องครักษ์จื่ออวี๋ในยามนี้ตกอยู่ภายใต้การโจมตีจากทั้งสองด้านแล้วหลังจากที่เขาได้รับบาดเจ็บ สีหน้าย่ำแย่อย่างรวดเร็วบนกระบี่มีพิษ!ภายใต้ผลกระทบของพิษ สติขององครักษ์จื่ออวี๋พร่ามัวเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะรีบผนึกจุดฝังเข็มที่สำคัญหลายจุดจุดฝังเข็มถูกผนึกกะทันหัน และเมื่อเลือดลมพุ่งทะยานขึ้น เขาจึงกระอัก
ฉินเหยี่ยนเย่ว์รู้สึกว่าเถาวัลย์โลหิตถูกคนตัดออกไป ร่างกายเบาขึ้นดูเหมือนมีคนตบใบหน้านางอย่างแรงคนผู้นั้นยังคงพูดอะไรบางอย่างร้อนใจด้วยเสียงที่ห่างไกลฟื้นคืนกลับมาทีละน้อย และสมองที่ค้างเติ่งว่างเปล่าก็เริ่มต้นใหม่เช่นกัน“สาวน้อย ตื่นได้แล้ว”ฉินเหยี่ยนเย่ว์มองไปยังแหล่งที่มาของเสียงด้านหน้า ใบ
หลังจากที่ป้าหวนออกคำสั่ง ทุกคนต่างรวมตัวกันรอบฉินเหยี่ยนเย่ว์และเฟิ่งหลีกระบี่ยาวหอบลมปะทะมา ทั้งหมดโจมตีลงมาที่พวกเขาฉินเหยี่ยนเย่ว์ไม่เคยพบเจอเรื่องเช่นนี้มาก่อนครั้งก่อนที่ถูกคนของอีกาดำโจมตี อีกาดำตัวนั้นไม่ได้เห็นนางอยู่ในสายตาเลย และการเคลื่อนไหวของฝ่ามือช่างเชื่องช้ายิ่งนัก นางหลบหนีได้ภา
“เหยี่ยนเย่ว์!”ในตอนที่ฉินเหยี่ยนเย่ว์คิดว่าตนกำลังจะตาย สุ้มเสียงที่เป็นกังวลก็ดังขึ้น“เหยี่ยนเย่ว์ เจ้าเป็นไรหรือไม่?”“ยัยหนู เจ้าห้ามเป็นอะไรเด็ดขาดนะ”เสียงหนึ่ง ตอนแรกฟังดูเหมือนมาจากมิติอันไกลโพ้น ยากที่จะได้ยินชัดเจนแต่แล้วเสียงนั้นดังขึ้นเรื่อย ๆ อย่างช้า ๆผ่านชั้นสีเลือด ขจัดความกลัว ข
ไม่รอให้ฉินเหยี่ยนเย่ว์ตอบกลับ ตงฟางหลีก็เตะเขาออกไป“ตงฟางหลี ท่านทำอะไรน่ะ?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ตกใจเฟิ่งหลีใกล้จะตายอยู่แล้ว ถูกตงฟางหลีกระทำอย่างโหดเหี้ยมเช่นนี้ ไหนเลยจะรับไหว?นางรีบคว้าเฟิ่งหลีเอาไว้ และวางมือที่สั่นเทาบนข้อมือของเขาเกราะเม่นอ่อนของเฟิ่งหลีที่มอบให้นาง ช่วยป้องกันการโจมตีส่วนให
“หากบุรุษผู้นี้มิใช่เฟิ่งหลี ข้าจะสับเขาเป็นชิ้น ๆ แน่นอน” ตงฟางหลีพูดแล้วหยิบขวดยาออกมาป้อนให้แก่เฟิ่งหลีฉินเหยี่ยนเย่ว์พูดไม่ออกแม้ว่าองครักษ์จื่ออวี๋จะไม่ใช่เฟิ่งหลี แต่เป็นคนอื่น นางก็ยังคงทำอย่างนั้นในสถานการณ์เช่นนั้นประเด็นความหึงหวงก็แปลกพิลึกเช่นเคย“ท่านป้อนอะไรให้ท่านพี่?” นางถาม“ยาถอ
“นี่” จีอู๋เยียนเก็บกระบี่เข้าฝัก แล้วพูดขึ้นเสียงเย็น “กองทัพที่ไม่เป็นโล้เป็นพายเก็บกวาดหมดแล้ว คนผู้นี้จะจัดการเช่นไร?”เขาชี้ไปที่ป้าหวนซึ่งดูใบหน้าซีดเซียวป้าหวนตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกะทันหันนี้มากจนพูดไม่ออกนางมองลูกน้องของนางที่ล้มลงอยู่บนพื้น ดวงตาเบิกโพล่งปรมาจารย์ชั้นยอดหลายสิบคน ใ
ป้าหวนฝืนร่างกายตนถอยหลังไปสองสามก้าว และกระอักเลือดออกมาสองสามคำ“พวกท่าน!” หลังจากที่จิตใจของป้าหวนสับสนวุ่นวาย จึงเต็มไปด้วยช่องโหว่ นางถูกตงฟางหลีโจมตี และชีพจรหัวใจก็ได้รับผลกระทบเลือดลมชี่สูบฉีดพุ่งสูงขึ้น ชีพจรหัวใจถูกจำกัด และลมหายใจผิดปกติเมื่อรู้ว่านางไม่สามารถเอาชนะพวกเขาได้ จึงยัดยาคลั
“เป็นไปได้หรือไม่ว่า คนที่ใช้วิธีการโหดร้ายเช่นนี้ทำร้ายเจ้าคือฉินเสวี่ยเย่ว์?” ตงฟางหลีถามคนที่เกลียดยัยหนูเข้ากระดูกไม่ได้มีมากมาย และฉินเสวี่ยเย่ว์ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในนั้นจุดหนึ่งที่สำคัญที่สุด คือฉินเสวี่ยเย่ว์มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับหมิ่นจูที่ผิดแผกคนนั้นและในการสืบสวนของเขา หมิ่นจูเองก็มีควา
“เป็นผู้ใด?” ตงฟางหลีถามฉินเหยี่ยนเย่ว์ถอนหายใจลึก ๆ มือกำแขนเสื้อแน่นบนจดหมายที่นกกางเขนเงาส่งมา เป็นเรื่องที่นางไหว้วานให้พระชายาอ๋องเฉียนสืบสวนจริง ๆบนจดหมายไม่ได้มีเพียงข้อมูลที่เกี่ยวกับงูเพลิงแดงเท่านั้น พอเหมาะพอเจาะกับที่ยังมีข่าวของงูสวรรค์สีดำสนิทอีกด้วย!งูสวรรค์สีดำสนิทและงูเพลิงแดงสี
“พิษร้ายแรง?” ตงฟางหลีขมวดคิ้ว “เมื่อครู่ท่านมิใช่บอกว่าไม่รู้เรื่องพิษหรืออย่างไร?”“ข้าคร้านจะบอกเจ้าเท่านั้นเอง” ลู่จิ้นกลอกตาใส่ตงฟางหลี“ศิษย์น้องหญิง เจ้าอย่ากังวลเลย สิ่งนั้นถูกข้าจับไว้ได้แล้ว อยู่ตรงนี้” เขาโบกขวดกระเบื้องในมือไปมา“เหตุใดงูสวรรค์ถึงได้ปรากฏตัวที่นี่?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์สับสน
มือของฉินเหยี่ยนเย่ว์ตกลงบนหัวของเฮยตั้นพลางถอนหายใจลึก“หม่อมฉันไม่เป็นไรเพคะ พวกท่านไม่ต้องกังวล”“จะไม่เป็นไรได้อย่างไร? เมื่อครู่ข้าตกใจแทบตาย” ตงฟางหลียังคงหวาดผวาอยู่ในใจ“หม่อมฉันไม่เป็นไรจริง ๆ ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ยกมือขึ้น สัมผัสแก้มซีดขาวของตงฟางหลีท่าทีของชายผู้นี้ผิดปกติแม้ว่าใบหน้าของเขา
ความโกรธของตงฟางหลียิ่งมากขึ้นเขาระงับอารมณ์หุนหันพลันแล่นที่จะทุบหัวของลู่จิ้นสักหมัด ถามด้วยเสียงทุ้มลึก “เหยียนเย่ว์ อาการเป็นอย่างไรบ้าง?"“ยังไหว”“ยังไหว หมายความว่าอย่างไร?” ตงฟางหลียังคงหวาดกลัวกับเหตุการณ์น่าหวาดผวาเมื่อครู่นั้น ครั้นได้ยินคำตอบส่งเดชของลู่จิ้น จึงอดไม่ได้ที่จะขึ้นเสียง“ค
หลังจากที่เฮยตั้นปล่อยของสิ่งนั้นออก ของสิ่งนั้นก็หนีออกไปด้วยการยืดและหดตัว“เหมียว” เฮยตั้นเห็นว่ามันจะหลบหนี จึงกระโจนไปตะครุบใส่ และกัดส่วนหัวของมันอย่างรุนแรงฉีกทึ้งอย่างแรง และของสิ่งนั้นก็แยกออกเป็นสองท่อนหลังถูกแยกออกเป็นสองท่อนแล้ว ยังคงเคลื่อนไหวอยู่เฮยตั้นชะงักไปชั่วขณะ อุ้งเท้าทั้งสอง
น้ำเสียงนั้นราวกับกำลังบอกว่า...ไว้หน้าแล้วไม่รู้จักรับ!หลังจากนั้น กรงเล็บก็ตวัดมาทางเขาหลังจากอุ้งเท้าของมันเคลื่อนออก เจ้าสิ่งมีชีวิตที่คล้ายกับเส้นผมตัวนั้นก็คิดจะหลบหนี“เมี้ยว!” เฮยตั้นไม่สนใจสั่งสอนตงฟางหลีทาสผู้โง่เขลาคนนี้อีกมันกระโจนเข้าไปอย่างดุดัน และตบของสิ่งนั้นอย่างรุนแรง ก่อนจะใช้
เงาดำสายหนึ่งกระโดดเข้ามาจากทางประตูร่างกายอวบอ้วนที่แข็งแรงประหนึ่งบินเข้ามา มาถึงตรงหน้าฉินเหยี่ยนเย่ว์ในพริบตา“เมี้ยว”เฮยตั้นกระโดดขึ้นบนศีรษะของนางอย่างรวดเร็วและรุนแรง ร่างกายปิดดวงตาของฉินเหยี่ยนเย่ว์ ขาหลังเกือบจะปิดแก้มของนางกรงเล็บหน้าขยุ้มผมนางเมื่อการมองเห็นของฉินเหยี่ยนเย่ว์ถูกบดบัง
อาการปวดศีรษะจนยากจะทนรับไหวถาโถมเข้ามาไม่หยุดราวกับมีเข็มจำนวนนับไม่ถ้วนทิ่มแทงที่ศีรษะ เป็นความรู้สึกอันน่าหวาดกลัวที่ไม่เคยประสบมาก่อนเวลาผ่านไปเพียงชั่วพริบตา เหงื่อเม็ดโตก็ไหลพรากอาภรณ์เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อเช่นกันนางทนรับความเจ็บปวดเช่นนั้นไม่ไหว น้ำตาจึงไหลลงมาอย่างยากจะต้านทานร้องไห้สะอึ