เขาไม่ได้มีแผนจะทำอะไรต่อไป เขาแค่กอดเธอไว้ในอ้อมแขนแล้วหลับไป "นอนเถอะ"เมื่อรู้สึกถึงลมหายใจของชายที่อยู่ข้างหลังเธอ เจียงเซิงจึงค่อยๆ ผ่อนคลายลงและเริ่มรู้สึกง่วงนอน**เจียงเซิงและซือเย่เจ๋วเดินลงไปชั้นล่างพร้อมกันเจียงเซิ่นเตรียมอาหารเช้าไว้ให้แล้ว เมื่อเขาเห็นพวกเขาลงไปชั้นล่าง เขาก็ยิ้มแล้วพูดว่า "ตื่นแล้วเหรอ พวกคุณกินอาหารเช้าเสร็จค่อยกลับไปนะ"ทันทีทีเจียงเซิงเดินไปที่โต๊ะและนั่งลง จากนั้นเธอก็เห็นเจียงหลินแต่งตัวสวยงามเดินตามผู้เฒ่าเจียงลงมาชั้นล่าง"เซิงเซิงเอ๊ย เมื่อคืนเธอกับท่านเจ๋วนอนหลับสบายหรือเปล่าล่ะ?"เมื่อเห็นผู้เฒ่าเจียงถามอย่างกระตือรือร้น เจียงเซิงก็ตอบอย่างขอไปที "อืม นอนหลับสบาย"ผู้เฒ่าเจียงขยิบตาให้เจียงหลิน และเจียงหลินก็เดินไปข้างๆ เจียงเซิงด้วยรอยยิ้ม "พี่เจียงเซิง ฉันขอนั่งที่นี่ได้ไหม"เจียงเซิง: "ก็แล้วแต่เธอ"เธอดึงเก้าอี้ออกมาแล้วนั่งข้างเจียงเซิง และพูดอย่างเป็นมิตรและเขินอายว่า "พี่เจียงเซิง ฉันเพิ่งมาเมืองหลวงไม่นานนัก และไม่ค่อยรู้จักกับสถานที่หลายแห่ง คุณย่าบอกว่าให้พี่พาฉันไปทำความรู้จักกับสภาพแวดล้อมของเมืองหลวง พี่เจียงเซิง พี่คงไม
ผู้เฒ่าเจียงโดนว่าจนหน้าแดงเกือบจะระเบิดอารมณ์ออกมาเมื่อเจียงหลินได้ยินอย่างนั้น เธอก็รู้สึกอึดอัดในใจมาก แต่เพื่อที่จะได้ใกล้ชิดกับท่านเจ๋ว เธอกัดฟันและตอบตกลง "พี่เจียงเซิง ฉัน... ฉันโง่มาก เมื่อถึงเวลานั้น พี่และพี่เขยอย่ารังเกียจฉันนะ"ถ้าบอกว่าเจียงเวยเป็นคนชอบเสแสร้ง งั้นเจียงหลินก็คือคนตีสองหน้าเก่งจริงๆเจียงเซิงยิ้ม "ฉันจะเข้มงวดมาก"เจียงหลิน "..."ซือเย่เจ๋วอดไม่ได้ที่จะขดริมฝีปากของเขาขึ้นเมื่อเขาเห็นเจียงเซิง กำลัง "แกล้ง" เธอ ภรรยาตัวน้อยของเขาช่างน่ารักจริงเมื่อเธอตัดสินใจที่จะวางแผนผู้อื่น**เจียงหลินมาที่ TG ตามความปรารถนาของเธอ เมื่อมองดูบริษัทใหญ่ที่ยุ่งวุ่นวายแห่งนี้ เจียงหลินก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้นในใจโดยไม่ได้คาดคิดว่าบริษัทของท่านเจ๋วจะใหญ่โตขนาดนี้ สมเป็นสมาชิกของครอบครัวที่มีชื่อเสียงและมีอำนาจในเมืองหลวงจริงๆฮึ ตราบใดที่เธอสามารถทำงานที่นี่ได้สมหวัง สักวันหนึ่งเธอจะให้ท่านเจ๋วให้ความสนใจกับเธออย่างแน่นอน!เจียงหลินเดินตามเจียงเซิงไปที่ชั้น 16 เธอมองไปรอบๆ และอดไม่ได้ที่ถามออกมาว่า "พี่เจียงเซิง พี่เขยเขาไม่อยู่ที่นี่เหรอ?"ดวงตาของเจียงเซิ
เจียงเซิงฉีกยิ้มออกมา "ถ้าคุณซือห่วงใยเธอ ฉันสามารถจัดให้เธอไปที่บริษทของคุณได้"ซือเย่เจ๋วหรี่ตาลงและยิ้ม ก่อนยืนขึ้นและเดินไปหาเธอ เขารีบใช้มือโอบเอวของเธอ ก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าวแล้วผลักเธอให้พิงกับประตู "คุณยังบอกว่าคุณไม่ได้หึงเหรอ?"เจียงเซิงมองเขาด้วยสายตาที่เย็นชาเธอแค่ทนไม่ไหวที่เห็นเธอเสแสร้งทำตัวอ่อนแอกว่าเจียงเวยก็เท่านั้นอีกอย่าง ให้เธอเรียนรู้ฝึกฝนความอดทนมีปัญหาอะไรเหรอ?เธอสะบัดมือของเขาออก "อย่ากอดฉันแบบตามอำเภอใจแบบนี้ เดี๋ยวมีคนอื่นเห็นเข้าจะไม่ดีเอา""มีคนอื่นเห็นเข้าก็ดี"หลังจากที่ชายคนนั้นพูดจบ เขาก็จูบที่ริมฝีปากของเธอ ซึ่งทำให้ เจียงเซิงกัดเขาด้วยความโกรธ "ซือเย่เจ๋ว ช่วยอย่าด้านแบบนี้เลย!"ซือเย่เจ๋วยกมือขึ้นเพื่อจับด้านหลังศีรษะของเธอ ริมฝีปากของเขาสัมผัสถึงความหวานของเธอ เขารู้สึกได้ชัดเจนว่าเธอกำลังชินกับการจูบของเขา..."อ่อ…" เจียงเซิงจับแขนของเขา แต่เธอก็ถูกเขากอดไว้ในอ้อนแขนไม่รู้ว่าเป็นเพราะฝึกฝนได้หลายครั้งหรือเปล่าทักษะการจูบของเขาได้คล่องแคล่วกว่าเดิมตั้งเยอะราวกับว่าเจียงเซิงทั้งคนกำลังจะถูกเขาควบคุม จูบของเขาก็ออกจากริมฝีปากของเธอ
เซียวหลานรู้ว่าลูกสาวของเธอยังมีใจให้ท่านเจ๋วอยู่ ดังนั้นเธอจึงรีบปลอบใจว่า "ตอนนี้ลูกอย่าไปสนใจเรื่องของท่านเจ๋วก่อน ตราบใดที่ลูกได้ตัวตนของคุณหนูแห่งตระกูลกุง แล้วยังต้องกังวลว่าท่านเจ๋วจะไม่ชอบลูกเหรอ?"เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เจียงเวยก็จับมือแม่ของเธอ "แม่ แม่พูดถูก ฉันต้องทำให้ตระกูลลู่เชื่อใจว่าฉันเป็นลูกสาวของกุงม่านม่านอย่างร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ฉันจะต้องได้ผมของนังนั่นเพื่อไปทำ DNA ถึงจะได้"เซียวหลานหัวเราะเยาะ "นี่จัดการง่ายมาก ยัยเจียงหลินทำงานอยู่ใน TG แล้ว เราให้เธอไปจัดการเรื่องนี้เถอะ นังตัวดีเจียงเซิงจะไม่สงสัยพวกเราเข้า"เจียงหลินผู้ไม่เคยทำงานหนักมาก่อนได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ขนส่งในแผนกวัตถุดิบ และเธอก็รู้สึกทั้งโกรธและน้อยใจด้วยให้ตายเถอะ เจียงเซิงต้องตั้งใจทำแบบนี้แน่ๆ!ในเวลานี้ เธอได้รับโทรศัพท์จากเซียวหลาน ป้าใหญ่ของเธอ และเธอก็ระบายความขมขื่นของเธอกับเซียวหลานโดยไม่ได้คิดอะไรเลยเซียวหลานแสร้งทำเป็นปลอบเธอแล้วพูดว่า "เอาล่ะ หลินหลิน อย่าโกรธเลย พูดอีกนัยหนึ่ง เธอมีโอกาสอยู่ที่นั่นถึงจะทำงานหนักสักหน่อยก็ไม่เป็นไร""นอกจากนี้ ถ้าเธออยู่ที่นั่น ก็มีโอกาสได้เจ
เจียงเซิง "ถ้าเธอสามารถมีลูกชายอีกคนได้จริงๆ ผู้เฒ่าเจียงก็คงจะมีความสุขและชื่นชอบหลานชายคนนี้ แล้วสถานะของเธอในตระกูลเจียงก็จะแตกต่างออกไปแล้วแหละ"ป้าใหญ่อยากมีลูกชายเหรอ?สีหน้าของเจียงหลินดูประหลาดใจเล็กน้อย เธอรู้ว่าคุณย่าให้ความสำคัญหลานชายมากกว่าหลานสาวของเธอเสมอในเมืองจินเฉิง น้องชายที่ไร้ประโยชน์ของเธอมีความสำคัญมากกว่าเธอเสมอ เมื่อตอนที่เธอยังเด็ก เธอทำงานทั้งหมดที่บ้าน และน้องชายของเธอกลับไม่ต้องทำอะไรเลยเมื่อเธอถึงวัยควรจะออกเรือนนั้น ย่าของเธอถึงเปลี่ยนในทำดีกับเธอมากขึ้นอีกหน่อย โดยหวังว่าเธอจะสามารถแต่งงานกับครอบครัวที่ร่ำรวยเพื่อที่เธอจะได้ช่วยน้องชายของเธอได้แต่ผู้เฒ่าเจียงคงไม่รู้ว่า ความปรารถนาของเธอที่จะแต่งงานกับครอบครัวที่ร่ำรวยไม่ใช่เพื่อสนับสนุนน้องชายของเธอจริงๆ แต่เธอต้องการออกจากชีวิตที่ถูกครอบงำโดยน้องชายของเธอถ้าป้าใหญ่มีลูกชาย งั้นคุณย่าก็อาจจะไม่ได้ให้ความสนใจกับน้องชายของเธอคนเดียวเมื่อคิดถึงสิ่งนี้ เจียงหลินก็รู้สึกมีความหวังบ้างจู่ๆ ประตูห้องทำงานก็เปิดออก และเจียงหลินก็ล้มลงไปที่เท้าของ แฟรงค์เนื่องจากเธอพิงประตูแอบฟังอยู่แฟรงค์มองเธอแ
"เธอเต็มใจที่จะตรวจ DNA" กุงหลี่หลี่หันไปมองเขา "ถ้าผลตรวจออกมา แม้ว่านายจะยอมรับไม่ได้ก็ต้องยอมรับ"ลู่ลี่เซินยักไหล่ เขามีความประทับใจที่ไม่ดีต่อเธอเป็นพิเศษนับตั้งแต่เธอตะโกนใส่เด็กสองคนที่ร้านอาหารมิชลินและขนาดเทกาแฟใส่คนอื่นด้วยเขาเคยได้ยินแม่ของเขาพูดถึงน้ากุงม่านม่าน ด้วยการอบรมสั่งสอนของกุงม่านม่าน ลูกที่เธอให้กำเนิดออกมานั้นจะไม่รู้จักกาลเทศะอย่างนั้นได้ยังไงแต่ถ้าผลการตรวจ DNA ออกมา แล้วมันเป็นเรื่องจริงอย่างที่แม่ของเขาพูด ต่อให้เป็นลูกพี่ลูกน้องของเขาจริงๆ เขาก็จะไม่ชอบเธอ"เรื่งนักออกแบบโซรา นายได้สอบสวนอะไรบ้างไหม?"ดวงตาของลู่ลี่เซินขยับ "มี เธอเป็นนักออกแบบเครื่องประดับลักชัวรี่ ชื่อ เจียงเซิง และดูเหมือนว่าเธอจะมีความสัมพันธ์กับท่านเจ๋วด้วย"กุงหลี่หลี่หรี่ตาลง "ที่แท้เป็นเธอ?"เจียงเวยบอกเธอว่าเธอมีน้องสาวต่างแม่ชื่อเจียงเซิง ซึ่งร่วมมือกับคุณหนูเสิ่นเพื่อใส่ร้ายเธอ แล้วเธอเป็นผู้บงการที่สร้างเรื่องทั้งหมดที่อยู่บนเน็ตของเจียงเวย?และคนที่อยู่เบื้องหลังผู้หญิงคนนั้นคือ ซือเย่เจ๋วกุงหลี่หลี่กำลังคิดเกี่ยวกับอะไรอยู่ และใบหน้าของเธอก็มืดลง แม้ว่าซือเย่เจ๋วจะ
"คุณปู่จ๋า ปู่คิดถึงพวกหนูไหมจ๊า" เจียงนวนนวนถามพร้อมกับกระพริบตา"ยังต้องถามอีกเหรอ ปู่คิดถึงพวกหนูจะแย่แล้ว" คุณท่านซือลูบปลายจมูกของเธอ ดวงตาเต็มไปด้วยความรักใคร่เนื่องจากนี่เป็นครั้งแรกที่เจียงเฉินเฉินมาที่นี่ เขาจึงแปลกใจกับทุกสิ่งรอบตัว "คุณปู่ ที่นี่สวยงามมากนะ"คุณท่านซือหัวเราะใหญ่ "ฮ่าๆ ไม่เป็นไรนะ ที่นี่ก็เป็นบ้านของหนูด้วยเหมือนกัน"สาวใช้พาเจียงเซิงไปที่ห้องการตกแต่งของห้องยังคงทันสมัย แต่ทิวทัศน์ที่นี่น่าอยู่และเงียบสงบจริงๆ สามารถมองเห็นภูเขาหินและป่าไผ่ในลานบ้านจากในอาคารในขณะนี้ โทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้นคือสายจากเจียงเซิ่น พ่อของเขาเธอเดินไปที่ด้านหน้าหน้าต่างแล้วรับโทรศัพท์แนบหูอย่างลังเล "พ่อ?""เซิงเซิง เมื่อหลายวันก่อนฉันจัดเก็บข้าวของของแม่เธอไปบ้าง เธออยากได้เมื่อไร เดี๋ยวฉันจะมอบให้"ข้าวของของแม่เธอ?เธอคิดเสมอว่าพ่อของเธอไม่ได้เก็บข้าวของอะไรเกี่ยวกับแม่ของเธอไว้ แต่เธอก็ไม่คาดคิด...เจียงเซิงเม้มริมฝีปากของเธอแน่น และพูดช้าๆ ด้วยเสียงแหบแห้งเล็กน้อย "ค่ะ"ทันทีที่วางสายนั้น เจียงเซิงก็ถือโทรศัพท์ไว้ในมือแน่นขึ้น พยายามจัดการอารมณ์ให้เป็น
"แม้ว่าจะเห็นแล้ว จะมีอะไรต้องให้แปลกใจเหรอ?" เจียงเซิงยักไหล่และยิ้มดวงตาของซือเย่เจ๋วหรี่ลงเล็กน้อย และเขาก็เดินผ่านเธอไปและพูดด้วยน้ำเสียงสงบ "โอ้ ดูเหมือนคุณจะไม่สนใจเช่นกัน"งั้นเขาก็ไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรแล้วเจียงเซิงตัวแข็งอยู่กับที่ หลังจากที่ซือเย่เจ๋วพูดคำนี้เสร็ตดูเหมือนว่ามีหนามแหลมแทงเข้าในใจของเธอทำให้เธอไม่สบายใจมากเธอกำหมัดแน่น ใช่แล้ว เธอไม่สนใจ เธอไม่ควรมีความสัมพันธ์อื่นใดกับเขา...แต่ที่พวกเขาไม่รู้ก็คือเด็กน้อยทั้งสามที่ยืนอยู่หลังประตูนั้นมองเห็นได้ชัดเจนความสัมพันธ์ของพ่อกับแม่อยู่ในภาวะวิกฤติ!คุณท่านซือยืนอยู่ข้างหลังพวกเขาทั้งสาม ยกมือขึ้นและตบหัวพวกเขาเบาๆหลังจากที่เจียงเซิงจากไป เด็กน้อยทั้งสามถึงพูดขึ้นมาว่า "คุณปู่ แล้วถ้าแม่ไม่ยอมรับพ่อตลอดไปต้องทำยังไงดีล่ะ"คุณท่านซือเข้าเหตุการณ์อย่างดี "ถ้าอย่างนั้นปัญหาก็อยู่ที่แม่ของพวกหนู ทำไมแม่ของหนูถึงไม่ยอมรับล่ะ บางทีอาจเป็นเพราะเธอรู้สึกไม่มั่นคงมั้ง"เธอยังคงสงสัยอยู่ว่าซือเย่เจ๋วมีค่าควรแก่ความไว้วางใจของเธอจริงๆ หรือไม่ สำหรับความรักและชีวิตการแต่งงานแม้ขนาดสร้างครอบครัว เธอมักจะรู้สึกไม่มั
*ถูกลูกเล่นของ Soul จิวเวลรี่ทำให้อ้วกแล้ว*แฟรงค์มองดูเธอ "เซิงเซิง จำนวนยอดขายของ Soul จิวเวลรี่ในวันนี้ลดลงอีกสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว บริษัทได้รับสายโทรศัพท์เพื่อสละออเดอร์และคืนเงินหลายออเดอร์แล้วดวงตาของเจียงเซิงขยับเขยื้อน "ดูท่าพวกเขาอยากจะบีบบังคับให้ฉันยอมจำนนสินะ""งั้นคุณวางแผนจะทำอย่างไร?" แฟรงค์รู้ว่าเธอไม่เปิดเผยตัวตนเพราะมีเหตุผลของเธอ ถ้าหากมีวิธีอื่นก็จะดีอย่างมากเจียงเซิงยื่นแท็บเล็ตไปให้เขา และหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา "ทางด้านผิ่นเก๋อยืนยันเป็นมั่นว่าฉันลอกเลียนแบบทั้ง Soul จิวเวลรี่ ถึงเวลาที่ฉันควรจะตอบโต้แล้ว"ในขณะที่กระแส "การลอกเลียนแบบ" บนอินเทอร์เน็ตกำลังโด่งดัง คำค้นหายอดนิยมของเฟซบุ๊กก็มีเพิ่มขึ้นมาหนึ่งประเด็น*ผิ่นเก๋อของปลอม*ผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่ถูกเปิดเผยออกมาว่าแอบลดวัสดุและขั้นตอนการก่อสร้าง ขายเครื่องประดับปลอมในราคาสูงและหลอกลวงลูกค้า และสร้างข่าวลือเรื่องที่โซราเสียชีวิต แม้กระทั่งข่าวลือที่เจ้าของผิ่นเก๋อมอมเหล้าเด็กสาวในคลับเฮ้าส์ก็ถูกเปิดโปงจนหมดเปลือกการเปิดเผยอย่างต่อเนื่องนี้ ทำให้เหตุการณ์ของ Soul จิวเวลรี่ถูกดันลงไปทันที เพียงแค่เรื่องที่
"ทำไม่ได้" ซือเย่เจ๋วเสียงทุ้มต่ำ จากนั้นจูบเธออย่างแรง และยิ่งอยู่ยิ่งรุนแรงขึ้นอาจเป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง เมื่อคืนฝนตกหนักทำให้อุณหภูมิเปลี่ยนไปหนาวเย็นกะทันหัน ใบไม้สีเหลืองที่แห้งเหี่ยวปกคลุมบนพื้น สัมผัสกับแอ่งน้ำเจียงเซิงกับซือเย่เจ๋วเพิ่งไปส่งเจ้าตัวเล็กทั้งสองคนที่โรงเรียนประถมเอกชน จากนั้นตอนที่เดินทางไปส่งเจียงเซิงที่ Soul จิวเวลรี่ เจียงเซิงง่วงจนพิงร่างกายของเขาแล้วงีบหลับซือเย่เจ๋วหันหน้าไปจ้องมองเธอ จากนั้นก็ยกมือขึ้นรวบไรผมที่อยู่ตรงหน้าผากของเธอ "ยังง่วงเหรอ?""อืม"เจียงเซิงบ่นอย่างซื่อตรง "โทษคุณเลย"เขายิ้ม จากนั้นก็มก้มตัวมาที่ข้างหูของเธอ "หรือว่าไม่ใช่ความผิดของคุณเหรอ?"เจียงเซิงเงยหน้าขึ้นและวางคางบนไหล่เพื่อมองดูเขา "ไม่ได้ให้คุณทำสองยกทั้งคืนสักหน่อย"ซือเย่เจ๋วที่สูญเสียความทรงจำไม่เพียงควบคุมอารมณ์ไม่ได้ แถมยังมีกำลังวังชาเต็มเปี่ยม เกือบพรากชีวิตแก่ ๆ ของเธอซือเย่เจ๋วไม่ได้พูดอะไร แต่ในใจกลับรู้สึกพึ่งพอใจอย่างมากในตอนนี้โทรศัพท์ของเจียงเซิงดังขึ้น คุณอาแฟรงค์โทรมาหาเธอแต่เช้าเกรงว่าต้องมีเรื่องใหญ่แน่นอนเธอรับสาย "คุณอาแฟรงค์?""เซิงเซิง
แต่ชาวเน็ตส่วนใหญ่คิดว่านี่ไม่ใช่การลอกเลียนแบบ ต่อให้สไตล์เหมือนกันแต่ยังมีจุดเด่นอื่นอีก สถานการณ์แบบนี้ไม่สามารถจำกัดความว่าเป็นการลอกเลียนแบบได้ ขอถามกลับว่าคนที่พูดว่าลอกเลียนแบบมีสิทธิอะไรคิดว่าคนเขาจะต้องลอกเลียนแบบแน่นอนน่าจะเป็นเพราะผู้บริหารของผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่เห็นว่านี่ไม่เพียงไม่ได้กดหัวคนอื่น แต่กลับเป็นวิธีที่ "ใจร้อนอยากประสบความสำเร็จแต่กลับทำให้เสียการ" จึงอยากเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมออกแต่คิดไม่ถึงว่า พวกเขาไม่สามารถเพิกถอนได้ เพราะว่ามีคนทุ่มเงินจำนวนมากซื้อคำค้นหายอดนิยมนี้ ผิ่นเก๋อของพวกเขาออกเงินสองเท่า ฝ่ายตรงข้ามก็ออกเงินสี่เท่า ตอนนี้เล่นเกมทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมแล้วเจียงเซิงนั่งดูหน้าแชทเฟซบุ๊กอยู่ตรงหน้าคอมพิวเตอร์ แฟรงค์เดินเข้ามา "เซิงเซิง ผิ่นเก๋อยอมแพ้การเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมแล้ว ดูท่าว่าจะทุ่มเงินไม่ไหวแล้ว"เจียงเซิงหรี่ตาลง "พวกเขาทำใจทุ่มเงินไม่ได้ แต่น่าจะมีวิธีอื่นอีก"ทางด้านเจียงเซิงทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมกับผิ่นเก๋อ ทางด้านซือเย่เจ๋วก็ทุ่มเงินล้มธุรกิจของหานซื่อกรุ๊ป หลัวเชว่มองดูจนตกตะลึงตาค้าง สามีภรรยาคู่นี้ตอนนี้เป็นคนโง่ที่เงินเ
เซียวเถียนเถียนใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา เธอตกใจจนถอยหลังไปสองสามก้าว จากนั้นก็หันหลังวิ่งหนีไปเมื่อมาถึงนอกห้องทำงานของเจียงเซิง คนทั้งคนยังคงอยู่ในสภาพเครื่องรวน เมื่อเข้าไปข้างในก็ทรุดนั่งลงบนโซฟา ขาก็อ่อนแรงไปหมดเจียงเซิงเดินออกมาจากห้องทำงาน เห็นท่าทางเหม่อลอยของเซียวเถียนเถียน ก็ยิ้มบาง "เกิดอะไรขึ้น?"เซียวเถียนเถียนลุกนั่งทันที และวางกาแฟบนโต๊ะทำงานของเธอ "ซื้อ...ซื้อมาให้เธอ"เจียงเซิงเดินไปตรงหน้าโต๊ะแล้วหยิบกาแฟขึ้นมา เห็นเธอพูดจาติดขัดจึงถามขึ้น "เจอเรื่องอะไรมา ทำไมถึงตกใจขนาดนี้?""ก็...ก็ไม่ได้เจอเรื่องอะไร ก็แค่ระหว่างทางที่ซื้อกาแฟได้เจอกับหานเซิงเข้า เกือบจะทะเลาะกับเธอขึ้นมา"เจียงเซิงถือกาแฟเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงาน "แค่นั้นเหรอ?"เธอเม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า "ใช่""งั้นเธอทำไมหน้าแดงขนาดนี้?""นั่นเป็นเพราะว่าฉันร้อน!" เซียวเถียนเถียนโกรธขึ้นมาทันที เจียงเซิงมองท่าทางประหม่าของเธอออก จึงหรี่ตาจ้องมองเธออยู่นานต่อให้เจอกับหานเซิงแล้วทะเลาะกัน ก็ไม่ถึงกับทำให้เธอกลายเป็นแบบนี้ ท่าทางแบบนี้เห็นได้ชัดว่า...ทำเรื่องไม่ดีอะไรมา"อ่อใช่เซิงเซิง บนเฟซบุ๊กเรื่องลอกเลียนแ
"เธอ…"“ผู้ชายทุกคนชอบผู้หญิงที่อ่อนโยนและน่ารัก คนปากคอเราะรายอย่างเธอชีวิตนี้คงไม่มีคนชอบเธอหรอก”ขณะพูด เธอก็พูดเหน็บแนม "ถ้าไม่ใช่ว่าเธอเป็นลูกสาวตระกูลเซียว จะมีการแต่งงานเกี่ยวดองกันกับตระกูลลู่ที่ดีขนาดนี้เหรอ คุณชายลู่แต่งงานกับเธอซวยไปแปดชาติจริง ๆ"เซียวเถียนเถียนสีหน้าเคร่งขรึมลงทันที เธอง้างมือขึ้นจะฟาดหน้าของหานเซิงหานเซิงเงยหน้าขึ้นให้เธอตบแต่ฝ่ามือยังไม่ทันโดน ข้อมือก็ถูกคนจับเอาไว้ลู่ลี่เซินดึงเซียวเถียนเถียนไปข้างหลังแล้วมองดูเธอ "ลงมือต่อหน้าคนมากมายแบบนี้ ไม่รู้จักอายบ้างเหรอ?"ผู้คนรอบตัวพากันมองมาทางนี้ เหมือนกำลังจะรอดูฉากเด็ดอยู่ ถ้าหากเมื่อครู่เซียวเถียนเถียนตบลงไปจริง ๆ ก็จะมีคนถ่ายรูปเอาไว้และเอาเรื่องนี้ไปพูดกันแต่เซียวเถียนเถียนไม่ยอมแพ้ เธอสะบัดมือของเขาออก "นายยุ่งอะไรกับฉันด้วย""คุณชายลู่ คุณมาได้พอดีเลย คู่หมั้นของคุณร้ายกาจ เมื่อครู่ยังอยากจะตบฉันด้วย ถ้าคุณไม่ห้ามไว้ หน้าของฉันคงบวมไปแล้วหานเซิงท่าทางน่าสงสาร เธอมีความมั่นใจคิดว่าผู้ชายชอบแบบนี้กันหมด แทบอยากจะให้ลู่ลี่เซินเห็นใจเธอ สงสารเธอ และทะเลาะกับเซียวเถียนเถียนขึ้นมาแต่หานเซิง
กู้เฉินกวางยิ้มบางแต่ไม่ได้พูดอะไรหลัวเชว่มองไปที่ซือเย่เจ๋วและพูดไม่ออก นี่เห็นได้ชัดว่าถูกคุณเจียงควบคุมจนอยู่หมัดแล้ว......บริษัท Soul จิวเวลรี่สิบเจ็ดบอกว่าเจียงยี่กับผู้เฒ่าเจียงได้พาเจียงเฮงกลับเมืองจินเฉิงแล้วเงินห้าแสนกว่าบาทที่ต้ายฉิงใช้จ่ายไปตอนนี้ได้ตามกลับผ่านทางตำรวจแล้ว แต่ก็ตามกลับมาได้แค่แสนกว่าบาท แต่ต้ายฉิงถูกควบคุมการเดินทาง อยากจะหนีก็หนีไม่ได้เจียงเซิงก็ไม่ได้พูดอะไรมากมายหลังจากผ่านเรื่องนี้ไปผู้เฒ่าเจียงคงจะทำตัวดีไม่น้อย จากอายุของเธอในตอนนี้อยากจะดิ้นรนต่อไป เกรงว่าคงจะไม่มีโอกาสดิ้นรนแล้วหลายชายของตัวเองล้างผลาญครอบครัวใช้เงินสะสมของเธอจนหมด แถมยังถูกหลอก แม้แต่ลูกชายก็ยังไม่ยอมรับเธอ ตอนนี้เธอก็ไม่มีอารมณ์คิดถึงมรดกของพ่อของเธอแล้ว*อลิซลอกเลียนแบบโซรา*พาดหัวข่าวเฟซบุ๊กที่โดดเด่นบนหน้าจอทำให้เจียงเซิงที่เพิ่งดื่มน้ำแทบจะพ่นน้ำออกมาเธอลอกเลียนแบบตัวเอง?เมื่อเปิดดู ก็เป็นเรื่องประดับ*รุ่นคู่รัก*ที่เธอออกแบบคล้ายกับสไตล์การออกแบบของเธอก่อนหน้านี้ แต่ไม่รู้ว่าใครตั้งใจพูดตัดสินเรื่องนี้ว่าลอกเลียนแบบ ชาวเน็ตที่ไม่ผ่านกรองการครุ่นคิดก็เชื่อจ
กู้เฉินกวางถอดแว่นกันแดดออกแล้วใส่ไว้ในกระเป๋าตรงหน้าอก "สถานการณ์ของนายแบบนี้ คงไม่ต้องให้ฉันแนะนำตัวเองใช่ไหม?"ซือเย่เจ๋วก็มองออกว่าเขาคือใคร "อยู่ในวงการบันเทิงได้ไม่เลวเลยสินะ"กู้เฉินกวางหัวเราะเบา ๆ “คนอื่นบอกว่านายความจำเสื่อมฉันยังไม่เชื่อ”เขาเดินไปที่โซฟาแล้วนั่งลงด้วยตัวเอง หลัวเชว่รินชาให้เขาหนึ่งแก้วซือเย่เจ๋วลุกขึ้นยืนและเดินอ้อมโต๊ะทำงานไปตรงหน้าโซฟา จากนั้นก็ปลดกระดุมชุดสูทออกแล้วนั่งลง "แขกหายากสินะ มีธุระอะไรกับฉัน?""มีธุระจริง ๆ นั่นแหละ" กู้เฉินกวางยกแก้วน้ำชาขึ้น "ฉันคิดว่านายคงจะเคยรู้จักกับหานจื้อเหนียนสินะ?"ในตอนที่ซือเย่เจ๋วกำลังครุ่นคิดว่าหานจื้อเหนียนคือใคร หลัวเชว่ก็ก้มตัวชี้แนะ "ประธานหานคนนั้นเมื่อครั้งที่แล้ว"ซือเย่เจ๋วหรี่ตาลงและยิ้มอย่างมีความหมายลึกซึ้ง "ทำไม ตระกูลหานมุ่งเป้าไปที่นายเหรอ?"กู้เฉินกวางไม่ได้พูดอะไรซือเย่เจ๋วสีหน้าจริงจังขึ้นมา "ฉันว่านายก็อายุเยอะแล้ว ควรจะพิจารณาเรื่องการแต่งงานได้แล้ว?"กู้เฉินกวางวางแก้วชาลง และครุ่นคิด “เร่งให้ฉันแต่งงาน นายเป็นห่วงอะไร?”ซือเย่เจ๋วสีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อย จากนั้นกอดอกมองเขา "ตาข้าง
เจียงเซิงไม่ปฏิเสธ "ใช่ค่ะ" เธอหัวเราะเบา ๆ "รวมทั้งเงินห้าล้านบาทนั่นด้วย นั่นก็เป็นเงินที่ฉันให้ คุณก็ไม่ได้บอกคุณย่าว่าคุณมีเงินห้าล้านบาทใช่ไหม?"ผู้เฒ่าเจียงหันหน้ามองไปทางเจียงยี่เจียงยี่ไม่ได้พูดอะไร เห็นได้ชัดว่ายอมรับแล้ว"คุณไม่อยากยอมรับแม่ ไม่อยากยอมรับลูกชาย ฉันก็ไม่ก้าวก่ายคุณ ในเมื่อเงินเอาให้คุณแล้ว คุณอยากจะใช้อะไรก็เรื่องของคุณ"เจียงเซิงกอดอก สายตาเย็นชา "แน่นอนว่าถ้าหากคุณยอมเอาเงินไปใช้ในทางที่ต้อง ฉันอาจจะให้โอกาสคุณอีกครั้ง แต่น่าเสียดายที่คุณปรับเปลี่ยนตัวเองไม่ได้แล้ว เอาเงินให้คุณมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ใด ๆ"มือที่วางอยู่บนขาของเจียงยี่กำแน่นอย่างอดไม่ได้ สีหน้าก็รู้สึกอับอายผู้เฒ่าเจียงมองดูเจียงเซิง "เซิงเซิง ในเมื่อเธอยังมีชีวิตอยู่ และก็ยอมช่วยอาของเธอกับลูกพี่ลูกน้องของเธอ...""คุณย่า คุณคิดมากเกินไปหรือเปล่า?" เจียงเซิงขัดคำพูดของเธอทันที "ฉันไม่ได้ช่วยพวกเขาโดยไม่มีเหตุผลหรอกนะคะ ฉันก็แค่ช่วยให้คุณได้เห็นความโหดร้ายของโลกนี้อย่างชัดเจน"ผู้เฒ่าเจียงมองไปทางเธอด้วยความเหม่อลอยเจียงเซิงลุกขึ้นเดินไปตรงหน้าต่าง และหันข้างมองไปทางพวกเขา "เพราะว
เพิ่งจะเข้าไปในห้อง เจียงยี่ก็อยู่ด้วย เจียงยี่นั่งอยู่บนเก้าอี้ บอดี้การ์ดที่อยู่ด้านหลังวางมือบนไหล่ของเขาไม่ให้เขาหนีไปได้ตอนที่ผู้เฒ่าเจียงเห็นผู้หญิงแปลกหน้าถูกพาตัวเข้ามา และคุกเข่าลงบนพื้น ก็งุนงงไปหมด "นี่คือ..."สิบเจ็ดพูดด้วยสีหน้านิ่งเฉย "ฉิงฉิงที่หลานชายของคุณพูดถึง คุณให้เธออธิบายกับคุณเองเถอะ"ฉิงฉิง?ผู้เฒ่าเจียงสายตามองไปที่ผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง ต้ายฉิงร้องไห้แล้วคลานมาที่ข้างเตียง "คุณย่าเจียง ขอโทษนะคะ ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่ควรหลอกลวงเจียงเฮง ขอร้องพวกคุณปล่อยฉันไปเถอะค่ะ"ผู้เฒ่าเจียงนึกขึ้นได้ว่าเจียงเฮงหลานชายของเธอนำเงินก้อนนั้นให้กับผู้หญิงคนนี้ เธอก็รู้สึกโมโหขึ้นมา และผลักฉิงฉิงออก "เธอยังมีหน้ามาหาฉันอีก? เงินของหลานชายฉันล่ะ?"ต้ายฉิงถูกผลักล้มลงกับพื้น ไหล่ของเธอสั่นเทา น้ำตาไหลลงแก้ม ชั่วขณะไม่รู้ว่าควรจะพูดเรื่องเงินก้อนนั้นที่เธอใช้ไปหมดแล้วอย่างไรดี“ฉิงฉิง!”เจียงเฮงปรากฏตัวนอกประตูและเห็นต้ายฉิงนั่งอยู่บนพื้น เขาจึงรีบเดินไปประคองเธอ "คุณย่า ฉิงฉิงมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร"“แกยังจะพูดอีก?” ผู้เฒ่าเจียงหน้าเขียวหน้าดำ "นังเด็กคนนี้หลอกเอาเงินของแก เ