"จิ่นซุ่ย จิวเวลรี่มีการผูกขาดช่องทางการจัดซื้อโอปอลสีดำและแทนซาไนต์ ช่องทางเดียวคือการหาซื้อกับจิ่นซุ่ย จิวเวลรี่ แต่ผมได้ยินมาว่าราคาที่จิ่นซุ่ยขายให้นั้นสูงมาก""ไม่เป็นไร เจ้าของบริษัทนี้ไม่ได้ขาดแคลนเงินหรอก"เจียงเซิงให้รายการแก่เขาจ้าวลี่ซินตกตะลึง "คุณอยากให้ท่านเจ๋วเป็นคนออกเงินให้เหรอ?"แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ในบริษัท TG แต่พวกเขาก็ยังถือว่าเป็นบริษัทในเครือและเป็นสตูดิโอที่เป็นการส่วนตัวเจียงเซิงมองดูเขา "ฉันไม่มีเงิน"จ้าวลี่ซินมอบรายการชุดนี้ให้หลัวเชว่ หลังจากที่หลัวเชว่ดูรายการแล้วพูดว่า "แค่วัตถุดิบหินเพียงสองชนิดเท่านั้น ยังต้องให้ท่านเจ๋วของเรา... "พอพูดได้ครึ่งทาง ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่ช่องหาจัดซื้อหินหยาบคือจิ่นซุ่ย จิวเวลรี่ และเขาก็ตกตะลึงราคาที่เสนอโดยฝ่ายจิ่นซุ่ย จิวเวลรี่นั้นแพงกว่าราคาที่ขายข้างนอกถึงสองเท่า แน่นอนว่าราคาที่สูงไม่ใช่ไม่มีเหตุผลโอปอลสีดำเป็นหินโอปอลประเภทหนึ่ง แต่โอปอลสีดำนั้นดีที่สุด! ราคาของโอปอลสีดำในตลาดสูงกว่าโอปอลสีขาวและโอปอลไฟยิ่งไม่ต้องพูดถึงแทนซาไนต์ ยังคงมีความแตกต่างระหว่างแทนซาไนต์และแซฟไฟร์ และแทนซาไนต์มีคุณค่ามากกว่าแ
เธอเดินเข้าไปในวิลล่า และได้ยินเสียงครึกครื้นแห่งความสุขในห้องนั่งเล่นเจียงเวยซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ ผู้เฒ่าเจียงดูตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นเธอ เธอยืนขึ้นด้วยรอยยิ้มแล้วพูดว่า "เซิงเซิง กลับมาแล้วเหรอ?"ผู้เฒ่าเจียงมองไปที่เจียงเซิง และมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า "ไม่ได้เจอเธอมาตั้งหลายปีแล้ว ยิ่งโตขึ้นยิ่งเหมือนกงม่านม่าน แม่ของเธอมากขึ้นนะ"เซียวหลานและคนรับใช้หลายคนนำอาหารมาวางบนโต๊ะแล้วส่งเสียงว่า "แม่ อาหารเย็นพร้อมแล้วค่ะ"ผู้เฒ่าเจียงยืนขึ้นอย่างช้าๆ โดยได้รับการพยุงจากเจียงเวย เมื่อเธอเดินผ่านเจียงเซิงแล้วพูดว่า "อยู่ต่อเลย เป็นครอบครัวเดียวกันให้กินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากันเถอะ"ครอบครัวเดียวกัน?ขนตาของเจียงเซิงกระพือเล็กน้อย และมุมปากของเธอยกขึ้นอย่างเย็นชาบนโต๊ะอาหารเย็น นอกจากแม่ลูกสองคนนั้นแล้ว แต่ไม่เห็นเจียงเซิ่น พ่อของเธอหลังจากที่เจียงเซิงนั่งลง เขาก็มองไปที่นั่งอันว่างเปล่า "ทำไมพ่อไม่อยู่ล่ะ""เขาไม่หิว เรากินก่อนเถอะ" ผู้เฒ่าเจียงเป็นฝ่ายคีบอาหารมาให้ เจียงเวย "เวยเวย เธอผอมเกินไป ผู้หญิงเราต้องอวบอิ่มสักหน่อย ถึงจะมีลูกได้ง่ายนะ"เจียงเวยหรี่ตาลงและยิ้ม "ขอบคุณค่ะคุ
"อ้าวเหรอ? ท่านเจ๋วเคยมาทานอาหารที่บ้านมาก่อนเหรอ?" ผู้เฒ่าเจียงไม่สามารถปิดบังความสุขบนใบหน้าของเธอได้ใครบ้างที่ไม่รู้ชื่อท่านเจ๋วแห่งเมืองหลวงในเมืองจินเฉิงล่ะ?หากสามารถผูกสัมพันธ์กับตระกูลซือได้ ชีวิตนี้ก็คงไม่ต้องกังวลเรื่องเงินทองอีกและใช้ชีวิตอย่างสุบสบายได้เซียวหลานฝืนยิ้ม "แม่ นั่นมันเรื่องก่อนหน้านี้แล้ว ตอนนี้ ท่านเจ๋วมีงานยุ่งมาก ดังนั้นเขาจึงมาไม่ได้ค่ะ""คุณไม่ลองโทรถามดู แล้วรู้ได้อย่างไรว่าเขาจะมาหรือเปล่า" เจียงเซิงยิ้มเยาะเซียวหลานมองเธอด้วยความขุ่นเคืองในดวงตาของเธอ "เซิงเซิง หยุดพูดเล่นสักทีเถอะ"เธอไม่ยอมปล่อยให้นังเจียงเซิงมาสร้างปัญหาได้อย่างแน่นอนเมื่อเห็นว่าทั้งเซียวหลานและเจียงเวยต่างก็ตื่นตระหนก พวกเธอคงกลัวว่าเธอจะเรียกซือเย่เจ๋วมาจริงๆ และฉีกหน้าพวกเธอ ทำให้พวกเธอขายหน้าต่อผู้เฒ่าเจียงมั้งขณะที่เจียงเซิงกำลังจะพูดอะไรบางอย่างนั้น เธอก็ได้รับข้อความทางโทรศัพท์ เนื้อหาในข้อความนี้จากซือเย่เจ๋วเลย"ฉันยังมีธุระ ดังนั้นฉันต้องขอตัวกลับก่อนแล้วค่ะ"เจียงเซิงยืนขึ้นอย่างช้าๆเมื่อผู้เฒ่าเจียงเห็นเธอลุกออกจากโต๊ะก่อนอาหารสิ้นสุด เธอเลยไม่พอใจขึ้นมา
"แม่จ๋า"เจียงนวนนวนรีบไปหาเธอ เงยหน้าขึ้นแล้วยิ้มหวานๆ ว่า "แม่จ๋า แม่ต่อไปเราจะอยู่กับพ่อแล้วใช่ไหมจ๊ะ?"เจียงเซิงเหลือบมองชายที่อยู่ข้างๆ และไม่พูดอะไรเธอไม่ได้ทำด้วยความสมัครใจสักหน่อย!ซือเย่เจ๋วโน้มตัวไปกอดนวนนวน "ใช่แล้ว ต่อไปพวกหนูก็จะอาศัยอยู่กับพ่อแล้วนะ"เมื่อเห็นเด็กน้อยทั้งสามเชียร์กัน เจียงเซิงซึ่งยืนอยู่ข้างๆ ก็ขมวดคิ้ว กอดอกแล้วมองทางอื่นออกไปแต่พุดตามจริง เธอไม่เคยเห็นเด็กทั้งสามคนมีความสุขขนาดนี้มาก่อนพ่อบ้านเฉินที่ยืนอยู่ข้างๆ หลัวเชว่ไม่เคยคาดคิดว่าคุณชายใหญ่จะไม่เพียงแต่มีลูกสามคนเท่านั้น แต่ยังนำแม่ของลูกกลับมาด้วย เขาคิดเสมอว่าคุณเจียงคนนั้นจะเป็นว่าที่คุณนายซือเสียอีกนี่มันน่าประหลาดใจมากเกินไปจริงๆ!เขาหันไปหาหลัวเชว่แล้วพูดว่า "คุณผู้หญิงคนนี้เป็นคุณนายซือในอนาคตจริงๆ เหรอ"หลัวเชว่มองไปที่เขา "คุณหนูเจียงให้กำเนิดลูกไปแล้วด้วย แน่นอนว่าใช่แล้วสิ""คุณหนูเจียง?" พ่อบ้านเฉินอึ้งไป “นั่นคุณเจียงเวยไม่ใช่เหรอ?”"ใช่ แต่เจียงเวยเป็นลูกสาวนอกสมรส และเจียงเซิงต่างหากเป็นคุณหนูใหญ่ที่ถูกต้องตามกฎหมายของตระกูลเจียง"ทันใดนั้นลุงเฉินก็ตระหนักได้ว่าที่แ
เมื่อสัมผัสได้ถึงมีน้ำหนักทิ้งลงเตียงในด้านหลังตัวเอง เจียงเซิงก็ลืมตาขึ้นอย่างตื่นตัวราวกับนกฮูกแต่หลังจากชายที่อยู่ข้างหลังเธอนอนลงก็ไม่มีการเคลื่อนไหวอื่นใดอีก จากนั้นไม่นาน เธอก็หันหลังกลับมาเล็กน้อยชายคนนั้นกำลังนอนหันหลังให้เธอระหว่างสองคนนั้นยังมีช่องว่างพอที่นอนเพิ่มมาอีกคนหนึ่งได้ในเตียงคู่นี้เจียงเซิงเพียงผ่อนคลายความหวาดระแวงของเธอเล็กน้อย แต่เธอไม่กล้าที่จะวางใจอย่างร้อยเปอร์เซ็นต์ เธอไม่รู้ว่าตัวเองคิดซับซ้อนอย่างนี้ไปนานแค่ไหน เธอง่วงนอนมากในช่วงครึ่งหลังของคืนและผลอยหลับไปโดยไม่รู้ตัวซือเย่เจ๋วถูกปลุกด้วยมือข้างหนึ่ง เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วหันไปมองผู้หญิงที่หลับใหลซึ่งนอนอยู่ในท่ายื่นขายื่แขนออไปโดยมีผ้าห่มคลุมไว้แค่ครึ่งหนึ่งเขานวดหน้าผากผู้หญิงคนนี้มีท่านอนที่ไม่เรียบร้อยอย่างนี้เมื่อซือเย่เจ๋วเอามือของเธอออก ทันใดนั้นเขาก็นึกอะไรได้ และมองเธออย่างลึกซึ้ง...พอรุ่งสาง ม่านที่กำหนดเวลาไว้จะเปิดออกโดยอัตโนมัติอย่างช้าๆ และห้องก็สว่างสดใสทันทีขนตาบนตาที่ปิดอยู่นั้นกระพือเล็กน้อย เจียงเซิงยื่นมือออกอย่างเกียจคร้านเพื่อกอดผ้าห่มที่อยู่ข้างๆ เธอ ทั้งยังเอา
**รถจอดอยู่นอกประตูของจิ่นซุ่ย จิวเวลรี่ กรุ๊ป แฟรงค์และเจียงเซิง ลงจากรถแล้วเดินไปที่ล็อบบี้พร้อมกันจิ่นซุ่ย จิวเวลรี่เป็นอุตสาหกรรมเครื่องประดับที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ Z ซึ่งครองตำแหน่งผู้นำในอุตสาหกรรมเครื่องประดับแฟชั่น ร้านจิวเวลรี่ในเครือข่ายของบริษัทติดอันดับหนึ่งในสิบอันดับแรกของประเทศ หากใครต้องการขึ้นสู่ตำแหน่งแถวหน้าในอุตสาหกรรมเครื่องประดับ ความร่วมมือกับจิ่นซุ่ยคือขั้นตอนที่ขาดไม่ได้วัตถุดิบจำนวนมากของจิ่นซุ่ย จิวเวลรี่ถูกผูกขาด และเพชรหยาบและหยกหยาบที่พวกเขาเป็นเจ้าของนั้นไม่สามารถซื้อจากที่อื่นได้แต่หากพวกเขาต้องการจัดหาหินหยาบที่ดีที่สุดจากจิ่นซุ่ย เงื่อนไขและราคาของพวกเขาเสนอให้นั้นไม่ใช่ว่าทุกบริษัทก็ยอมรับไหวแฟรงค์ไปที่แผนกต้อนรับเพื่อแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ หลังจากเจ้าหน้าที่ยืนยันตัวตนของลูกค้าที่จองไว้แล้วจึงพาพวกเขาไปที่ห้องรับแขกมีคนอีกสองคนนั่งอยู่ในห้องรับแขกดูเหมือนว่าจะมาจากบริษัทอื่น"คุณสองคนกรุณานั่งรอสักครู่ค่ะ"หลังจากที่เจ้าหน้าที่ออกไปแล้ว แฟรงค์และเจียงเซิงก็เดินไปที่โซฟาอีกด้านหนึ่งแล้วนั่งลงผู้หญิงที่นั่งอีกด้านหนึ่งกำลังส่องกระจกเพื
เมื่อเทียบกันดูแล้ว ดูเหมือนประธานเสิ่นจะน่ารักกว่าลูกสาวของเขาจริงๆแฟรงค์ยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ "คราวนี้ดวงใจจิวเวลรี่ กรุ๊ปให้คุณหนูเสิ่น มาหารือเกี่ยวกับความร่วมมือ ฉันคิดว่าน่าจะมีจุดประสงค์เดียวกันอย่างเรา""ดูเหมือนว่าจะมาขอช่องทางการจัดซือวัตถุดิบกับจิ่นซุ่ย ด้วย" เจียงเซิงเลิกคิ้วเมื่อพูดถึงขั้นนี้ แฟรงค์ก็กังวลใจเล็กน้อย "ไม่รู้ว่าจิ่นซุ่ยจะเสนอเงื่อนไขแบบไหนกัน ฉันเกรงว่า 400 ล้านจะไม่เพียงพอ"เพียงแหล่งที่มาของแทนซาไนต์ ก็คงต้องเสียเงินเกือบ 400 ล้านแล้วมั้งเพราะยังไงจิ่นซุ่ย จิวเวลรี่เป็นเพียงเจ้าเดียวที่มีคุณสมบัติที่จะร่วมมือกับ BM ในตลาด จิ่นซุ่ยใช้เงินจำนวนมากเพื่อผูกขาดช่องทางการนำเข้าจากต่างประเทศนี้พวกเขารอจนเกือบหนึ่งชั่วโมงจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ปรากฏตัวขึ้นที่นอกประตู "ต้องขอโทษนะค่ะ ท่านประธานของเราบอกว่า เพราะพวกคุณเป็นสตูดิโอที่เพิ่งเปิดใหม่และยังไม่ได้จดทะเบียนในตลาด ท่านประธานยังไม่รู้ความสามารถของพวกคุณ เพราะฉะนั้นเราขอให้พวกคุณมาหารือเรื่องความร่วมมือหลังจากที่สตูดิโอของพวกคุณได้มั่นคงก่อนค่ะ"แฟรงค์ยืนขึ้น "นี่คือคำพูดจากคุณนายหนานจิ่นงั้นเหรอ"พนั
พวกเขาไม่ได้ก่อเรื่องวุ่นวาย อีกอย่างไม่ได้ทำอะไรด้วยซ้ำ เป็นเพียงบริษัทใหม่ที่ยังไม่เข้าตลาด ถ้าไล่พวกเขาออกไปอย่างนี้ไม่เท่ากับว่าปล่อยให้พวกเขามีโอกาสได้สร้างข่าว จะมาหาว่าจิ่นซุ่ยดูถูกบริษัทใหม่?"ถ้าพวกเขาต้องการรอก็ปล่อยให้พวกเขารอเถอะ"หนึ่งชั่วโมงต่อมา พนักงานหญิงคนนั้นก็กลับมารายงานอีกครั้ง แต่คุณนายหนานจิ่นยังเพิกเฉยเช่นเดิมจนถึงช่วงบ่าย พนักงานหญิงคนนั้นกลับมารายงานอีกที ดูประทับใจในความอุตสาหะของพวกเขาเข้า "พวกเขาไม่ไปไหน แถมยังสั่งอาหารมากินด้วย มีแนวโน้มคงจะอยู่ต่อจนถึงกลางคืนเลยค่ะ"พวกเขาสามารถนั่งรอได้ ทว่าคุณนายหนานจิ่นแทบจะนั่งไม่ติดกับที่แล้วเสียอีกเธอหมุนรถเข็น "พาฉันไปดูสักหน่อยเถอะ"เธอประเมินความอุตสาหะของพวกพนักงานจากบริษัทใหม่ต่ำไป อาจเป็นเพราะเหตุนี้ เธอจึงเริ่มอยากรู้อยากเห็นเธออยากเห็นความเชื่อมั่นของบริษัทจิวเวลรี่แห่งใหม่นี้ที่ยังไม่ได้จดทะเบียนในตลาดมันมราจากไหนกัน!"พวกเขาหน้าด้านจริงๆ นะ ท่านประธานไม่พบหน้า พวกเขาก็ไม่ยอมไปไหนเลยนี่น่ะ""ถ้าเป็นฉัน ฉันคงอายที่จะอยู่ต่อหรอก""นี่ยังสั่งอาหารกล่องมากินด้วย คิดซะว่าจิ่นซุ่ยคือบ้านของพวกเขาจริ
*ถูกลูกเล่นของ Soul จิวเวลรี่ทำให้อ้วกแล้ว*แฟรงค์มองดูเธอ "เซิงเซิง จำนวนยอดขายของ Soul จิวเวลรี่ในวันนี้ลดลงอีกสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว บริษัทได้รับสายโทรศัพท์เพื่อสละออเดอร์และคืนเงินหลายออเดอร์แล้วดวงตาของเจียงเซิงขยับเขยื้อน "ดูท่าพวกเขาอยากจะบีบบังคับให้ฉันยอมจำนนสินะ""งั้นคุณวางแผนจะทำอย่างไร?" แฟรงค์รู้ว่าเธอไม่เปิดเผยตัวตนเพราะมีเหตุผลของเธอ ถ้าหากมีวิธีอื่นก็จะดีอย่างมากเจียงเซิงยื่นแท็บเล็ตไปให้เขา และหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา "ทางด้านผิ่นเก๋อยืนยันเป็นมั่นว่าฉันลอกเลียนแบบทั้ง Soul จิวเวลรี่ ถึงเวลาที่ฉันควรจะตอบโต้แล้ว"ในขณะที่กระแส "การลอกเลียนแบบ" บนอินเทอร์เน็ตกำลังโด่งดัง คำค้นหายอดนิยมของเฟซบุ๊กก็มีเพิ่มขึ้นมาหนึ่งประเด็น*ผิ่นเก๋อของปลอม*ผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่ถูกเปิดเผยออกมาว่าแอบลดวัสดุและขั้นตอนการก่อสร้าง ขายเครื่องประดับปลอมในราคาสูงและหลอกลวงลูกค้า และสร้างข่าวลือเรื่องที่โซราเสียชีวิต แม้กระทั่งข่าวลือที่เจ้าของผิ่นเก๋อมอมเหล้าเด็กสาวในคลับเฮ้าส์ก็ถูกเปิดโปงจนหมดเปลือกการเปิดเผยอย่างต่อเนื่องนี้ ทำให้เหตุการณ์ของ Soul จิวเวลรี่ถูกดันลงไปทันที เพียงแค่เรื่องที่
"ทำไม่ได้" ซือเย่เจ๋วเสียงทุ้มต่ำ จากนั้นจูบเธออย่างแรง และยิ่งอยู่ยิ่งรุนแรงขึ้นอาจเป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง เมื่อคืนฝนตกหนักทำให้อุณหภูมิเปลี่ยนไปหนาวเย็นกะทันหัน ใบไม้สีเหลืองที่แห้งเหี่ยวปกคลุมบนพื้น สัมผัสกับแอ่งน้ำเจียงเซิงกับซือเย่เจ๋วเพิ่งไปส่งเจ้าตัวเล็กทั้งสองคนที่โรงเรียนประถมเอกชน จากนั้นตอนที่เดินทางไปส่งเจียงเซิงที่ Soul จิวเวลรี่ เจียงเซิงง่วงจนพิงร่างกายของเขาแล้วงีบหลับซือเย่เจ๋วหันหน้าไปจ้องมองเธอ จากนั้นก็ยกมือขึ้นรวบไรผมที่อยู่ตรงหน้าผากของเธอ "ยังง่วงเหรอ?""อืม"เจียงเซิงบ่นอย่างซื่อตรง "โทษคุณเลย"เขายิ้ม จากนั้นก็มก้มตัวมาที่ข้างหูของเธอ "หรือว่าไม่ใช่ความผิดของคุณเหรอ?"เจียงเซิงเงยหน้าขึ้นและวางคางบนไหล่เพื่อมองดูเขา "ไม่ได้ให้คุณทำสองยกทั้งคืนสักหน่อย"ซือเย่เจ๋วที่สูญเสียความทรงจำไม่เพียงควบคุมอารมณ์ไม่ได้ แถมยังมีกำลังวังชาเต็มเปี่ยม เกือบพรากชีวิตแก่ ๆ ของเธอซือเย่เจ๋วไม่ได้พูดอะไร แต่ในใจกลับรู้สึกพึ่งพอใจอย่างมากในตอนนี้โทรศัพท์ของเจียงเซิงดังขึ้น คุณอาแฟรงค์โทรมาหาเธอแต่เช้าเกรงว่าต้องมีเรื่องใหญ่แน่นอนเธอรับสาย "คุณอาแฟรงค์?""เซิงเซิง
แต่ชาวเน็ตส่วนใหญ่คิดว่านี่ไม่ใช่การลอกเลียนแบบ ต่อให้สไตล์เหมือนกันแต่ยังมีจุดเด่นอื่นอีก สถานการณ์แบบนี้ไม่สามารถจำกัดความว่าเป็นการลอกเลียนแบบได้ ขอถามกลับว่าคนที่พูดว่าลอกเลียนแบบมีสิทธิอะไรคิดว่าคนเขาจะต้องลอกเลียนแบบแน่นอนน่าจะเป็นเพราะผู้บริหารของผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่เห็นว่านี่ไม่เพียงไม่ได้กดหัวคนอื่น แต่กลับเป็นวิธีที่ "ใจร้อนอยากประสบความสำเร็จแต่กลับทำให้เสียการ" จึงอยากเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมออกแต่คิดไม่ถึงว่า พวกเขาไม่สามารถเพิกถอนได้ เพราะว่ามีคนทุ่มเงินจำนวนมากซื้อคำค้นหายอดนิยมนี้ ผิ่นเก๋อของพวกเขาออกเงินสองเท่า ฝ่ายตรงข้ามก็ออกเงินสี่เท่า ตอนนี้เล่นเกมทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมแล้วเจียงเซิงนั่งดูหน้าแชทเฟซบุ๊กอยู่ตรงหน้าคอมพิวเตอร์ แฟรงค์เดินเข้ามา "เซิงเซิง ผิ่นเก๋อยอมแพ้การเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมแล้ว ดูท่าว่าจะทุ่มเงินไม่ไหวแล้ว"เจียงเซิงหรี่ตาลง "พวกเขาทำใจทุ่มเงินไม่ได้ แต่น่าจะมีวิธีอื่นอีก"ทางด้านเจียงเซิงทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมกับผิ่นเก๋อ ทางด้านซือเย่เจ๋วก็ทุ่มเงินล้มธุรกิจของหานซื่อกรุ๊ป หลัวเชว่มองดูจนตกตะลึงตาค้าง สามีภรรยาคู่นี้ตอนนี้เป็นคนโง่ที่เงินเ
เซียวเถียนเถียนใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา เธอตกใจจนถอยหลังไปสองสามก้าว จากนั้นก็หันหลังวิ่งหนีไปเมื่อมาถึงนอกห้องทำงานของเจียงเซิง คนทั้งคนยังคงอยู่ในสภาพเครื่องรวน เมื่อเข้าไปข้างในก็ทรุดนั่งลงบนโซฟา ขาก็อ่อนแรงไปหมดเจียงเซิงเดินออกมาจากห้องทำงาน เห็นท่าทางเหม่อลอยของเซียวเถียนเถียน ก็ยิ้มบาง "เกิดอะไรขึ้น?"เซียวเถียนเถียนลุกนั่งทันที และวางกาแฟบนโต๊ะทำงานของเธอ "ซื้อ...ซื้อมาให้เธอ"เจียงเซิงเดินไปตรงหน้าโต๊ะแล้วหยิบกาแฟขึ้นมา เห็นเธอพูดจาติดขัดจึงถามขึ้น "เจอเรื่องอะไรมา ทำไมถึงตกใจขนาดนี้?""ก็...ก็ไม่ได้เจอเรื่องอะไร ก็แค่ระหว่างทางที่ซื้อกาแฟได้เจอกับหานเซิงเข้า เกือบจะทะเลาะกับเธอขึ้นมา"เจียงเซิงถือกาแฟเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงาน "แค่นั้นเหรอ?"เธอเม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า "ใช่""งั้นเธอทำไมหน้าแดงขนาดนี้?""นั่นเป็นเพราะว่าฉันร้อน!" เซียวเถียนเถียนโกรธขึ้นมาทันที เจียงเซิงมองท่าทางประหม่าของเธอออก จึงหรี่ตาจ้องมองเธออยู่นานต่อให้เจอกับหานเซิงแล้วทะเลาะกัน ก็ไม่ถึงกับทำให้เธอกลายเป็นแบบนี้ ท่าทางแบบนี้เห็นได้ชัดว่า...ทำเรื่องไม่ดีอะไรมา"อ่อใช่เซิงเซิง บนเฟซบุ๊กเรื่องลอกเลียนแ
"เธอ…"“ผู้ชายทุกคนชอบผู้หญิงที่อ่อนโยนและน่ารัก คนปากคอเราะรายอย่างเธอชีวิตนี้คงไม่มีคนชอบเธอหรอก”ขณะพูด เธอก็พูดเหน็บแนม "ถ้าไม่ใช่ว่าเธอเป็นลูกสาวตระกูลเซียว จะมีการแต่งงานเกี่ยวดองกันกับตระกูลลู่ที่ดีขนาดนี้เหรอ คุณชายลู่แต่งงานกับเธอซวยไปแปดชาติจริง ๆ"เซียวเถียนเถียนสีหน้าเคร่งขรึมลงทันที เธอง้างมือขึ้นจะฟาดหน้าของหานเซิงหานเซิงเงยหน้าขึ้นให้เธอตบแต่ฝ่ามือยังไม่ทันโดน ข้อมือก็ถูกคนจับเอาไว้ลู่ลี่เซินดึงเซียวเถียนเถียนไปข้างหลังแล้วมองดูเธอ "ลงมือต่อหน้าคนมากมายแบบนี้ ไม่รู้จักอายบ้างเหรอ?"ผู้คนรอบตัวพากันมองมาทางนี้ เหมือนกำลังจะรอดูฉากเด็ดอยู่ ถ้าหากเมื่อครู่เซียวเถียนเถียนตบลงไปจริง ๆ ก็จะมีคนถ่ายรูปเอาไว้และเอาเรื่องนี้ไปพูดกันแต่เซียวเถียนเถียนไม่ยอมแพ้ เธอสะบัดมือของเขาออก "นายยุ่งอะไรกับฉันด้วย""คุณชายลู่ คุณมาได้พอดีเลย คู่หมั้นของคุณร้ายกาจ เมื่อครู่ยังอยากจะตบฉันด้วย ถ้าคุณไม่ห้ามไว้ หน้าของฉันคงบวมไปแล้วหานเซิงท่าทางน่าสงสาร เธอมีความมั่นใจคิดว่าผู้ชายชอบแบบนี้กันหมด แทบอยากจะให้ลู่ลี่เซินเห็นใจเธอ สงสารเธอ และทะเลาะกับเซียวเถียนเถียนขึ้นมาแต่หานเซิง
กู้เฉินกวางยิ้มบางแต่ไม่ได้พูดอะไรหลัวเชว่มองไปที่ซือเย่เจ๋วและพูดไม่ออก นี่เห็นได้ชัดว่าถูกคุณเจียงควบคุมจนอยู่หมัดแล้ว......บริษัท Soul จิวเวลรี่สิบเจ็ดบอกว่าเจียงยี่กับผู้เฒ่าเจียงได้พาเจียงเฮงกลับเมืองจินเฉิงแล้วเงินห้าแสนกว่าบาทที่ต้ายฉิงใช้จ่ายไปตอนนี้ได้ตามกลับผ่านทางตำรวจแล้ว แต่ก็ตามกลับมาได้แค่แสนกว่าบาท แต่ต้ายฉิงถูกควบคุมการเดินทาง อยากจะหนีก็หนีไม่ได้เจียงเซิงก็ไม่ได้พูดอะไรมากมายหลังจากผ่านเรื่องนี้ไปผู้เฒ่าเจียงคงจะทำตัวดีไม่น้อย จากอายุของเธอในตอนนี้อยากจะดิ้นรนต่อไป เกรงว่าคงจะไม่มีโอกาสดิ้นรนแล้วหลายชายของตัวเองล้างผลาญครอบครัวใช้เงินสะสมของเธอจนหมด แถมยังถูกหลอก แม้แต่ลูกชายก็ยังไม่ยอมรับเธอ ตอนนี้เธอก็ไม่มีอารมณ์คิดถึงมรดกของพ่อของเธอแล้ว*อลิซลอกเลียนแบบโซรา*พาดหัวข่าวเฟซบุ๊กที่โดดเด่นบนหน้าจอทำให้เจียงเซิงที่เพิ่งดื่มน้ำแทบจะพ่นน้ำออกมาเธอลอกเลียนแบบตัวเอง?เมื่อเปิดดู ก็เป็นเรื่องประดับ*รุ่นคู่รัก*ที่เธอออกแบบคล้ายกับสไตล์การออกแบบของเธอก่อนหน้านี้ แต่ไม่รู้ว่าใครตั้งใจพูดตัดสินเรื่องนี้ว่าลอกเลียนแบบ ชาวเน็ตที่ไม่ผ่านกรองการครุ่นคิดก็เชื่อจ
กู้เฉินกวางถอดแว่นกันแดดออกแล้วใส่ไว้ในกระเป๋าตรงหน้าอก "สถานการณ์ของนายแบบนี้ คงไม่ต้องให้ฉันแนะนำตัวเองใช่ไหม?"ซือเย่เจ๋วก็มองออกว่าเขาคือใคร "อยู่ในวงการบันเทิงได้ไม่เลวเลยสินะ"กู้เฉินกวางหัวเราะเบา ๆ “คนอื่นบอกว่านายความจำเสื่อมฉันยังไม่เชื่อ”เขาเดินไปที่โซฟาแล้วนั่งลงด้วยตัวเอง หลัวเชว่รินชาให้เขาหนึ่งแก้วซือเย่เจ๋วลุกขึ้นยืนและเดินอ้อมโต๊ะทำงานไปตรงหน้าโซฟา จากนั้นก็ปลดกระดุมชุดสูทออกแล้วนั่งลง "แขกหายากสินะ มีธุระอะไรกับฉัน?""มีธุระจริง ๆ นั่นแหละ" กู้เฉินกวางยกแก้วน้ำชาขึ้น "ฉันคิดว่านายคงจะเคยรู้จักกับหานจื้อเหนียนสินะ?"ในตอนที่ซือเย่เจ๋วกำลังครุ่นคิดว่าหานจื้อเหนียนคือใคร หลัวเชว่ก็ก้มตัวชี้แนะ "ประธานหานคนนั้นเมื่อครั้งที่แล้ว"ซือเย่เจ๋วหรี่ตาลงและยิ้มอย่างมีความหมายลึกซึ้ง "ทำไม ตระกูลหานมุ่งเป้าไปที่นายเหรอ?"กู้เฉินกวางไม่ได้พูดอะไรซือเย่เจ๋วสีหน้าจริงจังขึ้นมา "ฉันว่านายก็อายุเยอะแล้ว ควรจะพิจารณาเรื่องการแต่งงานได้แล้ว?"กู้เฉินกวางวางแก้วชาลง และครุ่นคิด “เร่งให้ฉันแต่งงาน นายเป็นห่วงอะไร?”ซือเย่เจ๋วสีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อย จากนั้นกอดอกมองเขา "ตาข้าง
เจียงเซิงไม่ปฏิเสธ "ใช่ค่ะ" เธอหัวเราะเบา ๆ "รวมทั้งเงินห้าล้านบาทนั่นด้วย นั่นก็เป็นเงินที่ฉันให้ คุณก็ไม่ได้บอกคุณย่าว่าคุณมีเงินห้าล้านบาทใช่ไหม?"ผู้เฒ่าเจียงหันหน้ามองไปทางเจียงยี่เจียงยี่ไม่ได้พูดอะไร เห็นได้ชัดว่ายอมรับแล้ว"คุณไม่อยากยอมรับแม่ ไม่อยากยอมรับลูกชาย ฉันก็ไม่ก้าวก่ายคุณ ในเมื่อเงินเอาให้คุณแล้ว คุณอยากจะใช้อะไรก็เรื่องของคุณ"เจียงเซิงกอดอก สายตาเย็นชา "แน่นอนว่าถ้าหากคุณยอมเอาเงินไปใช้ในทางที่ต้อง ฉันอาจจะให้โอกาสคุณอีกครั้ง แต่น่าเสียดายที่คุณปรับเปลี่ยนตัวเองไม่ได้แล้ว เอาเงินให้คุณมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ใด ๆ"มือที่วางอยู่บนขาของเจียงยี่กำแน่นอย่างอดไม่ได้ สีหน้าก็รู้สึกอับอายผู้เฒ่าเจียงมองดูเจียงเซิง "เซิงเซิง ในเมื่อเธอยังมีชีวิตอยู่ และก็ยอมช่วยอาของเธอกับลูกพี่ลูกน้องของเธอ...""คุณย่า คุณคิดมากเกินไปหรือเปล่า?" เจียงเซิงขัดคำพูดของเธอทันที "ฉันไม่ได้ช่วยพวกเขาโดยไม่มีเหตุผลหรอกนะคะ ฉันก็แค่ช่วยให้คุณได้เห็นความโหดร้ายของโลกนี้อย่างชัดเจน"ผู้เฒ่าเจียงมองไปทางเธอด้วยความเหม่อลอยเจียงเซิงลุกขึ้นเดินไปตรงหน้าต่าง และหันข้างมองไปทางพวกเขา "เพราะว
เพิ่งจะเข้าไปในห้อง เจียงยี่ก็อยู่ด้วย เจียงยี่นั่งอยู่บนเก้าอี้ บอดี้การ์ดที่อยู่ด้านหลังวางมือบนไหล่ของเขาไม่ให้เขาหนีไปได้ตอนที่ผู้เฒ่าเจียงเห็นผู้หญิงแปลกหน้าถูกพาตัวเข้ามา และคุกเข่าลงบนพื้น ก็งุนงงไปหมด "นี่คือ..."สิบเจ็ดพูดด้วยสีหน้านิ่งเฉย "ฉิงฉิงที่หลานชายของคุณพูดถึง คุณให้เธออธิบายกับคุณเองเถอะ"ฉิงฉิง?ผู้เฒ่าเจียงสายตามองไปที่ผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง ต้ายฉิงร้องไห้แล้วคลานมาที่ข้างเตียง "คุณย่าเจียง ขอโทษนะคะ ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่ควรหลอกลวงเจียงเฮง ขอร้องพวกคุณปล่อยฉันไปเถอะค่ะ"ผู้เฒ่าเจียงนึกขึ้นได้ว่าเจียงเฮงหลานชายของเธอนำเงินก้อนนั้นให้กับผู้หญิงคนนี้ เธอก็รู้สึกโมโหขึ้นมา และผลักฉิงฉิงออก "เธอยังมีหน้ามาหาฉันอีก? เงินของหลานชายฉันล่ะ?"ต้ายฉิงถูกผลักล้มลงกับพื้น ไหล่ของเธอสั่นเทา น้ำตาไหลลงแก้ม ชั่วขณะไม่รู้ว่าควรจะพูดเรื่องเงินก้อนนั้นที่เธอใช้ไปหมดแล้วอย่างไรดี“ฉิงฉิง!”เจียงเฮงปรากฏตัวนอกประตูและเห็นต้ายฉิงนั่งอยู่บนพื้น เขาจึงรีบเดินไปประคองเธอ "คุณย่า ฉิงฉิงมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร"“แกยังจะพูดอีก?” ผู้เฒ่าเจียงหน้าเขียวหน้าดำ "นังเด็กคนนี้หลอกเอาเงินของแก เ