เห็นได้ชัดว่านางอาลัยอาวรณ์สุนัขตัวนี้ในสถานการณ์ที่ไม่เอื้ออำนวย ปีศาจเฒ่าตระหนักจุดนี้เป็นอย่างดี และตอบโต้กลับมาประโยคที่ดูเหมือนลอยละล่องนั้น ชัดเจนว่าผ่านการไตร่ตรองมาอย่างดีโหดร้ายยิ่งนัก!“ไท่เฟยฉางแน่ใจหรือ?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์พยายามทำให้เสียงของตนสงบที่สุด เคลือบรอยยิ้มบนใบหน้า และสมองทำงาน
“เหลวไหล!” ไท่เฟยฉางตะโกนน้ำเสียงเฉียบขาด “นี่จะเป็นของปลอมได้อย่างไร! นี่เป็นกระถางธูปเคลือบหลิวหลีของแท้ที่อดีตฮ่องเต้พระราชทานให้ข้า เจ้าพูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร?”“ถ้าเป็นของจริง กระถางธูปเคลือบหลิวหลีนี้ที่ล้ำค่าเหลือล้น ก็ควรเก็บไว้ในที่ปลอดภัยเป็นอย่างดี เหตุใดถึงอยู่ในลานเรือนเล่าเพคะ?”
ฉินเหยี่ยนเย่ว์ตรวจดูของที่ถูกทำลายเบา ๆ และรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก“ไท่เฟยฉาง หม่อมฉันนับแล้ว ข้าวของเหล่านี้ที่เถี่ยตั้นทำเสียหาย ถึงแม้ว่าจะล้ำค่า กลับไม่ใช่สิ่งที่ทดแทนไม่ได้ และไม่ได้ทำลายข้าวของที่อดีตฮ่องเต้พระราชทานเสียหายด้วย ตามคำเดิมของพระองค์คือ ของที่อดีตฮ่องเต้พระราชทานเป็นสมบัติล้
เถี่ยตั้นยังก่อเรื่องได้ไม่หนำใจ และอยากจะวิ่งเข้าไปในลานเรือนต่อ แต่ฉินเหยี่ยนเย่ว์รีบคว้าตัวเอาไว้“โฮ่งโฮ่ง”เถี่ยตั้นดิ้นไม่หลุด จึงส่งเสียงเห่าอย่างสิ้นหวังไปทางเรือนด้านหลังไท่เฟยฉางรู้สึกหวาดระแวงอยู่แล้ว พอได้ยินเถี่ยตั้นส่งเสียงเห่าอย่างดุเดือด ก็ยิ่งรู้สึกหวาดกลัวสิ่งมีชีวิตอย่างสุนัขนั้
“ข้าไม่อยากเห็นสิ่งนั้น ช่วยข้า ช่วยข้าด้วย ข้าจะหาคนที่มีดวงชะตาสอดคล้องกับข้าภายในเวลาสั้นที่สุดได้แน่นอน”ป้าผิงนิ่งไม่ไหวติงบนใบหน้าที่ดูคล้ายกับหน้าปลอมนั้นเผยสีหน้าแปลกประหลาดออกมาครั้นนางจับจ้องไท่เฟยฉางที่อยู่ในอาการหวาดกลัวครู่ใหญ่ ก็ได้ใช้เสียงกลแหบพร่าพูดต่อไป “นับจากวันนี้เป็นต้นไป ท่า
หนาว!น้ำเย็นจัดที่ไหลเข้าจมูกและลำคอนั้น ทำเอาไม่สามารถหายใจได้ในทันทีฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันรู้สึกได้ว่า ศีรษะของนางกำลังถูกใครบางคนกดเอาไว้ทำให้มิอาจลุกออกมาจากน้ำเย็นได้ในระหว่างที่นางกำลังดิ้นทุรนทุรายอยู่นั้น ฉินเหยี่ยนเย่ว์พลางเห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มชั่วร้ายผ่านคลื่นน้ำที่กระจายไปมาได้ใน
“เฮ้อ พูดถึงโจโฉโจโฉก็มาหา” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เอ่ยขึ้นมาด้วยสีหน้าที่เย็นชาท่านอ๋องสามในความทรงจำของเจ้าของเดิมนั้น เป็นบุรุษเจ้าชู้โดยแท้ฉินเหยี่ยนเย่ว์จึงลุกขึ้นมาสวมใส่เสื้อผ้า พร้อมทั้งเป่าผมให้แห้งอย่างลวก ๆเดิมทีร่างกายนี้ยังอ่อนแอมากนัก แม้ว่าจักจะอาบน้ำต้มยาเพื่อขับไล่ความหนาวเย็นออกไปแล้วก
“ยังมิเหมาะที่จะด่วนสรุปในตอนนี้?” นัยน์ตาของท่านอ๋องสามพลันฉายแววเคร่งขรึมมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งมองฉินเหยี่ยนเย่ว์ด้วยหางตา “มีคนเห็นว่าเจ้าเตะเสวี่ยเอ๋อร์ลงไป เจ้ายังกล้าที่จะปฏิเสธอีกหรือ?”“หม่อมฉันมิเคยคิดที่จะปฏิเสธเพคะ”ฉินเหยี่ยนเย่ว์พลางยืนตัวตรง ทั้งน้ำเสียงและนัยน์ตาที่สื่อออกมาหาได้มีท่าที
“ข้าไม่อยากเห็นสิ่งนั้น ช่วยข้า ช่วยข้าด้วย ข้าจะหาคนที่มีดวงชะตาสอดคล้องกับข้าภายในเวลาสั้นที่สุดได้แน่นอน”ป้าผิงนิ่งไม่ไหวติงบนใบหน้าที่ดูคล้ายกับหน้าปลอมนั้นเผยสีหน้าแปลกประหลาดออกมาครั้นนางจับจ้องไท่เฟยฉางที่อยู่ในอาการหวาดกลัวครู่ใหญ่ ก็ได้ใช้เสียงกลแหบพร่าพูดต่อไป “นับจากวันนี้เป็นต้นไป ท่า
เถี่ยตั้นยังก่อเรื่องได้ไม่หนำใจ และอยากจะวิ่งเข้าไปในลานเรือนต่อ แต่ฉินเหยี่ยนเย่ว์รีบคว้าตัวเอาไว้“โฮ่งโฮ่ง”เถี่ยตั้นดิ้นไม่หลุด จึงส่งเสียงเห่าอย่างสิ้นหวังไปทางเรือนด้านหลังไท่เฟยฉางรู้สึกหวาดระแวงอยู่แล้ว พอได้ยินเถี่ยตั้นส่งเสียงเห่าอย่างดุเดือด ก็ยิ่งรู้สึกหวาดกลัวสิ่งมีชีวิตอย่างสุนัขนั้
ฉินเหยี่ยนเย่ว์ตรวจดูของที่ถูกทำลายเบา ๆ และรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก“ไท่เฟยฉาง หม่อมฉันนับแล้ว ข้าวของเหล่านี้ที่เถี่ยตั้นทำเสียหาย ถึงแม้ว่าจะล้ำค่า กลับไม่ใช่สิ่งที่ทดแทนไม่ได้ และไม่ได้ทำลายข้าวของที่อดีตฮ่องเต้พระราชทานเสียหายด้วย ตามคำเดิมของพระองค์คือ ของที่อดีตฮ่องเต้พระราชทานเป็นสมบัติล้
“เหลวไหล!” ไท่เฟยฉางตะโกนน้ำเสียงเฉียบขาด “นี่จะเป็นของปลอมได้อย่างไร! นี่เป็นกระถางธูปเคลือบหลิวหลีของแท้ที่อดีตฮ่องเต้พระราชทานให้ข้า เจ้าพูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร?”“ถ้าเป็นของจริง กระถางธูปเคลือบหลิวหลีนี้ที่ล้ำค่าเหลือล้น ก็ควรเก็บไว้ในที่ปลอดภัยเป็นอย่างดี เหตุใดถึงอยู่ในลานเรือนเล่าเพคะ?”
เห็นได้ชัดว่านางอาลัยอาวรณ์สุนัขตัวนี้ในสถานการณ์ที่ไม่เอื้ออำนวย ปีศาจเฒ่าตระหนักจุดนี้เป็นอย่างดี และตอบโต้กลับมาประโยคที่ดูเหมือนลอยละล่องนั้น ชัดเจนว่าผ่านการไตร่ตรองมาอย่างดีโหดร้ายยิ่งนัก!“ไท่เฟยฉางแน่ใจหรือ?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์พยายามทำให้เสียงของตนสงบที่สุด เคลือบรอยยิ้มบนใบหน้า และสมองทำงาน
ทิศทางที่กลิ่นเน่าของศพโชยมา คือจุดที่สุนัขส่งเสียงร้องดังลั่นนั่นเองในฤดูเหมันต์ ความเร็วที่ศพจะเน่าเปื่อยนั้นค่อนข้างช้าตามอุณหภูมิของชั้นดินเยือกแข็งและกลิ่นเน่าที่กำจายออกมา สามารถแยกแยะได้ว่า เวลาเสียชีวิตอยู่ที่สองเดือนโดยประมาณครั้นพิจารณาจากท่าทีที่เปลี่ยนไปอย่างมากของไท่เฟยฉางแล้ว ความเป
ฉินเหยี่ยนเย่ว์กดถูกใจให้ไท่เฟยฉางในใจอย่างเงียบ ๆไท่เฟยฉางกล่างถูกแล้ว นางจงใจมาก่อปัญหาจริง ๆ“ไท่เฟยฉาง พระองค์กำลังตรัสถึงเรื่องอะไรหรือ?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ทำหน้าเหมือนดอกบัวขาวบริสุทธิ์ไร้เดียงสา ใบหน้าเต็มไปด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ กระตุกจมูกสองครั้ง ราวกับน้อยใจใหญ่หลวง “ไท่เฟยฉางต้องตรัสเพียงนี
ไท่เฟยฉางโกรธมากนางจ้องฉินเหยี่ยนเย่ว์ พลางขบกรามแน่น “ฉินเหยี่ยนเย่ว์ เจ้ามาทำอะไรที่นี่?”“อ๋า?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ปรบมือ และโค้งคำนับขอโทษ “เป็นเช่นนี้เพคะ สุนัขของหม่อมฉันตกใจตื่นกลัวจนหลุดจากเชือกแล้ววิ่งหนีไป หม่อมฉันจึงรีบไล่ตาม ไล่ตามอยู่นานมากก็ตามไม่ทัน เห็นมันวิ่งมาถึงที่นี่ก็หายไปอย่างไร้ร
“ฉากกั้นน้ำของข้า” ไท่เฟยฉางรู้สึกเจ็บปวดใจอย่างยิ่งเพล้ง!“เครื่องเคลือบลายครามของข้า”ตึง!“คันฉ่องเปลี่ยนอาภรณ์ของข้า!”“ใครก็ได้ มานี่เร็วเข้า” ไท่เฟยฉางเฝ้าดูของหายากในเรือนถูกสุนัขชนพังเป็นชิ้น ๆ ในใจมีเลือดซึมหยดขอบตาของนางแดงก่ำ “ใครก็ได้ รีบมาตีสัตว์ร้ายตัวนี้ให้ตายเสีย”“สุนัขตัวนี้มาจาก