อีกด้านหนึ่งภายในห้องหรูของคอนโดมิเนียม เสียงครางหวีดหวิวด้วยความกระสันเสียวของหญิงสาวค่อยๆ เบาลงไปจนเหลือเพียงเสียงหอบหายใจ
ริมฝีปากอิ่มซึ่งเคลือบด้วยลิปสติกสีแดงสดเผลอสูดปากครางเมื่อเรียวนิ้วแกร่งทั้งสามถูกถอนออกจากร่างกายของเธอ
สิงหราช หรือเลออน ที่ใครๆ ต่างก็เล่าลือกันว่าเอาดุ วันนี้เธอได้ลองลิ้มรสนิ้วมือของเขาแล้วก็พบว่ามันไม่เกินจริงเลย
"ฉันจะไปสูบบุหรี่หน่อย เธอพักเถอะ" ชายหนุ่มบอกแค่นั้น เขาถอดถุงยางสำหรับสวมที่นิ้วออก ก่อนจะคว้าทิชชู่มาเช็ดคราบหยาดน้ำสีใสที่เปรอะตามนิ้วไปจนถึงข้อมือ จากนั้นจึงลุกจากเตียงไปหยิบบุหรี่ในกล่องเก็บที่ดูก็รู้ว่าราคาแพงตั้งแต่เห็นชื่อแบรนด์ที่ประดับอยู่ ไหนซิปโปราคาหลักหมื่นนั่นอีกเล่า ทำเอาคนมองตาวาวเพราะของมีราคาไม่รู้กี่รอบ
ผู้ชายคนนี้ขนาดแค่ใช้นิ้วก็ทำเธอเสร็จสมตาลอยไปไม่รู้กี่รอบ จนตอนนี้ข้างในของเธอมันยังสั่นไม่หาย ในขณะที่คนทำให้เธอกลับหน้านิ่งเฉยประหนึ่งคนไร้ความรู้สึก ร่างสูงถอนหายใจนิดหนึ่ง ลุกออกไปสูบบุหรี่อยู่ที่ระเบียงด้านนอก
น่าเสียดายที่วันนี้เธอยังไม่ได้ลิ้มลองความแข็งแกร่งที่หลับใหลอยู่ภายใต้กางเกงของเขา ทั้งที่ขนาดของมันตอนหลับยังใหญ่โตขนาดนั้น อดคิดไม่ได้เลยว่าหากมันผงาดชันและสอดเข้ามาในร่างกายของเธอจะยิ่งใหญ่ยิ่งคับแน่นขนาดไหนเชียว
และมันจะยิ่งดีมากแค่ไหนนะหากเขาเกิดถูกใจเธอ
คนที่เพอร์เฟคทั้งรูปร่างหน้าตาและฐานะอย่างประธานสิงหราชไม่ใช่ว่าจะหาได้ง่ายๆ
เขามันมีดีครบเครื่อง เธอมั่นใจ!
"ถ้าหายเหนื่อยแล้วก็กลับไปซะ เลขาฉันจะไปส่งเธอที่ด้านล่าง ส่วนเช็คก็วางอยู่บนโต๊ะ" เจ้าของห้องอย่างสีหราชเอ่ยบอกเมื่อเขาอ้อยอิ่งสูบบุหรี่จนหมดมวนแล้วกลับเข้ามาด้านใน
"เอ่อ เราจะไม่...ต่อกันจริงๆ เหรอคะ"
"ก็เห็นอยู่ว่าวันนี้ฉันไม่มีอารมณ์" เขาตอบหน้าตาเฉยขณะหันมองหญิงสาวร่างเพรียวบางบนเตียง สายตาบอกชัดว่าเขาไม่ต้องการให้เธอตั้งคำถามหรือทำอะไรที่นอกเหนือไปจากคำสั่ง
"เอาไว้ครั้งหน้าที่อารมณ์ดีๆ วันนั้นอาจจะเรียกมาอีก"
"คุณพูดแล้วนะคะ เคทจะรอค่ะ" หญิงสาวเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงออดอ้อนเอาใจ
ครั้งนี้ไม่ได้ ครั้งหน้าก็ยังมี
นางแบบสาวดีกรีลูกครึ่งยอมลุกออกจากเตียงแล้วเดินเข้าห้องน้ำ หลังแต่งกายจนเรียบร้อย เธอจึงเดินมาหยิบเช็คเงินสดมูลค่าหลักหมื่นเก็บใส่กระเป๋า
ก่อนออกจากห้องยังไม่วายจุมพิตลงที่ข้างแก้มของชายหนุ่มเป็นการทิ้งท้าย
"อย่าลืมเรียกเคทนะคะ"
สิงหราชเหลือบตามองใบหน้าสวยคมของคนกระซิบ
"เคทมีดีพอที่จะทำให้คุณมีความสุขได้มากเลยล่ะค่ะ ไว้เรามาเปิดประสบการณ์เสียวกันแบบเต็มขั้นกันนะคะ"
ริมฝีปากจรดบนผิวแก้มสากของชายหนุ่ม สัมผัสร้อนผ่าวแสนเย้ายวนนั้น สำหรับหญิงสาวแล้วเธอเรียกว่ารุกฆาต แต่สำหรับคนถูกจูบกลับทำเพียงแค่เสียงหัวเราะหึในลำคอเท่านั้น
ซึ่งไม่รู้ว่ามันแปลเป็นความหมายอะไรได้บ้าง เขาตอบรับ หรือไม่ยินดี ก็ไม่มีใครเดาใจออก
สิงหราชเป็นคนที่เก็บอารมณ์เก่ง เก่งไปเสียทุกเรื่องจนเขาเองยังนึกหงุดหงิดตัวเอง ว่าทนสภาพแบบนี้มาได้อย่างไรตั้งนานขนาดนี้
"นั่นๆ โห คนเก่าเพิ่งไป คนใหม่ก็ตามมาติดๆ เลยอ่ะแก"
ข้าวหอมชี้ไม้ชี้มือเมื่อเห็นว่าผู้หญิงที่สิงหราชควงมาเพิ่งจะขึ้นรถไป ขณะเดียวกันผู้หญิงอีกคนก็ก้าวลงจากรถอีกคัน เดินตามเลขาคนนั้นของสิงหราชไปที่ลิฟต์
เป็นคู่นอนคนที่สองที่พวกเธอได้เห็นแล้วในวันนี้
"โห ร้ายจริงอะไรจริง" นิลินว่า "คนแบบนี้จะหยุดที่ใครได้วะ"
"คงจะหยุดหรอกมั้ง เคยได้กินวันหนึ่งตั้งหลายคน เสือมันจะอดเนื้อได้เชียวเหรอ" นินจาส่ายหน้า
มีเพียงเจ้าจันทร์เท่านั้นที่เผลอยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมองเวลา ก่อนจะหรี่ตามองคนที่เพิ่งเดินเข้าลิฟต์ไป
สี่สิบนาที...
จะว่ามากก็มาก จะว่าน้อยก็น้อย
บางทีคุณเขาคงเร่งทำเวลาเพราะนัดคนใหม่ไว้ละมั้ง มีเด็กในสต็อกหลายคนก็แบบนี้
คนอย่างสิงหราชคงไม่ต้องกังวลเลยว่ารถไฟจะชนกัน ก็เล่นสับรางเสียจนเชี่ยวชาญขนาดนี้นี่นา
วันจันทร์แห่งการทำงานเวียนมาถึงอีกครั้ง เจ้าจันทร์ถือโอกาสในการหยุดงานช่วงครึ่งวันเช้า เพราะวันนี้เธอต้องตามเจ้านายไปดีลงานกับลูกค้าในช่วงค่ำ
เป็นธรรมดาของฝ่ายขอเจรจาที่จะต้องไล่ตามอีกฝ่าย ต่อให้ฝ่ายนั้นเล่นตัวอย่างไร หรือจะโกหกว่าไม่มีเวลาว่างจนต้องเลือกเวลานัดค่ำๆ มืดๆ แต่หากมันจะนำมาซึ่งข้อตกลงร่วมธุรกิจและเม็ดเงินจำนวนมหาศาล การเสียเวลาเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้เจ้าจันทร์ก็มองว่ามันคุ้มค่าเสมอ
ช่วงเวลาสองทุ่มเศษเป็นช่วงที่ผู้คนยังไม่พลุกพล่านมากนัก เจ้าจันทร์และเหมราชผู้เป็นเจ้านายของเธอมาถึงสถานที่นัดหมายก่อนเวลาประมาณยี่สิบนาที ทำให้ต้องนั่งรออยู่ในห้องวีไอพีของผับชื่อดังต่อไปอีกสักระยะ
กระทั่งนั่งรออยู่ไม่นานเมื่อตัวแทนจากบริษัทคู่ค้ามาถึง เจ้าจันทร์จึงเริ่มทำหน้าที่ของเธออย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ทั้งเรื่องการเตรียมของว่างและเครื่องดื่มที่เธอสืบค้นมาอย่างดีว่าอีกฝ่ายชอบ...หรือไม่ชอบอะไร
เรื่องของงานเอกสารเองก็ไม่มีผิดพลาด จะต้องการเอกสารหรือข้อมูลเพิ่มเติมแบบไหนเธอก็เตรียมพร้อมมาทั้งหมด ถึงเป็นการเจรจากับบริษัทขนาดเล็ก แต่เจ้าจันทร์ก็ไม่เคยประมาท
ทำงานรอบคอบและไร้ซึ่งข้อผิดพลาด
นั่นแหละคือตัวตนของเธอในฐานะเลขามือฉกาจของแอลกรุ๊ป
"ยินดีที่ได้ร่วมงานนะครับ" เหมราชกล่าวพลางจับมือกับคู่ค้าที่เพิ่งตอบตกลงรับข้อเสนอ
"ยินดีเช่นกันครับ คุณมีเลขาที่เก่งมาก" อีกฝ่ายกล่าวชื่นชม
เหมราชยิ้มรับอย่างเป็นธรรมชาติ เรื่องนั้นเขารู้ดีอยู่แล้ว เดิมทีฝีมือในการบริหารของเขาก็ไม่ได้โดดเด่นนัก แต่เพราะได้เลขาคนนี้มา งานหลายๆ อย่างของเขาจึงผ่านไปอย่างราบรื่น บางครั้งข้อเสนอที่น่าสนใจก็ยังมาจากเธอคนนี้
เรียกได้ว่าตำแหน่งรองประธานกรรมการบริหารที่เขานั่งอยู่ คนที่ส่งเขาขึ้นมาถึงจุดนี้ได้ก็คือเจ้าจันทร์
"คุณเจ้ากลับยังไงครับ ให้ผมไปส่งไหม เรื่องเอกสารเพิ่มเติมเอาไว้พรุ่งนี้ค่อยเคลียร์ต่อที่บริษัทก็ได้"
เหมราชถามขึ้นหลังจากทั้งห้องเหลือเพียงเขากับเลขาเพียงสองคน
"ไม่เป็นไรค่ะ เจ้าเอารถมา คุณเหมจะกลับเลยหรือเปล่าคะ"
เลขาคนเก่งเอ่ยถามกลับ มือก็รวบรวมเอกสารมาจัดเรียงลงในแฟ้มให้เรียบร้อย
"ผมว่าจะอยู่ต่ออีกสักหน่อยน่ะ"
"อ่า...งั้นเจ้าฝากเอกสารไว้กับคุณเหมสักเดี๋ยวได้ไหมคะ จะไปห้องน้ำน่ะค่ะ"
เมื่อได้ยินดังนั้นเหมราชก็รีบพยักหน้ารับทันที เขาอาสาเฝ้าเอกสารเอาไว้ ขณะที่เจ้าจันทร์ก็เดินออกจากห้องตรงไปยังห้องน้ำโซนวีไอพี
โชคดีที่ห้องน้ำโซนนี้แยกออกจากโซนธรรมดา ไม่อย่างนั้นช่วงสามสี่ทุ่มแบบนี้คนคงเริ่มเยอะจนต้องต่อคิวนาน
ที่ไหนเปลี่ยว ที่นั่นย่อมทางสะดวก
หวังว่าห้องน้ำที่เธอไป จะไม่มีสิ่งใดมารบกวนให้เสียเวลาหรอกนะ
มันคงไม่แจ๊คพอตแตกขนาดนั้น
ประตูห้องน้ำด้านในถูกเปิดออกก่อนที่หญิงสาวจะเข้าไปทำธุระส่วนตัวจนเสร็จ เจ้าจันทร์โล่งใจที่ไม่มีใครเข้ามารบกวน เธอคว้ากระเป๋าสะพายซึ่งแขวนตรงประตูมาถือไว้ ตั้งใจเปิดประตูออกไป ทว่ากลับได้ยินเสียงล็อกประตูจากทางด้านนอก "!!!" แวบแรกเธอคิดว่าอาจมีคนคิดทำไม่ดีกับเธอ แต่พอฟังดูดีๆ ก็รู้ว่าไม่ใช่ "อื้อ! คุณเลใจเย็นๆ สิคะ" เสียงครางและชื่อที่ฝ่ายหญิงเอ่ยเรียกออกมาทำเอาเจ้าจันทร์ขมวดคิ้วยุ่ง เลไหน? "อาาา...อย่าบอกให้ใจเย็นถ้าเธอจะแฉะจนเปียกมือฉันขนาดนี้" เสียงทุ้มกล่าวตอบ พลันนั้นใบหน้าของเจ้าจันทร์ถึงกับแข็งค้างไปชั่วขณะ เสียงนั้นมันคุ้นหูเธอมากจนแทบไม่อยากเชื่อ เลที่ว่าคงไม่บังเอิญเป็นเลออนหรอกใช่ไหม? เลขาคนสวยถึงกับต้องกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ใบหน้าที่เคยนิ่งเรียบอย่างรักษามาดเริ่มขึ้นสีระเรื่อเมื่อเธอต้องมาทนฟังเสียงครางของคนทั้งสอง มันคงไม่เป็นไรเลยถ้าหนึ่งในนั้นไม่ใช่คนที่เธอรู้จัก และน่าแปลกที่เสียงครางแหบต่ำของฝ่ายชายนั้นทำให้เธอรู้สึกร้อนรุ่มขึ้นมาเสียได้ "คุณเลออนขาาา" นั่นปะไร เลออน...คนกินไม่เลือก! เจ้าจันทร์ใจยิ่งเต้นครึกโครมเข้าไปใหญ่เมื่อรู้ว่าผู้ชายน้ำเสียงคุ้น
ช่วงเช้าของวันถัดมา ท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบของบ้านหลังใหญ่ ในห้องทำงานสีทึบของผู้เป็นเจ้าของบ้านวัยหกสิบห้าปี กลับปรากฏร่างของชายวัยกลางคนถึงสองคน คนหนึ่งคือลูกชายคนโต อีกคนคือลูกชายคนเล็ก คนเป็นน้องมีสีหน้าติดจะไม่พอใจ ส่วนคนพี่มีอย่างเดียวคือสีหน้าจริงจังจนกดดันคนอื่นๆ และใช่ สองหนุ่มที่ว่านั่นคือสิงหราชกับเหมราช สองพี่น้องของบ้านเลิศวัฒนทรัพย์ "พี่ก็มีเลขาอยู่แล้ว ยังคิดมาเอาตัวเลขาของผมอีกเหรอ รู้ไหม ถ้าไม่มีคุณเจ้าผมก็แย่ดิ" เหมราชกล่าวอย่างไม่ยินยอมเมื่อพี่ชายเอ่ยขอเลขาของเขาให้ไปช่วยงานเจ้าตัวเป็นการชั่วคราว ขอที่ไหนไม่ขอ ดันมาพูดต่อหน้าพ่ออีกต่างหาก "ก็แลกกับเลขาฉันไง ไม่ได้ขโมยเลขาแกมาเปล่าๆ ซะหน่อย อีกอย่างก็แลกกันไม่นาน เข้าใจไหมว่าชั่วคราวน่ะ จะเล่นใหญ่ทำเพื่อ?" "เอ้า แล้วเรื่องอะไรผมต้องเสียคนเก่งๆ ไปให้พี่ด้วยล่ะ คนเก่งคนดีแถมไม่คิดปีนเตียงเจ้านายแบบคุณเจ้า หาได้อีกที่ไหน คนก่อนๆ นั่นนอกจากทำงานไม่ดีวันๆ ยังเอาแต่อ่อย กว่าผมจะได้เลขาคนนี้มาก็เลือดตาแทบกระเด็น" สิงหราชขมวดคิ้ว เขารู้ว่าเลขาของน้องชายทำงานได้ดีมาก เก่งพอๆ กับเลขาส่วนตัวของเขาเลยก็ว่าได้ แต่ในเม
หลังการเจรจาในครอบครัววันนั้น มันก็เป็นผลที่ทำให้วันถัดมาสิงหราชมีคุณเลขาเจ้าจันทร์มานั่งทำงานร่วมกันในห้องวันนี้ สิงหราชให้คนจัดโต๊ะใหม่ให้คุณเลขาในห้องของเขา เพื่อให้ตัวเขาสามารถจับตาดูคนคนนี้ได้ และก็พบว่าตัวเขาเองรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมากที่ในสายตาได้มองเห็นใบหน้านิ่งๆ ของเธอ อันที่จริงนอกจากใบหน้านิ่งเรียบกับใบหน้าเปื้อนยิ้มที่ไปไม่ถึงดวงตาอย่างพวกรอยยิ้มการค้า เขาเองก็ไม่เคยเห็นว่าเธอจะแสดงสีหน้าอย่างอื่นออกมาอีก ดังนั้นเมื่อวันก่อนที่เขาทำให้เธอหงุดหงิดใจได้นั้นก็นับว่าน่าสนุกอยู่ไม่น้อย "คุณควรจะทำงานนะคะ ไม่ใช่มานั่งจ้องหน้าฉันทั้งชั่วโมงแบบนี้" "ใครจ้อง" "แต่ดิฉันเห็นค่ะ" เจ้าจันทร์เอ่ยตอบเสียงเรียบพลันช้อนตาขึ้นมองเขา "งั้นแปลว่าคุณก็จ้องผมอยู่ทั้งชั่วโมงเหมือนกันน่ะสิ" สิงหราชยกยิ้มตอบกลับหน้าตาย จะให้เขาทำอะไรในเมื่องานของเขามันเสร็จหมดแล้ว เอกสารสำคัญที่ต้องจัดการของวันนี้ก็พิจารณาอ่านและเซ็นไปจนหมดแล้วด้วย เจ้าจันทร์ทอดมองใบหน้ายียวนนั้นก็ได้แต่นึกหงุดหงิดอยู่ในใจ เธอไม่มีอะไรจะต่อว่าเขาได้ เพราะคุณสิงหราชคนนี้ดันเป็นพวกหัวไว ทำงานรวดเร็วและมีประสิทธิภาพจนเ
"ทะ...ทำอะไรของคุณคะ!" "ฉันต่างหากที่ต้องถาม ถ้าเธอขยับอีกนิดฉันอาจเป็นหมันได้เลยนะ" สิงหราชตอบกลับ เขาใช้สายตาบอกให้รู้ว่าเข่าของเธอมันสัมผัสกับอะไร ๆ ที่มันอยู่ใต้กางเกงของเขาอยู่ ถึงไม่โดนเต็มที่ แต่ก็มีเฉียดไปส่วนหนึ่งแล้ว กระดูกเข่าแข็ง ๆ กดทับลงเนื้อนิ่มหยุ่น...มันให้ความรู้สึกแปลกเป็นบ้า "อุ๊ย!" เจ้าจันทร์ตาเบิกกว้าง พยายามใช้มือยันเพื่อขยับตัวลุกขึ้น แต่ใครจะไปคิดว่าเธอจะซวยซ้ำซวยซ้อน รองเท้าส้นสูงที่สวมอยู่ดันส้นหักทำเธอล้มกลับลงไปอีกรอบ เท่านั้นยังไม่พอ เธอยังเผลอใช้มือขวาของตัวเองตะปบคว้าไปยังเป้ากางเกงของเจ้านายเอาไว้อีก! "เฮ้ย!" สิงหราชร้องเสียงหลงในขณะที่เจ้าจันทร์ก็ร้องออกมาด้วยความตกใจยิ่งยวด มือของเธอสั่นระริกหลังจากสัมผัสได้ถึงความใหญ่โตที่คับแน่นฝ่ามือขึ้นมากะทันหัน "คุณสิงหราช! ไอ้คนโรคจิต!" หญิงสาวต่อว่าเสียงดัง รีบร้อนลุกขึ้นแม้ว่าจะโซซัดโซเซไปบ้างเพราะตั้งตัวไม่ทันก็ตาม จากที่ตั้งใจจะเอ่ยขอโทษ ตอนนี้เธอกลับมีแต่ความโมโหจนอยากจะต่อว่าใส่อีกฝ่าย "ใครกันแน่ที่โรคจิต คุณมาจับมันเองนะ" สิงหราชเองก็ไม่พอใจเช่นกัน เธอมาจับของเขาเองแท้ ๆ ยังมีหน้ามาว่าเขา
"เข้า-กัน-ได้" ถ้อยคำสั้น ๆ นั้นสื่อความหมายได้อย่างชัดเจน ใบหน้าสวยหวานขึ้นสีระเรื่อจางๆ เมื่อถูกจ้องมองด้วยสายตาที่ทั้งร้ายกาจและเจ้าเล่ห์ของคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ เจ้าจันทร์รู้สึกว่ามือของเธอชื้นเหงื่อขึ้นมา คนที่รู้แต่ภาคทฤษฎีอย่างเธอจะทำได้ถูกใจเขาหรือเปล่านั้น...ข้อนี้เธอไม่แน่ใจเลย ที่ผ่านมาตอนทำงานในผับก็เคยเห็นหนังสดมาบ้าง เคยได้ยินได้ฟังทริกต่าง ๆ จากทั้งลูกค้าและพนักงานด้วยกัน เหมือนจะรู้มามากแต่ก็ไม่เคยทำกับคนจริง ๆ สักที อย่างมากก็แค่มีซื้อของเล่นมาลองทำดูเท่านั้น และของเล่นของเธอมันก็ไม่ได้ใหญ่เท่าน้องชายที่ใต้กางเกงของคุณสิงหราชเสียด้วย "คุณจะเปลี่ยนใจก็ได้นะ" ชายหนุ่มแสร้งทำเป็นยอมอ่อนข้อ แต่เจ้าจันทร์กลับรู้ดีว่าเขากำลังเร่งเร้าให้เธอตกลงต่างหาก "ถ้าเราเข้ากันได้ คุณต้องเพิ่มข้อตกลงว่าคุณจะไม่มีเซ็กซ์กับคนอื่นอีก ไม่ว่าคุณจะกลับมารู้สึกเป็นปกติหรือเปล่า เพราะฉันไม่ต้องการใช้ของร่วมกับใคร ไม่อยากสกปรกและติดเชื้อโรคที่คุณอาจได้รับมาจากการนอนกับคู่นอนของคุณ ทางเดียวที่คุณจะนอนกับคนอื่นได้คือเราต้องยกเลิกสัญญาก่อน ถ้าคุณผิดสัญญาข้อนี้…" "ถ้าผมผิด ผมให้คุณร้อย
เจ้าจันทร์เผลอกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ เมื่อคิดไปถึงว่าเธอกำลังจะได้เห็นส่วนลับของเจ้านายตัวเอง รองเท้าส้นหักนั่นถูกถอดออกไปแล้วท่ามกลางสายตาเสียอกเสียดายของสิงหราช หญิงสาวค่อย ๆ คุกเข่าลงตรงหน้าเมื่อเดินมาถึง เธอยื่นมือที่ติดจะสั่นเล็กน้อยออกไปแล้วจัดการปลดเข็มขัดของเขาออก เข็มขัดผู้ชายปลดยากกว่าที่คิด แต่ก็ไม่ยากเกินความพยายาม… "คุณ…ฉันยังไม่ทันได้ทำอะไรเลยนะคะ" เธอร้องบอกเดี๋ยวนั้น ดวงตากลมโตช้อนขึ้นมองเจ้าของร่างสูงใหญ่ นี่แค่ยื่นใบหน้าเข้าไปใกล้ และรูดซิปกางเกงลงแบบที่เคยเห็นจากในหนังติดเรท แค่นั้นก็ทำเอาส่วนลับแข็งคึกจนดันเป้ากางเกงขึ้นมาเป็นรูปทรงแล้วหรือ "หึ ผมไม่รู้ว่าคุณจะยั่วตาใสเก่งขนาดนี้" สิงหราชกัดฟันพูดคล้ายกำลังอดทน เจ้าจันทร์ขมวดคิ้วเข้าหากัน เธอสบตาเขาอีกหนในตอนที่กล่าวปฏิเสธออกไป "ยั่วอะไร แค่รูดซิปเนี่ยนะคะ" "ใช้ปากรูดซิปกางเกงให้ผู้ชาย ถ้าไม่เรียกยั่วจะเรียกอะไร หืม?" คำถามนั้นเจ้าจันทร์เองก็ตอบไม่ได้ เธอแค่อยากลองทำแบบนั้นสักครั้งก็เท่านั้นเอง แต่เพราะมืออุ่น ๆ ของสิงหราชนั่นแหละที่ยื่นมากุมใบหน้าด้านขวาของเธอเอาไว้ ไหนจะนิ้วโป้งที่ไล้แก้มเธอไปมา แววต
ร่างของเจ้าจันทร์พลันถูกอุ้มขึ้นมาจากพื้นเมื่อเจ้าของห้องหมดความอดทน เขาวางร่างของเธอลงบนเตียงนอน จากนั้นจึงจับให้เธอคร่อมทับเขาไว้อยู่ในท่ากลับหัวกลับหาง ในตอนนี้ใบหน้าของเขาอยู่ที่กลางกายของหญิงสาวผู้เป็นเลขาแล้ว ส่วนใบหน้าของเธอเองก็แนบชิดอยู่กับส่วนกลางกายของเขาเช่นเดียวกัน กลิ่นหอมอ่อนนี้ชวนให้สีหราชลุ่มหลง เขาสูดลมหายใจเข้าแรง ๆ ด้วยความชื่นใจ กลิ่นนี้...ช่างถูกใจเขายิ่งนัก "ขาเธอสั่นนะ" สิงหราชแกล้งแซวคนที่คร่อมทับใบหน้าของเขาอยู่ด้านบน "ถ้าถูกลงลิ้นขึ้นมาจะไม่ขาสั่นจนทรุดไปซะก่อนหรือไง" "อย่าให้ฉันเห็นว่าคุณสวนสะโพกส่งน้องชายคุณเข้าปากฉันเพราะทนไม่ไหวก็แล้วกันค่ะ หวังว่าคุณจะอดทนได้จนจบการทดลองนะคะ ท่านประธาน" กล่าวจบเจ้าจันทร์ก็เป็นฝ่ายรุกก่อน ริมฝีปากอิ่มที่เคลือบด้วยลิปสติกอ้าออกเพื่ออมเจ้าส่วนนั้นเข้าไป เริ่มจากทำความสะอาดที่ส่วนปลาย ก่อนจะไล้เลียไปตลอดความยาวของมันจนยิ่งผงาดแข็ง เดิมทีเจ้าจันทร์ก็คิดว่าของเขามันใหญ่อยู่แล้ว แต่ไม่รู้ทำไมตอนนี้กลับขยายได้อีกจนพองคับเต็มปาก "อาาา นี่คือไม่เคยของเธอหรือไงเจ้าจันทร์" สิงหราชถามเสียงพร่า กัดฟันอดทนกับความเสียวที่
เพี๊ยะ! มือหนาฟาดเบา ๆ ที่ก้นอวบเมื่อพวกเขาพักหายใจกันได้ครู่หนึ่ง เจ้าจันทร์ที่นอนหมดแรงจนเผลอทิ้งตัวลงไปทับคนด้านล่างพลันได้สติ รีบลุกขึ้นนั่งโดยตั้งใจว่าจะหยิบเสื้อผ้าไปสวมในห้องน้ำ แต่ก็ไม่วายถูกท่อนแขนแข็งแรงคว้าตัวเอาไว้ให้นอนลงกับเตียง "อะไรของคุณคะเนี่ย" "แล้วจะรีบลุกไปไหนเล่า" สิงหราชขมวดคิ้วถาม "พักอีกสักเดี๋ยวก็ได้ ผมไม่หักเงินเดือนคุณหรอกน่ะ" "ไม่หักเงินเดือนแต่ถ้างานล่าช้าก็ต้องมานั่งทำงานล่วงเวลาอีกเหรอคะ" เจ้าจันทร์ขยับตัวหนีคนมือไวที่เริ่มลูบไล้สัมผัสร่างกายของเธออีกครั้ง ทั้งที่เจ้าตัวบอกแค่จะทดสอบเฉย ๆ แต่กลับทำท่าเหมือนอยากจะทำอะไรที่มากกว่านั้นต่ออีกงั้นแหละ "ผมจ่ายค่าล่วงเวลาให้คุณได้อยู่แล้ว แล้วนี่จะขยับหนีทำไมนัก?" "ทดลองคือทดลองสิคะ สัญญาอะไรก็ยังไม่มี ฉันไม่ยอมโดนกินฟรีหรอกค่ะ อย่าคิดว่าจะเอาเปรียบกันได้ง่าย ๆ เชียว" ได้ยินเจ้าจันทร์พูดอย่างนั้น ชายหนุ่มก็ได้แต่ทำฮึดฮัดไม่พอใจ ในเมื่อเธอไม่เต็มใจเขาก็ไม่ได้เลวขนาดจะข่มเหงให้ยอมอยู่แล้ว ส่วนเรื่องสัญญาอะไรนั่นเดี๋ยวเขาจะรีบเขียนรีบเซ็นให้มันจบ ๆ ไปเอง เห็นทวงถามราวกับกลัวจะถูกเอาเปรียบแบบนี้เขาย
คู่รักกำลังจะหยอกล้อกันบนเตียงอีกสักหน่อย ริมฝีปากกำลังจะสัมผัสกันอยู่แล้วเชียวถ้าไม่มีเสียงหนึ่งดังแทรกขึ้น มันคือเสียงโทรศัพท์มือถือของสิงหราชที่แผดเสียงดังอยู่ไม่ไกล จนเขาทนหัวเสียไม่ไหวยื่นมือไปคว้ามากดรับสาย โดยที่เจ้าจันทร์ก็ยังนั่งนิ่งอยู่ในอ้อมแขน รับฟังปลายสายไปพร้อมๆ กันเมื่อเขากดสปีกเกอร์โฟน "ไง มีอะไร" "โอ้โห ถามมาได้ พี่ให้พ่อโยนวีกรุ๊ปมาให้ผมดูแลใช่ไหม ฝีมือพี่ใช่ไหมวะ!" ปลายสายคือเหมราชที่โวยวายกลับมา "อ่า ใช่ ถ้าแกไม่ชอบก็ปฏิเสธไปสิ" สิงหราชบอกไปอย่างไม่ทุกข์ร้อน เจ้าจันทร์เองก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย ท่าทางน่ารักของเธอทำเอาสีหราชหมันเขี้ยวก้มหน้าลงมาหอมไปอีกฟอดใหญ่ "ปฏิเสธบ้าอะไรล่ะ พ่อยอมที่ไหน อีกอย่าง ผมอยากทำเกี่ยวกับอุปกรณ์กีฬามาตั้งนานพี่ก็รู้ พี่แม่ง ไม่บอกกันล่วงหน้าบ้างเลย คุณเจ้าอีกคน ก็นึกว่าจะควบรวมกิจการเฉย ๆ ใครจะรู้ว่าจะยกให้ผมวะ" "อ้าว ๆ นี่ตกลงชอบหรือไม่ชอบกันแน่วะ งงแล้วนะโว้ย" "ชอบ แต่ไม่ชอบที่พี่ไม่บอกก่อนไงวะ!" "ฮ่าๆ ไอ้บ้านี่" สิงหราชหัวเราะใส่น้องชาย เพราะร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นมันจะบอกชอบอะไรเลยที่เขาหยิบยื่นให้ "ถูกใจก็ดีแล้วไง ทีนี้ก็
เจ้าจันทร์มองคนเสนอความตื่นเต้นอย่างนึกสนุก ใครกันแน่ที่ร้ายปากเขาบอกยอมลงให้เธอ แต่สุดท้ายราชสีห์ก็ร้ายอยู่ดี แต่ก็เอาเถอะ ไม่ว่าครั้งนี้ หรือครั้งไหน ๆ เธอก็จะเป็นผู้หญิงคนเดียวที่อยู่เหนือเขา ก็เขาบอกเองนี่ อยากอยู่ใต้เท้าเธอ มันก็ต้องเป็นเช่นนั้นตลอดไป "ยิ้มอะไรครับ ไม่อยากเห็นผมเจ็บเหรอ" "เปล่าค่ะ แค่กำลังคิดว่าจะข่วนให้เลือดซิบตรงส่วนไหนดีต่างหากล่ะ" "ฮ้าาา...ร้ายไม่เบา" "ก็มีแฟนเจ้าเล่ห์อย่างคุณ เจ้าก็ต้องเป็นยิ่งกว่าสิคะ" "ฮ่าๆๆ ผมชอบคุณจัง" "ไม่เอาค่ะ คุณต้องรักเจ้าให้มากกว่าชอบสิ" สิงหราชยกมุมปากขึ้นยิ้ม ก่อนจะจับมือของเธอมาวางลงที่แผงอก เขากดนิ้วเธอที่มีเล็บยาวๆ ลงกลางร่องอกของตัวเอง เจ้าจันทร์มองการกระทำนั้นอย่างพอใจ แฟนของเธอมีมุมดิบเถื่อนเช่นนี้ด้วยเหรอ ความแบบนี้ก็ไม่บอก "อ่าส์...คุณเจ้า เล็บคุณทำผมเสียวจัง" ยิ่งเขาพูดแบบนั้น เจ้าจันทร์ก็ยิ่งสนุก คราวนี้เป็นเธอเองที่กดปลายเล็บลากยาวไปบนแผงอกกว้าง ก่อนกดลึกเรื่อยลงมาถึงหน้าท้อง ร่างบางถอยต่ำลง เพื่อให้นิ้วลากไปถึงจุดหมาย เธออยากจะกดปลายเล็บลงกลางรูเล็กๆ นั่นเหลือเกิน "ซี้ดดด...ที่รัก" สิงหราชครางออกมาทันทีท
เจ้าจันทร์กลับมาถึงห้องพักในคอนโดมิเนียมที่สิงหราชเป็นเจ้าของ เปิดประตูเข้าไปได้ไม่ทันไรก็ได้กลิ่นหอมของครีมอาบน้ำแบรนด์หรูลอยฟุ้งไปทั่วห้อง อาาา...แฟนของเธอน่ารักเสมอ เขารู้ว่าเธอชอบกลิ่นนี้ถึงได้อาบน้ำรอไว้ก่อนเลย หญิงสาวยิ้มหวานพลางสูดดมกลิ่นหอมๆ นั้นจนชุ่มปอด ก่อนเดินเข้าไปยังห้องนอน แล้วพบสีหราชเดินออกมาจากห้องน้ำพอดี "กลับมาแล้วเหรอกระต่ายน้อยของผม" ถึงจะจั๊กจี้กับคำเรียกแทนตัวแบบนั้น แต่เจ้าจันทร์ก็ยิ้มแก้มแทบปริรีบโผกายเข้าสวมกอดเขาแน่นจะว่าไป เป็นกระต่ายน้อยในอ้อมกอดราชสีห์ก็ถือว่าโอเคนะ อย่างน้อยก็ได้เปลี่ยนบทบาทมาอ่อนแอดูบ้าง ก็เธอน่ะ เพิ่งฟาดฟันกับวิสาลีนีมาหมาด ๆ หมดพลังเปลื้องน้ำลายไปเยอะเชียวกว่าอีกฝ่ายจะยอมสงบปากสงบคำอยู่ในที่ของตัวเอง อีกอย่าง เธอเองก็อยากได้กอดอุ่นๆ มาเติมกำลังใจสักหน่อย เพราะเรื่องนี้มันคงไม่จบลงง่าย ๆ แค่นี้ ในเมื่อวิลาสินียังมีหุ้นเหลืออยู่ยี่สิบห้าเปอร์เซ็นต์ คงไม่ต้องบอกเลยว่าการประชุมบอร์ดบริหารรอบหน้าจะมีการเปลี่ยนตำแหน่งภายในกันอย่างไรบ้าง แม้การจะเปลี่ยนก็ยังต้องฟังผลโหวตในที่ประชุมอีกครั้งอยู่ดี แต่ใครจะสนกันล่ะอีกไม่กี่วันนี้คนร
เจ้าจันทร์นึกสงสารอีกฝ่ายอยู่บ้างเช่นกัน แต่พอนึกได้ว่าผู้หญิงคนนี้เคยตั้งใจอ่อยสิงหราช ตั้งใจแบล็กเมล์คนรักของเธอ เจ้าจันทร์ก็แทบไม่หลงเหลือความเห็นใจอะไรอีก ในตอนนั้นถ้าปล่อยให้วิลาสินีทำสำเร็จ ก็คงเป็นแอลกรุ๊ปนั่นแหละที่จะต้องเดือดร้อนเสียหาย ถึงเวลานั้นความสงสารจะช่วยอะไรได้ คนเราไม่ได้กินความสงสารเป็นอาหารสักหน่อย ในเมื่อเงินก่อตั้งและเงินหมุนเวียนในบริษัทนี้ก็มาจากสามีของวิลาสินีมาตั้งแต่ต้น กับคนที่วัน ๆ เอาแต่วางท่าเป็นนางพญา ชูคอว่าเป็นเจ้าของบริษัทแต่กลับไม่เคยบริหารอย่างจริงจัง คนแบบวิลาสินีมองอย่างไรก็ไม่เป็นประโยชน์ต่อบริษัทเลยสักนิด สู้จ้างคนเก่ง ๆ มานั่งบริหารยังจะเข้าท่ากว่า "คุณสิงหราชไม่รู้เรื่องนี้หรอกค่ะ ส่วนคนที่ช่วยฉันคุณต้องไม่เชื่อแน่ว่าเป็นใคร" เจ้าจันทร์ยกยิ้ม ทว่ารอยยิ้มนั้นกลับไปไม่ถึงดวงตา "บังเอิญจังเลยนะคะที่ฉันรู้จักคนค่อนข้างเยอะ ทีแรกก็ไม่มั่นใจหรอกว่าวิลาสินีที่ว่าจะใช่คุณหรือเปล่า แต่พอสืบไปสืบมานิดเดียวก็ได้รู้ความจริงเข้าจนได้" "เลิกอ้อมค้อมซะที! รีบ ๆ บอกมาซะ ฉันจะไปเล่นงานมัน ฉันไม่เอามันไว้แน่!" "คนคนนี้เขาก็รอคุณอยู่เหมือนกันค่ะ คุณจำ
ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงถัดมาสิงหราชก็นั่งเซ็นสัญญากับวิลาสินี เขาได้หุ้นสิบห้าเปอร์เซ็นต์พร้อมกับแผนงานดี ๆ ที่คนรักของเขาเตรียมไว้ให้ เซ็นไปยิ้มไปไม่ได้สนใจสีหน้าอมทุกข์ของวิลาสินีเลยแม้แต่น้อย ในเมื่อทางนั้นเองก็ใช่วิธีสกปรก คิดจะแบล็กเมล์เขา ถ้าอย่างนั้นเจ้าตัวก็ควรรู้ไว้ด้วยว่า กล้าที่จะทำผิดก็ต้องยอมรับผลที่จะตามมาให้ได้ ในเมื่อวิลาสินีมีโอกาสแต่ดันทำพลาดไปแล้ว ต่อไปก็ลองเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบดูบ้าง ให้เหมือนกับตอนที่เธอคิดทำลายคนอื่นนั่นแหละ "ยินดีที่ได้ร่วมงานกันนะครับ คุณวิลาสินี" สีหราชกล่าวทั้งใบหน้าประดับรอยยิ้ม "หวังว่าต่อไปนี้คุณจะรู้ว่าควรวางตัวยังไง อยู่รอรับผลประโยชน์อย่างเงียบๆ แล้วทุกอย่างจะดีเอง" "คุณ…หมายความว่ายังไง" "ผมก็แค่พูดเผื่อเอาไว้ คุณก็รู้ไม่ใช่เหรอครับ ว่าแฟนของผมค่อนข้างที่จะ…กัดไม่ปล่อย คนเก่ง ๆ แบบนั้นอาจจะไม่หยุดแค่นี้ก็ได้นะครับ" "คุณ! นี่พวกคุณรวมกันทำอะไร หรือว่าพวกคุณคิดจะผิดข้อตกลง คุณจะแฉฉันใช่ไหม!" เห็นท่าทีราวกับคนจิตตกของวิลาสินีแล้วสิงหราชก็ได้แต่ส่ายหน้า ไม่รู้ว่าโดนเจ้าจันทร์ขู่อะไรไปบ้าง เพราะตอนนั้นเขาเองก็ฟังไม่ได้ชัดทุกคำ แต่ดูไปแล้
ในเช้าวันนี้ สิงหราชได้รับรายงานจากเลขาบอกว่า วิลาสินียอมขายหุ้นให้กับเขา ทั้งยังมีแผนงานใหม่ที่น่าสนใจส่งแนบท้ายมาด้วย การที่อยู่ ๆ วิลาสินียอมอย่างง่ายดายเช่นนี้ สำหรับสิงหราชแล้ว เขาไม่แปลกใจใด ๆ เหตุผลนั้นมีแค่ข้อเดียว... เหตุผลที่ทำให้เขาอึ้งจนพูดไม่ออกเมื่อได้เห็นมันด้วยตาตนเอง ชายหนุ่มบิดมุมปากขึ้นยิ้ม วันนี้เขาอารมณ์ดีเป็นพิเศษเมื่อนึกไปถึงเรื่องเมื่อวาน อาาา... ไม่ใช่เรื่องที่เขาจับเจ้าจันทร์แอบแซ่บในห้องทำงานหรอก หากแต่เป็นเรื่องอื่นที่ดีมากไปกว่านั้นมากกว่า ไม่คิดเลย...ว่าเขาจะเจอเพชรแท้ ไม่คิดอีกล่ะ...ว่าเขาจะโชคดีมากขนาดนี้ สิงหราชนั่งทำงานอย่างสบายอารมณ์ รออยู่เกือบครึ่งวันข้อมูลทุกอย่างก็ถูกส่งเข้ามาที่อีเมล์ส่วนตัว เขาไล่เปิดอ่านทั้งหมด รอยยิ้มแห่งชัยชนะปรากฎขึ้นอีกครั้ง ชายหนุ่มตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายหาคนรักของเขาที่คงจะทำงานอยู่ที่ห้อง เจ้าจันทร์รับสายเขาในทันทีก่อนจะทักทายกลับมาเสียงใส "คุณเจ้า ขึ้นมาหาผมหน่อยสิ พอดีมีเรื่องด่วน อยากให้คุณช่วยดูอะไรหน่อย" สิงหราชวางสายลงหลังจากปลายสายตอบกลับมา เขาอดยิ้มไม่ได้เมื่อได้อ่านข้อความในเอกสารนั่นอีก
ภายในโรงแรมหรูชื่อดัง เสียงเคาะประตูห้องพักดังขึ้น หญิงสาวภายในห้องรีบก้าวเดินมาที่ประตูทันที เธอมิทันระวังใด ๆ ก็เปิดประตูออกต้อนรับ "คุณสิงหราชคะ วี…" แต่แล้วเสียงหวาน ๆ ก็แผ่วลงก่อนจะแทนที่ด้วยเสียงตื่นตกใจ "นี่เธอ!" วิลาสินีชี้หน้าคนที่ก้าวเข้ามาในห้อง "ยัยเจ้าจันทร์ทำไมถึงเป็นเธอ! แล้ว แล้วเธอรู้ได้ยังไงว่าฉันอยู่นี่" พอถูกเรียกชื่อด้วยคำสรรพนามที่ไม่น่ารัก เจ้าจันทร์ก็หันกลับมามองหญิงสาวในชุดคลุมอาบน้ำของโรงแรม เจ้าจันทร์ตวัดสายตาขึ้นมองคนกำลังโมโห พลางยกให้ดูโทรศัพท์เครื่องหรูในมือ "ก็ใช้มือถือของประธานสิงหราชตอบคุณไงคะ แหม...บอกทางละเอียดยิบยันกระทั่งเบอร์ห้อง จะมาไม่ถูกได้ยังไง" วิลาสินีตาลุกวาวขณะมองโทรศัพท์ในมือเจ้าจันทร์ "นี่แกกล้าขโมยมือถือเจ้านายเลยเหรอ" "ว่าอย่างนั้นก็ได้" เจ้าจันทร์ยอมรับก่อนจะหย่อนตัวนั่งอย่างสบายอารมณ์ "แต่สำหรับคุณสิงหราช ต่อให้ฉันขโมยกางเกงในเขา เขาก็ยังไม่โกรธเลยค่ะ ทำไมน่ะเหรอ ก็เพราะว่า ไม่มีผู้ชายคนไหนโกรธเมียตัวเองลงเพียงแค่เรื่องนี้หรอกมั้งคะ คุณว่าจริงไหม" "!!!" วิลาสินีส่ายหน้าอย่างไม่อยากเชื่อ เมียอย่างนั้นน่ะหรือ! หญิง
ในวันหนึ่งขณะที่สีหราชกำลังนั่งทำงานอยู่ในห้อง เขากลับไม่รู้เลยว่าเลขาของเขาจะติดต่อกับอดีตเลขาที่ควบตำแหน่งแฟนคนปัจจุบันอยู่ เจ้าจันทร์วางสายลงหลังจากได้รับรายงานว่าวิลาสินีโทรมาขอนัดสิงหราชเพื่อเจรจานอกรอบ ฝ่ายนั้นเขาที่ร้านอาหารในโรงแรมที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง แค่สถานที่นัดหมายเจ้าจันทร์ก็รู้แล้วว่าอีกฝ่ายตั้งใจทำอะไร คงเห็นว่าสิงหราชเคยมีข่าวควงสาวไม่ซ้ำหน้ามาก่อนล่ะมั้ง ก็เลยคิดว่าคงไม่ทิ้งลายเจ้าชู้ อย่างไรก็คงกินเรียบหมดถ้าได้อ่อยสักหน่อย เอาเถอะ อยากทำอะไรก็ทำ เธอจะไม่ขัดขวาง เจ้าจันทร์คิดเช่นนั้นจริง ในเมื่อวิลาสินีอยากทำเพื่อความอยู่รอด เธอก็จะให้อีกฝ่ายลองทำดูสักตั้ง "คุณเจ้า รู้หรือยังว่าพี่เลมันมีนัดกับสาว" เหมราชเดินเข้ามานั่งบนขอบโต๊ะทำงานของเจ้าจันทร์ เลขาสาวเงยหน้ามองเจ้านายที่ยิ้มกรุ้มกริ่มอย่างคนมีแผนอะไรในใจ "อย่ายิ้มแบบนี้นะคะคุณเหม เจ้าไม่เป็นไปตามสิ่งที่คุณคิดหรอกค่ะ" "ว้าาา... ไม่หึงสักหน่อยเหรอครับ ผมอุตส่าห์มาบิ้วถึงที่แน่ะ" เจ้าจันทร์อดจะหัวเราะอีกฝ่ายไม่ได้ รู้หรอกว่าพี่น้องไม้เบื่อไม้เมากันขนาดไหน และเธอก็รู้มากกว่านั้นด้วยว่าจริง ๆ แล้ว สองพี่สอง
หลายชั่วโมงผ่านไปกระทั่งถึงเวลานัดหมาย วันนี้มีประชุมย่อยที่ทั้งสิงหราชและเหมราชจะต้องเข้าประชุมกับบริษัทคู่ค้าที่ต้องการจะมาขอดีลด้วย ดังนั้นเจ้าจันทร์จึงเป็นอีกคนที่ต้องตามเข้าประชุมเพื่อช่วยเหมราชสรุปข้อมูล ทว่าทันทีที่ได้เห็นหน้าคนที่เป็นตัวแทนของบริษัทตรงข้ามแล้ว เธอกลับสังหรณ์ใจไม่ดีเอาเสียเลย เดิมทีบริษัทนี้ก็ไม่น่าร่วมงานอยู่แล้วด้วย "ผมคิดว่าเรทราคาที่คุณเรียกร้องมามันมากไปหน่อย" สิงหราชพูดเปิดประเด็นในเรื่องที่เขามองเห็นถึงจุดไม่คุ้มทุน "ในเมื่อคุณอยากให้ทางเราเป็นคนจัดการเรื่องการผลิตสินค้าทั้งหมด แต่เรทราคาที่คุณให้ทางเรามันต่ำเกินไปเมื่อเทียบกับจำนวนสินค้าที่สั่งผลิต ส่วนเรื่องวัตถุดิบที่คุณรับปากว่าจะเป็นฝ่ายทางคุณจัดหามา ผมต้องการแหล่งที่แน่นอนและตรวจสอบได้มากกว่านี้" "เรื่องแหล่งวัตถุดิบเดี๋ยววีให้คนส่งเอกสารเพิ่มเติมมาอีกทีก็ได้ค่ะ" หญิงสาวผู้มาขอเจรจากันในวันนี้เอ่ยขึ้น เธอคือวีนัส หรือ วิลาสินี เจ้าของบริษัทวีกรุ๊ปคนปัจจุบัน ดวงตาสวยคมโฉบเฉี่ยวคู่นั้นเอาแต่จับจ้องใบหน้าของชายหนุ่มผู้เป็นประธานอย่างไร้ซึ่งความเขินอาย วิลาสินีก้มหน้าลงมาเล็กน้อย พอให้เสื้อ