เจียงเซิงถามเสียงเบา "ไปเมื่อไหร่?"ซือเย่เจ๋วจ้องมองเธอ และกระซิบ: "พรุ่งนี้"เขาเลิกคิ้วเล็กน้อย: "เกาะติดฉันขนาดนี้เลยเหรอ?"เจียงเซิงเม้มริมฝีปากไม่พูดอะไร แต่ท่าทางนี้สำหรับซือเย่เจ๋วกลับมีความสวยงามอย่างมาก ดวงตาที่มองเธอลึกลับเขาจับเอวของเธอแล้วพลิกตัวสลับตำแหน่ง"ซือเย่เจ๋ว คุณยังไม่ได้บอกฉันเลยว่าคุณจะไปที่ไหน" เจียงเซิงทั้งตีทั้งเตะด้วยความดิ้นรน สองมือกลับถูกมือข้างเดียวของเขาล็อกไว้............วันต่อมาแสงยามเช้าส่องเข้ามาในห้องผ่านร่องผ้าม่านเจียงเซิงถูกปลุกด้วยแสงจ้า เธอพลิกตัวและยื่นมือออกไปกอดคนที่อยู่ข้างกายด้วยความเคยชิน แต่กลับกอดโดนความว่างเปล่าเธอลุกขึ้นนั่ง ตำแหน่งข้างกายเย็นลงแล้วเจียงเซิงเดินลงไปชั้นล่างบนโต๊ะยังคงเตรียมอาหารเช้าไว้เรียบร้อย เขาก็ไม่อยู่อีกแล้ว มีเพียงแค่โน้ตข้อความที่ถูกทับไว้อยู่ใต้แก้วนม ตัวอักษรบางสวยเหมือนกับที่ผ่านมา'ทำตัวดี ๆ อยู่ในประเทศรอฉันกลับมา"เจียงเซิงขยำกระดาษโน้ตเป็นก้อน “บ้าชะมัด เมื่อคืนตั้งใจทรมานฉันทั้งคืน ก็เพื่อรอให้ฉันนอนหลับตลอดช่วงเช้าแล้วหนีไปเหรอ?”หึ ปากของผู้ชาย......แต่เมื่อเธอนึกอะไรขึ้นได้ก
หลัวหยิงเข้าใจทันที "ที่แท้ก็เป็นแบบนี้เหรอ แต่ว่าท่านเจ๋วรู้ไหม?"เจียงเซิงลากกระเป๋าเดินทางเดินไปที่รถ "เขาไม่รู้ ดังนั้นฉันคิดจะ 'เซอไพรส์' เขา"กลางคืน 23.50 นาที เที่ยวบินที่ไปยังเมืองไซน่าประเทศ S ออกบินตรงเวลา การเดินทางใช้เวลาประมาณสิบชั่วโมง คาดว่าจะไปถึงเวลา 10.00 น. ของวันถัดไปช่วงระหว่างการเดินทางที่แสนยาวนานเมื่อตื่นขึ้นมา นอกหน้าต่างเป็นเวลากลางวันแล้ว เมฆสเตรตัสที่ขาวผ่องและหนาทึบกระจายอยู่เบื้องล่าง สีขาวกว้างไกลไม่มีที่สิ้นสุด เชื่อติดกันกับแสงสีฟ้าตรงขอบฟ้า แถมยังได้เห็นดวงจันทร์ที่อยู่ด้านหนึ่งของโลกด้วยเมื่อเวลาสิบโมง เครื่องบินลดระดับความสูงและบินอยู่เหนือประเทศ S มองลงไป อาคารสูงที่เรียงรายเต็มไปหมดย่อขนาดปรากฎต่อสายตาถนนในเมืองที่ย่อขนาดเล็กเหล่านั้นเปรียบเหมือนเส้นเลือดของเมือง ร้อยเข้าด้วยกันสามสิบนาทีต่อมาเครื่องบินก็ลงจอดบนรันเวย์สนามบินไซน่า"นั่งเครื่องบินทั้งคืน ฉันปวดเอวและก็เจ็บขาจัง" หลัวหยิงลากกระเป๋าเดินทางอยู่ด้านข้างเจียงเซิง นี่เป็นครั้งแรกที่เธอนั่งเครื่องบินนานขนาดนี้มือของเจียงเซิงพาดไปที่ไหล่ของเธอ "ไม่เป็นไร เคยชินก็ดีไปเอง"ทั้ง
“ใช่ค่ะ ตอนนี้ฉันได้ก่อตั้งแบรนด์เครื่องประดับของตัวเองแล้ว อ่อใช่” เจียงเซิงพูด และแนะนำไปทางเขา “ท่านนี้คือเพื่อนของฉัน หลัวหยิง”โอลิปยิ้มบางพยักหน้าให้เธอหลัวหยิงก็รีบยิ้มกลับเจียงเซิงพูดแนะนำต่อเธอ “ท่านนี้คือคุณโอลิปหุ้นส่วนของLuxury เมื่อก่อนฉันอยู่ที่Luxury ได้รับการดูแลจากเขาไม่น้อย”“คุณโอลิป คุณทานอาหารแล้วยังคะ?”เธอมองไปทางโอลิป และเปลี่ยนไปเป็นภาษาอังกฤษอย่างชำนาญโอลิปพยักหน้า “เพิ่งทานเสร็จ ตอนรับแขกผู้มีเกียรติท่านหนึ่งพร้อมกับคุณโจนส์ อ่อใช่ แขกผู้มีเกียรติท่านนั้นก็เป็นนักธุรกิจของประเทศ Z ของพวกคุณ วัยรุ่นมาก ๆ และก็หล่อมาก”เจียงเซิงแอบสัมผัสได้ถึงคนคนนั้นที่เขาพูดถึงว่าเป็นใครในตอนนี้ สายตาของเธอมองไปทางสองสามคนที่เดินอยู่ด้านหลังไม่ไกลนักพวกเขาเดินไปด้วยพูดไปด้วย และผู้ชายที่เดินอยู่ท่ามกลางกลุ่มคนที่ฟังการสนทนายังคงสวมชุดสูทที่พิถีพิถัน หล่อเข้มและสง่างามในตอนที่เขาเงยหน้าเห็นร่างสวยที่คุ้นเคยที่อยู่ไม่ไกล ความประหลาดใจวาบผ่านดวงตาอันสงบของเขา จากนั้นสายตาค่อย ๆ เคร่งขรึมหลัวเชว่ที่อยู่ด้านหลังเขาก็เห็นเจียงเซิง คิดไม่ถึงว่าแม้แต่น้องสาวของเขาก็มา
โอลิปมองเธอด้วยความประหลาดใจ “โซรา คุณแต่งงานแล้วเหรอ?”เจียงเซิงยิ้มมุมปากลึก ๆ "ใช่ค่ะ"“อย่างนั้นเหรอ งั้นสามีของคุณอยู่ที่เมืองไซน่าเหรอ ไม่สู้เรียกเขามาทานอาหารด้วยกัน?” โอลิปยังอยากรู้ว่าชายคนไหนโชคดีพอที่จะแต่งงานกับภรรยาที่สวยงามและมีความสามารถเช่นนี้เจียงเซิงแสร้งทำเป็นถอนหายใจ "ฉันก็อยากมาก ๆ แต่ฉันแค่ไม่รู้ว่าสามีของฉันแอบอยู่ในอ้อมกอดแสนอ่อนโยนของผู้หญิงคนไหนในตอนนี้ ยังติดต่อเขาไม่ได้"ซือเย่เจ๋ว: "..."หลัวหยิงและหลัวเชว่: "..."คนอื่นๆ รวมทั้งโอลิปมองเธออย่างเห็นอกเห็นใจ "เป็นความโชคร้าของคุณจริง ๆ เพียงแต่ ผู้หญิงที่สวยและดีเลิศขนาดนี้อย่างคุณโซรา ต้องได้เจอคนที่ดีกว่าอยู่แล้ว"เธอยิ้มตาหยี “ขอให้คำพูดดี ๆ ของคุณสมหวัง หรือว่าคุณจะแนะนำให้ฉันรู้จักหน่อยไหม?”โอลิปหัวเราะ “ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้”ซือเย่เจ๋วสีหน้าเหมือนปกคลุมไปด้วยความอึมครึม เขายิ้มให้คนที่อยู่ข้าง ๆ และกัดฟัน "ผมกับคุณเจียงมีธุระจะต้องคุยกันสักหน่อย ไม่รับประทานอาหารเย็นแล้วครับ"หลังจากนั้น ไม่รอให้เจียงเซิงพูดอะไร และไม่สนว่าทุกคนจะตกตะลึง เขาคว้าข้อมือของเธอแล้วพาเธอออกไปเสียงประตูห้องด
“ถ้าอย่างนั้นคุณบอกฉันก่อน” เหงื่อเย็นไหลออกมาบนหน้าผากของชายที่อยู่ด้านหลัง สายตาจับจ้องเธออยู่เป็นเวลานาน ผู้หญิงคนนี้...หาเรื่องใส่ตัวจริง ๆ!ผ่านไปอยู่นาน ซือเย่เจ๋วถึงได้พาเธอไปที่ห้องน้ำเพื่อทำความสะอาดให้เธอเมื่อเห็นว่าใบหน้าสวยของเจียงเซิงยังคงโกรธ ซือเย่เจ๋วก็ดึงสายสะพายไหล่ให้เธอ ปลายนิ้วเรียวยาวปัดผ่านผิวของเธอ ทำให้เธอรู้สึกแปลกประหลาดเล็กน้อยเขาเยาะเย้ย "โกรธฉันจริง ๆ เหรอ?"เจียงเซิงไม่สนใจเขาซือเย่เจ๋วเงยหน้าขึ้นมองเธอและยิ้มอย่างอบอุ่นครู่หนึ่ง "เธอคิดจะพูดกับฉันแบบนี้ต่อไปไหม?"เขาจนปัญญา "ไม่รู้จักอาย"เจียงเซิงดึงเสื้อคลุมอาบน้ำมาคลุมร่างกาย และถลึงตาใส่เขา "เทียบกับความไร้ยางอายของคุณแล้ว ฉันควรจะละอายใจเรื่องอะไรดี?"ซือเย่เจ๋วลุกยืนขึ้น สองมือวางลงมือบนโต๊ะเครื่องแป้งโอบรอบเธอ ยิ้มบางพูด "เอาล่ะ เซิงเซิง ฉันผิดไปแล้ว"เจียงเซิงมองเขาอย่างแน่วแน่ “ฉันอยากอาบน้ำ คุณออกไปก่อน”ซือเย่เจ๋วพยักหน้า ลุกขึ้นโดยตรง "ตกลง ฉันจะรอเธออยู่ข้างนอก"เจียงเซิงอาบน้ำเสร็จแล้ว เปลี่ยนเสื้อผ้าของตัวเองแล้วเดินออกจากห้องน้ำภายในห้องนั่งเล่น ซือเย่เจ๋วสวมเสื้อกั๊กเสื
เจียงเซิงไม่ถามแล้วเธอเดาได้แล้วว่าทำไมหลัวเชว่ถึงไม่บอกหลัวหยิง ดูเหมือนว่าเขาไม่อยากให้เธอรู้จริงๆเมื่อเห็นว่าเธอไม่พูด คิดว่าเธอกังวลเรื่องอื่น จู่ ๆ หลัวหยิงก็ท่าทางจริงจังขึ้นมา "พี่สะใภ้ พี่วางใจเถอะค่ะ ท่านเจ๋วไม่มีทางหาผู้หญิงข้างนอกอะไรแน่นอน"เจียงเซิงกระตุกมุมริมฝีปาก "เธอรู้ได้อย่างไร?"เธอตบหน้าอก "ฉันรับประกันด้วยเกียรติคุณของฉัน"เจียงเซิงหรี่ตาลง “คุณมีเกียรติคุณด้วยเหรอ?”หลัวหยิงเบะปากอยู่นาน จากนั้นเปลี่ยนคำพูด "ฉันสาบานด้วยเงินเดือนอันน้อยนิดของฉัน"เจียงเซิงยิ้มหลัวหยิงพูดด้วยความจริงจังว่า " ท่านเจ๋วอันที่จริงรู้จักวางตัวมากๆ พี่สะใภ้ คุณเป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้เขายอมรับได้ ฉันเคยคิดว่าผู้ชายอย่างท่านเจ๋ว ไม่มีทางหาภรรยาได้"“เมื่อก่อนเขาเป็นยังไง?” บางทีเธออาจจะเบื่อ เธอจึงเริ่มสงสัย ดูเหมือนว่าเธอไม่เคยทำความเข้าใจมาก่อน ซือเย่เจ๋วในอดีตเป็นอย่างไรบ้างหลัวหยิงปิดปากและแอบขำ "ฉันบอกคุณให้นะคะ ตอนเด็ก ๆ ท่านเจ๋วไม่ได้หน้าบูดบึ้งเหมือนตอนนี้ เมื่อก่อนเขามักจะถูกคุณชายกู้รังแกจนร้องไห้ขี้มูกโป่ง"เจียงเซิงตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัด ตอนเด็กเขาถูกกู้เฉินกวา
ในตอนที่สื่อทั้งหมดติดตามดูว่าเธอจะถูกทอดทิ้งอีกครั้งหรือไม่ ซือสิงจี่ก็จะใช้การปฏิบัติตอกหน้าสื่อแต่งงานสิบปี ไม่เคยมีข่าวลือแตกแยกหรือมีชู้ใด ๆหลังจากนั้นคนของเมืองหลวงต่างพูดอย่างมีอรรถรสว่า บนโต๊ะงานเลี้ยงส่วนตัวของซือสิงจี่ห้ามจัดผู้หญิงเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นเขาจะโมโหจนกลับไป; เย่ยูที่เคยพัวพันกับเรื่องอื้อฉาวและโดนจับคู่จิ้น เธอยอมที่จะแสดงละครจรรยาบรรณครอบครัวและละครอาชีพมากกว่าละครที่สะเทือนอารมณ์ไม่ใช่เพราะความไม่ไว้วางใจซึ่งกันและกันแต่เป็นเพราะเชื่อใจอีกฝ่ายมากเกินไป และใส่ใจอีกฝ่ายมากเกินไปถึงขั้นที่เคารพความรู้สึกของอีกฝ่ายเจียงเซิงขนตาสั่นเล็กน้อยและก็ถอนหายใจ: "อาซือต้องรักแม่ของซือเย่เจ๋วมากใช่ไหม?"ถ้าไม่มีเหตุการณ์เรื่องนั้นเกิดขึ้นกับตระกูลกุง...บางที อาซือก็จะไม่สูญเสียคนรักไปหลัวหยิงพยักหน้า เธอถอนหายใจพูด: "หลังจากที่คุณนายซือถูกสังหารที่ประเทศ S เมื่อสิบห้าปีก่อน ท่านเจ๋วก็เปลี่ยนไปไม่ชอบพูดจา และที่ผู้นำตระกูลซืออาศัยอยู่ที่คฤหาสน์หลังเก่ามาโดยตลอด เป็นเพราะคุณนายชอบสถานที่นั้น"เจียงเซิงสะดุ้งอีกครั้ง ไม่น่าแปลกใจเลยที่อาซืออยากจะอยู่ในคฤหาสน์เก่า
คนที่เหลือก็ไม่ได้ว่างงานเช่นกัน พากันรวมตัวเข้ามาถามคำถามเธอมากมาย เจียงเซิงก็ตอบพวกเขาอย่างใจเย็น โดยไม่มีอุปสรรคในการสื่อสารทางภาษาโจนส์มองจากด้านข้าง ชายผมหยิกที่อยู่ข้างๆ เขาวางศอกบนไหล่แล้วเลิกคิ้วพูด: "โจนส์ คุณคงไม่ได้สนใจเธอหรอกนะ?"“ฉันเหรอ?” โจนส์เหลือบมองเขาแล้วยิ้ม “มันน่าสนใจ แต่เธอแต่งงานแล้ว”“แต่งงานแล้วเหรอ งั้นก็ไม่มีโอกาสแล้วจริงๆ” ชายผมหยิกยักไหล่โจนส์หยิบไม้กอล์ฟขึ้นมา ตีลูกที่อยู่บนสนามหญ้าออกไป แต่ดูเหมือนว่าจะพลาดผมสีฟ้าที่อยู่ด้านข้างหัวเราะและพูด "คุณโซรา ดูเหมือนจะมีฝีมือค่อนข้างดีนะ"เขามองไปทาง เจียงเซิง โจนส์ก็มองตามสายตาของเขาไป ไม่ไกลนัก เจียงเซิงสองมือกำไม้กอล์ฟ ตีลูกกอล์ฟเข้าไปในหลุมด้วยความแม่นยำอย่างมาก"อืมไม่เลว" โจนส์เห็นสิ่งนี้ ก็เกิดความชื่นชมขึ้นมาในดวงตาของเขา มีผู้หญิงไม่กี่คนที่อยู่รอบตัวเขาที่ตีกอล์ฟเป็น เพราะมีผู้หญิงไม่กี่คนที่ชอบกีฬากลางแจ้งเจียงเซิงมีสมาธิมากจนเขาไม่สังเกตเห็นด้วยซ้ำเมื่อโจนส์ยืนอยู่ข้าง ๆ ตัวเองเหมือนเห็นเหงื่อบนหน้าผากของเจียงเซิง เขาจึงหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาและอดไม่ได้ที่จะเช็ดเหงื่อออกจากหน้าผากของเธอ
*ถูกลูกเล่นของ Soul จิวเวลรี่ทำให้อ้วกแล้ว*แฟรงค์มองดูเธอ "เซิงเซิง จำนวนยอดขายของ Soul จิวเวลรี่ในวันนี้ลดลงอีกสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว บริษัทได้รับสายโทรศัพท์เพื่อสละออเดอร์และคืนเงินหลายออเดอร์แล้วดวงตาของเจียงเซิงขยับเขยื้อน "ดูท่าพวกเขาอยากจะบีบบังคับให้ฉันยอมจำนนสินะ""งั้นคุณวางแผนจะทำอย่างไร?" แฟรงค์รู้ว่าเธอไม่เปิดเผยตัวตนเพราะมีเหตุผลของเธอ ถ้าหากมีวิธีอื่นก็จะดีอย่างมากเจียงเซิงยื่นแท็บเล็ตไปให้เขา และหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา "ทางด้านผิ่นเก๋อยืนยันเป็นมั่นว่าฉันลอกเลียนแบบทั้ง Soul จิวเวลรี่ ถึงเวลาที่ฉันควรจะตอบโต้แล้ว"ในขณะที่กระแส "การลอกเลียนแบบ" บนอินเทอร์เน็ตกำลังโด่งดัง คำค้นหายอดนิยมของเฟซบุ๊กก็มีเพิ่มขึ้นมาหนึ่งประเด็น*ผิ่นเก๋อของปลอม*ผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่ถูกเปิดเผยออกมาว่าแอบลดวัสดุและขั้นตอนการก่อสร้าง ขายเครื่องประดับปลอมในราคาสูงและหลอกลวงลูกค้า และสร้างข่าวลือเรื่องที่โซราเสียชีวิต แม้กระทั่งข่าวลือที่เจ้าของผิ่นเก๋อมอมเหล้าเด็กสาวในคลับเฮ้าส์ก็ถูกเปิดโปงจนหมดเปลือกการเปิดเผยอย่างต่อเนื่องนี้ ทำให้เหตุการณ์ของ Soul จิวเวลรี่ถูกดันลงไปทันที เพียงแค่เรื่องที่
"ทำไม่ได้" ซือเย่เจ๋วเสียงทุ้มต่ำ จากนั้นจูบเธออย่างแรง และยิ่งอยู่ยิ่งรุนแรงขึ้นอาจเป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง เมื่อคืนฝนตกหนักทำให้อุณหภูมิเปลี่ยนไปหนาวเย็นกะทันหัน ใบไม้สีเหลืองที่แห้งเหี่ยวปกคลุมบนพื้น สัมผัสกับแอ่งน้ำเจียงเซิงกับซือเย่เจ๋วเพิ่งไปส่งเจ้าตัวเล็กทั้งสองคนที่โรงเรียนประถมเอกชน จากนั้นตอนที่เดินทางไปส่งเจียงเซิงที่ Soul จิวเวลรี่ เจียงเซิงง่วงจนพิงร่างกายของเขาแล้วงีบหลับซือเย่เจ๋วหันหน้าไปจ้องมองเธอ จากนั้นก็ยกมือขึ้นรวบไรผมที่อยู่ตรงหน้าผากของเธอ "ยังง่วงเหรอ?""อืม"เจียงเซิงบ่นอย่างซื่อตรง "โทษคุณเลย"เขายิ้ม จากนั้นก็มก้มตัวมาที่ข้างหูของเธอ "หรือว่าไม่ใช่ความผิดของคุณเหรอ?"เจียงเซิงเงยหน้าขึ้นและวางคางบนไหล่เพื่อมองดูเขา "ไม่ได้ให้คุณทำสองยกทั้งคืนสักหน่อย"ซือเย่เจ๋วที่สูญเสียความทรงจำไม่เพียงควบคุมอารมณ์ไม่ได้ แถมยังมีกำลังวังชาเต็มเปี่ยม เกือบพรากชีวิตแก่ ๆ ของเธอซือเย่เจ๋วไม่ได้พูดอะไร แต่ในใจกลับรู้สึกพึ่งพอใจอย่างมากในตอนนี้โทรศัพท์ของเจียงเซิงดังขึ้น คุณอาแฟรงค์โทรมาหาเธอแต่เช้าเกรงว่าต้องมีเรื่องใหญ่แน่นอนเธอรับสาย "คุณอาแฟรงค์?""เซิงเซิง
แต่ชาวเน็ตส่วนใหญ่คิดว่านี่ไม่ใช่การลอกเลียนแบบ ต่อให้สไตล์เหมือนกันแต่ยังมีจุดเด่นอื่นอีก สถานการณ์แบบนี้ไม่สามารถจำกัดความว่าเป็นการลอกเลียนแบบได้ ขอถามกลับว่าคนที่พูดว่าลอกเลียนแบบมีสิทธิอะไรคิดว่าคนเขาจะต้องลอกเลียนแบบแน่นอนน่าจะเป็นเพราะผู้บริหารของผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่เห็นว่านี่ไม่เพียงไม่ได้กดหัวคนอื่น แต่กลับเป็นวิธีที่ "ใจร้อนอยากประสบความสำเร็จแต่กลับทำให้เสียการ" จึงอยากเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมออกแต่คิดไม่ถึงว่า พวกเขาไม่สามารถเพิกถอนได้ เพราะว่ามีคนทุ่มเงินจำนวนมากซื้อคำค้นหายอดนิยมนี้ ผิ่นเก๋อของพวกเขาออกเงินสองเท่า ฝ่ายตรงข้ามก็ออกเงินสี่เท่า ตอนนี้เล่นเกมทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมแล้วเจียงเซิงนั่งดูหน้าแชทเฟซบุ๊กอยู่ตรงหน้าคอมพิวเตอร์ แฟรงค์เดินเข้ามา "เซิงเซิง ผิ่นเก๋อยอมแพ้การเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมแล้ว ดูท่าว่าจะทุ่มเงินไม่ไหวแล้ว"เจียงเซิงหรี่ตาลง "พวกเขาทำใจทุ่มเงินไม่ได้ แต่น่าจะมีวิธีอื่นอีก"ทางด้านเจียงเซิงทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมกับผิ่นเก๋อ ทางด้านซือเย่เจ๋วก็ทุ่มเงินล้มธุรกิจของหานซื่อกรุ๊ป หลัวเชว่มองดูจนตกตะลึงตาค้าง สามีภรรยาคู่นี้ตอนนี้เป็นคนโง่ที่เงินเ
เซียวเถียนเถียนใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา เธอตกใจจนถอยหลังไปสองสามก้าว จากนั้นก็หันหลังวิ่งหนีไปเมื่อมาถึงนอกห้องทำงานของเจียงเซิง คนทั้งคนยังคงอยู่ในสภาพเครื่องรวน เมื่อเข้าไปข้างในก็ทรุดนั่งลงบนโซฟา ขาก็อ่อนแรงไปหมดเจียงเซิงเดินออกมาจากห้องทำงาน เห็นท่าทางเหม่อลอยของเซียวเถียนเถียน ก็ยิ้มบาง "เกิดอะไรขึ้น?"เซียวเถียนเถียนลุกนั่งทันที และวางกาแฟบนโต๊ะทำงานของเธอ "ซื้อ...ซื้อมาให้เธอ"เจียงเซิงเดินไปตรงหน้าโต๊ะแล้วหยิบกาแฟขึ้นมา เห็นเธอพูดจาติดขัดจึงถามขึ้น "เจอเรื่องอะไรมา ทำไมถึงตกใจขนาดนี้?""ก็...ก็ไม่ได้เจอเรื่องอะไร ก็แค่ระหว่างทางที่ซื้อกาแฟได้เจอกับหานเซิงเข้า เกือบจะทะเลาะกับเธอขึ้นมา"เจียงเซิงถือกาแฟเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงาน "แค่นั้นเหรอ?"เธอเม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า "ใช่""งั้นเธอทำไมหน้าแดงขนาดนี้?""นั่นเป็นเพราะว่าฉันร้อน!" เซียวเถียนเถียนโกรธขึ้นมาทันที เจียงเซิงมองท่าทางประหม่าของเธอออก จึงหรี่ตาจ้องมองเธออยู่นานต่อให้เจอกับหานเซิงแล้วทะเลาะกัน ก็ไม่ถึงกับทำให้เธอกลายเป็นแบบนี้ ท่าทางแบบนี้เห็นได้ชัดว่า...ทำเรื่องไม่ดีอะไรมา"อ่อใช่เซิงเซิง บนเฟซบุ๊กเรื่องลอกเลียนแ
"เธอ…"“ผู้ชายทุกคนชอบผู้หญิงที่อ่อนโยนและน่ารัก คนปากคอเราะรายอย่างเธอชีวิตนี้คงไม่มีคนชอบเธอหรอก”ขณะพูด เธอก็พูดเหน็บแนม "ถ้าไม่ใช่ว่าเธอเป็นลูกสาวตระกูลเซียว จะมีการแต่งงานเกี่ยวดองกันกับตระกูลลู่ที่ดีขนาดนี้เหรอ คุณชายลู่แต่งงานกับเธอซวยไปแปดชาติจริง ๆ"เซียวเถียนเถียนสีหน้าเคร่งขรึมลงทันที เธอง้างมือขึ้นจะฟาดหน้าของหานเซิงหานเซิงเงยหน้าขึ้นให้เธอตบแต่ฝ่ามือยังไม่ทันโดน ข้อมือก็ถูกคนจับเอาไว้ลู่ลี่เซินดึงเซียวเถียนเถียนไปข้างหลังแล้วมองดูเธอ "ลงมือต่อหน้าคนมากมายแบบนี้ ไม่รู้จักอายบ้างเหรอ?"ผู้คนรอบตัวพากันมองมาทางนี้ เหมือนกำลังจะรอดูฉากเด็ดอยู่ ถ้าหากเมื่อครู่เซียวเถียนเถียนตบลงไปจริง ๆ ก็จะมีคนถ่ายรูปเอาไว้และเอาเรื่องนี้ไปพูดกันแต่เซียวเถียนเถียนไม่ยอมแพ้ เธอสะบัดมือของเขาออก "นายยุ่งอะไรกับฉันด้วย""คุณชายลู่ คุณมาได้พอดีเลย คู่หมั้นของคุณร้ายกาจ เมื่อครู่ยังอยากจะตบฉันด้วย ถ้าคุณไม่ห้ามไว้ หน้าของฉันคงบวมไปแล้วหานเซิงท่าทางน่าสงสาร เธอมีความมั่นใจคิดว่าผู้ชายชอบแบบนี้กันหมด แทบอยากจะให้ลู่ลี่เซินเห็นใจเธอ สงสารเธอ และทะเลาะกับเซียวเถียนเถียนขึ้นมาแต่หานเซิง
กู้เฉินกวางยิ้มบางแต่ไม่ได้พูดอะไรหลัวเชว่มองไปที่ซือเย่เจ๋วและพูดไม่ออก นี่เห็นได้ชัดว่าถูกคุณเจียงควบคุมจนอยู่หมัดแล้ว......บริษัท Soul จิวเวลรี่สิบเจ็ดบอกว่าเจียงยี่กับผู้เฒ่าเจียงได้พาเจียงเฮงกลับเมืองจินเฉิงแล้วเงินห้าแสนกว่าบาทที่ต้ายฉิงใช้จ่ายไปตอนนี้ได้ตามกลับผ่านทางตำรวจแล้ว แต่ก็ตามกลับมาได้แค่แสนกว่าบาท แต่ต้ายฉิงถูกควบคุมการเดินทาง อยากจะหนีก็หนีไม่ได้เจียงเซิงก็ไม่ได้พูดอะไรมากมายหลังจากผ่านเรื่องนี้ไปผู้เฒ่าเจียงคงจะทำตัวดีไม่น้อย จากอายุของเธอในตอนนี้อยากจะดิ้นรนต่อไป เกรงว่าคงจะไม่มีโอกาสดิ้นรนแล้วหลายชายของตัวเองล้างผลาญครอบครัวใช้เงินสะสมของเธอจนหมด แถมยังถูกหลอก แม้แต่ลูกชายก็ยังไม่ยอมรับเธอ ตอนนี้เธอก็ไม่มีอารมณ์คิดถึงมรดกของพ่อของเธอแล้ว*อลิซลอกเลียนแบบโซรา*พาดหัวข่าวเฟซบุ๊กที่โดดเด่นบนหน้าจอทำให้เจียงเซิงที่เพิ่งดื่มน้ำแทบจะพ่นน้ำออกมาเธอลอกเลียนแบบตัวเอง?เมื่อเปิดดู ก็เป็นเรื่องประดับ*รุ่นคู่รัก*ที่เธอออกแบบคล้ายกับสไตล์การออกแบบของเธอก่อนหน้านี้ แต่ไม่รู้ว่าใครตั้งใจพูดตัดสินเรื่องนี้ว่าลอกเลียนแบบ ชาวเน็ตที่ไม่ผ่านกรองการครุ่นคิดก็เชื่อจ
กู้เฉินกวางถอดแว่นกันแดดออกแล้วใส่ไว้ในกระเป๋าตรงหน้าอก "สถานการณ์ของนายแบบนี้ คงไม่ต้องให้ฉันแนะนำตัวเองใช่ไหม?"ซือเย่เจ๋วก็มองออกว่าเขาคือใคร "อยู่ในวงการบันเทิงได้ไม่เลวเลยสินะ"กู้เฉินกวางหัวเราะเบา ๆ “คนอื่นบอกว่านายความจำเสื่อมฉันยังไม่เชื่อ”เขาเดินไปที่โซฟาแล้วนั่งลงด้วยตัวเอง หลัวเชว่รินชาให้เขาหนึ่งแก้วซือเย่เจ๋วลุกขึ้นยืนและเดินอ้อมโต๊ะทำงานไปตรงหน้าโซฟา จากนั้นก็ปลดกระดุมชุดสูทออกแล้วนั่งลง "แขกหายากสินะ มีธุระอะไรกับฉัน?""มีธุระจริง ๆ นั่นแหละ" กู้เฉินกวางยกแก้วน้ำชาขึ้น "ฉันคิดว่านายคงจะเคยรู้จักกับหานจื้อเหนียนสินะ?"ในตอนที่ซือเย่เจ๋วกำลังครุ่นคิดว่าหานจื้อเหนียนคือใคร หลัวเชว่ก็ก้มตัวชี้แนะ "ประธานหานคนนั้นเมื่อครั้งที่แล้ว"ซือเย่เจ๋วหรี่ตาลงและยิ้มอย่างมีความหมายลึกซึ้ง "ทำไม ตระกูลหานมุ่งเป้าไปที่นายเหรอ?"กู้เฉินกวางไม่ได้พูดอะไรซือเย่เจ๋วสีหน้าจริงจังขึ้นมา "ฉันว่านายก็อายุเยอะแล้ว ควรจะพิจารณาเรื่องการแต่งงานได้แล้ว?"กู้เฉินกวางวางแก้วชาลง และครุ่นคิด “เร่งให้ฉันแต่งงาน นายเป็นห่วงอะไร?”ซือเย่เจ๋วสีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อย จากนั้นกอดอกมองเขา "ตาข้าง
เจียงเซิงไม่ปฏิเสธ "ใช่ค่ะ" เธอหัวเราะเบา ๆ "รวมทั้งเงินห้าล้านบาทนั่นด้วย นั่นก็เป็นเงินที่ฉันให้ คุณก็ไม่ได้บอกคุณย่าว่าคุณมีเงินห้าล้านบาทใช่ไหม?"ผู้เฒ่าเจียงหันหน้ามองไปทางเจียงยี่เจียงยี่ไม่ได้พูดอะไร เห็นได้ชัดว่ายอมรับแล้ว"คุณไม่อยากยอมรับแม่ ไม่อยากยอมรับลูกชาย ฉันก็ไม่ก้าวก่ายคุณ ในเมื่อเงินเอาให้คุณแล้ว คุณอยากจะใช้อะไรก็เรื่องของคุณ"เจียงเซิงกอดอก สายตาเย็นชา "แน่นอนว่าถ้าหากคุณยอมเอาเงินไปใช้ในทางที่ต้อง ฉันอาจจะให้โอกาสคุณอีกครั้ง แต่น่าเสียดายที่คุณปรับเปลี่ยนตัวเองไม่ได้แล้ว เอาเงินให้คุณมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ใด ๆ"มือที่วางอยู่บนขาของเจียงยี่กำแน่นอย่างอดไม่ได้ สีหน้าก็รู้สึกอับอายผู้เฒ่าเจียงมองดูเจียงเซิง "เซิงเซิง ในเมื่อเธอยังมีชีวิตอยู่ และก็ยอมช่วยอาของเธอกับลูกพี่ลูกน้องของเธอ...""คุณย่า คุณคิดมากเกินไปหรือเปล่า?" เจียงเซิงขัดคำพูดของเธอทันที "ฉันไม่ได้ช่วยพวกเขาโดยไม่มีเหตุผลหรอกนะคะ ฉันก็แค่ช่วยให้คุณได้เห็นความโหดร้ายของโลกนี้อย่างชัดเจน"ผู้เฒ่าเจียงมองไปทางเธอด้วยความเหม่อลอยเจียงเซิงลุกขึ้นเดินไปตรงหน้าต่าง และหันข้างมองไปทางพวกเขา "เพราะว
เพิ่งจะเข้าไปในห้อง เจียงยี่ก็อยู่ด้วย เจียงยี่นั่งอยู่บนเก้าอี้ บอดี้การ์ดที่อยู่ด้านหลังวางมือบนไหล่ของเขาไม่ให้เขาหนีไปได้ตอนที่ผู้เฒ่าเจียงเห็นผู้หญิงแปลกหน้าถูกพาตัวเข้ามา และคุกเข่าลงบนพื้น ก็งุนงงไปหมด "นี่คือ..."สิบเจ็ดพูดด้วยสีหน้านิ่งเฉย "ฉิงฉิงที่หลานชายของคุณพูดถึง คุณให้เธออธิบายกับคุณเองเถอะ"ฉิงฉิง?ผู้เฒ่าเจียงสายตามองไปที่ผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง ต้ายฉิงร้องไห้แล้วคลานมาที่ข้างเตียง "คุณย่าเจียง ขอโทษนะคะ ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่ควรหลอกลวงเจียงเฮง ขอร้องพวกคุณปล่อยฉันไปเถอะค่ะ"ผู้เฒ่าเจียงนึกขึ้นได้ว่าเจียงเฮงหลานชายของเธอนำเงินก้อนนั้นให้กับผู้หญิงคนนี้ เธอก็รู้สึกโมโหขึ้นมา และผลักฉิงฉิงออก "เธอยังมีหน้ามาหาฉันอีก? เงินของหลานชายฉันล่ะ?"ต้ายฉิงถูกผลักล้มลงกับพื้น ไหล่ของเธอสั่นเทา น้ำตาไหลลงแก้ม ชั่วขณะไม่รู้ว่าควรจะพูดเรื่องเงินก้อนนั้นที่เธอใช้ไปหมดแล้วอย่างไรดี“ฉิงฉิง!”เจียงเฮงปรากฏตัวนอกประตูและเห็นต้ายฉิงนั่งอยู่บนพื้น เขาจึงรีบเดินไปประคองเธอ "คุณย่า ฉิงฉิงมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร"“แกยังจะพูดอีก?” ผู้เฒ่าเจียงหน้าเขียวหน้าดำ "นังเด็กคนนี้หลอกเอาเงินของแก เ