิมเพราะนางลูบไล้อกของเขาอีกทั้งซุกอยู่ในอ้อมกอด กลิ่นกายของนางก็หอมยิ่งหอมจนทำให้เขากลัวว่าผู้อื่นจะได้กลิ่นจนทำให้รู้สึกหึงหวงขึ้นมา เขากอดนางแน่นขึ้น เห็นสายตาทหารหลายคนแอบลอบมองภรรยาตนแล้วก็รู้สึกโมโหนัก กระนั้นก็ไม่อาจปัดเรื่องอยากกินนางในตอนนี้ออกจากสมองได้ หัวหน้าขันทีนำพวกสองสามีภรรยาไปยังตำหนักปีกรับรอง อีกทั้งยังรายงานกำหนดการต่าง ๆ ในพิธีแต่งตั้งองค์รัชทายาทอย่างละเอียดให้พวกเขาฟังหยางเอ้อหลางทั้งพยายามควบคุมตนเองจึงทำท่าสนใจข้อมูลที่หัวหน้าขันทีรายงาน แต่องค์หญิงสิบสามนั้นไม่สนใจฟังแม้แต่น้อย สามีพาทำสิ่งใดนางก็แค่ปฏิบัติตามเท่านั้น มือของนางจึงยังป้วนเปี้ยนอยู่แถวหัวนมเล
หยางเอ้อหลางพลันอมยิ้ม เขาชอบที่นางชอบเขาที่สุด แม้จะเป็นสิ่งของเขาก็อดหึงหวงไม่ได้กล่าวจบพลันนางโน้มคอเขาลงมาจุมพิตดูดดื่ม เนื้อตัวของนางนุ่มนิ่ม แม้จะมีบุตรถึงสองคนแล้วร่างกายหาได้เปลี่ยนแปลงไปเช่นสตรีอื่น ที่ควรมีก็มีมากขึ้น อีกทั้งยังตึงแน่นยิ่งกว่าเดิม นับวันเขายิ่งหลงใหลภรรยาจนทนแยกห่างจากนางนานๆ ไม่ได้ยามที่เขาห่างนางต้องไปทำงานต่างเมือง หลายครั้งที่มีสตรีมากมายพยายามปีนขึ้นเตียงส่งสายตาหวานเยิ้มให้ ในใจหยางเอ้อหลางมองพวกนางเหล่านั้นแล้วรู้สึกว่าช่างดูน่ารำคาญ ในสายตาของเขามีเพียงภรรยาผู้เดียวที่สำคัญยิ่ง เขาไม่มีวันชายตาแลสตรีอื่นให้นางน้อยเนื้อต่ำใจเป็นอันขาดองค์หญิงสิบสามเบียดกายเข้าหาเขา หยางเอ้อหลางใช้ผ้าห่มขนสุนัขจิ้งจอกห่อร่างเขาและนางเข้าด้วยกัน พันกายหนาแน่นด้วยกลัวว่านางจะต้องลมเย็นจากด้านนอกจนเจ็บป่วย ร่างกายของเขาแข็งแรง อึกทั้งยังอบอุ่นองค์หญิงสิบสามชอบซุกในอกแข็งแกร่งยิ่งมือของนางซุกซนล้วงเข้าไปในกางเกงเขาแล้วลูบอาวุธเขาเล่นจนผงาดแข็งชัน หยางเอ้อหลางปล่อยให้นางซนเสมอ นางชอบทำอะไรเขาล้วนตามใจโดยเฉพาะเรื่องนี้ เขายิ่งตามใจนางยิ่งกว่าเรื่องใด“ท่านพี่มันโตแล้ว”“
ผู้ช่วยหมอทำคลอดพลันเปิดประตูออกมา หยางเอ้อหลางไม่รอช้า ผลักประตูเข้าไปด้านในแม้คนจะทัดทานเขาก็ไม่สนใจแล้วเขาโผไปหาภรรยาที่เหนื่อยจนหมดสติไปแล้วอย่างว่องไว กุมมือนางไว้ด้วยใบหน้าซีดเซียว"หมินเออร์ ท่านเป็นอย่างไรบ้าง""องค์หญิงปลอดภัยดีเจ้าค่ะ เพียงแต่เหนื่อยมากจึงหลับไป"หมอหญิงผู้เก่งกาจประจำจวนเอ่ยขึ้น หยางเอ้อหลางพยักหน้าแต่ไม่วางใจ เขาดึงภรรยามากอดไว้ สำรวจร่างที่ยังเปียกชื้นด้วยเหงื่อของนางปากก็พร่ำขอโทษภรรยาที่ทำให้นางเจ็บปวดด้วยสำนึกผิดเป็นอย่างยิ่ง"ข้าจะไม่ให้ท่านท้องอีกแล้ว ขอสัญญา ข้าขอโทษ"ความเจ็บปวดของภรรยาในวันนี้ทำให้เขารู้สึกปวดร้าวยิ่ง เขาจะไม่มีวันยอมให้นางเป็นเช่นนี้อีกจวบจนแม่นมอุ้มก้อนแป้งอวบก้อนหนึ่งมาหาเขา หยางเอ้อหลางเห็นหน้าบุตรเป็นครั้งแรก พลันตื้นตันจวบจนน้ำตาจะไหล ความรู้สึกรักและผูกพันท่วมท้นในอก บัดนี้เขาเข้าใจลึกซึ้งแล้ว ว่าบิดามารดารักเขาเพียงใด เขาค่อย ๆ วางร่างภรรยาลงบนเตียงให้ท่านหมอดูแลเต็มที่ ส่วนตัวเองยื่นมือไปรับห่อผ้าสีแดงนั้นมาไว้ในอ้อมกอด"เป็นท่านชายเจ้าค่ะ" แม่นมเอ่ยด้วยความยินดี"ดีมาก ดีจริงๆ "หยางเอ้อหลางหัวเราะทั้งน้ำตาแล้ว ความตื้
กินเสร็จได้ไม่นาน องค์หญิงสิบสามกลับรู้สึกอยากอาบน้ำ"ท่านพี่นอกจากเขาจะเลือกกินแล้ว ยังรักสะอาดยิ่ง อากาศหนาวเช่นนี้ข้ากลับอยากอาบน้ำวันละหลายรอบ"หยางเอ้อหลางจึงสั่งอาชิงให้เตรียมน้ำอุ่น หลังจากนั้นเขากลับเป็นฝ่ายดูแลนางด้วยตนเอง ถอดอาภรณ์ให้นาง ค่อยๆ พานางลงอ่างอย่างระวัง ผิวขององค์หญิงสิบสามเปล่งประกายบอบบาง ส่วนข้อเท้าเนียนนุ่มเล็กๆ ของนาง ยิ่งไม่อาจรับร่างกายที่หนักอึ้งของครรภ์ได้ หยางเอ้อหลางจึงต้องระวังเป็นพิเศษอาบน้ำยังไม่ทันเสร็จ องค์หญิงสิบสามกลับรู้สึกถึงบางสิ่งที่ผิดปกติยิ่ง มีเลือดไหลออกมาจากช่องทางลับของนาง ก่อนที่ความรู้สึกเจ็บปวดจะวิ่งจากท้องน้อยถึงไขสันหลัง นางจับข้อมือของหยางเอ้อหลางแน่นห่อปากด้วยความเจ็บปวด"ท่านพี่ ข้าเจ็บ"เพียงเห็นเลือดที่เริ่มไหลออกมาปนกับน้ำในอ่าง เทพสงครามเช่นหยางเอ้อหลางแทบเป็นลมหมดสติยิ่งเห็นนางเจ็บปวดยิ่งรู้สึกคล้ายหายใจไม่ออก ช่วงท้องบิดมวน ปากร้องตะโกนให้อาชิงที่รออยู่ด้านนอกรีบตามหมอตำแยที่เขานำมาเลี้ยงดูในจวนตั้งแต่เดือนก่อนเพื่อเตรียมความพร้อมให้ภรรยาหยางเอ้อหลางตั้งใจจะอุ้มนางขึ้นจากอ่างน้ำ แต่กลับถูกองค์หญิงสิบสามทั้งข่วนทั้งตบตี