"แม้ว่าจะเห็นแล้ว จะมีอะไรต้องให้แปลกใจเหรอ?" เจียงเซิงยักไหล่และยิ้มดวงตาของซือเย่เจ๋วหรี่ลงเล็กน้อย และเขาก็เดินผ่านเธอไปและพูดด้วยน้ำเสียงสงบ "โอ้ ดูเหมือนคุณจะไม่สนใจเช่นกัน"งั้นเขาก็ไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรแล้วเจียงเซิงตัวแข็งอยู่กับที่ หลังจากที่ซือเย่เจ๋วพูดคำนี้เสร็ตดูเหมือนว่ามีหนามแหลมแทงเข้าในใจของเธอทำให้เธอไม่สบายใจมากเธอกำหมัดแน่น ใช่แล้ว เธอไม่สนใจ เธอไม่ควรมีความสัมพันธ์อื่นใดกับเขา...แต่ที่พวกเขาไม่รู้ก็คือเด็กน้อยทั้งสามที่ยืนอยู่หลังประตูนั้นมองเห็นได้ชัดเจนความสัมพันธ์ของพ่อกับแม่อยู่ในภาวะวิกฤติ!คุณท่านซือยืนอยู่ข้างหลังพวกเขาทั้งสาม ยกมือขึ้นและตบหัวพวกเขาเบาๆหลังจากที่เจียงเซิงจากไป เด็กน้อยทั้งสามถึงพูดขึ้นมาว่า "คุณปู่ แล้วถ้าแม่ไม่ยอมรับพ่อตลอดไปต้องทำยังไงดีล่ะ"คุณท่านซือเข้าเหตุการณ์อย่างดี "ถ้าอย่างนั้นปัญหาก็อยู่ที่แม่ของพวกหนู ทำไมแม่ของหนูถึงไม่ยอมรับล่ะ บางทีอาจเป็นเพราะเธอรู้สึกไม่มั่นคงมั้ง"เธอยังคงสงสัยอยู่ว่าซือเย่เจ๋วมีค่าควรแก่ความไว้วางใจของเธอจริงๆ หรือไม่ สำหรับความรักและชีวิตการแต่งงานแม้ขนาดสร้างครอบครัว เธอมักจะรู้สึกไม่มั
เจียงเซิงหยุดชั่วคราว และยิ้มอย่างเชื่องช้า "คุณลุง ฉันไม่ได้เข้าใจผิดอะไรค่ะ""ฉันแค่บอกเธอไปอย่างนั้น ยัยหลัวหยิงไม่สนใจเย่เจ๋ว และยังรังเกียจเขาด้วยนี่น่ะ หากเธอได้รู้จักกับยัยคนนั้น เธอก็จะชอบเช่นกัน"เจียงเฉินเฉิน "ใช่ๆ แม่จ๋า น้าหลัวหยิงเป็นคนดีมาก แต่เธอแค่ซื่อๆ ไปหน่อย และชอบพูดเสียงดังไปหน่อยด้วย"เจียงเซิงเพียงแต่ยิ้มถ้าเธอพูดอะไรมากกว่านี้ มันจะดูเหมือนเธอหึงแล้วจริงๆ?จะหึงใครก็ตาม แต่เธอไม่ต้องการหึงเพราะซือเย่เจ๋ว!ใช่แล้ว เธอแค่หึงเด็กน้อยสามคนนี้ที่ถูกผู้หญิงคนอื่นซื้อเป็นพวกอย่างรวดเร็ว!เจียงนวนนวนเข้าหาเจียงเฉินเฉิน และพึมพำ "แม่ดูโกรธๆ นะ พี่ว่าอย่างนั้นไหม?"เจียงเฉินเฉินพยักหน้าเห็นด้วย"อ๊ะ! แย่แล้ว แย่แล้ว!"หลัวหยิงที่วิ่งซุ่มซ่ามเข้ามาพลางตะโกนสุดเสียง และหายใจหอบก่อนจับที่ประตูไว้คุณท่านซือยืนขึ้นและพูดว่า "เกิดอะไรขึ้น? เธอไม่ได้ออกไปกับ เย่เจ๋ว และเหยียนเหยียนเหรอ?"หลัวหยิงโบกมือแล้วพูดว่า "เหยียนเหยียนบอกว่าเขาต้องการซื้อของเล่นมาให้น้องๆ ของเขา เราจึงไปตลาด แต่เหยียนเหยียนก็หายตัวไป ท่านเจ๋วและฉันแยกกันตามหาพวกเขา ตอนนี้ฉันหาพวกเขาไม่เจอ!"
ใช่แล้ว โทรศัพท์ของซือเย่เจ๋ว!เจียงเซิงเกือบลืมเรื่องนี้ไปแล้วเธอหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วกดหมายเลขของซือเย่เจ๋ว แต่โทรไม่ติดสักที!เหยียนเหยียนน่าจะเอานาฬิกาโทรศัพท์ไปด้วยมั้ง?เธอกดหมายเลขของเจียงเหยียนเหยียนอีกครั้ง แต่ก็ไม่มีคนรับสายเช่นกันตอนนี้เธอตื่นตระหนกอย่างสิ้นเชิงทำไมเป็นแบบนี้ได้?หรือว่าพวกเขาเกิดเรื่องแล้ว?"พี่สะใภ้ พี่ชายของฉันมาแล้ว!" หลังจากที่หลัวหยิงพูดจบ เธอก็เห็นหลัวเชว่มาถึงพร้อมกับบอดี้การ์ดหลายคน"เกิดอะไรขึ้นกับท่านเจ๋วและเหยียนเหยียน?""พี่ชาย ฉันขอโทษ ฉันผิดเองที่ไม่ดูแลพวกเขาไม่ดี จู่ๆ เหยียนเหยียนก็หายตัวไป ฉันกับท่านเจ๋วจึงแยกทางไปตามหาเขา แต่แล้วฉันก็ทำให้พวกเขาหายตัวไป!"นี่เป็นครั้งแรกที่หลัวหยิงพบกับความพ่ายแพ้แบบนี้ เธอคุ้นเคยกับสถานที่ทุกแห่งในเขตนี้มาก แต่เธอกลับทำเอาเด็กหายตัวไปภายใต้การดูแลของเธอ มันน่าละอายหากคนอื่นรู้เรื่องนี้เข้า"ท่านเจ๋วน่าจะไปตามหาเหยียนเหยียนแล้ว เขาคงไม่ได้ไปที่เขตป่าใช่ไหม?"เขตป่าเทียบเท่ากับชานเมือง ถ้าเหยียนเหยียนถูกลักพาตัวโดยผู้ค้ามนุษย์ คนเหล่านั้นคงไม่กล้าแสดงตัวในที่ที่มีผู้คนมากมาย และจะไปสถ
เจียงเซิงเดินเข้ามาหาเขา ไม่รู้ว่ายังตกใจกลัวอยู่หรือว่าเป็นอะไรอย่างอื่น เธอทั้งคนรู้สึกหมดเรี่ยวแรงและนั่งยองๆ อยู่ตรงหน้าเขา "เหยียนเหยียน หนูไปไหนมา ทำไมกลายเป็นแบบนี้""ขอโทษ แม่เพราะหนูเองที่ทำให้พ่อต้องบาดเจ็บ"น้ำเสียงของเจียงเหยียนเหยียนสงบมากจนเจียงเซิงตกประหม่า "เขา...เป็นอะไรเหรอ"ในเวลานี้ หมอออกมาจากห้องคนไข้ "คนไหนคือสมาชิกในครอบครัวของซือเย่เจ๋ว "เจียงเซิงลุกขึ้นยืนด้วยความงุนงงในเวลานี้ หลัวเชว่เดินเข้ามาและพูดว่า "พวกเราต่างก็ใช่ เขาเป็นอย่างไรบ้าง?"หมอมีสีหน้าจริงจัง "บาดแผลได้รับการรักษาเรียบร้อยแล้ว และเราฉีดซีรั่มให้เขาแล้ว โชคดีงูที่กัดเขาไม่เป็นพิษมากนัก ไม่เช่นนั้น แม้แต่เทพเจ้าก็ยังไม่สามารถช่วยชีวิตเขาได้ อาการบาดเจ็บ ให้เฝ้าดูอาการต่ออีกสองวัน"ซือเย่เจ๋วถูกงูพิษกัดเหรอ?เจียงเซิงเม้มริมฝีปากของเธอแน่น ใบหน้าของเธอซีดอย่างเห็นได้ชัด"พ่อถูกงูพิษกัดเพื่อปกป้องหนู ถ้าไม่มีพ่อ หนูคงเป็นคนถูกกัดไปแล้ว" เจียงเหยียนเหยียนลดศีรษะลงแม้ว่าเขากำลังคิดวางแผนที่จะทำให้พ่อของเขาได้รับบาดเจ็บอยู่ แต่เขาไม่เคยคาดคิดว่าพ่อของเขาจะรีบวิ่งไปปกป้องเขาจากงูพิษ และ
ซือเย่เจ๋วลุกขึ้นอย่างช้าๆ มองดูเธอแล้วพูดชัดถ้อยชัดคำว่า "ป้อนอาหารให้ผม"ถ้าเป็นอดีต เจียงเซิงคงจะวางกล่องอาหารลงแล้วบ่นออกไปว่าไม่อยากกินก็ไม่ต้องกินเลย แต่ตอนนี้เธอก็ไม่ได้พูดอะไรเลยเธอกลับนั่งข้างเตียงแล้วส่งอาหารเข้าปากเขาแทน เธอรู้สึกเขินอายเล็กน้อยเมื่อเขาจ้องมองเธอแล้วอธิบายว่าว่า "เพื่อเหยียนเหยียน ฉันถึงยอมฝืนใจทำ"ซือเย่เจ๋วกินอาหารที่เธอป้อนและจ้องมองเธออย่างไม่ละสายตา โดยยกมุมปากของเขาขึ้นเล็กน้อยทันใดนั้นเขาก็ตระหนักว่าการได้รับบาดเจ็บนั้นดูไม่เลวเลยหลังจากที่เขากินเสร็จแล้ว เจียงเซิงก็ยืนขึ้นและเก็บปิ่นโตไว้ ซือเย่เจ๋วพิงหมอนแล้วมองดูเธอ และเห็นว่าเธอยังไม่จากไป "อยู่ต่อเป็นเพื่อนผม?""คุณคิดว่าฉันเต็มใจเหรอ" ถ้าไม่ใช่เพราะเขาได้รับบาดเจ็บเพื่อช่วยเหยียนเหยียน เธอคงไม่อยู่ต่อซือเย่เจ๋วหรี่ตาลง จู่ๆ ก็ดึงผ้าห่มออกไปและตบพื้นที่ว่างข้างๆ เขา "ผมใจดีจะให้คุณนอนเตียงของผมครึ่งหนึ่งเป็นเวลาหนึ่งคืน"เจียงเซิง "..."ซือเย่เจ๋วพูดอย่างจริงจัง "ผมเป็นคนไข้นะ แต่เป็นคุณต่างหาก ถ้าคุณทำอะไรกับผม ผมก็ต่อต้านไม่ได้นะ"เจียงเซิง "..."ให้ตายเถอะ ทำไมเขาไม่โดนงูพิษกัดจ
ซือเย่เจ๋วมีสีหน้าบึ้งตึงหลัวเชว่กดหัวของเธออีกครั้งและกัดฟัน "กินข้าวซะ"หลัวหยิงคิดอะไรได้ และพูดอย่างตื่นเต้นกับเจียงเซิง "พี่สะใภ้ ให้ฉันแนะนำตัวเองก่อน ฉันชื่อหลัวหยิง ฉันเป็นน้องสาวของคนโง่คนนี้ ท่านเจ๋วเป็นพี่ใหญ่ของเรา เรามีมิตรภาพที่ลึกซึ้ง พี่อย่าเข้าใจฉันผิดนะ!"รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนริมฝีปากของเจียงเซิงอ่า บุคลิกของหลัวหยิงคนนี้ค่อนข้างตรงไปตรงมาจริงๆ และเสียงของเธอก็ดังมากด้วยเธอมองไปที่หลัวเชว่ "ที่แท้นายมีน้องสาวด้วยเหรอ?"หลัวเชว่ทำอะไรไม่ถูก "น้องสาวของผมอยู่ในกองทัพมาโดยตลอด เธอรู้ว่าท่านเจ๋วพาคุณกลับมาก็แอบกลับมาดูสักหน่อย""พี่พูดเป็นไหมเนี่ย ฉันรายงานกับผู้บังคับบัญชามาก่อนนะ!" หลัวหยิงไม่พอใจหลัวเชว่เหลือบมองเธอ "ถ้าไม่ใช่เพราะความสัมพันธ์ของพี่ชายคนโต ผู้บังคับบัญชาคงตบหน้าเธอไปนานแล้ว"เจียงนวนนวนหัวเราะคิกคัก "น้าหลัวหยิง ทำไมน้ากับอาหลัวเชว่ ถึงมีชื่อแปลกๆ แบบนี้"หลัวหยิงวางมือบนไหล่ของหลัวเชว่ข้างหนึ่งแล้วยิ้มให้เธอ "ฉันก็ไม่รู้เช่นกัน พ่อแม่ของเราเป็นคนตั้งชื่อให้ เราก็มีพี่ชายคนโตชื่อหลัวหู่ เกิดปีขาล(หู่มีความหมายเสือ) ฉันเกิดปีเถาะ โชคดีที่ฉันช
แต่ในขณะนี้เสียงโทรศัพท์มือถือของเธอได้ทำลายบรรยากาศในรถ เมื่อเธอเห็นผู้โทรบนหน้าจอ คือสายจากแฟรงค์เมื่อเธอรับสาย ดวงตาของเธออดไม่ได้ที่จะเย็นชาลงเมื่อได้ยินสิ่งที่ แฟรงค์พูด"คุณอาแฟรงค์"เมื่อเจียงเซิงมาถึงชั้นที่ 16 เขาเห็นแฟรงค์กำลังพูดคุยกับพนักงานคนอื่นอยู่แฟรงค์ได้ยินเสียงเรียก รีบหยุดงานที่เขาทำอยู่และเดินไปหาเธอ "เธอกลับมาแล้ว""เกิดอะไรขึ้นเหรอ?" เจียงเซิงถามด้วยสีหน้าจริงจัง เธอเพิ่งออกไปแค่สามวัน และจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นเลยเหรอ?แฟรงค์ทำหน้าเคร่งขรึมและพูดว่า "ฉันเองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ คือตระกูลลู่ นอกจากจิ่นซุ่ย พวกเขาห้ามไม่ให้ช่องทางอื่นๆ ขายหินหยาบใดๆ ให้กับเรา""ตระกูลลู่?"เจียงเซิงทำหน้านิ่งหรือว่าเกี่ยวข้องกับเจียงเวยหรือเปล่า?ฮึ เดิมทีเธอคิดว่าสิ่งเหล่านั้นจะทำให้เธอรู้จักเจียมเนื้อเจียมตัวบ้าง แต่ตอนนี้มันยิ่งได้ใจขึ้น พึ่งพาตระกูลลู่เริ่มออกตัวมาสร้างปัญหาอีกแล้วเหรอ"เซิงเซิง หินหยาบในคลังของเราใช้งานได้แค่หนึ่งสัปดาห์ หลังจากหนึ่งสัปดาห์หากเราไม่สามารถหาหินหยาบได้ และเครื่องประดับสั่งทำพิเศษที่ลูกค้าสั่งจองไว้คงต้องถูกเลื่อนเวลาออก
"จะได้ให้ทุกคนได้เห็นว่าห้างเชียนซีเป็นคนเบี้ยวขนาดไหนกัน กล้าเซ็นสัญญา ทว่าเมื่อละเมิดสัญญาแต่ก็ไม่ยอมจ่ายค่าชดเชย"เมื่อเห็นว่าเธอกำลังวางแผนที่จะทำให้เรื่องกลายเป็นเรื่องใหญ่ คุณจ้าวก็ดูตกใจและต้องหยุดเธอไว้ก่อน "ฮ่าฮ่า สาวน้อย พวกเราต่างก็เป็นเพื่อนร่วมงานกัน จะทไถึงขั้นนั้นไปทำไม? ฉันสามารถให้ค่าชดเชยแก่เธอได้ แต่จ่ายสองเท่า... …""สิ่งที่ฉันต้องการคือสองเท่า ให้น้อยแม้แต่สตางค์เดียวก็ไม่ได้" เจียงเซิงพูดอย่างเย็นชาเนื่องจากมีตระกูลลู่เป็นที่พึ่ง ห้างเชียนซีจึงวางแผนที่จะเบี้ยวหนี้นี้ และอีกอย่างอีกฝ่ายเป็นบริษัทที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักและเป็นบริษัทเพิ่งจดทะเบียนใหม่ เขาจึงไม่กลัวโดยธรรมชาติอยู่แล้วแต่ใครจะคิดว่าเขาจะเจอคนรับมือได้ยากเช่นนี้ในเมื่อเธอไม่รู้ชั่วดี งั้นก็อย่าโทษเขาก็แล้วกันคุณจ้าวสบถขึ้นมาอย่างไม่แยแส "ถ้าพวกเธอต้องฟ้องร้องฉัน คิดว่ามีวี่แววจะเอาชนะฉันได้หรือ ให้ฉันบอกอะไรเธอนะ ถ้าทำให้ห้างเชียนซีของเราขุ่นเคืองใจ พวกเธอจะต้องแย่กว่าตอนนี้เสียอีก""งั้นเหรอ?" เจียงเซิงเล่นแว่นกันแดดในมือแล้วยิ้ม "ก็ได้นะ ฉันหวังว่าคุณจ้าวจะไม่เสียใจภายหลังนะ"หลังจากนั้นเธอ
*ถูกลูกเล่นของ Soul จิวเวลรี่ทำให้อ้วกแล้ว*แฟรงค์มองดูเธอ "เซิงเซิง จำนวนยอดขายของ Soul จิวเวลรี่ในวันนี้ลดลงอีกสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว บริษัทได้รับสายโทรศัพท์เพื่อสละออเดอร์และคืนเงินหลายออเดอร์แล้วดวงตาของเจียงเซิงขยับเขยื้อน "ดูท่าพวกเขาอยากจะบีบบังคับให้ฉันยอมจำนนสินะ""งั้นคุณวางแผนจะทำอย่างไร?" แฟรงค์รู้ว่าเธอไม่เปิดเผยตัวตนเพราะมีเหตุผลของเธอ ถ้าหากมีวิธีอื่นก็จะดีอย่างมากเจียงเซิงยื่นแท็บเล็ตไปให้เขา และหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา "ทางด้านผิ่นเก๋อยืนยันเป็นมั่นว่าฉันลอกเลียนแบบทั้ง Soul จิวเวลรี่ ถึงเวลาที่ฉันควรจะตอบโต้แล้ว"ในขณะที่กระแส "การลอกเลียนแบบ" บนอินเทอร์เน็ตกำลังโด่งดัง คำค้นหายอดนิยมของเฟซบุ๊กก็มีเพิ่มขึ้นมาหนึ่งประเด็น*ผิ่นเก๋อของปลอม*ผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่ถูกเปิดเผยออกมาว่าแอบลดวัสดุและขั้นตอนการก่อสร้าง ขายเครื่องประดับปลอมในราคาสูงและหลอกลวงลูกค้า และสร้างข่าวลือเรื่องที่โซราเสียชีวิต แม้กระทั่งข่าวลือที่เจ้าของผิ่นเก๋อมอมเหล้าเด็กสาวในคลับเฮ้าส์ก็ถูกเปิดโปงจนหมดเปลือกการเปิดเผยอย่างต่อเนื่องนี้ ทำให้เหตุการณ์ของ Soul จิวเวลรี่ถูกดันลงไปทันที เพียงแค่เรื่องที่
"ทำไม่ได้" ซือเย่เจ๋วเสียงทุ้มต่ำ จากนั้นจูบเธออย่างแรง และยิ่งอยู่ยิ่งรุนแรงขึ้นอาจเป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง เมื่อคืนฝนตกหนักทำให้อุณหภูมิเปลี่ยนไปหนาวเย็นกะทันหัน ใบไม้สีเหลืองที่แห้งเหี่ยวปกคลุมบนพื้น สัมผัสกับแอ่งน้ำเจียงเซิงกับซือเย่เจ๋วเพิ่งไปส่งเจ้าตัวเล็กทั้งสองคนที่โรงเรียนประถมเอกชน จากนั้นตอนที่เดินทางไปส่งเจียงเซิงที่ Soul จิวเวลรี่ เจียงเซิงง่วงจนพิงร่างกายของเขาแล้วงีบหลับซือเย่เจ๋วหันหน้าไปจ้องมองเธอ จากนั้นก็ยกมือขึ้นรวบไรผมที่อยู่ตรงหน้าผากของเธอ "ยังง่วงเหรอ?""อืม"เจียงเซิงบ่นอย่างซื่อตรง "โทษคุณเลย"เขายิ้ม จากนั้นก็มก้มตัวมาที่ข้างหูของเธอ "หรือว่าไม่ใช่ความผิดของคุณเหรอ?"เจียงเซิงเงยหน้าขึ้นและวางคางบนไหล่เพื่อมองดูเขา "ไม่ได้ให้คุณทำสองยกทั้งคืนสักหน่อย"ซือเย่เจ๋วที่สูญเสียความทรงจำไม่เพียงควบคุมอารมณ์ไม่ได้ แถมยังมีกำลังวังชาเต็มเปี่ยม เกือบพรากชีวิตแก่ ๆ ของเธอซือเย่เจ๋วไม่ได้พูดอะไร แต่ในใจกลับรู้สึกพึ่งพอใจอย่างมากในตอนนี้โทรศัพท์ของเจียงเซิงดังขึ้น คุณอาแฟรงค์โทรมาหาเธอแต่เช้าเกรงว่าต้องมีเรื่องใหญ่แน่นอนเธอรับสาย "คุณอาแฟรงค์?""เซิงเซิง
แต่ชาวเน็ตส่วนใหญ่คิดว่านี่ไม่ใช่การลอกเลียนแบบ ต่อให้สไตล์เหมือนกันแต่ยังมีจุดเด่นอื่นอีก สถานการณ์แบบนี้ไม่สามารถจำกัดความว่าเป็นการลอกเลียนแบบได้ ขอถามกลับว่าคนที่พูดว่าลอกเลียนแบบมีสิทธิอะไรคิดว่าคนเขาจะต้องลอกเลียนแบบแน่นอนน่าจะเป็นเพราะผู้บริหารของผิ่นเก๋อ จิวเวลรี่เห็นว่านี่ไม่เพียงไม่ได้กดหัวคนอื่น แต่กลับเป็นวิธีที่ "ใจร้อนอยากประสบความสำเร็จแต่กลับทำให้เสียการ" จึงอยากเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมออกแต่คิดไม่ถึงว่า พวกเขาไม่สามารถเพิกถอนได้ เพราะว่ามีคนทุ่มเงินจำนวนมากซื้อคำค้นหายอดนิยมนี้ ผิ่นเก๋อของพวกเขาออกเงินสองเท่า ฝ่ายตรงข้ามก็ออกเงินสี่เท่า ตอนนี้เล่นเกมทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมแล้วเจียงเซิงนั่งดูหน้าแชทเฟซบุ๊กอยู่ตรงหน้าคอมพิวเตอร์ แฟรงค์เดินเข้ามา "เซิงเซิง ผิ่นเก๋อยอมแพ้การเพิกถอนคำค้นหายอดนิยมแล้ว ดูท่าว่าจะทุ่มเงินไม่ไหวแล้ว"เจียงเซิงหรี่ตาลง "พวกเขาทำใจทุ่มเงินไม่ได้ แต่น่าจะมีวิธีอื่นอีก"ทางด้านเจียงเซิงทุ่มเงินซื้อคำค้นหายอดนิยมกับผิ่นเก๋อ ทางด้านซือเย่เจ๋วก็ทุ่มเงินล้มธุรกิจของหานซื่อกรุ๊ป หลัวเชว่มองดูจนตกตะลึงตาค้าง สามีภรรยาคู่นี้ตอนนี้เป็นคนโง่ที่เงินเ
เซียวเถียนเถียนใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา เธอตกใจจนถอยหลังไปสองสามก้าว จากนั้นก็หันหลังวิ่งหนีไปเมื่อมาถึงนอกห้องทำงานของเจียงเซิง คนทั้งคนยังคงอยู่ในสภาพเครื่องรวน เมื่อเข้าไปข้างในก็ทรุดนั่งลงบนโซฟา ขาก็อ่อนแรงไปหมดเจียงเซิงเดินออกมาจากห้องทำงาน เห็นท่าทางเหม่อลอยของเซียวเถียนเถียน ก็ยิ้มบาง "เกิดอะไรขึ้น?"เซียวเถียนเถียนลุกนั่งทันที และวางกาแฟบนโต๊ะทำงานของเธอ "ซื้อ...ซื้อมาให้เธอ"เจียงเซิงเดินไปตรงหน้าโต๊ะแล้วหยิบกาแฟขึ้นมา เห็นเธอพูดจาติดขัดจึงถามขึ้น "เจอเรื่องอะไรมา ทำไมถึงตกใจขนาดนี้?""ก็...ก็ไม่ได้เจอเรื่องอะไร ก็แค่ระหว่างทางที่ซื้อกาแฟได้เจอกับหานเซิงเข้า เกือบจะทะเลาะกับเธอขึ้นมา"เจียงเซิงถือกาแฟเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงาน "แค่นั้นเหรอ?"เธอเม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า "ใช่""งั้นเธอทำไมหน้าแดงขนาดนี้?""นั่นเป็นเพราะว่าฉันร้อน!" เซียวเถียนเถียนโกรธขึ้นมาทันที เจียงเซิงมองท่าทางประหม่าของเธอออก จึงหรี่ตาจ้องมองเธออยู่นานต่อให้เจอกับหานเซิงแล้วทะเลาะกัน ก็ไม่ถึงกับทำให้เธอกลายเป็นแบบนี้ ท่าทางแบบนี้เห็นได้ชัดว่า...ทำเรื่องไม่ดีอะไรมา"อ่อใช่เซิงเซิง บนเฟซบุ๊กเรื่องลอกเลียนแ
"เธอ…"“ผู้ชายทุกคนชอบผู้หญิงที่อ่อนโยนและน่ารัก คนปากคอเราะรายอย่างเธอชีวิตนี้คงไม่มีคนชอบเธอหรอก”ขณะพูด เธอก็พูดเหน็บแนม "ถ้าไม่ใช่ว่าเธอเป็นลูกสาวตระกูลเซียว จะมีการแต่งงานเกี่ยวดองกันกับตระกูลลู่ที่ดีขนาดนี้เหรอ คุณชายลู่แต่งงานกับเธอซวยไปแปดชาติจริง ๆ"เซียวเถียนเถียนสีหน้าเคร่งขรึมลงทันที เธอง้างมือขึ้นจะฟาดหน้าของหานเซิงหานเซิงเงยหน้าขึ้นให้เธอตบแต่ฝ่ามือยังไม่ทันโดน ข้อมือก็ถูกคนจับเอาไว้ลู่ลี่เซินดึงเซียวเถียนเถียนไปข้างหลังแล้วมองดูเธอ "ลงมือต่อหน้าคนมากมายแบบนี้ ไม่รู้จักอายบ้างเหรอ?"ผู้คนรอบตัวพากันมองมาทางนี้ เหมือนกำลังจะรอดูฉากเด็ดอยู่ ถ้าหากเมื่อครู่เซียวเถียนเถียนตบลงไปจริง ๆ ก็จะมีคนถ่ายรูปเอาไว้และเอาเรื่องนี้ไปพูดกันแต่เซียวเถียนเถียนไม่ยอมแพ้ เธอสะบัดมือของเขาออก "นายยุ่งอะไรกับฉันด้วย""คุณชายลู่ คุณมาได้พอดีเลย คู่หมั้นของคุณร้ายกาจ เมื่อครู่ยังอยากจะตบฉันด้วย ถ้าคุณไม่ห้ามไว้ หน้าของฉันคงบวมไปแล้วหานเซิงท่าทางน่าสงสาร เธอมีความมั่นใจคิดว่าผู้ชายชอบแบบนี้กันหมด แทบอยากจะให้ลู่ลี่เซินเห็นใจเธอ สงสารเธอ และทะเลาะกับเซียวเถียนเถียนขึ้นมาแต่หานเซิง
กู้เฉินกวางยิ้มบางแต่ไม่ได้พูดอะไรหลัวเชว่มองไปที่ซือเย่เจ๋วและพูดไม่ออก นี่เห็นได้ชัดว่าถูกคุณเจียงควบคุมจนอยู่หมัดแล้ว......บริษัท Soul จิวเวลรี่สิบเจ็ดบอกว่าเจียงยี่กับผู้เฒ่าเจียงได้พาเจียงเฮงกลับเมืองจินเฉิงแล้วเงินห้าแสนกว่าบาทที่ต้ายฉิงใช้จ่ายไปตอนนี้ได้ตามกลับผ่านทางตำรวจแล้ว แต่ก็ตามกลับมาได้แค่แสนกว่าบาท แต่ต้ายฉิงถูกควบคุมการเดินทาง อยากจะหนีก็หนีไม่ได้เจียงเซิงก็ไม่ได้พูดอะไรมากมายหลังจากผ่านเรื่องนี้ไปผู้เฒ่าเจียงคงจะทำตัวดีไม่น้อย จากอายุของเธอในตอนนี้อยากจะดิ้นรนต่อไป เกรงว่าคงจะไม่มีโอกาสดิ้นรนแล้วหลายชายของตัวเองล้างผลาญครอบครัวใช้เงินสะสมของเธอจนหมด แถมยังถูกหลอก แม้แต่ลูกชายก็ยังไม่ยอมรับเธอ ตอนนี้เธอก็ไม่มีอารมณ์คิดถึงมรดกของพ่อของเธอแล้ว*อลิซลอกเลียนแบบโซรา*พาดหัวข่าวเฟซบุ๊กที่โดดเด่นบนหน้าจอทำให้เจียงเซิงที่เพิ่งดื่มน้ำแทบจะพ่นน้ำออกมาเธอลอกเลียนแบบตัวเอง?เมื่อเปิดดู ก็เป็นเรื่องประดับ*รุ่นคู่รัก*ที่เธอออกแบบคล้ายกับสไตล์การออกแบบของเธอก่อนหน้านี้ แต่ไม่รู้ว่าใครตั้งใจพูดตัดสินเรื่องนี้ว่าลอกเลียนแบบ ชาวเน็ตที่ไม่ผ่านกรองการครุ่นคิดก็เชื่อจ
กู้เฉินกวางถอดแว่นกันแดดออกแล้วใส่ไว้ในกระเป๋าตรงหน้าอก "สถานการณ์ของนายแบบนี้ คงไม่ต้องให้ฉันแนะนำตัวเองใช่ไหม?"ซือเย่เจ๋วก็มองออกว่าเขาคือใคร "อยู่ในวงการบันเทิงได้ไม่เลวเลยสินะ"กู้เฉินกวางหัวเราะเบา ๆ “คนอื่นบอกว่านายความจำเสื่อมฉันยังไม่เชื่อ”เขาเดินไปที่โซฟาแล้วนั่งลงด้วยตัวเอง หลัวเชว่รินชาให้เขาหนึ่งแก้วซือเย่เจ๋วลุกขึ้นยืนและเดินอ้อมโต๊ะทำงานไปตรงหน้าโซฟา จากนั้นก็ปลดกระดุมชุดสูทออกแล้วนั่งลง "แขกหายากสินะ มีธุระอะไรกับฉัน?""มีธุระจริง ๆ นั่นแหละ" กู้เฉินกวางยกแก้วน้ำชาขึ้น "ฉันคิดว่านายคงจะเคยรู้จักกับหานจื้อเหนียนสินะ?"ในตอนที่ซือเย่เจ๋วกำลังครุ่นคิดว่าหานจื้อเหนียนคือใคร หลัวเชว่ก็ก้มตัวชี้แนะ "ประธานหานคนนั้นเมื่อครั้งที่แล้ว"ซือเย่เจ๋วหรี่ตาลงและยิ้มอย่างมีความหมายลึกซึ้ง "ทำไม ตระกูลหานมุ่งเป้าไปที่นายเหรอ?"กู้เฉินกวางไม่ได้พูดอะไรซือเย่เจ๋วสีหน้าจริงจังขึ้นมา "ฉันว่านายก็อายุเยอะแล้ว ควรจะพิจารณาเรื่องการแต่งงานได้แล้ว?"กู้เฉินกวางวางแก้วชาลง และครุ่นคิด “เร่งให้ฉันแต่งงาน นายเป็นห่วงอะไร?”ซือเย่เจ๋วสีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อย จากนั้นกอดอกมองเขา "ตาข้าง
เจียงเซิงไม่ปฏิเสธ "ใช่ค่ะ" เธอหัวเราะเบา ๆ "รวมทั้งเงินห้าล้านบาทนั่นด้วย นั่นก็เป็นเงินที่ฉันให้ คุณก็ไม่ได้บอกคุณย่าว่าคุณมีเงินห้าล้านบาทใช่ไหม?"ผู้เฒ่าเจียงหันหน้ามองไปทางเจียงยี่เจียงยี่ไม่ได้พูดอะไร เห็นได้ชัดว่ายอมรับแล้ว"คุณไม่อยากยอมรับแม่ ไม่อยากยอมรับลูกชาย ฉันก็ไม่ก้าวก่ายคุณ ในเมื่อเงินเอาให้คุณแล้ว คุณอยากจะใช้อะไรก็เรื่องของคุณ"เจียงเซิงกอดอก สายตาเย็นชา "แน่นอนว่าถ้าหากคุณยอมเอาเงินไปใช้ในทางที่ต้อง ฉันอาจจะให้โอกาสคุณอีกครั้ง แต่น่าเสียดายที่คุณปรับเปลี่ยนตัวเองไม่ได้แล้ว เอาเงินให้คุณมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ใด ๆ"มือที่วางอยู่บนขาของเจียงยี่กำแน่นอย่างอดไม่ได้ สีหน้าก็รู้สึกอับอายผู้เฒ่าเจียงมองดูเจียงเซิง "เซิงเซิง ในเมื่อเธอยังมีชีวิตอยู่ และก็ยอมช่วยอาของเธอกับลูกพี่ลูกน้องของเธอ...""คุณย่า คุณคิดมากเกินไปหรือเปล่า?" เจียงเซิงขัดคำพูดของเธอทันที "ฉันไม่ได้ช่วยพวกเขาโดยไม่มีเหตุผลหรอกนะคะ ฉันก็แค่ช่วยให้คุณได้เห็นความโหดร้ายของโลกนี้อย่างชัดเจน"ผู้เฒ่าเจียงมองไปทางเธอด้วยความเหม่อลอยเจียงเซิงลุกขึ้นเดินไปตรงหน้าต่าง และหันข้างมองไปทางพวกเขา "เพราะว
เพิ่งจะเข้าไปในห้อง เจียงยี่ก็อยู่ด้วย เจียงยี่นั่งอยู่บนเก้าอี้ บอดี้การ์ดที่อยู่ด้านหลังวางมือบนไหล่ของเขาไม่ให้เขาหนีไปได้ตอนที่ผู้เฒ่าเจียงเห็นผู้หญิงแปลกหน้าถูกพาตัวเข้ามา และคุกเข่าลงบนพื้น ก็งุนงงไปหมด "นี่คือ..."สิบเจ็ดพูดด้วยสีหน้านิ่งเฉย "ฉิงฉิงที่หลานชายของคุณพูดถึง คุณให้เธออธิบายกับคุณเองเถอะ"ฉิงฉิง?ผู้เฒ่าเจียงสายตามองไปที่ผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง ต้ายฉิงร้องไห้แล้วคลานมาที่ข้างเตียง "คุณย่าเจียง ขอโทษนะคะ ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่ควรหลอกลวงเจียงเฮง ขอร้องพวกคุณปล่อยฉันไปเถอะค่ะ"ผู้เฒ่าเจียงนึกขึ้นได้ว่าเจียงเฮงหลานชายของเธอนำเงินก้อนนั้นให้กับผู้หญิงคนนี้ เธอก็รู้สึกโมโหขึ้นมา และผลักฉิงฉิงออก "เธอยังมีหน้ามาหาฉันอีก? เงินของหลานชายฉันล่ะ?"ต้ายฉิงถูกผลักล้มลงกับพื้น ไหล่ของเธอสั่นเทา น้ำตาไหลลงแก้ม ชั่วขณะไม่รู้ว่าควรจะพูดเรื่องเงินก้อนนั้นที่เธอใช้ไปหมดแล้วอย่างไรดี“ฉิงฉิง!”เจียงเฮงปรากฏตัวนอกประตูและเห็นต้ายฉิงนั่งอยู่บนพื้น เขาจึงรีบเดินไปประคองเธอ "คุณย่า ฉิงฉิงมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร"“แกยังจะพูดอีก?” ผู้เฒ่าเจียงหน้าเขียวหน้าดำ "นังเด็กคนนี้หลอกเอาเงินของแก เ