ซือเย่เจ๋วเลิกคิ้วขึ้นและยิ้ม "ผมจะอ่อนแอหรือไม่ คุณคงรู้ดีนะ"ขนตาของเจียงเซิงกระตุก ถ้าเขาพูดแบบนี้ในอดีต เธอคงจะด่าเขาว่าหน้าด้าน ไร้ยางอายแต่ตอนนี้......"เห็นแกคุณใส้ใจขนาดนั้น ต่อไปฉันจะ... พยายามดีกับคุณให้มากหน่อยก็แล้วกัน" เจียงเซิงรู้สึกเขินอายเมื่อตัวเองพูดแบบนี้"ดีแค่ไหน?" ซือเย่เจ๋วโน้มตัวเข้ามาใกล้เธอและกระซิบด้วยเสียงแผ่วเบา เมื่อมองดูใบหน้าที่สวยงามและสดใสของเธอ ที่คอของเขาก็กลิ้งไปมาสองครั้งเจียงเซิงเป็นฝ่ายเริ่มจูบริมฝีปากของเขาซือเย่เจ๋วตกตะลึง ในขณะนี้ หัวใจของเขาดูเหมือนจะละลาย เขาเพลิดเพลินกับมันมาก และชอบท่าทางที่เธอริเริ่มที่จะจูบเขา“รางวัล” เจียงเซิงละริมฝีปากแล้วหันกลับไปเพื่อเก็บกล่องยาไว้บนโต๊ะใบหูเปลี่ยนเป็นสีแดงแล้วเดิมที ซือเย่เจ๋วต้องการปล่อยเธอไป แต่เขาไม่สามารถต้านทานกับท่าทางที่เขินอายของเธอได้ เขากอดเธอจากด้านหลัง อุ้มเธอลงบนโซฟาแล้วกดเธอไว้เจียงเซิงผลักเขาเล็กน้อย "ซือเย่เจ๋ว อย่าทำตัวไม่ดีนะ นี่คือ... ห้องทำงาน"จะไม่อายเหรอถ้ามีคนผลักประตูเข้ามาเห็นล่ะ?"จะไม่มีใครเข้ามา""เอ่อ...แต่แขนของคุณ...""ทำตัวดีๆ ตั้งใจหน่อย"ในช่ว
"หลายปีต่อมา ผู้หญิงคนนั้นเสียชีวิตด้วยโรคภัยไข้เจ็บ ได้ทิ้งบริษัทนั้นไว้ ชายคนนั้นต้องดูแลลูกในขณะที่บริหารบริษัทด้วย และญาติของเขาไม่เคยออกมือช่วยเหลือเลย หรือแม้แต่มีส่วนร่วมด้วย"เจียงเซิงหรี่ตาลงและเยาะเย้ย "หลายปีต่อมา เมื่อเด็กผู้หญิงคนนั้นโตขึ้น ผู้ชายคนนั้นต้องการมอบบริษัทให้กับเด็กผู้หญิงคนนั้น แต่แม่ของผู้ชายคนนั้นพาญาติมาถึงบ้าน และออกคำสั่งให้ชายคนนั้นมอบบริษัทที่แม่ของเด็กผู้หญิงก่อตั้งมาโดนยากลำบากให้กับลูกชายของญาติ เพียงเพราะญาติคนนั้นคิดว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นเป็นเพศหญิงจึงไม่มีสทธิ์ที่จะสืบทอดบริษัท"แน่นอนว่า ผู้เฒ่าเจียงฟังออกว่าเรื่องราวที่เจียงเซิงเล่านั้นเป็นการด่าพวกเขาแบบอ้อมๆ และตอนนี้สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปทันทีส่วนนักข่าวพวกนั้นก็ฟังออกด้วยเช่นกันเวลานี้พวกเขาต่างก็รู้สึกว่าญาติพวกนั้นทำเกินไปแล้วจริงๆลูกต่างมีสิทธิสืบทอดทรัพย์สิน ไม่ใช่ว่าเป็นเพราะพวกเขาเป็นลูกสาวก็หมดสิทธิ์ได้รับส่วนแบ่งเลย นี่มันยุคสมัยใหม่แล้ว ทำไมยังเป็นหัวโบราณที่เห็นลูกชายสำคัญกว่าลูกสาวล่ะ?แถมต้องมอบบริษัทให้ญาติห่างๆ อีกด้วย"เจียงเซิง อย่ากุเรื่องไร้สาระ เธอควรอธิบายเรื่อง
"ใช่สิ คุณตำรวจ แม่ฉันจะฆ่าคนได้ยังไง พวกคุณเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า?"เจียงเวยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น"คุณตำรวจไม่ได้เข้าใจผิดอะไรหรอก" สายตาของเจียงเซิงจ้องมองไปที่ครอบครับนั้น และพูดช้าๆ "เพราะหมอนิติเวชเฉียวได้เอาทดสอบ DNA บนผิวหนังของฆาตกรที่ทิ้งไว้อยู่ในเล็บของวังเยี่ยน และ DNA นั้นสอดคล้องกับคุณเซียวหลาน"ใบหน้าของเซียวหลานก็ซีดลงทันทีเล็บ...หรือว่าวังเยี่ยนได้ข่วนผิวหนังของเธอตอนที่จับผมของเธองั้นเหรอ?เฉียวเหลียนยิ้มและพยักหน้า นำผลการตรวจ DNA อกจากแฟ้มแล้วมอบให้กับคนของตระกูลเจียงเจียงเซิ่นรับผลรายงานและอ่านดู จากนั้นหันกลับมาจ้องที่เซียวหลาน "ที่แท้คือเธอ""ไม่ ไม่ใช่ฉัน...ฉันไม่ได้ทำ ฉันไม่ได้ฆ่าใคร ไม่ใช่ฉัน อีกอย่าง ทำไมฉันต้องฆ่าวังเยี่ยนด้วยล่ะ ฉันไม่มีเหตุผลที่จะฆ่าเธอสินะ!"เซียวหลานอธิบายอย่างตื่นตระหนก"แน่นอนว่าคุณไม่มีเหตุผลที่จะฆ่าเธอ" เจียงเซิงค่อยๆ เดินลงจากเวที "แต่ถ้าหากว่า ป้ารู้ว่าคุณกับลุงทำเรื่องผิดศีลธรรมลับหลังเธอ งั้นก็มีเหตุผลแล้ว"เซียวหลานเกือบทรงตัวไม่อยู่แม้แต่เจียงยี่ก็ยังตกตะลึงทันใดนั้น เซียวหลานก็หัวเราะอย่างบ้าคลั่งและจ้องมองไปท
เจียงเซิ่นหยิบซองจดหมายขึ้นมาบนพื้น มีรูปถ่ายไม่น่ามองตั้งหลายสิบรูป แต่ละรูปมีใบหน้าที่คุ้นเคย ส่วนผลการทดสอบความเป็นพ่อลูกก็ได้ยืนยันไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดเจียงเวยทรุดตัวลงกับพื้น เธอกลับไม่ใช่ลูกสาวของเจียงเซิ่น...เจียงเซิงพูดอย่างใจเย็นว่า "เซียวหลานเคยใช้ชีวิตอยู่ในถนนใต้ดินและมีอาชีพพิเศษ เธอได้รับลูกค้ามากมายทุกวัน ส่วนเธอท้องได้อย่างไร และใครเป็นบิดาผู้ให้กำเนิดของเด็ก เธอเองก็คงไม่รู้เช่นกัน""ไม่ ไม่ใช่นะ เด็กเป็นของเซิ่น เซิ่น คุณต้องเชื่อใจฉัน...""ไอ้สารเลว" เจียงเซิงฟาดรูปถ่ายเหล่านั้นใส่หน้าเธอ แล้วพูดด้วยความโกรธ "เธอกล้าโกหกฉันมานานขนาดนี้ได้ยังไง!"เซียวหลานหมดหวังและมองไปที่เจียงเวย ขณะที่เธออะไรขึ้นมา "เวยเวย ฟังแม่นะ...""เธออย่าเรียกฉันนะ ผู้หญิงน่ารังเกียจอย่างเธอ ทำไมเธอถึงให้กำเนิดฉัน ทำไม ฉันเกลียดเธอ!""เจียงเซิงด้วย ฉันก็เกลียดแกเหมือนกัน!" เจียงเวยตะโกนอย่างบ้าคลั่ง จากนั้นหันหลังกลับและวิ่งออกไปรูม่านตาของเซียวหลานหดตัวลงเพราะเธอเห็นความรังเกียจและความเกลียดชังที่เจียงเวยมีต่อเธอจากดวงตาของเธอตำรวจนำตัวเซียวหลานออกไปโดยไม่ให้โอกาสเธออธิบ
คนที่เคยทำร้ายผู้หญิงของเขา เขาไม่มีทางปล่อยพวกเขาไปอย่างง่ายๆ**ตลาดมืด"ได้โปรดปล่อยฉันไปเถอะ ฉันจะทำทุกอย่างที่พวกคุณต้องการ ปล่อยฉันไปเถอะ!" เจียงเวยร้องไห้พลางคุกเข่าเพื่อร้องขอพี่เซิ่งพี่เซิ่งกำลังสูบบุหรี่ เขามองดูผู้หญิงที่น่าสงสารและอ่อนแอที่กำลังคุกเข่าอยู่ตรงหน้าเขาแล้วแตะลิ้นของเขา"ถ้าจะโทษก็ต้องโทษตัวเองเป็นลูกสาวเซียวหลานแล้ว เซียวหลานติดหนี้พวกเรา ว่ากันว่าหนี้สินของพ่อแม่ต้องให้ลูกหลานมาชดใช้ ในเมื่อเธอเป็นลูกสาว เธอก็ต้องชดใช้แทน"ใบหน้าของเจียงเวยถอดสี เมื่อเธอรู้ว่าพ่อของเธอไม่ใช่เจียงเซิ่น แต่เป็นลูกที่แม่ของเธอคบกับผู้ชายหน้าไหนก็ไม่รู้ในอดีต เธอเกลียดแม่ของเธอถึงที่สุดตอนนี้ แม่ของเธอถูกจับกุมแล้ว แต่เธอยังต้องทนทุกข์เพราะเธอเป็นลูกสาวของแม่ทำไม ทำไมเธอถึงไม่มีตัวตนแบบเจียงเซิง!ไม่ได้การ เธออยู่ในตลาดมืดไม่ได้ เธอไม่อยากเป็นเหมือนแม่ของเธอ..."แม่ฉันเป็นหนี้เท่าไหร่ ฉัน... ฉันสามารถจ่ายคืนให้ หาเย่เจ๋ว ใช่ คุณรู้จักท่านเจ๋วใช่ไหม ท่านเจ๋วจะช่วยฉันแน่นอน!"เธออยู่กับซือเย่เจ๋วมาหกปีแล้ว เธอเชื่อว่าซือเย่เจ๋วจะเห็นอกเห็นใจกับชะตากรรมของเธอ และยอมช่ว
เมื่อกี้ซูหลิงโหรวก็ได้ยินด้วย ซือเย่เจ๋วกลับต้องการแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้นเธอกัดริมฝีปากของเธอเบาๆ เพื่อซ่อนความเย็นชาและความอำมหิตในดวงตาของเธอเมื่อเห็นว่าตัวเองถูกขัดจังหวะ ซือเย่เจ๋วก็ดูไม่สบอารมณ์ "ผมจะแต่งงานกับใคร ไม่จำเป็นต้องได้รับความยินยอมจากท่าน""ไอ้เด็กสารเลว แกจงใจต่อต้านฉันใช่ไหม?" ท่านผู้เฒ่าพูดด้วยความโกรธ "ในเมื่อเธอรับปากกับข้อกำหนดของฉันแล้ว งั้นก่อนที่ได้รับการยอมรับจากฉัน ฉันจะไม่มีทางยอมให้พวกแกแต่งงานเด็ดขาด"ซือเย่เจ๋วยืนขึ้นและยิ้มให้ท่านผู้เฒ่า "ท่านหมายความว่า ตราบใดที่เซิงเซิงทำภารกิจของเธอสำเร็จและประสบความสำเร็จในกองทัพ ท่านก็จะตอบตกลงใช่ไหม"ท่านผู้เฒ่าหยุดชั่วคราว รู้สึกเหมือนกำลังถูกหลานชายหลอกลวงอยู่?แต่ไม่ว่ายังไง เขาจะปล่อยให้ตัวเองหน้าแตกไม่ได้เด็ดขาด "ก็ต้องขึ้นอยู่กับว่าเธอสามารถผ่านการทดสอบและได้ผลงานที่ดีภายในครึ่งเดือนหรือไม่ แกคิดว่ายังไง"สำหรับคนที่ไม่ได้รับการฝึกมา เข้ากองทัพมาแค่ครึ่งเดือนถือว่าเป็นคนใหม่ที่เพิ่งฝึกมาเท่านั้น จะให้ได้ผลงานที่ดีได้ยังไง?ใบหน้าของซือเย่เจ๋วดูแย่ลงทันทีซูหลิงโหรวเดินไปท่านผู้เฒ่า แล้วพูดว่า "ค
ดูเหมือนเธอจะถามอย่างหยั่งเชิงขนตาของซือเย่เจ๋วสั่นและน้ำเสียงของเขาก็สงบนิ่ง "ถ้าเธอเลือกที่จะไป นั่นก็มีเหตุผลของเธอเอง บางที...""ผมควรจะเชื่อใจเธอ" ซือเย่เจ๋วไตร่ตรองตัวเองและตระหนักว่าเขาไม่ควรคิดเจียงเซิงดูอ่อนแอเกินไปผู้หญิงคนนั้นเป็นคนไม่ยอมอ่อนข้อให้ใครอยู่แล้ว นี่ก็ไม่ใช่ว่าเขาเพิ่งรู้นิสัยของเธอ เรื่องที่เธอจะทำเธอต้องทำให้ได้ไม่รู้ว่าสาวตัวน้อยนั้นนั้นโกรธหรือเปล่า จะง้อเธอยังไงดี?เมื่อนึกถึงอะไร เขาจึงเงยหน้าขึ้นมองซูหลิงโหรว "ผู้หญิงทุกคนน่าจะมีรสนิยมเหมือนกันใช่ไหม?"ซูหลิงโหรวตกตะลึงพร้อมรอยยิ้มบนริมฝีปาก "ไม่แน่นะ ทำไมเหรอ?""เมื่อเช้านี้ เซิงเซิงคงต้องโกรธผมแน่ๆ ผมกำลังคิดว่าจะมอบของขวัญอะไรให้เธอ"ซือเย่เจ๋วจดจ่ออยู่กับหาวิธีง้อเจียงเซิงให้หายโกรธ จนไม่ได้สังเกตเห็นสีหน้าที่ดูแปลกไปในดวงตาของซูหลิงโหรวเธอกัดริมฝีปาก ความเย็นชาแวบขึ้นในดวงตาของเธอแต่ก็หายไปในทันที เล็บของเธอทิ่มลงในฝ่ามือของตัวเอง และยังคงยิ้มอยู่ "คุณเจียงไม่ใช่นักออกแบบเครื่องประดับเหรอ ฉันว่าเธอน่าจะสนใจแค่เครื่องประดับเท่านั้นมั้ง ... "ซือเย่เจ๋วคิดอะไรขึ้นมาก่อนยืนขึ้น "คุณเตือนผม
เรเวียร์ยิ้มอย่างจนใจ "ฉันบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าฉันจะบอกเธอเมื่อเธอมีความสามารถมากเพียงพอ เพราะการบอกเธอในตอนนี้ไม่ใช่เรื่องดีสำหรับเธอ โดยเฉพาะ..."ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับตระกูลซือ"โดยเฉพาะอะไกัน?" เจียงเซิงถามเรเวียร์วางถ้วยชาลง "วันนี้มีประมูลหยกที่ร้านอวี้ไจ่ เธออยากไปดูกันไหม?"เมื่อรู้ว่าเรเวียร์กำลังเปลี่ยนเรื่อง เจียงเซิงก็เบะปากและหยุดถามในล็อบบี้ที่ตกแต่งอย่างหรูหราของร้านอวี้ไจ่ บนชั้นวางของในตู้แสดงสินค้าล้วนเป็นหยกอันล้ำค่า แน่นอนว่า หยกที่จัดแสดงนั้นเป็นหยกเขียวทั่วไปส่วนหยกขาวและหยกเขียวชั้นดีนั้นโดยปกติแล้วจะอยู่ในตู้ที่ไม่มีใครสามารถแตะต้องได้มีผู้คนมากมายในร้านอวี้ไจ่ก็มาที่นี่เพื่อซื้อหยกความแตกต่างที่ชัดเจนที่สุดระหว่างร้านอวี้ไจ่กับสถานที่ประมูลเครื่องประดับก็คือ ร้านอวี้ไจ่ประมูลเฉพาะหยกจากร้านค้าของตัวเองเท่านั้นเรเวียร์พาเจียงเซิงเดินไปอยู่ด้านล่างเวที แต่เมื่อเธอหันกลับมา เธอก็เห็นร่างที่คุ้นตานั่งอยู่อีกด้านหนึ่งซือเย่เจ๋ว?เขามาที่นี่ได้ยังไง...เจียงเซิงเห็นผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างๆ เขา นั่นคือซูหลิงโหรว!ซูหลิงโหรวเอนเอียงไปทางซือเย่เจ๋วเ
*ถูกลูกเล่นของ Soul จิวเวลรี่ทำให้อ้วกแล้ว*แฟรงค์มองดูเธอ "เซิงเซิง จำนวนยอดขายของ Soul จิวเวลรี่ในวันนี้ลดลงอีกสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว บริษัทได้รับสายโทรศัพท์เพื่อสละออเดอร์และคืนเงินหลายออเดอร์แล้วดวงตาของเจียงเซิงขยับเขยื้อน "ดูท่าพวกเขาอยากจะบีบบังคับให้ฉันยอมจำนนสินะ""งั้นคุณวางแผนจะทำอย่างไร?" แฟรงค์รู้ว่าเธอไม่เปิดเผยตัวตนเพราะมีเหตุผลของเธอ ถ้าหากมีวิธีอื่นก็จะดีอย่างมากเจียงเซิงยื่นแท็บเล็ตไปให้เขา และหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา "ทางด้านผิ่นเก๋อยืนยันเป็นมั่นว่าฉันลอกเลียนแบบทั้ง Soul จิวเวลรี่ ถึงเวลาที่ฉันควรจะตอบโต้แล้ว"ในขณะที่กระแส "การลอกเลียนแบบ" บนอินเทอร์เน็ตกำลังโด่งดัง คำค้นหายอดนิยมของเฟซบุ๊กก็มีเพิ่มขึ้นมาหนึ่งประเด็น*ผิ่นเก๋อของปลอม*ผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่ถูกเปิดเผยออกมาว่าแอบลดวัสดุและขั้นตอนการก่อสร้าง ขายเครื่องประดับปลอมในราคาสูงและหลอกลวงลูกค้า และสร้างข่าวลือเรื่องที่โซราเสียชีวิต แม้กระทั่งข่าวลือที่เจ้าของผิ่นเก๋อมอมเหล้าเด็กสาวในคลับเฮ้าส์ก็ถูกเปิดโปงจนหมดเปลือกการเปิดเผยอย่างต่อเนื่องนี้ ทำให้เหตุการณ์ของ Soul จิวเวลรี่ถูกดันลงไปทันที เพียงแค่เรื่องที่
"ทำไม่ได้" ซือเย่เจ๋วเสียงทุ้มต่ำ จากนั้นจูบเธออย่างแรง และยิ่งอยู่ยิ่งรุนแรงขึ้นอาจเป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง เมื่อคืนฝนตกหนักทำให้อุณหภูมิเปลี่ยนไปหนาวเย็นกะทันหัน ใบไม้สีเหลืองที่แห้งเหี่ยวปกคลุมบนพื้น สัมผัสกับแอ่งน้ำเจียงเซิงกับซือเย่เจ๋วเพิ่งไปส่งเจ้าตัวเล็กทั้งสองคนที่โรงเรียนประถมเอกชน จากนั้นตอนที่เดินทางไปส่งเจียงเซิงที่ Soul จิวเวลรี่ เจียงเซิงง่วงจนพิงร่างกายของเขาแล้วงีบหลับซือเย่เจ๋วหันหน้าไปจ้องมองเธอ จากนั้นก็ยกมือขึ้นรวบไรผมที่อยู่ตรงหน้าผากของเธอ "ยังง่วงเหรอ?""อืม"เจียงเซิงบ่นอย่างซื่อตรง "โทษคุณเลย"เขายิ้ม จากนั้นก็มก้มตัวมาที่ข้างหูของเธอ "หรือว่าไม่ใช่ความผิดของคุณเหรอ?"เจียงเซิงเงยหน้าขึ้นและวางคางบนไหล่เพื่อมองดูเขา "ไม่ได้ให้คุณทำสองยกทั้งคืนสักหน่อย"ซือเย่เจ๋วที่สูญเสียความทรงจำไม่เพียงควบคุมอารมณ์ไม่ได้ แถมยังมีกำลังวังชาเต็มเปี่ยม เกือบพรากชีวิตแก่ ๆ ของเธอซือเย่เจ๋วไม่ได้พูดอะไร แต่ในใจกลับรู้สึกพึ่งพอใจอย่างมากในตอนนี้โทรศัพท์ของเจียงเซิงดังขึ้น คุณอาแฟรงค์โทรมาหาเธอแต่เช้าเกรงว่าต้องมีเรื่องใหญ่แน่นอนเธอรับสาย "คุณอาแฟรงค์?""เซิงเซิง
แต่ชาวเน็ตส่วนใหญ่คิดว่านี่ไม่ใช่การลอกเลียนแบบ ต่อให้สไตล์เหมือนกันแต่ยังมีจุดเด่นอื่นอีก สถานการณ์แบบนี้ไม่สามารถจำกัดความว่าเป็นการลอกเลียนแบบได้ ขอถามกลับว่าคนที่พูดว่าลอกเลียนแบบมีสิทธิอะไรคิดว่าคนเขาจะต้องลอกเลียนแบบแน่นอนน่าจะเป็นเพราะผู้บริหารของผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่เห็นว่านี่ไม่เพียงไม่ได้กดหัวคนอื่น แต่กลับเป็นวิธีที่ "ใจร้อนอยากประสบความสำเร็จแต่กลับทำให้เสียการ" จึงอยากเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมออกแต่คิดไม่ถึงว่า พวกเขาไม่สามารถเพิกถอนได้ เพราะว่ามีคนทุ่มเงินจำนวนมากซื้อคำค้นหายอดนิยมนี้ ผิ่นเก๋อของพวกเขาออกเงินสองเท่า ฝ่ายตรงข้ามก็ออกเงินสี่เท่า ตอนนี้เล่นเกมทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมแล้วเจียงเซิงนั่งดูหน้าแชทเฟซบุ๊กอยู่ตรงหน้าคอมพิวเตอร์ แฟรงค์เดินเข้ามา "เซิงเซิง ผิ่นเก๋อยอมแพ้การเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมแล้ว ดูท่าว่าจะทุ่มเงินไม่ไหวแล้ว"เจียงเซิงหรี่ตาลง "พวกเขาทำใจทุ่มเงินไม่ได้ แต่น่าจะมีวิธีอื่นอีก"ทางด้านเจียงเซิงทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมกับผิ่นเก๋อ ทางด้านซือเย่เจ๋วก็ทุ่มเงินล้มธุรกิจของหานซื่อกรุ๊ป หลัวเชว่มองดูจนตกตะลึงตาค้าง สามีภรรยาคู่นี้ตอนนี้เป็นคนโง่ที่เงินเ
เซียวเถียนเถียนใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา เธอตกใจจนถอยหลังไปสองสามก้าว จากนั้นก็หันหลังวิ่งหนีไปเมื่อมาถึงนอกห้องทำงานของเจียงเซิง คนทั้งคนยังคงอยู่ในสภาพเครื่องรวน เมื่อเข้าไปข้างในก็ทรุดนั่งลงบนโซฟา ขาก็อ่อนแรงไปหมดเจียงเซิงเดินออกมาจากห้องทำงาน เห็นท่าทางเหม่อลอยของเซียวเถียนเถียน ก็ยิ้มบาง "เกิดอะไรขึ้น?"เซียวเถียนเถียนลุกนั่งทันที และวางกาแฟบนโต๊ะทำงานของเธอ "ซื้อ...ซื้อมาให้เธอ"เจียงเซิงเดินไปตรงหน้าโต๊ะแล้วหยิบกาแฟขึ้นมา เห็นเธอพูดจาติดขัดจึงถามขึ้น "เจอเรื่องอะไรมา ทำไมถึงตกใจขนาดนี้?""ก็...ก็ไม่ได้เจอเรื่องอะไร ก็แค่ระหว่างทางที่ซื้อกาแฟได้เจอกับหานเซิงเข้า เกือบจะทะเลาะกับเธอขึ้นมา"เจียงเซิงถือกาแฟเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงาน "แค่นั้นเหรอ?"เธอเม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า "ใช่""งั้นเธอทำไมหน้าแดงขนาดนี้?""นั่นเป็นเพราะว่าฉันร้อน!" เซียวเถียนเถียนโกรธขึ้นมาทันที เจียงเซิงมองท่าทางประหม่าของเธอออก จึงหรี่ตาจ้องมองเธออยู่นานต่อให้เจอกับหานเซิงแล้วทะเลาะกัน ก็ไม่ถึงกับทำให้เธอกลายเป็นแบบนี้ ท่าทางแบบนี้เห็นได้ชัดว่า...ทำเรื่องไม่ดีอะไรมา"อ่อใช่เซิงเซิง บนเฟซบุ๊กเรื่องลอกเลียนแ
"เธอ…"“ผู้ชายทุกคนชอบผู้หญิงที่อ่อนโยนและน่ารัก คนปากคอเราะรายอย่างเธอชีวิตนี้คงไม่มีคนชอบเธอหรอก”ขณะพูด เธอก็พูดเหน็บแนม "ถ้าไม่ใช่ว่าเธอเป็นลูกสาวตระกูลเซียว จะมีการแต่งงานเกี่ยวดองกันกับตระกูลลู่ที่ดีขนาดนี้เหรอ คุณชายลู่แต่งงานกับเธอซวยไปแปดชาติจริง ๆ"เซียวเถียนเถียนสีหน้าเคร่งขรึมลงทันที เธอง้างมือขึ้นจะฟาดหน้าของหานเซิงหานเซิงเงยหน้าขึ้นให้เธอตบแต่ฝ่ามือยังไม่ทันโดน ข้อมือก็ถูกคนจับเอาไว้ลู่ลี่เซินดึงเซียวเถียนเถียนไปข้างหลังแล้วมองดูเธอ "ลงมือต่อหน้าคนมากมายแบบนี้ ไม่รู้จักอายบ้างเหรอ?"ผู้คนรอบตัวพากันมองมาทางนี้ เหมือนกำลังจะรอดูฉากเด็ดอยู่ ถ้าหากเมื่อครู่เซียวเถียนเถียนตบลงไปจริง ๆ ก็จะมีคนถ่ายรูปเอาไว้และเอาเรื่องนี้ไปพูดกันแต่เซียวเถียนเถียนไม่ยอมแพ้ เธอสะบัดมือของเขาออก "นายยุ่งอะไรกับฉันด้วย""คุณชายลู่ คุณมาได้พอดีเลย คู่หมั้นของคุณร้ายกาจ เมื่อครู่ยังอยากจะตบฉันด้วย ถ้าคุณไม่ห้ามไว้ หน้าของฉันคงบวมไปแล้วหานเซิงท่าทางน่าสงสาร เธอมีความมั่นใจคิดว่าผู้ชายชอบแบบนี้กันหมด แทบอยากจะให้ลู่ลี่เซินเห็นใจเธอ สงสารเธอ และทะเลาะกับเซียวเถียนเถียนขึ้นมาแต่หานเซิง
กู้เฉินกวางยิ้มบางแต่ไม่ได้พูดอะไรหลัวเชว่มองไปที่ซือเย่เจ๋วและพูดไม่ออก นี่เห็นได้ชัดว่าถูกคุณเจียงควบคุมจนอยู่หมัดแล้ว......บริษัท Soul จิวเวลรี่สิบเจ็ดบอกว่าเจียงยี่กับผู้เฒ่าเจียงได้พาเจียงเฮงกลับเมืองจินเฉิงแล้วเงินห้าแสนกว่าบาทที่ต้ายฉิงใช้จ่ายไปตอนนี้ได้ตามกลับผ่านทางตำรวจแล้ว แต่ก็ตามกลับมาได้แค่แสนกว่าบาท แต่ต้ายฉิงถูกควบคุมการเดินทาง อยากจะหนีก็หนีไม่ได้เจียงเซิงก็ไม่ได้พูดอะไรมากมายหลังจากผ่านเรื่องนี้ไปผู้เฒ่าเจียงคงจะทำตัวดีไม่น้อย จากอายุของเธอในตอนนี้อยากจะดิ้นรนต่อไป เกรงว่าคงจะไม่มีโอกาสดิ้นรนแล้วหลายชายของตัวเองล้างผลาญครอบครัวใช้เงินสะสมของเธอจนหมด แถมยังถูกหลอก แม้แต่ลูกชายก็ยังไม่ยอมรับเธอ ตอนนี้เธอก็ไม่มีอารมณ์คิดถึงมรดกของพ่อของเธอแล้ว*อลิซลอกเลียนแบบโซรา*พาดหัวข่าวเฟซบุ๊กที่โดดเด่นบนหน้าจอทำให้เจียงเซิงที่เพิ่งดื่มน้ำแทบจะพ่นน้ำออกมาเธอลอกเลียนแบบตัวเอง?เมื่อเปิดดู ก็เป็นเรื่องประดับ*รุ่นคู่รัก*ที่เธอออกแบบคล้ายกับสไตล์การออกแบบของเธอก่อนหน้านี้ แต่ไม่รู้ว่าใครตั้งใจพูดตัดสินเรื่องนี้ว่าลอกเลียนแบบ ชาวเน็ตที่ไม่ผ่านกรองการครุ่นคิดก็เชื่อจ
กู้เฉินกวางถอดแว่นกันแดดออกแล้วใส่ไว้ในกระเป๋าตรงหน้าอก "สถานการณ์ของนายแบบนี้ คงไม่ต้องให้ฉันแนะนำตัวเองใช่ไหม?"ซือเย่เจ๋วก็มองออกว่าเขาคือใคร "อยู่ในวงการบันเทิงได้ไม่เลวเลยสินะ"กู้เฉินกวางหัวเราะเบา ๆ “คนอื่นบอกว่านายความจำเสื่อมฉันยังไม่เชื่อ”เขาเดินไปที่โซฟาแล้วนั่งลงด้วยตัวเอง หลัวเชว่รินชาให้เขาหนึ่งแก้วซือเย่เจ๋วลุกขึ้นยืนและเดินอ้อมโต๊ะทำงานไปตรงหน้าโซฟา จากนั้นก็ปลดกระดุมชุดสูทออกแล้วนั่งลง "แขกหายากสินะ มีธุระอะไรกับฉัน?""มีธุระจริง ๆ นั่นแหละ" กู้เฉินกวางยกแก้วน้ำชาขึ้น "ฉันคิดว่านายคงจะเคยรู้จักกับหานจื้อเหนียนสินะ?"ในตอนที่ซือเย่เจ๋วกำลังครุ่นคิดว่าหานจื้อเหนียนคือใคร หลัวเชว่ก็ก้มตัวชี้แนะ "ประธานหานคนนั้นเมื่อครั้งที่แล้ว"ซือเย่เจ๋วหรี่ตาลงและยิ้มอย่างมีความหมายลึกซึ้ง "ทำไม ตระกูลหานมุ่งเป้าไปที่นายเหรอ?"กู้เฉินกวางไม่ได้พูดอะไรซือเย่เจ๋วสีหน้าจริงจังขึ้นมา "ฉันว่านายก็อายุเยอะแล้ว ควรจะพิจารณาเรื่องการแต่งงานได้แล้ว?"กู้เฉินกวางวางแก้วชาลง และครุ่นคิด “เร่งให้ฉันแต่งงาน นายเป็นห่วงอะไร?”ซือเย่เจ๋วสีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อย จากนั้นกอดอกมองเขา "ตาข้าง
เจียงเซิงไม่ปฏิเสธ "ใช่ค่ะ" เธอหัวเราะเบา ๆ "รวมทั้งเงินห้าล้านบาทนั่นด้วย นั่นก็เป็นเงินที่ฉันให้ คุณก็ไม่ได้บอกคุณย่าว่าคุณมีเงินห้าล้านบาทใช่ไหม?"ผู้เฒ่าเจียงหันหน้ามองไปทางเจียงยี่เจียงยี่ไม่ได้พูดอะไร เห็นได้ชัดว่ายอมรับแล้ว"คุณไม่อยากยอมรับแม่ ไม่อยากยอมรับลูกชาย ฉันก็ไม่ก้าวก่ายคุณ ในเมื่อเงินเอาให้คุณแล้ว คุณอยากจะใช้อะไรก็เรื่องของคุณ"เจียงเซิงกอดอก สายตาเย็นชา "แน่นอนว่าถ้าหากคุณยอมเอาเงินไปใช้ในทางที่ต้อง ฉันอาจจะให้โอกาสคุณอีกครั้ง แต่น่าเสียดายที่คุณปรับเปลี่ยนตัวเองไม่ได้แล้ว เอาเงินให้คุณมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ใด ๆ"มือที่วางอยู่บนขาของเจียงยี่กำแน่นอย่างอดไม่ได้ สีหน้าก็รู้สึกอับอายผู้เฒ่าเจียงมองดูเจียงเซิง "เซิงเซิง ในเมื่อเธอยังมีชีวิตอยู่ และก็ยอมช่วยอาของเธอกับลูกพี่ลูกน้องของเธอ...""คุณย่า คุณคิดมากเกินไปหรือเปล่า?" เจียงเซิงขัดคำพูดของเธอทันที "ฉันไม่ได้ช่วยพวกเขาโดยไม่มีเหตุผลหรอกนะคะ ฉันก็แค่ช่วยให้คุณได้เห็นความโหดร้ายของโลกนี้อย่างชัดเจน"ผู้เฒ่าเจียงมองไปทางเธอด้วยความเหม่อลอยเจียงเซิงลุกขึ้นเดินไปตรงหน้าต่าง และหันข้างมองไปทางพวกเขา "เพราะว
เพิ่งจะเข้าไปในห้อง เจียงยี่ก็อยู่ด้วย เจียงยี่นั่งอยู่บนเก้าอี้ บอดี้การ์ดที่อยู่ด้านหลังวางมือบนไหล่ของเขาไม่ให้เขาหนีไปได้ตอนที่ผู้เฒ่าเจียงเห็นผู้หญิงแปลกหน้าถูกพาตัวเข้ามา และคุกเข่าลงบนพื้น ก็งุนงงไปหมด "นี่คือ..."สิบเจ็ดพูดด้วยสีหน้านิ่งเฉย "ฉิงฉิงที่หลานชายของคุณพูดถึง คุณให้เธออธิบายกับคุณเองเถอะ"ฉิงฉิง?ผู้เฒ่าเจียงสายตามองไปที่ผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง ต้ายฉิงร้องไห้แล้วคลานมาที่ข้างเตียง "คุณย่าเจียง ขอโทษนะคะ ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่ควรหลอกลวงเจียงเฮง ขอร้องพวกคุณปล่อยฉันไปเถอะค่ะ"ผู้เฒ่าเจียงนึกขึ้นได้ว่าเจียงเฮงหลานชายของเธอนำเงินก้อนนั้นให้กับผู้หญิงคนนี้ เธอก็รู้สึกโมโหขึ้นมา และผลักฉิงฉิงออก "เธอยังมีหน้ามาหาฉันอีก? เงินของหลานชายฉันล่ะ?"ต้ายฉิงถูกผลักล้มลงกับพื้น ไหล่ของเธอสั่นเทา น้ำตาไหลลงแก้ม ชั่วขณะไม่รู้ว่าควรจะพูดเรื่องเงินก้อนนั้นที่เธอใช้ไปหมดแล้วอย่างไรดี“ฉิงฉิง!”เจียงเฮงปรากฏตัวนอกประตูและเห็นต้ายฉิงนั่งอยู่บนพื้น เขาจึงรีบเดินไปประคองเธอ "คุณย่า ฉิงฉิงมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร"“แกยังจะพูดอีก?” ผู้เฒ่าเจียงหน้าเขียวหน้าดำ "นังเด็กคนนี้หลอกเอาเงินของแก เ