สิ้นเสียง เขาก็ก้าวยาว ๆ เดินจากไปพอเดินไปถึงประตู ก็หันหน้ากลับมาอีกครั้ง กล่าวด้วยเสียงเย็นชา “ท่านอ๋องเจ็ด ท่านเองก็ออกมาเถิด”ตงฟางหลีไม่แม้แต่จะสนใจเขาฉินเหยี่ยนเย่ว์เห็นว่าในที่สุดจอมมารออกไปแล้ว ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก “พี่เจ็ด ท่านก็ออกไปเถิดเพคะ”“ยัยหนู...” ตงฟางหลีไม่วางใจนาง“วางใจเถิ
“อวี้เอ๋อร์?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์คิดว่าตาฝาดไปแล้วผ่านไปไม่นาน นิ้วของอวี้เอ๋อร์ก็ขยับอีกครั้ง“ขยับแล้วจริง ๆ!”ฉินเหยี่ยนเย่ว์ตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง“เจ้าทำได้ พยายามอีกหน่อย”อวี้เอ๋อร์ราวกับเข้าใจคำพูดของนาง หัวคิ้วขมวดแน่น ดิ้นรนอยู่ท่ามกลางความบิดเบี้ยวอันไร้ที่สิ้นสุดหลังจากดิ้นรนอยู่นานดวงตาที
......เมื่ออกจากพื้นที่ทับซ้อนมาแล้ว อวี้เอ๋อร์ก็กลับมาอยู่ในสภาพปกติอีกครั้งแปดปีนี้นางสามารถรู้สึกว่าตนเองยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างชัดเจนวิญญาณถูกบิดไปยังสถานที่แปลกประหลาดแห่งหนึ่ง ร่างกายกลับเก็บรักษาไว้บนเตียงหยกเย็นที่อยู่บริเวณใกล้เคียงนางสามารถมองเห็นทั้งหมดที่จีอู๋เยียนทำเพื่อนางได้อย่างช
“ท่านทำอะไรน่ะ?” ตงฟางหลีขวางเขาไว้ “ยังไม่ถึงครึ่งชั่วยามเลย ท่านเข้าไปไม่ได้”“หลบไป” จีอู๋เยียนเปล่งไอสังหารยะเยือกออกมาตงฟางหลีหงุดหงิดเล็กน้อยจีอู๋เยียนลงมือกับยัยหนูซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งท้าทายเส้นความอดทนต่ำสุดของเขาเรียบร้อยแล้ว“เหยี่ยนเย่ว์ไม่อนุญาตก็เข้าไปไม่ได้” เขายืนขวางตรงหน้าจีอู๋เยีย
ตงฟางหลีถือโอกาสนี้ปล่อยจีอู๋เยียน และยืนขวางอยู่หน้าประตูเรือนนวลพร้อมกึ่งยิ้ม “ตู้เหิง เจ้าเข้าใจผิดแล้ว เป็นแม่นางสุ่ยเยียนคนนี้ที่เป็นฝ่ายโยนตัวเข้ามาในอ้อมแขนข้า ข้ารำคาญทีเดียว”“เรื่องมาจนถึงตอนนี้แล้ว เจ้าก็เลิกหลบ ๆ ซ่อน ๆ แล้วบอกแม่นางสุ่ยเยียนถึงความในใจของเจ้าไปเสีย”ตู้เหิงเชื่อว่าจริง
ตู้เหิงชะงักงันไปเล็กน้อย “อะไรนะ?”“หลังสังหารเขาแล้ว ข้าจึงจะพิจารณาเจ้าได้” จีอู๋เยียนเอ่ยน้ำเสียงเย็นชา“สังหารผู้ใดนะ?” ตู้เหิงสงสัยว่าหูตัวเองได้ยินผิดไป“เจ้านายของเจ้า ตงฟางหลี”สีหน้าของตู้เหิงเปลี่ยนไปอย่างมาก “นี่เป็นไปไม่ได้”“สุ่ยเยียน นี่เจ้าเปลี่ยนความรักเป็นความเกลียดชังหรือ? เจ้าเอง
เขารีบก้าวไปหานาง วางนิ้วสั่นเทาไว้ใต้จมูกของนางเมื่อรู้สึกได้ว่านางยังหายใจอยู่ พลันรู้สึกโล่งใจในที่สุดเขาอุ้มนางขึ้นมา“ตู้เหิง ไปเรียกลู่ซิ่ว”หลังจากเข้าไปในเรือนนวล ดวงตาของตู้เหิงก็ตกไปยังเด็กสาวคนหนึ่งเขาไม่ได้มาที่เรือนนวลนานแล้ว แม่นางน้อยเข้ามาในเรือนนวลตั้งแต่เมื่อใด?เขาสับสนเหลือแสน
จีอู๋เยียนได้ยินคำพูดติดขัดของอวี้เอ๋อร์ หัวใจพลันเต็มไปด้วยระลอกคลื่นเขาเกร็งแขนโดยไม่รู้ตัว “เดินไหวไหม?”“ไม่ไหว” อวี้เอ๋อร์ยิ้มเบา ๆนางพูดได้ไม่มากนักร่างกายยังควบคุมได้ไม่ดีนัก และการเคลื่อนไหวง่าย ๆ บางอย่างยังทำไม่ได้เลยแม้กระนั้น นางยังคงพยายามเข้าใกล้จีอู๋เยียนริมฝีปากตกลงบนหน้าผากของเ
เฮยตั้นยกอุ้งเท้าขึ้นตะปบลงบนใบหน้านางมันเผยกรงเล็บอันแหลมคมออกมา แม้ว่าแรงนั้นจะไม่มากพอถึงขั้นข่วนเกาใบหน้า ทว่ากลับทำให้เจ็บได้หากเป็นเมื่อก่อน ฉินเหยี่ยนเย่ว์คงจะคว้าอุ้งเท้าเล็ก ๆ ของมันแล้วดุด่าสอนสั่งไปหนึ่งคำรบนานแล้วคราวนี้ กลับมึนงงราวเป็นคนโง่งม“เหมียว” เฮยตั้นจ้องมองนางครู่หนึ่ง จากน
จีอู๋เยียนได้ยินคำพูดติดขัดของอวี้เอ๋อร์ หัวใจพลันเต็มไปด้วยระลอกคลื่นเขาเกร็งแขนโดยไม่รู้ตัว “เดินไหวไหม?”“ไม่ไหว” อวี้เอ๋อร์ยิ้มเบา ๆนางพูดได้ไม่มากนักร่างกายยังควบคุมได้ไม่ดีนัก และการเคลื่อนไหวง่าย ๆ บางอย่างยังทำไม่ได้เลยแม้กระนั้น นางยังคงพยายามเข้าใกล้จีอู๋เยียนริมฝีปากตกลงบนหน้าผากของเ
เขารีบก้าวไปหานาง วางนิ้วสั่นเทาไว้ใต้จมูกของนางเมื่อรู้สึกได้ว่านางยังหายใจอยู่ พลันรู้สึกโล่งใจในที่สุดเขาอุ้มนางขึ้นมา“ตู้เหิง ไปเรียกลู่ซิ่ว”หลังจากเข้าไปในเรือนนวล ดวงตาของตู้เหิงก็ตกไปยังเด็กสาวคนหนึ่งเขาไม่ได้มาที่เรือนนวลนานแล้ว แม่นางน้อยเข้ามาในเรือนนวลตั้งแต่เมื่อใด?เขาสับสนเหลือแสน
ตู้เหิงชะงักงันไปเล็กน้อย “อะไรนะ?”“หลังสังหารเขาแล้ว ข้าจึงจะพิจารณาเจ้าได้” จีอู๋เยียนเอ่ยน้ำเสียงเย็นชา“สังหารผู้ใดนะ?” ตู้เหิงสงสัยว่าหูตัวเองได้ยินผิดไป“เจ้านายของเจ้า ตงฟางหลี”สีหน้าของตู้เหิงเปลี่ยนไปอย่างมาก “นี่เป็นไปไม่ได้”“สุ่ยเยียน นี่เจ้าเปลี่ยนความรักเป็นความเกลียดชังหรือ? เจ้าเอง
ตงฟางหลีถือโอกาสนี้ปล่อยจีอู๋เยียน และยืนขวางอยู่หน้าประตูเรือนนวลพร้อมกึ่งยิ้ม “ตู้เหิง เจ้าเข้าใจผิดแล้ว เป็นแม่นางสุ่ยเยียนคนนี้ที่เป็นฝ่ายโยนตัวเข้ามาในอ้อมแขนข้า ข้ารำคาญทีเดียว”“เรื่องมาจนถึงตอนนี้แล้ว เจ้าก็เลิกหลบ ๆ ซ่อน ๆ แล้วบอกแม่นางสุ่ยเยียนถึงความในใจของเจ้าไปเสีย”ตู้เหิงเชื่อว่าจริง
“ท่านทำอะไรน่ะ?” ตงฟางหลีขวางเขาไว้ “ยังไม่ถึงครึ่งชั่วยามเลย ท่านเข้าไปไม่ได้”“หลบไป” จีอู๋เยียนเปล่งไอสังหารยะเยือกออกมาตงฟางหลีหงุดหงิดเล็กน้อยจีอู๋เยียนลงมือกับยัยหนูซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งท้าทายเส้นความอดทนต่ำสุดของเขาเรียบร้อยแล้ว“เหยี่ยนเย่ว์ไม่อนุญาตก็เข้าไปไม่ได้” เขายืนขวางตรงหน้าจีอู๋เยีย
......เมื่ออกจากพื้นที่ทับซ้อนมาแล้ว อวี้เอ๋อร์ก็กลับมาอยู่ในสภาพปกติอีกครั้งแปดปีนี้นางสามารถรู้สึกว่าตนเองยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างชัดเจนวิญญาณถูกบิดไปยังสถานที่แปลกประหลาดแห่งหนึ่ง ร่างกายกลับเก็บรักษาไว้บนเตียงหยกเย็นที่อยู่บริเวณใกล้เคียงนางสามารถมองเห็นทั้งหมดที่จีอู๋เยียนทำเพื่อนางได้อย่างช
“อวี้เอ๋อร์?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์คิดว่าตาฝาดไปแล้วผ่านไปไม่นาน นิ้วของอวี้เอ๋อร์ก็ขยับอีกครั้ง“ขยับแล้วจริง ๆ!”ฉินเหยี่ยนเย่ว์ตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง“เจ้าทำได้ พยายามอีกหน่อย”อวี้เอ๋อร์ราวกับเข้าใจคำพูดของนาง หัวคิ้วขมวดแน่น ดิ้นรนอยู่ท่ามกลางความบิดเบี้ยวอันไร้ที่สิ้นสุดหลังจากดิ้นรนอยู่นานดวงตาที
สิ้นเสียง เขาก็ก้าวยาว ๆ เดินจากไปพอเดินไปถึงประตู ก็หันหน้ากลับมาอีกครั้ง กล่าวด้วยเสียงเย็นชา “ท่านอ๋องเจ็ด ท่านเองก็ออกมาเถิด”ตงฟางหลีไม่แม้แต่จะสนใจเขาฉินเหยี่ยนเย่ว์เห็นว่าในที่สุดจอมมารออกไปแล้ว ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก “พี่เจ็ด ท่านก็ออกไปเถิดเพคะ”“ยัยหนู...” ตงฟางหลีไม่วางใจนาง“วางใจเถิ