ถ้าหากจะหาแรงงาน ก็พูดกับพวกเขาตรงๆ อย่างเปิดเผยก็ได้ เหตุใดต้องวางยาพวกเขา?เกรงว่างานที่ได้เงินดีที่อีกฝ่ายพูดถึง ไม่ใช่เรื่องดีอะไรชาวบ้านคนอื่นก็ไม่โง่เช่นกัน ล้วนมองออกว่างานที่หัวหน้าหมู่บ้านหม่าพูด ไม่ใช่งานที่ดีอะไรแน่นอนอวิ๋นฝูหลิงครุ่นคิดแผนรับมือในใจอย่างรวดเร็วคนที่หัวหน้าหมู่บ้านหม่าพามานั้น ดูด้วยสายตาแล้วมีประมาณสี่สิบถึงห้าสิบคน อีกทั้งแต่ละคนร่างกายกำยำ มือถือดาบที่คมกริบ ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีหันกลับมามองฝั่งของตัวเอง แม้มีคนมากกว่าอีกฝ่ายสองเท่า แต่คนส่วนใหญ่ได้รับบาดเจ็บ อาวุธก็เป็นพวกจอบหรือท่อนไม้ ไม่ต่างอะไรกับทหารแตกทัพที่หนีเอาชีวิตรอดถ้าหากลงมือกันขึ้นมาจริงๆ จะสู้ได้หรือ?นางหันไปมองโดยรอบ ลูกพี่อู๋กับจางซานมู่ยังไม่กลับมาสวี่ตงกับคังหมิงหย่วนคอยคุ้มกันอยู่ข้างๆ อวิ๋นจิงมั่วจับมือของนางแน่น เหมือนกลัวเล็กน้อยหัวหน้าหมู่บ้านหม่าเห็นหัวหน้าหมู่บ้านโจวและคนอื่นเงียบ ก็หมดความอดทนแล้วเช่นกันอย่างไรก็ความแตกแล้ว เสแสร้งรับมือคนเหล่านี้ต่อไปก็ไม่มีความหมายอะไรเขากวักมือให้คนที่อยู่ข้างหลัง “จับพวกเขามัดให้หมด ผู้ชายส่งไปให้ผู้ดูแลเฉียน ผู้หญิงข
เมื่ออวิ๋นฝูหลิงเห็นหัวหน้าหมู่บ้านหม่าจะหนี ก็ตะโกนเสียงดังทันที “แย่แล้ว อย่าปล่อยให้หัวหน้าของพวกมันหนี!”เมื่อผู้หญิงชุดดำได้ยิน ร่างกายก็พุ่งพรวดออกไปประดุจมังกรแหวกว่าย หลังจากขวางคนไว้ได้ ก็ชูกระบี่ฆ่าทันที สีหน้าอวิ๋นฝูหลิงเปลี่ยนฉับพลัน รีบกล่าว “เก็บเขาไว้!”ทิศทางกระบี่ของผู้หญิงชุดดำเปลี่ยนฉับพลัน ฟันโดนแขนเสื้อหัวหน้าหมู่บ้านหม่า จากนั้นยกปลายกระบี่ขึ้น ตัดเส้นเอ็นเท้าทั้งสองข้างของเขาขาดหัวหน้าหมู่บ้านหม่าส่งเสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวดราวกับหัวใจแตกเป็นเสี่ยงทันทีอวิ๋นฝูหลิงมองท่าทางที่เจ็บปวดของเขา กลับรู้สึกสะใจมากนางอยากให้กากเดนเช่นนี้ตายไปเสียเดี๋ยวนี้ด้วยซ้ำแต่ว่าในเมื่อคนคนนี้เป็นผู้นำของหมู่บ้าน ก็แสดงว่าเป็นคนที่รู้ความลับมากที่สุดถ้าหากมีคนเช่นนี้อยู่ในมือ มีประโยชน์อย่างมากสำหรับพวกเขามีการช่วยเหลือของผู้หญิงชุดดำ พวกเขาสามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็วนอกจากพวกคนที่ตายแล้ว ยังสามารถจับเชลยได้อีกเจ็ดแปดคนอวิ๋นฝูหลิงไม่ได้สนใจเชลยเหล่านั้น แต่หันไปกล่าวกับหัวหน้าหมู่บ้านโจวก่อน“ให้คนไปเฝ้าที่หน้าหมู่บ้าน แล้วหาดูว่ายังมีทางออกอื่นในหมู่บ้า
แค่ฟังจากเสียง ก็สามารถรู้สึกถึงความเจ็บปวดในนั้นอวิ๋นซานหูอดไม่ได้ที่จะตัวสั่น การกระทำที่กำลังฟันศพอยู่ชะงักคนอื่นๆ ที่อยู่โดยรอบก็หันมามองเช่นกันอวิ๋นฝูหลิงกลับยืนอยู่ข้างๆ อย่างใจเย็น อีกทั้งยังมีรอยยิ้มที่มีความสุขบนใบหน้า เหมือนกำลังเพลิดเพลินกับบทเพลงที่ไพเราะอะไรแผ่นหลังของทุกคนถึงกับมีเหงื่อเย็นผุดขึ้น และบอกกับตัวเองอย่างหนักแน่นอีกครั้ง ต่อไปห้ามล่วงเกินแม่นางอวิ๋นเด็ดขาดหัวหน้าหมู่บ้านหม่าไม่สามารถทนต่อการทรมานที่เจ็บไปถึงหัวใจนี้ ไม่นานก็สารภาพออกมาอย่างหมดเปลือกนอกจากคนที่ไปช่วยงานทางเหมืองแร่ ยังมีคนกลุ่มเล็กๆ สิบคนที่ลาดตระเวนโดยรอบเพื่อควบคุมตัวพวกอวิ๋นฝูหลิง คนที่เหลือล้วนเฝ้าอยู่ในหมู่บ้านอีกทั้งหลังจากที่หัวหน้าหมู่บ้านหม่ารู้ว่าเกิดข้อผิดพลาด ก็ได้เรียกคนทั้งหมดในหมู่บ้านมาทางนี้แล้วหลังจากอวิ๋นฝูหลิงได้ยิน อยากขอบคุณหัวหน้าหมู่บ้านหม่าจริงๆเขาเรียกคนมาทั้งหมดเช่นนี้ นับว่าช่วยนางประหยัดเวลาได้ไม่น้อยอวิ๋นฝูหลิงให้คนนับจำนวนคนครู่หนึ่ง หลังจากเทียบก็เหมือนกับที่หัวหน้าหมู่บ้านหม่าพูดพบว่าไม่มีใครหลุดรอดไปได้ อวิ๋นฝูหลิงถอนหายใจอย่างโล่งอกเ
หลังจากเซียวจิ่งอี้ฟังต้นสายปลายเหตุของเรื่องราวทั้งหมด ตกใจจนเกือบเหงื่อแตกโชคดีที่เขาให้เหยากวงอยู่ปกป้องสองแม่ลูกอวิ๋นฝูหลิง ไม่เช่นนั้นไม่กล้าคิดถึงผลที่ตามมาอวิ๋นฝูหลิงจิบชาตั้งสติครู่หนึ่ง จึงจะกล่าวถาม “ต่อจากนี้ทำอย่างไรดี? พวกเราจะออกจากที่นี่โดยเร็วหรือไม่?” เซียวจิ่งอี้ส่ายศีรษะ “เจ้าบอกว่าชาวบ้านที่บาดเจ็บต้องพักฟื้นไม่ใช่หรือ? เช่นนั้นก็ถือโอกาสนี้ อยู่ที่หมู่บ้านนี้อีกสักสองสามวัน ส่วนเรื่องอื่นปล่อยให้ข้าจัดการก็พอ”เมื่ออวิ๋นฝูหลิงได้ยินคำพูดนี้ ก็รู้แล้วว่าเซียวจิ่งอี้พบอะไรบางอย่างที่เหมืองแร่ เกรงว่าต้องใช้เวลาในการจัดการเรื่องนี้พอสมควรนางไม่ได้ถามอะไรมาก พยักหน้าคล้อยตามทันที“ข้าเข้าใจแล้ว ข้าจะปลอบคนในหมู่บ้านเอง”“เรื่องในวันนี้ ข้าแค่บอกว่าคนพวกนั้นเป็นโจร จะปล้นทรัพย์ฆ่าคน”“ส่วนเรื่องอื่น ไม่จำเป็นต้องบอกพวกเขา ให้พวกเขามีส่วนต้องมาวิตกกังวลไปด้วย”คนเหล่านี้ของหมู่บ้านหลินซาน เป็นเพียงชาวบ้านตัวเล็กๆ ที่หาเช้ากินค่ำ เรื่องใหญ่อย่างการกบฏชิงบัลลังก์ พวกเขาไม่รู้มันจะดีกว่าเซียวจิ่งอี้เข้าใจความกังวลของอวิ๋นฝูหลิง จึงพยักหน้ารับการกบฏที่เป็นเร
ชาวบ้านหลายคนที่บาดเจ็บสาหัสเจียนตาย ก็รอดชีวิตมาได้แล้วโดยเฉพาะหวังเอ้อร์เหอ รอยแผลจากการเย็บตรงท้องเริ่มสมานกันแล้วหลายวันนี้ หวังเอ้อร์เหอราวกับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันเลื่องชื่อ มีคนไปมุงดูเขาทุกวันไม่ขาดสายเรื่องหนังท้องเปิด หลังจากใช้เข็มกับด้ายเย็บ คนยังสามารถมีชีวิตรอด เป็นสิ่งที่หาดูได้ยากมากหลังจากดูของหายากเสร็จ ก็อดไม่ได้ที่จะชมแม่นางอวิ๋นว่าฝีมือการแพทย์สูงส่งนายท่านหานกับติงหมิงรุ่ยก็ไปดูด้วยตัวเองเช่นกันถึงขั้นคุยกับหวังเอ้อร์เหอ ขอให้เขาเลิกเสื้อขึ้นเพื่อดูบาดแผลของเขาแวบหนึ่งบาดแผลของหวังเอ้อร์เหอเริ่มตกสะเก็ดแล้ว การสมานของแผลเป็นไปด้วยดีหลังจากได้เห็นกับตา ติงหมิงรุ่ยรู้สึกเลื่อมใสฝีมือการแพทย์ของอวิ๋นฝูหลิงจากใจส่วนนายท่านหาน ราวกับค้นพบสมบัติตะลึงโลกอะไรบางอย่าง ยิ่งอยากชักชวนอวิ๋นฝูหลิงมาอยู่สำนักผิงอันของตัวเองถ้าหากสำนักผิงอันมีหมอเทวดาเช่นนี้หนึ่งท่าน ชื่อเสียงและการค้าของสำนักผิงอัน นับวันยิ่งเจริญรุ่งเรืองแน่นอนเป็นเช่นนี้ผ่านไปเจ็ดแปดวัน ในที่สุดทางอวิ๋นฝูหลิงก็ได้รับการยืนยันจากเซียวจิ่งอี้ จัดการเรื่องทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว พวกเขาสาม
อวิ๋นฝูหลิงเพิ่งฟื้นคืนสติอย่างงงงวย ก็ถูกตบหน้าอย่างแรง“นังตัวดี ข้าชอบเจ้านั้นเป็นวาสนาของเจ้า!”“เจ้ายังกล้ากัดข้าอีกหรือ? แรงแค่นี้คิดว่าสามารถหนีพ้นจากเงื้อมมือของข้าได้งั้นหรือ?”“ปรนนิบัติข้ากับพวกพี่น้องให้มีความสุขแต่โดยดี แล้วข้าจะปล่อยเจ้ากับเจ้าเด็กนั่น!”“ไม่เช่นนั้น รอพวกเราพี่น้องทุกคนสนุกกับเจ้าจนพอแล้ว จะขายพวกเจ้าสองแม่ลูกให้ซ่องเสีย!”ความรู้สึกเจ็บแสบที่แก้ม ทำให้สติของอวิ๋นฝูหลิงแจ่มชัดขึ้นหลายส่วนความโกรธอันไร้ขอบเขตพลุ่งพล่านอยู่ในก้นบึ้งหัวใจนางนางเป็นหมอเทวดาที่ได้รับความเคารพมากที่สุดในฐานปฏิบัติการโลกวิบัติ ใครหน้าไหนมันอยากตายถึงกล้าทำแบบนี้กับนาง?นางลืมตาขึ้น ก็มองเห็นชายคนหนึ่งที่กำลังกุมใบหูที่มีเลือดไหลพลางฉีกกระชากเสื้อผ้าของนางด้วยสีหน้าหื่นกามและยังมีผู้ชายอีกหลายคนยืนเยาะเย้ยอยู่ข้างๆ อย่างหยาบคาย“นังตัวดีนี่นิสัยรุนแรงใช้ได้ เมื่อครู่เกือบกัดหูลูกพี่ขาด”“นิสัยรุนแรงแบบนี้สิถึงจะมีรสชาติ…”“ลูกพี่ ท่านรีบจัดการเถอะ พวกเรายังรอสนุกอยู่นะ อีกเดี๋ยวมีคนมาก็อดหรอก”“วางใจเถอะ วันนี้ฝนตกหนักเช่นนี้ ไม่มีคนมาแน่นอน พวกเรามีเวลาอีกเยอะ ค
ระหว่างฟ้าดินที่ถูกหมอกปกคลุม เรือนไผ่สองชั้นหลังหนึ่งตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางภายในเรือนไผ่เก็บทรัพยากรต่างๆ ที่อวิ๋นฝูหลิงรวบรวมมาได้ในโลกวิบัติ อวิ๋นฝูหลิงเดินวนในเรือนไผ่หนึ่งรอบ พบว่าทรัพยากรเหล่านั้นยังอยู่ นางรู้สึกปลอดภัยมากขึ้นในทันทีด้านซ้ายของเรือนไผ่เป็นแปลงสมุนไพร ปลูกสมุนไพรนานาชนิดส่วนด้านขวามีหินย้อยก้อนหนึ่ง ห้อยอยู่กลางอากาศตรงปลายแหลมของหินย้อย มีน้ำหยดหนึ่งเกาะอยู่ หยดน้ำจะร่วงแหล่มิร่วงแหล่ส่วนด้านล่างของหินย้อยมีชามหินหนึ่งใบ ใช้สำหรับรองหยดน้ำที่หยดลงมาจากหินย้อยเวลานี้ในชามหินรองน้ำได้ครึ่งชามแล้วน้ำนี้เทียบได้กับยาวิเศษ เป็นของที่ดีมากคนทั่วไปดื่มสามารถเสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย ร้อยโรคไม่กล้ำกราย คนป่วยดื่มสามารถขจัดร้อยโรค ฮึกเหิมประดุจมังกรและเสือผาดโผนในพริบตาเวลาปรุงยาเพิ่มหนึ่งหยด สามารถกระตุ้นสรรพคุณยา เพิ่มประสิทธิภาพเพียงแต่หยดน้ำแห่งจิตวิญญาณนี่หยดช้ามาก เก็บมานานสามเดือนกว่าเพิ่งจะได้แค่ครึ่งชามแต่สามารถมีหยดน้ำแห่งจิตวิญญาณเช่นนี้ครึ่งชาม อวิ๋นฝูหลิงก็ดีใจมากแล้วนางรีบนำหยดน้ำแห่งจิตวิญญาณจากมิติมาดื่มสองอึกทันทีกระแสอุ่นสายหน
น้ำท่วมที่โหมกระหน่ำกลืนกินบ้านเรือนและไร่นาในพริบตาบ้านเรือนต้านแรงซัดของกระแสน้ำไม่ไหว ถูกซัดจนพังทลาย กลายเป็นเศษซากกระจัดกระจายไปทั่วชาวบ้านที่อยู่ด้านหลังเหล่านั้น ก็ถูกน้ำท่วมม้วนเข้าไปในพริบตาคนเหล่านี้ไม่ทันได้ส่งเสียงขอความช่วยเหลือด้วยซ้ำ หลังจากลอยคออยู่ในน้ำครู่หนึ่ง ก็ถูกน้ำท่วมพัดหายไปอย่างไร้ร่องรอยชาวบ้านคนอื่นเห็นสถานการณ์ อดไม่ได้ที่จะหน้าซีด ตอนนี้แทบจะใช้มือและเท้าปีนขึ้นยอดเขาอย่างสุดชีวิตโดยเฉพาะพวกชาวบ้านที่อยู่ท้ายขบวน พวกเขาเห็นคนที่อยู่ข้างหลังพวกเขาถูกน้ำท่วมกลืนกินต่อหน้าต่อตาอีกเพียงนิดเดียว พวกเขาก็เกือบจะถูกฝังท่ามกลางน้ำท่วมแล้ว!ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีเวลาสนใจสัมภาระที่หนักอึ้งบนแผ่นหลังแล้ว โยนของทิ้งก็ปีนขึ้นเขาอย่างสุดชีวิตในเวลาเช่นนี้ สิ่งของจะสำคัญกว่าชีวิตได้อย่างไร!อวิ๋นฝูหลิงกุมศีรษะปีนขึ้นเขา ระหว่างนั้นหันกลับมาดูสถานการณ์ของน้ำท่วมแวบหนึ่งน้ำท่วมที่อยู่ใต้เขาสูงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งหมู่บ้านจมไปแล้ว อีกทั้งปริมาณน้ำยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีแนวโน้มว่าจะท่วมสูงถึงไหล่เขาอวิ๋นฝูหลิงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตกใจเวลานี้เอง หญิงสาวคนห