แชร์

บทที่ 421

ผู้เขียน: พิณเคล้าสายฝน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-09-29 18:00:00
ฮุ่ยอี๋เกรี้ยวโกรธมาก แต่ก็ไม่สามารถหลุดพ้นได้ จึงตะโกนเข้าไปข้างในด้วยเสียงที่ดังมาก: " ซวงเอ๋อร์ ซวงเอ๋อร์ออกมานี่หน่อย..."

“ข้ามาหาเจ้าแล้ว เจ้าหลบอยู่ในนั้นทำไม?”

" ซวงเอ๋อร์! เจ้ารีบออกมาพบข้าเร็วเข้า... "

พายุกำลังก่อตัวในนัยน์ตาของเยี่ยเป่ยเฉิง

ดูเหมือนว่าเขาจะคิดไม่ถึงว่าองค์หญิงที่ดื่มจนเมาจะรับมือยากเช่นนี้! ตะโกนโวกเวกโวยวายอยู่หน้าประจวนเขาช่างเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเอาเสียเลย!

ฉีหมิงกลับรู้สึกสนุกสนาน

เยี่ยเป่ยเฉิงกำลังจะสั่งให้เสวียนอู่ปิดปากของฮุ่ยอี๋เอาไว้ หากไม่ได้ผลก็ใช้สันมือทำให้คนหมดสติก็ได้

แต่เขายังไม่ทันได้เอ่ยปากพูด หลินซวงเอ๋อร์ก็เดินออกมาจากข้างใน

“สวามี เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือ?”

เยี่ยเป่ยเฉิงรู้สึกเสียใจเล็กน้อย

เขาน่าจะทำให้นางหมดสติไปตั้งแต่เนิ่นๆ!

หลินซวงเอ๋อร์เปลี่ยนเป็นชุดลำลองแล้วออกมา เมื่อเห็นทั้งสองคนที่ยืนอยู่นอกประตู ก็มีสีหน้าที่ประหลาดใจเล็กน้อย

“พี่ฉี องค์หญิง ดึกมากแล้ว พวกท่านมาทำอะไรที่นี่?” หลินซวงเอ๋อร์เดินอ้อมเยี่ยเป่ยเฉิง และเดินไปหา ฮุ่ยอี๋

ทันทีที่เห็นหลินซวงเอ๋อร์ใบหน้าของฉีหมิงที่สงบนิ่งมาโดยตลอด ในที่สุดก็ผ่อนคลาย

เขา
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 422

    เมื่อเห็นว่าหลินซวงเอ๋อร์ยืนกรานที่จะให้ฮุ่ยอี๋อยู่ต่อ เยี่ยเป่ยเฉิงก็รู้สึกโกรธเล็กน้อย เม้มริมฝีปากแล้วเข้าไปที่จวนโดยไม่พูดอะไรสักคำหลินซวงเอ๋อร์พยุงฮุ่ยอี๋แล้วเดิมตามหลังไปด้านหลัง ฉีหมิงเรียกนางเอาไว้“ ซวงเอ๋อร์ ”หลินซวงเอ๋อร์หยุดเดินชั่วคราว หันกลับมามองเขา“พี่ฉี มีเรื่องอะไรหรือ?”“เรื่องที่เกิดขึ้นครั้งนั้น... ฉีหมิงทำผิดไปแล้ว” ฉีหมิงกล่าวหลินซวงเอ๋อร์ชะงักไปเล็กน้อยฉีหมิงมีสีหน้าที่หม่นหมอง และมีความโศกเศร้าในส่วนลึกของนัยน์ตา: " ซวงเอ๋อร์ พี่ไม่เคยคิดที่จะทำร้ายเจ้าเลย พี่แค่ชอบเจ้ามากเกินไป ชอบจน... จนทำเรื่องที่บ้าบิ่นเหล่านั้นออกมา"บ้าบิ่นจนต้องกักขังหน่วงเหนี่ยวนางเอาไว้ แล้วให้นักโทษประหารคนหนึ่งสวมรอยเป็นนาง!เขาคิดว่ามีแต่วิธีนี้เท่านั้น หลินซวงเอ๋อร์ถึงจะสามารถเป็นของเขาได้อย่างสมบูรณ์เขาได้วางแผนไว้ล่วงหน้าแล้ว ถ้าเยี่ยเป่ยเฉิงคลายความระมัดระวัง เขาก็จะลาออก และพาหลินซวงเอ๋อร์หนีไปด้วยกัน...แต่ท้ายที่สุด แผนก็ล้มเหลว เยี่ยเป่ยเฉิงก็ยังตามหานางจนพบ...และตอนนี้ นางก็หลีกเลี่ยงเขาเหมือนอสรพิษ และไม่เปิดโอกาสให้เขาได้พบปะนางตามลำพังเลย...หลินซว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-29
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 423

    เขาคิดว่าตนเองสามารถสร้างสมดุลความสัมพันธ์ระหว่างแม่ของเขากับซวงเอ๋อร์ได้ จึงอยากจะให้ซวงเอ๋อร์ให้เวลาเขาอีกหน่อยก็เท่านั้นเองเขาคิดว่า ซวงเอ๋อร์รอเขามาสองปีแล้ว รออีกสักสองสามวันก็คงจะไม่เป็นไร...แต่เขาประเมินตนเองสูงเกินไป จึงไม่ได้คำนึงถึงความรู้สึกของซวงเอ๋อร์จนกระทั่งในเวลาต่อมา เขาถึงมาเข้าใจในภายหลังว่า การที่ซวงเอ๋อร์ถามเขาแบบนี้ อาจจะเป็นเพราะรู้สึกไม่ปลอดภัยอยู่ในใจ และต้องการให้เขาตอบคำถามนางอย่างหนักแน่นแต่เขากลับลังเลใจ ปล่อยให้นางยอมถอยไปเอง แถมยังยืนเคียงข้างแม่ของตนเอง และขอให้นางยกโทษให้...ความเสียใจนี้ฝังลึกอยู่ในใจของเขา และกลายเป็นปมที่เขาไม่อาจปล่อยวางได้แต่หลังจากได้ยินคำตอบของหลินซวงเอ๋อร์ ปมที่อยู่ในใจของฉีหมิงก็คลายออก...แต่ทว่า ในใจกลับรู้สึกโศกเศร้ามากยิ่งขึ้น เสียใจที่นางไม่เคยคิดที่จะเลือกตนเองเลย...“พวกเจ้าคุยกันเสร็จแล้วหรือยัง? ข้าอยากนอนแล้ว! ถ้ามีเรื่องอะไร ค่อยคุยกันพรุ่งนี้...ค่อยคุยกันพรุ่งนี้…”ฮุ่ยอี๋ง่วงนอนมากมาตั้งนานแล้ว นางเวียนหัวเป็นอย่างมาก จึงได้ยินไม่ชัดว่าทั้งสองคนกำลังพูดอะไรกัน แค่รู้สึกว่าทั้งสองคนพิรี้พิไลจนเกินไป“

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-30
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 424

    หลินซวงเอ๋อร์ช่วยพยุงฮุ่ยอี๋เข้าไปในเรือนฝั่งตะวันออกนางให้ตงเหมยทำความสะอาดห้องพักชั้นเยี่ยมสำหรับแขกหนึ่งห้อง และคิดว่าจะให้ฮุ่ยอี๋พักอยู่ที่นั่นหนึ่งคืน พอถึงวันพรุ่งนี้ค่อยส่งนางกลับไปที่วังตงเหมยทำความสะอาดห้องเสร็จอย่างรวดเร็วไม่มีอะไรให้เก็บกวาดสักเท่าไหร่ เพราะก่อนหน้านี้มีคนใช้ทำความสะอาดอยู่เสมอ จึงแค่เปลี่ยนชุดเครื่องนอนใหม่ก็เท่านั้นฮุ่ยอี๋ปวดหัวอย่างรุนแรงมาก อาจจะเป็นเพราะดื่มเหล้ามากจนเกินไป จึงทำให้รู้สึกเวียนหัวเล็กน้อยหลินซวงเอ๋อร์ให้ตงเหมยเอาชามซุปสร่างเมามาให้นางหนึ่งถ้วยหลังจากดื่มซุปสร่างเมาแล้ว ฮุ่ยอี๋ก็รู้สึกดีขึ้นมาก แต่หัวยังคงตื้อๆอยู่เยี่ยเป่ยเฉิงยืนอยู่บนขั้นบันได ด้วยสีหน้าที่หดหู่ฮุ่ยอี๋คนนี้รับมือยากจริงๆ เห็นได้ชัดว่าดื่มเหล้าไม่เป็น ยังดื่มมากขนาดนั้น!ดื่มจนเมาก็แล้วไป! ยังจะมาเป็นอุปสรรคเขาอยู่ที่นี่อีก!มันดึกมากแล้ว นางก็ไม่อยากนอน ยังจะมารบกวนหลินซวงเอ๋อร์ให้นั่งรับลมหนาวเป็นเพื่อนนางที่ลานจวนอีกหลินซวงเอ๋อร์ก็ตามใจนาง อยู่กับนางตลอดเวลาแต่เวลาของเยี่ยเป่ยเฉิงผ่านไปอย่างยากลำบาก!“ ซวงเอ๋อร์ ดึกมากแล้ว ให้ตงเหมยพานางไปพักผ่อ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-30
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 425

    ใบหน้าอันหล่อเหลาเยี่ยเป่ยเฉิงเคร่งขรึมลงอย่างสิ้นเชิง“องค์หญิง นี่คือห้องของท่านอ๋อง ท่านจะเข้าไปไม่ได้เด็ดขาด…” ตงเหมยเตือนจากข้างนอก“ ซวงเอ๋อร์อยู่ข้างในหรือเปล่า? ข้าไม่สน ข้าจะไปหาซวงเอ๋อร์ …”เส้นเลือดบนหน้าผากเยี่ยเป่ยเฉิงกระตุกหลินซวงเอ๋อร์ผลักเยี่ยเป่ยเฉิงออกไปอีกครั้ง สวมเสื้อคลุมแล้วลุกขึ้น จากนั้นก็พูดกับ เยี่ยเป่ยเฉิงว่า: "สวามี ข้าออกไปดูหน่อยดีกว่า"เยี่ยเป่ยเฉิง: "...."เมื่อเห็นหลินซวงเอ๋อร์ออกมา ฮุ่ยอี๋ก็เกาะติดนางอย่างกับตังเม" ซวงเอ๋อร์... ซวงเอ๋อร์ เตียงนั้นแข็งเกินไป เข้านอนไม่ชินเลย..."ตงเหมยกลอกตา และอธิบายว่า: "ข้าได้จัดผ้าปูที่นอนให้นางสามชั้นแล้ว นางก็ยังนอนไม่ชิน และบอกว่ามันไม่นุ่มเหมือนในตำหนักของนาง "ตงเหมยพึมพำว่า: "ในเมื่อรังเกียจเช่นนี้ เหตุใดต้องมานอนค้างที่จวนของพวกเรา ให้ท่านอ๋องส่งกลับไปที่วังเลยดีกว่า พวกเราจะได้ไม่ต้องยุ่งยาก"หลินซวงเอ๋อร์ปลอบใจตงเหมยว่า: "ตงเหมยคนดี อย่าไปถือสานางเลย องค์หญิงกำลังเมาอยู่ เอาแต่ใจนิดหน่อยถือว่าเป็นเรื่องที่เข้าใจได้"ตงเหมยพูดด้วยความโกรธว่า: "วันนี้เจ้าก็ดื่มเหล้าเหมือนกันไม่ใช่หรือ แต่น่ารักกว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-30
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 426

    ฮุ่ยอี๋พลิกตัวไปมาอยู่บนเตียง ไม่อยู่นิ่งเลยแม้แต่น้อยหลินซวงเอ๋อร์ตบหลังฮุ่ยอี๋เบาๆ แล้วกล่าวว่า "องค์หญิง หยุดก่อความวุ่นวาย แล้วรีบนอนเถิด"ฮุ่ยอี๋พลิกตัว และเกาะติดนางเหมือนลูกแมว เอาศีรษะซุกบนหัวไหล่ของหลินซวงเอ๋อร์ แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า " ตัวของซวงเอ๋อร์หอมจัง กลิ่นหอมเหมือนเตียงนี้เลย"หลินซวงเอ๋อร์รู้สึกว่า อันที่จริงแล้วฮุ่ยอี๋ที่กำลังเมาอยู่น่ารักมาก ไม่มีการวางมาดองค์หญิงเลยแม้แต่น้อย เพียงแต่ติดคนจนเกินไปไม่สิ ไม่เพียงแต่ติดคนแจเท่านั้น ยังพูดมากอีกด้วย“ ซวงเอ๋อร์ เจ้าช่วยเล่าเรื่องที่น่าสนใจในหมู่บ้านของพวกเจ้า ให้ข้าฟังอีกหน่อยสิ…”“และเรื่องที่น่าเหลือเชื่อเหล่านั้น...บนโลกใบนี้มีวิญญาณกลับคืนร่างจริงๆหรือ?”หลินซวงเอ๋อร์ง่วงนอนตั้งนานแล้ว จึงพูดไปส่งๆว่า: "เดี๋ยวพรุ่งนี้ข้าจะเล่าให้ท่านฟังอย่างละเอียด องค์หญิงรีบนอนเถิด"ฮุ่ยอี๋ปฏิเสธ เขย่าไหล่ของหลินซวงเอ๋อร์ แล้วกล่าวว่า "เล่าให้ฟังหน่อย... ข้านอนไม่หลับ ถ้าไม่ได้จริงๆ เจ้า... เจ้าก็เล่าเรื่องเกี่ยวกับฉีหมิง... "หลินซวงเอ๋อร์ขยี้ตา ประคองสติ และกล่าวว่า "องค์หญิงอยากรู้เกี่ยวกับพี่ฉีหรือ?"ฮุ่ยอี๋กอดผ้าห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-30
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 427

    “สุดท้าย…” ฮุ่ยอี๋ยิ้มอย่างเขินอาย และกล่าวว่า “ประเด็นสุดท้าย ค่อนข้างจะฉาบฉวย ข้าชื่นชอบรูปร่างหน้าตาของเขา”หลินซวงเอ๋อร์หัวเราะเบาๆ และกล่าวว่า " ก็จริง พี่ฉีมีรูปร่างหน้าตาที่โดดเด่น และเป็นคนที่มีความสามารถ"ฮุ่ยอี๋กล่าวว่า: " ข้าคิดว่า เขาหน้าตาดี แต่งตัวดี ประพฤติตัวดี แม้ว่ารูปร่างหน้าตาจะเป็นแค่ของนอกกาย แต่พอข้าได้เห็น ก็รู้สึกว่าน่ามอง และรู้สึกมีความสุขเมื่อได้มอง …"หลินซวงเอ๋อร์ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรเล็กน้อยฮุ่ยอี๋กล่าวต่อว่า: "ตอนแรก ข้าเกลียดรู้สึกเกลียดเจ้านิดหน่อย"หลินซวงเอ๋อร์หันไปมองนาง แล้วกล่าวว่า "ข้ารู้ ข้าไม่เป็นที่รักของผู้คนมาโดยตลอด"ในจวน นอกจากท่านป้าจ้าวและตงเหมยที่ดีต่อนางอย่างจริงใจแล้ว นางมักจะถูกรังแกโดยไม่มีสาเหตุอยู่เสมอชิวจวี๋ไม่ชอบนาง ท่านป้าหลี่ก็มักจะทำให้นางลำบากใจอยู่บ่อยๆ แม้แต่กงชิงเยวี่ยก็เกรี้ยวโกรธอย่างไม่มีเหตุผลเมื่อได้เห็นนางเดิมทีเหยาซื่อก็ชื่นชอบนาง แต่ไม่รู้เพราะเหตุใด พักหลังถึงได้ไม่ชื่นชอบนางแล้ว...หลินซวงเอ๋อร์คิดกับตนเองว่า อาจจะเป็นเพราะตนเองเกิดมาเป็นคนที่ไม่น่ารัก ดังนั้นจึงทำให้ผู้คนจึงเกลียดนางโดยไม่มีเหตุผล"แ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-01
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 428

    เยี่ยเป่ยเฉิงตั้งใจฟังอย่างใจจดใจจ่อ จากนั้นก็ได้ยินหลินซวงเอ๋อร์ค่อยๆพูด“ข้าไม่สามารถบอกได้อย่างแน่ชัดว่าชอบเขาที่ตรงไหน”หัวใจของเยี่ยเป่ยเฉิงเต้นรัวเป็นไปได้ไหมว่า... บนตัวเขาไม่มีตรงไหนที่นางจะชื่นชอบเป็นพิเศษ?คำพูดของหลินซวงเอ๋อร์ทำให้เยี่ยเป่ยเฉิงรู้สึกสงสัยในชีวิตอยู่ครู่หนึ่ง...คิดไม่ถึงว่า เสียงจากห้องข้างๆจะทะลุผ่านผนังห้องแล้วเข้าไปในหูของเขา ทำให้หัวใจของเขาหวั่นไหวเป็นอย่างมาก“บางทีอาจจะชื่นชอบทุกอย่างที่เป็นเขาก็ได้”มุมปากของเยี่ยเป่ยเฉิงโค้งขึ้น หางตาและคิ้วแฝงไปด้วยรอยยิ้มเจ้าตัวน้อย แบบนี้ว่าไปอย่าง ไม่เสียแรงที่เขาทุ่มเทกับนางมากขนาดนี้...แต่ทว่า พอฟังไปฟังมา บทสนทนาของทั้งสองคนก็ค่อยๆหลุดประเด็นเล็กน้อยฮุ่ยอี๋กล่าวว่า: "ไม่น่าล่ะท่านลุงถึงได้ชอบเจ้าขนาดนี้ ซวงเอ๋อร์ ตัวเจ้าหอมมากเลย..."“อีกอย่าง...ปกติแล้วท่านลุงเลี้ยงอะไรเจ้าบ้างหรือ?”“องค์หญิง ท่านทำอะไรเนี่ย ท่านอย่าจับมั่วซั่วสิ…”“จับนิดจับหน่อยจะเป็นไรไป ข้ากับเจ้าเป็นผู้หญิงเหมือนกัน ไม่ต้องสงวนตัวขนาดนี้ก็ได้...”“ว้าว ช่างสวยมากจริงๆ...”หลินซวงเอ๋อร์คิดไม่ถึงว่า ฮุ่ยอี๋ที่กำลังเมาจ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-01
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 429

    ฮุ่ยอี๋เหลือบมองเยี่ยเป่ยเฉิงอย่างเป็นมิตร และบังเอิญสบตากับสายตาที่เย็นยะเยือกของเขาอีกครั้ง ทำให้ต้องหดคอเพราะความตกใจ จากนั้นก็เบือนหน้าไปทางอื่นทันทีฮุ่ยอี๋อดไม่ได้ที่จะต่อว่า นางไม่ได้ยั่วยุเขาเสียหน่อย เหตุใดถึงต้องมองนางด้วยสายตาที่อาฆาตเช่นนั้นด้วย?“ในเมื่อองค์หญิงสร่างเมาแล้ว ก็ควรรีบกลับวังไปเสีย! มันไม่เหมาะสมที่จะอยู่ที่นี่นานเกินไป!” เยี่ยเป่ยเฉิงขับไล่แขกทันทีฮุ่ยอี๋ดึงแขนเสื้อของหลินซวงเอ๋อร์เอาไว้ ไม่กล้าตอบอยู่ครู่หนึ่ง และเหลือบมองเยี่ยเป่ยเฉิงอย่างขี้ขลาด จากนั้นก็ส่งสัญญาณให้หลินซวงเอ๋อร์ช่วยพูดแทนนางหลินซวงเอ๋อร์กล่าวว่า "สวามี ท่านอย่าดุมากนักสิ ไม่ง่ายเลยที่องค์หญิงจะมาที่จวน ถ้านางอยากจะเที่ยวเล่น ก็ให้นางเที่ยวเล่นต่อไปอีกสักสองสามวันเถิด"ฮุ่ยอี๋พยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำอีก และพึมพำว่า: "ในวังน่าเบื่อจะตาย ซวงเอ๋อร์ ข้าอยากจะเที่ยวเล่นอยู่ที่นี่อีกสักสองสามวัน"ฮุ่ยอี๋พบว่าตนเองชอบหลินซวงเอ๋อร์มากจริงๆ นางน่าสนใจมากกว่านางกำนัลและขันทีในวังเสียอีก แค่ได้พูดคุยสนทนากับนางก็มีความสุขแล้วนางยังอยากฟังหลินซวงเอ๋อร์เล่าเรื่องเรื่องราวพื้นบ้านแปลกๆเหล่านั้นให้น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-01

บทล่าสุด

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 655

    วันที่เจียงหว่านกำลังจะถูกเนรเทศ ในที่สุดเจียงเช่อก็มาหาถึงหน้าประตูเขาคุกเข่าเบื้องหน้าเยี่ยเป่ยเฉิง เว้าวอนขอเยี่ยเป่ยเฉิงปล่อยเจียงหว่านไปขณะที่เดินทางมา เขารับรู้เรื่องราวทั้งหมดแล้วเจียงหว่านลอบวางยาพระชายาเยี่ย ใช้ประชาชนที่ติดโรคทดลองยา เข่นฆ่าคนบริสุทธิ์ ผลาญชีวิตคนดุจผักดุจปลา นับเป็นอาชญากรรมอันชั่วร้ายที่สุด......แต่ไม่ว่าอย่างไร เจียงหว่านก็เป็นน้องสาวเขา เป็นคุณหนูหนึ่งเดียวของตระกูลเจียง เจียงเช่อมิอาจนั่งนิ่งดูดาย ปล่อยให้นางไปตายได้“ขอร้องท่านอ๋องไว้ชีวิตนางเถิด เป็นเพราะข้าตามใจนางจนเสียคน หากท่านอ๋องจะลงโทษ โปรดลงที่เจียงเช่อเถิดพะยะค่ะ”เมื่อเห็นเจียงเช่อ สายตาสิ้นหวังของเจียงหว่านพลันมีประกายความหวังขึ้น“พี่......ท่านพี่ ช่วยข้าด้วย ข้าไม่อยากไปแดนเถื่อน ข้าอยากกลับบ้าน ท่านพี่ช่วยข้าด้วย......”เจียงเช่อขมวดคิ้วเขม็งจ้องเจียงหว่าน สายตาแฝงเร้นด้วยแววเกยีดชังเข้าไส้เขารู้ว่าเจียงหว่านต้องโทษตาย ยามนี้แค่เนรเทศ ถือว่าเมตตามากแล้ว แต่เขาเองก็รู้ว่า สถานที่อย่างแดนเถื่อนนั้น มิใช่สถานที่ที่สตรีตัวคนเดียวจะไปได้ การเนรเทศนางไปที่นั่น เท่ากับส่งนางไปขุมนร

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 654

    “เลือดของนาง...”เจียงหว่านสีหน้าตกตะลึงตอนนั้น ตอนที่ฮุ่ยอี๋มอบยาถอนพิษใส่ในมือนาง นางเคยเอาทิ้งไว้หลายขวด เดิมทีคิดศึกษาส่วนผสมในนั้น ทว่าด้านในกลับมีส่วนผสมยาเพียงหนึ่งเดียว นั่นคือเลือดมนุษย์...แรกเริ่ม นางคิดว่าเป็นเรื่องเหลวไหล! กระทั่งยามนี้นางถึงได้เชื่อความจริง ส่วนประกอบของยานั้น มีเพียงเลือดมนุษย์จริงๆ! ทั้งยังเป็นเลือดของหลินซวงเอ๋อร์! เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว ในที่สุดนางก็เข้าใจ!มิน่า...ตอนนั้น นางใช้ยาปริมาณมาก แต่กลับไม่อาจทำให้หลินซวงเอ๋อร์ถึงตาย! ไม่คิดว่าเลือดของนางจะขจัดพิษในร่างนางโดยมองไม่เห็น...ฮุ่ยอี๋เอ่ย “เจ้ายังมีหน้าพูดว่าไม่ได้ฆ่าคนเป็นผักเป็นปลาอีก! เจียงหว่าน เจ้าลืมแล้วหรือว่าเจ้าวางยาซวงเอ๋อร์อย่างไร? เสด็จอาให้อภัยเจ้าครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ข้าไม่มีวันเกรงใจเจ้า!”คำพูดนี้สองแง่สองง่าม เห็นชัดว่ากำเย้ยหยันเยี่ยเป่ยเฉิงที่ดึงหมาป่าเจ้าเล่ห์เข้าบ้าน!เยี่ยเป่ยเฉิงตัวแข็งทื่ออยู่ที่เดิม ไร้ซึ่งแรงโต้กลับยามนี้ เขามิอาจชำระคืนได้ ซวงเอ๋อร์ของเขาไม่มีวันกลับมาอีกต่อไป!สิ่งเดียวที่ทำได้ตอนนี้ คือทำให้เจียงหว่านชดใช้อย่างสาสมที่สุด ส่วนตัวเขา ชีวิตที่

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 653

    เยี่ยเป่ยเฉิงมีสีหน้าเคร่งขรึม สายตาที่มองเจียงหว่านเยือกเย็นดุจน้ำแข็ง ไม่มีความอ่อนโยนเลยสักนิดเขาอยากฆ่านางตั้งนานแล้ว ที่ปล่อยนางรอดมาจนถึงตอนนี้ ก็แค่อยากให้นางได้รับความทรมานจนตายบัดนี้เห็นนางตกยากเช่นนี้ เยี่ยเป่ยเฉิงกลับรู้สึกว่าบทลงโทษแค่นี้ยังมิพอเจียงหว่านถูกทรมานจนเหมือนตายดีกว่าอยู่มานานแล้ว นางรู้ เยี่ยเป่ยเฉิงไม่มีทางปล่อยนางไปง่ายๆ หลังจากคิดดูแล้ว หากตายด้วยน้ำมือของเยี่ยเป่ยเฉิงได้ ก็คงจะดีกว่าตอนนี้ ที่ดูดซับยาเข้าสู่ร่างกายทุกวัน ถูกฝันร้ายหลอกหลอนทุกคืนสุดท้ายก็ไม่สามารถหนีจากพิษและเสียชีวิตลงได้!อย่างไรก็ตาย มิสู้ให้เยี่ยเป่ยเฉิงจบชีวิตนางด้วยมือเขาเอง!เมื่อคิดได้เช่นนี้ นางก็ยิ้มเยาะ จงใจกล่าวยั่วยุเขา “เยี่ยเป่ยเฉิง เจ้ามีฝีมือแค่นี้หรือ? แน่จริงก็ฆ่าข้าไปเลยสิ!”“ฆ่าข้าให้มันจบๆ ไปเสีย!”เยี่ยเป่ยเฉิงปรายตามองนาง พลางกล่าวอย่างเย็นชา “ตอนนั้น เจ้าก็ทรมานซวงเอ๋อร์เช่นนี้!”เจียงหว่านกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ใช่แล้วอย่างไร!”“ลูกในท้องนางข้าก็เป็นคนทำร้ายเอง! ร่างกายอ่อนแอแบบนั้นของนางต่อไปจะตั้งครรภ์ไม่ได้อีกแล้ว!”“ที่นางฝันร้ายทุกคืน ก็เป็นข้าที่ทำเอง

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 652

    หลายสิบปีมานี้ นางทำเรื่องชั่วมานับไม่ถ้วน ทุกเรื่อง นางจิตใจสงบ ไม่เคยรู้สึกผิดเลยมีเพียงเจียงหลิง…มีเพียงการตายของเจียงหลิง ทำให้นางยากจะข่มตานอนได้…ตลอดเวลาที่ผ่านมา ในฐานะคุณหนูรอง เจียงหว่านไม่เป็นที่ชื่นชอบของพ่อแม่มาตลอด พี่ชายก็ยิ่งไม่สนใจนาง ทว่าเจียงหลิงกลับได้รับความรักมากมาย…นางอิจฉาเจียงหลิง และแทบอยากทำให้อีกฝ่ายหายไปจากโลกใบนี้แต่เจียงหลิงกลับรักเอ็นดูนางมาตั้งแต่ต้นจนจบ ปกป้องนาง มอบของที่ดีที่สุดในโลกใบนี้ให้แก่นาง…เจียงหลิงเป็นพี่สาวที่ดีต่อนางที่สุดบนโลกใบนี้…ทว่าที่นางต้องการหาใช่แค่พี่สาวอย่างเดียว นางต้องการความรักของทุกคน นางต้องการให้พ่อแม่ พี่ชายรกนางแค่คนเดียว นางอยากครอบครองของที่ดีที่สุดไว้กับตัวเอง ไม่ใช่รอให้คนอื่นมอบให้!ดังนั้น ในคืนวันหิมะตก นางผลักเจียงหลิงตกน้ำ มองนางจมตายทั้งเป็นอยู่ใต้น้ำ หลังจากนั้นนางก็ติดวันเกิดเวลาเกิดของเจียงหลิงบนตุ๊กตาคุณไสย แทงเธอทุกวัน สวดภาวนาทุกคืน นางต้องการให้เจียงหลิงไม่มีโอกาสได้ผุดได้เกิด ไม่หวนกลับมาตลอดกาล!เพราะมีเพียงแค่ทำแบบนี้ นางถึงจะไม่มีโอกาสแก้แค้นตัวเอง!แต่ทำไม…ทำไมตอนนี้นางถึงยังหาตัวเอง

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 651

    ยาซึมเข้าสู่ร่างกายติดกันหลายวันทำให้เจียงหว่านค่อยๆ เป็นบ้าในห้องที่ปิดสนิท เจียงหว่านหดตัวอยู่บนพื้นเหมือนดินโคลนตัวนางเหม็นมาก ชุดกระโปรงสีรากบัวเปลี่ยนเป็นสกปรกและเก่าองครักษ์ทำให้เส้นเอ็นมือของนางขาด ตรงบาดแผลถูกทาขี้ผึ้งปิดแผลชั้นแล้วชั้นเล่าแม้ขี้ผึ้งปิดแผลจะเป็นยาสำหรับปกปิด ทว่ากลับมีผลดีต่อการหยุดเลือดบาดแผลแข็งตัวจนกลายเป็นสะเก็ดไปแล้ว เพียงแต่ไม่ได้รับการรักษาที่ดีกว่านี้ แม้จะดีขึ้นก็ยังเหลือรอยแผลเป็นอัปลักษณ์เอาไว้ธูปในห้องไม่เคยลดลงเลยทั้งวัน ประกอบกับกระกระตุ้นของต้นคลีเวีย ความคิดต่ำช้าที่อยู่ในตัวนางแทบจะถูกกระตุ้นออกมาทั้งหมดสองตานางแดงก่ำ ดูฉุนเฉียวไม่น้อย กรีดร้องโวยวายอยู่ในห้อง ประหนึ่งคนบ้าคนหนึ่งองครักษ์ที่เฝ้าอยู่หน้าห้องไม่สนใจนางสักนิด ได้แต่ทรมานนางไม่ให้นางตายทุกวันความเคียดแค้นฉายออกมาจากในตาเจียงหว่าน เวลานี้ นางได้ปล่อยว่างความหลงใหลต่อเยี่ยเป่ยเฉิงแล้ว ไม่ว่าจะรักมากขนาดไหนก็แปรเปลี่ยนเป็นความชิงชังเข้ากระดูก“เยี่ยเป่ยเฉิง! ปล่อยข้ากลับไป! ปล่อยข้ากลับไปสิ!”“แน่จริงก็ฆ่าข้าเลยสิ!ฆ่าข้าให้มันจบๆ ! ท่านมีสิทธิ์อะไรมาขังข้าไว้เช่นนี

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 650

    “ได้ยินว่าพ่อแม่ที่เลี้ยงดูเจ้าเสียไปนานแล้ว แล้วเจ้ากับพี่ชายอยู่มาได้อย่างไร?”“แล้วเหตุใดเจ้าจึงขายตัวไปเป็นบ่าวไพร่? หลายปีมานี้ เจ้าคงผ่านความลำบากมิใช่น้อย เคยถูกใครรังแกหรือไม่?”หลินซวงเอ๋อร์พลันเกิดความขมขื่นในจิตใจเดิมที หากไม่เอ่ยถึงเรื่องเหล่านี้ นางยังพออดทนได้บ้าง แต่เมื่ออวี๋หว่านหนิงถามขึ้นมา นางก็อดรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจเสียมิได้นางเม้มปากพลางจ้องมองนิ้วมือตนเอง น้ำตาเริ่มเอ่อล้น พร้อมหยดแหมะลงหลังมือทีละหยดนางอยู่สบายหรือไม่?นางเคยถามตนเองอยู่เช่นกันหลายปีมานี้ นางผ่านเรื่องราวมากมาย สูญเสียบิดามารดา สูญเสียพี่ชายไป กลายเป็นเด็กกำพร้าที่ไร้ญาติขาดมิตรโดยแท้แต่หากคิดดีๆ ชีวิตนางก็เคยอยู่สุขสบายมาช่วงหนึ่งนั่นคือตอนอยู่กับเยี่ยเป่ยเฉิง นางมีความสุขจริงๆในตอนนั้น เยี่ยเป่ยเฉิงเป็นกำลังใจให้นาง ซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ให้ หาของดีมาให้กิน สอนนางเรียนหนังสือ พาไปเดินเล่นท่องทะเลสาบ ให้ความรักต่อนางอย่างชนิดไร้ผู้เทียบเทียม...ในเวลานั้น นางมีความสุขเหลือล้น เป็นความสุขมากที่สุดในชีวิต แม้แต่ฝันก็ยังเป็นฝันหวาน...แต่ต่อมา ทุกอย่างกลับแปรเปลี่ยน ก่อนหน้านี้เคยสุ

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 649

    เมื่อได้ยินประโยคนี้ หลินซวงเอ๋อร์แทบชะงักงันไปที่บั้นเอวนางมีปานแดงรูปเสี้ยวจันทร์จริงๆ ท่านแม่บอกว่า มันมีติดตัวมาตั้งแต่นางเกิด เนื่องจากเป็นตำแหน่งที่บั้นเอว จึงมีน้อยคนที่จะรู้เรื่องนี้“ท่าน...คือแม่ของข้าจริงหรือ?” หลินซวงเอ๋อร์หัวใจเต้นแรง ขอบตาแดงเรื่อขึ้นอวี๋หว่านหนิงยื่นมือมาจับมือของนางไว้ พลางกล่าวเสียวเศร้า “ซวงเอ๋อร์ ข้าคือแม่เจ้าจริงๆ หลายปีนี้ทำให้เจ้าลำบากนัก...”แม่นมซุนอยู่ด้านข้างพลางกล่าวเสริม “องค์หญิง นางคือเสด็จแม่ของท่านจริงๆ หลายปีมานี้ ฮองเฮาไม่เคยเลิกราในการตามหาท่าน เพียงแต่ภาคกลางกว้างขวางนัก พวกท่านเองก็ข่าวคราวเงียบหาย หลายปีนี้ พวกท่านลำบากก็จริง ฮองเฮาก็ไม่ได้สุขสบายใจ...”หลินซวงเอ๋อร์นิ่งเงียบไปครู่ใหญ่ พลันหันไปมองอวี๋หว่านหนิงแล้วกล่าว “ที่จริง ข้าไม่เคยตำหนิท่านเลย เพียงแต่บางครั้งก็เคยคิด ว่าท่านแม่จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร ยังมีชีวิตอยู่ในโลกนี้หรือไม่”“ตอนยังเป็นเด็ก ข้าเคยคาดหวังให้นางมาหาบ้าง แต่พอโตขึ้นก็ไม่เห็นนางมาเสียที ข้าจึงภาวนาให้นางอยู่ดีมีสุขแทน แม้จะไม่ได้พบหน้า แต่ขอให้นางยังมีชีวิตอยู่ เป็นความคิดถึงในใจก็เพียงพอแล้ว...”

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 648

    อวี๋หว่านหนิงรับเอาผ้าเช็ดหน้ามาซับน้ำตา พลันเกิดความตื้นตันจนไม่รู้ตอบอย่างไรดีทันใดนั้น แม่นมซุนเดินขึ้นมาพร้อมกล่าว “องค์หญิง ที่นี่คือวังหลวงแห่งเป่ยหรง ฮองเฮาทรงตามหาท่านมานาน ทุ่มแทแรงกายแรงใจไม่น้อยกว่าจะหาพบ...”“องค์หญิง?” หลินซวงเอ๋อร์นึกว่าตนหูฝาดไป “ท่านเรียกข้าอยู่หรือ?”นางกล่าวตอบ “พวกท่านจำคนผิดหรือเปล่า ข้าไม่ใช่องค์หญิง ข้าคือหลินซวงเอ๋อร์ต่างหาก”นางเป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ถูกทอดทิ้ง เติบโตมาจากชนบทแร้นแค้น เป็นเพียงสาวใช้ต่ำต้อยผู้หนึ่งเท่านั้นองค์หญิงอะไรกัน ยังมีวังเป่ยหรงอีก แล้วใครคือฮองเฮา?พวกนางคงจำคนผิดเป็นแน่แม่นมซุนกล่าวตอบ “ไม่ผิดเจ้าค่ะ ไม่มีผิดแน่นอน ท่านก็คือองค์หญิงของเรา องค์หญิงที่พลัดพรากจากฮองเฮาไป...”หลินซวงเอ๋อร์คล้ายกับยังมึนงงอยู่ ความคิดนางเกิดความสับสน ปวดหัวเป็นอย่างมากแม่นมซุนอธิบายต่อ “สมัยที่อดีตฮ่องเต้สวรรคต ฮ่องเต้องค์ใหม่ยังไม่ได้ขึ้นครองราชย์ ราชสำนักเป่ยหรงเกิดความวุ่นวาย ตอนนั้นฮองเฮายังมีฐานะเป็นเพียงพระชายาแห่งรัชทายาท นางเสี่ยงอันตรายให้กำเนิดแฝดชายหญิงคู่หนึ่ง เพื่อปกป้องชีวิตของพวกท่านไว้ จึงให้คนสนิทส่งพวกท่านออก

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 647

    หลินซวงเอ๋อร์เปลือกตากระตุกเล็กน้อย นางก็อยากตื่น แต่ทำอย่างไรก็ไม่อาจตื่นขึ้นมาหน้าอกคล้ายถูกกรีดจนเป็นแผลเหวอะหวะ เหงื่อเย็นในตัวไหลพราก ลำคอคล้ายถูกงูพิษตัวหนึ่งรัดไว้ ยิ่งรัดก็ยิ่งแน่น จนนางใกล้จะหายใจไม่ออกข้างโสตนั้น ได้ยินเสียงคุ้นหูประเดี๋ยวไกลประเดี๋ยวใกล้ ถัดจากนั้น คล้ายมีมืออ่อนโยนลูบไล้ใบหน้านางเบาๆ“เด็กดี หมดเรื่องแล้ว เจ้าปลอดภัยดีแล้ว รีบตื่นมาเถิด ตื่นมาเร็วเข้า...”หลังจากได้ยินเสียงนั้นชัดเจนมากขึ้น ลำคอที่ถูกรัดแน่นก็ค่อยๆ คลายออก นางลืมตาช้าๆ ภาพเบื้องหน้าจากพร่ามัวจนกลายเป็นชัดเจน สิ่งแรกที่เข้าสู่ม่านตาก็คือม่านคลุมเตียงสีม่วงที่อยู่เหนือศีรษะขึ้นไป คล้ายเป็นภาพฝัน เสมือนเป็นแหยักษ์ที่ถูกเหวี่ยงลงมา เพื่อคลุมตัวนางให้อยู่ตรงกลางเตียงนี้เป็นเตียงที่สวยงาม จนแม้แต่เสาเตียงก็เป็นลวดลายที่นางไม่เคยเห็นมาก่อน หัวเตียงนอกจากจะแกะสลักลายดอกไม้แล้วยังฝังด้วยหยกเจียระไนงดงามและพลอยล้ำค่าอีกชั่วขณะนั้น นางรู้สึกมึนงงยิ่งนี่มันเป็นที่ไหนกัน?“ซวงเอ๋อร์ เจ้ารู้สึกตัวแล้วรึ?” จนกระทั่งข้างหูได้ยินเสียงนั้นอีกครั้ง นางจำได้ว่าตอนอยู่ในความฝัน ได้ยินเสียงนี้จนคุ

DMCA.com Protection Status