เป็นเพราะกลอุบายที่เก่งกาจของเขาก็เท่านั้นภายใต้สถานการณ์ที่แตกต่างกันคนเราจะต้องรู้จักพลิกแพลงและใช้เล่ห์เหลี่ยม ถ้าหากไม่มีวิธีในการเอาชนะ จะจัดการศัตรูได้อย่างไร?ท่านผู้เฒ่าไม่อยากสนใจแล้ว เขาโบกมือพูด: "พวกนายจัดการเองแล้วกัน อย่างไรฉันแค่ต้องการคะแนน"ซือเย่เจ๋วออกจากคฤหาสน์ เดินไปข้างหน้ารถ ซูหลิงโหรวเรียกเขาเอาไว้เธอเดินมาด้านหลังเขา: "เย่เจ๋ว ฉันไม่ได้มีความหมายอย่างอื่น ฉันแค่พิจารณาถึงความคิดของคนอื่น......""ซูหลิงโหรว ยุ่งแต่เรื่องของตัวเองพอ อย่าให้ฉันรู้ว่าเธอมีการเคลื่อนไหวอยู่เบื้องหลัง" ซือเย่เจ๋วขึ้นไปนั่งบนรถโดยไม่หันหน้ากลับมามองมองดูรถแล่นออกไป ซูหลิงโหรวแข็งทื่ออยู่ที่เดิมนึกถึงคำพูดเมื่อครู่ของเขา ในใจสั่นไหวเธอไม่ได้ทำเรื่องอะไรที่โจ่งแจ้งกับเจียงเซิงเลย มีเพียงเรื่องแหวนหยกเรื่องเดียวดังนั้นเขารู้แล้วเหรอ?......วันต่อมาคะแนนการประเมินสมรรถภาพร่างกายติดไว้บนกระดานประกาศ คนกลุ่มหนึ่งล้อมรอบหน้ากระดานเพื่อดูประกาศระหว่างทางที่เจียงเซิงกับติงเมิ่งหลานกลัมาจากโรงอาหาร เมื่อผ่านกระดานประกาศก็เข้าไปดูด้วย ติงเมิ่งหลานหาชื่อของเจียงเซิงเจออย่างรวด
สำหรับวั่งฉีทำร้ายเธอครั้งสองครั้ง เธอควรจะคิดบัญชีนี้ให้ดี ๆ หน่อยแล้ววั่งฉีเดินออกมาจากหอพัก จู่ ๆ ก็เห็นเจียงเซิงกอดอกพิงปากบันไดรอเธออยู่เธอยืนนิ่ง ร่างกายประหม่าขึ้นมา: "แก......แกมาทำอะไรที่นี่?"น่าจะเป็นเพราะตอนนี้เธอตัวคนเดียว ถ้าปกติข้างกายมีคนเธอคงจะมีท่าทางอีกแบบหนึ่งเจียงเซิงอมยิ้มที่มุมปาก เดินมาทางเธอวั่งฉีแผ่นหลังแข็งทื่อ ถอยหลังไม่หยุด จนกระทั่งเจียงเซิงดึงเธอไปในพุ่มไม้ที่ด้านหลังตึกหอพัก"เจียงเซิง ถ้าแกกล้าแตะต้องฉัน ฉันจะ......""เธอจะทำไม?" เจียงเซิงขวางทางข้างหน้าเธอ: "ไม่ต้องกังวล แค่มีคำถามจะถามเธอก็เท่านั้นเอง"วั่งฉีตัวสั่นไปหมด คราวนี้เธอหวาดกลัวจริง ๆ: "เธออยากถามอะไร......"เจียงเซิง: "เธอหลอกฉันเข้าไปในเขตหวงห้าม เป็นเพราะกู้ยี่ฟานใช่ไหม?"วั่งฉีหลบสายตาเหมือนกับกลัวว่าเธอจะลงมือตบตัวเองได้ทุกเมื่อ แต่ก็ยังหลังตรงตอบกลับ: "ใช่......ใช่แล้วอย่างไร ใครใช้ให้เธอมาถึงก็ทำให้กู้ยี่ฟานตามตื๊อเธอไม่เลิก แถมยังเอาช็อกโกแลตที่ฉันบอกให้เขาเอาไปให้เธออีก!"ช็อกโกแลต?เจียงเซิงนึกขึ้นได้แล้ว: "ช็อกโกแลตนั้นจนถึงตอนนี้ฉันไม่เคยแตะต้องมาก่อน ถ้าเธออยา
เจียงเซิงไม่กลัวที่จะถูกกู้ยี่ฝานเห็นตัวเองในตอนนี้ เธอยิ้มแล้วเดินเข้าไป เหลือบมองวั่งฉีที่หลบอยู่ด้านหลังเขา: "ถูกต้อง เดิมทีฉันก็มีธาตุแท้แบบนี้ คนที่วางแผนใส่ฉัน ฉันไม่มีทางอ่อนข้อให้""กู้ยี่ฟาน นายฟังสิ......" วั่งฉีจับแขนของเขา ท่าทางน่าสงสารอย่างมากกู้ยี่ฟานนิ่งอึ้งอยู่ครู่หนึ่ง ถึงได้ดึงแขนออกจากมือวั่งฉีแล้วมองดูเจียงเซิง: "นางฟ้า เธอ......เธอถูกวั่งฉีข่มขู่ ดังนั้นถึงได้......"เป็นแบบนี้เหรอ?"นายคิดว่าฉันท่าทางเหมือนคนที่ถูกคนข่มขู่ไหม?"ดวงตาของเจียงเซิงเย็นชา พูดด้วยใบหน้านิ่งเฉย: "วั่งฉีเป็นเพราะนายถึงได้จัดการฉัน สิ่งที่ฉันได้รับจากการวางแผนของเธอฉันต้องทวงกลับมา ถ้าหากเธอยังทำตัวดี ๆ ไม่เป็น ฉันก็ไม่แคร์ที่จะปล่อยบันทึกเสียงออกไป"กู้ยี่ฟานมองดูเจียงเซิงที่อยู่ตรงหน้า มักรู้สึกว่าแปลกหน้าเล็กน้อย บางทีเป็นเพราะตั้งแต่เริ่มต้นเขาไม่เคยทำความรู้จักกับเธอเลยดูเหมือนตั้งแต่วันนั้น ต่อให้เจอกันที่โรงอาหาร กู้ยี่ฟานก็ไม่ได้เป็นฝ่ายเข้ามาทักทายแล้วเดิมทีติงเมิ่งหลานยังอยากจะทักทายกู้ยี่ฟาน แต่ตอนที่กู้ยี่ฟานเดินผ่านพวกเขาไปไม่พูดจาสักประโยคติงเมิ่งหลานรู้สึกประห
วั่งฉีนำ "หลักฐาน" ที่เธอรู้เกี่ยวกับเจียงเซิงกองไว้บนตัวของเจียงเซิง อย่างไรเธอก็เป็นคนแบบนั้นจริง ๆ วันนั้นกู้ยี่ฟานก็เห็นชัดเจนแล้วและคำพูดของวั่งฉีทำให้ในใจของติงเมิ่งหลานเริ่มสั่นคลอนไม่มั่นคง ถึงแม้ไม่ได้เชื่อคำพูดของวั่งฉีมากนัก แต่เธอไม่รู้จักพี่เจียงเซิงจริง ๆ ถึงขั้นที่แม้แต่เรื่องที่เธอมีลูกแล้วติงเมิ่งหลานก็ไม่รู้เลยยังมีท่านเจ๋วหรือว่าพี่เจียงเซิงเป็นอย่างที่วั่งฉีพูดจริง ๆ เหรอ?คุณชายกู้ไม่สนใจเธอ ก็เป็นเพราะรู้เรื่องพวกนี้ของพี่เจียงเซิงเหรอ?"ติงติง เธอคิดให้ดี เจียงเซิงมีความลับปิดบังต่อเพื่อนอย่างเธอ เห็นได้ชัดว่าไม่ได้เห็นเธอเป็นเพื่อน ทำไมเธอต้องกระตือรือร้นต่อคนที่ไม่สนใจใยดีเธอล่ะ?"คำพูดไม่กี่คำของวั่งฉีทำให้ติงเมิ่งหลานที่เดิมทีสั่นคลอนไม่มั่นใจเหมือนจะฉุกคิดขึ้นได้เธอเห็นพี่เจียงเซิงเป็นเพื่อน แต่เจียงเซิงก็ไม่เคยเล่าเรื่องของเธอให้ฟังจริง ๆ ถ้าหากเจียงเซิงเห็นตัวเองเป็นเพื่อน ทำไมจะต้องปิดบังตัวเองด้วยล่ะ......ในห้องวีไอพีเจียงเซิงมองดูอาหารบำรุงที่หลากหลายบนโต๊ะและพ่อครัวที่เรียงแถวอยู่ด้านหลังซือเย่เจ๋ว ถ้าหากที่นี่ไม่ใช่ค่ายฝึกอบรม เธอยังสงส
ในเมื่อเรเวียร์สอนความสามารถในการป้องกันตัวให้เธอ เช่นนั้น ก็น่าจะสอนอย่างอื่นด้วย?เจียงเซิงเห็นเขาจ้องมองตัวเองอยู่ตลอด เธอที่สีหน้านิ่งเฉยในใจกลับกระวนกระวายเป็นอย่างมากแต่เธอยังยิ้มแล้วตอบกลับ: “คุณลุงเรเวียร์เห็นฉันเลี้ยงลูกคนเดียวมีชีวิตอย่างยากลำบาก สอนการป้องกันตัวให้ฉันไม่เกินเหตุไปหรอกนะ?”ซือเย่เจ๋วยิ้ม : “แน่นอน”ต่อให้ตอนนี้ภรรยาตัวน้อยชองเขาไม่บอกเขา แต่ต่อไปเขาก็ต้องรู้อยู่แล้วเจียงเซิงทานอาหารเสร็จแล้วออกจากห้องวีไอพีที่ชั้นสอง วั่งฉีที่ซ่อนอยู่ในมุมอับก็รอจับเธอว่าเกาะผู้บัญชาชั้นสูงคนไหนกันแน่ใครจะรู้ว่า ในตอนที่เห็นหลัวหู่รับซือเย่เจ๋วออกมาจากในห้องวีไอพี สีหน้าของวั่งฉีก็เปลี่ยนไปผู้ชายในห้องวีไอพีก็คือท่านเจ๋ว?!หึ ถึงว่าติงเมิ่งหลานพูดว่าเจียงเซิงปฏิเสธกู่ยี่ฟาน ที่แท้เป็นเพราะจับจ้องไปที่ผู้ชายที่โดดเด่นยิ่งกว่ากู้ยี่ฟานนี่เอง!งั้นก็อย่าโทษเธอแล้วกัน!ติงเมิ่งหลานนั่งอยู่บนเตียงมองดูโทรศัพท์อยู่ เมื่อได้ยินเสียงคนเปิดประตูถึงได้รีบวางโทรศัพท์ลง มองดูเจียงเซิงที่ปรากฏตัวอยู่ที่นอกประตูในตอนที่สบตากับเจียงเซิง เธอหลบสายตาไปเล็กน้อย จากนั้นยิ้มพูด “
และในกลุ่มคน เธอเห็นติงเมิ่งหลานที่อยู่ด้วยกันกับวั่งฉีวั่งฉีเห็นเจียงเซิงที่โดดเดี่ยวอยู่ท่ามกลางกลุ่มคน จึงยิ้มมุมปากอย่างอดไม่ได้แล้วเดินเข้ามาหาเธอ: "ฉันคิดว่าเธอมีความสามารถอะไรซะอีก มิน่าเธอถึงกล้ากำเริบเสิบสานขนาดนี้ ที่แท้ก็ถือว่ามีท่านเจ๋วอยู่สินะ?"ติงเมิ่งหลานไม่กล้าสบตากับเจียงเซิง ถึงแม้ข่าวลือนี้เธอไม่ได้เป็นคนแพร่งพรายออกไป แต่เมื่อคืนตอนที่เธอเอ่ยปากถามเจียงเซิงก็ยังเลือกที่จะปิดบังตัวเองเจียงเซิงไม่เห็นตัวเองเป็นเพื่อนด้วยซ้ำ ทำไมเธอยังต้องสนใจอีกล่ะ?เห็นสายตาของเจียงเซิงมองไปทางติงเมิ่งหลาน วั่งฉีจึงวางมือบนบ่าของติงเมิ่งหลานแล้วยิ้มพูด: "เป็นอย่างไรบ้าง ตอนนี้แม้แต่ติงติงก็ไม่เชื่อเธอแล้ว ในเมื่อผู้หญิงที่มีลูกแล้วแถมยังยั่วผู้ชายไปทั่วแบบเธอ ไม่คู่ควรที่จะยืนอยู่ที่นี่!"วั่งฉีเพิ่งพูดจบ คนที่อยู่รอบ ๆ ต่างพากันตกตะลึง"แม่เจ้า เธอมีลูกแล้วเหรอ?""เห็นเธออายุยังน้อย ไม่แน่อาจจะท้องก่อนแต่งก็ได้""เดาว่าพ่อของเด็กคงไม่รู้ว่าเป็นใครสินะ!"เสียงเหน็บแนมดังเข้าหูของเจียงเซิงไม่หยุด ฟังคำซุบซิบนินทาที่เกี่ยวข้องกับเธอจนชินแล้ว เจียงเซิงยังคงหน้านิ่งไม่มีอารมณ
ความอยากรู้อยากเห็นของคนที่ล้อมรอบอยู่กระตุ้นขึ้นมา บางคนเริ่มยุยงวั่งฉีให้เดิมพันกับเธอวั่งฉีหน้าซีดเล็กน้อย ทำไมผู้หญิงสารเลวคนนี้ไม่หวาดกลัวเลยสักนิดนะ?ถ้าหากเธอเดิมพันแพ้จะทำอย่างไร?"วั่งฉี เธอเชื่อซูหลิงโหรวไม่ใช่เหรอ ในเมื่อเชื่องั้นทำไมไม่กล้าเดิมพันล่ะ?" เจียงเซิงยิ้ม"ใครบอกว่าฉันไม่กล้า!" วั่งฉีกัดฟันพูด: "เจียงเซิง เธอรอคุกเข่ากราบขอโทษได้เลย!"วั่งฉียังคงเลือกที่จะเชื่อพี่หลิงโหรว เพราะเธอรู้ว่าพี่หลิงโหรวไม่มีทางหลอกลวงเธอเธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาซูหลิงโหรว และเปิดลำโพงหลังจากซูหลิงโหรวรับสาย วั่งฉีรีบพูดขึ้น "พี่หลิงโหรว พี่ต่างหากที่เป็นผู้หญิงของท่านเจ๋วใช่ไหมคะ พี่รีบยอมรับสิ!"ซูหลิงโหรวเหมือนจะฟังความหมายอะไรออก จึงขมวดคิ้วแน่น: "วั่งฉี เธอกำลังพูดอะไรน่ะ?""พี่หลิงโหรว ฉัน......"โทรศัพท์ถูกเจียงเซิงแย่งไป เจียงเซิงหัวเราะกับคนในสายแล้วพูดขึ้น: "ซูหลิงโหรว รบกวนคุณพูดในโทรศัพท์ให้ดี ๆ ว่าคุณใช่ผู้หญิงของซือเย่เจ๋วหรือไม่?"เมื่อได้ยินเสียงของเจียงเซิง ซูหลิงโหรวสีหน้าเปลี่ยนไป สายตาเริ่มดุดันขึ้นมานังบ้าวั่งฉีเป็นควายเหรอ?กล้ามากที่ใช้ชื่อของเธอ
การตบหน้าแบบนี้เร็วเกินไปหน่อยไหม!วั่งฉีที่มีภาพลักษณ์ "ผู้เสียหาย" ในความคิดของพวกเธอพังทลายทันที มีผู้หญิงางคนเมื่อไม่กี่วันก่อนยังได้ยินวั่งฉีระบายความทุกข์ว่าถูกเด็กใหม่รังแก แถมยังถูกตบ ตอนนี้ได้ฟัง เป็นเพราะเธอหาเรื่องใส่ตัวเองชัด ๆ!ในเมื่อวั่งฉีกล้าทำขนาดนี้แล้ว เช่นนั้นเรื่องของเด็กใหม่เธอจะแต่งเรื่องออกมาไม่ได้เหรอ?วั่งฉีหน้าซีดขาวในทันที คนทั้งคนโซเซไปด้านหลัง สายตาที่มองมายังตัวเธอไม่ใช่สายตาที่เป็นมิตรอีกต่อไปแล้ว แต่เป็นการถกเถียงและวิพากษ์วิจาร์ที่มีต่อเธอ"เจียงเซิง แก......แกทำไมถึงทำแบบนี้!"เธอตะโกนออกมาอย่างบ้าคลั่ง น้ำเสียงสะอื้นและสั่นคลอน: "แกมีสิทธิ์อะไรทำกับฉันแบบนี้!""แล้วเธอล่ะ?" เจียงเซิงหน้าโมโหและน่าเกรงขาม: "เธอมีสิทธิ์อะไรถึงทำกับฉันแบบนี้? ฉันปล่อยเธอไปครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ครั้งนี้เธอหาเรื่องเองชัด ๆ""ฉันเคยพูดไว้ไม่ใช่เหรอ ทำคนเดียวรับคนเดียว เรื่องที่เธอกล้าทำถึงตอนสุดท้ายไม่กล้ารับ เธอมีสิทธิ์อะไรที่ออกมาใส่ร้ายป้ายสีฉันต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้?"เธอเจียงเซิงเคยปล่อยวั่งฉีไปแล้วครั้งหนึ่ง นั่นเป็นการทำผิดต่อตัวเองมากแค่ไหนที่มี "ชื่อเสีย"
*ถูกลูกเล่นของ Soul จิวเวลรี่ทำให้อ้วกแล้ว*แฟรงค์มองดูเธอ "เซิงเซิง จำนวนยอดขายของ Soul จิวเวลรี่ในวันนี้ลดลงอีกสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว บริษัทได้รับสายโทรศัพท์เพื่อสละออเดอร์และคืนเงินหลายออเดอร์แล้วดวงตาของเจียงเซิงขยับเขยื้อน "ดูท่าพวกเขาอยากจะบีบบังคับให้ฉันยอมจำนนสินะ""งั้นคุณวางแผนจะทำอย่างไร?" แฟรงค์รู้ว่าเธอไม่เปิดเผยตัวตนเพราะมีเหตุผลของเธอ ถ้าหากมีวิธีอื่นก็จะดีอย่างมากเจียงเซิงยื่นแท็บเล็ตไปให้เขา และหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา "ทางด้านผิ่นเก๋อยืนยันเป็นมั่นว่าฉันลอกเลียนแบบทั้ง Soul จิวเวลรี่ ถึงเวลาที่ฉันควรจะตอบโต้แล้ว"ในขณะที่กระแส "การลอกเลียนแบบ" บนอินเทอร์เน็ตกำลังโด่งดัง คำค้นหายอดนิยมของเฟซบุ๊กก็มีเพิ่มขึ้นมาหนึ่งประเด็น*ผิ่นเก๋อของปลอม*ผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่ถูกเปิดเผยออกมาว่าแอบลดวัสดุและขั้นตอนการก่อสร้าง ขายเครื่องประดับปลอมในราคาสูงและหลอกลวงลูกค้า และสร้างข่าวลือเรื่องที่โซราเสียชีวิต แม้กระทั่งข่าวลือที่เจ้าของผิ่นเก๋อมอมเหล้าเด็กสาวในคลับเฮ้าส์ก็ถูกเปิดโปงจนหมดเปลือกการเปิดเผยอย่างต่อเนื่องนี้ ทำให้เหตุการณ์ของ Soul จิวเวลรี่ถูกดันลงไปทันที เพียงแค่เรื่องที่
"ทำไม่ได้" ซือเย่เจ๋วเสียงทุ้มต่ำ จากนั้นจูบเธออย่างแรง และยิ่งอยู่ยิ่งรุนแรงขึ้นอาจเป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง เมื่อคืนฝนตกหนักทำให้อุณหภูมิเปลี่ยนไปหนาวเย็นกะทันหัน ใบไม้สีเหลืองที่แห้งเหี่ยวปกคลุมบนพื้น สัมผัสกับแอ่งน้ำเจียงเซิงกับซือเย่เจ๋วเพิ่งไปส่งเจ้าตัวเล็กทั้งสองคนที่โรงเรียนประถมเอกชน จากนั้นตอนที่เดินทางไปส่งเจียงเซิงที่ Soul จิวเวลรี่ เจียงเซิงง่วงจนพิงร่างกายของเขาแล้วงีบหลับซือเย่เจ๋วหันหน้าไปจ้องมองเธอ จากนั้นก็ยกมือขึ้นรวบไรผมที่อยู่ตรงหน้าผากของเธอ "ยังง่วงเหรอ?""อืม"เจียงเซิงบ่นอย่างซื่อตรง "โทษคุณเลย"เขายิ้ม จากนั้นก็มก้มตัวมาที่ข้างหูของเธอ "หรือว่าไม่ใช่ความผิดของคุณเหรอ?"เจียงเซิงเงยหน้าขึ้นและวางคางบนไหล่เพื่อมองดูเขา "ไม่ได้ให้คุณทำสองยกทั้งคืนสักหน่อย"ซือเย่เจ๋วที่สูญเสียความทรงจำไม่เพียงควบคุมอารมณ์ไม่ได้ แถมยังมีกำลังวังชาเต็มเปี่ยม เกือบพรากชีวิตแก่ ๆ ของเธอซือเย่เจ๋วไม่ได้พูดอะไร แต่ในใจกลับรู้สึกพึ่งพอใจอย่างมากในตอนนี้โทรศัพท์ของเจียงเซิงดังขึ้น คุณอาแฟรงค์โทรมาหาเธอแต่เช้าเกรงว่าต้องมีเรื่องใหญ่แน่นอนเธอรับสาย "คุณอาแฟรงค์?""เซิงเซิง
แต่ชาวเน็ตส่วนใหญ่คิดว่านี่ไม่ใช่การลอกเลียนแบบ ต่อให้สไตล์เหมือนกันแต่ยังมีจุดเด่นอื่นอีก สถานการณ์แบบนี้ไม่สามารถจำกัดความว่าเป็นการลอกเลียนแบบได้ ขอถามกลับว่าคนที่พูดว่าลอกเลียนแบบมีสิทธิอะไรคิดว่าคนเขาจะต้องลอกเลียนแบบแน่นอนน่าจะเป็นเพราะผู้บริหารของผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่เห็นว่านี่ไม่เพียงไม่ได้กดหัวคนอื่น แต่กลับเป็นวิธีที่ "ใจร้อนอยากประสบความสำเร็จแต่กลับทำให้เสียการ" จึงอยากเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมออกแต่คิดไม่ถึงว่า พวกเขาไม่สามารถเพิกถอนได้ เพราะว่ามีคนทุ่มเงินจำนวนมากซื้อคำค้นหายอดนิยมนี้ ผิ่นเก๋อของพวกเขาออกเงินสองเท่า ฝ่ายตรงข้ามก็ออกเงินสี่เท่า ตอนนี้เล่นเกมทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมแล้วเจียงเซิงนั่งดูหน้าแชทเฟซบุ๊กอยู่ตรงหน้าคอมพิวเตอร์ แฟรงค์เดินเข้ามา "เซิงเซิง ผิ่นเก๋อยอมแพ้การเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมแล้ว ดูท่าว่าจะทุ่มเงินไม่ไหวแล้ว"เจียงเซิงหรี่ตาลง "พวกเขาทำใจทุ่มเงินไม่ได้ แต่น่าจะมีวิธีอื่นอีก"ทางด้านเจียงเซิงทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมกับผิ่นเก๋อ ทางด้านซือเย่เจ๋วก็ทุ่มเงินล้มธุรกิจของหานซื่อกรุ๊ป หลัวเชว่มองดูจนตกตะลึงตาค้าง สามีภรรยาคู่นี้ตอนนี้เป็นคนโง่ที่เงินเ
เซียวเถียนเถียนใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา เธอตกใจจนถอยหลังไปสองสามก้าว จากนั้นก็หันหลังวิ่งหนีไปเมื่อมาถึงนอกห้องทำงานของเจียงเซิง คนทั้งคนยังคงอยู่ในสภาพเครื่องรวน เมื่อเข้าไปข้างในก็ทรุดนั่งลงบนโซฟา ขาก็อ่อนแรงไปหมดเจียงเซิงเดินออกมาจากห้องทำงาน เห็นท่าทางเหม่อลอยของเซียวเถียนเถียน ก็ยิ้มบาง "เกิดอะไรขึ้น?"เซียวเถียนเถียนลุกนั่งทันที และวางกาแฟบนโต๊ะทำงานของเธอ "ซื้อ...ซื้อมาให้เธอ"เจียงเซิงเดินไปตรงหน้าโต๊ะแล้วหยิบกาแฟขึ้นมา เห็นเธอพูดจาติดขัดจึงถามขึ้น "เจอเรื่องอะไรมา ทำไมถึงตกใจขนาดนี้?""ก็...ก็ไม่ได้เจอเรื่องอะไร ก็แค่ระหว่างทางที่ซื้อกาแฟได้เจอกับหานเซิงเข้า เกือบจะทะเลาะกับเธอขึ้นมา"เจียงเซิงถือกาแฟเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงาน "แค่นั้นเหรอ?"เธอเม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า "ใช่""งั้นเธอทำไมหน้าแดงขนาดนี้?""นั่นเป็นเพราะว่าฉันร้อน!" เซียวเถียนเถียนโกรธขึ้นมาทันที เจียงเซิงมองท่าทางประหม่าของเธอออก จึงหรี่ตาจ้องมองเธออยู่นานต่อให้เจอกับหานเซิงแล้วทะเลาะกัน ก็ไม่ถึงกับทำให้เธอกลายเป็นแบบนี้ ท่าทางแบบนี้เห็นได้ชัดว่า...ทำเรื่องไม่ดีอะไรมา"อ่อใช่เซิงเซิง บนเฟซบุ๊กเรื่องลอกเลียนแ
"เธอ…"“ผู้ชายทุกคนชอบผู้หญิงที่อ่อนโยนและน่ารัก คนปากคอเราะรายอย่างเธอชีวิตนี้คงไม่มีคนชอบเธอหรอก”ขณะพูด เธอก็พูดเหน็บแนม "ถ้าไม่ใช่ว่าเธอเป็นลูกสาวตระกูลเซียว จะมีการแต่งงานเกี่ยวดองกันกับตระกูลลู่ที่ดีขนาดนี้เหรอ คุณชายลู่แต่งงานกับเธอซวยไปแปดชาติจริง ๆ"เซียวเถียนเถียนสีหน้าเคร่งขรึมลงทันที เธอง้างมือขึ้นจะฟาดหน้าของหานเซิงหานเซิงเงยหน้าขึ้นให้เธอตบแต่ฝ่ามือยังไม่ทันโดน ข้อมือก็ถูกคนจับเอาไว้ลู่ลี่เซินดึงเซียวเถียนเถียนไปข้างหลังแล้วมองดูเธอ "ลงมือต่อหน้าคนมากมายแบบนี้ ไม่รู้จักอายบ้างเหรอ?"ผู้คนรอบตัวพากันมองมาทางนี้ เหมือนกำลังจะรอดูฉากเด็ดอยู่ ถ้าหากเมื่อครู่เซียวเถียนเถียนตบลงไปจริง ๆ ก็จะมีคนถ่ายรูปเอาไว้และเอาเรื่องนี้ไปพูดกันแต่เซียวเถียนเถียนไม่ยอมแพ้ เธอสะบัดมือของเขาออก "นายยุ่งอะไรกับฉันด้วย""คุณชายลู่ คุณมาได้พอดีเลย คู่หมั้นของคุณร้ายกาจ เมื่อครู่ยังอยากจะตบฉันด้วย ถ้าคุณไม่ห้ามไว้ หน้าของฉันคงบวมไปแล้วหานเซิงท่าทางน่าสงสาร เธอมีความมั่นใจคิดว่าผู้ชายชอบแบบนี้กันหมด แทบอยากจะให้ลู่ลี่เซินเห็นใจเธอ สงสารเธอ และทะเลาะกับเซียวเถียนเถียนขึ้นมาแต่หานเซิง
กู้เฉินกวางยิ้มบางแต่ไม่ได้พูดอะไรหลัวเชว่มองไปที่ซือเย่เจ๋วและพูดไม่ออก นี่เห็นได้ชัดว่าถูกคุณเจียงควบคุมจนอยู่หมัดแล้ว......บริษัท Soul จิวเวลรี่สิบเจ็ดบอกว่าเจียงยี่กับผู้เฒ่าเจียงได้พาเจียงเฮงกลับเมืองจินเฉิงแล้วเงินห้าแสนกว่าบาทที่ต้ายฉิงใช้จ่ายไปตอนนี้ได้ตามกลับผ่านทางตำรวจแล้ว แต่ก็ตามกลับมาได้แค่แสนกว่าบาท แต่ต้ายฉิงถูกควบคุมการเดินทาง อยากจะหนีก็หนีไม่ได้เจียงเซิงก็ไม่ได้พูดอะไรมากมายหลังจากผ่านเรื่องนี้ไปผู้เฒ่าเจียงคงจะทำตัวดีไม่น้อย จากอายุของเธอในตอนนี้อยากจะดิ้นรนต่อไป เกรงว่าคงจะไม่มีโอกาสดิ้นรนแล้วหลายชายของตัวเองล้างผลาญครอบครัวใช้เงินสะสมของเธอจนหมด แถมยังถูกหลอก แม้แต่ลูกชายก็ยังไม่ยอมรับเธอ ตอนนี้เธอก็ไม่มีอารมณ์คิดถึงมรดกของพ่อของเธอแล้ว*อลิซลอกเลียนแบบโซรา*พาดหัวข่าวเฟซบุ๊กที่โดดเด่นบนหน้าจอทำให้เจียงเซิงที่เพิ่งดื่มน้ำแทบจะพ่นน้ำออกมาเธอลอกเลียนแบบตัวเอง?เมื่อเปิดดู ก็เป็นเรื่องประดับ*รุ่นคู่รัก*ที่เธอออกแบบคล้ายกับสไตล์การออกแบบของเธอก่อนหน้านี้ แต่ไม่รู้ว่าใครตั้งใจพูดตัดสินเรื่องนี้ว่าลอกเลียนแบบ ชาวเน็ตที่ไม่ผ่านกรองการครุ่นคิดก็เชื่อจ
กู้เฉินกวางถอดแว่นกันแดดออกแล้วใส่ไว้ในกระเป๋าตรงหน้าอก "สถานการณ์ของนายแบบนี้ คงไม่ต้องให้ฉันแนะนำตัวเองใช่ไหม?"ซือเย่เจ๋วก็มองออกว่าเขาคือใคร "อยู่ในวงการบันเทิงได้ไม่เลวเลยสินะ"กู้เฉินกวางหัวเราะเบา ๆ “คนอื่นบอกว่านายความจำเสื่อมฉันยังไม่เชื่อ”เขาเดินไปที่โซฟาแล้วนั่งลงด้วยตัวเอง หลัวเชว่รินชาให้เขาหนึ่งแก้วซือเย่เจ๋วลุกขึ้นยืนและเดินอ้อมโต๊ะทำงานไปตรงหน้าโซฟา จากนั้นก็ปลดกระดุมชุดสูทออกแล้วนั่งลง "แขกหายากสินะ มีธุระอะไรกับฉัน?""มีธุระจริง ๆ นั่นแหละ" กู้เฉินกวางยกแก้วน้ำชาขึ้น "ฉันคิดว่านายคงจะเคยรู้จักกับหานจื้อเหนียนสินะ?"ในตอนที่ซือเย่เจ๋วกำลังครุ่นคิดว่าหานจื้อเหนียนคือใคร หลัวเชว่ก็ก้มตัวชี้แนะ "ประธานหานคนนั้นเมื่อครั้งที่แล้ว"ซือเย่เจ๋วหรี่ตาลงและยิ้มอย่างมีความหมายลึกซึ้ง "ทำไม ตระกูลหานมุ่งเป้าไปที่นายเหรอ?"กู้เฉินกวางไม่ได้พูดอะไรซือเย่เจ๋วสีหน้าจริงจังขึ้นมา "ฉันว่านายก็อายุเยอะแล้ว ควรจะพิจารณาเรื่องการแต่งงานได้แล้ว?"กู้เฉินกวางวางแก้วชาลง และครุ่นคิด “เร่งให้ฉันแต่งงาน นายเป็นห่วงอะไร?”ซือเย่เจ๋วสีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อย จากนั้นกอดอกมองเขา "ตาข้าง
เจียงเซิงไม่ปฏิเสธ "ใช่ค่ะ" เธอหัวเราะเบา ๆ "รวมทั้งเงินห้าล้านบาทนั่นด้วย นั่นก็เป็นเงินที่ฉันให้ คุณก็ไม่ได้บอกคุณย่าว่าคุณมีเงินห้าล้านบาทใช่ไหม?"ผู้เฒ่าเจียงหันหน้ามองไปทางเจียงยี่เจียงยี่ไม่ได้พูดอะไร เห็นได้ชัดว่ายอมรับแล้ว"คุณไม่อยากยอมรับแม่ ไม่อยากยอมรับลูกชาย ฉันก็ไม่ก้าวก่ายคุณ ในเมื่อเงินเอาให้คุณแล้ว คุณอยากจะใช้อะไรก็เรื่องของคุณ"เจียงเซิงกอดอก สายตาเย็นชา "แน่นอนว่าถ้าหากคุณยอมเอาเงินไปใช้ในทางที่ต้อง ฉันอาจจะให้โอกาสคุณอีกครั้ง แต่น่าเสียดายที่คุณปรับเปลี่ยนตัวเองไม่ได้แล้ว เอาเงินให้คุณมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ใด ๆ"มือที่วางอยู่บนขาของเจียงยี่กำแน่นอย่างอดไม่ได้ สีหน้าก็รู้สึกอับอายผู้เฒ่าเจียงมองดูเจียงเซิง "เซิงเซิง ในเมื่อเธอยังมีชีวิตอยู่ และก็ยอมช่วยอาของเธอกับลูกพี่ลูกน้องของเธอ...""คุณย่า คุณคิดมากเกินไปหรือเปล่า?" เจียงเซิงขัดคำพูดของเธอทันที "ฉันไม่ได้ช่วยพวกเขาโดยไม่มีเหตุผลหรอกนะคะ ฉันก็แค่ช่วยให้คุณได้เห็นความโหดร้ายของโลกนี้อย่างชัดเจน"ผู้เฒ่าเจียงมองไปทางเธอด้วยความเหม่อลอยเจียงเซิงลุกขึ้นเดินไปตรงหน้าต่าง และหันข้างมองไปทางพวกเขา "เพราะว
เพิ่งจะเข้าไปในห้อง เจียงยี่ก็อยู่ด้วย เจียงยี่นั่งอยู่บนเก้าอี้ บอดี้การ์ดที่อยู่ด้านหลังวางมือบนไหล่ของเขาไม่ให้เขาหนีไปได้ตอนที่ผู้เฒ่าเจียงเห็นผู้หญิงแปลกหน้าถูกพาตัวเข้ามา และคุกเข่าลงบนพื้น ก็งุนงงไปหมด "นี่คือ..."สิบเจ็ดพูดด้วยสีหน้านิ่งเฉย "ฉิงฉิงที่หลานชายของคุณพูดถึง คุณให้เธออธิบายกับคุณเองเถอะ"ฉิงฉิง?ผู้เฒ่าเจียงสายตามองไปที่ผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง ต้ายฉิงร้องไห้แล้วคลานมาที่ข้างเตียง "คุณย่าเจียง ขอโทษนะคะ ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่ควรหลอกลวงเจียงเฮง ขอร้องพวกคุณปล่อยฉันไปเถอะค่ะ"ผู้เฒ่าเจียงนึกขึ้นได้ว่าเจียงเฮงหลานชายของเธอนำเงินก้อนนั้นให้กับผู้หญิงคนนี้ เธอก็รู้สึกโมโหขึ้นมา และผลักฉิงฉิงออก "เธอยังมีหน้ามาหาฉันอีก? เงินของหลานชายฉันล่ะ?"ต้ายฉิงถูกผลักล้มลงกับพื้น ไหล่ของเธอสั่นเทา น้ำตาไหลลงแก้ม ชั่วขณะไม่รู้ว่าควรจะพูดเรื่องเงินก้อนนั้นที่เธอใช้ไปหมดแล้วอย่างไรดี“ฉิงฉิง!”เจียงเฮงปรากฏตัวนอกประตูและเห็นต้ายฉิงนั่งอยู่บนพื้น เขาจึงรีบเดินไปประคองเธอ "คุณย่า ฉิงฉิงมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร"“แกยังจะพูดอีก?” ผู้เฒ่าเจียงหน้าเขียวหน้าดำ "นังเด็กคนนี้หลอกเอาเงินของแก เ