สิบเจ็ดเหลือบมองเขาหลัวเชว่ก็ยิ้มแล้วถามขึ้นอีก "คุณสิบเจ็ดหิวน้ำไหม ดื่มเครื่องดื่มไหม?""ไม่ดื่ม" สิบเจ็ดกอดอก และปฏิเสธอย่างเด็ดขาดหลัวเชว่ก็ไม่ได้ถามอีกซือเย่เจ๋วติดกระดุมให้เจียงเซิงเรียบร้อย เธอยืนไม่มั่นคง เขาโอบเอวของเธอเอาไว้ แล้วหัวเราะออกมา "ไม่ละอายใจ"เธอพูดเสียงต่ำ "คุณยังหน้าไม่อาย ฉันต้องละอายใจอะไร"ซือเย่เจ๋วชะงักงันอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเงยหน้ามองเธอ ภาพนี้เหมือนกับเคยเกิดขึ้นที่ไหนสักแห่ง เขาก็เหมือนกับเคยพูดประโยคแบบนี้ตอนที่เจียงเซิงกลับไป ซือเย่เจ๋วเป็นคนส่งเธอออกไป พนักงานภายในบริษัทถึงขั้นที่เห็นท่านเจ๋วโอบไหล่ของเธอกับตา ท่าทางสนิทสนมกันอย่างมาก!"แม่เจ้า ฉันไม่ได้ดูผิดใช่ไหม?""ท่านเจ๋วมีคนรักใหม่แล้วเหรอ?"สีหน้าของคนเหล่านั้นต่างประหลาดใจ ใครต่างก็รู้ว่าตอนนั้นท่านเจ๋วความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับคุณนายของเขามาก ตอนนี้ภรรยาของเขาเพิ่งจากไปสามปี ท่านเจ๋วก็ลืมคนเก่าไปได้เร็วขนาดนี้เลยแน่นอนว่ามีคนคิดว่าเป็นเรื่องปกติ ในเมื่อคนที่ตายไปแล้วไม่สามารถฟื้นคืนชีพได้ ท่านเจ๋วยังหนุ่มแน่นขนาดนี้ ชีวิตยังต้องดำเนินต่อไปอีกอย่างท่านเจ๋วความจำเสื่อม ลืมภรรยาที
เจียงเซิงหลุดขำออกมา "ใช่ เขามีชู้ เป็นชู้กับฉัน"เซียวเถียนเถียนเงียบขรึมไปสองสามวินาที "อ่อ ที่แท้ก็เธอเอง พวกเธอสามีภรรยาครั้งนี้เล่นคอสเพลอะไรอีกล่ะ?""ไม่อย่างนั้นจะทำไงได้?" มือที่จับปากกาของเจียงเซิงหยุดชะงักแล้วเงยหน้าขึ้น "คนของเมืองหลวงต่างรู้ว่าเขากับฉันหย่าร้างกันแล้ว ถ้าตอนนี้ฉันป่าวประกาศสถานะของตัวเองอย่างทะนงองอาจ ซือเย่เจ๋วก็ความจำเสื่อม ถ้านักข่าวถามเขาขึ้นมา เขาก็นึกไม่ออก คงจะยุ่งวุ่นวายมาก"เซียวเถียนเถียนเดาะลิ้นแล้วพูดขึ้น "ตอนนี้เธอใส่ใจความรู้สึกของสามีที่ความจำเสื่อมของเธอขนาดนี้เชียวเหรอ?"เจียงเซิงไม่ได้พูดอะไรมาก แต่ถามกลับ "ฉันอยากรู้เธอไปตามติดข่าวซุบซิบจากที่ไหนกันแน่ ข่าวยังไม่ออกไปเลย แต่สายข่าวของเธอไวมาก"“มีกลุ่มสังคมในกลุ่มไลน์ ดึงฉันเข้ามา พวกเธอพูดคุยกันในกลุ่ม ฉันดูฉากเด็ดอยู่ตลอด”เซียวเถียนเถียนพูดจบ ก็นึกอะไรขึ้นมาได้อีก "ว่าแต่ เสิ่นหมิงจูก็อยู่ในกลุ่มด้วย"เสิ่นหมิงจู ชื่อนี้ไม่ได้แปลกหน้าสำหรับเจียงเซิง ตอนนั้นเจียงเวยร่วมมือกับเธอทำร้ายเจียงเซิง แต่กลับถูกเจียงเซิงวางแผนซ้อนหลังจากเหตุการณ์นั้น ได้ยินว่าตระกูลเสิ่นส่งเสิ่นหมิงจูไ
ภายใต้แสงและเงาสีขาวสว่างจ้า ใบหน้าของเขาถูกแสงส่องจนดูนุ่มนวลและไร้ที่ติ นอกจากนี้ยังลึกซึ้งและหล่อเหลาอย่างไม่อาจพรรณนาได้เจียงเซิงเดินไปหาเขา ยกมือขึ้นเพื่อแตะคิ้วของเขาเบา ๆ ปลายนิ้วลูบไล้ลงมาที่สันจมูกโด่งของเขาซือเย่เจ๋วขมวดคิ้ว และยกมือจับข้อมือของเธอเอาไว้ จากนั้นก็กระชากเธอมาในอ้อมกอด ถึงได้หรี่ตามองเธอ "คุณนี่ร้ายจริง ๆ นะ"เจียงเซิงหลุดขำออกมา สองมือประสานกันบนไหล่ของเขาแล้วขยับเข้าไปใกล้เขา "ฉันร้ายตรงไหน?"เขาโอบเอวของเธอแล้วพูดว่า "เสร็จงานแล้วเหรอ หิวไหม?"“หิว” เธอพยักหน้าซือเย่เจ๋วยิ้มและกอดเธอ ริมฝีปากและจมูกของเขาแนบไปที่คอของเธอ และเขาก็ยิ้มอย่างมีเลศนัย "หิวจริง ๆ เหรอ?"เจียงเซิงผลักหน้าอกของเขาอย่างไร้เรี่ยวแรง “อย่าเล่น ฉันหิวจนไม่มีแรงจริง ๆ”ซือเย่เจ๋วก็ไม่ได้ล้อเล่นอีก เขาปล่อยเธอออก แล้วจัดเสื้อสูทบนตัว "อยากทานอะไร ผมพาคุณไป"เจียงเซิงครุ่นคิดอะไรบางอย่าง จากนั้นก็คล้องแขนเขา แล้วยิ้มแย้มออกมา "ฉันไม่ได้กินเกี๊ยวน้ำนานแล้ว อยากกินเกี๊ยวน้ำ"ตอนที่ซือเย่เจ๋วมาหาเธอ ก็ได้ให้หลัวเชว่กลับไปก่อน โชคดีที่เจียงเซิงขับรถมาเองเผชิญหน้ากับซือเย่เจ๋วที่
ซือเย่เจ๋วมองดูเธอ “นวนนวนยังเด็กมาก เธอจะกินอาหารรสเผ็ดได้อย่างไร?”"อาจจะได้กรรมพันธุ์มาจากฉันมั้ง" เจียงเซิงดื่มน้ำซุปสองสามคำ "ตอนที่ฉันอายุห้าขวบก็กินเผ็ดได้"ซือเย่เจ๋วก้มหน้าทานเกี๊ยวน้ำในถ้วย ในดวงตาของเธอเผยรอยยิ้มออกมา "อร่อยไหม?""ไม่เลวนะ" ซือเย่เจ๋วก็ทานอีกสองสามคำ อย่างน้อยรสชาติก็ไม่ได้แย่เมื่อทานเกี๊ยวน้ำเสร็จ กลับไปถึงคฤหาสน์ตระกูลซือก็เป็นเวลาสามทุ่มแล้ว ลุงเฉินบอกว่าเด็กสองคนก็เพิ่งอาบน้ำเสร็จ และดูหนังอยู่ภายในห้องเจียงเซิงผลักประตูออก นวนนวนกับเฉินเฉินทั้งสองคนนั่งกินขนมไปด้วยดูการ์ตูนอยู่ที่หน้าจอโปรเจ็คเตอร์"หม่ามี้ กลับมาแล้วเหรอคะ~" นวนนวนยัดขนมให้เฉินเฉิน จากนั้นก็ลุกขึ้นวิ่งมาตรงหน้าเธอเจียงเซิงยกมือลูบศีรษะของเธอ เธอเพิ่งสระผม ไดร์ผมเสร็จ เวลาลูบศีรษะ "คุณครูไม่ได้สั่งการบ้านพวกลูกเหรอ?""หนูกับพี่ชายอยู่ที่โรงเรียนเขียนเสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ การบ้านแค่นั้นทำอะไรพวกเราไม่ได้หรอกค่ะ" เจียงนวนนวนภาคภูมิใจเจียงเฉินเฉินกินมันฝรั่งทอดเสียงดัง "ก่อบแก่บ" "เธอก็ต้องพึ่งพาฉันที่เป็นสุดยอดอัจฉริยะคนนี้ไม่ใช่เหรอ?"เจียงนวนนวนมองเขาด้วยความรังเกียจ "โจทย
ซือเย่เจ๋วสิบนิ้วประสานกันและวางไว้ตรงหน้าปาก จากนั้นก็พูดอย่างจริงจัง "ช่วยฉันติดต่อสตูดิโอถ่ายพรีเวดดิ้งที่ดีที่สุดในเมืองหลวงให้ฉันหน่อย"หลัวเชว่ตกตะลึง "สตูดิโอถ่ายพรีเวดดิ้ง?"ซือเย่เจ๋วอธิบายอย่างจริงจัง "กำแพงในบ้านโล่งเกิดไปหน่อย"หลัวเชว่ "..."อยากถ่ายพรีเวดดิ้งก็บอกมาตรง ๆ*ระหว่างทางที่ไปบริษัท Soul จิวเวลรี่ เจียงเซิงให้สิบเจ็ดขับรถอ้อมไปยังตระกูลเจียง ลานบ้านตระกูลเจียงไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ เพียงแค่สามปีมานี้ไม่มีคนจัดการดอกไม้ใบหญ้าจึงถูกป่าหญ้าปกคลุมประตูก็ปิดสนิทสิบเจ็ดจอดรถลง เจียงเซิงเปิดประตูรถออก และมองดูประตูที่ถูกล็อกเอาไว้ เห็นได้ชัดว่าวิลล่าหลังนี้ไม่มีคนอยู่แล้ว"ดวงตาของเธออึมครึม และยืนอยู่ข้างหน้าอยู่เป็นเวลานานไม่ยอมจากไปผู้จัดการชุมชนเดินเข้ามาเตือน "ขออภัยด้วย ที่นี่ไม่ว่าใครก็ห้ามเข้าใกล้"เจียงเซิงหันหน้ามองไปทางผู้จัดการที่เดินมา "ทำไมถึงเข้าใกล้ไม่ได้คะ?"ผู้จัดการคนนั้นมองดูเธอแล้วพูดขึ้น "สิทธิ์ในการครอบครองทรัพย์สินของวิลล่าร้างหลังนี้ถูกคนซื้อเอาไว้แล้ว คนคนนั้นบอกว่า ใครก็ห้ามเข้าใกล้"เจียงเซิงหรี่ตาลง “ใครซื้อเอาไว้คะ?”ผู
"เซิงเซิง ป้าคือป้าของหนูตลอดไป อย่างน้อยหนูต้องรู้ไว้ บนโลกนี้หนูยังมีป้าที่เป็นคนในครอบครัว"เจียงเซิงยิ้มและพยักหน้าเมื่อกลับไปที่บริษัท Soul จิวเวลรี่ เจียงเซิงเพิ่งจะเดินเข้าห้องทำงาน ก็เห็นหลัวเชว่นั่งรอเธออยู่บนโซฟาเจียงเซิงชะงักงัน และกวาดสายตามองไปรอบห้อง "หลัวเชว่ คุณมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร? ซือเย่เจ๋วล่ะ?"หลัวเชว่อยู่ ซือเย่เจ๋วก็น่าจะอยู่ด้วยไหม?หลัวเชว่เกาแก้มแล้วยิ้ม "ท่านเจ๋วให้ผมมารับคุณครับ""รับฉัน?""ใช่ครับ เขาบอกว่าจะจัดเซอร์ไพรส์ให้คุณ ก็เลยให้ผมมารับคุณไป"เมื่อเห็นท่าทางลึกลับของหลัวเชว่ เจียงเซิงกอดอกแล้วพูดขึ้น "เซอร์ไพรส์อะไร?""บอกคุณ งั้นก็ไม่เรียกว่าเซอร์ไพรส์สิครับ" หลัวเชว่ทำท่าทางเชื้อเชิญ "คุณเจียง ไปเถอะครับ"เจียงเซิงยิ้ม ซือเย่เจ๋วหมอนี่ไม่ตั้งใจทำงาน กลับจัดเซอร์ไพรส์อะไรให้เธอ เธอก็อยากจะดูหน่อยว่าเป็น "เซอร์ไพรส์" อะไรกันแน่ซือเย่เจ๋วทำลึกลับมาก ไม่เพียงระหว่างทางที่ไปจะต้องปิดตาเธอ เมื่อไปถึงที่ ก็ต้องให้หลัวเชว่ประคองเธอเดินเข้าไปเจียงเซิงมองไม่เห็นทาง ทำได้แค่ให้หลัวเชว่พาไปด้วยความระมัดระวัง เธอถามขึ้น "ตกลงมันคืออะไรกันแน่?"
เขาดึงเน็กไทออกด้วยสีหน้าอึมครึม เน็กไทลื่นไหลตกลงบนพื้น จากนั้นก็เดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองหลัวเชว่ตกตะลึง "ท่านเจ๋ว... "เจียงเซิงเดินออกมาด้วยอารมณ์หดหู่ หลัวเชว่รีบเดินเข้าไปถาม "ท่านเจ๋วเป็นอะไรไปครับ พวกคุณจะถ่ายพรีเวดดิ้งไม่ใช่เหรอ?"เจียงเซิงเงยหน้าขึ้นด้วยความงงงวย "ถ่ายพรีเวดดิ้ง?"หลัวเชว่ถึงได้พูดอธิบาย "ใช่ครับ ถึงแม้ท่านเจ๋วจะสูญเสียความทรงจำไป แต่ดูเหมือนว่าจะพะวงใจเรื่องที่คุณกับเขาไม่ได้ถ่ายรูปพรีเวดดิ้ง อ่อใช่ เขายังอยากจะเลือกแหวนแต่งงานมาด้วย ท่านเจ๋วจำเรื่องในอดีตไม่ได้ แต่เรื่องที่เกี่ยวข้องกับคุณเขาใส่ใจมากจริง ๆ ครับ"เจียงเซิงชะงักงันมือที่อยู่ข้างตัวกำแน่นต่อให้จำไม่ได้แล้ว แต่สำหรับเรื่องระหว่างพวกเขาซือเย่เจ๋วก็ยังคงพะวงใจ จึงอยากที่จะชดเชยสิ่งที่ในอดีตไม่เคยมีไม่ว่าจะเป็นถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง แหวนแต่งงาน หรือว่างานแต่งงานที่เขาเคยรับปากไว้และเมื่อครู่ที่เขาโมโห เป็นเพราะเขาคิดว่าเขายังไม่ฟื้นฟูความทรงจำ เพียงเพราะจำเรื่องในอดีตของพวกเขาไม่ได้จึงถูกเธอปฏิเสธเหรอ?เจียงเซิงยิ้มขึ้นมาด้วยความจนใจเด็กน้อยเอ้ย...เธอบอกตอนไหนว่าเธอไม่ชอบ?เธอตบไห
เจียงเซิงก็ไม่ได้พูดอะไรอีก เพิ่งจะวางสายได้ไม่นาน หลัวเชว่ก็รูปถ่ายใบหนึ่งมาให้เธอในรูปถ่ายเป็นอย่างที่เซียวเถียนเถียนว่าจริง ๆ ซือเย่เจ๋วทานอาหารร่วมกับหานเซิง มุมที่ถ่ายมีความตั้งใจอย่างมาก ทำให้ทั้งสองดูสนิทสนมกันเจียงเซิงโมโหจนหัวเราะออกมา เขาตั้งใจให้หลัวเชว่ส่งมาให้เธอสินะ?อยากจะให้เธอหึง?หลัวเชว่รออยู่นาน แต่ก็ไม่ได้รับการตอบกลับจากเจียงเซิง ในใจก็รู้สึกงุนงง คุณเจียงไม่สนใจท่านเจ๋วแล้วจริง ๆ เหรอ?ทั้ง ๆ ที่ครั้งที่แล้วที่ห้องทำงานคุณเจียงรู้สึกใส่ใจอย่างมากที่หานเซิงเข้าใกล้ท่านเจ๋วเขารีบเดินไปด้านข้างซือเย่เจ๋ว จากนั้นก้มตัวลงข้างหูเขาแล้วซุบซิบอะไรบางอย่าง มือของซือเย่เจ๋วที่จับแก้วไวน์แน่นขึ้นทันที สีหน้าเปลี่ยนไปเคร่งขรึมมากขึ้นหานเซิงที่นั่งทานสเต็กอยู่ตรงข้ามจิบไวน์หนึ่งคำ จากนั้นวางแก้วไวน์ลงด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม "พี่เจ๋ว เป็นอะไรไปคะ?"ซือเย่เจ๋ววางแก้วไวน์ลงบนโต๊ะ และหยิบทิชชูเช็ดมุมปาก "ผมยังมีธุระ"เขาลึกขึ้นเดินและจะจากไป หานเซิงก็ลุกขึ้นตาม "พี่เจ๋ว พี่รับปากว่าจะทานอาหารเป็นเพื่อนฉันไม่ใช่เหรอคะ?""จู่ ๆ ก็ไม่มีความอยากทานแล้ว" ซือเย่เจ๋วหลือบตามองเ
*ถูกลูกเล่นของ Soul จิวเวลรี่ทำให้อ้วกแล้ว*แฟรงค์มองดูเธอ "เซิงเซิง จำนวนยอดขายของ Soul จิวเวลรี่ในวันนี้ลดลงอีกสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว บริษัทได้รับสายโทรศัพท์เพื่อสละออเดอร์และคืนเงินหลายออเดอร์แล้วดวงตาของเจียงเซิงขยับเขยื้อน "ดูท่าพวกเขาอยากจะบีบบังคับให้ฉันยอมจำนนสินะ""งั้นคุณวางแผนจะทำอย่างไร?" แฟรงค์รู้ว่าเธอไม่เปิดเผยตัวตนเพราะมีเหตุผลของเธอ ถ้าหากมีวิธีอื่นก็จะดีอย่างมากเจียงเซิงยื่นแท็บเล็ตไปให้เขา และหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา "ทางด้านผิ่นเก๋อยืนยันเป็นมั่นว่าฉันลอกเลียนแบบทั้ง Soul จิวเวลรี่ ถึงเวลาที่ฉันควรจะตอบโต้แล้ว"ในขณะที่กระแส "การลอกเลียนแบบ" บนอินเทอร์เน็ตกำลังโด่งดัง คำค้นหายอดนิยมของเฟซบุ๊กก็มีเพิ่มขึ้นมาหนึ่งประเด็น*ผิ่นเก๋อของปลอม*ผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่ถูกเปิดเผยออกมาว่าแอบลดวัสดุและขั้นตอนการก่อสร้าง ขายเครื่องประดับปลอมในราคาสูงและหลอกลวงลูกค้า และสร้างข่าวลือเรื่องที่โซราเสียชีวิต แม้กระทั่งข่าวลือที่เจ้าของผิ่นเก๋อมอมเหล้าเด็กสาวในคลับเฮ้าส์ก็ถูกเปิดโปงจนหมดเปลือกการเปิดเผยอย่างต่อเนื่องนี้ ทำให้เหตุการณ์ของ Soul จิวเวลรี่ถูกดันลงไปทันที เพียงแค่เรื่องที่
"ทำไม่ได้" ซือเย่เจ๋วเสียงทุ้มต่ำ จากนั้นจูบเธออย่างแรง และยิ่งอยู่ยิ่งรุนแรงขึ้นอาจเป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง เมื่อคืนฝนตกหนักทำให้อุณหภูมิเปลี่ยนไปหนาวเย็นกะทันหัน ใบไม้สีเหลืองที่แห้งเหี่ยวปกคลุมบนพื้น สัมผัสกับแอ่งน้ำเจียงเซิงกับซือเย่เจ๋วเพิ่งไปส่งเจ้าตัวเล็กทั้งสองคนที่โรงเรียนประถมเอกชน จากนั้นตอนที่เดินทางไปส่งเจียงเซิงที่ Soul จิวเวลรี่ เจียงเซิงง่วงจนพิงร่างกายของเขาแล้วงีบหลับซือเย่เจ๋วหันหน้าไปจ้องมองเธอ จากนั้นก็ยกมือขึ้นรวบไรผมที่อยู่ตรงหน้าผากของเธอ "ยังง่วงเหรอ?""อืม"เจียงเซิงบ่นอย่างซื่อตรง "โทษคุณเลย"เขายิ้ม จากนั้นก็มก้มตัวมาที่ข้างหูของเธอ "หรือว่าไม่ใช่ความผิดของคุณเหรอ?"เจียงเซิงเงยหน้าขึ้นและวางคางบนไหล่เพื่อมองดูเขา "ไม่ได้ให้คุณทำสองยกทั้งคืนสักหน่อย"ซือเย่เจ๋วที่สูญเสียความทรงจำไม่เพียงควบคุมอารมณ์ไม่ได้ แถมยังมีกำลังวังชาเต็มเปี่ยม เกือบพรากชีวิตแก่ ๆ ของเธอซือเย่เจ๋วไม่ได้พูดอะไร แต่ในใจกลับรู้สึกพึ่งพอใจอย่างมากในตอนนี้โทรศัพท์ของเจียงเซิงดังขึ้น คุณอาแฟรงค์โทรมาหาเธอแต่เช้าเกรงว่าต้องมีเรื่องใหญ่แน่นอนเธอรับสาย "คุณอาแฟรงค์?""เซิงเซิง
แต่ชาวเน็ตส่วนใหญ่คิดว่านี่ไม่ใช่การลอกเลียนแบบ ต่อให้สไตล์เหมือนกันแต่ยังมีจุดเด่นอื่นอีก สถานการณ์แบบนี้ไม่สามารถจำกัดความว่าเป็นการลอกเลียนแบบได้ ขอถามกลับว่าคนที่พูดว่าลอกเลียนแบบมีสิทธิอะไรคิดว่าคนเขาจะต้องลอกเลียนแบบแน่นอนน่าจะเป็นเพราะผู้บริหารของผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่เห็นว่านี่ไม่เพียงไม่ได้กดหัวคนอื่น แต่กลับเป็นวิธีที่ "ใจร้อนอยากประสบความสำเร็จแต่กลับทำให้เสียการ" จึงอยากเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมออกแต่คิดไม่ถึงว่า พวกเขาไม่สามารถเพิกถอนได้ เพราะว่ามีคนทุ่มเงินจำนวนมากซื้อคำค้นหายอดนิยมนี้ ผิ่นเก๋อของพวกเขาออกเงินสองเท่า ฝ่ายตรงข้ามก็ออกเงินสี่เท่า ตอนนี้เล่นเกมทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมแล้วเจียงเซิงนั่งดูหน้าแชทเฟซบุ๊กอยู่ตรงหน้าคอมพิวเตอร์ แฟรงค์เดินเข้ามา "เซิงเซิง ผิ่นเก๋อยอมแพ้การเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมแล้ว ดูท่าว่าจะทุ่มเงินไม่ไหวแล้ว"เจียงเซิงหรี่ตาลง "พวกเขาทำใจทุ่มเงินไม่ได้ แต่น่าจะมีวิธีอื่นอีก"ทางด้านเจียงเซิงทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมกับผิ่นเก๋อ ทางด้านซือเย่เจ๋วก็ทุ่มเงินล้มธุรกิจของหานซื่อกรุ๊ป หลัวเชว่มองดูจนตกตะลึงตาค้าง สามีภรรยาคู่นี้ตอนนี้เป็นคนโง่ที่เงินเ
เซียวเถียนเถียนใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา เธอตกใจจนถอยหลังไปสองสามก้าว จากนั้นก็หันหลังวิ่งหนีไปเมื่อมาถึงนอกห้องทำงานของเจียงเซิง คนทั้งคนยังคงอยู่ในสภาพเครื่องรวน เมื่อเข้าไปข้างในก็ทรุดนั่งลงบนโซฟา ขาก็อ่อนแรงไปหมดเจียงเซิงเดินออกมาจากห้องทำงาน เห็นท่าทางเหม่อลอยของเซียวเถียนเถียน ก็ยิ้มบาง "เกิดอะไรขึ้น?"เซียวเถียนเถียนลุกนั่งทันที และวางกาแฟบนโต๊ะทำงานของเธอ "ซื้อ...ซื้อมาให้เธอ"เจียงเซิงเดินไปตรงหน้าโต๊ะแล้วหยิบกาแฟขึ้นมา เห็นเธอพูดจาติดขัดจึงถามขึ้น "เจอเรื่องอะไรมา ทำไมถึงตกใจขนาดนี้?""ก็...ก็ไม่ได้เจอเรื่องอะไร ก็แค่ระหว่างทางที่ซื้อกาแฟได้เจอกับหานเซิงเข้า เกือบจะทะเลาะกับเธอขึ้นมา"เจียงเซิงถือกาแฟเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงาน "แค่นั้นเหรอ?"เธอเม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า "ใช่""งั้นเธอทำไมหน้าแดงขนาดนี้?""นั่นเป็นเพราะว่าฉันร้อน!" เซียวเถียนเถียนโกรธขึ้นมาทันที เจียงเซิงมองท่าทางประหม่าของเธอออก จึงหรี่ตาจ้องมองเธออยู่นานต่อให้เจอกับหานเซิงแล้วทะเลาะกัน ก็ไม่ถึงกับทำให้เธอกลายเป็นแบบนี้ ท่าทางแบบนี้เห็นได้ชัดว่า...ทำเรื่องไม่ดีอะไรมา"อ่อใช่เซิงเซิง บนเฟซบุ๊กเรื่องลอกเลียนแ
"เธอ…"“ผู้ชายทุกคนชอบผู้หญิงที่อ่อนโยนและน่ารัก คนปากคอเราะรายอย่างเธอชีวิตนี้คงไม่มีคนชอบเธอหรอก”ขณะพูด เธอก็พูดเหน็บแนม "ถ้าไม่ใช่ว่าเธอเป็นลูกสาวตระกูลเซียว จะมีการแต่งงานเกี่ยวดองกันกับตระกูลลู่ที่ดีขนาดนี้เหรอ คุณชายลู่แต่งงานกับเธอซวยไปแปดชาติจริง ๆ"เซียวเถียนเถียนสีหน้าเคร่งขรึมลงทันที เธอง้างมือขึ้นจะฟาดหน้าของหานเซิงหานเซิงเงยหน้าขึ้นให้เธอตบแต่ฝ่ามือยังไม่ทันโดน ข้อมือก็ถูกคนจับเอาไว้ลู่ลี่เซินดึงเซียวเถียนเถียนไปข้างหลังแล้วมองดูเธอ "ลงมือต่อหน้าคนมากมายแบบนี้ ไม่รู้จักอายบ้างเหรอ?"ผู้คนรอบตัวพากันมองมาทางนี้ เหมือนกำลังจะรอดูฉากเด็ดอยู่ ถ้าหากเมื่อครู่เซียวเถียนเถียนตบลงไปจริง ๆ ก็จะมีคนถ่ายรูปเอาไว้และเอาเรื่องนี้ไปพูดกันแต่เซียวเถียนเถียนไม่ยอมแพ้ เธอสะบัดมือของเขาออก "นายยุ่งอะไรกับฉันด้วย""คุณชายลู่ คุณมาได้พอดีเลย คู่หมั้นของคุณร้ายกาจ เมื่อครู่ยังอยากจะตบฉันด้วย ถ้าคุณไม่ห้ามไว้ หน้าของฉันคงบวมไปแล้วหานเซิงท่าทางน่าสงสาร เธอมีความมั่นใจคิดว่าผู้ชายชอบแบบนี้กันหมด แทบอยากจะให้ลู่ลี่เซินเห็นใจเธอ สงสารเธอ และทะเลาะกับเซียวเถียนเถียนขึ้นมาแต่หานเซิง
กู้เฉินกวางยิ้มบางแต่ไม่ได้พูดอะไรหลัวเชว่มองไปที่ซือเย่เจ๋วและพูดไม่ออก นี่เห็นได้ชัดว่าถูกคุณเจียงควบคุมจนอยู่หมัดแล้ว......บริษัท Soul จิวเวลรี่สิบเจ็ดบอกว่าเจียงยี่กับผู้เฒ่าเจียงได้พาเจียงเฮงกลับเมืองจินเฉิงแล้วเงินห้าแสนกว่าบาทที่ต้ายฉิงใช้จ่ายไปตอนนี้ได้ตามกลับผ่านทางตำรวจแล้ว แต่ก็ตามกลับมาได้แค่แสนกว่าบาท แต่ต้ายฉิงถูกควบคุมการเดินทาง อยากจะหนีก็หนีไม่ได้เจียงเซิงก็ไม่ได้พูดอะไรมากมายหลังจากผ่านเรื่องนี้ไปผู้เฒ่าเจียงคงจะทำตัวดีไม่น้อย จากอายุของเธอในตอนนี้อยากจะดิ้นรนต่อไป เกรงว่าคงจะไม่มีโอกาสดิ้นรนแล้วหลายชายของตัวเองล้างผลาญครอบครัวใช้เงินสะสมของเธอจนหมด แถมยังถูกหลอก แม้แต่ลูกชายก็ยังไม่ยอมรับเธอ ตอนนี้เธอก็ไม่มีอารมณ์คิดถึงมรดกของพ่อของเธอแล้ว*อลิซลอกเลียนแบบโซรา*พาดหัวข่าวเฟซบุ๊กที่โดดเด่นบนหน้าจอทำให้เจียงเซิงที่เพิ่งดื่มน้ำแทบจะพ่นน้ำออกมาเธอลอกเลียนแบบตัวเอง?เมื่อเปิดดู ก็เป็นเรื่องประดับ*รุ่นคู่รัก*ที่เธอออกแบบคล้ายกับสไตล์การออกแบบของเธอก่อนหน้านี้ แต่ไม่รู้ว่าใครตั้งใจพูดตัดสินเรื่องนี้ว่าลอกเลียนแบบ ชาวเน็ตที่ไม่ผ่านกรองการครุ่นคิดก็เชื่อจ
กู้เฉินกวางถอดแว่นกันแดดออกแล้วใส่ไว้ในกระเป๋าตรงหน้าอก "สถานการณ์ของนายแบบนี้ คงไม่ต้องให้ฉันแนะนำตัวเองใช่ไหม?"ซือเย่เจ๋วก็มองออกว่าเขาคือใคร "อยู่ในวงการบันเทิงได้ไม่เลวเลยสินะ"กู้เฉินกวางหัวเราะเบา ๆ “คนอื่นบอกว่านายความจำเสื่อมฉันยังไม่เชื่อ”เขาเดินไปที่โซฟาแล้วนั่งลงด้วยตัวเอง หลัวเชว่รินชาให้เขาหนึ่งแก้วซือเย่เจ๋วลุกขึ้นยืนและเดินอ้อมโต๊ะทำงานไปตรงหน้าโซฟา จากนั้นก็ปลดกระดุมชุดสูทออกแล้วนั่งลง "แขกหายากสินะ มีธุระอะไรกับฉัน?""มีธุระจริง ๆ นั่นแหละ" กู้เฉินกวางยกแก้วน้ำชาขึ้น "ฉันคิดว่านายคงจะเคยรู้จักกับหานจื้อเหนียนสินะ?"ในตอนที่ซือเย่เจ๋วกำลังครุ่นคิดว่าหานจื้อเหนียนคือใคร หลัวเชว่ก็ก้มตัวชี้แนะ "ประธานหานคนนั้นเมื่อครั้งที่แล้ว"ซือเย่เจ๋วหรี่ตาลงและยิ้มอย่างมีความหมายลึกซึ้ง "ทำไม ตระกูลหานมุ่งเป้าไปที่นายเหรอ?"กู้เฉินกวางไม่ได้พูดอะไรซือเย่เจ๋วสีหน้าจริงจังขึ้นมา "ฉันว่านายก็อายุเยอะแล้ว ควรจะพิจารณาเรื่องการแต่งงานได้แล้ว?"กู้เฉินกวางวางแก้วชาลง และครุ่นคิด “เร่งให้ฉันแต่งงาน นายเป็นห่วงอะไร?”ซือเย่เจ๋วสีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อย จากนั้นกอดอกมองเขา "ตาข้าง
เจียงเซิงไม่ปฏิเสธ "ใช่ค่ะ" เธอหัวเราะเบา ๆ "รวมทั้งเงินห้าล้านบาทนั่นด้วย นั่นก็เป็นเงินที่ฉันให้ คุณก็ไม่ได้บอกคุณย่าว่าคุณมีเงินห้าล้านบาทใช่ไหม?"ผู้เฒ่าเจียงหันหน้ามองไปทางเจียงยี่เจียงยี่ไม่ได้พูดอะไร เห็นได้ชัดว่ายอมรับแล้ว"คุณไม่อยากยอมรับแม่ ไม่อยากยอมรับลูกชาย ฉันก็ไม่ก้าวก่ายคุณ ในเมื่อเงินเอาให้คุณแล้ว คุณอยากจะใช้อะไรก็เรื่องของคุณ"เจียงเซิงกอดอก สายตาเย็นชา "แน่นอนว่าถ้าหากคุณยอมเอาเงินไปใช้ในทางที่ต้อง ฉันอาจจะให้โอกาสคุณอีกครั้ง แต่น่าเสียดายที่คุณปรับเปลี่ยนตัวเองไม่ได้แล้ว เอาเงินให้คุณมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ใด ๆ"มือที่วางอยู่บนขาของเจียงยี่กำแน่นอย่างอดไม่ได้ สีหน้าก็รู้สึกอับอายผู้เฒ่าเจียงมองดูเจียงเซิง "เซิงเซิง ในเมื่อเธอยังมีชีวิตอยู่ และก็ยอมช่วยอาของเธอกับลูกพี่ลูกน้องของเธอ...""คุณย่า คุณคิดมากเกินไปหรือเปล่า?" เจียงเซิงขัดคำพูดของเธอทันที "ฉันไม่ได้ช่วยพวกเขาโดยไม่มีเหตุผลหรอกนะคะ ฉันก็แค่ช่วยให้คุณได้เห็นความโหดร้ายของโลกนี้อย่างชัดเจน"ผู้เฒ่าเจียงมองไปทางเธอด้วยความเหม่อลอยเจียงเซิงลุกขึ้นเดินไปตรงหน้าต่าง และหันข้างมองไปทางพวกเขา "เพราะว
เพิ่งจะเข้าไปในห้อง เจียงยี่ก็อยู่ด้วย เจียงยี่นั่งอยู่บนเก้าอี้ บอดี้การ์ดที่อยู่ด้านหลังวางมือบนไหล่ของเขาไม่ให้เขาหนีไปได้ตอนที่ผู้เฒ่าเจียงเห็นผู้หญิงแปลกหน้าถูกพาตัวเข้ามา และคุกเข่าลงบนพื้น ก็งุนงงไปหมด "นี่คือ..."สิบเจ็ดพูดด้วยสีหน้านิ่งเฉย "ฉิงฉิงที่หลานชายของคุณพูดถึง คุณให้เธออธิบายกับคุณเองเถอะ"ฉิงฉิง?ผู้เฒ่าเจียงสายตามองไปที่ผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง ต้ายฉิงร้องไห้แล้วคลานมาที่ข้างเตียง "คุณย่าเจียง ขอโทษนะคะ ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่ควรหลอกลวงเจียงเฮง ขอร้องพวกคุณปล่อยฉันไปเถอะค่ะ"ผู้เฒ่าเจียงนึกขึ้นได้ว่าเจียงเฮงหลานชายของเธอนำเงินก้อนนั้นให้กับผู้หญิงคนนี้ เธอก็รู้สึกโมโหขึ้นมา และผลักฉิงฉิงออก "เธอยังมีหน้ามาหาฉันอีก? เงินของหลานชายฉันล่ะ?"ต้ายฉิงถูกผลักล้มลงกับพื้น ไหล่ของเธอสั่นเทา น้ำตาไหลลงแก้ม ชั่วขณะไม่รู้ว่าควรจะพูดเรื่องเงินก้อนนั้นที่เธอใช้ไปหมดแล้วอย่างไรดี“ฉิงฉิง!”เจียงเฮงปรากฏตัวนอกประตูและเห็นต้ายฉิงนั่งอยู่บนพื้น เขาจึงรีบเดินไปประคองเธอ "คุณย่า ฉิงฉิงมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร"“แกยังจะพูดอีก?” ผู้เฒ่าเจียงหน้าเขียวหน้าดำ "นังเด็กคนนี้หลอกเอาเงินของแก เ