"คุณยังไม่นอน" เสียงของเขาฟังดูแหบแห้งเล็กน้อย แต่ยังคงมีเสน่ห์เธอหยุดชะงักและกัดฟันพูด "ใครว่าล่ะ ฉันนอนแล้ว"เขาเงียบไปครู่หนึ่ง และพูดขึ้นช้า ๆ "ไฟในห้องของคุณยังสว่างอยู่"เจียงเซิงลุกขึ้นเดินไปตรงหน้าหน้าต่างทันที ที่หน้าประตูใหญ่มีรถยนต์สีดำคันหนึ่งจอดอยู่เห็นแค่เขายืนตัวสูงอยู่ที่ตรงหน้ารถ บนตัวสวมเสื้อกันลมตัวยาวสีน้ำตาลเทา ไฟข้างทางส่องมาที่เขา แต่กลับมีความโดดเดี่ยวอยู่เล็กน้อยเจียงเซิงนวดหัวคิ้ว รู้สึกปวดหัวเล็กน้อย "ซือเย่เจ๋ว คุณมีธุระไหม?""ไม่มี" เขาเงยหน้ามองไปทางหน้าต่าง "เพียงแค่ผ่านทางจึงแวะมาดู"เจียงเซิงยิ้ม "ระยะทางตั้งไกลผ่านมาทางนี้ได้ด้วยเหรอ? คุณซือ ข้ออ้างของคุณแย่เกินไปแล้ว""เรเจลส่งคนมาหาคุณ" ซือเย่เจ๋วล้วงกล่องบุหรี่ออกมาจากในกระเป๋า แล้วหยิบออกมาหนึ่งมวนเจียงเซิงหรี่ตา "คุณรู้ได้อย่างไร?"เขาถือบุหรี่ไว้ในมือแต่ไม่ได้คากไว้ที่ปาก "เขาไม่มีทางละทิ้งถิ่นฐานของตระกูลกุง""เขาไม่มีทางยอมแพ้จริง ๆ นั่นแหละ แต่ฉันก็ไม่มีทางยอม" เจียงเซิงพูดขึ้น และหันหลังกลับ "ซือเย่เจ๋ว ดึกมากแล้ว มีธุระอะไรพรุ่งนี้ค่อยว่ากันเถอะ""คุณนัดเดทผมเหรอ?" ซือเย่เจ๋ว
"เหรอคะ แต่ฉันจำไม่ได้ว่าเคยพบคุณหลาน" เธอยกแก้วชาขึ้นอย่างสงบนิ่ง "ท่านลอร์ดให้คุณมาหาฉันเหรอคะ?"หลานอู๋เหยียนมองดูเธอ และไม่ได้ตอบกลับ ส่วนเจียงเซิงเงยหน้าขึ้นแล้วยิ้มพูด "คุณชอร์นไม่สามารถทำให้ฉันยอมอ่อนข้อได้ ตอนนี้ถึงตาคุณหลานมาพูดเกลี้ยกล่อมฉันแล้ว?""ผมไม่ได้มาหาคุณเพราะเรื่องถิ่นฐานของตระกูลกุง"หลานอู๋เหยียนรินชาให้ตัวเอง และยิ้มอย่างมีเลศนัย "เพียงแค่อยากรู้จักกับคุณอลิซสักหน่อย"เจียงเซิงหัวเราะเบา ๆ ปลายนิ้วมือลูบปากแก้ว "ไม่สู้คุณหลานบอกถึงจุดประสงค์ของคุณกับฉันมาโดยตรง"เห็นเธอพูดตรงไปตรงมาแบบนี้ หลานอู๋เหยียนก็ไม่อ้อมค้อม "ผมอยากทำธุรกิจกับคุณเจียง"เธอขมวดคิ้ว “หมายความว่าอย่างไรคะ?”"หมายความตามที่พูด" หลานอู๋เหยียนวางนามบัตรของเขาลงบนโต๊ะ "ใช้ความลับที่คุณอยากรู้มาทำธุรกิจกับคุณ"ไม่รอให้เจียงเซิงตั้งตัว หลานอู๋เหยียนก็ลุกขึ้น กระชับเสื้อคลุมสูทที่บนตัว "ผมคิดว่าคุณอลิซจะต้องติดต่อผมแน่นอน ใช่ไหม?"เขาก้าวเท้าเดินออกไปโดยตรง ส่วนเจียงเซิงก็ก้มหน้ามองนามบัตรที่อยู่บนโต๊ะ จากนั้นครุ่นคิดอยู่เป็นเวลานานสุดท้าย ซือเย่เจ๋วก็ยังไม่มา เธอออกจากร้านอาหารสี่ฤดู ก็ไ
สายตาของเธอมองไปยังหน้าจอโทรศัพท์ ตั้งแต่เมื่อวานจนถึงตอนนี้ ซือเย่เจ๋วไม่ได้ส่งข้อความมาหาเธอเลย แม้แต่อธิบายกับเธอก็ไม่มี......หึ ต่อไปจะเชื่อคำหลอกลวงของซือเย่เจ๋วง่าย ๆ ไม่ได้แล้ว!เธอหยิบนามบัตรใบนั้นออกมา "สิบเจ็ด ติดต่อหลานอู๋เหยียนแทนฉันหน่อย"ตอนเที่ยง เจียงเซิงพาสิบเจ็ดมายังตระกูลหลานสาวใช้รินน้ำชาต้อนรับเธอ ในไม่ช้าก็เห็นหลานอู๋เหยียนเดินลงมาจากชั้นบนหลานอู๋เหยียนยิ้มแล้วเดินไปนั่งลงบนโซฟา "ผมรู้ว่าคุณอลิซจะต้องมาหาผม"เจียงเซิงมองดูเขาโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า "เมื่อวานคุณหลานไปที่ร้านอาหารสี่ฤดู คงไม่ได้พาคนไปแอบถ่ายด้วยใช่ไหมคะ?""คุณอลิซกำลังสงสัยว่าผมประกาศเรื่องที่พวกเราเจอหน้ากันออกไปเหรอ?"หลานอู๋เหยียนขาเรียวยาวไขว้ขากัน ใบหน้าก็เต็มไปด้วยความไม่แยแส "คุณเข้าใจผมผิดแล้วจริง ๆ ในเมื่อสื่อข่าวในตอนนี้ต่างสงสัยในหน้าตาที่แท้จริงของคุณอลิซ นักข่าวบางคนอยากจะขุดคุ้ยข่าวสารที่มากขึ้นก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้"เจียงเซิงเคลื่อนไหวดวงตา สำหรับคำพูดของหลานอู๋เหยียนทำได้แค่เชื่อเพียงส่วนหนึ่ง ไม่ว่าเป็นเขาหรือไม่ เธอไม่ระมัดระวังตัวไม่ได้"เช่นนั้นที่คุณหลานพูดไว้เมื่อว
หลานอู๋เหยียนยิ้มขึ้นมาอย่างมีเลศนัย "ไม่ใช่ คนที่โจมตีเขาไม่ใช่คนของผม คนของผมไม่ได้ลงมือ"เจียงเซิงตกตะลึงจลาจลที่สวนสนุกเมื่อสามปีก่อนเป็นคนอื่นเหรอ?สายตาของเธอมองไปที่ชายชุดดำหลายคนที่ยืนอยู่ที่ชั้นบน ตรงหลังมือของพวกเขาที่วางอยู่ด้านหน้าตัวมีรอยสักที่เหมือนกันใช่แล้ว คนที่ลงมือพวกนั้นบนหลังมือไม่มีรอยสัก ส่วนคนของหลานอู๋เหยียนบนหลังมือมีรอยสัก!ดังนั้นมีคนสองกลุ่ม!คนของหลานอู๋เหยียนไม่ได้ลงมือ"คนของลอร์ด?""คุณเจียงฉลาดมาก" หลานอู๋เหยียนเริ่มชื่นชมเธอ "ไม่อย่างนั้นเมื่อสามปีก่อนคุณจะวางแผนลวงซูหลิงโหรวผู้หญิงโง่คนนั้นได้อย่างไร?"พูดถึงซูหลิงโหรว เจียงเซิงกำมือแน่นอย่างอดไม่ได้ ในดวงตาเต็มไปด้วยความแน่นิ่ง "พูดแล้ว ทำไมฉันไม่เห็นคุณหนูซูอยู่ข้างกายคุณหลานล่ะคะ?"หลานอู๋เหยียนใช้ปลายนิ้ววนรอบปากแก้ว "ผู้หญิงโง่คนนั้นหักหลังผม คุณคิดว่าผมยังจะเก็บเธอไว้ข้างกายอีกเหรอ?"ซูหลิงโหรวทรยศเขา?ในดวงตาของเจียงเซิงเผยความประหลาดใจเล็กน้อย เห็นเพียงแค่เขายิ้มอย่างอึมครึม "แต่ก็ต้องขอบคุณผู้หญิงโง่คนนั้น ไม่อย่างนั้นซือเย่เจ๋วจะติดไวรัสได้อย่างไรล่ะ?"เจียงเซิงตัวแข็งทื่ออยู
ขณะเดียวกัน ใบหน้าของท่านผู้เฒ่าก็เผยความตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง "เจียงเซิง? เป็นเธอได้อย่างไร?"ท่านผู้เฒ่ารู้ตั้งนานแล้วว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ในเมื่อตอนนั้นไม่พบศพ งั้นแสดงว่ามีชีวิตอยู่ เพียงแค่คิดไม่ถึงว่าเธอจะอยู่ที่ประเทศ Sเจียงเซิงสงบอารมณ์ลงเล็กน้อยแล้วเดินไปข้างหน้า "ซือเย่เจ๋วล่ะ?"ขณะที่หลัวเชว่กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ท่านผู้เฒ่าสีหน้าเคร่งขรึมทันที "สามปีก่อนเขาหย่าร้างกับเธอแล้ว เธอยังมาหาเขาทำไมอีก?""ฉันไม่มา ฉันจะรู้ได้อย่างไรว่าเขาติดเชื้อไวรัส?"คำพูดของเจียงเซิงก็ทำให้หลัวเชว่หยุดชะงักชั่วขณะ เธอรู้แล้วเหรอ?ท่านผู้เฒ่าขมวดคิ้วและพูดอย่างเย็นชา "เขาติดเชื้อไวรัสได้อย่างไร ไม่ใช่เพราะเธอหรอกเหรอ?"คำพูดนี้ ทำให้เจียงเซิงไม่มีคำพูดตอบโต้และก็ทำให้หัวใจของเธอสั่นคลอนเล็กน้อย"เจียงเซิง เธอคิดว่าทำไหมว่าเพราะอะไรซือเย่เจ๋วถึงหย่าร้างกับเธอ?"ท่านผู้เฒ่าหายใจเข้าลึก ๆ ท่าทางเย็นชา "เขาไม่เสียดายชีวิต จนถึงตอนสุดท้ายก็ยังทำเพื่อเธอ แม้แต่พินัยกรรมเขาก็ได้เขียนไว้บนสัญญาการหย่าร้างเรียบร้อยแล้วว่า ให้หุ้นครึ่งหนึ่งของ TG กับเธอ เมื่อเขาตายไป TG ก็ตกไปอยู่ในมือของเธอ"
"ท่านเจ๋วติดไวรัสที่ถูกวิจัยและผลิตขึ้นใหม่" หลัวเชว่มองเธอแล้วตอบกลับ "ไวรัสชนิดนี้ไม่มีระยะฟักตัว แม้แต่อัตราในการล้มป่วยในช่วงหลังก็เร็วกว่าไวรัสเมื่อสามสิบปีก่อน"เจียงเซิงเม้มปาก และเงียบขรึมอยู่เป็นเวลานาน เธอถึงได้เอ่ยปากขึ้นช้า ๆ "นายดูแลเขาเถอะ"เธอหันหลังเดินออกไปจากห้องเดินไปถึงหน้ารถ เจียงเซิงหยุดเดิน และหันกลับไปมองตรงหน้าต่างบานใหญ่บานนั้นสุดท้ายก็กลับขึ้นไปนั่งในรถ "กลับกันเถอะ"สิบเจ็ดเหลือบมองเธอในกระจกมองหลังแล้วขับรถออกไปและผู้ชายที่นั่งอยู่ในรถที่จอดอยู่ไม่ไกลเห็นรถคันนั้นขับไกลออกไป ก็ยิ้มมุมปากอย่างเย็นชา "ในที่สุดก็หาเจอแล้ว"ไม่กี่วันต่อมาเจียงเซิงนัดเจอกับหลานอู๋เหยียนที่ร้านอาหาร หลานอู๋เหยียนยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจแล้วเดินเข้ามา "คุณเจียงพิจารณาสองสามวันแล้ว เป็นอย่างไรบ้างครับ?"เจียงเซิงเงยหน้าขึ้นอย่างเย็นชา จากนั้นวางโทรศัพทืไว้ที่ด้านข้าง "คุณอยากให้ฉันมอบคะแนนสิทธิ์การคัดค้านของคุณตาของฉันให้กับคุณ เช่นนั้น คุณก็สามารถช่วยเหลือซือเย่เจ๋วได้?"หลานอู๋เหยียนนั่งลงบนเก้าอี้ พนักงานเสิร์ฟเข้ามารินเหล้าให้เขา รอให้พนักงานเสิร์ฟออกไป เขาเลิกคิ้วย
หลานอู๋เหยียนแบะมือออก "ถ้าหากคุณยินยอม ผมก็จะโทรไปถอนกำลังคนตอนนี้ ผมพูดได้ทำได้""คุณหลอกฉันแล้วหนึ่งครั้ง"เจียงเซิงหยิบโทรศัพท์วางกลับไปในกระเป๋า จากนั้นค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน "ฉันจะเชื่อคุณเป็นครั้งที่สองได้เหรอ?""คุณเชื่อได้" หลานอู๋เหยียนมองดูเธอ "ผมแค่อยากได้สิทธิ์การคัดค้านนั้นก็เท่านั้น เพียงแค่คุณรับปาก ผมจะเห็นแก่หน้าของคุณปล่อยเขาไปในครั้งนี้"เจียงเซิงยิ้ม "ได้ ฉันรับปากคุณ"หลานอู๋เหยียนเห็นเธอรับปาก ก็ล้วงโทรศัพท์ออกมาและกดโทรออก "พวกนายถอนกำลังได้"จากนั้นก็มองดูเธอ "พอใจแล้วยังครับ?"เจียงเซิงมองดูเขาอย่างลึกซึ้ง "คุณหลาน ฉันคนนี้ไม่ชอบเสียเปรียบ คุณหลอกใช้ฉันหนึ่งครั้ง ฉันจดจำเอาไว้แล้ว"เธอยิ้มบางให้เธอ จากนั้นใบหน้าเคร่งขรึมเดินออกไปจากร้านอาหารอย่างเร่งรีบสิบเจ็ดยืนรอเธออยู่ที่หน้ารถ เมื่อเห็นเธอออกมาจึงถามขึ้น "คุณจะมอบคะแนนสิทธิ์การคัดค้านของนายเฒ่ากุงให้เขาจริง ๆ เหรอ?"เจียงเซิงยิ้ม "แผนถ่วงเวลา ฉันมีแผนสำรองแล้ว"เธอเข้าไปในรถรอให้สิบเจ็ดขึ้นรถและขับรถออกไป เจียงเซิงล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋า มองดูสิ่งที่บันทึกไว้บนหน้าจอโทรศัพท์ แล้วยิ้มมุมปากอย่า
ซือเย่เจ๋วหยุดชะงัก จากนั้นบนใบหน้าก็มีรอยยิ้มที่อบอุ่นขึ้นมา "คุณมาแล้วเหรอ?"หลัวเชว่กระแอมเบา ๆ "งั้นผมออกไปก่อนนะครับ"เขาเดินออกจากห้องแล้วปิดประตูตามหลังเขาเจียงเซิงเดินไปหาซือเย่เจ๋ว ยืนอยู่ตรงหน้าเขาด้วยใบหน้านิ่งเฉย "ซือเย่เจ๋ว คุณคิดที่จะปิดบังฉันเรื่องที่คุณติดเชื้อไปจนตายเลยใช่ไหม?"ซือเย่เจ๋วเงยหน้าขึ้นและจ้องมองเธอโดยไม่ตอบเจียงเซิงโน้มตัวไปมองเขา ริมฝีปากสีแดงขยับเขยื้อน "ถ้าคุณตายไป งั้นรบกวนท่านเจ๋วก่อนที่จะตายช่วยเซ็นสัญญาหย่าร้างให้เรียบร้อย ในเมื่อกลายเป็นแม่หม้ายสามีตายแต่งงานใหม่จะไม่ดีนัก"ในอดีตหากพูดเรื่องแต่งงานใหม่ ซือเย่เจ๋วคงจะหึงเป็นอย่างมากตั้งนานแล้ว แต่ครั้งนี้เขากลับยิ้มบาง และมองเธอเงียบ ๆ "หาคนที่เหมาะสมเจอแล้วเหรอ?"เจียงเซิงยืนขึ้นและยักไหล่ "ยังเลย ถ้าหากจะพูดถึงคนที่เหมาะสม กู้เฉินกวางก็ไม่เลวนะ อีกอย่าเขาชอบลูกของฉันขนาดนั้น เพียงแค่เขายังไม่แต่งงาน งั้นรอฉันกลับไปเมืองหลวง ก็อาจจะยังมีโอกาสอยู่"ซือเย่เจ๋วขมวดคิ้วเล็กน้อยและไม่พูดอะไรเธอเลิกคิ้วแล้วยิ้ม “ทำใจไม่ได้เหรอ?”"ต่อให้เขาเต็มใจยอมรับคุณ ตระกูลกู้ก็อาจจะไม่แน่" ซือเย่เจ๋วส
*ถูกลูกเล่นของ Soul จิวเวลรี่ทำให้อ้วกแล้ว*แฟรงค์มองดูเธอ "เซิงเซิง จำนวนยอดขายของ Soul จิวเวลรี่ในวันนี้ลดลงอีกสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว บริษัทได้รับสายโทรศัพท์เพื่อสละออเดอร์และคืนเงินหลายออเดอร์แล้วดวงตาของเจียงเซิงขยับเขยื้อน "ดูท่าพวกเขาอยากจะบีบบังคับให้ฉันยอมจำนนสินะ""งั้นคุณวางแผนจะทำอย่างไร?" แฟรงค์รู้ว่าเธอไม่เปิดเผยตัวตนเพราะมีเหตุผลของเธอ ถ้าหากมีวิธีอื่นก็จะดีอย่างมากเจียงเซิงยื่นแท็บเล็ตไปให้เขา และหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา "ทางด้านผิ่นเก๋อยืนยันเป็นมั่นว่าฉันลอกเลียนแบบทั้ง Soul จิวเวลรี่ ถึงเวลาที่ฉันควรจะตอบโต้แล้ว"ในขณะที่กระแส "การลอกเลียนแบบ" บนอินเทอร์เน็ตกำลังโด่งดัง คำค้นหายอดนิยมของเฟซบุ๊กก็มีเพิ่มขึ้นมาหนึ่งประเด็น*ผิ่นเก๋อของปลอม*ผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่ถูกเปิดเผยออกมาว่าแอบลดวัสดุและขั้นตอนการก่อสร้าง ขายเครื่องประดับปลอมในราคาสูงและหลอกลวงลูกค้า และสร้างข่าวลือเรื่องที่โซราเสียชีวิต แม้กระทั่งข่าวลือที่เจ้าของผิ่นเก๋อมอมเหล้าเด็กสาวในคลับเฮ้าส์ก็ถูกเปิดโปงจนหมดเปลือกการเปิดเผยอย่างต่อเนื่องนี้ ทำให้เหตุการณ์ของ Soul จิวเวลรี่ถูกดันลงไปทันที เพียงแค่เรื่องที่
"ทำไม่ได้" ซือเย่เจ๋วเสียงทุ้มต่ำ จากนั้นจูบเธออย่างแรง และยิ่งอยู่ยิ่งรุนแรงขึ้นอาจเป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง เมื่อคืนฝนตกหนักทำให้อุณหภูมิเปลี่ยนไปหนาวเย็นกะทันหัน ใบไม้สีเหลืองที่แห้งเหี่ยวปกคลุมบนพื้น สัมผัสกับแอ่งน้ำเจียงเซิงกับซือเย่เจ๋วเพิ่งไปส่งเจ้าตัวเล็กทั้งสองคนที่โรงเรียนประถมเอกชน จากนั้นตอนที่เดินทางไปส่งเจียงเซิงที่ Soul จิวเวลรี่ เจียงเซิงง่วงจนพิงร่างกายของเขาแล้วงีบหลับซือเย่เจ๋วหันหน้าไปจ้องมองเธอ จากนั้นก็ยกมือขึ้นรวบไรผมที่อยู่ตรงหน้าผากของเธอ "ยังง่วงเหรอ?""อืม"เจียงเซิงบ่นอย่างซื่อตรง "โทษคุณเลย"เขายิ้ม จากนั้นก็มก้มตัวมาที่ข้างหูของเธอ "หรือว่าไม่ใช่ความผิดของคุณเหรอ?"เจียงเซิงเงยหน้าขึ้นและวางคางบนไหล่เพื่อมองดูเขา "ไม่ได้ให้คุณทำสองยกทั้งคืนสักหน่อย"ซือเย่เจ๋วที่สูญเสียความทรงจำไม่เพียงควบคุมอารมณ์ไม่ได้ แถมยังมีกำลังวังชาเต็มเปี่ยม เกือบพรากชีวิตแก่ ๆ ของเธอซือเย่เจ๋วไม่ได้พูดอะไร แต่ในใจกลับรู้สึกพึ่งพอใจอย่างมากในตอนนี้โทรศัพท์ของเจียงเซิงดังขึ้น คุณอาแฟรงค์โทรมาหาเธอแต่เช้าเกรงว่าต้องมีเรื่องใหญ่แน่นอนเธอรับสาย "คุณอาแฟรงค์?""เซิงเซิง
แต่ชาวเน็ตส่วนใหญ่คิดว่านี่ไม่ใช่การลอกเลียนแบบ ต่อให้สไตล์เหมือนกันแต่ยังมีจุดเด่นอื่นอีก สถานการณ์แบบนี้ไม่สามารถจำกัดความว่าเป็นการลอกเลียนแบบได้ ขอถามกลับว่าคนที่พูดว่าลอกเลียนแบบมีสิทธิอะไรคิดว่าคนเขาจะต้องลอกเลียนแบบแน่นอนน่าจะเป็นเพราะผู้บริหารของผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่เห็นว่านี่ไม่เพียงไม่ได้กดหัวคนอื่น แต่กลับเป็นวิธีที่ "ใจร้อนอยากประสบความสำเร็จแต่กลับทำให้เสียการ" จึงอยากเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมออกแต่คิดไม่ถึงว่า พวกเขาไม่สามารถเพิกถอนได้ เพราะว่ามีคนทุ่มเงินจำนวนมากซื้อคำค้นหายอดนิยมนี้ ผิ่นเก๋อของพวกเขาออกเงินสองเท่า ฝ่ายตรงข้ามก็ออกเงินสี่เท่า ตอนนี้เล่นเกมทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมแล้วเจียงเซิงนั่งดูหน้าแชทเฟซบุ๊กอยู่ตรงหน้าคอมพิวเตอร์ แฟรงค์เดินเข้ามา "เซิงเซิง ผิ่นเก๋อยอมแพ้การเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมแล้ว ดูท่าว่าจะทุ่มเงินไม่ไหวแล้ว"เจียงเซิงหรี่ตาลง "พวกเขาทำใจทุ่มเงินไม่ได้ แต่น่าจะมีวิธีอื่นอีก"ทางด้านเจียงเซิงทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมกับผิ่นเก๋อ ทางด้านซือเย่เจ๋วก็ทุ่มเงินล้มธุรกิจของหานซื่อกรุ๊ป หลัวเชว่มองดูจนตกตะลึงตาค้าง สามีภรรยาคู่นี้ตอนนี้เป็นคนโง่ที่เงินเ
เซียวเถียนเถียนใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา เธอตกใจจนถอยหลังไปสองสามก้าว จากนั้นก็หันหลังวิ่งหนีไปเมื่อมาถึงนอกห้องทำงานของเจียงเซิง คนทั้งคนยังคงอยู่ในสภาพเครื่องรวน เมื่อเข้าไปข้างในก็ทรุดนั่งลงบนโซฟา ขาก็อ่อนแรงไปหมดเจียงเซิงเดินออกมาจากห้องทำงาน เห็นท่าทางเหม่อลอยของเซียวเถียนเถียน ก็ยิ้มบาง "เกิดอะไรขึ้น?"เซียวเถียนเถียนลุกนั่งทันที และวางกาแฟบนโต๊ะทำงานของเธอ "ซื้อ...ซื้อมาให้เธอ"เจียงเซิงเดินไปตรงหน้าโต๊ะแล้วหยิบกาแฟขึ้นมา เห็นเธอพูดจาติดขัดจึงถามขึ้น "เจอเรื่องอะไรมา ทำไมถึงตกใจขนาดนี้?""ก็...ก็ไม่ได้เจอเรื่องอะไร ก็แค่ระหว่างทางที่ซื้อกาแฟได้เจอกับหานเซิงเข้า เกือบจะทะเลาะกับเธอขึ้นมา"เจียงเซิงถือกาแฟเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงาน "แค่นั้นเหรอ?"เธอเม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า "ใช่""งั้นเธอทำไมหน้าแดงขนาดนี้?""นั่นเป็นเพราะว่าฉันร้อน!" เซียวเถียนเถียนโกรธขึ้นมาทันที เจียงเซิงมองท่าทางประหม่าของเธอออก จึงหรี่ตาจ้องมองเธออยู่นานต่อให้เจอกับหานเซิงแล้วทะเลาะกัน ก็ไม่ถึงกับทำให้เธอกลายเป็นแบบนี้ ท่าทางแบบนี้เห็นได้ชัดว่า...ทำเรื่องไม่ดีอะไรมา"อ่อใช่เซิงเซิง บนเฟซบุ๊กเรื่องลอกเลียนแ
"เธอ…"“ผู้ชายทุกคนชอบผู้หญิงที่อ่อนโยนและน่ารัก คนปากคอเราะรายอย่างเธอชีวิตนี้คงไม่มีคนชอบเธอหรอก”ขณะพูด เธอก็พูดเหน็บแนม "ถ้าไม่ใช่ว่าเธอเป็นลูกสาวตระกูลเซียว จะมีการแต่งงานเกี่ยวดองกันกับตระกูลลู่ที่ดีขนาดนี้เหรอ คุณชายลู่แต่งงานกับเธอซวยไปแปดชาติจริง ๆ"เซียวเถียนเถียนสีหน้าเคร่งขรึมลงทันที เธอง้างมือขึ้นจะฟาดหน้าของหานเซิงหานเซิงเงยหน้าขึ้นให้เธอตบแต่ฝ่ามือยังไม่ทันโดน ข้อมือก็ถูกคนจับเอาไว้ลู่ลี่เซินดึงเซียวเถียนเถียนไปข้างหลังแล้วมองดูเธอ "ลงมือต่อหน้าคนมากมายแบบนี้ ไม่รู้จักอายบ้างเหรอ?"ผู้คนรอบตัวพากันมองมาทางนี้ เหมือนกำลังจะรอดูฉากเด็ดอยู่ ถ้าหากเมื่อครู่เซียวเถียนเถียนตบลงไปจริง ๆ ก็จะมีคนถ่ายรูปเอาไว้และเอาเรื่องนี้ไปพูดกันแต่เซียวเถียนเถียนไม่ยอมแพ้ เธอสะบัดมือของเขาออก "นายยุ่งอะไรกับฉันด้วย""คุณชายลู่ คุณมาได้พอดีเลย คู่หมั้นของคุณร้ายกาจ เมื่อครู่ยังอยากจะตบฉันด้วย ถ้าคุณไม่ห้ามไว้ หน้าของฉันคงบวมไปแล้วหานเซิงท่าทางน่าสงสาร เธอมีความมั่นใจคิดว่าผู้ชายชอบแบบนี้กันหมด แทบอยากจะให้ลู่ลี่เซินเห็นใจเธอ สงสารเธอ และทะเลาะกับเซียวเถียนเถียนขึ้นมาแต่หานเซิง
กู้เฉินกวางยิ้มบางแต่ไม่ได้พูดอะไรหลัวเชว่มองไปที่ซือเย่เจ๋วและพูดไม่ออก นี่เห็นได้ชัดว่าถูกคุณเจียงควบคุมจนอยู่หมัดแล้ว......บริษัท Soul จิวเวลรี่สิบเจ็ดบอกว่าเจียงยี่กับผู้เฒ่าเจียงได้พาเจียงเฮงกลับเมืองจินเฉิงแล้วเงินห้าแสนกว่าบาทที่ต้ายฉิงใช้จ่ายไปตอนนี้ได้ตามกลับผ่านทางตำรวจแล้ว แต่ก็ตามกลับมาได้แค่แสนกว่าบาท แต่ต้ายฉิงถูกควบคุมการเดินทาง อยากจะหนีก็หนีไม่ได้เจียงเซิงก็ไม่ได้พูดอะไรมากมายหลังจากผ่านเรื่องนี้ไปผู้เฒ่าเจียงคงจะทำตัวดีไม่น้อย จากอายุของเธอในตอนนี้อยากจะดิ้นรนต่อไป เกรงว่าคงจะไม่มีโอกาสดิ้นรนแล้วหลายชายของตัวเองล้างผลาญครอบครัวใช้เงินสะสมของเธอจนหมด แถมยังถูกหลอก แม้แต่ลูกชายก็ยังไม่ยอมรับเธอ ตอนนี้เธอก็ไม่มีอารมณ์คิดถึงมรดกของพ่อของเธอแล้ว*อลิซลอกเลียนแบบโซรา*พาดหัวข่าวเฟซบุ๊กที่โดดเด่นบนหน้าจอทำให้เจียงเซิงที่เพิ่งดื่มน้ำแทบจะพ่นน้ำออกมาเธอลอกเลียนแบบตัวเอง?เมื่อเปิดดู ก็เป็นเรื่องประดับ*รุ่นคู่รัก*ที่เธอออกแบบคล้ายกับสไตล์การออกแบบของเธอก่อนหน้านี้ แต่ไม่รู้ว่าใครตั้งใจพูดตัดสินเรื่องนี้ว่าลอกเลียนแบบ ชาวเน็ตที่ไม่ผ่านกรองการครุ่นคิดก็เชื่อจ
กู้เฉินกวางถอดแว่นกันแดดออกแล้วใส่ไว้ในกระเป๋าตรงหน้าอก "สถานการณ์ของนายแบบนี้ คงไม่ต้องให้ฉันแนะนำตัวเองใช่ไหม?"ซือเย่เจ๋วก็มองออกว่าเขาคือใคร "อยู่ในวงการบันเทิงได้ไม่เลวเลยสินะ"กู้เฉินกวางหัวเราะเบา ๆ “คนอื่นบอกว่านายความจำเสื่อมฉันยังไม่เชื่อ”เขาเดินไปที่โซฟาแล้วนั่งลงด้วยตัวเอง หลัวเชว่รินชาให้เขาหนึ่งแก้วซือเย่เจ๋วลุกขึ้นยืนและเดินอ้อมโต๊ะทำงานไปตรงหน้าโซฟา จากนั้นก็ปลดกระดุมชุดสูทออกแล้วนั่งลง "แขกหายากสินะ มีธุระอะไรกับฉัน?""มีธุระจริง ๆ นั่นแหละ" กู้เฉินกวางยกแก้วน้ำชาขึ้น "ฉันคิดว่านายคงจะเคยรู้จักกับหานจื้อเหนียนสินะ?"ในตอนที่ซือเย่เจ๋วกำลังครุ่นคิดว่าหานจื้อเหนียนคือใคร หลัวเชว่ก็ก้มตัวชี้แนะ "ประธานหานคนนั้นเมื่อครั้งที่แล้ว"ซือเย่เจ๋วหรี่ตาลงและยิ้มอย่างมีความหมายลึกซึ้ง "ทำไม ตระกูลหานมุ่งเป้าไปที่นายเหรอ?"กู้เฉินกวางไม่ได้พูดอะไรซือเย่เจ๋วสีหน้าจริงจังขึ้นมา "ฉันว่านายก็อายุเยอะแล้ว ควรจะพิจารณาเรื่องการแต่งงานได้แล้ว?"กู้เฉินกวางวางแก้วชาลง และครุ่นคิด “เร่งให้ฉันแต่งงาน นายเป็นห่วงอะไร?”ซือเย่เจ๋วสีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อย จากนั้นกอดอกมองเขา "ตาข้าง
เจียงเซิงไม่ปฏิเสธ "ใช่ค่ะ" เธอหัวเราะเบา ๆ "รวมทั้งเงินห้าล้านบาทนั่นด้วย นั่นก็เป็นเงินที่ฉันให้ คุณก็ไม่ได้บอกคุณย่าว่าคุณมีเงินห้าล้านบาทใช่ไหม?"ผู้เฒ่าเจียงหันหน้ามองไปทางเจียงยี่เจียงยี่ไม่ได้พูดอะไร เห็นได้ชัดว่ายอมรับแล้ว"คุณไม่อยากยอมรับแม่ ไม่อยากยอมรับลูกชาย ฉันก็ไม่ก้าวก่ายคุณ ในเมื่อเงินเอาให้คุณแล้ว คุณอยากจะใช้อะไรก็เรื่องของคุณ"เจียงเซิงกอดอก สายตาเย็นชา "แน่นอนว่าถ้าหากคุณยอมเอาเงินไปใช้ในทางที่ต้อง ฉันอาจจะให้โอกาสคุณอีกครั้ง แต่น่าเสียดายที่คุณปรับเปลี่ยนตัวเองไม่ได้แล้ว เอาเงินให้คุณมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ใด ๆ"มือที่วางอยู่บนขาของเจียงยี่กำแน่นอย่างอดไม่ได้ สีหน้าก็รู้สึกอับอายผู้เฒ่าเจียงมองดูเจียงเซิง "เซิงเซิง ในเมื่อเธอยังมีชีวิตอยู่ และก็ยอมช่วยอาของเธอกับลูกพี่ลูกน้องของเธอ...""คุณย่า คุณคิดมากเกินไปหรือเปล่า?" เจียงเซิงขัดคำพูดของเธอทันที "ฉันไม่ได้ช่วยพวกเขาโดยไม่มีเหตุผลหรอกนะคะ ฉันก็แค่ช่วยให้คุณได้เห็นความโหดร้ายของโลกนี้อย่างชัดเจน"ผู้เฒ่าเจียงมองไปทางเธอด้วยความเหม่อลอยเจียงเซิงลุกขึ้นเดินไปตรงหน้าต่าง และหันข้างมองไปทางพวกเขา "เพราะว
เพิ่งจะเข้าไปในห้อง เจียงยี่ก็อยู่ด้วย เจียงยี่นั่งอยู่บนเก้าอี้ บอดี้การ์ดที่อยู่ด้านหลังวางมือบนไหล่ของเขาไม่ให้เขาหนีไปได้ตอนที่ผู้เฒ่าเจียงเห็นผู้หญิงแปลกหน้าถูกพาตัวเข้ามา และคุกเข่าลงบนพื้น ก็งุนงงไปหมด "นี่คือ..."สิบเจ็ดพูดด้วยสีหน้านิ่งเฉย "ฉิงฉิงที่หลานชายของคุณพูดถึง คุณให้เธออธิบายกับคุณเองเถอะ"ฉิงฉิง?ผู้เฒ่าเจียงสายตามองไปที่ผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง ต้ายฉิงร้องไห้แล้วคลานมาที่ข้างเตียง "คุณย่าเจียง ขอโทษนะคะ ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่ควรหลอกลวงเจียงเฮง ขอร้องพวกคุณปล่อยฉันไปเถอะค่ะ"ผู้เฒ่าเจียงนึกขึ้นได้ว่าเจียงเฮงหลานชายของเธอนำเงินก้อนนั้นให้กับผู้หญิงคนนี้ เธอก็รู้สึกโมโหขึ้นมา และผลักฉิงฉิงออก "เธอยังมีหน้ามาหาฉันอีก? เงินของหลานชายฉันล่ะ?"ต้ายฉิงถูกผลักล้มลงกับพื้น ไหล่ของเธอสั่นเทา น้ำตาไหลลงแก้ม ชั่วขณะไม่รู้ว่าควรจะพูดเรื่องเงินก้อนนั้นที่เธอใช้ไปหมดแล้วอย่างไรดี“ฉิงฉิง!”เจียงเฮงปรากฏตัวนอกประตูและเห็นต้ายฉิงนั่งอยู่บนพื้น เขาจึงรีบเดินไปประคองเธอ "คุณย่า ฉิงฉิงมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร"“แกยังจะพูดอีก?” ผู้เฒ่าเจียงหน้าเขียวหน้าดำ "นังเด็กคนนี้หลอกเอาเงินของแก เ