สายตาของซือเย่เจ๋วมองกลับไปยังหน้าจอคอมพิวเตอร์อีกครั้ง ด้านบนแสดงข้อมูลของ "อลิซ" แต่มีข้อมูลน้อยมาก แม้แต่รูปถ่ายก็ยังไม่มีในตอนนี้เอง โทรศัพท์ของเขามีข้อความส่งเข้ามา เป็นข้อความที่เดวิดเพื่อนเก่าที่ประเทศ S ส่งข้อความมา**ไม่กี่วันต่อมา "อลิซ" ลูกสาวของเฮนรี่ปฏิเสธที่จะเจอคนของลอร์ดเรเกิ้ลทำให้เกิดเป็นประเด็นร้อนคนหนึ่งคือลูกสาวของคุณเฮนรี่ผู้มีอำนาจและยศศักดิ์ได้รับความสำคัญจากราชวงศ์ประเทศ M อีกคนหนึ่งคือญาติของราชวงศ์ประเทศ S ไม่ให้เกียรติท่านลอร์ดแบบนี้หาได้น้อยมากแน่นอนว่าเธอไม่ให้เกียรติแค่ท่านลอร์ดเท่านั้น เพราะว่าราชวงศ์ต้อนรับคุณอลิซอย่างมีเกียรติ คุณอลิซก็ไม่ได้ปฏิเสธในห้องนั่งเล่นสีขาวที่สวยงามและมีความน่าเกรงขาม คนรับใช้ปรนนิบัติชงชาอยู่ที่ด้านข้างตอนนี้พระราชินีแอนนามีอายุห้าสิบกว่าปี เธอคือหลานสาวขององค์หญิงใหญ่ เป็นสายเลือดของรายวงศ์มิลเลอร์ และดวงตาสีเหลืองอำพันทำให้เจียงเซิงก็นึกถึงคนคนหนึ่งนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจียงเซิงถูกต้อนรับจากราชวงศ์ เมื่อเก้าปีก่อนตอนที่เธอยังเป็นดีไซน์เนอร์โซรา มีโชคได้รับการต้อนรับจากลูกสาวของพระราชินีแอนนา เป็นเพราะลูกสาวขอ
กลางคืน บริษัท AS กรุ๊ปจัดงานเลี้ยงใหญ่โตอลังการที่ศูนย์จัดเลี้ยงของโรงแรมเพื่อเฉลิมฉลองจุดเปลี่ยนของ ASทำไมถึงพูดว่าจุดเปลี่ยน เป็นที่รู้กันว่าบริษัท AS กรุ๊ปก่อตั้งที่ประเทศ S หกสิบปีแล้ว แต่ในช่วงหลายปีนั้นเศรษฐกิจย่ำแย่อย่างมาก หลังจากที่ประธานคนเดิมได้ประกาศล้มละลาย AS ก็กลายเป็นหัวมันหวานลวกมือที่ไม่มีใครกล้ารับการเข้าร่วมของเดวิดทำให้ AS พบทางออกในยามจนตรอก และรับตำแหน่งหุ้นส่วนที่ใหญ่ที่สุดของ AS ควบคู่กับเป็นประธาน และเดวิดตอบกลับนักข่าวถึงเหตุผลที่รับช่วง AS ก็เพราะ——ตอนที่เขาเรียนมหาวิทยาลัยเคยทำงานพาร์ทไทม์ที่ AS เขาชอบ AS มาก ไม่อยากให้ AS เดินไปจนถึงทางตันจริง ๆนี่เป็นการตอบรับที่มีชีวิตชีวาและผ่อนคลาย ไม่ว่าเป็นเรื่องจริงหรือเท็จ หลังจากที่เดวิดเข้าร่วมหุ้นรับช่วง AS ได้ไม่นาน ทำให้มูลค่าตลาดของ AS เพิ่มขึ้น 70% ในหนึ่งปี กระโดดข้ามบริษัทอันดับสองของประเทศ S กิจการเจริญรุ่งเรืองเดวิดเชิญเพื่อนจากทุกสาขาอาชีพมาเฉลิมฉลองด้วยกัน หนึ่งในบัตรเชิญที่ให้เฮนรี่ก็ได้ส่งไปยังโทรศัพท์ของเจียงเซิง เจียงเซิงจึงเป็นตัวแทนเข้าร่วมงานเลี้ยงแทนเฮนรี่ห้องโถงจัดเลี้ยงที่ยิ่งใหญ่
เมื่อเจียงเซิงพูดจบ คนที่ยืนถือกล่องสีเงินอยู่ที่ด้านหลังเดินเข้ามา จากนั้นเปิดกล่องออก ด้านในผ้าฝ้ายมีแก้วหยกเก้ามังกรชิ้นหนึ่งที่ประณีตอย่างมากวางเอาไว้อยู่ทุกคนรู้ดีว่าเฮนรี่ชอบสะสมของโบราณของฮัวเซี่ยมากที่สุด มีเงินก็ไม่สามารถซื้อได้เป็นอย่างที่คิดไว้ เดวิดดีใจอย่างมาก "ขอบคุณคุณเฮนรี่แทนผมด้วยนะครับ ของขวัญชิ้นนี้ผมชอบมากเลยครับ"เขาให้คนที่อยู่ด้านข้างเก็บเอาไว้ส่วนเจียงเซิงก็รับแก้วไวน์ที่คนด้านข้างยื่นมาให้แล้วชนแก้วกับเดวิดคนที่อยู่ด้านข้างต่างพากันแสดงความคิดเห็น มีทั้งทอดถอนใจและความสงสัย"ที่แท้เธอก็คือคุณอลิซจริง ๆ ด้วยสินะ""ทำไมเธอถึงใส่หน้ากากล่ะ กลัวว่าคนจะเห็นใบหน้าของเธอเหรอ?""คุณเฮนรี่ปกป้องเธออย่างดีมาก แม้แต่สื่อข่าวก็ยังล้วงข้อมูลของเธอไม่ได้ มาร่วมงานยังสวมหน้ากาก ลึกลับมากจริง ๆ"เจียงเซิงก็ไม่ได้สนใจความคิดเห็นเหล่านั้น จากนั้นก็เข้าสู่ประเด็นพูดคุยกับเขาเรื่องความร่วมมือโดยตรงเดวิดชะงักงัน จากนั้นก็ยิ้มขึ้นมา “คุณอลิซอยากร่วมมือกับ AS แต่น่าเสียดายที่คุณช้าไปก้าวหนึ่ง”มาช้าหนึ่งก้าว?เป็นไปได้ยังไง!เธอมาทันก่อนหน้าเรเจลแล้วมือที่จับก้าน
"คุณหนู!" สิบเจ็ดอุทาน"ขอโทษ ขอโทษ!" บริกรคนนั้นก้มตัวขอโทษอย่างหวาดกลัวเจียงเซิงหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดอย่างคล่องแคล่ว จากนั้นยิ้มแล้วพูด "ไม่เป็นไรค่ะ คุณไปทำงานเถอะค่ะ"ซือเย่เจ๋วมองดูเธอ "ผมให้คนเตรียมชุดราตรีไว้ชุดหนึ่ง น่าจะเหมาะสมกับคุณอลิซมาก ในเมื่องานเลี้ยงยังไม่จบสิ้น"เหมือนดูออกว่าเธออยากจะออกจากงานกลางคัน และคำพูดที่ว่างานเลี้ยงยังไม่จบ เห็นได้ชัดว่าต้องการเอ่ยปากยื้อเธอเอาไว้เดวิดยิ้มพูด "จริงด้วยครับ คุณอลิซมาร่วมงานเลี้ยงของผม จะสวมใส่เสื้อผ้าที่มีคราบเหล้าหกใส่ก็ไม่ได้ แบบนี้จะทำให้คนพูดว่าผมต้อนรับได้ไม่ดีนะครับ"เจียงเซิงเงยหน้าขึ้น และยอมรับอย่างเต็มใจ "งั้นก็รบกวนคุณซือแล้วค่ะ"ในตอนที่เจียงเซิงไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องรับรองก็ได้ให้สิบเจ็ดไปเป็นเพื่อน เพราะเธอรู้ว่าสิบเจ็ดไม่มีทางให้ใครเข้าใกล้ตัวเธอได้อย่างแน่นอนสิบเจ็ดยืนรออยู่หน้าประตู รับเสื้อผ้าที่คนของซือเย่เจ๋วนำมาให้จากนั้นเอามาให้เจียงเซิงเจียงเซิงปิดประตู ถอดเสื้อสูทของเธอออก และถอดหมุดกระดุมทับทิมออก เมื่อนึกถึงว่าซือเย่เจ๋วนั่งรถเข็น ก็นึกถึงที่คุณลุงเรเวียร์พูดว่าเขาป่วยหนัก ในดวงตาเผยค
เขายิ้มขึ้นมาอีก ดวงตาลึกซึ้งพูดขึ้น "ถ้าหากคุณไม่อยากเจอผม คุณไม่ออกมาจากในห้องก็ได้นี่"เธอออกมา ก็แสดงว่าเธออยากเจองานเลี้ยงของเดวิดในครั้งนี้ พูดได้ว่าระบบการรักษาความปลอดภัยเข้มงวดมาก ยิ่งกว่านั้นเธอคือลูกสาวของเฮนรี่ ใครจะกล้าแตะต้องเธอได้ง่าย ๆ?แน่นอนว่าเขากล้าแถมยังทำอย่างโจ่งแจ้งเจียงเซิงหัวใจสั่นไหว ตอนนั้นเธอรู้ว่าไฟดับเพราะมีคนตั้งใจดำ และก็พอจะเดาได้......เธอหัวเราะหึหึ “ท่านเจ๋วยังคงไร้ยางอายไม่ต่างจากเมื่อก่อนเลยนะคะ”ซือเย่เจ๋วไม่ตอบกลับ ถือเป็นการยอมรับและเจียงเซิงก็ไม่อยากยืดเยื้อกับเขาอีกต่อไป เธอจึงพูดกับสิบเจ็ด "พวกเราลงไปกันเถอะ"สิบเจ็ดพยักหน้า และเหลือบมองซือเย่เจ๋ว จากนั้นก็ตามหลังเจียงเซิงไปติด ๆแต่ทันใดนั้นก็มีเสียงทุ้มต่ำดังขึ้นมาจากด้านหลัง "คุณต้องการร่วมมือกับเดวิด ไม่สู้ร่วมมือกับผม"เธอฝีเท้าหยุดชะงักซือเย่เจ๋วเดินตามขึ้นมาและยืนอยู่ข้างเธอ "เพื่อตระกูลกุง คุณต้องยินยอมอยู่แล้ว"พูดจบ เขาก้าวเท้าเดินออกไปก่อนหมัดที่กำแน่นของเจียงเซิงค่อย ๆ คลายออก ริมฝีปากยังทิ้งอุณหภูมิของเขาเอาไว้ และยังมีลมหายใจของเขาผู้ชายที่จากกันนับพันวันแ
ซือเย่เจ๋วนั่งอยู่ในห้องหนังสือที่มีแสงสลัว ๆ กำลังนวดหัวคิ้วอยู่ จนกระทั่ง หลัวเชว่ถือน้ำอุ่นหนึ่งแก้วเข้ามาในห้องหนังสือหลายปีมานี้ ซือเย่เจ๋วพึ่งพายานอนหลับมาตลอดถึงจะเข้านอนได้“ท่านเจ๋ว ต้องการให้ผมไปสืบเรื่องของคุณเจียงอีกไหมครับ?”รวมถึงเธอไปมีความเกี่ยวข้องกับเฮนรี่ได้อย่างไรกันแน่ และยังมีผลการตรวจดีเอ็นเอฉบับนั้นซือเย่เจ๋วดวงตามืดสลัว "ไม่ต้อง ความสัมพันธ์ของเธอกับองค์กรต้าตูฉันพอจะเดาได้แล้ว"ตอนนั้นทำไมเรเวียร์ถึงได้รับใช้แม่ของเธอ ถึงขั้นที่ปกป้องเจียงเซิงถึงขนาดนี้ มันชัดเจนเป็นอย่างมากเขาหยิบกล่องยาขึ้นมาแล้วเทยาออกมาหนึ่งเม็ด แต่กลับไม่ทานเข้าไปสักทีหลัวเชว่มองดูเขา "เมื่อคุณเจียงไปถึงประเทศ S ก็ยั่วยุเรเจลอย่างเปิดเผย คืนนี้ปรากฏตัวที่งานเลี้ยงของเดวิด คิดว่าอยากจะดึงเดวิดไปเป็นพวก"ซือเย่เจ๋วเผยรอยยิ้มที่มุมปากขึ้นมาเล็กน้อย "แต่พวกเขาคิดไม่ถึงอย่างแน่นอนว่า ฉันได้ดึงเดวิดมาก่อนแล้ว"ไม่เพียงเรเจลคิดไม่ถึง เฮนรี่ก็คงจะคิดไม่ถึงเหมือนกันสินะเขาให้โอกาสเซิงเซิงมาที่ประเทศ S คิดว่าต้องมีการเตรียมตัวไว้ตั้งนานแล้ว นี่ก็เป็นเหตุว่าทำไมเธอถึงกล้าแย่งชิงถิ่นฐา
เธอให้บอดี้การ์ดสองคนรออยู่ข้างนอก และเดินเข้าไปในคฤหาสน์กับสิบเจ็ด หลัวเชว่กำลังรอเธออยู่ "คุณมาแล้วเหรอครับ"เขามองสิบเจ็ดแล้วพูดขึ้นอีก "ท่านเจ๋วให้คุณเข้าไปเพียงคนเดียว"เจียงเซิงฝ่าเท้าหยุดชะงัก จากนั้นมองไปทางสิบเจ็ด "เธอรอฉันอยู่ตรงนี้เถอะ ฉันไม่เป็นไร"สิบเจ็ดลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่ไม่ได้ตอบโต้อะไร จากนั้นมองดูเจียงเซิงเดินเข้าไปข้างในหลัวเชว่จ้องมองเธอ จู่ ๆ ก็ยิ้มออกมา "ได้ยินว่าคุณสิบเจ็ดฝีมือไม่เลวเลย ไม่ทราบว่ามีเวลาว่างประชันกันไหม?"สิบเจ็ดเหลือบมองเขาโดยไม่ขมวดคิ้ว และไม่พิจารณา "เว้นเสียแต่ว่าคุณอยากตาย"หลัวเชว่"..."เจียงเซิงเดินเข้าไปในห้องหนังสือ ชายหนุ่มยืนอยู่ตรงหน้าหน้าต่างหันหลังให้เธอ บนตัวสวมใส่เสื้อเชิ้ต ทั้ง ๆ ที่ยังเป็นแผ่นหลังที่ทำให้คนรู้สึกอุ่นใจขนาดนั้นในอดีต แต่ไม่รู้ว่าทำไมกลับมีความโดดเดี่ยวเล็กน้อยเขารู้สึกถึงเธอที่ยืนอยู่ด้านหลังได้ตั้งนานแล้ว ซือเย่เจ๋วน้ำเสียงเรียบเฉย "สามปีมานี้คุณใช้ชีวิตได้ดีไหม"เจียงเซิงกอดอกและตอบอย่างชัดเจน "ท่านเจ๋วให้ฉันมาเพื่อหารือเกี่ยวกับความร่วมมือ แต่กลับถามฉันเกี่ยวกับเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับความร่วมมือ
ซือเย่เจ๋วยิ้มบาง รอยยิ้มมีความหงอยเหงาเล็กน้อย จากนั้นข่มเสียงทุ้มต่ำ "ผมกลัวว่าได้พบคุณแล้วจะควบคุมไม่อยู่ ก็เหมือนกับเมื่อคืนผมพบกับคุณอยู่ดี"เขาขยับเข้าใกล้เธอ ทำให้เธอไม่มีทางถอย "เซิงเซิง ถ้าหากคุณไม่ปรากฏตัว ผมจะควบคุมตัวเองไม่ให้คิดถึงคุณได้ แต่สุดท้ายคุณก็ยังปรากฏตัวขึ้น"ความอดกลั้น การควบคุมสามปีมานี้ ก็เป็นเพียงแค่การบังคับตัวเองไม่ให้คิด แต่เขาโกหกทุกคนได้ กลับโกหกตัวเองไม่ได้มือที่กำแน่นของเจียงเซิงค่อย ๆ คลายออก ขนตายาวที่ปิดตาของเธอปิดบังอารมณ์เล็กน้อยในดวงตาของเธอ ผ่านไปครู่หนึ่ง เธอก็ดึงมือกลับ "พวกเรามาคุยเรื่องความร่วมมือกันก่อนเถอะ"ซือเย่เจ๋วลดสายตาลงแล้วหัวเราะแห้ง ๆ จากนั้นเดินไปตรงหน้าโต๊ะหยิบเอกสารขึ้นมาชุดหนึ่ง "นี่คือรายชื่อของผู้คัดเลือก เดวิดให้ผมมา"เจียงเซิงตกตะลึง “ทำไมเขาถึงให้สิ่งนี้กับคุณ?”บางทีอาจมีแค่ตอนที่คุยเรื่องเป็นทางการ เธอก็จะเหมือนกับในอดีต ต่อให้เป็นแบบนี้ เขาก็พึงพอใจมากแล้วเขาเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ และยื่นเอกสารให้เธอ "เพราะเรื่องที่เขาเป็นกังวล ก็เป็นเรื่องที่พวกเรากังวล"เจียงเซิงรับเอกสารไปแล้วตรวจดู บนตารางมีสิบกว่ารายช
*ถูกลูกเล่นของ Soul จิวเวลรี่ทำให้อ้วกแล้ว*แฟรงค์มองดูเธอ "เซิงเซิง จำนวนยอดขายของ Soul จิวเวลรี่ในวันนี้ลดลงอีกสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว บริษัทได้รับสายโทรศัพท์เพื่อสละออเดอร์และคืนเงินหลายออเดอร์แล้วดวงตาของเจียงเซิงขยับเขยื้อน "ดูท่าพวกเขาอยากจะบีบบังคับให้ฉันยอมจำนนสินะ""งั้นคุณวางแผนจะทำอย่างไร?" แฟรงค์รู้ว่าเธอไม่เปิดเผยตัวตนเพราะมีเหตุผลของเธอ ถ้าหากมีวิธีอื่นก็จะดีอย่างมากเจียงเซิงยื่นแท็บเล็ตไปให้เขา และหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา "ทางด้านผิ่นเก๋อยืนยันเป็นมั่นว่าฉันลอกเลียนแบบทั้ง Soul จิวเวลรี่ ถึงเวลาที่ฉันควรจะตอบโต้แล้ว"ในขณะที่กระแส "การลอกเลียนแบบ" บนอินเทอร์เน็ตกำลังโด่งดัง คำค้นหายอดนิยมของเฟซบุ๊กก็มีเพิ่มขึ้นมาหนึ่งประเด็น*ผิ่นเก๋อของปลอม*ผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่ถูกเปิดเผยออกมาว่าแอบลดวัสดุและขั้นตอนการก่อสร้าง ขายเครื่องประดับปลอมในราคาสูงและหลอกลวงลูกค้า และสร้างข่าวลือเรื่องที่โซราเสียชีวิต แม้กระทั่งข่าวลือที่เจ้าของผิ่นเก๋อมอมเหล้าเด็กสาวในคลับเฮ้าส์ก็ถูกเปิดโปงจนหมดเปลือกการเปิดเผยอย่างต่อเนื่องนี้ ทำให้เหตุการณ์ของ Soul จิวเวลรี่ถูกดันลงไปทันที เพียงแค่เรื่องที่
"ทำไม่ได้" ซือเย่เจ๋วเสียงทุ้มต่ำ จากนั้นจูบเธออย่างแรง และยิ่งอยู่ยิ่งรุนแรงขึ้นอาจเป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง เมื่อคืนฝนตกหนักทำให้อุณหภูมิเปลี่ยนไปหนาวเย็นกะทันหัน ใบไม้สีเหลืองที่แห้งเหี่ยวปกคลุมบนพื้น สัมผัสกับแอ่งน้ำเจียงเซิงกับซือเย่เจ๋วเพิ่งไปส่งเจ้าตัวเล็กทั้งสองคนที่โรงเรียนประถมเอกชน จากนั้นตอนที่เดินทางไปส่งเจียงเซิงที่ Soul จิวเวลรี่ เจียงเซิงง่วงจนพิงร่างกายของเขาแล้วงีบหลับซือเย่เจ๋วหันหน้าไปจ้องมองเธอ จากนั้นก็ยกมือขึ้นรวบไรผมที่อยู่ตรงหน้าผากของเธอ "ยังง่วงเหรอ?""อืม"เจียงเซิงบ่นอย่างซื่อตรง "โทษคุณเลย"เขายิ้ม จากนั้นก็มก้มตัวมาที่ข้างหูของเธอ "หรือว่าไม่ใช่ความผิดของคุณเหรอ?"เจียงเซิงเงยหน้าขึ้นและวางคางบนไหล่เพื่อมองดูเขา "ไม่ได้ให้คุณทำสองยกทั้งคืนสักหน่อย"ซือเย่เจ๋วที่สูญเสียความทรงจำไม่เพียงควบคุมอารมณ์ไม่ได้ แถมยังมีกำลังวังชาเต็มเปี่ยม เกือบพรากชีวิตแก่ ๆ ของเธอซือเย่เจ๋วไม่ได้พูดอะไร แต่ในใจกลับรู้สึกพึ่งพอใจอย่างมากในตอนนี้โทรศัพท์ของเจียงเซิงดังขึ้น คุณอาแฟรงค์โทรมาหาเธอแต่เช้าเกรงว่าต้องมีเรื่องใหญ่แน่นอนเธอรับสาย "คุณอาแฟรงค์?""เซิงเซิง
แต่ชาวเน็ตส่วนใหญ่คิดว่านี่ไม่ใช่การลอกเลียนแบบ ต่อให้สไตล์เหมือนกันแต่ยังมีจุดเด่นอื่นอีก สถานการณ์แบบนี้ไม่สามารถจำกัดความว่าเป็นการลอกเลียนแบบได้ ขอถามกลับว่าคนที่พูดว่าลอกเลียนแบบมีสิทธิอะไรคิดว่าคนเขาจะต้องลอกเลียนแบบแน่นอนน่าจะเป็นเพราะผู้บริหารของผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่เห็นว่านี่ไม่เพียงไม่ได้กดหัวคนอื่น แต่กลับเป็นวิธีที่ "ใจร้อนอยากประสบความสำเร็จแต่กลับทำให้เสียการ" จึงอยากเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมออกแต่คิดไม่ถึงว่า พวกเขาไม่สามารถเพิกถอนได้ เพราะว่ามีคนทุ่มเงินจำนวนมากซื้อคำค้นหายอดนิยมนี้ ผิ่นเก๋อของพวกเขาออกเงินสองเท่า ฝ่ายตรงข้ามก็ออกเงินสี่เท่า ตอนนี้เล่นเกมทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมแล้วเจียงเซิงนั่งดูหน้าแชทเฟซบุ๊กอยู่ตรงหน้าคอมพิวเตอร์ แฟรงค์เดินเข้ามา "เซิงเซิง ผิ่นเก๋อยอมแพ้การเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมแล้ว ดูท่าว่าจะทุ่มเงินไม่ไหวแล้ว"เจียงเซิงหรี่ตาลง "พวกเขาทำใจทุ่มเงินไม่ได้ แต่น่าจะมีวิธีอื่นอีก"ทางด้านเจียงเซิงทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมกับผิ่นเก๋อ ทางด้านซือเย่เจ๋วก็ทุ่มเงินล้มธุรกิจของหานซื่อกรุ๊ป หลัวเชว่มองดูจนตกตะลึงตาค้าง สามีภรรยาคู่นี้ตอนนี้เป็นคนโง่ที่เงินเ
เซียวเถียนเถียนใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา เธอตกใจจนถอยหลังไปสองสามก้าว จากนั้นก็หันหลังวิ่งหนีไปเมื่อมาถึงนอกห้องทำงานของเจียงเซิง คนทั้งคนยังคงอยู่ในสภาพเครื่องรวน เมื่อเข้าไปข้างในก็ทรุดนั่งลงบนโซฟา ขาก็อ่อนแรงไปหมดเจียงเซิงเดินออกมาจากห้องทำงาน เห็นท่าทางเหม่อลอยของเซียวเถียนเถียน ก็ยิ้มบาง "เกิดอะไรขึ้น?"เซียวเถียนเถียนลุกนั่งทันที และวางกาแฟบนโต๊ะทำงานของเธอ "ซื้อ...ซื้อมาให้เธอ"เจียงเซิงเดินไปตรงหน้าโต๊ะแล้วหยิบกาแฟขึ้นมา เห็นเธอพูดจาติดขัดจึงถามขึ้น "เจอเรื่องอะไรมา ทำไมถึงตกใจขนาดนี้?""ก็...ก็ไม่ได้เจอเรื่องอะไร ก็แค่ระหว่างทางที่ซื้อกาแฟได้เจอกับหานเซิงเข้า เกือบจะทะเลาะกับเธอขึ้นมา"เจียงเซิงถือกาแฟเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงาน "แค่นั้นเหรอ?"เธอเม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า "ใช่""งั้นเธอทำไมหน้าแดงขนาดนี้?""นั่นเป็นเพราะว่าฉันร้อน!" เซียวเถียนเถียนโกรธขึ้นมาทันที เจียงเซิงมองท่าทางประหม่าของเธอออก จึงหรี่ตาจ้องมองเธออยู่นานต่อให้เจอกับหานเซิงแล้วทะเลาะกัน ก็ไม่ถึงกับทำให้เธอกลายเป็นแบบนี้ ท่าทางแบบนี้เห็นได้ชัดว่า...ทำเรื่องไม่ดีอะไรมา"อ่อใช่เซิงเซิง บนเฟซบุ๊กเรื่องลอกเลียนแ
"เธอ…"“ผู้ชายทุกคนชอบผู้หญิงที่อ่อนโยนและน่ารัก คนปากคอเราะรายอย่างเธอชีวิตนี้คงไม่มีคนชอบเธอหรอก”ขณะพูด เธอก็พูดเหน็บแนม "ถ้าไม่ใช่ว่าเธอเป็นลูกสาวตระกูลเซียว จะมีการแต่งงานเกี่ยวดองกันกับตระกูลลู่ที่ดีขนาดนี้เหรอ คุณชายลู่แต่งงานกับเธอซวยไปแปดชาติจริง ๆ"เซียวเถียนเถียนสีหน้าเคร่งขรึมลงทันที เธอง้างมือขึ้นจะฟาดหน้าของหานเซิงหานเซิงเงยหน้าขึ้นให้เธอตบแต่ฝ่ามือยังไม่ทันโดน ข้อมือก็ถูกคนจับเอาไว้ลู่ลี่เซินดึงเซียวเถียนเถียนไปข้างหลังแล้วมองดูเธอ "ลงมือต่อหน้าคนมากมายแบบนี้ ไม่รู้จักอายบ้างเหรอ?"ผู้คนรอบตัวพากันมองมาทางนี้ เหมือนกำลังจะรอดูฉากเด็ดอยู่ ถ้าหากเมื่อครู่เซียวเถียนเถียนตบลงไปจริง ๆ ก็จะมีคนถ่ายรูปเอาไว้และเอาเรื่องนี้ไปพูดกันแต่เซียวเถียนเถียนไม่ยอมแพ้ เธอสะบัดมือของเขาออก "นายยุ่งอะไรกับฉันด้วย""คุณชายลู่ คุณมาได้พอดีเลย คู่หมั้นของคุณร้ายกาจ เมื่อครู่ยังอยากจะตบฉันด้วย ถ้าคุณไม่ห้ามไว้ หน้าของฉันคงบวมไปแล้วหานเซิงท่าทางน่าสงสาร เธอมีความมั่นใจคิดว่าผู้ชายชอบแบบนี้กันหมด แทบอยากจะให้ลู่ลี่เซินเห็นใจเธอ สงสารเธอ และทะเลาะกับเซียวเถียนเถียนขึ้นมาแต่หานเซิง
กู้เฉินกวางยิ้มบางแต่ไม่ได้พูดอะไรหลัวเชว่มองไปที่ซือเย่เจ๋วและพูดไม่ออก นี่เห็นได้ชัดว่าถูกคุณเจียงควบคุมจนอยู่หมัดแล้ว......บริษัท Soul จิวเวลรี่สิบเจ็ดบอกว่าเจียงยี่กับผู้เฒ่าเจียงได้พาเจียงเฮงกลับเมืองจินเฉิงแล้วเงินห้าแสนกว่าบาทที่ต้ายฉิงใช้จ่ายไปตอนนี้ได้ตามกลับผ่านทางตำรวจแล้ว แต่ก็ตามกลับมาได้แค่แสนกว่าบาท แต่ต้ายฉิงถูกควบคุมการเดินทาง อยากจะหนีก็หนีไม่ได้เจียงเซิงก็ไม่ได้พูดอะไรมากมายหลังจากผ่านเรื่องนี้ไปผู้เฒ่าเจียงคงจะทำตัวดีไม่น้อย จากอายุของเธอในตอนนี้อยากจะดิ้นรนต่อไป เกรงว่าคงจะไม่มีโอกาสดิ้นรนแล้วหลายชายของตัวเองล้างผลาญครอบครัวใช้เงินสะสมของเธอจนหมด แถมยังถูกหลอก แม้แต่ลูกชายก็ยังไม่ยอมรับเธอ ตอนนี้เธอก็ไม่มีอารมณ์คิดถึงมรดกของพ่อของเธอแล้ว*อลิซลอกเลียนแบบโซรา*พาดหัวข่าวเฟซบุ๊กที่โดดเด่นบนหน้าจอทำให้เจียงเซิงที่เพิ่งดื่มน้ำแทบจะพ่นน้ำออกมาเธอลอกเลียนแบบตัวเอง?เมื่อเปิดดู ก็เป็นเรื่องประดับ*รุ่นคู่รัก*ที่เธอออกแบบคล้ายกับสไตล์การออกแบบของเธอก่อนหน้านี้ แต่ไม่รู้ว่าใครตั้งใจพูดตัดสินเรื่องนี้ว่าลอกเลียนแบบ ชาวเน็ตที่ไม่ผ่านกรองการครุ่นคิดก็เชื่อจ
กู้เฉินกวางถอดแว่นกันแดดออกแล้วใส่ไว้ในกระเป๋าตรงหน้าอก "สถานการณ์ของนายแบบนี้ คงไม่ต้องให้ฉันแนะนำตัวเองใช่ไหม?"ซือเย่เจ๋วก็มองออกว่าเขาคือใคร "อยู่ในวงการบันเทิงได้ไม่เลวเลยสินะ"กู้เฉินกวางหัวเราะเบา ๆ “คนอื่นบอกว่านายความจำเสื่อมฉันยังไม่เชื่อ”เขาเดินไปที่โซฟาแล้วนั่งลงด้วยตัวเอง หลัวเชว่รินชาให้เขาหนึ่งแก้วซือเย่เจ๋วลุกขึ้นยืนและเดินอ้อมโต๊ะทำงานไปตรงหน้าโซฟา จากนั้นก็ปลดกระดุมชุดสูทออกแล้วนั่งลง "แขกหายากสินะ มีธุระอะไรกับฉัน?""มีธุระจริง ๆ นั่นแหละ" กู้เฉินกวางยกแก้วน้ำชาขึ้น "ฉันคิดว่านายคงจะเคยรู้จักกับหานจื้อเหนียนสินะ?"ในตอนที่ซือเย่เจ๋วกำลังครุ่นคิดว่าหานจื้อเหนียนคือใคร หลัวเชว่ก็ก้มตัวชี้แนะ "ประธานหานคนนั้นเมื่อครั้งที่แล้ว"ซือเย่เจ๋วหรี่ตาลงและยิ้มอย่างมีความหมายลึกซึ้ง "ทำไม ตระกูลหานมุ่งเป้าไปที่นายเหรอ?"กู้เฉินกวางไม่ได้พูดอะไรซือเย่เจ๋วสีหน้าจริงจังขึ้นมา "ฉันว่านายก็อายุเยอะแล้ว ควรจะพิจารณาเรื่องการแต่งงานได้แล้ว?"กู้เฉินกวางวางแก้วชาลง และครุ่นคิด “เร่งให้ฉันแต่งงาน นายเป็นห่วงอะไร?”ซือเย่เจ๋วสีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อย จากนั้นกอดอกมองเขา "ตาข้าง
เจียงเซิงไม่ปฏิเสธ "ใช่ค่ะ" เธอหัวเราะเบา ๆ "รวมทั้งเงินห้าล้านบาทนั่นด้วย นั่นก็เป็นเงินที่ฉันให้ คุณก็ไม่ได้บอกคุณย่าว่าคุณมีเงินห้าล้านบาทใช่ไหม?"ผู้เฒ่าเจียงหันหน้ามองไปทางเจียงยี่เจียงยี่ไม่ได้พูดอะไร เห็นได้ชัดว่ายอมรับแล้ว"คุณไม่อยากยอมรับแม่ ไม่อยากยอมรับลูกชาย ฉันก็ไม่ก้าวก่ายคุณ ในเมื่อเงินเอาให้คุณแล้ว คุณอยากจะใช้อะไรก็เรื่องของคุณ"เจียงเซิงกอดอก สายตาเย็นชา "แน่นอนว่าถ้าหากคุณยอมเอาเงินไปใช้ในทางที่ต้อง ฉันอาจจะให้โอกาสคุณอีกครั้ง แต่น่าเสียดายที่คุณปรับเปลี่ยนตัวเองไม่ได้แล้ว เอาเงินให้คุณมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ใด ๆ"มือที่วางอยู่บนขาของเจียงยี่กำแน่นอย่างอดไม่ได้ สีหน้าก็รู้สึกอับอายผู้เฒ่าเจียงมองดูเจียงเซิง "เซิงเซิง ในเมื่อเธอยังมีชีวิตอยู่ และก็ยอมช่วยอาของเธอกับลูกพี่ลูกน้องของเธอ...""คุณย่า คุณคิดมากเกินไปหรือเปล่า?" เจียงเซิงขัดคำพูดของเธอทันที "ฉันไม่ได้ช่วยพวกเขาโดยไม่มีเหตุผลหรอกนะคะ ฉันก็แค่ช่วยให้คุณได้เห็นความโหดร้ายของโลกนี้อย่างชัดเจน"ผู้เฒ่าเจียงมองไปทางเธอด้วยความเหม่อลอยเจียงเซิงลุกขึ้นเดินไปตรงหน้าต่าง และหันข้างมองไปทางพวกเขา "เพราะว
เพิ่งจะเข้าไปในห้อง เจียงยี่ก็อยู่ด้วย เจียงยี่นั่งอยู่บนเก้าอี้ บอดี้การ์ดที่อยู่ด้านหลังวางมือบนไหล่ของเขาไม่ให้เขาหนีไปได้ตอนที่ผู้เฒ่าเจียงเห็นผู้หญิงแปลกหน้าถูกพาตัวเข้ามา และคุกเข่าลงบนพื้น ก็งุนงงไปหมด "นี่คือ..."สิบเจ็ดพูดด้วยสีหน้านิ่งเฉย "ฉิงฉิงที่หลานชายของคุณพูดถึง คุณให้เธออธิบายกับคุณเองเถอะ"ฉิงฉิง?ผู้เฒ่าเจียงสายตามองไปที่ผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง ต้ายฉิงร้องไห้แล้วคลานมาที่ข้างเตียง "คุณย่าเจียง ขอโทษนะคะ ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่ควรหลอกลวงเจียงเฮง ขอร้องพวกคุณปล่อยฉันไปเถอะค่ะ"ผู้เฒ่าเจียงนึกขึ้นได้ว่าเจียงเฮงหลานชายของเธอนำเงินก้อนนั้นให้กับผู้หญิงคนนี้ เธอก็รู้สึกโมโหขึ้นมา และผลักฉิงฉิงออก "เธอยังมีหน้ามาหาฉันอีก? เงินของหลานชายฉันล่ะ?"ต้ายฉิงถูกผลักล้มลงกับพื้น ไหล่ของเธอสั่นเทา น้ำตาไหลลงแก้ม ชั่วขณะไม่รู้ว่าควรจะพูดเรื่องเงินก้อนนั้นที่เธอใช้ไปหมดแล้วอย่างไรดี“ฉิงฉิง!”เจียงเฮงปรากฏตัวนอกประตูและเห็นต้ายฉิงนั่งอยู่บนพื้น เขาจึงรีบเดินไปประคองเธอ "คุณย่า ฉิงฉิงมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร"“แกยังจะพูดอีก?” ผู้เฒ่าเจียงหน้าเขียวหน้าดำ "นังเด็กคนนี้หลอกเอาเงินของแก เ