นางมองฉินเหยี่ยนเย่ว์อย่างไม่อยากเชื่อ น้ำตาไหลทะลักลงมา “เหยี่ยนเย่ว์ เจ้า เจ้าหมายความว่า...”“ข้าคือพี่สาวที่เด็กคนนั้นต้องการตามหาหรือ?” นางต้องใช้เรี่ยวแรงเป็นอย่างมากถึงจะพูดประโยคนี้ออกมาได้“สวรรค์ จะมีเรื่องบังเอิญเช่นนี้ได้อย่างไร” พระสนมเหยาไม่รอให้นางตอบคำถาม ก็ร้องไห้สะอึกสะอื้นนางกุมใ
สถานการณ์วุ่นวายเหลือคณาแมวที่เชื่องในยามปกติกลับมีขนตั้งชัน พลางส่งเสียงขู่ฟ่ออย่างดุร้ายวัวที่นิสัยอ่อนไหว ก้มหัวลง ดันเขาไปข้างหน้าบางตัวกระโดดไปอยู่ข้างพระสนมเหยา และที่เหลือส่วนใหญ่ล้อมรอบฉินเหยี่ยนเย่ว์และชื่อเจี้ยนทั้งตัวโตตัวเล็ก ล้วนแต่มีท่าทางดุร้าย มีเสียงขู่เตือนดังออกมาจากในลำคอ“บ้
ทุกครั้งที่ตื่นขึ้นมา นางกลับลืมสิ้นทุกสิ่งทุกอย่างในขณะเดียวกัน กลับเสมือนการตื่นรู้ คำสามคำว่าหลิ่วชีชี และน้ำเสียงกังวลยังคงก้องอยู่ในหูฉินเหยี่ยนเย่ว์ผ่อนลมหายใจออกพระสนมเหยาสามารถเอ่ยชื่อหลิ่วชีชีนี้ออกมาได้ ภาพเหมือนก็ตรงกัน ดังนั้นเรื่องนี้จึงได้สิ้นสุดลงแล้วหลังจากห่างหายกันไปนานกว่ายี่ส
ฉินเหยี่ยนเย่ว์พูดไม่ออก “ข้าไม่สนใจที่จะเอาตัวเองเป็นอาหารแลกซื้อให้โก่วตั้นกินหรอกนะ ข้าแค่อยากใช้งานมัน”ชื่อเจี้ยนยิ่งพูดไม่ออก “แม้ว่าเสือจะเป็นแมวตัวใหญ่ แต่ก็เป็นสัตว์กินเนื้อนะเพคะ พระนาง พระองค์โปรดเลิกคิดเรื่องนี้เสียเถอะ ทันทีที่พระองค์เข้าใกล้ มันจะถือว่าพระองค์เป็นของว่าง”“...มันไม่เข้
“วางใจได้ ข้าจะส่งเจ้ากลับมาเร็ว ๆ ” นางเคาะจมูกแมวดำแมวดำเมินนาง ถูหัวกับตัวนาง และหาตำแหน่งที่สบายแล้วซุกตัวนอนลงไปอุ้งเท้าน้อยกดหน้าอกของนางอย่างแรง และแสดงความรังเกียจอีกครั้ง“...จึ๊ เจ้าแมว” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ลูบหัวของมันแค่แมวหนึ่งตัว ทำหน้ารังเกียจก็ช่างเถอะ ยังจะเอาเปรียบคนด้วยหรือ?“เฮยตั้
หนาว!น้ำเย็นจัดที่ไหลเข้าจมูกและลำคอนั้น ทำเอาไม่สามารถหายใจได้ในทันทีฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันรู้สึกได้ว่า ศีรษะของนางกำลังถูกใครบางคนกดเอาไว้ทำให้มิอาจลุกออกมาจากน้ำเย็นได้ในระหว่างที่นางกำลังดิ้นทุรนทุรายอยู่นั้น ฉินเหยี่ยนเย่ว์พลางเห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มชั่วร้ายผ่านคลื่นน้ำที่กระจายไปมาได้ใน
“เฮ้อ พูดถึงโจโฉโจโฉก็มาหา” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เอ่ยขึ้นมาด้วยสีหน้าที่เย็นชาท่านอ๋องสามในความทรงจำของเจ้าของเดิมนั้น เป็นบุรุษเจ้าชู้โดยแท้ฉินเหยี่ยนเย่ว์จึงลุกขึ้นมาสวมใส่เสื้อผ้า พร้อมทั้งเป่าผมให้แห้งอย่างลวก ๆเดิมทีร่างกายนี้ยังอ่อนแอมากนัก แม้ว่าจักจะอาบน้ำต้มยาเพื่อขับไล่ความหนาวเย็นออกไปแล้วก
“ยังมิเหมาะที่จะด่วนสรุปในตอนนี้?” นัยน์ตาของท่านอ๋องสามพลันฉายแววเคร่งขรึมมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งมองฉินเหยี่ยนเย่ว์ด้วยหางตา “มีคนเห็นว่าเจ้าเตะเสวี่ยเอ๋อร์ลงไป เจ้ายังกล้าที่จะปฏิเสธอีกหรือ?”“หม่อมฉันมิเคยคิดที่จะปฏิเสธเพคะ”ฉินเหยี่ยนเย่ว์พลางยืนตัวตรง ทั้งน้ำเสียงและนัยน์ตาที่สื่อออกมาหาได้มีท่าที
“วางใจได้ ข้าจะส่งเจ้ากลับมาเร็ว ๆ ” นางเคาะจมูกแมวดำแมวดำเมินนาง ถูหัวกับตัวนาง และหาตำแหน่งที่สบายแล้วซุกตัวนอนลงไปอุ้งเท้าน้อยกดหน้าอกของนางอย่างแรง และแสดงความรังเกียจอีกครั้ง“...จึ๊ เจ้าแมว” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ลูบหัวของมันแค่แมวหนึ่งตัว ทำหน้ารังเกียจก็ช่างเถอะ ยังจะเอาเปรียบคนด้วยหรือ?“เฮยตั้
ฉินเหยี่ยนเย่ว์พูดไม่ออก “ข้าไม่สนใจที่จะเอาตัวเองเป็นอาหารแลกซื้อให้โก่วตั้นกินหรอกนะ ข้าแค่อยากใช้งานมัน”ชื่อเจี้ยนยิ่งพูดไม่ออก “แม้ว่าเสือจะเป็นแมวตัวใหญ่ แต่ก็เป็นสัตว์กินเนื้อนะเพคะ พระนาง พระองค์โปรดเลิกคิดเรื่องนี้เสียเถอะ ทันทีที่พระองค์เข้าใกล้ มันจะถือว่าพระองค์เป็นของว่าง”“...มันไม่เข้
ทุกครั้งที่ตื่นขึ้นมา นางกลับลืมสิ้นทุกสิ่งทุกอย่างในขณะเดียวกัน กลับเสมือนการตื่นรู้ คำสามคำว่าหลิ่วชีชี และน้ำเสียงกังวลยังคงก้องอยู่ในหูฉินเหยี่ยนเย่ว์ผ่อนลมหายใจออกพระสนมเหยาสามารถเอ่ยชื่อหลิ่วชีชีนี้ออกมาได้ ภาพเหมือนก็ตรงกัน ดังนั้นเรื่องนี้จึงได้สิ้นสุดลงแล้วหลังจากห่างหายกันไปนานกว่ายี่ส
สถานการณ์วุ่นวายเหลือคณาแมวที่เชื่องในยามปกติกลับมีขนตั้งชัน พลางส่งเสียงขู่ฟ่ออย่างดุร้ายวัวที่นิสัยอ่อนไหว ก้มหัวลง ดันเขาไปข้างหน้าบางตัวกระโดดไปอยู่ข้างพระสนมเหยา และที่เหลือส่วนใหญ่ล้อมรอบฉินเหยี่ยนเย่ว์และชื่อเจี้ยนทั้งตัวโตตัวเล็ก ล้วนแต่มีท่าทางดุร้าย มีเสียงขู่เตือนดังออกมาจากในลำคอ“บ้
นางมองฉินเหยี่ยนเย่ว์อย่างไม่อยากเชื่อ น้ำตาไหลทะลักลงมา “เหยี่ยนเย่ว์ เจ้า เจ้าหมายความว่า...”“ข้าคือพี่สาวที่เด็กคนนั้นต้องการตามหาหรือ?” นางต้องใช้เรี่ยวแรงเป็นอย่างมากถึงจะพูดประโยคนี้ออกมาได้“สวรรค์ จะมีเรื่องบังเอิญเช่นนี้ได้อย่างไร” พระสนมเหยาไม่รอให้นางตอบคำถาม ก็ร้องไห้สะอึกสะอื้นนางกุมใ
พระสนเหยาขวดคิ้วหากัน ที่หว่างคิ้วเต็มไปด้วยความเศร้าโศกนางจับจ้องภาพวาดอยู่เนิ่นนาน ถึงได้วางภาพลงข้าง ๆ ก่อนสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เอ่ยถามขึ้น “คนวาดภาพนี้เป็นใคร?”“เป็นนักวาดภาพคนหนึ่งของพี่เจ็ด” ฉินเหยี่ยนเย่ว์พูดตัดบท “สนมเหยา แม้ข้าจะรู้ว่าท่านเจ็บปวดมาก ทว่า นี่เป็นเรื่องใหญ่มากจริง ๆ...”“ทั
ครั้นเห็นนางวิ่งหอบแฮกแฮกเข้ามา พลันเลิกคิ้วขึ้นน้อย ๆ “เหยี่ยนเย่ว์ ท่าทางเร่งรีบ เกิดอะไรขึ้นอย่างนั้นหรือ?”หลังจากฉินเหยี่ยนเย่ว์เห็นพระสนมเหยาที่เป็นที่โปรดปราณของสวรรค์ จิตใจพลันผ่อนคลายลงทันทีบุตรีสวรรค์อยู่ที่นี่ ของเละเทะวุ่นวายอะไรนั่นล้วนต้องถอยกลับไป“ข้ามาดูดซับโชคดีสักหน่อย” นางทรุดกา
“ของอะไร?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ตัวสั่นโดยไม่รู้ตัว“จีอู๋เยียน?”“ท่านพูดมาให้ชัดเจนสิ”จีอู๋เยียนเดินออกไปไกลแล้ว เสียงก็เลือนหายไปด้วยเช่นเดียวกัน“บ้าจริง!” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ห่อไหล่ ลอบสบถคำหยาบออกมาหนึ่งคำจีอู๋เยียนไม่พูดคำพูดนั้นออกมายังดี หลังจากพูดออกมาแล้ว นางมักจะรู้สึกจั๊กจี้อยู่ในใจในห้องจะมีข
จีอู๋เยียนยังคงมีกลิ่นอายสังหารลอยวนเวียนอยู่ร่างกายกลิ่นอายสังหารนั้นแตกต่างจากกลิ่นอายสังหารทั่วไป คล้ายกับว่ามีกระบี่แหลมคมจำนวนนับไม่ถ้วนออกมาจากร่างของเขา บริเวณโดยรอบเงียบสงัดราวกับจักจั่นในหน้าหนาวสีหน้าฉินเหยี่ยนเย่ว์แปรเปลี่ยนไปเล็กน้อยถึงอย่างไรนี่ก็กำลังอยู่ในวังหลวงจีอู๋เยียนถึงกับปล