ซูเตี่ยนฉิงแทบจะขบเขี้ยวเคี้ยวฟันจนฟันแตกหลังจากนางถูกฝังไปแล้วนั้น ก็คิดว่าเรื่องทุกอย่างจะจบลงขณะที่สติสัมปชัญญะจมดิ่งลงในความมืดมิดนั้น พลันได้ยินเสียงฉินเหยี่ยนเย่ว์ตำหนิตงฟางหลีก่อนจะตามมาด้วย นางถูกคนดึงออกมาจากดินแม้ว่านางจะไม่อยากยอมรับ กลับมิอาจปฏิเสธได้ว่าเป็นฉินเหยี่ยนเย่ว์ที่ช่วยเหลื
ในแววตาซูเตี่ยนฉิงมีเปลวไฟลุกโชนนางคิดว่า ขอเพียงกัดฟันไม่ยอมรับ ก็ไม่มีผู้ใดทำอะไรนางได้ทว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นบางทีย่อมขัดแย้งกับความต้องการไม่ว่านางจะยอมรับหรือไม่ยอมรับ ตงฟางหลีก็จะโยนนางลงไปในหลุมแล้วฝังให้ตายทั้งเป็นอยู่ดียามนี้ ฉินเหยี่ยนเย่ว์ยังมากล่าวเช่นนี้อีก!เพลิงโทสะสายนั้นและควา
ฉินเหยี่ยนเย่ว์สอดมือเข้าไว้ในแขนเสื้อยืนอยู่ที่เดิม เส้นผมปลิวสยายไปตามสายลมซูเตี่ยนฉิงมาถึงตรงหน้าแล้ว นางยังคงวางสีหน้าเรียบเฉย ไม่มีความคิดจะเคลื่อนไหวแต่อย่างใดตงฟางหลีเป็นกังวลจนเหงื่อชุ่มฝ่ามือเรี่ยวแรงฝ่ามือนี้ของซูเตี่ยนฉิงไม่น้อยทีเดียว หากสัมผัสโดนตัวยัยหนู ถึงยัยหนูจะไม่ตายแต่ก็จะได้ร
ผ่านการทรมานครั้งนี้ไป เกรงว่าซูเตี่ยนฉิงจะไม่หลงกลอีกแล้ว“แบะ” ในขณะที่ฉินเหยี่ยนเย่ว์กำลังเสียดายอย่างไร้ที่สิ้นสุดนั้น ลูกแกะตัวหนึ่งก็ได้วิ่งมาจากที่ไกล ๆลูกแกะได้วิ่งผ่านหน้าซูเตี่ยนฉิงไป จากนั้นก็ฉวยโอกาสดีดขาหลังออกไปกีบเท้าแกะกวาดโดนซูเตี่ยนฉิง ซูเตี่ยนฉิงที่ยังยืนไม่มั่นคงถูกลูกแกะรบกวนเ
ฉินเหยี่ยนเย่ว์มองซูเตี่ยนฉิงดิ้นรนด้วยความเจ็บปวดด้วยสายตาเย็นชา ก่อนหลุบตาลงปลาทรายแดงครีบทองทั่วไปมีพิษไม่มากต่อให้ถูกกัด อย่างมากสุดก็เป็นผื่นแดง ร่างกายชาไปสักพัก ไม่มีอันตรายร้ายแรงใด ๆ ทว่า นี่จำกัดเฉพาะปลาทรายแดงครีบทองทั่วไปเท่านั้นปลาทรายแดงครีบทองมีนิสัยพิเศษ เมื่อถึงฤดูหนาวก็จะจำศีลพ
“ไม่เป็นอะไรเพคะ นางสัมผัสไม่โดนหม่อมฉันเลยด้วยซ้ำ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เหลือบตามองใบหน้าหล่อเหลาของเขา “พี่เจ็ด ท่านเคยเห็นกรรมตามสนองหรือไม่?”“หืม?”“หม่อมฉันคิดว่า วันนี้หม่อมฉันได้เห็นกรรมตามสนองกับตาตนเองแล้วเพคะ”เจตนาเดิมของนางคือทำให้ซูเตี่ยนฉิงตกลงไปในทะเลสาบเพื่อคลายร้อน ลิ้มลองรสชาติของการถูก
ตู้เหิงยิ้มแห้ง ๆ มือก็กำลังตบหัวสุนัข “สุนัขกับพี่ใหญ่เฮยตั้นก็อยากกลับแล้ว พวกเราอย่าได้ยืนนิ่งอยู่ที่นี่อีกเลยพ่ะย่ะค่ะ”เขากล่าว ก่อนลดเสียงลงต่ำ “เถี่ยตั้น รีบเห่าสักสองครั้งเร็วเข้า พวกเราต้องปกป้องความรักของท่านอ๋องกับพระชายา ปกป้องเจ้าลูกลิงน้อยของจวนพวกเราเอาไว้ให้ได้”แม้ว่าเสียงของตู้เหิง
“ฉือเอ๋อ ข้าต้องกลับวังแล้ว ออกจากวังหลวงครั้งหน้าเกรงว่าคงจะอีกนาน เจ้าก็อยู่ในเมืองเหวินจิงอย่างสบายใจเถิด มีเรื่องอะไรข้าจะขอให้พระชายาอ๋องเจ็ดไปบอก”“พี่...” หลิวฉือแสบจมูกเดิมทีพวกเขาทำได้เพียงพบหน้า และพูดคุยกันเท่านั้นหากเป็นเพราะในลานด้านหลังเกิดเรื่องใหญ่ขึ้น ความสนใจของทุกคนจึงมุ่งไปที่พ
“ภายหลัง ตู้จ้งได้เจอกับหญิงม่ายคนหนึ่ง หญิงม่ายยังมีบุตรวัยสามขวบด้วยคนหนึ่ง” สายตาของเขาผินมองไปนอกหน้าต่าง “นั่นก็คือช่างปักคนนั้น เป็นเพราะเขาถูกหลอกมาหลายครั้ง ข้าถึงได้ฝากให้เจ้าช่วยสืบสักหน่อย”ฉินเหยี่ยนเย่ว์เอามือเท้าคาง นิ้วก็เคาะที่โต๊ะอย่างไม่เป็นจังหวะช่างปักคนนั้นหน้าตาหมดจด ใบหน้าดูใ
“พระชายาคิดว่าข้าโง่ เช่นนั้นข้าก็โง่” ตงฟางหลีฉวยจังหวะจุมพิตหน้าผากของนางก่อนจะได้ยินเสียงฝีเท้าดังขึ้นมาจากที่ไกล ๆตู้จ้งและตู้เหิงเกรงว่าคงจะมากันแล้วเขามุ่นหัวคิ้ว ประทับบนริมฝีปากของนางหนัก ๆ “ตู้จ้งจะมารายงานข่าว”“ต้องให้หม่อมฉันหลบหรือไม่?”ตงฟางหลีนัยน์ตาเป็นประกาย “อืม ข้าได้ให้คนตัดเย
“ท่านอธิบายให้หม่อมฉันฟังเสียดี ๆ!” ฉินเหยี่ยนเย่ว์หน้าบึ้งหันหน้าไปอีกทาง“ยามเช้าข้าให้เฝ่ยชุ่ยเอายาไปให้เจ้า เจ้าไม่ได้รับหรือ?” ตงฟางหลีผินใบหน้านางให้หันกลับมา เผชิญหน้ากับนาง “ข้าตั้งใจให้ลู่ซิวทำขึ้นมาในคืนเดียวเชียวนะ”ฉินเหยี่ยนเย่ว์ชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะนึกถึงขวดขนาดเล็กที่เฝ่ยชุ่ยมอบให้นาง
ฉินเหยี่ยนเย่ว์ได้ยินดังนั้นก็ถอนหายใจนิสัยของสองพี่น้องนี้ ช่างมีนิสัยตรงข้ามกันเสียจริงตงฟางหลีดื่มชาในถ้วยรวดเดียวหมดไอจากชาลอยบดบัง แสงดาวที่หว่างคิ้วน่ามองคู่นั้นประกายวับวาบยามที่ฉินเหยี่ยนเย่ว์เหลือบตาขึ้นมอง ได้เห็นแสงดาวในแววตาของตงฟางหลีเข้าพอดีแสงนั้นสองสว่าง ดั่งดวงดาวนับพันหมื่นดวง
“ข้าถูกใส่ร้าย” ตงฟางหลีชูมือขึ้น “อยู่ดี ๆ คิดไปถึงเรื่องพวกนั้นได้อย่างไรกัน? มิใช่ตกลงกันแล้วหรือว่าจะไม่เอาเรื่องเก่าขึ้นมาพูดอีก? เรื่องในอดีตเป็นความผิดของข้า มิใช่ว่าเจ้าลงโทษข้าไปแล้วหรือ? พวกเราปรับความเข้าใจกันแล้วมิใช่หรือ?”“ลงโทษแล้ว แล้วก็ทุบตีไปแล้ว แต่หม่อมฉันยังอารมณ์ไม่ดีอยู่เพคะ”
ในขณะนั้นเองภายในศาลาสูงที่ลานด้านหลังของตำหลังหมิงอวี้ฉินเหยี่ยนเย่ว์กำลังดื่มชาตรงข้ามตงฟางหลีเมื่อครู่หลังจากตู้เหิงมาเคาะประตูรายงาน และถูกตงฟางหลีไล่ออกไป นางที่เดิมมิได้หลับสนิทก็ได้ตื่นขึ้นมา เมื่อสอบถามอย่างละเอียด ถึงได้รู้ว่าฮูหยินซูมาขอพบนางนึกสงสัยอยู่บ้างว่าฮูหยินซูเอาของขวัญอะไรมา
“ขอร้องเจ้าอย่าทำเช่นนี้ ปล่อยซวงเอ๋อร์ลงเถิด”ตู้เหิงหาได้สนใจไม่ลมหนาวพัดมาหวีดหวิวกลิ่นอายสังหารบนร่างกายของเขาแผ่กำจายไปทั่วทุกทิศทาง และเลือนราง และมีแนวโน้มว่าจะขยายตัวออกไป ฮูหยินซูตกใจจนขาอ่อนยวบ นางกลัวว่าซูเตี่ยนซวงจะถูกบีบคอตายจริง ๆ จึงเดินเข้ามาดึงแขนของตู้เหิงตู้เหิงไม่ชอบให้สตรีส
ซูเตี่ยนซวงคิดจะวิ่งไปทางตำหนักหมิงอวี้“ท่านจะทำอะไร?” ตู้เหิงขวางนางไว้ กลิ่นอายบนร่างกายพลันเปลี่ยนเป็นเย็นยะเยือก “พระชายาไม่ต้อนรับแขก ท่านฟังภาษาคนไม่เข้าใจจริง ๆ หรือ?”“เจ้าสุนัขรับใช้หลีกไป” ซูเตี่ยนซวงถ่มน้ำลายใส่เขา “หากเจ้ากล้าขวางทางข้าอีก ข้าจะตีเจ้าให้ตายเสีย”“ท่านว่าอย่างไรนะ?”“ข้า
เมื่อเรื่องเกี่ยวพันกับชีวิตของบุตรสาว นางจำต้องถ่อมตนเข้าไว้ ทำได้เพียงกดเพลิงโทสะไว้ “องครักษ์ตู้ บุตรสาวคนเล็กไม่รู้จักความ ล่วงเกินที่ใดไปก็ขออภัยให้ด้วย ข้าขอโทษเจ้าแทนบุตรสาวคนเล็กด้วย”“ท่านแม่ ไยท่านต้องไปขอโทษบ่าวรับใช้คนนี้ด้วย?” ซูเตี่ยนซวงไม่พอใจ “ท่านดูท่าทีนี้ของเขาสิเจ้าคะ ไม่เห็นพวกเ