Share

บทที่ 271

Penulis: พิณเคล้าสายฝน
นางพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า: " ท่านอ๋อง... ท่านลืมไปแล้วหรือว่า ตอนที่ท่านยังเป็นเด็ก ข้าน้อยยังเคยอุ้มท่านอยู่เลย..."

สายตาของเยี่ยเป่ยเฉิงจับจ้องไปที่นาง แล้วพูดอย่างสงบนิ่งว่า: "แล้วไงล่ะ?"

เขาลุกขึ้น ยืนขึ้น เดินเข้าไปหาท่านป้าหลี่อย่างช้าๆ มองนางจากมุมสูง แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า: "เจ้าคิดว่าข้าจะนึกถึงความสัมพันธ์เก่าแล้วปล่อยเจ้าไปอย่างงั้นหรือ?"

ความรู้สึกกดดันประดังเข้ามา ท่านป้าหลี่กล่าวด้วยความตกใจและหวาดกลัวว่า: " ในเมื่อท่านอ๋องไม่นึกถึงความสัมพันธ์ครั้งเก่าก่อน เช่นนั้นข้าก็อยากจะอ้อนวอนท่านอ๋อง เห็นแก่ที่ข้าปรนนิบัตินายหญิงมานานหลายปี ไว้ชีวิตข้าด้วยเถิด...… "

เมื่อเห็นท่านป้าหลี่ร้องไห้ เยี่ยเป่ยเฉิงก็ไม่รู้สึกไม่สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย อาจเป็นเพราะว่าเขาฆ่าคนมามากเกินไป หัวใจของเขาจึงชินชาไปนานแล้ว สำหรับเขาแล้วการฆ่าคน ง่ายพอๆกับการบดขยี้มดตัวหนึ่งให้ตาย!

นับประสาอะไรกับคนเก่าแก่ที่อยู่ตรงหน้าเขาคนนี้!

เขาค่อยๆย่อตัวลง สายตาจับจ้องไปที่ท่านป้าหลี่ และถามคำต่อคำว่า: "เจ้ารู้ไหมว่า ถ้าขายหญิงสาวที่เพิ่งจะอายุครบสิบห้าพี่ให้คนค้ามนุษย์จะมีจุดจบอย่างไร?"

ใบหน้าของเ
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 272

    พอกงชิงเยวี่ยได้ยินเสียงกรีดร้องอันเจ็บปวดของท่านป้าหลี่ก็เข้ามาเมื่อนางเข้ามาดู ท่านป้าหลี่ก็สิ้นลมแล้ว ร่างกายเต็มไปด้วยเลือด และตายอย่างน่าสยดสยองแม้ว่ากงชิงเยวี่ยจะรู้มานานแล้วว่า ลูกชายของตนโหดเหี้ยมมาตั้งแต่กำเนิด ฆ่าคนมานับไม่ถ้วน และเป็นเทพแห่งดุร้ายมีชื่อเสียง!แต่เขาก็ไม่เคย สังหารคนในจวนมาก่อนเลย! มีเพียงช่วงเวลานี้เท่านั้น เขาลงมือที่จวนอย่างต่อเนื่อง และได้สังหารคนไปสองคนแล้ว แถมยังใช้วิธีการที่โหดเหี้ยมมาก!ดังนั้น เมื่อเห็นสภาพที่น่าเวทนาของท่านป้าหลี่ กงชิงเยวี่ยก็ตกใจมาก และต้องใช้เวลาสักพักจึงจะสงบสติอารมณ์ได้ระหว่างทางที่มา นางได้ยินต้นสายปลายเหตุทั้งหมดจากท่านป้าจ้าวแล้ว จึงได้รู้ว่าครั้งนี้ที่เยี่ยเป่ยเฉิงโกรธมาก เป็นเพราะสาวใช้ที่ชื่อหลินซวงเอ๋อร์คนนั้นอีกแล้วกงชิงเยวี่ยเกรี้ยวโกรธสุดขีด! ก่อนที่จะก้าวเข้าไปในห้องโถงด้านหน้า ก็ได้ยินนางต่อว่าด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจว่า: " เยี่ยเอ๋อร์! ท่านป้าหลี่อายุมากแล้ว! นางเป็นแค่หญิงชราคนหนึ่ง ที่เข้าสู่วัยเกษียณแล้ว เหตุใดเจ้าถึงทำได้ลงคอ?"เยี่ยเป่ยเฉิงไม่ได้พูดอยู่ครู่หนึ่ง ข้อนิ้วของเขาเคาะโต๊ะที่อยู่ข้างกายเบาๆ

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 273

    ตอนดึกเมื่อเยี่ยเป่ยเฉิงกลับไปที่เรือนอวิ๋นซวน หลินซวงเอ๋อร์ก็กำลังงีบหลับอยู่บนโต๊ะตอนกลางวันนางหลับไปจนถึงช่วงบ่าย เสวียนอู่นำอาหารเย็นมาให้นาง หลังจากที่นางทานอาหารเย็นเสร็จแล้วก็ฝึกคัดอักษรอยู่ในเรือยเป็นเวลาหนึ่งชั่วยาม ตอนที่ท้องฟ้าค่อยๆมืดลง นางอยากจะกลับไปที่ห้องของตน แต่เสวียนอู่เฝ้าประตูไม่ยอมให้นางออกไปหลังจากสอบถาม ถึงรู้ว่าเป็นคำสั่งของเยี่ยเป่ยเฉิงหลินซวงเอ๋อร์อ้างว่าอยากจะกลับไปอาบน้ำเสวียนอู่จึงเอาน้ำร้อนมาให้นาง และให้นางอาบน้ำที่เรือนอวิ๋นซวนตลอดทั้งวันนี้ นางไม่ได้ออกไปจากเรือนอวิ๋นซวนเลยนางรู้สึกเบื่อหน่ายมากจึงอ่านตำราอยู่ที่ในเรือนสักพัก เพื่อรอเยี่ยเป่ยเฉิงกลับมา และอยากจะถามว่าเหตุใดถึงขังตนเองไว้ในเรือนแต่รอไปรอมา ก็รอไปจนถึงตอนกลางคืนจากนั้นหลินซวงเอ๋อร์ก็ค่อยๆง่วงนอนอีกครั้ง จึงคว่ำหน้านอนอยู่บนโต๊ะเมื่อเยี่ยเป่ยเฉิงผลักเปิดประตู ก็เห็นว่าหน้าต่างในห้องเปิดอยู่ ลมหนาวจึงพัดเข้ามาทางหน้าต่างอย่างเต็มที่ หลินซวงเอ๋อร์สวมเสื้อผ้าค่อนข้างบาง เอาหัวหนุนแขนนอนคว่ำหน้าอยู่บนโต๊ะเยี่ยเป่ยเฉิงขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อยเดิมทีร่างกายของนางก็อ่อนแออยู่แ

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 274

    สมองของหลินซวงเอ๋อร์งุนงง อันที่จริงนางไม่เข้าใจว่าเขาหมายถึงอะไร และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขากำลังพูดถึงการเคลื่อนไหวเล็กๆน้อยๆไหน แต่ภายใต้การจ้องมองของเขา นางจึงทำได้แค่เพียงพยักหน้าตอบสนองทันทีที่ตอบตกลง นางก็รู้สึกประหม่า และเลียริมฝีปากโดยไม่รู้ตัวอีกครั้งเยี่ยเป่ยเฉิงจึงเอานางเข้ามาไว้ในอ้อมแขนของเขาทันทีและลงโทษอย่างรุนแรงหนหนึ่ง“ยังเลียอีก? ทำเป็นหูทวนลมกับคำพูดของข้าหรือ?”หลินซวงเอ๋อร์ถูกจูบอย่างแรง จนทำลมหายใจไม่ค่อยเสถียรอีกครั้งแต่คราวนี้ในที่สุดนางก็เข้าใจแล้ว ท่าทางเล็กๆน้อยๆที่เยี่ยเป่ยเฉิงพูดถึง คือการเลียริมฝีปาก?เหตุใดถึงเลียมันไม่ได้?หลินซวงเอ๋อร์มองเขาด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย นัยน์ตาชุ่มชื้นเป็นประกาย: " เหตุใดถึงทำไม่ได้?คนอื่นก็เลีย ตงเหมยก็เลีย เหตุใดข้าถึงเลียไม่ได้? "เยี่ยเป่ยเฉิงกอดนางเอาไว้ในอ้อมแขน กระซิบข้างหูนางแล้วกล่าวว่า: "เจ้าลองยั่วข้าอีกสิ ข้าก็ไม่กล้ารับประกันว่าจะทนต่อความยั่วยวนของเจ้าได้สักกี่ครั้ง! หากเจ้ายังไม่เชื่อฟัง ข้าก็ไม่สนใจร่างกายที่เจ็บป่วยของเจ้า... "หลินซวงเอ๋อร์ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นก็ตอบสนองได้ จากนั้นสีหน้าก็เ

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 275

    ในช่วงสองวันที่ผ่านมานี้เยี่ยเป่ยเฉิงไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่เลย ทุกครั้งที่ตื่นขึ้นมาในตอนเช้าจะมีใบหน้าที่ดูเหนื่อยล้า แถมยังมีรอยดำจางๆใต้ตาอีกด้วย พอหลินซวงเอ๋อร์เห็นสิ่งเหล่านี้ ก็รู้สึกทุกข์ใจเป็นอย่างมากเขาออกไปสู้รบก็ลำบากมากแล้ว กลับจวนยังไม่สามารถนอนหลับได้อย่างเต็มที่อีก ตอนที่อยู่หนานหยางคงจะลำบากมากเกินไป ตอนนี้ถึงยังไม่คุ้นชินเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ หลินซวงเอ๋อร์ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเห็นใจเขามากขึ้นช่วงเวลาสาย ตงเหมยก็มาหานาง เมื่อเห็นนางวิตกกังวล ตงเหมยก็หย่อนก้นลงบนเตียงอันนุ่มนวล แล้วถามนางด้วยท่าทางที่เกียจคร้านว่า: " ท่านอ๋องกลับมาแล้วไม่ใช่หรือ เหตุใดเจ้ายังดูวิตกกังวลใจอยู่? "หลินซวงเอ๋อร์กล่าวว่า: " ช่วงนี้ท่านอ๋องมักจะพักผ่อนได้ไม่เต็มที่ สภาพจิตใจของเขาไม่เต็มเปี่ยมเหมือนเมื่อก่อน ตงเหมย เจ้าคิดว่าช่วงนี้ท่านอ๋องทำงานหนักเกินไปหรือเปล่า เขาถึงนอนหลับได้ไม่เต็มที่? "เมื่อได้ยินคำพูดของหลินซวงเอ๋อร์ ตงเหมยก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า: " ท่านอ๋องออกทัพจับศึกจะต้องเหนื่อยอย่างแน่นอน ข้าได้ยินมาว่าสิ่งที่เหนื่อยที่สุดก็คือการสู้รบ! บางทีอาจจะเหนื่อยล้าจ

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 276

    ตงเหมยเดินเร็วมาก ไม่นานก็เดินไปถึงถนน จากนั้นนางก็หาร้านยาที่อยู่บริเวณใกล้เคียงร้านหนึ่ง ทันทีที่เข้าไปพนักงานขายก็ถามว่า: "แม่นางอยากจะซื้อยาอะไรหรือ?"ตงเหมยคิดก็ไม่คิด กล่าวว่า: "ออกยาบำรุงร่างกาย ช่วงนี้พลังจิตใจนายท่านของข้าไม่ค่อยดี อาจจะทำงานหนักจนเกินไป ออกยาบำรุงร่างกายก็พอแล้ว"พนักงานขายจึงถามว่า “พลังจิตใจไม่ดีในตอนกลางคืนหรือ?”ตงเหมยพยักหน้าอย่างต่อเนื่อง: "ใช่ใช่ใช่ แค่ตอนกลางคืนที่นอนไม่ค่อยหลับ พลังจิตใจไม่เต็มเปี่ยม เจ้าออกออกยาที่ดีที่สุดให้ข้าก็พอแล้ว เพราะจะต้องบำรุงให้เยอะๆ"คนขายเข้าใจ และไม่ได้ถามเพิ่มเติม หันกลับมาเอายาให้ตงเหมยไม่นานก็จัดยาเสร็จเรียบร้อยแล้ว พนักงานขายก็บรรจุยาตามสัดส่วนปริมาณ แล้วกำชับว่า " ยาเหล่านี้ล้วนเป็นยาที่ดีที่สุด นำกลับไปต้มที่จวน รับประทานวันละครั้ง อย่ากินเยอะ อีกอย่าง ทุกอย่างควรจะอยู่ในกรอบของความพอดี พึงระลึกไว้ว่าอย่าหักโหมจนเกินไป "ตงเหมยจ่ายเงิน เดินไปหยิบยา ตอนที่นางหันหลังกลับแล้วจากไป นางก็บ่นพึมพำว่า: "ทุกอย่างควรจะอยู่ในกรอบของความพอดี ? คำพูดบ้าบออะไรกัน ไม่เข้าใจเลยสักนิด..."ไม่นาน ตงเหมยก็เอายามอบให้หลินซว

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 277

    พอหลินซวงเอ๋อร์เห็นเยี่ยเป่ยเฉิงดื่มยาทุกหยดที่อยู่ในชามแล้ว ก็รู้สึกโล่งใจอย่างเงียบๆกลิ่นของยานี้ค่อนข้างที่จะเหม็นจริงๆ นางยังคิดว่าเยี่ยเป่ยเฉิงจะไม่ยอมดื่มมันคิดไม่ถึงว่า เขาไม่เพียงแต่ดื่มมันเท่านั้น แต่ยังดื่มมันหมดเกลี้ยง ไม่เสียแรงที่นางควักกระเป๋าเงินตนเองซื้อยาอันล้ำค่าเหล่านี้มาหลินซวงเอ๋อร์รับชามเปล่าที่เยี่ยเป่ยเฉิงส่งมาให้ ด้วยนัยน์ตาที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มที่สดใส: "คืนนี้ท่านอ๋องจะได้นอนหลับอย่างสบายแล้ว"เยี่ยเป่ยเฉิงมองไปที่นาง พร้อมรอยยิ้มที่อยู่บนมุมปากไฟในใจยังไม่ได้ระบายออกมา เขาจะหลับสบายได้อย่างไร?แต่ก็ไม่เป็นไร พักผ่อนอีกสองวัน ร่างกายของนางก็น่าจะหายดีแล้ว“พรุ่งนี้เข้าวังไปเข้าเฝ้าองค์จักรพรรดิกับข้า คืนนี้เจ้าพักผ่อนเร็วๆก็แล้วกัน”เยี่ยเป่ยเฉิงคิดว่า เรื่องบางอย่างจะต้องเผชิญหน้าไม่ช้าก็เร็ว หากเผชิญหน้าเร็ว ก็จะสามารถมอบสถานะให้นางได้เร็วขึ้น“เข้าวัง?” หลินซวงเอ๋อร์ตกตะลึงเล็กน้อยตั้งแต่เข้าร่วมงานเลี้ยงในวังครั้งที่แล้ว นางก็ไม่เคยไปพระราชวังอีกเลย นางไม่ชอบสถานที่เงียบขรึมเย็นชาอย่างพระราชวัง มันเหมือนกับกรงเหล็ก ที่ทำให้คนรู้สึกอึดอัดจนหาย

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 278

    ท้องฟ้าเริ่มมืดแล้วหลังจากที่เยี่ยเป่ยเฉิงกินข้าวเย็นแล้วก็ไปห้องตำราเพื่อจัดการงานราชการบางอย่างแสงเทียนที่ริบหรี่ ทำให้โครงหน้าด้านข้างของเยี่ยเป่ยเฉิงคมราวกับมีดมากยิ่งขึ้นลมหนาวที่อยู่นอกหน้าต่างผสมฝนตกปรอยๆ พัดผ่านหน้าต่างที่เปิดอยู่ เข้ามาในจวนอย่างอิสระเดิมทีควรจะเป็นคืนฤดูใบไม้ร่วงที่สดชื่น แต่เยี่ยเป่ยเฉิงกลับรู้สึกร้อนรุ่มร้อนไปทั้งตัวเขาขมวดคิ้ว ใช้นิ้วอันเรียวยาวกดขมับเอาไว้ และพยายามจะสงบสติอารมณ์แต่ทันทีที่เขาหลับตาลง สิ่งที่ผุดขึ้นมาในสมองของเขาล้วนเป็นใบหน้าของหลินซวงเอ๋อร์บ้าฉะมัดเลย!เขาลุกขึ้น และรินชาดับไฟให้ตนเองหนึ่งแก้วหลังจากดื่มไปหนึ่งแก้วก็ไม่ประโยชน์อะไรเลยแม้แต่น้อย แรงกระตุ้นในร่างกายของเขากลับทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นร้อน…อากาศช่างร้อนสุดขีดจริงๆเยี่ยเป่ยเฉิงถอดเสื้อคลุมด้านนอกของตนเองออกจากนั้นความร้อนเหล่านั้นก็ค่อยๆไปรวมกันที่ใต้ท้องน้อย...เยี่ยเป่ยเฉิงค่อยๆรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติไป จากนั้น ไอร้อนก็พุ่งออกมาจากจมูกของเขาเขาค่อยๆเหยียดนิ้วออกไป เช็ดถูอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ลดสายตามอง ก็อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจคิดไม่ถึงว่าเข

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 279

    ต่อมา เสวียนอู่ก็ไม่โน้มน้าวใจ หันหลังกลับแล้วจากไปหลังจากนั้นไม่นาน เสวียนอู่ก็กลับมาอีกครั้ง อุ้มผ้าปูที่นอนและหมอนใหม่เอาไว้ในมือ เดินผ่านหลินซวงเอ๋อร์ ผลักเปิดประตูห้องหนังสือ แล้วเดินเข้าไปหลินซวงเอ๋อร์จ้องมองการกระทำของเสวียนอู่อย่างงุนงงเมื่อเสวียนอู่ออกมา หลินซวงเอ๋อร์ก็ถามเขาอย่างงุนงงว่า: " คืนนี้ท่านอ๋องไม่กลับไปที่ห้องหรือ?"เสวียนอู่กล่าวว่า: " ท่านอ๋องบอกว่า คืนนี้จะนอนที่ห้องหนังสือ แม่นางหลินไม่ต้องรอท่าน และให้รีบกลับไปพักผ่อน "หลินซวงเอ๋อร์รู้สึกเศร้ามากยิ่งขึ้นหรือว่า เป็นเพราะตนเอง เขาถึงไม่อยากกลับไปนอน?แต่หลินซวงเอ๋อร์ไม่เข้าใจเล็กน้อยในเมื่อเบื่อนางแล้ว เหตุใดต้องนอนห้องหนังสือให้ลำบากด้วย? ขับไล่นางออกไปไม่ดีกว่าหรือ?อันที่จริงแล้วไม่ต้องขับไล่ก็ได้ คืนนี้นางจะกลับไปที่นอนที่ห้องของตนเอง และจะไม่ย่างกรายเข้าไปในเรือนอวิ๋นซวนอีก...จมูกของหลินซวงเอ๋อร์ปวดแสบ น้ำตาก็อดไม่ได้ที่จะเอ่อล้นในนัยน์ตานางกำลังจะหันหลังกลับแล้วจากไป แต่หลังจากที่ได้ครุ่นคิดแล้ว ก็รู้สึกว่าควรจะชี้แจงต่อหน้าเขาให้ชัดเจนในเวลานั้น เยี่ยเป่ยเฉิงกำลังนั่งอยู่บนเก้ากี้ที่

Bab terbaru

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 655

    วันที่เจียงหว่านกำลังจะถูกเนรเทศ ในที่สุดเจียงเช่อก็มาหาถึงหน้าประตูเขาคุกเข่าเบื้องหน้าเยี่ยเป่ยเฉิง เว้าวอนขอเยี่ยเป่ยเฉิงปล่อยเจียงหว่านไปขณะที่เดินทางมา เขารับรู้เรื่องราวทั้งหมดแล้วเจียงหว่านลอบวางยาพระชายาเยี่ย ใช้ประชาชนที่ติดโรคทดลองยา เข่นฆ่าคนบริสุทธิ์ ผลาญชีวิตคนดุจผักดุจปลา นับเป็นอาชญากรรมอันชั่วร้ายที่สุด......แต่ไม่ว่าอย่างไร เจียงหว่านก็เป็นน้องสาวเขา เป็นคุณหนูหนึ่งเดียวของตระกูลเจียง เจียงเช่อมิอาจนั่งนิ่งดูดาย ปล่อยให้นางไปตายได้“ขอร้องท่านอ๋องไว้ชีวิตนางเถิด เป็นเพราะข้าตามใจนางจนเสียคน หากท่านอ๋องจะลงโทษ โปรดลงที่เจียงเช่อเถิดพะยะค่ะ”เมื่อเห็นเจียงเช่อ สายตาสิ้นหวังของเจียงหว่านพลันมีประกายความหวังขึ้น“พี่......ท่านพี่ ช่วยข้าด้วย ข้าไม่อยากไปแดนเถื่อน ข้าอยากกลับบ้าน ท่านพี่ช่วยข้าด้วย......”เจียงเช่อขมวดคิ้วเขม็งจ้องเจียงหว่าน สายตาแฝงเร้นด้วยแววเกยีดชังเข้าไส้เขารู้ว่าเจียงหว่านต้องโทษตาย ยามนี้แค่เนรเทศ ถือว่าเมตตามากแล้ว แต่เขาเองก็รู้ว่า สถานที่อย่างแดนเถื่อนนั้น มิใช่สถานที่ที่สตรีตัวคนเดียวจะไปได้ การเนรเทศนางไปที่นั่น เท่ากับส่งนางไปขุมนร

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 654

    “เลือดของนาง...”เจียงหว่านสีหน้าตกตะลึงตอนนั้น ตอนที่ฮุ่ยอี๋มอบยาถอนพิษใส่ในมือนาง นางเคยเอาทิ้งไว้หลายขวด เดิมทีคิดศึกษาส่วนผสมในนั้น ทว่าด้านในกลับมีส่วนผสมยาเพียงหนึ่งเดียว นั่นคือเลือดมนุษย์...แรกเริ่ม นางคิดว่าเป็นเรื่องเหลวไหล! กระทั่งยามนี้นางถึงได้เชื่อความจริง ส่วนประกอบของยานั้น มีเพียงเลือดมนุษย์จริงๆ! ทั้งยังเป็นเลือดของหลินซวงเอ๋อร์! เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว ในที่สุดนางก็เข้าใจ!มิน่า...ตอนนั้น นางใช้ยาปริมาณมาก แต่กลับไม่อาจทำให้หลินซวงเอ๋อร์ถึงตาย! ไม่คิดว่าเลือดของนางจะขจัดพิษในร่างนางโดยมองไม่เห็น...ฮุ่ยอี๋เอ่ย “เจ้ายังมีหน้าพูดว่าไม่ได้ฆ่าคนเป็นผักเป็นปลาอีก! เจียงหว่าน เจ้าลืมแล้วหรือว่าเจ้าวางยาซวงเอ๋อร์อย่างไร? เสด็จอาให้อภัยเจ้าครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ข้าไม่มีวันเกรงใจเจ้า!”คำพูดนี้สองแง่สองง่าม เห็นชัดว่ากำเย้ยหยันเยี่ยเป่ยเฉิงที่ดึงหมาป่าเจ้าเล่ห์เข้าบ้าน!เยี่ยเป่ยเฉิงตัวแข็งทื่ออยู่ที่เดิม ไร้ซึ่งแรงโต้กลับยามนี้ เขามิอาจชำระคืนได้ ซวงเอ๋อร์ของเขาไม่มีวันกลับมาอีกต่อไป!สิ่งเดียวที่ทำได้ตอนนี้ คือทำให้เจียงหว่านชดใช้อย่างสาสมที่สุด ส่วนตัวเขา ชีวิตที่

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 653

    เยี่ยเป่ยเฉิงมีสีหน้าเคร่งขรึม สายตาที่มองเจียงหว่านเยือกเย็นดุจน้ำแข็ง ไม่มีความอ่อนโยนเลยสักนิดเขาอยากฆ่านางตั้งนานแล้ว ที่ปล่อยนางรอดมาจนถึงตอนนี้ ก็แค่อยากให้นางได้รับความทรมานจนตายบัดนี้เห็นนางตกยากเช่นนี้ เยี่ยเป่ยเฉิงกลับรู้สึกว่าบทลงโทษแค่นี้ยังมิพอเจียงหว่านถูกทรมานจนเหมือนตายดีกว่าอยู่มานานแล้ว นางรู้ เยี่ยเป่ยเฉิงไม่มีทางปล่อยนางไปง่ายๆ หลังจากคิดดูแล้ว หากตายด้วยน้ำมือของเยี่ยเป่ยเฉิงได้ ก็คงจะดีกว่าตอนนี้ ที่ดูดซับยาเข้าสู่ร่างกายทุกวัน ถูกฝันร้ายหลอกหลอนทุกคืนสุดท้ายก็ไม่สามารถหนีจากพิษและเสียชีวิตลงได้!อย่างไรก็ตาย มิสู้ให้เยี่ยเป่ยเฉิงจบชีวิตนางด้วยมือเขาเอง!เมื่อคิดได้เช่นนี้ นางก็ยิ้มเยาะ จงใจกล่าวยั่วยุเขา “เยี่ยเป่ยเฉิง เจ้ามีฝีมือแค่นี้หรือ? แน่จริงก็ฆ่าข้าไปเลยสิ!”“ฆ่าข้าให้มันจบๆ ไปเสีย!”เยี่ยเป่ยเฉิงปรายตามองนาง พลางกล่าวอย่างเย็นชา “ตอนนั้น เจ้าก็ทรมานซวงเอ๋อร์เช่นนี้!”เจียงหว่านกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ใช่แล้วอย่างไร!”“ลูกในท้องนางข้าก็เป็นคนทำร้ายเอง! ร่างกายอ่อนแอแบบนั้นของนางต่อไปจะตั้งครรภ์ไม่ได้อีกแล้ว!”“ที่นางฝันร้ายทุกคืน ก็เป็นข้าที่ทำเอง

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 652

    หลายสิบปีมานี้ นางทำเรื่องชั่วมานับไม่ถ้วน ทุกเรื่อง นางจิตใจสงบ ไม่เคยรู้สึกผิดเลยมีเพียงเจียงหลิง…มีเพียงการตายของเจียงหลิง ทำให้นางยากจะข่มตานอนได้…ตลอดเวลาที่ผ่านมา ในฐานะคุณหนูรอง เจียงหว่านไม่เป็นที่ชื่นชอบของพ่อแม่มาตลอด พี่ชายก็ยิ่งไม่สนใจนาง ทว่าเจียงหลิงกลับได้รับความรักมากมาย…นางอิจฉาเจียงหลิง และแทบอยากทำให้อีกฝ่ายหายไปจากโลกใบนี้แต่เจียงหลิงกลับรักเอ็นดูนางมาตั้งแต่ต้นจนจบ ปกป้องนาง มอบของที่ดีที่สุดในโลกใบนี้ให้แก่นาง…เจียงหลิงเป็นพี่สาวที่ดีต่อนางที่สุดบนโลกใบนี้…ทว่าที่นางต้องการหาใช่แค่พี่สาวอย่างเดียว นางต้องการความรักของทุกคน นางต้องการให้พ่อแม่ พี่ชายรกนางแค่คนเดียว นางอยากครอบครองของที่ดีที่สุดไว้กับตัวเอง ไม่ใช่รอให้คนอื่นมอบให้!ดังนั้น ในคืนวันหิมะตก นางผลักเจียงหลิงตกน้ำ มองนางจมตายทั้งเป็นอยู่ใต้น้ำ หลังจากนั้นนางก็ติดวันเกิดเวลาเกิดของเจียงหลิงบนตุ๊กตาคุณไสย แทงเธอทุกวัน สวดภาวนาทุกคืน นางต้องการให้เจียงหลิงไม่มีโอกาสได้ผุดได้เกิด ไม่หวนกลับมาตลอดกาล!เพราะมีเพียงแค่ทำแบบนี้ นางถึงจะไม่มีโอกาสแก้แค้นตัวเอง!แต่ทำไม…ทำไมตอนนี้นางถึงยังหาตัวเอง

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 651

    ยาซึมเข้าสู่ร่างกายติดกันหลายวันทำให้เจียงหว่านค่อยๆ เป็นบ้าในห้องที่ปิดสนิท เจียงหว่านหดตัวอยู่บนพื้นเหมือนดินโคลนตัวนางเหม็นมาก ชุดกระโปรงสีรากบัวเปลี่ยนเป็นสกปรกและเก่าองครักษ์ทำให้เส้นเอ็นมือของนางขาด ตรงบาดแผลถูกทาขี้ผึ้งปิดแผลชั้นแล้วชั้นเล่าแม้ขี้ผึ้งปิดแผลจะเป็นยาสำหรับปกปิด ทว่ากลับมีผลดีต่อการหยุดเลือดบาดแผลแข็งตัวจนกลายเป็นสะเก็ดไปแล้ว เพียงแต่ไม่ได้รับการรักษาที่ดีกว่านี้ แม้จะดีขึ้นก็ยังเหลือรอยแผลเป็นอัปลักษณ์เอาไว้ธูปในห้องไม่เคยลดลงเลยทั้งวัน ประกอบกับกระกระตุ้นของต้นคลีเวีย ความคิดต่ำช้าที่อยู่ในตัวนางแทบจะถูกกระตุ้นออกมาทั้งหมดสองตานางแดงก่ำ ดูฉุนเฉียวไม่น้อย กรีดร้องโวยวายอยู่ในห้อง ประหนึ่งคนบ้าคนหนึ่งองครักษ์ที่เฝ้าอยู่หน้าห้องไม่สนใจนางสักนิด ได้แต่ทรมานนางไม่ให้นางตายทุกวันความเคียดแค้นฉายออกมาจากในตาเจียงหว่าน เวลานี้ นางได้ปล่อยว่างความหลงใหลต่อเยี่ยเป่ยเฉิงแล้ว ไม่ว่าจะรักมากขนาดไหนก็แปรเปลี่ยนเป็นความชิงชังเข้ากระดูก“เยี่ยเป่ยเฉิง! ปล่อยข้ากลับไป! ปล่อยข้ากลับไปสิ!”“แน่จริงก็ฆ่าข้าเลยสิ!ฆ่าข้าให้มันจบๆ ! ท่านมีสิทธิ์อะไรมาขังข้าไว้เช่นนี

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 650

    “ได้ยินว่าพ่อแม่ที่เลี้ยงดูเจ้าเสียไปนานแล้ว แล้วเจ้ากับพี่ชายอยู่มาได้อย่างไร?”“แล้วเหตุใดเจ้าจึงขายตัวไปเป็นบ่าวไพร่? หลายปีมานี้ เจ้าคงผ่านความลำบากมิใช่น้อย เคยถูกใครรังแกหรือไม่?”หลินซวงเอ๋อร์พลันเกิดความขมขื่นในจิตใจเดิมที หากไม่เอ่ยถึงเรื่องเหล่านี้ นางยังพออดทนได้บ้าง แต่เมื่ออวี๋หว่านหนิงถามขึ้นมา นางก็อดรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจเสียมิได้นางเม้มปากพลางจ้องมองนิ้วมือตนเอง น้ำตาเริ่มเอ่อล้น พร้อมหยดแหมะลงหลังมือทีละหยดนางอยู่สบายหรือไม่?นางเคยถามตนเองอยู่เช่นกันหลายปีมานี้ นางผ่านเรื่องราวมากมาย สูญเสียบิดามารดา สูญเสียพี่ชายไป กลายเป็นเด็กกำพร้าที่ไร้ญาติขาดมิตรโดยแท้แต่หากคิดดีๆ ชีวิตนางก็เคยอยู่สุขสบายมาช่วงหนึ่งนั่นคือตอนอยู่กับเยี่ยเป่ยเฉิง นางมีความสุขจริงๆในตอนนั้น เยี่ยเป่ยเฉิงเป็นกำลังใจให้นาง ซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ให้ หาของดีมาให้กิน สอนนางเรียนหนังสือ พาไปเดินเล่นท่องทะเลสาบ ให้ความรักต่อนางอย่างชนิดไร้ผู้เทียบเทียม...ในเวลานั้น นางมีความสุขเหลือล้น เป็นความสุขมากที่สุดในชีวิต แม้แต่ฝันก็ยังเป็นฝันหวาน...แต่ต่อมา ทุกอย่างกลับแปรเปลี่ยน ก่อนหน้านี้เคยสุ

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 649

    เมื่อได้ยินประโยคนี้ หลินซวงเอ๋อร์แทบชะงักงันไปที่บั้นเอวนางมีปานแดงรูปเสี้ยวจันทร์จริงๆ ท่านแม่บอกว่า มันมีติดตัวมาตั้งแต่นางเกิด เนื่องจากเป็นตำแหน่งที่บั้นเอว จึงมีน้อยคนที่จะรู้เรื่องนี้“ท่าน...คือแม่ของข้าจริงหรือ?” หลินซวงเอ๋อร์หัวใจเต้นแรง ขอบตาแดงเรื่อขึ้นอวี๋หว่านหนิงยื่นมือมาจับมือของนางไว้ พลางกล่าวเสียวเศร้า “ซวงเอ๋อร์ ข้าคือแม่เจ้าจริงๆ หลายปีนี้ทำให้เจ้าลำบากนัก...”แม่นมซุนอยู่ด้านข้างพลางกล่าวเสริม “องค์หญิง นางคือเสด็จแม่ของท่านจริงๆ หลายปีมานี้ ฮองเฮาไม่เคยเลิกราในการตามหาท่าน เพียงแต่ภาคกลางกว้างขวางนัก พวกท่านเองก็ข่าวคราวเงียบหาย หลายปีนี้ พวกท่านลำบากก็จริง ฮองเฮาก็ไม่ได้สุขสบายใจ...”หลินซวงเอ๋อร์นิ่งเงียบไปครู่ใหญ่ พลันหันไปมองอวี๋หว่านหนิงแล้วกล่าว “ที่จริง ข้าไม่เคยตำหนิท่านเลย เพียงแต่บางครั้งก็เคยคิด ว่าท่านแม่จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร ยังมีชีวิตอยู่ในโลกนี้หรือไม่”“ตอนยังเป็นเด็ก ข้าเคยคาดหวังให้นางมาหาบ้าง แต่พอโตขึ้นก็ไม่เห็นนางมาเสียที ข้าจึงภาวนาให้นางอยู่ดีมีสุขแทน แม้จะไม่ได้พบหน้า แต่ขอให้นางยังมีชีวิตอยู่ เป็นความคิดถึงในใจก็เพียงพอแล้ว...”

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 648

    อวี๋หว่านหนิงรับเอาผ้าเช็ดหน้ามาซับน้ำตา พลันเกิดความตื้นตันจนไม่รู้ตอบอย่างไรดีทันใดนั้น แม่นมซุนเดินขึ้นมาพร้อมกล่าว “องค์หญิง ที่นี่คือวังหลวงแห่งเป่ยหรง ฮองเฮาทรงตามหาท่านมานาน ทุ่มแทแรงกายแรงใจไม่น้อยกว่าจะหาพบ...”“องค์หญิง?” หลินซวงเอ๋อร์นึกว่าตนหูฝาดไป “ท่านเรียกข้าอยู่หรือ?”นางกล่าวตอบ “พวกท่านจำคนผิดหรือเปล่า ข้าไม่ใช่องค์หญิง ข้าคือหลินซวงเอ๋อร์ต่างหาก”นางเป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ถูกทอดทิ้ง เติบโตมาจากชนบทแร้นแค้น เป็นเพียงสาวใช้ต่ำต้อยผู้หนึ่งเท่านั้นองค์หญิงอะไรกัน ยังมีวังเป่ยหรงอีก แล้วใครคือฮองเฮา?พวกนางคงจำคนผิดเป็นแน่แม่นมซุนกล่าวตอบ “ไม่ผิดเจ้าค่ะ ไม่มีผิดแน่นอน ท่านก็คือองค์หญิงของเรา องค์หญิงที่พลัดพรากจากฮองเฮาไป...”หลินซวงเอ๋อร์คล้ายกับยังมึนงงอยู่ ความคิดนางเกิดความสับสน ปวดหัวเป็นอย่างมากแม่นมซุนอธิบายต่อ “สมัยที่อดีตฮ่องเต้สวรรคต ฮ่องเต้องค์ใหม่ยังไม่ได้ขึ้นครองราชย์ ราชสำนักเป่ยหรงเกิดความวุ่นวาย ตอนนั้นฮองเฮายังมีฐานะเป็นเพียงพระชายาแห่งรัชทายาท นางเสี่ยงอันตรายให้กำเนิดแฝดชายหญิงคู่หนึ่ง เพื่อปกป้องชีวิตของพวกท่านไว้ จึงให้คนสนิทส่งพวกท่านออก

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 647

    หลินซวงเอ๋อร์เปลือกตากระตุกเล็กน้อย นางก็อยากตื่น แต่ทำอย่างไรก็ไม่อาจตื่นขึ้นมาหน้าอกคล้ายถูกกรีดจนเป็นแผลเหวอะหวะ เหงื่อเย็นในตัวไหลพราก ลำคอคล้ายถูกงูพิษตัวหนึ่งรัดไว้ ยิ่งรัดก็ยิ่งแน่น จนนางใกล้จะหายใจไม่ออกข้างโสตนั้น ได้ยินเสียงคุ้นหูประเดี๋ยวไกลประเดี๋ยวใกล้ ถัดจากนั้น คล้ายมีมืออ่อนโยนลูบไล้ใบหน้านางเบาๆ“เด็กดี หมดเรื่องแล้ว เจ้าปลอดภัยดีแล้ว รีบตื่นมาเถิด ตื่นมาเร็วเข้า...”หลังจากได้ยินเสียงนั้นชัดเจนมากขึ้น ลำคอที่ถูกรัดแน่นก็ค่อยๆ คลายออก นางลืมตาช้าๆ ภาพเบื้องหน้าจากพร่ามัวจนกลายเป็นชัดเจน สิ่งแรกที่เข้าสู่ม่านตาก็คือม่านคลุมเตียงสีม่วงที่อยู่เหนือศีรษะขึ้นไป คล้ายเป็นภาพฝัน เสมือนเป็นแหยักษ์ที่ถูกเหวี่ยงลงมา เพื่อคลุมตัวนางให้อยู่ตรงกลางเตียงนี้เป็นเตียงที่สวยงาม จนแม้แต่เสาเตียงก็เป็นลวดลายที่นางไม่เคยเห็นมาก่อน หัวเตียงนอกจากจะแกะสลักลายดอกไม้แล้วยังฝังด้วยหยกเจียระไนงดงามและพลอยล้ำค่าอีกชั่วขณะนั้น นางรู้สึกมึนงงยิ่งนี่มันเป็นที่ไหนกัน?“ซวงเอ๋อร์ เจ้ารู้สึกตัวแล้วรึ?” จนกระทั่งข้างหูได้ยินเสียงนั้นอีกครั้ง นางจำได้ว่าตอนอยู่ในความฝัน ได้ยินเสียงนี้จนคุ

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status