รองเจ้ากรมเดินตามเกี้ยว ยังคงหัวเราะอย่างได้ใจไม่หยุด“ใต้เท้า เกรงว่าเจ้าอ๋องเฉินนั่นจะได้รับบาดเจ็บสาหัส คงจะหายได้ยาก มีรัชทายาทคอยคุ้มครอง แม้ว่าเขาจะบาดเจ็บ ก็ไม่กล้าทำอะไรพวกเราหรอก พวกเราต้องไปเยี่ยมคนแพ้ที่จวนอ๋องเฉินหรือไม่?”ด้านในเกี้ยว น้ำเสียงของชายหนุ่มเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม“ถ้าหากเขาเห็นว่าข้ากำลังกระโดดโลดเต้นต่อหน้าเขา ลมหายใจเฮือกสุดท้ายที่ยังเหลืออยู่ ไม่แน่ว่าถ้าได้เห็นข้า อาจจะโมโหจนตายไปเลยก็ได้...เอ่อ!”น้ำเสียงหยุดชะงักลงกะทันหัน“ฮ่า ๆ ๆ!” รองเจ้ากรมไม่สังเกตเห็นถึงรายละเอียดนี้ ยังคงหมกมุ่นอยู่ในเรื่องที่เอาชนะอ๋องเฉินได้ หัวเราะเสียงดังอย่างได้ใจ จนปากแทบจะฉีกไปถึงรูหู“ฮ่า ๆ ๆ! ใต้เท้าช่างมีจิตใจเมตตา ฮ่า ๆ ๆ!”“ใต้เท้า ข้าคิดว่า...”เขากำลังพูดเสียงเจื้อยแจ้วด้านในเกี้ยว กลับไม่มีเสียงตอบรับไม่มีใครมองเห็นด้านในเกี้ยว ชายวัยกลางคนที่เดิมทีนั่งตัวตรงตอนนี้แขนขาทั้งสี่ข้างกางออก ล้มอยู่บนพื้น หัวโผล่ออกมาด้านนอกอีกด้านอย่างไร้เรี่ยวแรง เลือดไหลออกมาจากมุมปากแท่งน้ำแข็งแท่งหนึ่งแทงทะลุหัวใจมาจากทางด้านหลัง เมื่อสัมผัสกับอุณหภูมิของร่างกาย แท่ง
ฉู่เชียนหลีค่อย ๆ ยกมือข้างขวาขึ้น ฝ่ามือหงายขึ้นด้านบนแล้วแบออก ถามขึ้นอย่างกะทันหัน“นี่คือ?”หานเฟิง “?”แน่นอนว่าต้องเป็นมือสิ!ยังไม่ต้องพูดถึงว่า มือของพระชายาสวยงามมาก เล็ก ๆ นิ้วมือทุกนิ้วเรียวยาวมาก ขาวสะอาดราวกับต้นหอม แม้แต่กระดูกข้อนิ้วก็สมบูรณ์แบบจนไร้คำบรรยายแต่ว่าที่พระชายาถามไม่ใช่คำพูดเหลวไหลหรอกหรือ?หรือว่ามีความหมายอื่นแฝงอยู่?เขาเกาหัว มองซ้ายมองขวา มองบนมองล่าง ก็สะอาดหมดจด ไม่มีตำหนิ ถามอย่างอดสงสัยไม่ได้“พระชายา หรือว่ามือของท่านมีอะไรอย่างนั้นหรือ?”นางพยักหน้า กล่าว “เลือด”“?”เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าสะอาดมาก ไม่มีแม้แต่ไฝสักเม็ด มีเลือดที่ไหนกัน?!ฉู่เชียนหลีหลุบดวงตาลงเล็กน้อย แต่กลับมีความซับซ้อนไหลล้นออกมานางเป็นหมอ ฝีมือทางการรักษายอดเยี่ยม สองชั่วชีวิตได้ช่วยผู้คนเอาไว้มากมาย แต่ไม่เคยฆ่าคนมาก่อน วันนี้เป็นครั้งแรกเมื่อก่อน มือนางเปื้อนไปด้วยเลือด ล้วนเป็นเลือดที่ช่วยชีวิตคนให้รอดพ้นจากการบาดเจ็บล้มตายวันนี้...เป็นครั้งแรก...ดูเหมือนว่าในฐานะที่เป็นหมอ ก็ควรจะช่วยเหลือทุกคน ปฏิบัติตามจรรยาบรรณวิชาชีพแต่ความรู้สึกของการฆ่าคนเหมือนว่าจ
เขาผู้เป็นพี่ใหญ่ มาเยี่ยมน้องชายด้วยความหวังดีแต่ดวงตาของฉู่เชียนหลีกลับเต็มไปด้วยความเย็นชาเห็นได้ชัดว่าเขาเป็นคนแอบจัดการ ร่วมมือกับเจ้ากรมคลังทำร้ายเฟิงเย่เสวียนจนได้รับบาดเจ็บ ตอนนี้กลับมาเสแสร้งร้องไห้เสียใจ ชายหนุ่มที่แสดงละครช่างน่าสะอิดสะเอียนเสียยิ่งกว่าดอกบัวสีขาวเสแสร้ง!นางแสยะยิ้มบาง ๆ “ขอบคุณรัชทายาทที่เป็นห่วง อ๋องเฉินมีเพียงแค่แผลถลอกเท่านั้น ไม่เป็นอะไรมาก”“งั้นหรือ?”เฟิงเจิ้งอวี้เลิกคิ้วเหลือบตา กวาดสายตามองภายในห้องรอบหนึ่ง ถงเฟยอยู่ภายในห้องด้วย พุ่งตัวไปด้านหน้าเตียง ร้องไห้จนตาแดง เป็นเพียงแค่แผลถลอกอย่างนั้นหรือ?อวดดีเขายกเท้าขึ้น เดินเข้าไปในห้องทันใดนั้นฉู่เชียนหลีก็ยกมือขึ้นขวาง “อ๋องเฉินกำลังพักผ่อน ไม่ควรให้คนไปรบกวนมากเกินไป ก่อนหน้านี้อ๋องเฟิง อ๋องติ้ง อ๋องหลีพวกเขาก็มาเยี่ยมเช่นกัน แต่ไม่ได้เข้าไปในห้อง”เมื่อเฟิงเจิ้งอวี้ได้ยินดังนั้น รอยยิ้มในดวงตาก็ล้ำลึกมากกว่าเดิมขวางเอาไว้ไม่ให้พบ ดูท่า อาการน่าจะสาหัสมากเลยสิท่าไม่เข้าก็ไม่เข้า ถึงอย่างไร ภายในใจเขาก็ย่อมรู้ดี“โชคดีที่พระชายาอ๋องเฉินมีฝีมือการรักษา สามารถรักษาน้องเจ็ดได้ท
สีหน้าของเซียวจือฮว่าชะงักไปเล็กน้อย ทั้งสองข้างที่ยื่นออกมาแข็งทื่ออยู่กลางอากาศ จะเก็บกลับไปก็ไม่ใช่ วางลงก็ไม่ใช่ ขายหน้ายิ่งหานอิ๋งเดินอ้อมนาง มาถึงที่ตรงด้านหน้าเตียง ตักยาที่ยังร้อนกรุ่นขึ้นมาช้อนหนึ่งแล้วเป่า หลังจากลงให้เย็นลงหน่อย ก็ยื่นไปใกล้ริมฝีปากของชายหนุ่มอย่างระวังถงเฟยเห็นดังนั้น หว่างคิ้วก็ขมวดเข้าหากันทันทีเซียวจือฮว่าไม่มีสิทธิ์ปรนนิบัติอ๋องเฉิน หานอิ๋งมีสิทธิ์อย่างนั้นหรือ?ทันทีที่หันหน้ากลับไปมองอีกครั้ง ก็เห็นฉู่เชียนหลียืนอยู่ด้านนอก พับแขนเสื้อแล้วกำลังจะเดินจากไปนางรีบพุ่งตัวออกไปด้านนอกเอ่ยปาก “เชียนหลี สามีที่รักของเจ้ากำลังรอเจ้าไปป้อนยาอยู่น่ะ เจ้าเดินผิดทางแล้ว!”ฉู่เชียนหลี “?”นางยังโมโหอยู่นะ!ช่วยชีวิตเขากลับมาได้ ทั้งหมดเป็นเพราะเชื่อฟังหัวใจ ฝืนอารมณ์ แต่นางยังคงโมโหอยู่จริง ๆ ในเมื่อเขาไม่ได้มีอันตรายถึงแก่ชีวิตแล้ว ยังจำเป็นต้องให้นางปรนนิบัติที่ไหนกัน?ป้อนยา?มือขวาก็พอมือของใครไม่ใช่มือ เหตุใดต้องเป็นมือของนางด้วย?นางหันหลังกลับมา กล่าวกับในห้อง “เสด็จแม่ ข้าจะไปจัดยาให้เขา”พูดจบ กำลังจะเดินไป“ข้าไปเอง!” ถงเฟยรีบลุกขึ้น
ฉู่เชียนหลี “...”อายุยี่สิบกว่าแล้ว ยังไม่กินยา?สายตาที่เหลือบมองชายหนุ่มแฝงไปด้วยท่าทีรังเกียจพร้อมขมวดคิ้วท่าทางที่ดื้อรั้นยิ่ง เมื่อคิดถึงคำพูดที่แล้งน้ำใจเหล่านั้นก่อนหน้านี้ของเขา ในใจก็มีเพลิงโทสะลุกโชนขึ้นมาทันใดนั้น สายตาล้ำลึก เจตนาร้ายฉายแววออกมา“เยว่เอ๋อร์ ไปเอาช้อนแกงมา”เยว่เอ๋อร์ตอบรับ ไปหยิบมาด้วยความรวดเร็วฉู่เชียนหลีโยนช้อนยาเล็กทิ้ง เปลี่ยนเป็นช้อนใหญ่ ตักยาสีดำสนิทขึ้นมาหนึ่งช้อนใหญ่ช้า ๆ บีบปากของชายหนุ่มให้อ้าออก แล้วเททั้งหมดลงไป“อ่อก!”ชายหนุ่มต่อต้านกำลังจะอ้วกออกมา มือของหญิงสาวรีบปิดคางของเขาทันที บีบจุดลมปราณบริเวณลำคอของเขา พยายามให้เขากลืนลงไปยาที่มีรสขมลงไปในท้อง ทำให้หว่างคิ้วของชายหนุ่มที่อยู่ในอาการหมดสติขมวดเข้าหากัน จนใบหน้าเหยเกฉู่เชียนหลีเห็นดังนั้น ยังไม่ทันจะได้สะใจก็รีบตักขึ้นมาอีกช้อน แล้วพยายามเทลงไป“อ่อก! อ่อก ๆ ...”ชายหนุ่มนอนอยู่บนเตียง บริเวณท้องบาดเจ็บ ทำให้ขยับเขยื้อนไม่ได้ มีเพียงแค่แขนขาทั้งสี่ข้างที่สั่นระริกกำลังพยายามดิ้นรนอย่างดื้อรั้น...เยว่เอ๋อร์ยืนอยู่ข้างเตียง เมื่อเห็นฉากนี้ ก็ตกใจจนใจสั่นท่านอ๋องเหม
เรื่องที่อ๋องเฉินได้รับบาดเจ็บกระจายออกไป ทำให้คนจำนวนไม่น้อยพากันวิพากษ์วิจารณ์ โดยทั้งด้วยความห่วงใย สงสัย และคาดเดา...เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เช้าวันใหม่ตลอดคืนนี้ ฉู่เชียนหลีเฝ้ามาตลอดทั้งคืน ชายหนุ่มบนเตียงกลับยังไม่มีทีท่าว่าจะฟื้นขึ้นมา อุณหภูมิของร่างกายเย็นขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากเสียเลือดมากเกินไป สมรรถภาพแต่ละด้านของร่างกายจึงลดลง ภูมิต้านทานลดต่ำลง กลัวหนาวเป็นอย่างยิ่งนางหอบผ้าห่มมาสองผืน ห่มลงไปบนร่างกายของเขา ผ้าห่มหนา ๆ ทับเขาจนกลายเป็นลูกแกะที่ดูซีดเซียวน่าสงสารไร้เรี่ยวแรงตัวหนึ่ง“พระชายา ทำแบบนี้ไม่ได้!”ด้านนอกประตู หานอิ๋งเห็นดังนั้น จึงรีบวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว “นายท่านบาดเจ็บบริเวณท้อง ทำเช่นนี้จะกดโดนแผล ถ้าหากกดทับจนบาดแผลเสียหาย ทำให้เลือดทะลักละก็จะยุ่งยาก!”ในขณะที่นางกำลังพูด ก็หอบผ้าห่มออกไปฉู่เชียนหลีขมวดคิ้ว ทันใดนั้นก็กล่าวเสียงดัง“หยุดก่อน!”เย็บบาดแผลแล้ว ไหมที่นางใช้เป็นไหมละลายที่ทันสมัยที่สุด และราคาแพงที่สุดของยุคสมัยใหม่ จะทำให้แผลเสียหายได้ง่ายขนาดนั้นเลยหรือ?แล้วก็หานอิ๋งผู้นี้ ด้วยตัวตนองครักษ์ลับของนาง เหมือนว่ายังไม่มีสิทธิ์ท
หลังจากนางเดินไป ฉู่เชียนหลีรีบอ้าปากเรียก “หานเฟิง!”ทันทีที่พูดจบ หานเฟิงรีบเดินพุ่งตัวเข้ามา คิดว่ามีเรื่องสำคัญอะไร แต่กลับได้ยินพระชายาถาม“ตั้งแต่หลังจากที่ท่านอ๋องกลับมาจากเมืองตงหนิง ก็เอาแต่เพ่งเล็งรัชทายาทมาโดยตลอด เหตุใดเขาถึงได้รีบร้อนลงมือขนาดนั้น?”จุดนี้ นางไม่สามารถเข้าใจได้ก่อนหน้านี้ ไม่ว่ารัชทายาทจะอวดดีอย่างไร เขาก็มักจะมีท่าทีโอบอ้อมอารี เห็นแก่ความสัมพันธ์ญาติพี่น้องเป็นอย่างยิ่งหานเฟิงกลับไม่รู้เรื่อง ‘ฆ่าลูกเหลือแม่ไว้’ เรื่องนี้มีเพียงหานอิ๋งกับเฟิงเย่เสวียนเท่านั้นที่รู้ เขาเกาหัว กล่าว“น่าจะเป็นเพราะรัชทายาททำเลยเถิดเกินไป”เขาพูดด้วยความโกรธ “พระชายา ตอนนั้นท่านป่วย อาจจะไม่ทราบ เรื่องโรคระบาดที่เมืองตงหนิง เป็นฝีมือของรัชทายาท!”กึก...ด้านนอกประตู ฝีเท้าของอวิ๋นอิงหยุดชะงักทันทีเป็นรัชทายาท...เรื่องโรคระบาด คาดไม่ถึงว่าจะเป็นฝีมือของรัชทายาท...เขาพลางแพร่โรคระบาด ทำร้ายบรรดาชาวบ้าน พลางแสร้งทำท่าทางเป็นคนดี มาช่วยเหลือชาวบ้าน มารดาของนางก็ตายด้วยเหตุนี้เช่นกัน...ที่แท้ก็เป็นเขา!ทันใดนั้นมือทั้งสองข้างที่กำลังยกถาดของสาวน้อยก็กำแน่น ดว
ถงเฟยสะอึกทีหนึ่งท่าทางดูมีเหตุผลมากเมื่อโดนปลอบโยนสำเร็จจึงนั่งลง เฟิงเจิ้งหลีลุกขึ้นยืน ซักถามอย่างเป็นห่วง “อาการของอ๋องเฉินเป็นอย่างไรบ้าง? ฟื้นแล้วหรือไม่? ข้าช่วยอะไรได้บ้างหรือไม่ ข้านำโสมคนสำหรับบำรุงเลือดมาด้วยหนึ่งต้น”เขาหยิบกล่องไม้สี่เหลี่ยมผืนผ้ากล่องหนึ่งออกมาจากด้านในแขนเสื้อ“ถึงแม้ว่าจะมูลค่าไม่มากมายนัก แต่หวังว่าจะสามารถช่วยเจ้าได้”ฉู่เชียนหลีเห็นดังนั้น ก็ใจอ่อนทันทีตลอดหลายปีมานี้ เดิมทีเขาก็มีชีวิตอยู่อย่างลำบากยากแค้น เป็นองค์ชายที่ไม่ได้รับความโปรดปราน ยังได้รับการข่มเหงรังแกอีกด้วย และราคาของโสมคนค่อนข้างแพง เขากลับมอบสิ่งของแบบนี้ออกมาให้ ได้แสดงความจริงใจมากแล้ว“ขอบคุณมาก! ขอบคุณมาก!” นางสองมือรับมา กล่าวขอบคุณอย่างจริงใจฉู่เจียวเจียวก็มาด้วยนางนั่งอยู่ข้างกายของเฟิงเจิ้งหลี เมื่อเห็นว่าอ๋องหลีให้ความสำคัญกับเรื่องของจวนอ๋องเฉินมากขนาดนี้ ทันทีที่จวนอ๋องเฉินมีความเคลื่อนไหวอะไร เขามักจะเป็นคนแรกที่มาที่นี่ก่อนเสมอ ยังมอบโสมคนของดีขนาดนี้ให้อีกด้วย ยากที่จะไม่ดีใจถ้าหากความของอ๋องหลีกับอ๋องเฉินดี ยังพอเข้าใจได้แต่ในมุมมองของนาง เหตุใดควา
นางเม้มมุมปาก อิจฉาเล็กน้อย นั่งเงียบๆ อยู่ที่ข้างๆ ละสายตาไปทางอื่นเขากล่อมน้องสาวครู่หนึ่ง รู้สึกถึงความเงียบของนาง จึงเงยหน้ามอง“ทำไม ไม่พอใจแล้ว?”“หึงแล้ว?”“...”เขาจี้จุดในประโยคเดียว“โตเป็นผู้ใหญ่เช่นนี้แล้ว ยังจะหึงกับลูกสาวของตัวเองอีก หรือข้าจะถูกปีศาจน้อยสองคนนี้แย่งไปได้?”“...”นี่ทำเหมือนนางดูปัญญาอ่อนมาก และจริงจังมาก?ฉู่เชียนหลีเบะปาก“เจ้าเห็นข้าเป็นใคร โลกทัศน์ของข้าแคบเช่นนั้นเลยหรือ?”“ใช่”“?”“ใครก็ได้!”เขาลุกขึ้นทันที ส่งน้องสาวที่เพิ่งกล่อมจนสงบให้แม่นม หมุนกายก็ไปอุ้มฉู่เชียนหลี อีกทั้งยังอุ้มในท่าแนวราบ เหมือนอุ้มเด็กคนหนึ่ง แต่คนที่เขาอุ้มคือทารกที่มีอายุมากแล้ว“ไม่หึงนะ ข้ารักเจ้าคนเดียว”“?”ฉู่เชียนหลีตั้งสติได้ก็เขินอายจนหน้าแดง จะขอลงทันที แม่นมยังดูอยู่ข้างๆ นะ คำพูดที่เขาพูดมัน…ก็ไม่อายเลย!“ปล่อยข้าลงไป”“ไม่ ทั้งๆ ที่เจ้าชอบให้ข้าทำเช่นนี้กับเจ้า ไม่ใช่ข้าวใหม่ปลามันอะไรเสียหน่อย ยังจะเขินอะไรอีก?”“!”ฉู่เชียนหลีหน้าแดง จ้องเขาอย่างอายจนโกรธ“รีบปล่อยข้าลงได้แล้ว ข้าจะหึงน้องสาวได้อย่างไร ข้าเปล่านะ! ข้าเห็นน้องสาวติดเ
ดังคำกล่าวที่ว่า จากกันนานชนะคู่ใหม่ปลามัน ไม่เจอกันสามเดือน คนสองคนที่คุ้นเคยแต่ก็ไม่คุ้นเคยกอดกันแน่น เปลวไฟนิรนามถูกจุดขึ้นในใจ เมื่อลุกท่วม ก็ร้อนแรงจนสะเทือนฟ้าสะเทือนบกอย่างไม่สามารถควบคุมหนึ่งจูบที่ลึกซึ้งแน่นแฟ้นลึกล้ำคิดถึงความรักเขากระหายจนอยากกลืนนางลงท้อง อยากแทะกระดูก กัดนาง กินนาง แม้แต่ลมหายใจของนางก็กลืนลงท้องนางเริ่มต้านทานไม่ไหว สมองที่ขาดอากาศว่างเปล่า สองมือยันอยู่บนหน้าอกเขา พยายามผลักออกเขาไม่ถอย กลับกันยิ่งทับแน่นขึ้นผ่านไปเนิ่นนานกลีบริมฝีปากแยกจากกันนางหอบหายใจอย่างหนัก แทบเป็นลมแล้ว แก้มทั้งสองข้างแดงฉาน แดงจนสะดุดตา แดงจนแสบตา แดงจนทำให้เขากระวนกระวายใจ ต้องการมากกว่านี้แต่เขากลับต้องอดกลั้นนางยังอยู่ในช่วงเพิ่งคลอด ภายในหนึ่งเดือนห้ามแตะต้องมีความต้องการแต่ไม่มีที่ลง ภายใต้สถานการณ์ที่หมดหนทาง เขากัดคอนาง สูดดมแรงๆ เหมือนดับความกระหาย“อาเฉิน เจ้าทำข้าเจ็บแล้ว…”เสียงตะโกนเบาๆ ดังเข้าไปในหูเฟิงเย่เสวียน มันคือการเสแสร้งเสียงที่อ่อนโยน มันคือการอ้อนก็เหมือนกับประกายไฟถูกลมพัด พริบตานั้นลุกท่วมร่างกายเฟิงเย่เสวียน เลือดในร่าง
อ๋องเฉินกลับมาแล้ว!เมื่อข่าวนี้แพร่กระจายออกไป ทั้งจวนอ๋องเฉินครึกครื้น ผ่านไปสามเดือนเต็มๆ ในที่สุดท่านอ๋องก็กลับมาแล้ว คนทั้งจวนวิ่งไปต้อนรับที่หน้าประตู“ท่านอ๋อง!”กลับมาแล้ว!ในที่สุด!ท่านอ๋องกลับมาแล้ว ทุกคนก็เหมือนได้เสาหลักกลับคืนมา มีที่พึ่งพิง มีความมั่นใจ แม้แต่เสียงพูดก็เปี่ยมไปด้วยพลังแล้ว“เฉินเอ๋อร์ เจ้ากลับมาแล้ว ปล่อยให้แม่คิดถึงตั้งนาน!” ถงเฟยดีใจจนร้องไห้คนอื่นก็เช่นกันเฟิงเย่เสวียนโอบเอวเล็กของฉู่เชียนหลีไว้ มองดูจวนที่คุ้นเคย ใบหน้าที่คุ้นเคย สิ่งเดียวที่คิดถึงในเวลานี้คือลูก!เมื่อเดินเข้าจวน ก็ตรงไปที่เรือนหานเฟิง เข้าไปในห้อง ก็มองเห็นเด็กสองคนที่นอนอยู่ในเปลโยกสองคน!พวกนางนอนด้วยกัน เพิ่งดื่มนมอิ่ม กำลังนอนหลับสนิทกำปั้นเล็กๆ ของพี่สาวตัวอ้วนวางอยู่ที่ข้างศีรษะทั้งสองข้าง ปากน้อยๆ ที่อวบอิ่มห่อยื่นออกมาเล็กน้อย และดูดปากเป็นระยะ เหมือนกำลังนึกถึงรสชาติของนม น่ารักมากน้องสาวตัวผอมเหมือนรู้สึกไม่ปลอดภัย มือน้อยกำผ้าห่อทารกแน่น ร่างกายเล็กๆ นอนขดตัว ราวกับต้องการซ่อนตัวเองไว้ใบหน้าของเด็กที่อ่อนเยาว์สะกิดหัวใจเฟิงเย่เสวียนในพริบตา ทำให้เขา
“สวรรค์!”มีชาวบ้านเห็น ตกใจจนกรีดร้องรอตอนที่ฉู่เชียนหลีไปดู เห็นเพียงผ้าห่อทารกตกลงไปในทะเลสาบอย่างรวดเร็ว นางอยู่ห่างออกมาสิบกว่าเมตร อย่างไรก็ช่วยไม่ทันพริบตานั้น หัวใจนางเหมือนถูกมีดกรีดขณะที่ทุกคนกำลังประหม่า ในช่วงเหตุการณ์คับขัน มีร่างเงาสีหมึกสายหนึ่งพุ่งพรวดเข้ามาราวกับวิญญาณผี พลันกระโดดข้ามทะเลสาบอย่างฉับไว รับเด็กไว้แล้วร่อนลงพื้นอย่างมั่นคงปลอดภัยหายห่วง!สมองของฉู่เชียนหลีว่างเปล่าไปชั่วพริบตาหนึ่ง ขาอ่อนจนเกือบล้มลงพื้น โชคดีที่เยว่เอ๋อร์รีบประคองไว้ เมื่อยืนมั่นคงและเงยหน้ามอง ก็ต้องตะลึงอีกครั้งเขา!เขากลับมาแล้ว!เฟิงเย่เสวียน!เขายังคงสวมชุดเพ้าหมึกสีเข้ม เกล้าผมตั้งสูง ไม่เจอกันสามเดือน ผิวของเขาเข้มขึ้นเล็กน้อย มีแผลเป็นตรงแก้มหนึ่งสาย ช่วยเพิ่มความเฉียบคมให้เขาสามส่วน ระหว่างคิ้วเต็มไปด้วยแววของความเหนื่อยล้าจากการเดินทางไกล ทำให้แลดูหนักแน่นและเป็นผู้ใหญ่กว่าเมื่อก่อนฉู่เจียวเจียวตกใจมาก“อ๋องเฉิน…”เขากลับมาได้อย่างไร?เหตุใดจู่ๆ ก็โผล่ออกมาโดยไม่ให้ซุ่มไม่ให้เสียงเหมือนกับผี?เฟิงเย่เสวียนอุ้มเด็กไว้ในข้อพับแขน มืออีกข้างยกขึ้น มองนางด้วยร
รอนางกลายเป็นพระชายารัชทายาท เวลาที่ฉู่เชียนหลีพบนาง จำเป็นต้องคุกเข่าคำนับฉู่เจียวเจียวเชิดคางขึ้นเล็กน้อย เหลือบมองนางแวบหนึ่ง กล่าวราวกับประทานความเมตตา“ถ้าหากเจ้ารู้จักประมาณตน ทางที่ดีตอนนี้ออกไปจากนอกสายตาของข้า ถ้าหากข้าอารมณ์ดีแล้ว วันข้างหน้า ข้าก็จะละเว้นพิธีของการคำนับเมื่อเจ้าพบข้า”ราชโองการยังประกาศไม่ถึงจวนอ๋องหลี นางก็วางมาดของพระชายารัชทายาทแล้วกิริยานั่น น้ำเสียงนั่น ท่าทางนั่น เหมือนนกยูงรำแพนหางตัวหนึ่ง เหลือบมองฉู่เชียนหลีจากเบื้องสูงฉู่เชียนหลีหัวเราะ“พระชายารัชทายาทแล้วอย่างไร? พระชายาอ๋องหลีแล้วอย่างไร? หรือทำผิดแล้ว ไม่ต้องยอมรับผิดก็ได้?”“หรือในความเข้าใจของเจ้า เมื่อเจ้าเป็นพระชายารัชทายาท ก็สามารถใช้อำนาจบาตรใหญ่ อยากทำอะไรก็ได้?”เมื่อชาวบ้านได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าเปลี่ยนทันทีถ้าหากแม้แต่พระชายารัชทายาทก็ไร้เหตุผลเช่นนี้ เมื่อรัชทายาทขึ้นครองบัลลังก์ จะปฏิบัติต่อราษฎรอย่างดีหรือ?พระชายารัชทายาทใช้อำนาจรังแกคน อวดอ้างบารมีเช่นนี้ มีนางอยู่ ราษฎรสามารถมีชีวิตที่ดีหรือ?ฉู่เจียวเจียวรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติของชาวบ้าน นางรีบกล่าว“ฉู่เ
ฉู่เจียวเจียว “?”เมื่อหันไปมอง เห็นเพียงเต๋อฝูพาหมอหลวงสูงวัยท่านหนึ่งมารออยู่ที่ด้านข้าง และไม่รู้ว่ามาตั้งแต่เมื่อไรฉู่เชียนหลีประหลาดใจเล็กน้อย“กงกงเต๋อฝู ท่านอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?”เต๋อฝูสะบัดแส้มาไว้ในข้อพับ โน้มตัวเล็กน้อย คำนับทีหนึ่ง กล่าวตอบอย่างนอบน้อม“ข้าน้อยรับบัญชาจากฝ่าบาท เดิมทีควรไปประกาศราชโองการที่จวนอ๋องหลี ตอนที่เดินผ่านตรงนี้ เห็นพระชายาทั้งสองท่านโต้เถียงไม่ลงตัว จึงสั่งให้คนเข้าวังเชิญหมอหลวงมา สุขภาพของพระนัดดาองค์โตเกี่ยวข้องกับอนาคตของราชวงศ์ ข้าน้อยไม่กล้ารอช้า”ประกาศราชโองการ?ฉู่เชียนหลีเข้าใจอะไรบางอย่างในพริบตาดูเหมือนฉู่เจียวเจียวให้กำเนิดพระนัดดาองค์โต ฝ่าบาทจึงมีราชโองการแต่งตั้งอ๋องหลีเป็นรัชทายาท…แต่ตอนนี้นางไม่มีเวลาให้คิดมาก ความสนใจทั้งหมดล้วนจดจ่ออยู่บนตัวของเด็กที่ร้องไห้ไม่หยุด“รบกวนหมอหลวงลองตรวจสุขภาพของพระนัดดาองค์โตหน่อย ว่าปลอดภัยหรือไม่?”หมอหลวงพยักหน้า เดินเข้าไปฉู่เจียวเจียวตื่นตระหนกทันที…มือที่อุ้มลูกกระชับเล็กน้อย พลางจับผ้าห่อทารกไว้แน่น แววตาสั่นไหว ลนลานเล็กน้อยแต่มาถึงขั้นนี้ นางไม่มีข้ออ้างที่จะปฏิเสธแล
เยว่เอ๋อร์สะดุ้งตกใจชาวบ้านเบิกตากว้างขณะที่เด็กกำลังจะร่วงลงบนพื้น ฉู่เชียนหลีกระโจนเข้าไป ก่อนหนึ่งวินาทีที่เขาจะตกลงบนพื้น นางรับเขาเอาไว้ได้อย่างหวุดหวิดพูดถึงก็แปลก เมื่อครู่ตอนอยู่ในอ้อมแขนพระชายา เอาแต่ร้องไห้ไม่หยุด พอมาอยู่ในอ้อมแขนของฉู่เชียนหลี เสียงร้องไห้ก็ค่อยๆ เบาลง และสงบไปในที่สุดทันใดนั้น มีเสียงตะคอกดังขึ้น“ฉู่เชียนหลี!”“เจ้าทำอะไร!”ฉู่เจียวเจียวรีบเดินเข้าไป แย่งลูกกลับคืนมาทันที“ต่อให้เจ้าไม่พอใจข้า ก็ไม่ควรโยนลูกของข้า! เจ้ารู้หรือไม่ว่าด้วยความสูงเมื่อครู่ หัวของจื่อเยี่ยชี้ลงข้างล่าง มีโอกาสที่จะคอหักตายทันที!”“เจ้าก็เป็นแม่คนเช่นกัน จิตใจอำมหิตเช่นนี้ได้อย่างไร!”นางชี้หน้าฉู่เชียนหลี ตำหนิด้วยความโกรธและเสียงดัง พูดบลาๆ ราวกับปืนกล ไม่ปล่อยให้ฉู่เชียนหลีได้พูดแทรกคนชั่วชิงร้องเรียนก่อน ก็คงประมาณนี้“อุแว้…”เด็กที่เพิ่งเงียบไปสองวินาที เริ่มร้องไห้อีกครั้งฉู่เจียวเจียวรีบกล่อม “จื่อเยี่ยเป็นเด็กดี จื่อเยี่ยไม่ร้องนะ แม่ไม่ดีเอง ล้วนเป็นเพราะแม่ไม่ดีเอง ล้วนเป็นความผิดของแม่ แม่ไม่ควรให้กำเนิดเจ้า ถ้าหากเจ้าเป็นเด็กผู้หญิง เกรงว่าคงไม่
มัวแต่ห่วงยืนกรานว่าเป็นฝีมือฉู่เชียนหลี จนลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท…ก็จริง หลังจากคลอดลูก สมรรถภาพด้านต่างๆ ของร่างกายลดลง แม้แต่ความจำก็ไม่ดีเป็นครั้งคราวอย่างที่เรียกว่าคลอดลูกหนึ่งครั้ง โง่ไปอีกสามปีจริงๆ ฉู่เชียนหลีเดินออกมาหนึ่งก้าว ยื่นมือแล้วกล่าว“ส่งเด็กมาให้ข้า”ฉู่เจียวเจียวกอดลูกแน่น ถอยหลังหนึ่งก้าวโดยไม่รู้ตัว“เหตุใดต้องให้เจ้าตรวจ? ข้าเชื่อใจเจ้าได้หรือ? เจ้าเป็นทักษะการแพทย์ จื่อเยี่ยมีปัญหาหรือไม่ มันก็ขึ้นอยู่กับปากของเจ้าไม่ใช่หรือ?”ในความเป็นจริง ร้อนตัวเล็กน้อยเฟิงเจิ้งจื่อเยี่ยถูกพิษหรือไม่ ในใจนางรู้ดีที่สุดถ้าหากถูกเปิดโปงต่อหน้าทุกคน นางจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน และยังจะถูกชาวบ้านวิพากษ์วิจารณ์ฉู่เชียนหลีกล่าวอย่างเย็นชา“ต่อหน้าชาวบ้านมากมายเช่นนี้ ภายใต้การจ้องมองของทุกคน ถ้าหากข้าคิดจะทำอะไร สามารถหลบพ้นสายตาของทุกคนหรือ?”แม้นางโง่เพียงใด ก็ไม่ทำเรื่องที่โง่เขลาเช่นนี้เดินเข้าไปอีกครั้ง จับมุมหนึ่งของผ้าห่อทารก“ส่งเด็กให้ข้า บนร่างกายเขามีพิษหรือไม่ ข้าพิสูจน์ก็รู้เอง”ฉู่เจียวเจียวยิ่งกอดลูกแน่นแล้ว “เจตนาเจ้าไม่ดี ข้าไม่มีทางส่งจื่อเยี่ยให
“เจ้ากล้าวางยาพิษพระนัดดาองค์โต!”เสียงตะคอกของฉู่เจียวเจียวดังมาก ทำให้ชาวบ้านโดยรอบได้ยินกันทุกคน และยิ่งทำให้ชาวบ้านตกใจมากพิษ!เพราะความริษยา พระชายาอ๋องเฉินจึงวางยาพิษกับเด็กทารกที่เพิ่งคลอดได้สามวัน!สวรรค์!ทันใดนั้น สายตาของทุกคนที่มองฉู่เชียนหลีกลายเป็นแปลกประหลาด…เยว่เอ๋อร์โกรธแล้ว “พระชายาอ๋องหลี ท่านพูดเหลวไหลอะไร! พระชายาแค่อุ้มเขาครู่เดียว ยังไม่ถึงห้าอึดใจก็ถูกท่านแย่งกลับไปแล้ว จะมีพิษได้อย่างไร! นี่ท่านเป็นโรคหลงผิดหรือ?”“อุแว้…”เสียงที่ร้องไห้ไม่หยุดของเด็ก ก็เหมือนกับเป็นหลักฐานที่หนักแน่น โต้กลับคำพูดของเยว่เอ๋อร์คำพูดของเยว่เอ๋อร์ดูไม่มีน้ำหนักทันทีชาวบ้านทุกคนไม่เชื่อ เสียงวิพากษ์วิจารณ์ราวกับระลอกคลื่น“เมื่อครู่ข้าเห็นกับตา ตอนแรกพระนัดดาองค์โตไม่ได้ร้องไห้ หลังจากที่กลับถึงอ้อมแขนของแม่ ก็ร้องไห้ไม่หยุด นี่ไม่ได้แสดงให้เห็นว่ามีปัญหาหรอกหรือ?”“ใช่ พระนัดดาองค์โตต่อต้านเช่นนี้ แค่ดูก็รู้ว่าไม่สบาย”“หรือว่าถูกพิษจริงๆ?”“ถ้าหากนางฆ่าพระนัดดาองค์โตตาย ลูกสาวฝาแฝดที่นางคลอด ก็จะกลายเป็นที่โปรดปรานที่สุดในราชวงศ์แล้วไม่ใช่หรือ?”“ใช่…”เสียงก