Home / โรแมนติก / ท่อนแขนมังกร / Chapter 2. เพียงหวัง

Share

Chapter 2. เพียงหวัง

last update Last Updated: 2024-11-23 22:07:25

          เสียงเด็กชายตัวเล็กร้องด้วยความเจ็บปวดทำให้หญิงสาวที่ง่วนอยู่ในครัว รีบเงยหน้าขึ้นหันไปทางทิศทางของเสียงที่ได้ยิน นางรีบวางมือจากงานตรงหน้า ก้าวเร็วๆ ไปที่ด้านนอก สายตากวาดมองหาร่างเด็กชายผอมกะหร่องผู้หนึ่ง แต่มองหาอยู่นานก็ไม่เห็น

            “จ้าวต้า” หญิงสาวร้องเรียกแต่ไม่ได้ยินเสียงตอบกลับ มองหญิงรับใช้ผู้อื่นที่ยืนอยู่ไม่ไกลนัก เห็นเพียงพยักพเยิดไปทางห้องเก็บฟืน นางจึงรีบเดินไปพลางเช็ดมือกับผ้ากันเปื้อนที่คาดเอวบางของตนอยู่

            “จ้าวต้า” หญิงสาวเรียกอย่างอ่อนโยน มองเข้าไปในห้องเก็บฟืน กวาดตามองก็เห็นร่างเล็กขดตัวที่มุมห้อง นางเดินเข้าไปนั่งข้างๆ ดึงร่างนั้นเข้ามากอดอย่างไม่รังเกียจ แม้อีกฝ่ายสกปรกมอมแมมเพียงใด

            “คุณหนูหนิงเหมย ตัวข้าสกปรกนัก ท่านอย่ามากอดข้าเลย”  เด็กชายวัยสิบเอ็ดขวบเอ่ยขึ้น เขาพูดจาอู้อี้ พลางยกหลังมือปาดน้ำตา

“ข้าก็สกปรกไม่เห็นเป็นไรเลย” หญิงสาวพูดปนหัวเราะ พิศดู

ใบหน้าของเด็กชาย หัวใจกระตุกวูบแต่ฝืนยิ้มให้ “เจ้าโดนคุณชายทั้งสองแกล้งเอาอีกละสิ”

            เด็กชายไม่ตอบแต่กลั้นเสียงสะอึกสะอื้นไว้ หัวใจของหญิงสาวพลอยเจ็บปวดไปด้วย นางเองก็ใช่ว่าจะมีฐานะปกป้องผู้ใดได้ จึงได้แต่ปลอบประโลมโดยการโอบกอดเด็กชายตัวน้อย

            “เอาอย่างนี้ ประเดี๋ยวพี่หนิงเหมยคนนี้จะทำขนมปลอบใจเจ้าเอง เจ้าอย่าร้องไห้ไปเลยนะ” นางช่วยเช็ดน้ำตาให้เด็กน้อย “ถ้าข้าหาบ้านดีๆให้เจ้าอยู่ได้ก็ดีสินะ”

            “ไม่เอา ข้าไม่ไป ข้าจะอยู่รับใช้คุณหนูหนิงเหมย” เด็กชายเผลอพูดเสียงดังออกมา

            “แต่เจ้าอยู่กับข้าแบบนี้ จะถูกผู้อื่นรังแกเอาอยู่เรื่อยนะสิ”

            “คุณหนูไม่ต้องการข้าแล้วหรือ”

            “แต่ข้าไม่อยากให้เจ้าถูกผู้อื่นรังแกเช่นนี้” นางยิ้มให้ แม้เป็นรอยยิ้มปนเศร้าก็ตาม “เจ้าเรียกข้าว่าคุณหนู แต่กลับช่วยอะไรเจ้าไม่ได้ ข้าลำบากใจไม่น้อย” 

            เด็กชายเช็ดน้ำตาด้วยตนเอง จ้องมองหญิงสาวด้วยท่าทีมุ่งมั่น “ข้าจะเข้มแข็งและจะไม่ร้องไห้อีก ข้าจะปกป้องคุณหนู ตอบแทนพระคุณที่คุณหนูซื้อตัวข้ามา ขอเพียงคุณหนูไม่ผลักไสข้าก็พอแล้ว”

            “ขอบใจเจ้า ขอบใจที่เจ้าอยู่เป็นเพื่อนข้านะ” หญิงสาวลูบผมของเด็กชายให้เข้าที่เข้าทางแล้วจูงมือออกมาจากห้องเก็บฟืน

            “เจ้าไปล้างหน้าล้างตาเสียหน่อย ข้าจะไปทำขนมให้เจ้ากิน”

            หญิงสาวมองดูร่างเล็กของเด็กชายวัยสิบเอ็ดขวบรีบเดินจากไป ว่านหนิงเหมยถอนหายใจเบาๆ นางเองแม้ถูกเรียกว่า ‘คุณหนู’ แต่เพราะเป็นเพียงแค่ ‘ลูกอนุ’ ซ้ำยังมีแผลเป็นบนใบหน้า ทำให้ไม่ใคร่มีใครใส่ใจนางนัก อาจหลงลืมไปแล้วว่ามีนางอยู่ในบ้าน แต่สำหรับนางแล้ว ถือว่าเป็นเรื่องดียิ่ง เพราะนางเองชอบชีวิตสงบท้ายเรือนมากกว่าไปวุ่นวายที่เรือนหลังใหญ่

            หญิงสาวเดินกลับไปที่ครัว ล้างมือแล้วไปช่วยงานในครัวอย่างไม่นึกรังเกียจ บิดาของนางคือใต้เท้าว่านรองเจ้ากรมอากร นางเป็นเพียงลูกอนุ แม้แต่มารดาก็ยังชิงชังที่นางเกิดมาเป็นหญิง ไม่ใช่ชาย ซึ่งไม่อาจช่วยในฐานะอนุของท่านแม่ดีขึ้นแต่อย่างใด ท่านพ่อมีอนุถึงสี่คน นางจำได้ว่า เดิมทีภรรยาเอกของท่านพ่อมีบุตรสาวเพียงคนเดียว หลังจากนั้นก็ไม่ตั้งครรภ์อีก จึงเป็นสาเหตุทำให้บิดารับอนุมาเพิ่มอีกสี่คนในเวลาไล่เลี่ยกัน จนกระทั่งอนุตั้งครรภ์ ภรรยาเอกก็ตั้งครรภ์แต่ครั้งนี้ได้ลูกชายสมใจ ส่วนอนุได้ลูกหญิง จากนั้นบรรดาอนุต่างแข่งกันตั้งครรภ์เพื่อมีบุตรชาย ทว่ากลับมีแต่บุตรสาวมาเกิด นั่นรวมถึงนางด้วย แล้วภรรยาเอกตั้งครรภ์อีกครั้งและได้บุตรชายอีก

            คุณชายว่านซือสือ ปีนี้อายุสิบแปดปีเท่ากับนาง ส่วนคุณชายว่านซือจี๋อายุสิบสองปี รุ่นราวคราวเดียวกับจ้าวต้า แต่เพราะเป็นลูกชาย จึงได้รับความรัก ความเอาใจใส่จากบิดามาก จะเรียกว่ามากจนเสียนิสัยก็ย่อมได้ กระนั้นไม่มีผู้ใดกล้าตำหนิ รวมถึงตัวนางเองด้วย

ว่านหนิงเหมยชินชากับโชคชะตาของตน บิดาไม่รักไม่เท่าไหร่

มารดาไม่ใส่ใจอีกต่างหาก คนที่เลี้ยงดูนางไม่ใช่แม่นมกลับเป็นแม่ครัว ‘ป้าฮุยเหอ’ คนเก่าคนแก่อยู่มานานและไม่มีลูก ป้าฮุยเหอเองรักและเอ็นดูนางประดุจลูกในไส้ แม้ตนเองเป็นเพียงแม่ครัวก็ตาม แต่สิ่งที่นางเป็นอยู่ตอนนี้ นางไม่เห็นเป็นเรื่องราวให้ชวนน้อยใจ การที่มีป้าฮุยเหอดูแลนาง ก็ทำให้นางกินอิ่มทุกมื้อ แน่ละ เพราะนางเติบโตในครัวเสียมากกว่า จะไม่ให้อิ่มได้อย่างไร

บิดาเชิญอาจารย์มาสอนหนังสือคุณชายทั้งสอง แต่เพราะตามใจคุณชายมาก ทั้งสองจึงไม่ใคร่ใส่ใจการเล่าเรียน นางที่คอยยกน้ำชาและขนมของว่าง จึงได้แอบจดจำ เรียนรู้และฝึกฝนด้วยตนเอง เรื่องใดที่ไม่รู้ก็แอบถามท่านอาจารย์ นางโชคดีที่ท่านอาจารย์เมตตาคอยให้คำแนะนำ แม้ไม่สอนนางโดยตรงก็ตามที นางจึงพอมีความรู้บ้าง เรื่องงานเย็บปักถักร้อย นางต้องทำแทนพี่น้องผู้อื่น นางทำบ่อยจนคุ้นชิน สองมือเรียวบางจึงไม่ได้อ่อนนุ่ม แต่มีปุ่มเนื้อด้านอยู่หลายแห่ง เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้นางไม่มีผู้ใดมาสู่ขอ แต่เพราะรอยแผลเป็นคล้ายพระจันทร์เสี้ยวบนแก้มขวาต่างหาก แผลเป็นที่หนานูนอัปลักษณ์ชวนให้รู้สึกสยดสยอง หากเวลาที่อยู่ต่อหน้าผู้อื่น นางจะมีผ้าโปร่งปิดครึ่งหน้า มิให้เห็นรอยแผลน่าเกลียดของนาง  

            หากเมื่ออยู่ในครัวเช่นนี้ นางไม่จำเป็นต้องใช้ผ้าโปร่งปิดครึ่งใบหน้า เพียงคิดถึงรอยแผลเป็นนี้ หัวใจก็เต้นรัวทุกทีไป รอยแผลนี้เกิดเมื่อตอนที่นางอายุสิบสอง ครานั้นได้ติดตามพี่สาวร่วมบิดาเข้าวังไปงานเลี้ยงฤดูใบไม้ผลิในวังหลวง แต่เพราะนางเป็นเพียงลูกอนุ จึงไม่ใคร่มีใครอยากสนทนาด้วย ด้วยความสนใจต้นไม้ดอกไม้นานาพรรณแสนงดงาม  ซึ่งไม่ได้พบเห็นทั่วไป ทำให้นางชื่นชมเพลิดเพลินจนพลัดหลงกับพี่น้องคนอื่นๆ

            บุรุษร่างสูงสง่ายืนใต้แสงตะวัน เขาดูงดงามดุจภาพวาด แม้สวมชุดสีดำขลิบแดง ซึ่งนางไม่เคยพบเห็นมาก่อน รวมทั้งปลายผมยาวของคนผู้นั้น มีสีแดงราวกับจุ่มหมึกโลหิตด้วย ภาพเบื้องหน้าดึงดูดนางให้เดินเข้าไปใกล้ราวกับถูกมนตร์สะกด บุรุษผู้นั้นรู้ตัวจึงหันมามอง ดวงตาคมจ้องมองทำเอานางแทบหยุดหายใจ นางมิได้หวาดกลัว แต่เพราะเขาหล่อเหลาดุจเทพเซียน จนหัวใจน้อยๆ ของนางเต้นไม่เป็นจังหวะ พวงแก้มร้อนผ่าวอย่างไม่เคยเป็น ร่างสูงสง่าหมุนตัวแล้วเดินตรงมาทางนาง  ท่าทางคุกคามของเขาทำให้อยากถอยหนีแต่ทำไม่ได้ นางเห็นเพียงเขายกมือขึ้นก็รีบหลับตาแน่นด้วยความตกใจ เพียงพริบตา นางรู้สึกเจ็บแปลบที่แก้มขวา เมื่อลืมตาขึ้นจึงเห็นสีหน้านิ่งขรึมแต่แววตาฉายความประหลาดใจ มือเรียวยกขึ้นแตะแก้มตนเอง รู้สึกถึงน้ำเหนียวหนืดเมื่อหงายฝ่ามือขึ้นดู จึงรู้ว่ามีเลือดไหลออกมา

Related chapters

  • ท่อนแขนมังกร   Chapter 3. ไม่ต้องกลัว

    ตกใจแต่ไม่ได้กรีดร้อง งุนงงและได้แต่ทำตาปริบๆ ดวงตาคมวาวคู่นั้นเองเพียงแค่หรี่มองอย่างประหลาดใจ ทั้งสองตื่นจากภวังค์เพราะเสียงนางกำนัลที่บังเอิญผ่านมาและกรีดร้องเสียงหลงเพราะตกใจที่เห็นซีกขวาของนางมีรอยแผล เลือดสีสดไหลจากแก้มลงมาที่คางเปรอะปกเสื้อ นางรีบหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมากดแผลตนเองเพื่อห้ามเลือด ในขณะที่ชายผู้นั้นยกมือขึ้นกอดอกยืนนิ่งดู ครู่ต่อมาฮองไทเฮารีบเสด็จมาดูด้วยพระองค์เอง ‘เฟยเทียน! ไยเจ้าทำร้ายนางซึ่งเป็นเพียงเด็กหญิงคนหนึ่งเท่านั้น’ นางจำได้ว่าตนตะลึงลานทำสิ่งใดไม่ถูก บรรดาองค์หญิงและท่านหญิงต่างพามามุงดู ทุกคนหวาดกลัวชายผู้นั้นไม่กล้าสบตา นางรีบส่ายหน้าไปมา พยายามเค้นเสียงพูดออกมาด้วยความตกใจ “มิได้เพคะ แผลนี้มิใช่ฝีมือของ...” นางไม่รู้ว่าชายผู้นี้เป็นใคร ได้ยินเพียงฮองไทเฮาเรียกชื่อเขา อีกฝ่ายก็ไม่แสดงความยำเกรงใดๆ แสดงว่าชายผู้นี้ต้องไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน “เจ้าไม่ต้องกลัว ...” ฮองไทเฮายื่นพระหัตถ์มาให้นางไปหลบด้านหลัง แต่นางกลับส่ายหน้าไปมาเร็วๆ “มิใช่เพคะ แผลนี้...แผลนี้...” นางคิดคำพูด ใจเต้นร

    Last Updated : 2024-11-23
  • ท่อนแขนมังกร   Chapter 4. เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นเมื่อ

    เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นเมื่อตอนที่นางอายุเก้าขวบ หลังจากช่วยงานป้าฮุยเหอแล้ว นางเดินจากครัวเพื่อกลับห้องนอนของตน แต่นางกลับเห็นชายหนุ่มผู้หนึ่งนั่งที่ศาลาหกเหลี่ยม ด้วยความสนใจจึงเดินเข้าไปใกล้ ดวงตาเป็นประกายจ้องมองชายผู้มีเส้นผมสีเงินยวง คนผู้นั้นกำลังเดินหมากล้อมเพียงลำพัง ใบหน้าสุขุมนั้นวางหมากอย่างไร้ความลังเล นางเห็นเขาเดินหมากเพียงผู้เดียว กำหมากทั้งดำและขาวก็งุนงงจนอดถามไม่ได้ “ท่านเดินหมากคนเดียวเช่นนี้ ต่อให้หมากขาวหรือหมากดำชนะ ท่านก็ชนะอยู่ดีไม่ใช่รึ” “หือ?” ชายผู้นั้นเงยหน้าขึ้นแล้วจ้องมองนาง “ขออภัย พี่ชาย ข้าแค่สงสัย” นางหดคอด้วยความรู้สึกผิด จำได้ว่าเวลาเดินหมากไม่ควรพูดแทรกหรือส่งเสียงดังรบกวนสมาธิผู้อื่น “เด็กน้อย เจ้ามองเห็นข้างั้นรึ” ดวงตากลมจ้องมองอีกฝ่ายแล้วพยักหน้าหงึกๆ นางเห็นมุมปากยกยิ้มก็รู้สึกโล่งอก เขาเคาะนิ้วที่เก้าอี้กลม คล้ายสั่งให้นางไปนั่ง เด็กหญิงตัวน้อยจึงเดินไปนั่งใกล้ชายหนุ่มผู้มีเส้นผมงดงามนัก “แปลกจริงที่เจ้ามองเห็นข้า” “พี่ชายนั่งตรงนี้ ข

    Last Updated : 2024-11-23
  • ท่อนแขนมังกร   Chapter 5. ครุ่นคิดถึงชายผู้นั้น

    กระทั่งได้ยินเสียงบัวสวรรค์กระซิบเรียกให้ตื่นจากภวังค์ หญิงสาวผุดลุกขึ้น แสร้งทำเป็นวุ่นวนดูต้นไม้ต้นนั้นที ต้นนี้ที เสียงกล้วยไม้หัวเราะนาง จะว่าไปการได้เข้าวังคือการพักผ่อนอย่างหนึ่งเลยก็ว่าได้ ครู่หนึ่งขันทีผู้หนึ่งมาตามตัวนาง พูดคุยสอบถามเล็กน้อย พอเห็นกล้วยไม้ของฮองไทเฮากลับมาสดชื่นอีกครั้งก็ดีใจจนรีบร้อนขอตัวไปรายงานฮองไทเฮา ว่านหนิงเหมยรีบใส่รองเท้า ปัดเศษดินออกจากกระโปรง รีบล้างมือให้สะอาด ก่อนออกจากสวนสี่ฤดู นางหันไปแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ต้นไม้นานาพรรณของฮองไทเฮา ‘เจ้ากำลังหลงรักชายที่ไม่อาจรักได้’ “ข้ารู้...ข้าติดหนี้บุญคุณคนผู้นั้น” เขาแบกรับความผิดที่ไม่ได้ก่อ แผลเป็นบนแก้มนี้เกิดจากนางตกใจ ยามใดนางถูกทำร้าย ต้นไม้เหล่านั้นจะเข้าช่วยเหลือ ครานั้นนางตกใจที่เขาเดินเข้ามาหา เห็นเขายกมือขึ้นก็เข้าใจผิดว่าเขาจะทำร้าย เพราะความคิดของตน ทำให้กิ่งไม้ตวัดหมายทำร้ายองค์ชายเฟยเทียนเพื่อปกป้องนาง แต่ขณะนั้น นางยกมือขึ้นกุมศีรษะ แท้จริงแล้วมีหนอนตัวหนึ่งตกบนศีรษะของนาง นางร้องห้ามในใจทันทีที่เห็นปลายกิ่งไม้ตวัดใส่ราวกับแส้ กิ่งไม้นั

    Last Updated : 2024-11-23
  • ท่อนแขนมังกร   Chapter 6. ตามใจ

    “ถ้าท่านคอยให้ท้ายมัน...เอ่อ...เฟยเทียนเช่นนี้ ก็ตามใจท่านเถิด แต่จะหาสตรีใดมาแต่งงานกับปีศาจเช่นเขาเล่า” “เรื่องนี้ข้าจัดการเอง” ฮองไทเฮาโบกมือไปมาคล้ายไม่ต้องการพูดถึงเรื่องพวกนี้อีก “ได้! ตราบใดที่คนผู้นั้นไม่สร้างความอัปยศให้แก่วงศ์ตระกูล ข้าก็ยังเห็นมันเป็นลูก!” ฮ่องเต้กัดฟันข่มโทสะ รีบลุกขึ้นเดินจากไปทันที ฮองไทเฮาได้แต่ถอนหายใจ สงสารหลายชายที่บิดาไม่รัก แม้เรียกว่าลูก น้ำเสียงก็แสนรังเกียจยิ่งนัก ฮองไทเฮานึกถึงมเหสีหลินหลาน นางเป็นหญิงที่ถูกวางหมากให้นั่งตำแหน่งนี้ตั้งแต่เกิด นิสัยเย่อหยิ่งเอาแต่ใจ เรื่องความงดงามนั้นเหนือผู้ใด ทว่ากลับไม่อาจครองใจฮ่องเต้ได้ อาจเป็นเพราะถูกบังคับให้อภิเษกจึงต่อต้าน หลินหลานเป็นคนยอมใครไม่เป็น ไม่รู้จักมารยา แม้ตนเองเป็นฮองเฮา เมื่อใดที่เห็นฮ่องเต้ให้ความสำคัญกับหญิงใดมากเกินไป ก็สั่งกำจัดเสีย ฮองไทเฮาย่อมรู้เรื่องเหล่านี้ดี แต่แสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น จนกระทั่งสนมเอกจื่อลู่ประสูติพระโอรส ทำให้ฮองเฮาไม่พอพระทัย หวังกำจัดทั้งแม่และลูก ฮองไทเฮาจึงจำเป็นต้องยื่นมือเข้าช่วยเหลือ

    Last Updated : 2024-11-26
  • ท่อนแขนมังกร   Chapter 7. ไล่พวกนางออกไป

    ร่างสูงใหญ่มีเพียงผ้าผืนหนึ่งพันท่อนล่างเดินออกมาจากหลังม่านไม้ไผ่ ก้าวยาวๆ ไม่กี่ก้าวก็มาถึงโต๊ะของซิ่นเจี่ยง หยิบขวดสุราเทใส่ลำคออย่างกระหาย ท่อนบนที่เปลือยเปล่าเห็นรูปมังกรเพลิงชัดเจน ซึ่งเวลานี้กลายเป็นสีแดงดุจย้อมโลหิต ทั้งสามเห็นจนเคยชินแล้ว เมื่ออยู่กันเช่นนี้ ก็ไม่ได้ถือธรรมเนียมเคร่งครัดอะไร เจิ้งหู่ เจิ้งไฉ ยังไม่หยุดมือกับการกินขนมหวาน ซิ่นเจี่ยงยังไม่ละสายตาจากหมากดำบนกระดาน “ไล่พวกนางออกไป” “ขอรับ” เจิ้งหู่ เจิ้งไฉตอบพร้อมกัน ลุกขึ้นแล้วเดินไปเชิญนางคณิกาที่นอนเปลือยกายอ่อนระทวยบนเตียงนอน “นายของพวกท่าน จะเรียกใช้พวกข้าอีกหรือไม่” หญิงนางหนึ่งเอ่ยถามแม้จะยังหอบหายใจแรงอยู่ “เรื่องนั้นข้าไม่อาจรู้ได้” เจิ้งหู่ไหวไหล่ หยิบเสื้อผ้าของพวกนางโยนใส่ไม่เกรงมารยาท “พวกข้าหวังว่าจะได้รับใช้นายของพวกท่านอีก” นางคณิกาทั้งสามแทบคลานลงจากเตียง หอบเสื้อผ้าปิดบังเรือนร่างที่ทิ้งร่องรอยไว้เป็นจุดจ้ำแล้วเดินออกไปอย่างเชื่องช้า ซิ่นเจี่ยงหยิบถุงเงินส่งให้บรรดาคณิกาทั้งสามเป็นของรางวัล พวกนางได้รับค่าตัวแล้

    Last Updated : 2024-11-26
  • ท่อนแขนมังกร   Chapter 8. แผลเป็นก็คือแผลเป็น

    “ไม่เป็นไรหรอก แผลเป็นก็คือแผลเป็น”ปกปิดไปก็เท่านั้น เช็ดแป้งออกก็ย่อมมองเห็น นางไม่รังเกียจแผลตัวเอง ผู้อื่นจะรังเกียจก็ช่างเถอะ นางใช้ผ้าโปร่งปิดครึ่งหน้าแล้วออกไปร่วมงานเลี้ยง เพราะไม่ใช่เชื้อพระวงศ์และไม่ได้เป็นท่านหญิง นางจึงหลบเลี่ยงอยู่ด้านหลัง ใจจดจ่อกับการปรากฏกายของชายที่ทุกคนหวาดกลัว เจอกันครั้งแรกตอนนางอายุสิบสอง เขาคงจำนางไม่ได้แล้ว สำหรับนาง เขาคือผู้มีพระคุณ หากเขาไม่แบกรับความผิดที่ตัวเองไม่ได้ก่อ อาจเป็นนางที่ถูกมองว่าเป็นมารปีศาจ เพราะรอยแผลนี้ทำให้นางรอดพ้นการถูกจับแต่งงานมาตลอด เสียงหัวเราะพูดคุยหายไปทันที ทุกสรรพสิ่งเงียบงัน เพียงการปรากฏกายของบุรุษรูปร่างสูงสง่าผู้นั้น องค์ชายเฟยเทียนหรืออดีตองค์รัชทายาท ก้าวเข้ามาในอาภรณ์สีน้ำเงินเข้มขับเน้นให้ยิ่งดูน่าเกรงขาม ร่างกายกำยำองอาจสมกับเป็นยอดนักรบ แม้มีใบหน้าหล่อเหลาคมคาย แต่ไม่มีสตรีนางใดกล้าเงยหน้ามองใบหน้านั้นตรงๆ จังหวะก้าวเดินอย่างมั่นคงทำให้ปลายผมสีแดงดุจปลายพู่กันจุ่มหมึกนั้นพลิ้วไหวน้อยๆ ทหารองครักษ์สองนายที่เดินตามมานั้น มีหน้ากากเหล็กสีดำปิดครึ่งหน้า กรุ่นไอ

    Last Updated : 2024-11-26
  • ท่อนแขนมังกร   Chapter 9. จะทำอย่างไรดี

    “จะทำอย่างไรดี สุราอาหารส่งไป ดูคล้ายไม่ถูกปากท่านอ๋องหรือแม้แต่ผู้ติดตามก็ไม่แตะต้อง” นางกำนัลสองคนที่เดินผ่านหญิงสาวบ่นอุบอิบ เมื่อเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับองค์ชายเฟยเทียนหรือชินอ๋องแล้ว ว่านหนิงเหมยย่อมหูผึ่งทันที เมื่อเดินไปลับตาผู้อื่น นางสอบถามกับเหล่าพฤกษาในสวนสี่ฤดู “จริงรึ? องครักษ์ทั้งสองชอบกินขนมหวาน” ว่านหนิงเหมยถึงกับโคลงศีรษะไปมา แต่ต้นหลิวที่ยืนต้นเด่นริมสระบัวกลับสั่นไหวยืนยันในสิ่งที่ได้กล่าวไปแล้ว “ที่แท้มิใช่ไม่ถูกปาก แต่ไม่ใช่ของโปรดละสิ” หญิงสาวหัวเราะเบาๆ นึกถึงจ้าวต้าของนาง แม้จะเป็นเด็กชายตัวเล็กที่มักทำท่าทีองอาจเพื่อปกป้องนาง แต่เอาเข้าจริง เขาก็คือเด็กน้อยที่นางหลอกล่อด้วยขนมหวานได้ทุกคราวไป ‘กุนซือรูปงามผู้นั้น ชอบเดินหมากล้อมเป็นที่สุด’ ‘เจิ้งหู่ เป็นแฝดผู้พี่’ ‘เจิ้งไฉเป็นแฝดผู้น้อง’ ‘ทั้งสามร่วมรบในสงครามทรายย้อมโลหิต จึงเป็นดั่งสหายรักขององค์ชายเฟยเทียน’ ‘จุ๊ๆ ต้องเรียกชินอ๋องสิ’ ‘องค์ชายไม่สนใจตำแหน่งเสียหน่อย ใจพะวงอยากกลับตุนหวงแล้ว

    Last Updated : 2024-11-26
  • ท่อนแขนมังกร   Chapter 10. เจ้าก็เลือกเอาสักคนเถิด

    เพียงแค่คิดก็เผลอยกท่อนแขนซ้ายขึ้นดู เวลานี้มันเป็นเพียงแขนข้างซ้ายที่มีปีศาจมังกรเพลิงหลับใหลอยู่ หากเมื่อเขาต้องการ ปีศาจกระหายโลหิตตนนั้นจะปรากฏได้ในทันที หลายปีมานี้เขาใช้ความสามารถของตนเอง ผนวกกับความสามารถของกุนซือที่เขาเชื่อใจ ซ้ำยังมีองครักษ์ซ้ายขวาที่เขาชุบเลี้ยงทั้งสองมาตั้งแต่ยังวัยเยาว์ เมื่อมีคนที่ไว้ใจได้อยู่เคียงข้าง ก็ไม่มีสิ่งใดขวางชัยชนะของเขาได้ เขาไม่เคยรู้สึกผิดที่เรียกหาปีศาจ หากย้อนเวลาได้ เขายังคงทำเช่นเดิม พอยกแขนลงก็ไปแตะโดนกระดาษกองหนึ่ง เขาเพียงปรายตามองแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ ที่ไม่เข้าใจก็คือ ไฉนฮองไทเฮาถึงได้นำรูปหญิงงามมาให้เขาเลือกเป็นพระชายา “เจ้าก็เลือกเอาสักคนเถิด” เขานึกถึงเสียงรับสั่งของฮองไทเฮา ไม่คิดว่ามีสตรีอยากชะตาขาดมาให้เขาเลือกเป็นพระชายานับสิบคน คงเพราะตำแหน่งพระชายาของชินอ๋องแห่งตุนหวงเย้ายวนจนยอมเอาชีวิตมาเสี่ยงแม้ไม่ได้เงยหน้าขึ้นจากกระดานที่วางหมากอยู่นั้น แต่ก็เข้าใจความคิดของผู้เป็นนายที่ซิ่นเจี่ยงติดตามมานาน เขาเป็นเด็กกำพร้าเดิมทีใช้ชีวิตเร่ร่อน เพราะรูปร่างผอมบางตามประสาเด็กกินไม่อิ่

    Last Updated : 2024-11-26

Latest chapter

  • ท่อนแขนมังกร   แนะนำ ลมหายใจมังกร

    ลมหายใจของเขามีไว้เพื่อนางลมหายใจของนางมีไว้เพื่อเรื่องย่อเรื่องราวระหว่างเทพมังกรดิน ฮวงหลง และหญิงสาวเดินดินนามซิ่นฮวาเมื่อโชคชะตาเล่นตลกให้หญิงสาวมองเห็น ‘เทพมังกรดิน’เขาจำ(ใจ)ต้องปรากฏกายทุกครั้งที่นางเรียกขานนามของเขาทำให้เทพเซียนชั้นฟ้ากลายเป็นพี่เลี้ยงของเด็กหญิงตัวน้อยจวบจนนางเติบโตเป็นหญิงสาวงามสะพรั่งกฎสวรรค์ทำให้เขาต้องหักห้ามใจแต่เพราะนางและเขามีชะตาที่ต้องชดใช้กรรมร่วมกันและมีเพียง ‘ลมหายใจมังกร’ เท่านั้นที่จะต่อลมหายใจของนางได้เส้นทางที่เขาเลือกมิใช่สิ่งที่นางปรารถนาเพียงหนึ่งชาติภพเพื่อให้ใจได้ ‘รัก’แม้ช่วงเวลานั้นจะแสนสั้น.... นางก็ยินดีจาก ‘ท่อนแขนมังกร’ สู่ ‘ลมหายใจมังกร’(ท่อนแขนมังกรรุ่นลูก)‘ไม่ว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้น ข้าจะอยู่ข้างกายท่าน จะไม่มีวันทอดทิ้งท่านอย่างเด็ดขาด’“แม้ว่าข้าจะกลายเป็นคนอัปลักษณ์ เจ้าก็ยังอยู่เคียงข้างข้าหรือ?”‘แน่นอน’ นางยืนยันด้วยแววตาใสซื่อ ‘ข้ามิได้รักท่านที่หน้าตา แต่เพราะจิตใจของท่านต่างหากที่ข้าหลงรัก’“เจ้ารักข้า?”คำสารภาพรักของนางนั้นเขาได้ยินมานับร้อยนับพันครั้งแล้วกระมังแต่ครั้งนี้ แม้นางไม่ได้เปล่งเสียงออกมาแต่ห

  • ท่อนแขนมังกร   Chapter 126 .  พิเศษ 2.

    “เช่นนั้นเจ้าไม่ลองมีลูกสาวให้เป็นเพื่อนซิ่นฮวาอีกคนเล่า เด็กๆในตำหนักมีแต่เด็กผู้ชาย ถ้ามีลูกผู้หญิงเพิ่มขึ้นอีกคนก็คงดีไม่น้อย ตอนนี้ซิ่นสือก็สามขวบแล้ว ถ้าเจ้าจะมีลูกอีกสักคนก็...”บุรุษหนุ่มผู้กรำศึกมานับไม่ถ้วนถึงกับสะอึกไปเมื่อเห็นสายตาดุๆ ของภรรยาตัวน้อย“ข้ามิใช่แม่หมูนะ” เหตุใดมาเคี่ยวเข็ญให้นางตั้งท้องขนาดนี้นะ“โธ่! เพราะเห็นเจ้าเป็นภรรยาหนึ่งเดียวของข้าถึงได้ชวนเจ้ามีลูกอีกสักคนหรือสองคนก็ได้” เขาโอบไหล่นางพานางกลับเข้าห้องพัก ปล่อยให้จ้าวต้าอยู่กับลูกชายสองคนของเขา คงเป็นวิธีเบี่ยงเบนความสนใจจากว่านหนิงเหมยให้จ้าวต้าไปรับตัวซิ่นฮวาจากสวนกระจ่างใจจ้าวต้าโคลงศีรษะไปมาแล้วมองเด็กน้อยทั้งสอง แม้ฐานะของเขาต้อยต่ำนัก แต่เขาเสมือนพี่ใหญ่ที่ต้องดูแลเด็กๆ เหล่านี้ เขาถอนหายใจก่อนยิ้มอ่อนโยน จูงมือซิ่นหลิงและอุ้มซิ่นสือไปส่งป้าฮุยเหอก่อนแล้วค่อยไปรับเด็กหญิงแสนซุกซนผู้นั้นเด็กหญิงตัวต้นเรื่องนั่งหน้าบึ้งตึงในศาลาหกเหลี่ยมของสวนกระจ่างใจ ท่านแม่ให้นางนั่งสำนึกผิดอยู่ผู้เดียว แต่กระนั้น นางก็รู้และมั่นใจว่าองครักษ์ของท่านพ่อคอยจับตาดูนางอยู่“เรื่องนิดเดียวเอง ไยท่านแม่ต้องโกรธถึงเ

  • ท่อนแขนมังกร   Chapter 125 . พิเศษ 1.

    ชายหนุ่มวัยสิบหกพาเรือนร่างกำยำเดินเข้าไปพร้อมรอยยิ้มประดับใบหน้าคมเข้ม แม้อายุเพียงแค่สิบหกปีแต่เพราะฝึกฝนวรยุทธ์อย่างเข้มงวด ทำให้เขาดูสูงใหญ่กว่าชายหนุ่มวัยเดียวกัน แทบไม่เหลือเค้าโครงเด็กชายผอมกะหร่องที่ค่อยติดตามพระชายาเลยแม้แต่น้อย เพียงร่างสูงเดินเข้าไปในห้องโถง พลันประสาทรับรู้ถึงการพุ่งเข้าใส่ ทว่าเขากลับไม่ปัดป้องหรือหลบหลีก ยอมให้ร่างเล็กโถมเข้าใส่สุดแรงจนเสียหลักหงายหลังล้มลงให้เด็กชายตัวน้อยวัยห้าขวบนั่งทับ “พี่จ้าวต้ากลับมาแล้ว!” มือน้อยของเด็กชายขยุ้มคอเสื้ออีกฝ่าย สีหน้าตื่นเต้นดีใจทั้งที่ไม่เจอกันแค่สามเดือน “คุณชายซิ่นหลิง” ชายหนุ่มหัวเราะขบขันกับท่าทางดีอกดีใจของอีกฝ่าย เพราะรู้ว่าผู้ที่พุ่งเข้ามาเป็นใครจึงยอมให้นั่งทับบนร่างตัวเองเช่นนี้ เขาจับไหล่เด็กชายตัวน้อย ยกตัวขึ้นเพื่อให้ตัวเองลุกขึ้นยืนได้ “พี่จ้าวต้ามาแล้ว ไปช่วยซิ่นฮวาเร็วๆ เข้า” มือน้อยกระตุกมือใหญ่แล้วชี้ไปทางด้านหลังของตำหนักดุจตะวัน “หือ? คุณหนูเป็นอะไรไปขอรับ” เขาถามพลางมองไปตามทิศทางที่นิ้วป้อมๆ ชี้ไป ถ้าคุณหนูตัวน้อยอยู่ที่สวนก

  • ท่อนแขนมังกร   Chapter 124. ตุนหวง

    พูดได้แค่นั้นก็อยากจะอาเจียนหรือหาของเปรี้ยวมากิน คราวนี้ฮองไทเฮาอดหัวเราะไม่ได้ ในขณะที่หลานรักอย่างเขากลับรู้สึกอับอายยิ่งนัก เพราะหลบสายตาของผู้เป็นย่าจึงปะทะกับสายตาล้อเลียนขององครักษ์ฝาแฝดทั้งสอง ทำได้แต่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างไม่พอใจ ก็ใครใช้ให้เขารักนางมากขนาดนี้กันเล่า เฮ้อ!“เอาเถิดๆ อย่างไรข้าจะเป็นยายแก่หนังเหนียวรอเจ้าพาเหลนและสะใภ้กลับมาเยี่ยมอยู่ที่นี่”องค์ชายเฟยเทียนโค้งตัวอำลาฮองไทเฮา คราวนี้เขาไม่รั้งอยู่นาน ใช้วิชาตัวเบาราวล่องหนหายออกไปจากวังหลวงพร้อมองครักษ์ทั้งสองอย่างรวดเร็ว เพื่อกลับไปดูแลคนที่ทำให้เขาต้องออกอาการแพ้ท้องแทนอยู่อย่างนี้ตุนหวงรถม้ามาหยุดหน้าตำหนักดุจตะวัน หญิงวัยกลางคนโผล่หน้าออกมาจากหน้าต่างรถอย่างไม่มั่นใจนัก จนกระทั่งเห็นเด็กชายที่เคยเลี้ยงดูรีบวิ่งเข้ามาหา นางจึงยิ้มกว้างออกมา“จ้าวต้า”“ป้าฮุยเหอมาแล้ว” จ้าวตารีบไปประคองให้นางลงจากรถม้า ก่อนท่านอ๋องเดินทางไปเมืองหลวงได้สอบถามเขาถึงคนสนิทหญิงรับใช้ที่บ้านเดิม ท่านอ๋องต้องการให้พระชายามีคนคุ้นเคยอยู่ใกล้ๆ คอยช่วยเหลือยามตั้งครรภ์แรก เขาจึงนึกถึงป้าฮุยเหอที่ดูแลเขาและพระชายามาตั้งแต่เกิด แต่เ

  • ท่อนแขนมังกร   Chapter 123.สิ่งเดียวที่ต้องการ   

    ดวงเนตรเบิกกว้างอย่างตกใจ ไม่คิดว่าจะได้ยินโอรสที่ทรงหมางเมินกล่าวออกมาเช่นนี้ จ้องมองบุรุษเบื้องหน้าที่ใบหน้าละม้ายคล้ายกันนัก สิ่งที่ลูกชายพูดออกมานั้นล้วนอยู่ในก้นบึ้งของหัวใจ ทุกครั้งที่มองใบหน้านี้จึงเหมือนมองตนเองในวันวัยเดียวกัน ยามที่เป็นเพียงองค์รัชทายาทก็ราวกับเป็นเพียงหุ่นเชิดให้ใครต่อใครบงการ พยายามอย่างยิ่งให้เป็นที่ยอมรับ ได้รับความรักจากบิดาหรือก็คืออดีตฮ่องเต้องค์ก่อน แม้รู้ว่าสิ่งที่ตนทำไปนั้นไม่ถูกต้อง แต่ไม่อาจแก้ไขอะไรได้สิ่งที่ซุกซ่อนอยู่ในใจ ไม่คิดเลยว่าบุรุษเบื้องหน้าผู้ถอดแบบเขาออกมาแทบทุกกระเบียดนิ้ว จะมองออกจนทะลุปรุโปร่งเช่นนี้ “สิ่งที่กระหม่อมทำก็เพื่อแผ่นดินมังกรแห่งนี้ ศึกภายในกระหม่อมไม่ขอยุ่งเกี่ยว กระหม่อมมิสนใจว่าผู้ใดต้องการกำจัดกระหม่อม แต่ชีวิตของกระหม่อมขอเพียงได้ปกป้องราษฎรและรักษาแผ่นดินที่แลกมาด้วยหยาดโลหิตและชีวิตทหาร หากกำจัดกระหม่อมไปแล้ว เห็นทีว่าจะไม่เป็นผลดีต่อแผ่นดินนี้”“เจ้ากำลังข่มขู่ข้ากระนั้นรึ” “มิได้ กระหม่อมแค่ต้องการย้ำให้พระบิดาเข้าใจ อย่าได้สิ้นเปลืองสมองมาระแวงกระหม่อม”เสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะยกถ้วยชาขึ้นจิบอีกครั้ง

  • ท่อนแขนมังกร   Chapter 122. สิ้นสุด 

    เทพมังกรดินดูผลงานของตน เฝ้ามองเหล่ามารปีศาจกลับคืนสู่นรกแล้ว จึงกลายร่างเป็นบุรุษเจ้าของเส้นผมสีเงินยวง เดินเข้าไปหาคนทั้งสอง หญิงสาวพลิกตัวใช้ร่างของตนบังร่างของชายที่นางรักไว้ แม้นางรูปร่างเล็ก แต่กางแขนออกเพื่อปกป้องเขา“หนิงเหมย” เขาปรามนาง อยากจะหัวเราะที่เวลานี้มีหญิงสาวตัวเล็กกางแขนปกป้องเขาเต็มที่ ในชีวิตของเขา จะมีใครสักกี่คนที่ยอมอยู่เคียงข้างเช่นนี้ เพียงหนึ่งชีวิตอันแสนสั้น ได้รู้จักรัก หัวใจได้รับความรักก็นับว่ามีค่าและมีเกียรติให้ตายได้อย่างสงบแล้วเป็นนางเท่านั้นที่ทำให้เขาได้เรียนรู้ที่จะรัก ได้สัมผัสความรัก เพียงเท่านี้ก็พอแล้ว พอแล้วจริงๆ เทพมังกรดินจ้องมองชายหนุ่มหญิงสาวทั้งสองแล้วก็ลอบถอนหายใจ นี่แหละหนา จึงเป็นได้เพียงมนุษย์ไม่อาจละทิ้งอาวรณ์ได้ เขายื่นมือไปใช้เพียงปลายนิ้วแตะน้ำตาของหญิงสาว ว่านหนิงเหมยเบิกตาโต เห็นน้ำตาของตนกลั่นกลายเป็นก้อนกลมเล็กดุจลูกแก้ววาววับลอยเหนือฝ่ามือของเทพมังกรดิน แล้วยื่นไปที่เบื้องหน้าขององค์ชายเฟยเทียน “นี่คือ...” ว่านหนิงเหมยพึมพำ “กลืนมันลงไป” เทพมังกรดินสั่งน้ำเสียงเฉียบขาด องค์ช

  • ท่อนแขนมังกร   Chapter 121.   ค่าตอบแทน

    “เจ้าเรียกปีศาจได้ ไยข้าจะทำบ้างมิได้” เพื่อชัยชนะ ย่อมทำได้ทุกอย่างไม่ว่าชัยชนะนั้นจะได้มาอย่างไรก็ตาม“เจ้าแลกสิ่งใดกับการเรียกปีศาจออกมา!”แม้เขามีปีศาจมังกรเพลิงอยู่ในท่อนแขนซ้าย แต่เรียกใช้เพียงการศึกครั้งเดียว เมื่อสิบปีก่อนที่เรียกกองทัพทหารปีศาจขึ้นมา กลายเป็นฝันร้ายไปชั่วชีวิต นับแต่นั้น เขาเพียงใช้แค่เกราะปีศาจมังกรเพลิงคุ้มกันกายค่าตอบแทนของทหารปีศาจเหล่านี้คือหายนะไม่สิ้นสุด ความตายที่ไม่อาจประเมินได้อยู่เบื้องหน้า ปีศาจเหล่านี้ล้วนต้องดื่มเลือดฉีกเนื้อกินวิญญาณมนุษย์ ครานั้นปีศาจที่เขาเรียกออกมากัดกินทหารฝ่ายตรงข้าม เศษซากที่เหลือกลายเป็นศพ กองเป็นภูเขาซากศพชวนให้อาเจียนและขนหัวลุก“ข้ามิโง่เช่นเจ้าที่แลกวิญญาณตนเองหรอกนะ” ลาซูแหงนหน้าหัวเราะ ดวงตากลายเป็นสีแดงราวกับย้อมด้วยโลหิต “แต่ข้าแลกด้วยชีวิตผู้คนในตุนหวง เมื่อข้านำกองทัพเข้ายึดครองแผ่นดินของเจ้า ผู้คนของเจ้าก็จะกลายเป็นอาหารอันโอชะให้พวกมันอย่างไรเล่า เมื่อเวลานั้นมาถึง ดินแดนของเจ้าจะมีเพียงผู้คนของข้าเท่านั้นที่เหยียบยืนบนแผ่นดินเปื้อนเลือดแห่งนี้”แม้ไม่ได้ยินเสียงสนทนาของคนทั้งสอง แต่บัดนี้หญิงสาวเข้าใจแล้วว่

  • ท่อนแขนมังกร   Chapter 120.   เสียงของสายลม

    นางหวังให้ตัวเองส่งเสียงเตือนให้ดังกว่านี้ แต่เสียงที่เปล่งออกไปเป็นเพียงเสียงแหบแห้งและสั่นเครือ นางรวบรวมเรี่ยวแรงที่เหลือเพียงน้อยนิด อาภรณ์สีดำขลิบแดงที่นางสวมทำให้ผิวกายของนางแสบร้อน ดวงตาเบิกกว้าง นางเห็นกลุ่มคนบุกเข้าไปกำลังปะทะกับทหารมองโกล “ท่าน...อ๋อง...” เสียงของนางแผ่วเบายิ่งกว่าเสียงของสายลม น้ำตาที่ทนกลั้นกลิ้งร่วงหล่นจากดวงตาเปื้อนแก้ม ขอให้นางได้เพียงส่งเสียง ได้เพียงเตือนเขาก็ยังดี “โอ๊ย!” ว่านหนิงเหมยร้องเสียงหลง หูทั้งสองข้างราวกับมีเสียงปริแตกลั่นดังเปรี๊ยะ! มือที่ถูกมัดทำให้ไม่อาจยกขึ้นมาแตะหูของตนได้ นางเจ็บจนนิ่วหน้า รู้สึกเหมือนมีน้ำไหลออกมาจากหูทั้งสองข้างนางหลับตาพยายามสะกดกลั้นความเจ็บที่ตนได้รับ เสียงหวีดแหลมที่ทำให้หูทั้งสองข้างเจ็บปวด ทำให้นางไม่อาจได้ยินเสียงอื่นใดอีก ในชั่วลมหายใจต่อมา หญิงสาวรู้สึกว่าเชือกที่มัดนางอยู่ถูกตัดขาดอย่างรวดเร็วพร้อมร่างของนางที่ร่วงหล่น เพียงเสี้ยวเวลาอันแสนสั้นและเปราะบาง ยามนั้นนางกลับนึกถึงเมื่อครั้งที่นางตกต้นหลิวอายุเกือบร้อยปีในสวนสี่ฤดูของฮองไทเฮา หัวใจของนางหล่นวูบ

  • ท่อนแขนมังกร   Chapter 119.   ดวงตาเป็นประกายโกรธเคือง

    “เจ้าต้องการสิ่งใดกันแน่” มือเรียวกำแน่น เผลอจิกเล็บกับฝ่ามือของตนเอง เมื่อเห็นอีกฝ่ายตั้งใจฟัง ลาซูจึงเอ่ยขึ้น “สังหารท่านอ๋องอย่างไรเล่า คงมีแต่ท่านเท่านั้นที่จะสังหารผู้ที่ครอบครองพลังปีศาจมังกรเพลิง” ลาซูพูดราวกับเป็นเรื่องธรรมดา “อ้อ! แต่อย่าได้เป็นกังวลไป หากพระชายากลายเป็นม่าย กระหม่อมยินดีรับท่านมาอยู่เคียงข้างอย่างไม่รังเกียจ” ยังไม่ทันสิ้นประโยคดี ฝ่ามือเล็กของหญิงสาวกระทบซีกแก้มของลาซูสุดแรงที่นางมี เพราะคิดว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงหญิงไร้วรยุทธ์จึงไม่หลบหลีกยินดีให้นางตบหน้าเขาเต็มแรง ว่านหนิงเหมยลดมือที่ยกค้างอยู่ลง แสร้งทำเป็นประคองสองมือไว้บนตัก ทว่ามือข้างขวานั้นชาและสั่นระริก หญิงสาวกัดริมฝีปากตนเองไม่ให้แสดงความตื่นตระหนกออกมา ดวงตาเป็นประกายฉายแววเคืองโกรธและจ้องมองอย่างไม่เกรงกลัว “หากมือของข้าต้องเปื้อนเลือด ต้องเป็นเลือดของคนชั่วเช่นเจ้าเท่านั้น! ข้ายินดีตายแต่ไม่ยอมทำร้ายท่านอ๋องเด็ดขาด!” “ดี!” ลาซูหัวเราะเหมือนคนเสียสติ ยื่นมือไปจับข้อมือข้างที่ตบหน้าเขากระชากนางให้ลุกขึ้นพร้อมกับต

DMCA.com Protection Status