แชร์

บทที่ 45

ผู้เขียน: อันชิงซิน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-26 13:59:11
ทันทีที่ฝู่เฉิงตื่นขึ้นมา ก็ถูกความเจ็บปวดมหาศาลสายหนึ่ง ทำให้เจ็บปวดจนต้องกรีดร้องติดต่อกันออกมาอย่างน่าเวทนา

ครั้งนี้ยิ่งเจ็บกว่าเดิมแล้ว

ฝู่ซุ่นก็มองจุดนี้ออกเช่นกัน แม้แต่ชายชาตรีผู้หนึ่งก็ต้องสะอื้นเสียงเบาแล้ว “ท่านพ่อ นี่เป็นเพราะก่อนหน้าข้าตีหัวของเฉิงเอ๋อร์ เลยทำให้เขาเจ็บปวดยิ่งกว่าเดิมหรือไม่?”

ก่อนหน้านี้ ฝู่เฉิงมิได้กรีดร้องอย่างรุนแรงถึงเพียงนี้

ยังดีที่พวกเขาได้ใช้ผ้าห่มห่อและมัดตัวเขาไว้แล้ว ไม่เช่นนั้นฝู่เฉิงอาจทนไม่ไหวจนจะฆ่าตัวตายได้

เจ็บปวดขนาดนี้ เขาสติเลื่อนลอยไปนานแล้ว

ท่านหมอฝู่สีหน้าซีดขาว

“เจ้าก็รู้ว่าตัวเองลงมือแรงไปงั้นหรือ!”

แม้จะกล่าวเช่นนั้น แต่เขากลับรู้สึกว่ามิได้เป็นเพราะถูกทุบทั้งหมด เป็นไปได้มากว่านี่เป็นเพราะพวกเขาใช้ ‘แรงจากภายนอก’ มาขัดขวางการระบายความเจ็บปวดของฝู่เฉิง ดังนั้นหลังตื่นขึ้นมาเพียงครู่เดียว ความเจ็บปวดจึงได้ปะทุขึ้นมาอย่างรุนแรงยิ่งกว่าเดิม

“ไม่อาจตีเขาให้สลบได้อีกแล้ว” ท่านหมอฝู่พึมพำ

“สวรรค์ เฉิงเอ๋อร์ของข้าเป็นเด็กดี ไม่เคยทำเรื่องที่ผิดต่อหลักฟ้าดินมาก่อน เหตุใดต้องให้เขามาทนรับความทรมานเช่นนี้ด้วย?” ฮูหยินผู้เฒ่าฝู่แทบ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 46

    ก็นางสงสารบุตรชายนี่นา“คุณหนูลู่จะช่วยเฉิงเอ๋อร์ต่างหาก!” ท่านหมอฝู่โมโหจนหัวใจจะวาย “พวกเจ้าล้วนถอยออกไปให้หมด อย่าได้มาขวางมือขวางเท้าอยู่ตรงนี้!”เมื่อเห็นลูกสะใภ้ยังจะพูดสิ่งใดอีก เขาก็กระทืบเท้า “เหยาซื่อ! ข้าเป็นปู่ของเฉิงเอ๋อร์ หรือข้ายังจะทำร้ายเขาได้อีก?!”แม้แต่คำว่า ‘เหยาซื่อ’ เขาก็ตะโกนเรียกออกมาแล้วฝู่ซุ่นจึงลากภรรยาให้ถอยออกมา จากนั้นสูดหายใจเข้าลึกทีหนึ่ง “ท่านพ่อ แต่ไรมาท่านก็รักเอ็นดูเฉิงเอ๋อร์ พวกเราจะเชื่อฟังท่านขอรับ”แม้ว่าเขาจะไม่เชื่อเด็กสาวที่อยู่เบื้องหน้าเช่นกัน ทว่าเขาก็ได้แต่เชื่อใจผู้เป็นบิดา!“คุณหนูลู่ ท่านโปรดอย่าได้ถือสาพวกเขา ที่พวกเขาเสียมารยาทก็เพราะกำลังร้อนใจเท่านั้น” ท่านหมอฝู่กลัวว่าลู่เจาหลิงจะโมโห แล้วสะบัดมือไม่สนใจแล้วลู่เจาหลิงกลับไม่ได้ใส่ใจลูกชายได้รับความทรมานแบบนี้ คนที่เป็นพ่อแม่จะร้อนใจสงสาร ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้อีกอย่าง เมื่อครู่ก็ไม่ใช่ว่ายังตีไม่โดนมือนางหรือ?ซึ่งถ้าตีโดนก็ต้องว่ากันอีกแบบแล้ว“เพราะเขาสัมผัสกับรากไม้แกะสลักนั่นนานกว่า จึงติดไอมรณะมามากเกินไป ท่านหมอฝู่ หยกที่ให้ท่านเตรียมไว้เล่า”“อยู่นี่!”ก่อน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-26
  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 47

    จะว่าไปก็แปลกเดิมฝู่เฉิงควบคุมตัวเองไม่ได้แล้ว เขาเจ็บปวดจนอยากจะทุบหัวตัวเองแรงๆ แต่พอถูกลู่เจาหลิงตบเบาๆ ไปเช่นนั้น เพียงครู่เดียว ความเคลื่อนไหวของเขากลับหยุดลงยังไม่ทันที่คนสกุลฝู่จะได้ตอบสนอง มือที่ยกขึ้นของเขาก็วางลงไปแล้ว ทั่วทั้งร่างผ่อนคลายลง ร่างกายที่เดิมแข็งเกร็งอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัดลูกตาของคนสกุลฝู่แทบจะถลนออกมาแล้วเวลานี้ ฝู่ซุ่นไม่กล้าก้าวเข้าไปแม้แต่ครึ่งก้าวแล้ว ด้วยเกรงว่าตนเองจะไปรบกวนลู่เจาหลิงฮูหยินผู้เฒ่าฝู่ก็เดินเข้ามาใกล้อย่างประหม่ากังวลเช่นเดียวกัน มือข้างหนึ่งจับแขนของบุตรชายไว้แน่นดูจากสิ่งนี้แล้ว ดูเหมือนว่าคุณหนูลู่ท่านนี้จะมีความสามารถจริงๆ!ไม่พูดถึงเรื่องอื่น ในเวลานี้แค่สามารถทำให้ลูกของพวกเขารู้สึกดีขึ้นบ้างได้ก็ถือว่าดีแล้วเดิมฝู่เฉิงเจ็บปวดจนไม่อยากมีชีวิตต่อไปแล้ว เขาคิดไม่ถึงเลยว่าการปวดหัวจะสามารถปวดได้ถึงระดับนี้แต่เมื่อหน้าอกถูกคนตบทีหนึ่ง ก็ราวกับมีสายลมอันแผ่วเบาสายหนึ่ง พัดเอาดินโคลนที่ปกคลุมอยู่เต็มหัวใจของเขาไปในชั่วพริบตา เพียงเสี้ยววินาที เขาก็รู้สึกว่าร่างกายของตนเบาสบายลงมาก อาการปวดหัวก็ลดลงไปกว่าครึ่งแล้วจิตสำนึกขอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-26
  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 48

    แต่ท่านหมอฝู่กลับถอนใจอย่างโล่งอก มีความรู้สึกว่า ‘ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ เรื่องจบแบบนี้ก็ดีแล้ว’ ขึ้นมาก็เหมือนกับตัวเขาในครั้งก่อนเพียงแต่ตอนนั้นเขาใช้จี้หยกเพียงชิ้นเดียวเท่านั้น แต่ครั้งนี้ต้องใช้หมอนหยกใบหนึ่งแทนนี่คงเป็นเพราะช่วงเวลาที่เฉิงเอ๋อร์สัมผัสกับรากไม้แกะสลักรูปนั้นนานกว่ากระมัง บนร่างของเขาจึงถูกอาบย้อมไปด้วยไอมรณะที่มากกว่า“คุณ คุณหนูลู่ นี่เสร็จเรียบร้อยแล้วหรือไม่?” ฝู่ซุ่นถามลู่เจาหลิงพยักหน้า “ร่างกายของฝู่เฉิงอาจอ่อนแออยู่บ้าง หลายวันนี้ให้ออกมาอาบแสงอาทิตย์ยามเที่ยงให้มากหน่อย กินข้าวพักผ่อนให้ดี ผ่านไปไม่กี่วันก็ไม่เป็นไรแล้ว”เหยาหลินรีบพุ่งไปที่ข้างเตียงเพื่อดูฝู่เฉิงทันที“เฉิงเอ๋อร์ เจ้ารู้สึกเป็นอย่างไรบ้าง?”ฝู่เฉิงมองไปที่ลู่เจาหลิง น้ำเสียงอ่อนแรง “ท่านแม่ หัวของข้าไม่ปวดแล้วขอรับ เพียงแต่รู้สึกง่วงอยู่บ้าง…”หญิงสาวนางนี้ถึงกับสามารถรักษาเขาได้จริงๆ…เขาอยากจะพูดคุยกับลู่เจาหลิงจริงๆ แต่ยังคงต้านทานความง่วงงุนไม่ไหว เพียงครู่เดียวก็หลับลึกไปแล้ว“เฉิงเอ๋อร์” เหยาหลินกังวลเป็นอย่างมาก“เขาไม่เป็นอะไร เพียงแค่หลับไปเท่านั้น ปล่อยให้เขานอนหลั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-26
  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 49

    “คุณหนูลู่ เกิดอันใดขึ้นกับเฉิงเอ๋อร์หรือ? เสียทีที่ปู่ของเขาเป็นถึงหมอมีชื่อ กลับตรวจอะไรไม่ได้สักอย่าง!”ฮูหยินผู้เฒ่าฝู่ถลึงตาใส่สามีทีหนึ่งท่านหมอฝู่คิดไม่ถึงว่า ทักษะทางการแพทย์ของตนจะถูกภรรยาเฒ่าดูแคลนเข้าแล้วแต่เขาก็ไม่รู้ว่าควรเริ่มอธิบายจากจุดใดดี จึงได้แต่ส่ายหัวอย่างจนใจฝู่ซุ่นสองสามีภรรยาก็มองมาที่ลู่เจาหลิงเช่นกัน พวกเขาก็อยากรู้ว่าที่แท้เรื่องราวเป็นมาเช่นใดกันแน่“ก่อนหน้านี้ จู่ๆ ท่านพ่อของข้าก็อุ้มรากไม้แกะสลักรูปหนึ่งออกไปจากห้องของเฉิงเอ๋อร์ด้วย…” ฝู่ซุ่นกล่าว“ความจริงก็คือ เป็นรากไม้แกะสลักรูปนั้นที่ก่อปัญหาจริงๆ”ลู่เจาหลิงชี้ไปที่รากไม้แกะสลักที่อยู่บนพื้นชิ้นนั้น “หากข้าเดาไม่ผิดแล้วล่ะก็ รากไม้สลักชิ้นนี้เดิมเป็นของที่ฝังร่วมกับศพ”เมื่อคำพูดนี้ถูกกล่าวออกมา ก็ทำเอาคนสกุลฝู่หน้าเปลี่ยนสีอย่างพร้อมเพรียงกันทันที“ว่าอย่างไรนะ?!”พวกเขาหันไปมองวัตถุที่ถูกผ้าสีดำห่อไว้อย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ถอยไปสองก้าว“นอกจากนี้ เจ้าของสุสานน่าจะเป็นผู้ที่ป่วยตายด้วย”ลู่เจาหลิงพูดเสริมต่อด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ทว่านี่ราวกับการแทงมีดอีกเล่มเข้าสู่หัวใจของคนสกุลฝู่ก็ไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-26
  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 50

    ทุกคนต่างรีบรับคำฮูหยินผู้เฒ่าฝู่มองท่านหมอฝู่ จากนั้นก็กระซิบถามว่า “ตาเฒ่า คุณหนูลู่ดูไปแล้วน่าจะอายุไม่เกินสิบสี่สิบห้ากระมัง?”“สิบหก” ท่านหมอฝู่รู้อายุของลู่เจาหลิง“โตกว่าเฉิงเอ๋อร์นิดหน่อย? แต่ก็ไม่เป็นไร โตกว่าหน่อยเป็นเรื่องดี” ฮูหยินผู้เฒ่าฝู่ก็พูดขึ้นอีกว่า “เจ้าว่า หากนางเป็นหลานสะใภ้ของพวกเราจะเป็นอย่างไร? ข้าชอบเด็กคนนี้”“อะไรนะ? เจ้าว่าอะไร?” เพียงพริบตาเดียวท่านหมอฝู่ก็พูดสำเนียงบ้านเกิดออกมาแล้วเขามองภรรยาเฒ่าอย่างตระหนก ถูกนางทำให้ตกใจจนไอออกมาแล้ว“นี่มันท่าทางอะไรของเจ้ากัน? หรือว่าเจ้ารังเกียจคุณหนูลู่? ประตูจวนของหมอเทวดาฝู่เจ้าเข้ายาก มาตรฐานการแต่งเจ้าสาวสูงส่งเหลือแสน?”“แค่กๆ! ยายเฒ่า เจ้ารีบดับความคิดนี่ไปโดยเร็ว อย่าได้ทำร้ายเฉิงเอ๋อร์!”แม้แต่เคราของท่านหมอฝู่ก็กำลังสั่นสะท้านแล้ว “คุณหนูลู่น่ะ เพิ่งจะถูกพระราชทานสมรสไปหมาดๆ!”“พระราชทานสมรส?” ฮูหยินผู้เฒ่าลู่ประหลาดใจอย่างมาก “เจ้าเด็กบ้าบ้านไหนมาแย่งบุพเพอันดีงามของหลานชายข้ากัน”“แค่กๆ ๆ”ท่านหมอฝู่ไอออกมาเป็นชุดอีกครั้ง“ไอ้เด็กบ้าอะไร จิ้นอ๋อง นั่นเป็นจิ้นอ๋องต่างหาก!”แม้เขาจะมีความสัม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-26
  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 51

    ตอนนี้ ลู่หมิงกำลังเสียใจอย่างมากแต่ดูเหมือนเสียใจไปก็ไร้ประโยชน์ ในอดีตนั้น เป็นเพราะเขาไม่รู้ว่าสิ่งของอยู่บนตัวของลู่เจาหลิง! หากเขารู้ จะรอถึงเวลานี้ค่อยส่งคนไปรับนางจากชนบทได้อย่างไร?“ผู้ใดจะรู้ว่านางไปทำหายไว้ที่ใดกัน? แม้แต่ตัวนางเองก็นึกไม่ออก” ลู่ฮูหยินมองผู้เป็นสามี “ท่านพี่ จะหาของสิ่งนั้นไปทำไมหรือเจ้าคะ?”ราวกับนึกสิ่งใดขึ้นมาได้ ดวงตาของนางสว่างวาบในทันที คว้าแขนของลู่หมิงไว้อย่างไม่คาดคิด “หรือตุ๊กตากระเบื้องเคลือบตัวนี้มีค่ามาก? เป็นของวิเศษที่ประเมินค่าไม่ได้หรือ?”ลู่หมิงสะบัดมือของนางทิ้ง กล่าวอย่างอารมณ์เสียว่า “ฝันเฟื่องสิ่งใดกัน?”“อย่างนั้นเหตุใดท่านจึงให้ความสนใจกับตุ๊กตากระเบื้องเคลือบตัวนั้นนักเล่า?” ลู่ฮูหยินมองเขาอย่างสงสัย “ประเดี๋ยวก่อน ท่านพี่ ท่านบอกมาตามตรง ตุ๊กตากระเบื้องเคลือบนั่นคงมิได้สลักเป็นรูปนังสารเลวนั่นหรอกใช่ไหม? ที่ท่านรีบร้อนเอามันกลับมาเช่นนี้ เพราะคิดจะใช้ดูต่างหน้านังคนที่ตายไปแล้วนั่นใช่หรือเปล่า?”ทันใดนั้น ลู่หมิงถูกนางทำให้โมโหจนทนไม่ไหวขึ้นมา“เจ้ากำลังพูดบ้าอะไรกัน? อีกอย่าง ข้าบอกแล้วมิใช่หรือ ว่าไม่อนุญาตให้พูดถึงคนผู้นั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-26
  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 52

    “แม้แต่คุณหนูสี่ก็ยังดีกว่านาง”ที่บอกว่าลู่เจาหลิงยังสู้ลู่เจาหัวซึ่งเป็นเพียงลูกอนุผู้หนึ่งไม่ได้ ก็ถือเป็นการเหยียบย่ำดูแคลนนาง เพื่อให้ฮูหยินเบิกบานยายจินคิดว่าตนเองเข้าใจฮูหยิน พูดง่ายๆ ก็คือ หากนางอารมณ์ดีแล้ว เมื่อขอเงินก็จะให้เพิ่มอีกสักหน่อยคาดไม่ถึงว่า เมื่อลู่ฮูหยินได้ยินคำพูดของนางกลับขมวดคิ้วขึ้นมา“เจ้าบอกว่านางเป็นพวกขี้ขลาด ไม่พูดไม่จาอย่างนั้นหรือ? แถมยังไม่กล้าเงยหน้ามองคนอีก?”“ใช่เจ้าค่ะ! แม้แต่ยามที่ข้าพูดกับนาง เสียงตอบของนางยังเบาราวกับยุง แค่เห็นก็ทำให้คนโมโหแล้วเจ้าค่ะ!”แม้ยายจินจะเป็นข้ารับใช้ แต่ถึงอย่างไรก็อยู่ในเมืองหลวงมาค่อนชีวิตแล้ว เหล่าคุณหนูในเมืองหลวง มีผู้ใดที่น่าอับอายขายขี้หน้าแบบนางบ้างกัน?แม้ใบหน้าจะงดงาม แต่น่าเสียดายที่ซูบผอมจนเกินไป ก้นมีเนื้อไม่ถึงสามชั่งด้วยซ้ำ ดูแล้วเป็นพวกให้กำเนิดบุตรยาก ด้วยรูปร่างแบบนั้น สกุลที่มาตรฐานหน่อยล้วนมองไม่ขึ้นหัวคิ้วของลู่ฮูหยินขมวดแน่นแล้วที่ยายจินพูดมานี่ใช่นังเด็กสมควรตายลู่เจาหลิงนั่นแน่หรือ?แค่สองวันมานี้ นังเด็กน่าตายนั่นก็อาละวาดไปทั่ว ทั้งเบื้องบนเบื้องล่างอย่างไม่เกรงกลัวใครหน้าไหนท

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-26
  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 53

    ที่พ่อบ้านกล่าวคำนี้ออกมา เต็มไปด้วยเจตนาร้ายอย่างแท้จริงหญิงสาวผู้หนึ่งออกจากบ้านไปรอบหนึ่ง เมื่อกลับมาก็ถูกประเมินด้วยคำว่า ‘ฝีเท้าซวนเซไร้เรี่ยวแรง?’แต่ลู่หมิงผู้เป็นบิดา เมื่อได้ยินคำนี้ไม่เพียงไม่ตำหนิพ่อบ้าน แต่เพลิงโทสะที่มีต่อลู่เจาหลิง กลับลุกโชนจนไหม้ไปถึงยอดกระหม่อมแทน“ให้นังลูกสารเลวนั่นไสหัวมาให้ข้าที่นี่เดี๋ยวนี้!”ข้ารับใช้หนุ่มที่อยู่ด้านข้าง รีบกล่าวอย่างหัวไวทันทีว่า “ข้าน้อยจะไปเองขอรับ”นี่ก็คือบุตรชายของพ่อบ้านนามหูต้าลี่ตอนที่หูต้าลี่วิ่งออกไป ก็เห็นลู่เจาหลิงกำลังจะมุ่งหน้าไปทางหอทิงหน่วนพอดี สาวใช้ทั้งสองคนของนาง คนหนึ่งประคองนาง ส่วนอีกคนกำลังอุ้มกล่องไม้อยู่จากลักษณะเฉพาะของกล่องไม้นั้น แค่ดูก็รู้ว่าจะต้องใส่แท่งเงินไว้อย่างแน่นอนหูต้าลี่เบิกตากว้าง ไม่หรอกกระมัง? ที่คุณหนูรองออกไปข้างนอกในครานี้ หรือยังหาเงินแท่งกลับมาได้อีกเป็นกล่องด้วย?“คุณหนูรอง นายท่านให้ท่านไปที่โถงหน้าขอรับ!” หูต้าลี่วิ่งเข้าไปที่เบื้องหน้าของพวกนางทันที จากนั้นก็ขวางทางของพวกนางไว้ส่วนสายตาของเขาก็กลอกไปมาขณะมองไปยังกล่องไม้ที่ชิงเป่าอุ้มไว้ไม่หยุดจะต้องใส่แท่งเงินไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-26

บทล่าสุด

  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 100

    ลู่เจาอวิ๋นถูกพวกนางเยาะเย้ยจนหน้าแดง เบ้าตาก็เริ่มแดงแล้วฐานะของคนเหล่านี้ล้วนสูงกว่านาง และดูถูกนางมาโดยตลอด ถ้าหากไม่ใช่เพราะนางเอาอกเอาใจท่านหญิงฉางหนิงกับเหอเหลียนซิน พวกนางล้วนไม่พอใจนางทั้งๆ ที่นางงดงามกว่าพวกนาง ความสามารถก็เหนือกว่าพวกนาง ชื่อเสียงก็ดีกว่าพวกนาง พวกนางกลับไม่ยอมดีกับนางล้วนเป็นผู้หญิงขึ้ริษยา!แต่ลู่เจาอวิ๋นก็ตีหน้าเศร้าเก่งต่อหน้าคนนอกนางสูดจมูกดังฟืด การแสดงออกบนใบหน้าทั้งน้อยใจและรู้สึกผิด โค้งคำนับพวกนางทีหนึ่ง“เจาอวิ๋นขออภัยทุกท่าน ณ ที่นี้ เพราะน้องหญิงคนนี้ของข้าเพิ่งกลับจากบ้านนอกจริงๆ ท่านพ่อท่านแม่อยากให้นางได้พบกับคุณหนูทุกท่านด้วยความรักและความตั้งใจ เพื่อที่นางจะได้เรียนรู้เรื่องมารยาทและทางโลกบ้าง ข้าจึงพานางมาด้วย”“แต่ข้าก็กลัวดูแลไม่ทั่วถึง จนปล่อยนางไปล่วงเกินทุกท่าน ดังนั้นจึงพาเจาหัวมาด้วยอีกคน ข้าคิดไม่ถึงว่านิสัยของนางจะเถื่อนเช่นนี้ กลับไปข้าจะรายงานท่านพ่อท่านแม่ ให้ท่านพ่อท่านแม่สั่งสอนให้ดีแน่นอน เจาอวิ๋นขอโทษทุกท่านอีกครั้ง”นางลดตัวเช่นนี้ และยังพูดได้ค่อนข้างจริงใจ ประกอบกับไม่ได้ล่วงเกินพวกนาง ต่อไปยังไม่รู้ว่าเหอเหลี

  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 99

    เหอเหลียนซินเคยเจอสตรีที่ใจกล้าเช่นนี้และยังอวดดีกว่านางเสียเมื่อไร?ในสมองนางเต็มไปด้วยคำพูดเมื่อครู่ของนางนางถูกฮ่องเต้รับแล้วสกุลเหอสูงส่งกว่าราชวงศ์เหอเหลียนซินรู้แล้ว ถ้าหากคำพูดสองประโยคนี้ถูกเผยแพร่ออกไป นางเสียหน้าไม่ว่า พ่อนางต้องลงโทษนางคุกเข่าในศาลบรรพชนแน่!นางโมโหจนร่างกายสั่น พลันเลือดพลุ่งพล่าน ภาพตรงหน้ามืดดับ เป็นลมไปแล้ว“พี่เหอ!”เดิมทีลู่เจาอวิ๋นก็ควงแขนของนางไว้ จึงรีบพยุงนางขึ้นอย่างตื่นตระหนกเด็กรับใช้ทั้งสองของสกุลเหอเพิ่งหายตาลาย ก็มองเห็นคุณหนูของพวกนางเป็นลม จึงรีบเข้าไปพยุงเหอเหลียนซินโดยไม่มีเวลาสนใจลู่เจาหลิงแล้วกู้ฉิงเบิกตากว้าง ฝ่ามือมีเหงื่อเล็กน้อย นางมองไปทางลู่เจาหลิงมีคนตะโกนสิ่งที่นางคิดในใจออกมา…“นางยั่วคุณหนูเหอโมโหจนเป็นลมไปแล้ว!”ลู่เจาหลิงเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นนางถอนใจเบาๆ กล่าวชัดถ้อยชัดคำ “โทษข้าไม่ได้นะ คุณหนูเหอท่านนี้มีไฟในตับ ความชื้นหนัก มีอาการคลุ้มคลั่งเล็กน้อย วู่วามได้ง่าย อีกทั้งวันนี้หน้าผากนางหมองคล้ำ เห็นได้ชัดว่าตอนออกจากบ้านไปติดไออัปมงคลมา เดิมทีวันนี้ก็จะดวงซวยอยู่แล้ว”ปากที่เพิ่งหุบลงของทุกคน อ้ากว้า

  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 98

    เดิมทีพ่อก็เป็นรองเสนาบดีกรมกลาโหม ได้รับความไว้วางใจจากฮ่องเต้ ประกอบกับมีการแต่งงานนี้ เป็นการรวมกันของผู้มีอิทธิพลชัดๆในมุมมองของเหอเหลียนซิน แม้แต่ท่านหญิงฉางหนิงก็ต้องให้เกียรตินางสามส่วน นับประสาอะไรกับกู้ฉิงที่อยู่ตรงหน้า?“คุณหนูเหอ เกิดอะไรขึ้น?” มีคนก้าวออกมาอยากเป็นคนกลาง “เมื่อครู่ท่านหญิงกลับไปเปลี่ยนชุดที่ห้องแล้ว ถ้าหากนางออกมาพบว่าวุ่นวายเช่นนี้…”เมื่อได้ยินอีกฝ่ายยกเอาท่านหญิงฉางหนิงมาพูด ในที่สุดเหอเหลียนซินก็ไม่ได้หาเรื่องกู้ฉิงอีกนางถลึงตาใส่ลู่เจาหัวแวบหนึ่ง ปล่อยนางไปก่อนชั่วคราว อย่างไรเสียคนที่นางรังเกียจที่สุดในตอนนี้คือลู่เจาหลิง!นางเรียกเด็กรับใช้ทั้งสองของตัวเอง “พวกเจ้าไป ให้นางมาคุกเข่าขอโทษข้า!”“เจ้าค่ะ!”เด็กรับใช้ทั้งสองของนางพุ่งพรวดเข้าไปหาลู่เจาหลิงทันทีลู่เจาหัวอุทานอย่างขี้ขลาดทีหนึ่ง และกล่าวเบาๆ ด้วยความเป็นห่วง “พี่หญิงรอง ท่านรีบหนีไป”ลู่เจาอวิ๋นรีบคว้ามือของเหอเหลียนซิน แสร้งห้ามปราม “พี่เหอ ท่านอย่าไปถือสานางเลย…” แต่ก็ไม่เห็นนางไปห้ามเด็กรับใช้สองคนนั้นแม้คนอื่นก็ไม่ชอบพฤติกรรมที่อวดดีของเหอเหลียนซิน แต่พวกนางไม่รู้จักลู่

  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 97

    พวกลู่เจาหลิงไม่ถือว่ามาเร็วตอนนี้ในสวนมีคนไม่น้อยแล้วช่วงนี้เป็นปลายฤดูใบไม้ผลิ ไม่ร้อน เย็นสบาย สวนของจวนท่านหญิงปลูกดอกไม้มากมาย บานสะพรั่งสีสันงดงามแต่ตอนนี้ บนพุ่มดอกไม้ถูกประดับด้วยดอกผ้าไหมที่ผูกจากผ้าขาว  และต้นไม้ที่อยู่ข้างๆ มีผ้าโปร่งสีขาวห้อยอยู่ ลอยไปตามสายลมเบาๆสีขาวเหล่านี้ บดบังความงามของดอกไม้ที่บานสะพรั่งเหล่านี้ นี่น่าจะเป็นเจตนาของท่านหญิงฉางหนิง อย่างไรเสีย ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงไว้ทุกข์ตรงพื้นที่โล่งกลางสวน มีโต๊ะยาวหลายตัวแบ่งตั้งเป็นสองฝั่ง บนโต๊ะมีพู่กัน น้ำหมึก และกระดาษวางอยู่ถัดจากต้นกล้วยหลายพุ่ม มีศาลาหนึ่งหลัง บนโต๊ะในศาลามีน้ำชาและผลไม้วางอยู่พื้นที่นี้มีเงาจากภูเขาจำลองและต้นไม้ที่อยู่ข้างหน้าสะท้อนลงมาพอดี แต่ยังพอมีช่องว่างให้แสงแดดเล็ดลอดเข้ามาอยู่บ้าง แสงสว่างเพียงพอ และไม่เย็นเกินไปข้างภูเขาจำลองมีถนนเล็กๆ หนึ่งเส้น เดินไปมีบ่อน้ำเล็กๆ ตอนนี้บนผิวของบ่อน้ำมีใบบัวที่เพิ่งงอกออกมาอยู่บ้าง แต่ยังไม่มีกิ่งก้านของดอกยื่นโผล่พ้นผิวน้ำเหล่าคุณหนูที่มาถึงก่อน จับกลุ่มกันตรงนี้สามตรงนั้นสอง มีคนกำลังชมดอกไม้ มีคนกำลังดื่มชา มีคนกำลังอ่านหนังส

  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 96

    ลู่เจาหลิงไม่ทน หันไปพูดกับลู่เจาอวิ๋นอย่างเย็นชา “ลู่เจาอวิ๋น ถ้าไม่เข้าไปข้าจะไปแล้วนะ”“มาแล้ว” เดิมทีลู่เจาอวิ๋นก็ค่อยสังเกตการเคลื่อนไหวที่ประตูอยู่แล้ว เมื่อเห็นพวกนางสองคนถูกเด็กรับใช้ขวางไว้ นางยิ้มในใจ แต่เมื่อได้ยินว่าลู่เจาหลิงจะไปนางก็รีบมาทันที จะปล่อยให้ลู่เจาหลิงไปได้อย่างไร?“พี่เหอ นี่คือเจาหลิงน้องรองของข้า”นางควงแขนของเหอเหลียนซินไว้ พลางหันไปกล่าวกับลู่เจาหลิง “น้องรอง รีบเรียกพี่เหอเร็ว”เหอเหลียนซินมองไปทางลู่เจาหลิง สายตาเย็นชาเล็กน้อย“ข้าไม่กล้าให้ว่าที่พระชายาจิ้นอ๋องเรียกพี่หรอก”จิ้นอ๋องกลับเมืองหลวง ได้รับพระราชทานสมรส อีกฝ่ายเป็นเด็กบ้านนอกที่ถูกรับกลับมาจากชนบทข่าวนี้ได้แพร่กระจายไปทั่วเมืองหลวงแล้วทุกคนต่างตกใจมาก ไม่มีใครอยากเชื่อ ขณะเดียวกันก็อยากรู้มาก คุณหนูรองกู้เป็นคนอย่างไร โชคอะไรหล่นทับกันแน่ จึงได้รับความสนใจจากจิ้นอ๋องเหอเหลียนซินก็อยากรู้มากเช่นกันและตอนนี้นางได้เจอลู่เจาหลิงแล้ว หน้าตาเหมือนนางจิ้งจอกอย่างที่คิด เอาเป็นว่านางเห็นแล้วก็รังเกียจเลยลู่เจาเหลียงย่อมมองเจตนาร้ายที่เหอเหลียนซินมีต่อตัวเองออกนางก็ตอบกลับไปอย่างเร

  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 95

    ชิวจวี๋ประคองลู่เจาอวิ๋นลงรถม้า ไม่ได้สนใจลู่เจาหัวกับลู่เจาหลิงอีกเลยหลังจากลู่เจาหัวลงรถม้า นางคิดแล้วคิดอีก ยื่นมือไปหาลู่เจาหลิง “พี่หญิงรอง ข้าประคองท่าน”“ไม่ต้อง”ลู่เจาหลิงกลับเลี่ยงผ่านมือของนาง ลงจากรถม้าเองลู่เจาหัวทำท่าเสียใจเล็กน้อย หลุบตาปกปิดสายตา“เจาอวิ๋น”มีเสียงตะโกนดังขึ้นจากข้างหน้า แค่ฟังจากเสียงก็เต็มไปด้วยความมั่นใจลู่เจาอวิ๋นประหลาดใจมาก รีบเดินเข้าไปหา“พี่เหอ!”ลู่เจาหัวเห็นผู้มา สีหน้ากลับเปลี่ยนไป ร่างกายสั่นเล็กน้อย นางลืมไปได้อย่างไร ในโอกาสเช่นนี้ เหอเหลียนซินก็มาเช่นกันลู่เจาหลิงเหลือบมองนางแวบหนึ่ง แต่ไม่ได้พูดอะไรนางมองไปทางผู้มาเห็นรถม้าของอีกฝ่ายก่อน รถม้าคันนั้นดูหรูหรากว่าของสกุลลู่มาก สตรีที่กำลังทักทายลู่เจาอวิ๋นอย่างอย่างสนิทสนม อายุประมาณสิบเจ็ดสิบแปด ใบหน้าทรงไข่ห่าน คางแหลม หน้าตาค่อนข้างงามเพราะอยู่ระหว่างการไว้ทุกข์ การแต่งกายของนางก็เรียบๆ เช่นกัน สีขาวทั้งชุด มีเพียงปิ่นหยกกับดอกไม้ผ้าเล็กๆ ที่ประณีตไม่กี่ชิ้น สง่างามดั่งดอกบัวที่บริสุทธิ์นางพาเด็กรับใช้มาด้วยสองคน เสื้อของเด็กรับใช้เป็นสีขาวมีกิ่งดอกไม้สีน้ำตาลเล

  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 94

    นางข่มความโกรธ “น้องหญิงรองหยุดได้แล้ว นี่เป็นถุงหอมที่ผู้อื่นมอบให้ข้า มันมีค่ามาก เครื่องหอมที่อยู่ข้างในก็หาซื้อตามข้างนอกไม่ได้”เครื่องหอมที่อยู่ข้างใน ท่านหญิงฉางหนิงเป็นคนให้นาง เป็นของขวัญที่ทูตต่างแดนนำมาถวายให้ท่านหญิงและองค์หญิงต่างๆ ในวังลู่เจาอวิ๋นได้เครื่องหอมมาแค่นี้ นางก็ภาคภูมิใจมาก ปกติแทบไม่เอาออกมาใช้ ในโอกาสอย่างวันนี้จึงจะยอมนำออกมาใช้ ลู่เจาหลิงกลับให้นางทิ้ง?“กลิ่นเหม็นมาก”ลู่เจาอวิ๋นอดกลั้นความโกรธ และยังคงฝืนยิ้ม คิดใจปลอบนาง “คนทั่วไปอาจจะไม่ชินกับกลิ่นเช่นนี้จริงๆ แต่นี่เป็นเครื่องบรรณาการจากทูตต่างแดน เป็นเครื่องหอมที่มีราคาแพงและหรูหรามาก น้องหญิงรอง ในเมื่อเจ้ามาถึงเมืองหลวงแล้ว เจ้าต้องพยายามปรับรสนิยมให้สูงขึ้น จะชอบแต่พวกเครื่องหอมคุณภาพต่ำไม่ได้ ไม่เช่นนั้นจะถูกหัวเราะเยาะ”“ไร้สาระ”พลันลู่เจาหลิงยื่นมือออกไป กระชากถุงหอมบนกายนางลงมาฉับพลัน เลิกม่านรถก็โยนมันไปที่ข้างคนขับ“ไว้ตรงนั้นก่อน อีกเดี๋ยวเจ้าจะห้อยค่อยห้อย”นางทนไม่ไหวแน่ ถ้าต้องทนดมอยู่ในรถม้าที่แคบเล็กเช่นนี้ตลอดอีกทั้งเกรงว่าส่วนผสมของเครื่องหอมเหล่านี้ค่อนข้างแปลก มีผงกระดู

  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 93

    ชิงเป่าร้อนใจแล้ว“พวกเราต้องตามคุณหนูไป คุณหนูของพวกเรายังบาดเจ็บอยู่!”ก่อนหน้านี้พวกนางเคยได้ยินท่านหมอฝู่กล่าว คุณหนูได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ ที่จริงนับว่าอันตรายถึงชีวิต แต่ไม่รู้เพราะเหตุใดนางยังสามารถรอดมาได้ชิงเป่าชิงอินก็เป็นคนฝึกยุทธ์เช่นกัน และเคยเห็นบาดแผลของลู่เจาอิง ย่อมรู้ว่าบาดแผลนั่นสาหัสเพียงใด“ข้าอยากพาเจ้าไปด้วยจริงๆ แต่รถม้าไม่พอนั่งแล้ว” ลู่เจาอวิ๋นก็หมดหนทาง นางกล่าวเหมือนเยาะเย้ยตัวเอง “ไม่ใช่ข้าหาเรื่องพวกเจ้า แต่รถม้าจวนเรามันไม่ใหญ่”ชิงเป่ากล่าวทันที “พวกเราเดินไปก็ได้”พวกนางสามารถใช้วิชาตัวเบา“พวกเจ้ามาจากจวนจิ้นอ๋อง น่าจะรู้จักท่านหญิงฉางหนิง ดังนั้นก็น่าจะรู้ว่าจวนท่านหญิงอยู่ที่ไหน ห่างจากที่นี่ไกลมาก ถ้าหากพวกเจ้าเดิน อย่างน้อยก็ต้องเดินครึ่งชั่วยาม”ลู่เจาอวิ๋นกล่าว “ถึงเวลาพวกเจ้ากับน้องหญิงรองไม่ได้เข้าจวนพร้อมกัน ผู้อื่นก็จะหัวเราะเยาะเช่นกัน”เช่นนั้นไม่เท่ากับทำให้ผู้อื่นรู้ว่า รถม้าของสกุลลู่เล็กมาก แม้แต่สาวใช้ก็ไม่พอเบียดหรือ?ชิงอินใจเย็นกว่า คิดวิธีที่เหมาะสมกว่าออก “พวกเราไปเช่ารถม้าไป”“รอพวกเจ้าหารถม้าได้มันก็ไม่ทันแล้ว แต่ว่าถ

  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 92

    เที่ยวนี้เขาได้เห็นความสามารถของลู่เจาหลิงอีกครั้งชิงอินกอดกล่องในอ้อมแขนไว้ ยังรู้สึกเหมือนนี่ไม่ใช่เรื่องจริงเล็กน้อย ออกจากจวนเที่ยวเดียว คุณหนูก็หาเงินได้อีกห้าพันตำลึงแล้ว ห้าพันตำลึงเลยนะ!สกุลลู่นำเงินออกมาสามร้อยตำลึง ก็ปวดใจเหมือนถูกเฉือนเนื้อ พวกเขาจะคาดคิดได้อย่างไร คุณหนูอาศัยความสามารถของตัวเอง ก็สามารถหาเงินได้ห้าพันตำลึงแล้วนอกจากนี้ยังมีจี้หยกหนึ่งชิ้นกับโสมหนึ่งต้นด้วย แค่ของเหล่านี้ก็มีค่าหลายร้อยตำลึงตกลงสุกุลลู่รู้หรือไม่ว่าคุณหนูเป็นสมบัติลับอย่างไรครั้งนี้ชิงเป่าไม่ได้ตามออกมาด้วย แต่เฝ้าอยู่ที่หอทิงหน่วน นางดูจากเวลา ได้ไปนำอาหารเย็นกลับมาแล้ว ลู่เจาหลิงกลับมาก็ได้กินข้าวเลย“ชิงเป่าคำนวณเวลาได้พอดีเป๊ะ” นางชมไปประโยคหนึ่ง หลังจากนั้นกล่าว “ให้พวกเจ้าคนละห้าตำลึง กลับไปซื้อของที่ตัวเองชอบกิน”ให้เงินพวกนางอีกแล้ว!ชิงเป่าเบิกตากว้าง มองไปทางชิงอินด้วยสายตาตั้งคำถามชิงอินเงียบ แต่เปิดกล่องเหล่านั้นให้นางดู“คุณหนูเก่งจัง…” แม้แต่เสียงตกใจของชิงเป่าก็ลอยเล็กน้อยลู่เจาหลิงยิ้มแล้วยิ้มอีก “พอแล้ว กินข้าวเถอะ”หลังกินข้าว อาบน้ำเสร็จ นางก็กลับมาท

DMCA.com Protection Status