ซือเย่เจ๋วยิ้มบาง รอยยิ้มมีความหงอยเหงาเล็กน้อย จากนั้นข่มเสียงทุ้มต่ำ "ผมกลัวว่าได้พบคุณแล้วจะควบคุมไม่อยู่ ก็เหมือนกับเมื่อคืนผมพบกับคุณอยู่ดี"เขาขยับเข้าใกล้เธอ ทำให้เธอไม่มีทางถอย "เซิงเซิง ถ้าหากคุณไม่ปรากฏตัว ผมจะควบคุมตัวเองไม่ให้คิดถึงคุณได้ แต่สุดท้ายคุณก็ยังปรากฏตัวขึ้น"ความอดกลั้น การควบคุมสามปีมานี้ ก็เป็นเพียงแค่การบังคับตัวเองไม่ให้คิด แต่เขาโกหกทุกคนได้ กลับโกหกตัวเองไม่ได้มือที่กำแน่นของเจียงเซิงค่อย ๆ คลายออก ขนตายาวที่ปิดตาของเธอปิดบังอารมณ์เล็กน้อยในดวงตาของเธอ ผ่านไปครู่หนึ่ง เธอก็ดึงมือกลับ "พวกเรามาคุยเรื่องความร่วมมือกันก่อนเถอะ"ซือเย่เจ๋วลดสายตาลงแล้วหัวเราะแห้ง ๆ จากนั้นเดินไปตรงหน้าโต๊ะหยิบเอกสารขึ้นมาชุดหนึ่ง "นี่คือรายชื่อของผู้คัดเลือก เดวิดให้ผมมา"เจียงเซิงตกตะลึง “ทำไมเขาถึงให้สิ่งนี้กับคุณ?”บางทีอาจมีแค่ตอนที่คุยเรื่องเป็นทางการ เธอก็จะเหมือนกับในอดีต ต่อให้เป็นแบบนี้ เขาก็พึงพอใจมากแล้วเขาเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ และยื่นเอกสารให้เธอ "เพราะเรื่องที่เขาเป็นกังวล ก็เป็นเรื่องที่พวกเรากังวล"เจียงเซิงรับเอกสารไปแล้วตรวจดู บนตารางมีสิบกว่ารายช
เขากล้าเดิมพันจริง ๆ เหรอ?แต่เขาก็เดิมพันได้ถูกต้องแล้วเธอน่ะ ทำใจให้สิบเจ็ดทำร้ายเขาไม่ได้จริง ๆ ถ้าหากเธอพูดว่าการตามตื๊อของซือเย่เจ๋วคือความไม่เจียมตัว งั้นตัวเธอล่ะ?อยากปล่อย แต่กลับไม่ยอมปล่อย ก็ไม่เจียมตัวเหมือนกันไม่ใช่เหรอ?คนที่อยู่ด้านหลังกลับหัวเราะเบา ๆ "ผมไม่ได้เชื่อมั่นตัวเอง แต่ผมเชื่อคุณ"เขายื่นมือออกไป และจับมือของเธอเอาไว้ นิ้วมือที่ข้อนิ้วชัดเจนสอดเข้าไปในร่องนิ้วกับเธอแล้วรัดแน่น เขาพูดเสียงต่ำ "เซิงเซิง ขอโทษ"น้ำเสียงของเขาแฝงไปด้วยความรู้สึกผิด ความเสียดาย และก็แฝงไปด้วยความระมัดระวังสามปีที่แล้ว ถ้าหากเขาไม่ยึดมั่นที่จะให้เธอหย่าร้างกับเขา บางทีอาจจะไม่เกิดอุบัติเหตุในครั้งนั้น“ขอโทษแล้วมีประโยชน์ไหม?”เจียงเซิงสายตามืดสลัว จากนั้นยิ้มเยาะตัวเองขึ้นมา เธอดึงมือออกและลุกออกจากอ้อมกอดของเขาเดินไปที่ด้านข้าง โดยที่ไม่ได้มองเขา "คุณพ่อเสียชีวิตแล้ว หลัวหยิงก็เสียชีวิตแล้ว ลูกก็ไม่อยู่แล้ว ถ้าหากวันนั้นฉันไม่ได้อยู่ท่ามกลางฝน......""ลูกอะไร?" ซือเย่เจ๋วกลืนน้ำลาย ดวงตาสีเหลืองอำพันเผยอารมณ์ซับซ้อนและตกตะลึงผ่านไปอย่างรวดเร็วเจียงเซิงอ้าปาก แต่ไม่ได
ซือเย่เจ๋วมองดูเขาอยู่นานมาก จากนั้นยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย เปลี่ยนไปพูดเยาะหยันเล็กน้อย "เสียแรงเปล่าที่นายติดตามอยู่ข้างกายฉันนานขนาดนี้ นายกลับร่วมมือกับคุณปู่ปิดบังฉัน"อันที่จริงเขารับรู้ เรื่องที่ประกาศการหย่าร้างของพวกเขาเป็นฝีมือของคุณปู่ ตอนที่เขาไม่ได้สติ เรื่องที่บีบบังคับเจียงเซิงให้เซ็นชื่อก็เป็นคุณปู่ที่ใช้ให้หลัวเชว่ไปทำเขารู้ว่าหลัวเชว่ไม่มีทางปิดบังเขา ถ้าหากไม่มีคำสั่งของคุณปู่เขาจะกล้าได้อย่างไร?แต่เรื่องใหญ่แบบนี้ เขากลับช่วยคุณปู่ปิดบังตัวเองเอาไว้!"ท่านเจ๋ว อันที่จริงท่านผู้เฒ่าหวังดีกับคุณ......""ทำเพื่อฉัน?" ซือเย่เจ๋วยิ้มเยาะ จากนั้นก็เปลี่ยนไปเย้ยหยันตัวเอง "ฉันทำให้เธอเสียลูกไป ที่บอกว่าคุณปู่หวังดีกับฉัน แต่กลับทำให้ชีวิตนี้ของฉันต้องติดค้างเธอ และติดค้างลูก"ลูกที่ไม่ได้เกิดออกมา สามปีที่ผ่านมาเขาไม่รู้ว่ายังมีลูก เขาควรจะชดเชยเซิงเซิงอย่างไร ควรจะเผชิญกับความจริงนี้อย่างไร?"แค่กแค่ก......" อาจเป็นเพราะอารมณ์แปรปรวนมากเกินไป ซือเย่เจ๋วไอออกมาเป็นเลือดอย่างรุนแรงหลัวเชว่สีหน้าเปลี่ยนไป "ท่านเจ๋ว!"......ภายในรถ สิบเจ็ดขับรถอยู่ข้างหน้า เหลือบมอ
หากคุณเต็มใจยอมรับ ท่านลอร์ดก็จะปฏิบัติต่อคุณอย่างดี ถึงขั้นที่สามารถนำผลประโยชน์ที่มากมายมาให้คุณได้"คำพูดนี้ของชอร์นเหมือนว่าจะพัวพันไปถึงผลประโยชน์และมิตรภาพระหว่างราชวงศ์ทั้งสองประเทศ ความเป็นจริงก็แค่อยากจะบอกกับเธอว่า องค์กรต้าตูของพวกเขาไม่มีสิทธิ์เข้าแทรกเรื่องของประเทศ Sเธอต้องการถิ่นฐาน เพียงแค่เพื่อผลประโยชน์อย่างเดียวเหรอ?เธอยิ้ม "ตามหลักแล้วองค์กรต้าตูไม่ควรจะเข้าแทรก แต่นี่ไม่เกี่ยวกับผลประโยชน์ เรื่องของตระกูลกุงก็คือเรื่องของฉัน"เมื่อเห็นว่าเธอไม่ยอมถอย สีหน้าของชอร์นไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด "ถ้าหากคุณยืนยันจะเข้าแทรก ท่านลอร์ดไม่มีทางที่จะอยู่เฉย นี่คือคำแนะนำสุดท้ายที่ผมให้ไว้กับคุณ"ชอร์นลุกขึ้นติดกระดุมเสื้อสูท จากนั้นก็จะออกไป ส่วนเจียงเซิงเอ่ยปากด้วยสีหน้าเคร่งขรึม "ตระกูลกุงมีความเกี่ยวข้องกับฉันนิดหน่อย"เขาหยุดฝีเท้า แต่ไม่ได้หันหน้ากลับไปเจียงเซิงหันไปมองเขา "ถิ่นฐานนั้นฉันเอาแน่นอน"หลังจากที่พวกเขาออกไปอย่างเร่งรีบ เจียงเซิงเรียกพ่อบ้านมาถาม "ชอร์นคนนี้ที่ท่านลอร์ดส่งมามีที่มาที่ไปอย่างไร?"พ่อบ้านตอบกลับ "เขาเป็นนักธุรกิจประเทศ S ในอดีตเคยได้รับ
"คุณยังไม่นอน" เสียงของเขาฟังดูแหบแห้งเล็กน้อย แต่ยังคงมีเสน่ห์เธอหยุดชะงักและกัดฟันพูด "ใครว่าล่ะ ฉันนอนแล้ว"เขาเงียบไปครู่หนึ่ง และพูดขึ้นช้า ๆ "ไฟในห้องของคุณยังสว่างอยู่"เจียงเซิงลุกขึ้นเดินไปตรงหน้าหน้าต่างทันที ที่หน้าประตูใหญ่มีรถยนต์สีดำคันหนึ่งจอดอยู่เห็นแค่เขายืนตัวสูงอยู่ที่ตรงหน้ารถ บนตัวสวมเสื้อกันลมตัวยาวสีน้ำตาลเทา ไฟข้างทางส่องมาที่เขา แต่กลับมีความโดดเดี่ยวอยู่เล็กน้อยเจียงเซิงนวดหัวคิ้ว รู้สึกปวดหัวเล็กน้อย "ซือเย่เจ๋ว คุณมีธุระไหม?""ไม่มี" เขาเงยหน้ามองไปทางหน้าต่าง "เพียงแค่ผ่านทางจึงแวะมาดู"เจียงเซิงยิ้ม "ระยะทางตั้งไกลผ่านมาทางนี้ได้ด้วยเหรอ? คุณซือ ข้ออ้างของคุณแย่เกินไปแล้ว""เรเจลส่งคนมาหาคุณ" ซือเย่เจ๋วล้วงกล่องบุหรี่ออกมาจากในกระเป๋า แล้วหยิบออกมาหนึ่งมวนเจียงเซิงหรี่ตา "คุณรู้ได้อย่างไร?"เขาถือบุหรี่ไว้ในมือแต่ไม่ได้คากไว้ที่ปาก "เขาไม่มีทางละทิ้งถิ่นฐานของตระกูลกุง""เขาไม่มีทางยอมแพ้จริง ๆ นั่นแหละ แต่ฉันก็ไม่มีทางยอม" เจียงเซิงพูดขึ้น และหันหลังกลับ "ซือเย่เจ๋ว ดึกมากแล้ว มีธุระอะไรพรุ่งนี้ค่อยว่ากันเถอะ""คุณนัดเดทผมเหรอ?" ซือเย่เจ๋ว
"เหรอคะ แต่ฉันจำไม่ได้ว่าเคยพบคุณหลาน" เธอยกแก้วชาขึ้นอย่างสงบนิ่ง "ท่านลอร์ดให้คุณมาหาฉันเหรอคะ?"หลานอู๋เหยียนมองดูเธอ และไม่ได้ตอบกลับ ส่วนเจียงเซิงเงยหน้าขึ้นแล้วยิ้มพูด "คุณชอร์นไม่สามารถทำให้ฉันยอมอ่อนข้อได้ ตอนนี้ถึงตาคุณหลานมาพูดเกลี้ยกล่อมฉันแล้ว?""ผมไม่ได้มาหาคุณเพราะเรื่องถิ่นฐานของตระกูลกุง"หลานอู๋เหยียนรินชาให้ตัวเอง และยิ้มอย่างมีเลศนัย "เพียงแค่อยากรู้จักกับคุณอลิซสักหน่อย"เจียงเซิงหัวเราะเบา ๆ ปลายนิ้วมือลูบปากแก้ว "ไม่สู้คุณหลานบอกถึงจุดประสงค์ของคุณกับฉันมาโดยตรง"เห็นเธอพูดตรงไปตรงมาแบบนี้ หลานอู๋เหยียนก็ไม่อ้อมค้อม "ผมอยากทำธุรกิจกับคุณเจียง"เธอขมวดคิ้ว “หมายความว่าอย่างไรคะ?”"หมายความตามที่พูด" หลานอู๋เหยียนวางนามบัตรของเขาลงบนโต๊ะ "ใช้ความลับที่คุณอยากรู้มาทำธุรกิจกับคุณ"ไม่รอให้เจียงเซิงตั้งตัว หลานอู๋เหยียนก็ลุกขึ้น กระชับเสื้อคลุมสูทที่บนตัว "ผมคิดว่าคุณอลิซจะต้องติดต่อผมแน่นอน ใช่ไหม?"เขาก้าวเท้าเดินออกไปโดยตรง ส่วนเจียงเซิงก็ก้มหน้ามองนามบัตรที่อยู่บนโต๊ะ จากนั้นครุ่นคิดอยู่เป็นเวลานานสุดท้าย ซือเย่เจ๋วก็ยังไม่มา เธอออกจากร้านอาหารสี่ฤดู ก็ไ
สายตาของเธอมองไปยังหน้าจอโทรศัพท์ ตั้งแต่เมื่อวานจนถึงตอนนี้ ซือเย่เจ๋วไม่ได้ส่งข้อความมาหาเธอเลย แม้แต่อธิบายกับเธอก็ไม่มี......หึ ต่อไปจะเชื่อคำหลอกลวงของซือเย่เจ๋วง่าย ๆ ไม่ได้แล้ว!เธอหยิบนามบัตรใบนั้นออกมา "สิบเจ็ด ติดต่อหลานอู๋เหยียนแทนฉันหน่อย"ตอนเที่ยง เจียงเซิงพาสิบเจ็ดมายังตระกูลหลานสาวใช้รินน้ำชาต้อนรับเธอ ในไม่ช้าก็เห็นหลานอู๋เหยียนเดินลงมาจากชั้นบนหลานอู๋เหยียนยิ้มแล้วเดินไปนั่งลงบนโซฟา "ผมรู้ว่าคุณอลิซจะต้องมาหาผม"เจียงเซิงมองดูเขาโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า "เมื่อวานคุณหลานไปที่ร้านอาหารสี่ฤดู คงไม่ได้พาคนไปแอบถ่ายด้วยใช่ไหมคะ?""คุณอลิซกำลังสงสัยว่าผมประกาศเรื่องที่พวกเราเจอหน้ากันออกไปเหรอ?"หลานอู๋เหยียนขาเรียวยาวไขว้ขากัน ใบหน้าก็เต็มไปด้วยความไม่แยแส "คุณเข้าใจผมผิดแล้วจริง ๆ ในเมื่อสื่อข่าวในตอนนี้ต่างสงสัยในหน้าตาที่แท้จริงของคุณอลิซ นักข่าวบางคนอยากจะขุดคุ้ยข่าวสารที่มากขึ้นก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้"เจียงเซิงเคลื่อนไหวดวงตา สำหรับคำพูดของหลานอู๋เหยียนทำได้แค่เชื่อเพียงส่วนหนึ่ง ไม่ว่าเป็นเขาหรือไม่ เธอไม่ระมัดระวังตัวไม่ได้"เช่นนั้นที่คุณหลานพูดไว้เมื่อว
หลานอู๋เหยียนยิ้มขึ้นมาอย่างมีเลศนัย "ไม่ใช่ คนที่โจมตีเขาไม่ใช่คนของผม คนของผมไม่ได้ลงมือ"เจียงเซิงตกตะลึงจลาจลที่สวนสนุกเมื่อสามปีก่อนเป็นคนอื่นเหรอ?สายตาของเธอมองไปที่ชายชุดดำหลายคนที่ยืนอยู่ที่ชั้นบน ตรงหลังมือของพวกเขาที่วางอยู่ด้านหน้าตัวมีรอยสักที่เหมือนกันใช่แล้ว คนที่ลงมือพวกนั้นบนหลังมือไม่มีรอยสัก ส่วนคนของหลานอู๋เหยียนบนหลังมือมีรอยสัก!ดังนั้นมีคนสองกลุ่ม!คนของหลานอู๋เหยียนไม่ได้ลงมือ"คนของลอร์ด?""คุณเจียงฉลาดมาก" หลานอู๋เหยียนเริ่มชื่นชมเธอ "ไม่อย่างนั้นเมื่อสามปีก่อนคุณจะวางแผนลวงซูหลิงโหรวผู้หญิงโง่คนนั้นได้อย่างไร?"พูดถึงซูหลิงโหรว เจียงเซิงกำมือแน่นอย่างอดไม่ได้ ในดวงตาเต็มไปด้วยความแน่นิ่ง "พูดแล้ว ทำไมฉันไม่เห็นคุณหนูซูอยู่ข้างกายคุณหลานล่ะคะ?"หลานอู๋เหยียนใช้ปลายนิ้ววนรอบปากแก้ว "ผู้หญิงโง่คนนั้นหักหลังผม คุณคิดว่าผมยังจะเก็บเธอไว้ข้างกายอีกเหรอ?"ซูหลิงโหรวทรยศเขา?ในดวงตาของเจียงเซิงเผยความประหลาดใจเล็กน้อย เห็นเพียงแค่เขายิ้มอย่างอึมครึม "แต่ก็ต้องขอบคุณผู้หญิงโง่คนนั้น ไม่อย่างนั้นซือเย่เจ๋วจะติดไวรัสได้อย่างไรล่ะ?"เจียงเซิงตัวแข็งทื่ออยู
*ถูกลูกเล่นของ Soul จิวเวลรี่ทำให้อ้วกแล้ว*แฟรงค์มองดูเธอ "เซิงเซิง จำนวนยอดขายของ Soul จิวเวลรี่ในวันนี้ลดลงอีกสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว บริษัทได้รับสายโทรศัพท์เพื่อสละออเดอร์และคืนเงินหลายออเดอร์แล้วดวงตาของเจียงเซิงขยับเขยื้อน "ดูท่าพวกเขาอยากจะบีบบังคับให้ฉันยอมจำนนสินะ""งั้นคุณวางแผนจะทำอย่างไร?" แฟรงค์รู้ว่าเธอไม่เปิดเผยตัวตนเพราะมีเหตุผลของเธอ ถ้าหากมีวิธีอื่นก็จะดีอย่างมากเจียงเซิงยื่นแท็บเล็ตไปให้เขา และหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา "ทางด้านผิ่นเก๋อยืนยันเป็นมั่นว่าฉันลอกเลียนแบบทั้ง Soul จิวเวลรี่ ถึงเวลาที่ฉันควรจะตอบโต้แล้ว"ในขณะที่กระแส "การลอกเลียนแบบ" บนอินเทอร์เน็ตกำลังโด่งดัง คำค้นหายอดนิยมของเฟซบุ๊กก็มีเพิ่มขึ้นมาหนึ่งประเด็น*ผิ่นเก๋อของปลอม*ผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่ถูกเปิดเผยออกมาว่าแอบลดวัสดุและขั้นตอนการก่อสร้าง ขายเครื่องประดับปลอมในราคาสูงและหลอกลวงลูกค้า และสร้างข่าวลือเรื่องที่โซราเสียชีวิต แม้กระทั่งข่าวลือที่เจ้าของผิ่นเก๋อมอมเหล้าเด็กสาวในคลับเฮ้าส์ก็ถูกเปิดโปงจนหมดเปลือกการเปิดเผยอย่างต่อเนื่องนี้ ทำให้เหตุการณ์ของ Soul จิวเวลรี่ถูกดันลงไปทันที เพียงแค่เรื่องที่
"ทำไม่ได้" ซือเย่เจ๋วเสียงทุ้มต่ำ จากนั้นจูบเธออย่างแรง และยิ่งอยู่ยิ่งรุนแรงขึ้นอาจเป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง เมื่อคืนฝนตกหนักทำให้อุณหภูมิเปลี่ยนไปหนาวเย็นกะทันหัน ใบไม้สีเหลืองที่แห้งเหี่ยวปกคลุมบนพื้น สัมผัสกับแอ่งน้ำเจียงเซิงกับซือเย่เจ๋วเพิ่งไปส่งเจ้าตัวเล็กทั้งสองคนที่โรงเรียนประถมเอกชน จากนั้นตอนที่เดินทางไปส่งเจียงเซิงที่ Soul จิวเวลรี่ เจียงเซิงง่วงจนพิงร่างกายของเขาแล้วงีบหลับซือเย่เจ๋วหันหน้าไปจ้องมองเธอ จากนั้นก็ยกมือขึ้นรวบไรผมที่อยู่ตรงหน้าผากของเธอ "ยังง่วงเหรอ?""อืม"เจียงเซิงบ่นอย่างซื่อตรง "โทษคุณเลย"เขายิ้ม จากนั้นก็มก้มตัวมาที่ข้างหูของเธอ "หรือว่าไม่ใช่ความผิดของคุณเหรอ?"เจียงเซิงเงยหน้าขึ้นและวางคางบนไหล่เพื่อมองดูเขา "ไม่ได้ให้คุณทำสองยกทั้งคืนสักหน่อย"ซือเย่เจ๋วที่สูญเสียความทรงจำไม่เพียงควบคุมอารมณ์ไม่ได้ แถมยังมีกำลังวังชาเต็มเปี่ยม เกือบพรากชีวิตแก่ ๆ ของเธอซือเย่เจ๋วไม่ได้พูดอะไร แต่ในใจกลับรู้สึกพึ่งพอใจอย่างมากในตอนนี้โทรศัพท์ของเจียงเซิงดังขึ้น คุณอาแฟรงค์โทรมาหาเธอแต่เช้าเกรงว่าต้องมีเรื่องใหญ่แน่นอนเธอรับสาย "คุณอาแฟรงค์?""เซิงเซิง
แต่ชาวเน็ตส่วนใหญ่คิดว่านี่ไม่ใช่การลอกเลียนแบบ ต่อให้สไตล์เหมือนกันแต่ยังมีจุดเด่นอื่นอีก สถานการณ์แบบนี้ไม่สามารถจำกัดความว่าเป็นการลอกเลียนแบบได้ ขอถามกลับว่าคนที่พูดว่าลอกเลียนแบบมีสิทธิอะไรคิดว่าคนเขาจะต้องลอกเลียนแบบแน่นอนน่าจะเป็นเพราะผู้บริหารของผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่เห็นว่านี่ไม่เพียงไม่ได้กดหัวคนอื่น แต่กลับเป็นวิธีที่ "ใจร้อนอยากประสบความสำเร็จแต่กลับทำให้เสียการ" จึงอยากเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมออกแต่คิดไม่ถึงว่า พวกเขาไม่สามารถเพิกถอนได้ เพราะว่ามีคนทุ่มเงินจำนวนมากซื้อคำค้นหายอดนิยมนี้ ผิ่นเก๋อของพวกเขาออกเงินสองเท่า ฝ่ายตรงข้ามก็ออกเงินสี่เท่า ตอนนี้เล่นเกมทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมแล้วเจียงเซิงนั่งดูหน้าแชทเฟซบุ๊กอยู่ตรงหน้าคอมพิวเตอร์ แฟรงค์เดินเข้ามา "เซิงเซิง ผิ่นเก๋อยอมแพ้การเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมแล้ว ดูท่าว่าจะทุ่มเงินไม่ไหวแล้ว"เจียงเซิงหรี่ตาลง "พวกเขาทำใจทุ่มเงินไม่ได้ แต่น่าจะมีวิธีอื่นอีก"ทางด้านเจียงเซิงทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมกับผิ่นเก๋อ ทางด้านซือเย่เจ๋วก็ทุ่มเงินล้มธุรกิจของหานซื่อกรุ๊ป หลัวเชว่มองดูจนตกตะลึงตาค้าง สามีภรรยาคู่นี้ตอนนี้เป็นคนโง่ที่เงินเ
เซียวเถียนเถียนใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา เธอตกใจจนถอยหลังไปสองสามก้าว จากนั้นก็หันหลังวิ่งหนีไปเมื่อมาถึงนอกห้องทำงานของเจียงเซิง คนทั้งคนยังคงอยู่ในสภาพเครื่องรวน เมื่อเข้าไปข้างในก็ทรุดนั่งลงบนโซฟา ขาก็อ่อนแรงไปหมดเจียงเซิงเดินออกมาจากห้องทำงาน เห็นท่าทางเหม่อลอยของเซียวเถียนเถียน ก็ยิ้มบาง "เกิดอะไรขึ้น?"เซียวเถียนเถียนลุกนั่งทันที และวางกาแฟบนโต๊ะทำงานของเธอ "ซื้อ...ซื้อมาให้เธอ"เจียงเซิงเดินไปตรงหน้าโต๊ะแล้วหยิบกาแฟขึ้นมา เห็นเธอพูดจาติดขัดจึงถามขึ้น "เจอเรื่องอะไรมา ทำไมถึงตกใจขนาดนี้?""ก็...ก็ไม่ได้เจอเรื่องอะไร ก็แค่ระหว่างทางที่ซื้อกาแฟได้เจอกับหานเซิงเข้า เกือบจะทะเลาะกับเธอขึ้นมา"เจียงเซิงถือกาแฟเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงาน "แค่นั้นเหรอ?"เธอเม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า "ใช่""งั้นเธอทำไมหน้าแดงขนาดนี้?""นั่นเป็นเพราะว่าฉันร้อน!" เซียวเถียนเถียนโกรธขึ้นมาทันที เจียงเซิงมองท่าทางประหม่าของเธอออก จึงหรี่ตาจ้องมองเธออยู่นานต่อให้เจอกับหานเซิงแล้วทะเลาะกัน ก็ไม่ถึงกับทำให้เธอกลายเป็นแบบนี้ ท่าทางแบบนี้เห็นได้ชัดว่า...ทำเรื่องไม่ดีอะไรมา"อ่อใช่เซิงเซิง บนเฟซบุ๊กเรื่องลอกเลียนแ
"เธอ…"“ผู้ชายทุกคนชอบผู้หญิงที่อ่อนโยนและน่ารัก คนปากคอเราะรายอย่างเธอชีวิตนี้คงไม่มีคนชอบเธอหรอก”ขณะพูด เธอก็พูดเหน็บแนม "ถ้าไม่ใช่ว่าเธอเป็นลูกสาวตระกูลเซียว จะมีการแต่งงานเกี่ยวดองกันกับตระกูลลู่ที่ดีขนาดนี้เหรอ คุณชายลู่แต่งงานกับเธอซวยไปแปดชาติจริง ๆ"เซียวเถียนเถียนสีหน้าเคร่งขรึมลงทันที เธอง้างมือขึ้นจะฟาดหน้าของหานเซิงหานเซิงเงยหน้าขึ้นให้เธอตบแต่ฝ่ามือยังไม่ทันโดน ข้อมือก็ถูกคนจับเอาไว้ลู่ลี่เซินดึงเซียวเถียนเถียนไปข้างหลังแล้วมองดูเธอ "ลงมือต่อหน้าคนมากมายแบบนี้ ไม่รู้จักอายบ้างเหรอ?"ผู้คนรอบตัวพากันมองมาทางนี้ เหมือนกำลังจะรอดูฉากเด็ดอยู่ ถ้าหากเมื่อครู่เซียวเถียนเถียนตบลงไปจริง ๆ ก็จะมีคนถ่ายรูปเอาไว้และเอาเรื่องนี้ไปพูดกันแต่เซียวเถียนเถียนไม่ยอมแพ้ เธอสะบัดมือของเขาออก "นายยุ่งอะไรกับฉันด้วย""คุณชายลู่ คุณมาได้พอดีเลย คู่หมั้นของคุณร้ายกาจ เมื่อครู่ยังอยากจะตบฉันด้วย ถ้าคุณไม่ห้ามไว้ หน้าของฉันคงบวมไปแล้วหานเซิงท่าทางน่าสงสาร เธอมีความมั่นใจคิดว่าผู้ชายชอบแบบนี้กันหมด แทบอยากจะให้ลู่ลี่เซินเห็นใจเธอ สงสารเธอ และทะเลาะกับเซียวเถียนเถียนขึ้นมาแต่หานเซิง
กู้เฉินกวางยิ้มบางแต่ไม่ได้พูดอะไรหลัวเชว่มองไปที่ซือเย่เจ๋วและพูดไม่ออก นี่เห็นได้ชัดว่าถูกคุณเจียงควบคุมจนอยู่หมัดแล้ว......บริษัท Soul จิวเวลรี่สิบเจ็ดบอกว่าเจียงยี่กับผู้เฒ่าเจียงได้พาเจียงเฮงกลับเมืองจินเฉิงแล้วเงินห้าแสนกว่าบาทที่ต้ายฉิงใช้จ่ายไปตอนนี้ได้ตามกลับผ่านทางตำรวจแล้ว แต่ก็ตามกลับมาได้แค่แสนกว่าบาท แต่ต้ายฉิงถูกควบคุมการเดินทาง อยากจะหนีก็หนีไม่ได้เจียงเซิงก็ไม่ได้พูดอะไรมากมายหลังจากผ่านเรื่องนี้ไปผู้เฒ่าเจียงคงจะทำตัวดีไม่น้อย จากอายุของเธอในตอนนี้อยากจะดิ้นรนต่อไป เกรงว่าคงจะไม่มีโอกาสดิ้นรนแล้วหลายชายของตัวเองล้างผลาญครอบครัวใช้เงินสะสมของเธอจนหมด แถมยังถูกหลอก แม้แต่ลูกชายก็ยังไม่ยอมรับเธอ ตอนนี้เธอก็ไม่มีอารมณ์คิดถึงมรดกของพ่อของเธอแล้ว*อลิซลอกเลียนแบบโซรา*พาดหัวข่าวเฟซบุ๊กที่โดดเด่นบนหน้าจอทำให้เจียงเซิงที่เพิ่งดื่มน้ำแทบจะพ่นน้ำออกมาเธอลอกเลียนแบบตัวเอง?เมื่อเปิดดู ก็เป็นเรื่องประดับ*รุ่นคู่รัก*ที่เธอออกแบบคล้ายกับสไตล์การออกแบบของเธอก่อนหน้านี้ แต่ไม่รู้ว่าใครตั้งใจพูดตัดสินเรื่องนี้ว่าลอกเลียนแบบ ชาวเน็ตที่ไม่ผ่านกรองการครุ่นคิดก็เชื่อจ
กู้เฉินกวางถอดแว่นกันแดดออกแล้วใส่ไว้ในกระเป๋าตรงหน้าอก "สถานการณ์ของนายแบบนี้ คงไม่ต้องให้ฉันแนะนำตัวเองใช่ไหม?"ซือเย่เจ๋วก็มองออกว่าเขาคือใคร "อยู่ในวงการบันเทิงได้ไม่เลวเลยสินะ"กู้เฉินกวางหัวเราะเบา ๆ “คนอื่นบอกว่านายความจำเสื่อมฉันยังไม่เชื่อ”เขาเดินไปที่โซฟาแล้วนั่งลงด้วยตัวเอง หลัวเชว่รินชาให้เขาหนึ่งแก้วซือเย่เจ๋วลุกขึ้นยืนและเดินอ้อมโต๊ะทำงานไปตรงหน้าโซฟา จากนั้นก็ปลดกระดุมชุดสูทออกแล้วนั่งลง "แขกหายากสินะ มีธุระอะไรกับฉัน?""มีธุระจริง ๆ นั่นแหละ" กู้เฉินกวางยกแก้วน้ำชาขึ้น "ฉันคิดว่านายคงจะเคยรู้จักกับหานจื้อเหนียนสินะ?"ในตอนที่ซือเย่เจ๋วกำลังครุ่นคิดว่าหานจื้อเหนียนคือใคร หลัวเชว่ก็ก้มตัวชี้แนะ "ประธานหานคนนั้นเมื่อครั้งที่แล้ว"ซือเย่เจ๋วหรี่ตาลงและยิ้มอย่างมีความหมายลึกซึ้ง "ทำไม ตระกูลหานมุ่งเป้าไปที่นายเหรอ?"กู้เฉินกวางไม่ได้พูดอะไรซือเย่เจ๋วสีหน้าจริงจังขึ้นมา "ฉันว่านายก็อายุเยอะแล้ว ควรจะพิจารณาเรื่องการแต่งงานได้แล้ว?"กู้เฉินกวางวางแก้วชาลง และครุ่นคิด “เร่งให้ฉันแต่งงาน นายเป็นห่วงอะไร?”ซือเย่เจ๋วสีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อย จากนั้นกอดอกมองเขา "ตาข้าง
เจียงเซิงไม่ปฏิเสธ "ใช่ค่ะ" เธอหัวเราะเบา ๆ "รวมทั้งเงินห้าล้านบาทนั่นด้วย นั่นก็เป็นเงินที่ฉันให้ คุณก็ไม่ได้บอกคุณย่าว่าคุณมีเงินห้าล้านบาทใช่ไหม?"ผู้เฒ่าเจียงหันหน้ามองไปทางเจียงยี่เจียงยี่ไม่ได้พูดอะไร เห็นได้ชัดว่ายอมรับแล้ว"คุณไม่อยากยอมรับแม่ ไม่อยากยอมรับลูกชาย ฉันก็ไม่ก้าวก่ายคุณ ในเมื่อเงินเอาให้คุณแล้ว คุณอยากจะใช้อะไรก็เรื่องของคุณ"เจียงเซิงกอดอก สายตาเย็นชา "แน่นอนว่าถ้าหากคุณยอมเอาเงินไปใช้ในทางที่ต้อง ฉันอาจจะให้โอกาสคุณอีกครั้ง แต่น่าเสียดายที่คุณปรับเปลี่ยนตัวเองไม่ได้แล้ว เอาเงินให้คุณมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ใด ๆ"มือที่วางอยู่บนขาของเจียงยี่กำแน่นอย่างอดไม่ได้ สีหน้าก็รู้สึกอับอายผู้เฒ่าเจียงมองดูเจียงเซิง "เซิงเซิง ในเมื่อเธอยังมีชีวิตอยู่ และก็ยอมช่วยอาของเธอกับลูกพี่ลูกน้องของเธอ...""คุณย่า คุณคิดมากเกินไปหรือเปล่า?" เจียงเซิงขัดคำพูดของเธอทันที "ฉันไม่ได้ช่วยพวกเขาโดยไม่มีเหตุผลหรอกนะคะ ฉันก็แค่ช่วยให้คุณได้เห็นความโหดร้ายของโลกนี้อย่างชัดเจน"ผู้เฒ่าเจียงมองไปทางเธอด้วยความเหม่อลอยเจียงเซิงลุกขึ้นเดินไปตรงหน้าต่าง และหันข้างมองไปทางพวกเขา "เพราะว
เพิ่งจะเข้าไปในห้อง เจียงยี่ก็อยู่ด้วย เจียงยี่นั่งอยู่บนเก้าอี้ บอดี้การ์ดที่อยู่ด้านหลังวางมือบนไหล่ของเขาไม่ให้เขาหนีไปได้ตอนที่ผู้เฒ่าเจียงเห็นผู้หญิงแปลกหน้าถูกพาตัวเข้ามา และคุกเข่าลงบนพื้น ก็งุนงงไปหมด "นี่คือ..."สิบเจ็ดพูดด้วยสีหน้านิ่งเฉย "ฉิงฉิงที่หลานชายของคุณพูดถึง คุณให้เธออธิบายกับคุณเองเถอะ"ฉิงฉิง?ผู้เฒ่าเจียงสายตามองไปที่ผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง ต้ายฉิงร้องไห้แล้วคลานมาที่ข้างเตียง "คุณย่าเจียง ขอโทษนะคะ ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่ควรหลอกลวงเจียงเฮง ขอร้องพวกคุณปล่อยฉันไปเถอะค่ะ"ผู้เฒ่าเจียงนึกขึ้นได้ว่าเจียงเฮงหลานชายของเธอนำเงินก้อนนั้นให้กับผู้หญิงคนนี้ เธอก็รู้สึกโมโหขึ้นมา และผลักฉิงฉิงออก "เธอยังมีหน้ามาหาฉันอีก? เงินของหลานชายฉันล่ะ?"ต้ายฉิงถูกผลักล้มลงกับพื้น ไหล่ของเธอสั่นเทา น้ำตาไหลลงแก้ม ชั่วขณะไม่รู้ว่าควรจะพูดเรื่องเงินก้อนนั้นที่เธอใช้ไปหมดแล้วอย่างไรดี“ฉิงฉิง!”เจียงเฮงปรากฏตัวนอกประตูและเห็นต้ายฉิงนั่งอยู่บนพื้น เขาจึงรีบเดินไปประคองเธอ "คุณย่า ฉิงฉิงมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร"“แกยังจะพูดอีก?” ผู้เฒ่าเจียงหน้าเขียวหน้าดำ "นังเด็กคนนี้หลอกเอาเงินของแก เ