เมื่อคุณหนูหยูหงลี่ได้ยินเรื่องที่เขาต่อว่า นางก็ทำหน้างงงันจนลืมไปว่าขณะนี้กายของตนเองนั้นเปลือยเปล่าไม่มีสิ่งใดปกปิดเลยแม้แต่น้อย นางโมโหที่อยู่ๆเขาก็มาต่อว่าเรื่องที่นางไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วยเลย จึงได้เถียงเขาคอเป็นเอ็น “ ท่านอ๋องแปด หม่อมฉันมิได้รู้เรื่องอันใดเลยนะเพคะ หม่อมฉันว่ายน้ำอยู่ดีๆพระองค์ก็มาต่อว่าหม่อมฉัน ”
อ๋องหนุ่มยกยิ้มเหยียดอย่างจะเยาะหยันนาง “ หญิงแพศยา ทำเรื่องต่ำช้าวางยาบุรุษแล้วยังหน้าซื่อ บอกว่าไม่รู้เรื่องอีกหรือ หากหญิงร้ายกาจเช่นเจ้าไม่ได้ทำ แล้วจะมีผู้ใดทำได้เล่า คงอยากจะได้เปิ่นหวางเป็นสามีจนตัวสั่น ถึงกับกล้าทำเรื่องเช่นนี้ ”
อ๋องหนุ่มยังคงต่อว่านางเขาไม่เชื่ออย่างเด็ดขาดว่าหงลี่ไม่ได้ทำเรื่องนี้ อดีตคุณหนูผู้ร้ายกาจจนคนลือที่ผ่านมานางก็ทำเรื่องวุ่นวายหลายเรื่องก็จริงอยู่ แต่คราวนี้นางไม่ได้ทำอะไรเลย ก็แค่วางแผนการณ์ไว้เท่านั้นแต่ก็ยังไม่ได้ลงมือทำสิ่งใด เขาจะมาโทษนางเช่่นนี้ไม่ได้
“ เอ๊ะ !! ท่านอ๋องพูดไม่รู้เรื่องหรืออย่างไร หม่อมฉันก็บอกอยู่นี่ว่าไม่ได้ทำ ไม่ได้ทำ ก็ยังจะมากล่าวหากันอีก ”
อ๋องหนุ่มจ้องมองใบหน้าหวานที่บึ้งตึงขึ้นไม่น้อย นางยังกล้าเถียงเขาฉอด ๆ อีกว่าไม่ได้ทำ คำพูดต่อว่าคงจะทำอะไรหญิงแพศยาเช่นนางไม่ได้ คงจะต้องให้บทเรียนกับนางเสียบ้าง ว่าคุณหนูในห้องหออย่างนางคิดจะตอแยบุรุษจนน่าเกลียดเช่นนี้มันไม่เหมาะสม แถมยังต่ำช้าถึงกับวางยาปลุกกำหนัดเขา ในเมื่อนางรนหาที่เอง ก็คงจะต้องจัดการลงโทษนางเสียบ้าง ให้รู้สำนึก เมื่อคิดได้ดังนั้นอ๋องหนุ่มจึงไม่ได้ถกเถียงกับนางต่อให้เสียเวลา มือหนาเอื้อมไปดึงร่างอวบที่เปลือยเปล่าของนางเข้ามาจนชิดอกแกร่งของเขา
“ เปิ่นหวางจะทำให้เจ้ารู้ว่า รสชาติของบุรุษท่ี่เจ้าอยากจะได้นักหนานั้นเป็นเช่นไร ” เมื่อพูดจบเขาก็ประกบจูบนางทันที ปากจิ้มลิ้มที่กำลังจะอ้าปากเถียงเขานั้นถูกลิ้นสากของอ๋องหนุ่มสอดเข้าไปควานหาความหวานของปากนางทันที
เมื่อลิ้นสากของอ๋องหนุ่มเข้าไปในปากอวบอิ่มของนางสำเร็จ เขารู้สึกพึงใจไม่น้อย ปากของนางหวานล้ำเหลือเกิน เขารู้สึกชื่นชอบมันนัก และเมื่อลิ้นสากพบลิ้นเล็กของนางก็ตรงเข้าเกี่ยวพันมันอย่างดูดดื่มทันที หงลี่พยายามเบือนหน้าหนีใบหน้าหล่อเหลาอย่างร้ายกาจที่นางเคยหลงรักเขามากมาย
แต่บัดนี้นางพยายามอย่างมากที่จะดิ้นหนีให้พ้นลิ้นสากของเขาที่มันยังเกีี่ยวพันลิ้นเล็กของนางอย่างรุนแรง แต่มือหนาของอ๋องหนุ่มจับศีรษะเล็กของนางเอาไว้มั่น แล้วจูบนางอย่างดูดดื่มเขารู้สึกพึงใจรสหวานของปากจิ้มลิ้มของนางจึงจูบนางอยู่นานจากจูบที่รุนแรงอย่างจะสั่งสอนกลายเป็นจูบเร่าร้อนและเว้าวอนนางไม่น้อยเลย
คุณหนูหยูหงลี่เหมือนรู้สึกว่าในช่องท้องของนางนั้นมีผีเสื้อบินอยู่นับร้อยนับพัน นางรู้สึกว่าร่างกายเหมือนลอยได้ มันเบาสบายและเป็นสุขยิ่งนัก นางจึงปล่อยตัวปล่อยใจไปกับจูบที่เร่าร้อนของอ๋องหนุ่มที่บัดนี้ปล่อยมือหนาจากศีรษะของนางแล้วเปลี่ยนมาลูบไล้ไปจนทั่วร่างอวบขาวผ่องที่มองเห็นได้ชัดในแสงจันทร์กระจ่างนี้
หงลี่แหงนหงายใบหน้าไปด้านหลังเมื่ออ๋องหนุ่มถอนจูบของเขาจากปากจิ้มลิ้มของนางแล้ว ซุกไซร้ใบหน้าคมไปตามลำคอระหงของนาง เขาทั้งจูบทั้งเลียไล้มันจนทั่ว ทั้งขบเม้มทำรอยไว้อย่างเช่นไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาต้องจะฝากรอยรักเอาไว้จนทั่วไปหมด
เมื่อซุกไซร้ลำคอระหงขาวผ่องที่มีกลิ่นหอมอ่อนจนพอใจ จึงได้ไล้เลียต่อมาจนถึงอกอวบใหญ่ที่มันกำลังปริ่มน้ำอยู่ มันล่อหูล่อตาเขาเหลือเกิน จึงได้ยกร่างอวบของนางขึ้นบนโขดหินด้านหลังพวกเขา จนร่างอวบของนางพ้นจากน้ำมาครึ่งตัว ยิ่งส่งผลให้อกอวบใหญ่ที่มันสั้นระริกนั้นปรากฎชัดแก่สายตาของอ๋องหนุ่ม เขาหายใจเข้าอย่างแรง สายตาจ้องมองอกอวบของนางอย่างกระหาย เขาจ้องมองผลอิงเถาที่สั่นระริกนั้นจนทนไม่ไหวอีกต่อไป จึงได้อ้าปากครอบมันแล้วดูดดึงมันอย่างรุนแรง เขาทั้งดูดทั้งเลียไล้มันทั้งสองข้างไปมา จนกระทั่งผลอิงเถานั้นแข็งเป็นไต
เขาดูดมันอย่างเอร็ดอร่อยยิ่งนัก ปานทารกที่ดูดดื่มนมของมารดา “ อ๊าย อ๊า ไม่นะ ไม่เอาไม่ อย่านะ ท่านอ๋อง ไม่ อ๊าา อ๊าย อ๊ะ อ๊าาา ” เมื่อปากอุ่นและลิ้นที่ร้อนชื้นของเขาสัมผัสกับผลอิงเถาของนาง หงลี่เสียวซ่านจนแทบขาดใจ นางแอ่นอกอวบไปมา แม้ใจพยายามจะห้ามปรามเขาและบอกตนเองให้หนีเขาไปให้เร็วที่สุด แต่ร่างกายมันกลับยอมสยบ ยอมให้ลิ้นสากนั้นไล้เลียผลอิงเถานั้นอย่างถนัดถนี่ด้วยการแอ่นอกอวบขึ้นหาปากและลิ้นที่ร้อนชื้นของเขา นางแอ่นอกจนหลังแทบจะโค้ง แอ่นให้เขาทั้งดูดทั้งเลียนาง มือบางก็กดศีรษะของเขาลงจนชิดอกอวบใหญ่ที่นางกำลังแอ่นอกเพื่อป้อนใส่ปากของเขาอยู่ความรู้สึกนี้ไม่เคยเลย ไม่เคยรู้สึกมาก่อน แต่หงลี่พบว่ามันสุขสมเหลือเกิน หรือนี่คือการเริงรักระหว่างสามีภรรยามันสุขเช่นนี้เองหรือ นางรำพึงในใจ
อ๋องหนุ่มที่ค้นพบความหวานจากอกอวบใหญ่ของนาง เขาทั้งฟอนเฟ้นมันไปมาทั้งสองเต้า มันอวบใหญ่เต็มไม้เต็มมือของเขาเหลือเกิน นางร้ายกาจ แต่เขาชักจะติดใจหญิงร้ายกาจเช่นนางเสียแล้ว ยิ่งดูดยิ่งติดใจ เขาจึงทั้งดูดทั้งเลีย ทั้งบีบบี้มันและนางเองก็ครวญครางปานจะขาดใจและแอ่นอกขึ้นหาเขาอย่างร่านร้อนเหลือเกิน อ๋องหนุ่มยกยิ้มที่มุมปากนี่หรือที่บอกว่าไม่รู้เรื่องอันใด ร่านรักเช่นนี้ คงจะสมใจนางแล้วที่จะได้ตกเป็นของเขา
มือหนาของเขาเลื่อนลงมาจากอกอวบใหญ่ของนางลงมา ควานหาจนพบเนินอวบใหญ่ของนางแล้วบีบขยำเนินอวบที่เขาพบว่ามันช่างใหญ่เต็มมือของเขายิ่งนัก อาา !!! นางทำเขาติดใจเสียแล้ว อ๋องหนุ่มรำพึง แล้วบีบขยำเนินอวบของนางไปมา ขณะที่ร่างอวบนั่นก็ดิ้นพล่านอย่างเสียวซ่านเหลือเกิน นิ้วแกร่งของเขาสอดเข้าไปในร่องอวบของนางอย่างจะลองเชิง เขาสอดเข้าออกช้าแต่เพียงแค่เล็กน้อยแล้วปล่อยให้มันครูดกับเมล็ดดอกไม้ของนางไปมา
“ อ๊ายย อ๊า อ๊าา ข้าเสียวเหลือเกิน เสียว อ๊ายย ” หงลี่ทนไม่ไหวนางร้องครวญครางเสียงดังอย่างสิ้นความอับอายใดๆแล้ว เขาถูไถเมล็ดดอกไม้และปากทางเข้าของร่องอวบไปมา จนร่างคุณหนูผู้ร้ายกาจดิ้นพล่านอย่างเสียวซ่านเกินจะทน อ๋องหนุ่มจึงได้สอดนิ้วแกร่งของเขาเข้าไปจนมิดด้าม แล้วชักเข้าออกเป็นจังหวะช้าๆ จนกระทั่งเร่งความเร็วกระแทกร่องอวบของนางอย่างรุนแรง “ อ๊าย อ๊า อ๊า อ๊า ท่านอ๋อง ได้โปรด รักข้า รักข้า เอามันเข้ามา อ๊ายย อ๊าา อ๊าา ”
คุณหนูหยูร้องครวญครางปานจะขาดใจ นางทั้งเจ็บทั้งแสบทั้งเสียวจนแทบจะทนต่อไปไม่ไหวแล้ว เขาเล้าโลมจนนางแทบจะเป็นบ้า อยากจะให้เขาช่วยนาง นางรู้ว่าเขาช่วยนางได้ “อ๊า อ๊าา ท่านอ๋อง รักข้า อ๊า อ๊า อ๊าา อ๊าา ” สะโพกอวบของหงลี่กระตุกเกร็งหลาย ๆ ครั้งแล้วปล่อยน้ำรักออกมาอย่างมากมาย นางสุขสมเหลือเกิน แล้วร่างอวบก็อ่อนระทวยลง
อ๋องหนุ่มประคองร่างอวบไว้ในอ้อมแขน เขาจ้องมองขณะที่นางโยกสะโพกอวบรับนิ้วแกร่งของเขาที่กระแทกนางเข้าออกอย่างรุนแรงและเร่งความเร็วจนกระทั่งสะโพกอวบของนางกระตุกเกร็งแล้วปลดปล่อยน้ำรักออกมาอย่างมากมาย นางสุขสมให้เขาเห็น ตอนที่นางปลดปล่อยตนเองไปตามอารมณ์ราคะที่เพิ่มขึ้นสูงจนหลงลืมความอับอายไปจนสิ้น นางร่าน นางร้อนถึงใจเขายิ่งนัก ยิ่งทำให้อ๋องหนุ่มอารมณ์เตลิดจนกู่ไม่กลับเขายกเจ้าลูกชายที่ตอนนี้ขยายใหญ่จนพองเกือบจะเต็มที่แล้ว หัวบานของมันมีน้ำรักปริ่มจนไหลยืดออกมาด้วยเขารู้สึกเสียวยิ่งนัก ยิ่งเห็นนางร่านร้อนเช่นนี้ทำอารมณ์เขาเตลิดไปหมด เขาค่อยๆสอดเจ้าลูกชายตาเดียวของเขาเข้าไปในร่องอวบของคุณหนูหยูหงลี่ช้าๆ เขารู้ว่าแม้นางจะร่านร้อนถูกอกถูกใจเขาเหลือเกิน แต่นางยังไม่เคยชาย ร่องอวบของนางนั้นยังคับแน่นจนมันตอดรัดนิ้วแกร่งของเขาจนเจ็บ แต่เขาก็ทนต่อไปไม่ไหวแล้ว อยากจะรักนางแทบจะขาดใจ หากวันนี้เขาไม่ได้กระแทกนางเขาต้องขาดใจอย่างแน่นอน อ๋องหนุ่มไม่สนใจแล้วว่านางจะร้ายกาจ หรือเขาจะรังเกียจไม่อยากจะได้นางเป็นชายา เขารู้ดีว่าหากเขากระแทกนางจนสมใจของเขาในวันนี้แล้วจะต้องรับนางเป็นเมียอย่างแน่นอนคงจะหล
เมื่อเดินมาถึงด้านหน้า พบมีบ่าวไพร่อีกไม่กี่คนกำลังช่วยเก็บกวาดข้าวของที่เกือบจะเสร็จเรียบร้อยแล้ว อ๋องหนุ่มจึงได้เดินออกไปที่ประตูจวนแล้วเดินออกไปมองหารถม้าของตนเองที่จอดหลบมุมอยู่ องครักษ์ที่รีรอนายของตนอยู่ไม่ไกลรีบวิ่งมาหา “ ท่านอ๋องหายไปไหนมาพะยะคะ ทั้งงานวุ่นวายตามหาบุตรีของเสนาบดีหยูเห็นว่านางหายไป และพอดีท่านอ๋องก็หายไปด้วย แต่ท่านเสนาบดีเกิดนึกขึ้นมาได้ว่าบุตรสาวขออนุญาติออกไปเดินเล่นเพราะนางรู้สึกไม่ค่อยสบายจึงคิดว่านางอาจจะกลับไปกับสหายคนใดของนางก็เป็นได้ จึงได้รีบกลับจวนไปตามหานางพะยะคะ ส่วนท่านอ๋องที่หายไปเหมือนกันแต่องค์ชายสามบอกว่าท่านอ๋องติดราชกิจด่วนเพิ่งจะออกไป จึงได้รอดพ้นข้อสงสัยว่าท่านอ๋องจะหายไปกับคุณหนูหยู แต่.. ” องครักษ์หนุ่มชะงักไป เขาหยุดวาจาที่กำลังรายงานนายของตนแล้วก้มลงมองร่างอวบของคุณหนูหยูที่อยู่ในอ้อมแขนของเจ้านายของเขา คล้ายดังกับว่านางและท่านอ๋องหายไปด้วยกันสองต่อสองเกือบสองชั่วยาม องครักษ์หนุ่มไม่อยากจะคิดเรื่องต่อจากนี้ จึงได้แต่ทำหน้าอิหลักอิเหลื่อแต่ไม่กล้าปริปากออกไปอย่างที่ใจคิด “ ไม่ต้องพูดมาก รีบกลับตำหนักกันก่อนดึกมากแล้ว ” เขาเอ่ยขัดจัง
คุณหนูหยูหงลี่วางแผนการณ์มานับเดือนเพื่อต้องการเผด็จศึกท่านอ๋องแปดซีเฉินอี้ให้ได้ เพราะนางหลงรักเขามานานปีแล้วแต่เขาก็มิเคยสนใจใยดีนาง ทุ่มเทติดตามเขา หากท่านอ๋องแปดไปงานเลี้ยงที่ใด นางมักจะไปเสมอพยายามไปวนเวียนข้างๆเขาไม่ห่าง หาโอกาสสนทนากับเขาแม้จะดูออกว่าเขาก็มิอยากจะสนทนากับนางเลย ถามคำก็มักจะตอบคำหรือทำเป็นไม่ได้ยิน และพยายามหลีกหนีไปทันทีเมื่อมีโอกาสแต่หงลี่ที่ถือคติตื้อเท่านั้นที่ได้ครอง ขุนเขาสูงเพียงใดหากเรามุ่งมั่นก็ย่อมมีวันไปถึง จึงได้ไม่เคยละความพยายามนางหาโอกาสไปพบเขาเสมอ คอยกีดกันคุณหนูจวนอื่นๆไม่ให้ใกล้ชิดกับเขาได้ง่ายๆ บางครั้งถึงกับตบตีกันแต่นางก็ไม่เคยหวั่น จนเรื่องที่นางและคุณหนูผู้มีความมุ่งมั่นดังเช่นนางและคาดว่าคงจะถือคติเดียวกันนั้น มักจะปะทะกันเสมอเมื่อพบหน้ากัน ทั้งในงานเลี้ยงที่มีท่่านอ๋องแปดอยู่ด้วย หรืองานเลี้ยงนั้น หรือสถานที่นั้นไม่มีร่างของเขาปรากฎเลยก็ตามเมื่อสตรีที่มีความมุ่งหมายเดียวกันคือตำแหน่งพระชายาของท่านอ๋องแปดซีเฉินอี้ผู้นี้มาพบกัน หากที่ร้ายกาจพอสูสีก็จะปะทะกันอย่างไม่เกรงกลัวคำครหา ทุ่มเทความพยายามจะจับปลาใหญ่ตัวนี้ให้ได้ แต่ที่เขินอายและอ
เมื่อคุณหนูหยูคิดสรุปกับตนเองได้เช่นนี้แล้ว จึงได้ยกเลิกแผนการณ์ที่จะพิชิตอ๋องหนุ่มในวันนี้ลง “ ท่านพ่อเจ้าคะ ลูกขอออกไปเดินเล่นสักหน่อย คงจะกินอิ่มมากจนเกินไปเจ้าคะ รู้สึกอึดอัดเหลือเกิน ” นางเอ่ยบอกบิดาของตน ท่านเสนาบดีหยูพยักหน้า “ ถ้าเช่นนั้นก็ไปเถิด ไม่ต้องรีบร้อน เดินเล่นชมสวนที่จวนแม่ทัพใหญ่ก่อนก็ได้ หรือจะไปสนทนากับสหายวัยเดียวกันก็ได้ เพราะพ่อคงจะร่ำสุรากับสหายอีกนาน ” หงลี่หันไปรับคำบิดา “ เจ้าค่ะท่านพ่อ ” แล้วนางลุกขึ้นเดินออกไปจากที่นั่งของตนเองโดยที่มิได้เหลียวไปมองท่านอ๋องหนุ่มที่นางเคยหลงรักเขาอย่างมากมาย ด้านอ๋องหนุ่มเขามองตามหลังสตรีที่เคยมาวุ่นวายกับเขาจนเขาแสนจะรำคาญเหลือแสน วันนี้เขาจึงได้วางแผนเพื่อจะให้นางเห็นว่าเขามีใจให้สตรีอื่น นางจะได้เลิกวุ่นวายตามตอแยเขาเสียที เมื่อเขารู้ว่านางจับจ้องมองเขาอยู่ เขาจึงได้หันไปส่งสายตาให้กับคุณหนูกู้ฟางเซียนบุตรีท่านราชครูหลาย ๆ ครั้ง และแอบมองคุณหนูหยูหงลี่ไปด้วยว่านางจะเห็นสิ่งที่เขากำลังทำหรือไม่ แต่แล้วริมฝีปากหนาก็ยกยิ้มอย่างสมใจ เพราะเขาเห็นนางจ้องมองมาหลาย ๆ ครั้งเขาแน่ใจว่านางต้องเห็นแล้วว่าเขาส่งสายตาหวานฉ่ำให้กั
เมื่อเดินมาถึงด้านหน้า พบมีบ่าวไพร่อีกไม่กี่คนกำลังช่วยเก็บกวาดข้าวของที่เกือบจะเสร็จเรียบร้อยแล้ว อ๋องหนุ่มจึงได้เดินออกไปที่ประตูจวนแล้วเดินออกไปมองหารถม้าของตนเองที่จอดหลบมุมอยู่ องครักษ์ที่รีรอนายของตนอยู่ไม่ไกลรีบวิ่งมาหา “ ท่านอ๋องหายไปไหนมาพะยะคะ ทั้งงานวุ่นวายตามหาบุตรีของเสนาบดีหยูเห็นว่านางหายไป และพอดีท่านอ๋องก็หายไปด้วย แต่ท่านเสนาบดีเกิดนึกขึ้นมาได้ว่าบุตรสาวขออนุญาติออกไปเดินเล่นเพราะนางรู้สึกไม่ค่อยสบายจึงคิดว่านางอาจจะกลับไปกับสหายคนใดของนางก็เป็นได้ จึงได้รีบกลับจวนไปตามหานางพะยะคะ ส่วนท่านอ๋องที่หายไปเหมือนกันแต่องค์ชายสามบอกว่าท่านอ๋องติดราชกิจด่วนเพิ่งจะออกไป จึงได้รอดพ้นข้อสงสัยว่าท่านอ๋องจะหายไปกับคุณหนูหยู แต่.. ” องครักษ์หนุ่มชะงักไป เขาหยุดวาจาที่กำลังรายงานนายของตนแล้วก้มลงมองร่างอวบของคุณหนูหยูที่อยู่ในอ้อมแขนของเจ้านายของเขา คล้ายดังกับว่านางและท่านอ๋องหายไปด้วยกันสองต่อสองเกือบสองชั่วยาม องครักษ์หนุ่มไม่อยากจะคิดเรื่องต่อจากนี้ จึงได้แต่ทำหน้าอิหลักอิเหลื่อแต่ไม่กล้าปริปากออกไปอย่างที่ใจคิด “ ไม่ต้องพูดมาก รีบกลับตำหนักกันก่อนดึกมากแล้ว ” เขาเอ่ยขัดจัง
อ๋องหนุ่มประคองร่างอวบไว้ในอ้อมแขน เขาจ้องมองขณะที่นางโยกสะโพกอวบรับนิ้วแกร่งของเขาที่กระแทกนางเข้าออกอย่างรุนแรงและเร่งความเร็วจนกระทั่งสะโพกอวบของนางกระตุกเกร็งแล้วปลดปล่อยน้ำรักออกมาอย่างมากมาย นางสุขสมให้เขาเห็น ตอนที่นางปลดปล่อยตนเองไปตามอารมณ์ราคะที่เพิ่มขึ้นสูงจนหลงลืมความอับอายไปจนสิ้น นางร่าน นางร้อนถึงใจเขายิ่งนัก ยิ่งทำให้อ๋องหนุ่มอารมณ์เตลิดจนกู่ไม่กลับเขายกเจ้าลูกชายที่ตอนนี้ขยายใหญ่จนพองเกือบจะเต็มที่แล้ว หัวบานของมันมีน้ำรักปริ่มจนไหลยืดออกมาด้วยเขารู้สึกเสียวยิ่งนัก ยิ่งเห็นนางร่านร้อนเช่นนี้ทำอารมณ์เขาเตลิดไปหมด เขาค่อยๆสอดเจ้าลูกชายตาเดียวของเขาเข้าไปในร่องอวบของคุณหนูหยูหงลี่ช้าๆ เขารู้ว่าแม้นางจะร่านร้อนถูกอกถูกใจเขาเหลือเกิน แต่นางยังไม่เคยชาย ร่องอวบของนางนั้นยังคับแน่นจนมันตอดรัดนิ้วแกร่งของเขาจนเจ็บ แต่เขาก็ทนต่อไปไม่ไหวแล้ว อยากจะรักนางแทบจะขาดใจ หากวันนี้เขาไม่ได้กระแทกนางเขาต้องขาดใจอย่างแน่นอน อ๋องหนุ่มไม่สนใจแล้วว่านางจะร้ายกาจ หรือเขาจะรังเกียจไม่อยากจะได้นางเป็นชายา เขารู้ดีว่าหากเขากระแทกนางจนสมใจของเขาในวันนี้แล้วจะต้องรับนางเป็นเมียอย่างแน่นอนคงจะหล
เมื่อคุณหนูหยูหงลี่ได้ยินเรื่องที่เขาต่อว่า นางก็ทำหน้างงงันจนลืมไปว่าขณะนี้กายของตนเองนั้นเปลือยเปล่าไม่มีสิ่งใดปกปิดเลยแม้แต่น้อย นางโมโหที่อยู่ๆเขาก็มาต่อว่าเรื่องที่นางไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วยเลย จึงได้เถียงเขาคอเป็นเอ็น “ ท่านอ๋องแปด หม่อมฉันมิได้รู้เรื่องอันใดเลยนะเพคะ หม่อมฉันว่ายน้ำอยู่ดีๆพระองค์ก็มาต่อว่าหม่อมฉัน ”อ๋องหนุ่มยกยิ้มเหยียดอย่างจะเยาะหยันนาง “ หญิงแพศยา ทำเรื่องต่ำช้าวางยาบุรุษแล้วยังหน้าซื่อ บอกว่าไม่รู้เรื่องอีกหรือ หากหญิงร้ายกาจเช่นเจ้าไม่ได้ทำ แล้วจะมีผู้ใดทำได้เล่า คงอยากจะได้เปิ่นหวางเป็นสามีจนตัวสั่น ถึงกับกล้าทำเรื่องเช่นนี้ ”อ๋องหนุ่มยังคงต่อว่านางเขาไม่เชื่ออย่างเด็ดขาดว่าหงลี่ไม่ได้ทำเรื่องนี้ อดีตคุณหนูผู้ร้ายกาจจนคนลือที่ผ่านมานางก็ทำเรื่องวุ่นวายหลายเรื่องก็จริงอยู่ แต่คราวนี้นางไม่ได้ทำอะไรเลย ก็แค่วางแผนการณ์ไว้เท่านั้นแต่ก็ยังไม่ได้ลงมือทำสิ่งใด เขาจะมาโทษนางเช่่นนี้ไม่ได้ “ เอ๊ะ !! ท่านอ๋องพูดไม่รู้เรื่องหรืออย่างไร หม่อมฉันก็บอกอยู่นี่ว่าไม่ได้ทำ ไม่ได้ทำ ก็ยังจะมากล่าวหากันอีก ” อ๋องหนุ่มจ้องมองใบหน้าหวานที่บึ้งตึงขึ้นไม่น้อย นางยังกล้าเถี
เมื่อคุณหนูหยูคิดสรุปกับตนเองได้เช่นนี้แล้ว จึงได้ยกเลิกแผนการณ์ที่จะพิชิตอ๋องหนุ่มในวันนี้ลง “ ท่านพ่อเจ้าคะ ลูกขอออกไปเดินเล่นสักหน่อย คงจะกินอิ่มมากจนเกินไปเจ้าคะ รู้สึกอึดอัดเหลือเกิน ” นางเอ่ยบอกบิดาของตน ท่านเสนาบดีหยูพยักหน้า “ ถ้าเช่นนั้นก็ไปเถิด ไม่ต้องรีบร้อน เดินเล่นชมสวนที่จวนแม่ทัพใหญ่ก่อนก็ได้ หรือจะไปสนทนากับสหายวัยเดียวกันก็ได้ เพราะพ่อคงจะร่ำสุรากับสหายอีกนาน ” หงลี่หันไปรับคำบิดา “ เจ้าค่ะท่านพ่อ ” แล้วนางลุกขึ้นเดินออกไปจากที่นั่งของตนเองโดยที่มิได้เหลียวไปมองท่านอ๋องหนุ่มที่นางเคยหลงรักเขาอย่างมากมาย ด้านอ๋องหนุ่มเขามองตามหลังสตรีที่เคยมาวุ่นวายกับเขาจนเขาแสนจะรำคาญเหลือแสน วันนี้เขาจึงได้วางแผนเพื่อจะให้นางเห็นว่าเขามีใจให้สตรีอื่น นางจะได้เลิกวุ่นวายตามตอแยเขาเสียที เมื่อเขารู้ว่านางจับจ้องมองเขาอยู่ เขาจึงได้หันไปส่งสายตาให้กับคุณหนูกู้ฟางเซียนบุตรีท่านราชครูหลาย ๆ ครั้ง และแอบมองคุณหนูหยูหงลี่ไปด้วยว่านางจะเห็นสิ่งที่เขากำลังทำหรือไม่ แต่แล้วริมฝีปากหนาก็ยกยิ้มอย่างสมใจ เพราะเขาเห็นนางจ้องมองมาหลาย ๆ ครั้งเขาแน่ใจว่านางต้องเห็นแล้วว่าเขาส่งสายตาหวานฉ่ำให้กั
คุณหนูหยูหงลี่วางแผนการณ์มานับเดือนเพื่อต้องการเผด็จศึกท่านอ๋องแปดซีเฉินอี้ให้ได้ เพราะนางหลงรักเขามานานปีแล้วแต่เขาก็มิเคยสนใจใยดีนาง ทุ่มเทติดตามเขา หากท่านอ๋องแปดไปงานเลี้ยงที่ใด นางมักจะไปเสมอพยายามไปวนเวียนข้างๆเขาไม่ห่าง หาโอกาสสนทนากับเขาแม้จะดูออกว่าเขาก็มิอยากจะสนทนากับนางเลย ถามคำก็มักจะตอบคำหรือทำเป็นไม่ได้ยิน และพยายามหลีกหนีไปทันทีเมื่อมีโอกาสแต่หงลี่ที่ถือคติตื้อเท่านั้นที่ได้ครอง ขุนเขาสูงเพียงใดหากเรามุ่งมั่นก็ย่อมมีวันไปถึง จึงได้ไม่เคยละความพยายามนางหาโอกาสไปพบเขาเสมอ คอยกีดกันคุณหนูจวนอื่นๆไม่ให้ใกล้ชิดกับเขาได้ง่ายๆ บางครั้งถึงกับตบตีกันแต่นางก็ไม่เคยหวั่น จนเรื่องที่นางและคุณหนูผู้มีความมุ่งมั่นดังเช่นนางและคาดว่าคงจะถือคติเดียวกันนั้น มักจะปะทะกันเสมอเมื่อพบหน้ากัน ทั้งในงานเลี้ยงที่มีท่่านอ๋องแปดอยู่ด้วย หรืองานเลี้ยงนั้น หรือสถานที่นั้นไม่มีร่างของเขาปรากฎเลยก็ตามเมื่อสตรีที่มีความมุ่งหมายเดียวกันคือตำแหน่งพระชายาของท่านอ๋องแปดซีเฉินอี้ผู้นี้มาพบกัน หากที่ร้ายกาจพอสูสีก็จะปะทะกันอย่างไม่เกรงกลัวคำครหา ทุ่มเทความพยายามจะจับปลาใหญ่ตัวนี้ให้ได้ แต่ที่เขินอายและอ