ในเมื่อเรเวียร์สอนความสามารถในการป้องกันตัวให้เธอ เช่นนั้น ก็น่าจะสอนอย่างอื่นด้วย?เจียงเซิงเห็นเขาจ้องมองตัวเองอยู่ตลอด เธอที่สีหน้านิ่งเฉยในใจกลับกระวนกระวายเป็นอย่างมากแต่เธอยังยิ้มแล้วตอบกลับ: “คุณลุงเรเวียร์เห็นฉันเลี้ยงลูกคนเดียวมีชีวิตอย่างยากลำบาก สอนการป้องกันตัวให้ฉันไม่เกินเหตุไปหรอกนะ?”ซือเย่เจ๋วยิ้ม : “แน่นอน”ต่อให้ตอนนี้ภรรยาตัวน้อยชองเขาไม่บอกเขา แต่ต่อไปเขาก็ต้องรู้อยู่แล้วเจียงเซิงทานอาหารเสร็จแล้วออกจากห้องวีไอพีที่ชั้นสอง วั่งฉีที่ซ่อนอยู่ในมุมอับก็รอจับเธอว่าเกาะผู้บัญชาชั้นสูงคนไหนกันแน่ใครจะรู้ว่า ในตอนที่เห็นหลัวหู่รับซือเย่เจ๋วออกมาจากในห้องวีไอพี สีหน้าของวั่งฉีก็เปลี่ยนไปผู้ชายในห้องวีไอพีก็คือท่านเจ๋ว?!หึ ถึงว่าติงเมิ่งหลานพูดว่าเจียงเซิงปฏิเสธกู่ยี่ฟาน ที่แท้เป็นเพราะจับจ้องไปที่ผู้ชายที่โดดเด่นยิ่งกว่ากู้ยี่ฟานนี่เอง!งั้นก็อย่าโทษเธอแล้วกัน!ติงเมิ่งหลานนั่งอยู่บนเตียงมองดูโทรศัพท์อยู่ เมื่อได้ยินเสียงคนเปิดประตูถึงได้รีบวางโทรศัพท์ลง มองดูเจียงเซิงที่ปรากฏตัวอยู่ที่นอกประตูในตอนที่สบตากับเจียงเซิง เธอหลบสายตาไปเล็กน้อย จากนั้นยิ้มพูด “
และในกลุ่มคน เธอเห็นติงเมิ่งหลานที่อยู่ด้วยกันกับวั่งฉีวั่งฉีเห็นเจียงเซิงที่โดดเดี่ยวอยู่ท่ามกลางกลุ่มคน จึงยิ้มมุมปากอย่างอดไม่ได้แล้วเดินเข้ามาหาเธอ: "ฉันคิดว่าเธอมีความสามารถอะไรซะอีก มิน่าเธอถึงกล้ากำเริบเสิบสานขนาดนี้ ที่แท้ก็ถือว่ามีท่านเจ๋วอยู่สินะ?"ติงเมิ่งหลานไม่กล้าสบตากับเจียงเซิง ถึงแม้ข่าวลือนี้เธอไม่ได้เป็นคนแพร่งพรายออกไป แต่เมื่อคืนตอนที่เธอเอ่ยปากถามเจียงเซิงก็ยังเลือกที่จะปิดบังตัวเองเจียงเซิงไม่เห็นตัวเองเป็นเพื่อนด้วยซ้ำ ทำไมเธอยังต้องสนใจอีกล่ะ?เห็นสายตาของเจียงเซิงมองไปทางติงเมิ่งหลาน วั่งฉีจึงวางมือบนบ่าของติงเมิ่งหลานแล้วยิ้มพูด: "เป็นอย่างไรบ้าง ตอนนี้แม้แต่ติงติงก็ไม่เชื่อเธอแล้ว ในเมื่อผู้หญิงที่มีลูกแล้วแถมยังยั่วผู้ชายไปทั่วแบบเธอ ไม่คู่ควรที่จะยืนอยู่ที่นี่!"วั่งฉีเพิ่งพูดจบ คนที่อยู่รอบ ๆ ต่างพากันตกตะลึง"แม่เจ้า เธอมีลูกแล้วเหรอ?""เห็นเธออายุยังน้อย ไม่แน่อาจจะท้องก่อนแต่งก็ได้""เดาว่าพ่อของเด็กคงไม่รู้ว่าเป็นใครสินะ!"เสียงเหน็บแนมดังเข้าหูของเจียงเซิงไม่หยุด ฟังคำซุบซิบนินทาที่เกี่ยวข้องกับเธอจนชินแล้ว เจียงเซิงยังคงหน้านิ่งไม่มีอารมณ
ความอยากรู้อยากเห็นของคนที่ล้อมรอบอยู่กระตุ้นขึ้นมา บางคนเริ่มยุยงวั่งฉีให้เดิมพันกับเธอวั่งฉีหน้าซีดเล็กน้อย ทำไมผู้หญิงสารเลวคนนี้ไม่หวาดกลัวเลยสักนิดนะ?ถ้าหากเธอเดิมพันแพ้จะทำอย่างไร?"วั่งฉี เธอเชื่อซูหลิงโหรวไม่ใช่เหรอ ในเมื่อเชื่องั้นทำไมไม่กล้าเดิมพันล่ะ?" เจียงเซิงยิ้ม"ใครบอกว่าฉันไม่กล้า!" วั่งฉีกัดฟันพูด: "เจียงเซิง เธอรอคุกเข่ากราบขอโทษได้เลย!"วั่งฉียังคงเลือกที่จะเชื่อพี่หลิงโหรว เพราะเธอรู้ว่าพี่หลิงโหรวไม่มีทางหลอกลวงเธอเธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาซูหลิงโหรว และเปิดลำโพงหลังจากซูหลิงโหรวรับสาย วั่งฉีรีบพูดขึ้น "พี่หลิงโหรว พี่ต่างหากที่เป็นผู้หญิงของท่านเจ๋วใช่ไหมคะ พี่รีบยอมรับสิ!"ซูหลิงโหรวเหมือนจะฟังความหมายอะไรออก จึงขมวดคิ้วแน่น: "วั่งฉี เธอกำลังพูดอะไรน่ะ?""พี่หลิงโหรว ฉัน......"โทรศัพท์ถูกเจียงเซิงแย่งไป เจียงเซิงหัวเราะกับคนในสายแล้วพูดขึ้น: "ซูหลิงโหรว รบกวนคุณพูดในโทรศัพท์ให้ดี ๆ ว่าคุณใช่ผู้หญิงของซือเย่เจ๋วหรือไม่?"เมื่อได้ยินเสียงของเจียงเซิง ซูหลิงโหรวสีหน้าเปลี่ยนไป สายตาเริ่มดุดันขึ้นมานังบ้าวั่งฉีเป็นควายเหรอ?กล้ามากที่ใช้ชื่อของเธอ
การตบหน้าแบบนี้เร็วเกินไปหน่อยไหม!วั่งฉีที่มีภาพลักษณ์ "ผู้เสียหาย" ในความคิดของพวกเธอพังทลายทันที มีผู้หญิงางคนเมื่อไม่กี่วันก่อนยังได้ยินวั่งฉีระบายความทุกข์ว่าถูกเด็กใหม่รังแก แถมยังถูกตบ ตอนนี้ได้ฟัง เป็นเพราะเธอหาเรื่องใส่ตัวเองชัด ๆ!ในเมื่อวั่งฉีกล้าทำขนาดนี้แล้ว เช่นนั้นเรื่องของเด็กใหม่เธอจะแต่งเรื่องออกมาไม่ได้เหรอ?วั่งฉีหน้าซีดขาวในทันที คนทั้งคนโซเซไปด้านหลัง สายตาที่มองมายังตัวเธอไม่ใช่สายตาที่เป็นมิตรอีกต่อไปแล้ว แต่เป็นการถกเถียงและวิพากษ์วิจาร์ที่มีต่อเธอ"เจียงเซิง แก......แกทำไมถึงทำแบบนี้!"เธอตะโกนออกมาอย่างบ้าคลั่ง น้ำเสียงสะอื้นและสั่นคลอน: "แกมีสิทธิ์อะไรทำกับฉันแบบนี้!""แล้วเธอล่ะ?" เจียงเซิงหน้าโมโหและน่าเกรงขาม: "เธอมีสิทธิ์อะไรถึงทำกับฉันแบบนี้? ฉันปล่อยเธอไปครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ครั้งนี้เธอหาเรื่องเองชัด ๆ""ฉันเคยพูดไว้ไม่ใช่เหรอ ทำคนเดียวรับคนเดียว เรื่องที่เธอกล้าทำถึงตอนสุดท้ายไม่กล้ารับ เธอมีสิทธิ์อะไรที่ออกมาใส่ร้ายป้ายสีฉันต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้?"เธอเจียงเซิงเคยปล่อยวั่งฉีไปแล้วครั้งหนึ่ง นั่นเป็นการทำผิดต่อตัวเองมากแค่ไหนที่มี "ชื่อเสีย"
เจียงเซิงตรวจสอบอุปกรณ์ปืนไรเฟิลและซองกระสุน เมื่อมั่นใจว่าไม่มีปัญหาถึงได้เดินไปที่สนามทดสอบ"โลกนี้มันกลมจริง ๆ ถึงได้มาอยู่กลุ่มเดียวกับเธออีก"คนที่อยู่ในตำแหน่งข้างเธอก็คือเหอหลงหลงและการแบ่งกลุ่มในครั้งนี้ครูฝึกเป็นคนแบ่ง ไม่ดูประสบการณ์ พูดได้ว่าเป็นการ "จัดกลุ่มแบบสุ่ม" และพูดได้ว่าเป็นพรหมลิขิตเจียงเซิงยิ้มอย่างช่วยไม่ได้: "ดูท่าสวรรค์ตั้งใจทำให้ฉันลำบากใจจริง ๆ"เหอหลงหลงส่งเสียงไม่พอใจ: "คราวนี้ฉันจะไม่แพ้อีกแล้ว"เสียงปืนที่คมชัดดังฝ่าขอบฟ้า กระสุนก็ทะลุผ่านลมและตกไปที่เป้าวงแหวนราวกับเม็ดฝนครูฝึกกำลังบันทึกการแสดงออกของสมาชิกแต่ละคน เหอหลงหลงในฐานะที่เป็นคนที่ยอดเยี่ยมมากที่สุดมีทักษะการเปลี่ยนกระสุนที่ช่ำชอง แทบจะเชื่อมต่อกันเป็นหนึ่งเดียวเหอหลงหลงอยู่ในค่ายฝึกสองปีแล้ว เธอคุ้นเคยกับปืนตั้งนานแล้ว การแสดงออกที่โดดเด่นของเธออยู่ในความคาดหมายนานแล้ว แต่ทว่า กลับมีคนที่เกินความคาดหมายของเขาสำหรับผู้มาใหม่ที่ดูเหมือนจะไม่มีประสบการณ์หรือการฝึกอบรม เดิมคิดว่าเธอชนะบนเวทีประลองได้ด้วยโชค การประเมินผลในลำดับต่อไปสำหรับเธอนั้นมีแต่จะเพิ่มความยากขึ้นแต่ใครจะคาดคิดว
"มีงู!"กู้ยี่ฟานพุ่งออกมาจากฝูงชนและจะเข้าไปอุ้มเจียงเซิง แต่จู่ ๆ กลับถูกครูฝึกขวางเอาไว้: "ทุกคนออกจากที่นี่ การประเมินหยุดก่อนชั่วคราว!""ครูฝึก เธอเป็นอะไรเหรอ?" กู้ยี่ฟานถามอย่างร้อนใจ"ถูกงูกัด ตอนี้ต้องช่วยเหลือด่วน"โดนงูกัดเหรอ?ทำไมในค่ายฝึกถึงมีงู?"พี่สะใภ้!"หลัวหยิงรีบวิ่งไปตรงหน้าเจียงเซิง หลัวหู่เริ่มรักษาแผลให้เธอแล้ว: "บาดแผลที่หลังมือของเธอเริ่มบวมเป่งขึ้นมาก จำเป็นต้องถอนพิษออกก่อน""ขอโทษนะครับ คุณเจียง คุณทนหน่อย" หลัวหู่ใช้มีดที่เธอทิ้งไว้กรีดแผลตรงจุดฟันพิษที่ถูกกัดให้ขยายใหญ่ ค่อย ๆ บีบเพื่อไล่พิษงูออกมา จากนั้นก็ใช้มีดกรีดแผลอีกครั้งและบีบต่อตลอดขั้นตอน เจียงเซิงอดกลั้นความเจ็บปวดไว้อย่างสุดกำลัง สีหน้าที่ซีดขาวไม่มีสีเลือดแม้แต่นิด เหงื่อเย็นเป็ฯเม็ดไหลลงมาจากใบหน้าของเธอ"เร็ซ ไปหาเปลหามมา!" หลัวหู่ตะโกนไปทางหลัวหยิง"ได้ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้!"หลัวหยิงรีบวิ่งไปที่ห้องพยาบาลกับครูฝึกเป็นเพราะเหอหลงหลงตกใจงูอย่างมากจนนั่งล้มลงกับพื้นและพูดไม่ออก และยิ่งคิดไม่ถึงว่าเจียงเซิงจะช่วยเธอไว้เจียงเซิงถูกหามไปที่ห้องพยาบาล ถึงแม้พิษงูบางส่วนจะถูกเค้นออก
ซือเย่เจ๋วมาถึงด้านนอกห้องพยาบาลอย่างรวดเร็ว เป็นอย่างที่คาดเอาไว้เขาเห็นกู้เฉินกวางกับผู้อาวุโสท่านหนึ่งยืนอยู่ในห้องพักผู้ป่วยซือเย่เจ๋วรู้สถานะของผู้อาวุโส และก็รู้เหตุผลที่กู้เฉินกวางมายืนอยู่ที่นี่ เป็นเพราะมีแค่ตระกูลกู้เท่านั้นที่สามารถเชิญศาสตราจารย์ผู้อาวุโสฉีออกมาได้ศาสตราจารย์ผู้อาวุโสฉีเป็นผู้อาวุโสในสาขาการแพทย์ด้านการวิจัยเซรุ่ม นิสัยสันโดษและแปลกประหลาด เห็นเงินเหมือนสิ่งไร้ค่า และไม่เห็นแก่ชื่อเสียง เขายอมออกหน้าก็เพราะว่าเห็นแก่หน้าตระกูลกู้ก็เท่านั้นกู้เฉินกวางค่อย ๆ หันหน้ามามองผู้ชายที่เดินเข้ามาจากนั้นยิ้มพูด: "บุญคุณนี้จะต้องใช้คืนนะ"ซือเย่เจ๋วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา: "ฉันรู้ว่าติดค้าง"หมอในค่ายฝึกได้เป็นผู้ช่วยของศาสตราจารย์ผู้อาวุโสฉีเหล่า ก็ถือว่าเป็นเกียรติอย่างหนึ่ง ในตอนที่ผู้อาวุโสฉีทำการตรวจและรักษาก็ให้ความร่วมมืออย่างดีผู้อาวุโสฉีเจาะเลือดเจียงเซิงออกมาเล็กน้อย จากนั้นยื่นให้หมอที่อยู่ด้านข้าง "ไป เอาไปตรวจสอบให้ฉันเดี๋ยวนี้"หมอคนนั้นนิ่งอึ้งอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็ไม่กล้าถามอะไรมาก รีบรับหลอดเก็บเลือดไปยังห้องตรวจสอบกู้เฉินกวางแทบไม่เคยเห็นศาสต
หลัวหยิงเดินมาที่หน้าประตูเหล็บ มองดูวั่งฉีที่สีหน้าตื่นตระหนกนั่งอยู่ด้านหลังประตูในสภาพที่แย่: "จับคนได้แล้ว และก็สารภาพออกมาว่าเธอเป็นคนยุยง เธอยังไม่ยอมรับอีก?"วั่งฉีนิ่งอี้งและส่ายหน้า: "ฉันไม่รู้จักเขา ฉันไม่รู้จักเขาจริง ๆ นะ!"ทำไมเป็นแบบนี้ได้?เธอไม่ได้ทำเรื่องแบบนี้ด้วยซ้ำ!ทำไมถึงไม่เชื่อเธอ!หลัวหยิงครุ่นคิดอะไรบางอย่าง และรู้สึกเสียดายแทนเธอ: "ตอนนี้ทางที่ดีเธอภาวนะขออย่าให้เจียงเซิงเป็นอะไร เพราะครั้งนี้เธอเตะโดนกระดานเหล็กแล้วจริง ๆ ในเมื่อเจียงเซิงเป็นถึงภรรยาของท่านเจ๋วเชียวนะ"ภรรยา......ของท่านเจ๋ว?วั่งฉีตกตะลึงอยู่ที่เดิม เจียงเซิงเป็นภรรยาของท่านเจ๋ว ทำไมถึงเป็นแบบนี้!งั้นเรื่องเหล่านั้นที่เธอทำก่อนหน้านี้ ตัวเองกระโดดเข้ากองไฟแล้วยังไม่รู้ตัวอีก?แต่เรื่องที่ปล่อยงูพิษเธอไม่ได้ทำจริง ๆ นะ!หลัวหยิงถอนหายใจ: "เอาล่ะ เธออยู่ที่นี่ดี ๆ เถอะ รอการลงโทษของท่านเจ๋วเถอะ""ไม่ พี่หลัวหยิง ฉันไม่ได้ทำจริง ๆ นะ ขอร้องพวกคุณเชื่อฉัน......" แต่ต่อให้เธอขอร้องอ้อนวอนอย่างไร สุดท้ายก็ไม่มีใครยอมหยุดฝีเท้าลงเพื่อเธอ"เรื่องนี้ ไม่ได้ทิ้งร่องรอยไว้ใช่ไหม?" ภายในห้
*ถูกลูกเล่นของ Soul จิวเวลรี่ทำให้อ้วกแล้ว*แฟรงค์มองดูเธอ "เซิงเซิง จำนวนยอดขายของ Soul จิวเวลรี่ในวันนี้ลดลงอีกสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว บริษัทได้รับสายโทรศัพท์เพื่อสละออเดอร์และคืนเงินหลายออเดอร์แล้วดวงตาของเจียงเซิงขยับเขยื้อน "ดูท่าพวกเขาอยากจะบีบบังคับให้ฉันยอมจำนนสินะ""งั้นคุณวางแผนจะทำอย่างไร?" แฟรงค์รู้ว่าเธอไม่เปิดเผยตัวตนเพราะมีเหตุผลของเธอ ถ้าหากมีวิธีอื่นก็จะดีอย่างมากเจียงเซิงยื่นแท็บเล็ตไปให้เขา และหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา "ทางด้านผิ่นเก๋อยืนยันเป็นมั่นว่าฉันลอกเลียนแบบทั้ง Soul จิวเวลรี่ ถึงเวลาที่ฉันควรจะตอบโต้แล้ว"ในขณะที่กระแส "การลอกเลียนแบบ" บนอินเทอร์เน็ตกำลังโด่งดัง คำค้นหายอดนิยมของเฟซบุ๊กก็มีเพิ่มขึ้นมาหนึ่งประเด็น*ผิ่นเก๋อของปลอม*ผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่ถูกเปิดเผยออกมาว่าแอบลดวัสดุและขั้นตอนการก่อสร้าง ขายเครื่องประดับปลอมในราคาสูงและหลอกลวงลูกค้า และสร้างข่าวลือเรื่องที่โซราเสียชีวิต แม้กระทั่งข่าวลือที่เจ้าของผิ่นเก๋อมอมเหล้าเด็กสาวในคลับเฮ้าส์ก็ถูกเปิดโปงจนหมดเปลือกการเปิดเผยอย่างต่อเนื่องนี้ ทำให้เหตุการณ์ของ Soul จิวเวลรี่ถูกดันลงไปทันที เพียงแค่เรื่องที่
"ทำไม่ได้" ซือเย่เจ๋วเสียงทุ้มต่ำ จากนั้นจูบเธออย่างแรง และยิ่งอยู่ยิ่งรุนแรงขึ้นอาจเป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง เมื่อคืนฝนตกหนักทำให้อุณหภูมิเปลี่ยนไปหนาวเย็นกะทันหัน ใบไม้สีเหลืองที่แห้งเหี่ยวปกคลุมบนพื้น สัมผัสกับแอ่งน้ำเจียงเซิงกับซือเย่เจ๋วเพิ่งไปส่งเจ้าตัวเล็กทั้งสองคนที่โรงเรียนประถมเอกชน จากนั้นตอนที่เดินทางไปส่งเจียงเซิงที่ Soul จิวเวลรี่ เจียงเซิงง่วงจนพิงร่างกายของเขาแล้วงีบหลับซือเย่เจ๋วหันหน้าไปจ้องมองเธอ จากนั้นก็ยกมือขึ้นรวบไรผมที่อยู่ตรงหน้าผากของเธอ "ยังง่วงเหรอ?""อืม"เจียงเซิงบ่นอย่างซื่อตรง "โทษคุณเลย"เขายิ้ม จากนั้นก็มก้มตัวมาที่ข้างหูของเธอ "หรือว่าไม่ใช่ความผิดของคุณเหรอ?"เจียงเซิงเงยหน้าขึ้นและวางคางบนไหล่เพื่อมองดูเขา "ไม่ได้ให้คุณทำสองยกทั้งคืนสักหน่อย"ซือเย่เจ๋วที่สูญเสียความทรงจำไม่เพียงควบคุมอารมณ์ไม่ได้ แถมยังมีกำลังวังชาเต็มเปี่ยม เกือบพรากชีวิตแก่ ๆ ของเธอซือเย่เจ๋วไม่ได้พูดอะไร แต่ในใจกลับรู้สึกพึ่งพอใจอย่างมากในตอนนี้โทรศัพท์ของเจียงเซิงดังขึ้น คุณอาแฟรงค์โทรมาหาเธอแต่เช้าเกรงว่าต้องมีเรื่องใหญ่แน่นอนเธอรับสาย "คุณอาแฟรงค์?""เซิงเซิง
แต่ชาวเน็ตส่วนใหญ่คิดว่านี่ไม่ใช่การลอกเลียนแบบ ต่อให้สไตล์เหมือนกันแต่ยังมีจุดเด่นอื่นอีก สถานการณ์แบบนี้ไม่สามารถจำกัดความว่าเป็นการลอกเลียนแบบได้ ขอถามกลับว่าคนที่พูดว่าลอกเลียนแบบมีสิทธิอะไรคิดว่าคนเขาจะต้องลอกเลียนแบบแน่นอนน่าจะเป็นเพราะผู้บริหารของผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่เห็นว่านี่ไม่เพียงไม่ได้กดหัวคนอื่น แต่กลับเป็นวิธีที่ "ใจร้อนอยากประสบความสำเร็จแต่กลับทำให้เสียการ" จึงอยากเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมออกแต่คิดไม่ถึงว่า พวกเขาไม่สามารถเพิกถอนได้ เพราะว่ามีคนทุ่มเงินจำนวนมากซื้อคำค้นหายอดนิยมนี้ ผิ่นเก๋อของพวกเขาออกเงินสองเท่า ฝ่ายตรงข้ามก็ออกเงินสี่เท่า ตอนนี้เล่นเกมทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมแล้วเจียงเซิงนั่งดูหน้าแชทเฟซบุ๊กอยู่ตรงหน้าคอมพิวเตอร์ แฟรงค์เดินเข้ามา "เซิงเซิง ผิ่นเก๋อยอมแพ้การเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมแล้ว ดูท่าว่าจะทุ่มเงินไม่ไหวแล้ว"เจียงเซิงหรี่ตาลง "พวกเขาทำใจทุ่มเงินไม่ได้ แต่น่าจะมีวิธีอื่นอีก"ทางด้านเจียงเซิงทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมกับผิ่นเก๋อ ทางด้านซือเย่เจ๋วก็ทุ่มเงินล้มธุรกิจของหานซื่อกรุ๊ป หลัวเชว่มองดูจนตกตะลึงตาค้าง สามีภรรยาคู่นี้ตอนนี้เป็นคนโง่ที่เงินเ
เซียวเถียนเถียนใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา เธอตกใจจนถอยหลังไปสองสามก้าว จากนั้นก็หันหลังวิ่งหนีไปเมื่อมาถึงนอกห้องทำงานของเจียงเซิง คนทั้งคนยังคงอยู่ในสภาพเครื่องรวน เมื่อเข้าไปข้างในก็ทรุดนั่งลงบนโซฟา ขาก็อ่อนแรงไปหมดเจียงเซิงเดินออกมาจากห้องทำงาน เห็นท่าทางเหม่อลอยของเซียวเถียนเถียน ก็ยิ้มบาง "เกิดอะไรขึ้น?"เซียวเถียนเถียนลุกนั่งทันที และวางกาแฟบนโต๊ะทำงานของเธอ "ซื้อ...ซื้อมาให้เธอ"เจียงเซิงเดินไปตรงหน้าโต๊ะแล้วหยิบกาแฟขึ้นมา เห็นเธอพูดจาติดขัดจึงถามขึ้น "เจอเรื่องอะไรมา ทำไมถึงตกใจขนาดนี้?""ก็...ก็ไม่ได้เจอเรื่องอะไร ก็แค่ระหว่างทางที่ซื้อกาแฟได้เจอกับหานเซิงเข้า เกือบจะทะเลาะกับเธอขึ้นมา"เจียงเซิงถือกาแฟเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงาน "แค่นั้นเหรอ?"เธอเม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า "ใช่""งั้นเธอทำไมหน้าแดงขนาดนี้?""นั่นเป็นเพราะว่าฉันร้อน!" เซียวเถียนเถียนโกรธขึ้นมาทันที เจียงเซิงมองท่าทางประหม่าของเธอออก จึงหรี่ตาจ้องมองเธออยู่นานต่อให้เจอกับหานเซิงแล้วทะเลาะกัน ก็ไม่ถึงกับทำให้เธอกลายเป็นแบบนี้ ท่าทางแบบนี้เห็นได้ชัดว่า...ทำเรื่องไม่ดีอะไรมา"อ่อใช่เซิงเซิง บนเฟซบุ๊กเรื่องลอกเลียนแ
"เธอ…"“ผู้ชายทุกคนชอบผู้หญิงที่อ่อนโยนและน่ารัก คนปากคอเราะรายอย่างเธอชีวิตนี้คงไม่มีคนชอบเธอหรอก”ขณะพูด เธอก็พูดเหน็บแนม "ถ้าไม่ใช่ว่าเธอเป็นลูกสาวตระกูลเซียว จะมีการแต่งงานเกี่ยวดองกันกับตระกูลลู่ที่ดีขนาดนี้เหรอ คุณชายลู่แต่งงานกับเธอซวยไปแปดชาติจริง ๆ"เซียวเถียนเถียนสีหน้าเคร่งขรึมลงทันที เธอง้างมือขึ้นจะฟาดหน้าของหานเซิงหานเซิงเงยหน้าขึ้นให้เธอตบแต่ฝ่ามือยังไม่ทันโดน ข้อมือก็ถูกคนจับเอาไว้ลู่ลี่เซินดึงเซียวเถียนเถียนไปข้างหลังแล้วมองดูเธอ "ลงมือต่อหน้าคนมากมายแบบนี้ ไม่รู้จักอายบ้างเหรอ?"ผู้คนรอบตัวพากันมองมาทางนี้ เหมือนกำลังจะรอดูฉากเด็ดอยู่ ถ้าหากเมื่อครู่เซียวเถียนเถียนตบลงไปจริง ๆ ก็จะมีคนถ่ายรูปเอาไว้และเอาเรื่องนี้ไปพูดกันแต่เซียวเถียนเถียนไม่ยอมแพ้ เธอสะบัดมือของเขาออก "นายยุ่งอะไรกับฉันด้วย""คุณชายลู่ คุณมาได้พอดีเลย คู่หมั้นของคุณร้ายกาจ เมื่อครู่ยังอยากจะตบฉันด้วย ถ้าคุณไม่ห้ามไว้ หน้าของฉันคงบวมไปแล้วหานเซิงท่าทางน่าสงสาร เธอมีความมั่นใจคิดว่าผู้ชายชอบแบบนี้กันหมด แทบอยากจะให้ลู่ลี่เซินเห็นใจเธอ สงสารเธอ และทะเลาะกับเซียวเถียนเถียนขึ้นมาแต่หานเซิง
กู้เฉินกวางยิ้มบางแต่ไม่ได้พูดอะไรหลัวเชว่มองไปที่ซือเย่เจ๋วและพูดไม่ออก นี่เห็นได้ชัดว่าถูกคุณเจียงควบคุมจนอยู่หมัดแล้ว......บริษัท Soul จิวเวลรี่สิบเจ็ดบอกว่าเจียงยี่กับผู้เฒ่าเจียงได้พาเจียงเฮงกลับเมืองจินเฉิงแล้วเงินห้าแสนกว่าบาทที่ต้ายฉิงใช้จ่ายไปตอนนี้ได้ตามกลับผ่านทางตำรวจแล้ว แต่ก็ตามกลับมาได้แค่แสนกว่าบาท แต่ต้ายฉิงถูกควบคุมการเดินทาง อยากจะหนีก็หนีไม่ได้เจียงเซิงก็ไม่ได้พูดอะไรมากมายหลังจากผ่านเรื่องนี้ไปผู้เฒ่าเจียงคงจะทำตัวดีไม่น้อย จากอายุของเธอในตอนนี้อยากจะดิ้นรนต่อไป เกรงว่าคงจะไม่มีโอกาสดิ้นรนแล้วหลายชายของตัวเองล้างผลาญครอบครัวใช้เงินสะสมของเธอจนหมด แถมยังถูกหลอก แม้แต่ลูกชายก็ยังไม่ยอมรับเธอ ตอนนี้เธอก็ไม่มีอารมณ์คิดถึงมรดกของพ่อของเธอแล้ว*อลิซลอกเลียนแบบโซรา*พาดหัวข่าวเฟซบุ๊กที่โดดเด่นบนหน้าจอทำให้เจียงเซิงที่เพิ่งดื่มน้ำแทบจะพ่นน้ำออกมาเธอลอกเลียนแบบตัวเอง?เมื่อเปิดดู ก็เป็นเรื่องประดับ*รุ่นคู่รัก*ที่เธอออกแบบคล้ายกับสไตล์การออกแบบของเธอก่อนหน้านี้ แต่ไม่รู้ว่าใครตั้งใจพูดตัดสินเรื่องนี้ว่าลอกเลียนแบบ ชาวเน็ตที่ไม่ผ่านกรองการครุ่นคิดก็เชื่อจ
กู้เฉินกวางถอดแว่นกันแดดออกแล้วใส่ไว้ในกระเป๋าตรงหน้าอก "สถานการณ์ของนายแบบนี้ คงไม่ต้องให้ฉันแนะนำตัวเองใช่ไหม?"ซือเย่เจ๋วก็มองออกว่าเขาคือใคร "อยู่ในวงการบันเทิงได้ไม่เลวเลยสินะ"กู้เฉินกวางหัวเราะเบา ๆ “คนอื่นบอกว่านายความจำเสื่อมฉันยังไม่เชื่อ”เขาเดินไปที่โซฟาแล้วนั่งลงด้วยตัวเอง หลัวเชว่รินชาให้เขาหนึ่งแก้วซือเย่เจ๋วลุกขึ้นยืนและเดินอ้อมโต๊ะทำงานไปตรงหน้าโซฟา จากนั้นก็ปลดกระดุมชุดสูทออกแล้วนั่งลง "แขกหายากสินะ มีธุระอะไรกับฉัน?""มีธุระจริง ๆ นั่นแหละ" กู้เฉินกวางยกแก้วน้ำชาขึ้น "ฉันคิดว่านายคงจะเคยรู้จักกับหานจื้อเหนียนสินะ?"ในตอนที่ซือเย่เจ๋วกำลังครุ่นคิดว่าหานจื้อเหนียนคือใคร หลัวเชว่ก็ก้มตัวชี้แนะ "ประธานหานคนนั้นเมื่อครั้งที่แล้ว"ซือเย่เจ๋วหรี่ตาลงและยิ้มอย่างมีความหมายลึกซึ้ง "ทำไม ตระกูลหานมุ่งเป้าไปที่นายเหรอ?"กู้เฉินกวางไม่ได้พูดอะไรซือเย่เจ๋วสีหน้าจริงจังขึ้นมา "ฉันว่านายก็อายุเยอะแล้ว ควรจะพิจารณาเรื่องการแต่งงานได้แล้ว?"กู้เฉินกวางวางแก้วชาลง และครุ่นคิด “เร่งให้ฉันแต่งงาน นายเป็นห่วงอะไร?”ซือเย่เจ๋วสีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อย จากนั้นกอดอกมองเขา "ตาข้าง
เจียงเซิงไม่ปฏิเสธ "ใช่ค่ะ" เธอหัวเราะเบา ๆ "รวมทั้งเงินห้าล้านบาทนั่นด้วย นั่นก็เป็นเงินที่ฉันให้ คุณก็ไม่ได้บอกคุณย่าว่าคุณมีเงินห้าล้านบาทใช่ไหม?"ผู้เฒ่าเจียงหันหน้ามองไปทางเจียงยี่เจียงยี่ไม่ได้พูดอะไร เห็นได้ชัดว่ายอมรับแล้ว"คุณไม่อยากยอมรับแม่ ไม่อยากยอมรับลูกชาย ฉันก็ไม่ก้าวก่ายคุณ ในเมื่อเงินเอาให้คุณแล้ว คุณอยากจะใช้อะไรก็เรื่องของคุณ"เจียงเซิงกอดอก สายตาเย็นชา "แน่นอนว่าถ้าหากคุณยอมเอาเงินไปใช้ในทางที่ต้อง ฉันอาจจะให้โอกาสคุณอีกครั้ง แต่น่าเสียดายที่คุณปรับเปลี่ยนตัวเองไม่ได้แล้ว เอาเงินให้คุณมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ใด ๆ"มือที่วางอยู่บนขาของเจียงยี่กำแน่นอย่างอดไม่ได้ สีหน้าก็รู้สึกอับอายผู้เฒ่าเจียงมองดูเจียงเซิง "เซิงเซิง ในเมื่อเธอยังมีชีวิตอยู่ และก็ยอมช่วยอาของเธอกับลูกพี่ลูกน้องของเธอ...""คุณย่า คุณคิดมากเกินไปหรือเปล่า?" เจียงเซิงขัดคำพูดของเธอทันที "ฉันไม่ได้ช่วยพวกเขาโดยไม่มีเหตุผลหรอกนะคะ ฉันก็แค่ช่วยให้คุณได้เห็นความโหดร้ายของโลกนี้อย่างชัดเจน"ผู้เฒ่าเจียงมองไปทางเธอด้วยความเหม่อลอยเจียงเซิงลุกขึ้นเดินไปตรงหน้าต่าง และหันข้างมองไปทางพวกเขา "เพราะว
เพิ่งจะเข้าไปในห้อง เจียงยี่ก็อยู่ด้วย เจียงยี่นั่งอยู่บนเก้าอี้ บอดี้การ์ดที่อยู่ด้านหลังวางมือบนไหล่ของเขาไม่ให้เขาหนีไปได้ตอนที่ผู้เฒ่าเจียงเห็นผู้หญิงแปลกหน้าถูกพาตัวเข้ามา และคุกเข่าลงบนพื้น ก็งุนงงไปหมด "นี่คือ..."สิบเจ็ดพูดด้วยสีหน้านิ่งเฉย "ฉิงฉิงที่หลานชายของคุณพูดถึง คุณให้เธออธิบายกับคุณเองเถอะ"ฉิงฉิง?ผู้เฒ่าเจียงสายตามองไปที่ผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง ต้ายฉิงร้องไห้แล้วคลานมาที่ข้างเตียง "คุณย่าเจียง ขอโทษนะคะ ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่ควรหลอกลวงเจียงเฮง ขอร้องพวกคุณปล่อยฉันไปเถอะค่ะ"ผู้เฒ่าเจียงนึกขึ้นได้ว่าเจียงเฮงหลานชายของเธอนำเงินก้อนนั้นให้กับผู้หญิงคนนี้ เธอก็รู้สึกโมโหขึ้นมา และผลักฉิงฉิงออก "เธอยังมีหน้ามาหาฉันอีก? เงินของหลานชายฉันล่ะ?"ต้ายฉิงถูกผลักล้มลงกับพื้น ไหล่ของเธอสั่นเทา น้ำตาไหลลงแก้ม ชั่วขณะไม่รู้ว่าควรจะพูดเรื่องเงินก้อนนั้นที่เธอใช้ไปหมดแล้วอย่างไรดี“ฉิงฉิง!”เจียงเฮงปรากฏตัวนอกประตูและเห็นต้ายฉิงนั่งอยู่บนพื้น เขาจึงรีบเดินไปประคองเธอ "คุณย่า ฉิงฉิงมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร"“แกยังจะพูดอีก?” ผู้เฒ่าเจียงหน้าเขียวหน้าดำ "นังเด็กคนนี้หลอกเอาเงินของแก เ