Share

บทที่ 262

Author: พิณเคล้าสายฝน
last update Last Updated: 2024-08-21 19:14:11
หลินซวงเอ๋อร์เป็นคนสอนตงเหมยเขียนด้วยตนเอง แม้ว่าจะเขียนสะเปะสะปะ และมีการเขียนผิดจำนวนมาก แต่เยี่ยเป่ยเฉิงก็ยังสามารถจดจำมันได้

นางเขียนเต็มหน้าหน้ากระดาษ เล่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เกี่ยวกับหลินซวงเอ๋อร์ให้เขาฟัง

รวมทั้งหลินซวงเอ๋อร์หายตัวไปได้อย่างไร และถูกไป๋อวี้ถังช่วยชีวิตกลับมาอย่างไร ตงเหมยเล่าต้นสายปลายเหตุของเรื่องทั้งหมด

ในตอนท้ายของจดหมาย ตงเหมยกล่าวว่า หลินซวงเอ๋อร์ป่วยหนักกว่าเดิม และมีไข้สูงตลอดเวลา ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี้นางพักอยู่ที่จวนไป๋ ไป๋อวี้ถังดูแลนางเป็นอย่างดี แล้วบอกเขาว่าไม่ต้องกังวลมากจนเกินไป...

เยี่ยเป่ยเฉิงจ้องมองจดหมายเป็นเวลานาน นัยน์ตาสีดำเหมือนสระน้ำเย็นที่ไร้ก้นบึ้ง เขาอดไม่ได้ที่จะกำมือขนาดใหญ่ของเขาเอาไว้แน่น จนเส้นเลือดดำทะลักออกมา และค่อยๆขยำจดหมายที่อยู่บนฝ่ามือทีละน้อย

เขาจากไปแค่เพียงครึ่งเดือน ก็มีคนกล้าท้าทายอำนาจของตนแล้ว! ไม่เห็นคำพูดของเขาอยู่ในสายตาจริงๆ!

นัยน์ตาอันโฉบเฉี่ยวของเยี่ยเป่ยเฉิงมืดมิดราวกับหมึก ใบหน้าของเขาก็ควบแน่นเป็นน้ำแข็งทันที

เมื่อเห็นสีหน้าของเยี่ยเป่ยเฉิงเปลี่ยนไปเป็นเย็นชา ทหารท
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 263

    หนานหยางเสียงแตร และกลองสงครามดังขึ้น ธงปลิวไสวปลิวไปตามสายลมในช่วงกลางดึก จู่ๆเยี่ยเป่ยเฉิงก็ออกคำสั่งโจมตีอย่างเต็มกำลัง ล้อมรอบภูเขาทั้งหมดเอาไว้ และเข้าปราบปรามทุกทิศทุกทาง!โจรที่ติดอยู่ในภูเขาก็เหนื่อยล้าหมดแรง ประกอบกับเยี่ยเป่ยเฉิงได้ตัดอาหารและน้ำพวกเขาก่อนหน้านี้ พวกเขาจึงไม่สามารถตอบโต้การโจมตีอย่างกะทันหันของทหารได้ในไม่ช้า พวกโจรที่ซ่อนตัวอยู่ในภูเขาถูกบังคับให้ไปที่เชิงเขาทีละคน พวกเขาต่อต้านอย่างสุดกำลัง ราวกับผีเสื้อกลางคืนที่บินเข้าไปในเปลวไฟ และต่อสู้อย่างเอาชีวิตเป็นเดิมพันเป็นครั้งสุดท้ายหนานหยางตั้งอยู่จุดเชื่อมต่อของสามดินแดน ทำให้มีเรือจากทั่วทุกแห่งหนมาทำการค้าที่นี่ ทรัพยากรของยุคนี้อุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก ทำให้จำนวนโจรในยุคนี้มีมากเช่นเดียวกัน!พวกเขายึดครองพื้นที่บนภูเขา และทำความชั่วมาหลายปี จึงกลายเป็นความกลัดกลุ้มของราชสำนักมาตั้งนานแล้วราชสำนักได้ส่งกองทหารมาปิดล้อมปราบปรามอยู่หลายครั้ง แต่พวกเขาเป็นเหมือนวัชพืชที่เกิดขึ้นมาไม่จบไม่สิ้น ตราบใดที่ยังมีปลาเล็ดลอดออกจากอวนไปได้ ก็จะมีโจรกลุ่มใหญ่ในปีหน้า! ด้วยเหตุนี้ ราชสำนักจึงปั่นป่วน จึงต้องให

    Last Updated : 2024-08-21
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 264

    เสิ่นป๋อเหลียงมาฝังเข็มให้หลินซวงเอ๋อร์เพื่อขจัดความเย็นในร่างกายตามปกติ ในที่สุดไข้ของนางก็ลดลงแล้ว แต่นางยังคงอ่อนแอมาก และมีสีหน้าที่ซีดเซียวสุดขีด กินอะไรก็ไม่อร่อยเพื่อทำให้หลินซวงเอ๋อร์สามารถกินอะไรได้บ้าง ตงเหมยจึงไปต้มโจ๊กที่ห้องครัวให้หลินซวงเอ๋อร์หนึ่งชามแต่หลินซวงเอ๋อร์ไม่อยากกิน หลังจากกินไปได้คำหนึ่งก็อดไม่ได้ที่จะอาเจียนออกมาในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาตั้งแต่นางป่วย ทุกวันนอกจากดื่มน้ำนิดหน่อยแล้ว ก็ไม่ได้กินอาหารหลักอื่นๆเลย ตอนนี้นางจึงท้องว่าง ทำให้ไม่สามารถกินสิ่งเหล่านี้ได้เสิ่นป๋อเหลียงให้ตงเหมยป้อนน้ำให้นางก่อน รอให้พลังงานในร่างกายฟื้นตัวแล้ว ค่อยป้อนอาหารหลักที่ย่อยง่ายให้นางตงเหมยจำคำแนะนำทั้งหมดของเสิ่นป๋อเหลียงเอาไว้ในใจหลินซวงเอ๋อร์นอนอยู่บนเตียง ริมฝีปากซีดเผือด นางมองตงเหมยที่ยืนอยู่ด้านข้างด้วยนัยน์ตาที่เปิดครึ่งหนึ่ง เสียงของนางอ่อนเพลียไร้เรี่ยวแรง: " ตงเหมย ท่านอ๋องจะกลับมาเมื่อไหร่? เขาตอบจดหมายของข้าแล้วหรือยัง? "ในเวลานั้น ไป๋อวี้ถังกำลังผลักประตูเข้าไป ทันทีที่เข้าไป ก็ได้ยินสิ่งที่หลินซวงเอ๋อร์พูด และอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเจ็บปวดใจตอนที่น

    Last Updated : 2024-08-21
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 265

    หลินซวงเอ๋อร์วิ่งเร็วเกินไป จึงสะดุดล้มลงกับพื้น ทำให้เข่าบวม และฝ่ามือถลอกนางไม่ได้ร้องไห้ ปัดฝุ่นแล้วลุกขึ้นมาจากพื้น ฝืนยิ้มใส่ไป๋อวี้ถังที่กำลังจะรีบเข้าไปช่วยนาง แล้วพูดว่า "พี่ไป๋ ข้าไม่เจ็บ"เดิมทีไป๋อวี้ถังอยากจะเข้าไปพยุงนาง แต่เมื่อเห็นเยี่ยเป่ยเฉิงรีบวิ่งเข้าหาพวกเขาอย่างเร่งรีบ ก็ระงับความอยากที่จะก้าวไปข้างหน้าของตนเอาไว้ แล้วยืนอยู่ที่เดิม หลังจากนั้นก็มองหลินซวงเอ๋อร์ลุกขึ้นมาจากพื้น แล้ววิ่งไปหาเยี่ยเป่ยเฉิงอย่างโซซัดโซเซและดูเหมือนว่า เขาจะเป็นเพียงคนนอกภายใต้แสงแดด เยี่ยเป่ยเฉิงสวมชุดสีดำและมีผมดำขลับ ใบหน้าของเขาเงียบขรึม ไม่งดงามเย็นชาเหมือนเช่นเคย แถมเนื้อตัวยังเลอะเทอะเปรอะเปื้อนเนื่องจากเดินทางไกล เนื่องจากเขาเพิ่งจะทำสงครามเสร็จ จึงทำให้มีจิตสังหารอันเย็นยะเยือกทั่วทั้งร่างกายตอนที่เข้าไปในจวนเมื่อสักครู่นี้ ความรู้สึกกดดันที่อยู่บนร่างกายของเขาทำให้สภาพแวดล้อมรอบตัวตกอยู่ในความเงียบ ไม่มีคนรับใช้ในจวนกล้าเข้ามาพูดคุยกับเขาเลย พวกเขาเอาแต่ก้มหน้า และอยู่ห่างจากเขาเท่านั้นแต่หลินซวงเอ๋อร์ไม่กลัวเขา ในขณะนี้ความกล้าหาญของนางสูงเสียดฟ้า เมื่อเห็นเยี่ยเป่

    Last Updated : 2024-08-21
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 266

    หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ก็มีเสียงฝีเท้าที่มั่นคงเดินเข้ามาหานางทันใดนั้นดวงตาอันมืดมนของหลินซวงเอ๋อร์ก็สว่างขึ้นอีกครั้ง นางเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นร่างของเยี่ยเป่ยเฉิงกำลังเดินเข้ามาหานางไม่รู้ว่าเขาเปลี่ยนเป็นเสื้อคลุมสีขาวนวลมาจากที่ไหน ทำให้จิตสังหารอันเยือกเย็นบนร่างกายเบาบางลงเล็กน้อย บนร่างกายยังเผยบุคลิกที่สูงส่งเย็นชาออกมาด้วย เคร้าโครงหน้าเหมือนประติมากรรม ตั้งแต่คิ้วตาไปจนถึงสันจมูก มาจนถึงริมฝีปากเอาเรียวบาง ลายเส้นคมลึกชัดเจน โดดเด่นเป็นสง่ามากหลินซวงเอ๋อร์ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ร่างกายแข็งทื่ออยู่กับที่ ไม่ขยับเขยื้อน แล้วมองดู เยี่ยเป่ยเฉิงเดินไปหานางทีละก้าวลมแห่งสารทฤดูพัดชายเสื้อที่สะอาดสะอ้านของเขา ในรูม่านตาที่ลึกล้ำเหมือนหมึกของเขา มีกระแสน้ำซัดซาด แล้วม้วนซัดตัวนางจากนั้นก็มีคนมาอยู่ที่ตรงหน้า โดยที่ไม่รู้ตัวเยี่ยเป่ยเฉิงมองหลินซวงเอ๋อร์ที่ยืนอยู่ตรงหน้า และมองเห็นแสงแห่งความคาดหวังในนัยน์ตาที่บริสุทธิ์สุกใสของนาง“ตอนนี้สามารถกอดได้แล้ว” เขาเอ่ยปากพูด ในน้ำเสียงที่ทุ้มลึกแฝงไปด้วยความแหบแห้งอย่างอธิบายไม่ถูกเขารีบกลับจากหนานหยางแบบไม่ได้แวะพักเลย พอเข้าประต

    Last Updated : 2024-08-21
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 267

    จู่ๆเยี่ยเป่ยเฉิงก็กลับเมืองหลวง ทำให้ทุกคนที่อยู่ในจวนโหวประหลาดใจเป็นอย่างมากตามแผนการแล้ว เยี่ยเป่ยเฉิงจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยห้าวันถึงจะสามารถกลับเมืองหลวงได้ ตอนที่พ่อบ้านเห็นเยี่ยเป่ยเฉิงอยู่นอกประตูจวน เขาก็อดตกใจไม่ได้ จากนั้นก็รีบวิ่งไปที่เรือนด้านหน้าเพื่อรายงานกงชิงเยวี่ยตามการปฏิบัติที่ผ่านมา เยี่ยเป่ยเฉิงจะต้องกลับวังไปเข้าเฝ้าองค์จักรพรรดิก่อน จากนั้นค่อยกลับมาที่จวนโหว พอเขากลับมาที่เมืองหลวง คนที่อยู่จวนโหวจะมารอรับอยู่ที่หน้าประตูจวนมีเพียงครั้งนี้ ที่เยี่ยเป่ยเฉิงกลับมาโดยไม่ให้ซุ่มให้เสียงเลย จึงทำให้คนที่อยู่ในจวนประหลาดใจเป็นอย่างมาก“ ท่านอ๋องกลับจวนแล้ว ท่านอ๋องกลับจวนแล้ว”ผ่านไปได้ครู่หนึ่ง คนรับใช้ในจวนก็พากันเร่งรีบจนทำอะไรไม่ถูกม้าของเยี่ยเป่ยเฉิงหยุดอยู่ที่หน้าประตูจวนอย่างสบายๆ ขาอันเรียวยาวของเขาก้าวลงมาจากหลังม้า หลินซวงเอ๋อร์ยังไม่ทันได้ตอบสนอง เขาก็เอื้อมมือออกไปโอบเอวแล้วอุ้มนางเอาไว้พอได้อุ้มเขาก็ไม่ปล่อยอีกเลย จากนั้นก็อุ้มนางก้าวเท้าเข้าไปในประตูจวนเขาคิดที่จะอุ้มนางเข้าไปในจวนอย่างโจ่งแจ้งแบบนี้“ ท่านอ๋อง ท่านรีบปล่อยข้าลงเร็ว ข้าเด

    Last Updated : 2024-08-21
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 268

    เสียงของเยี่ยเป่ยเฉิงเบามาก เสียงต่ำทุ้มรุ้มเร้าดังก้องอยู่ข้างหูของนาง: " ข้าเหนื่อยมากจริงๆ ดังนั้น ตอนนี้ต้องพักผ่อนให้เต็มที่ "ในขณะที่พูด เขาก็อุ้มหลินซวงเอ๋อร์เอาไว้แล้วเตะเปิดประตูเรือนอวิ๋นซวน หลังจากเข้าไปในเรือนแล้ว เขาก็ใช้เท้าเกี่ยวอีกครั้ง แล้วปิดประตูอย่างแรงเหลินซวงเอ๋อร์สังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติ เขาก็วางนางลงบนเตียงแล้วเยี่ยเป่ยเฉิงโน้มตัวลงไป กระซิบข้างหูของนาง: " ซวงเอ๋อร์ เจ้าบอกว่าพอข้ากลับมาแล้ว จะปลอบใจข้าให้เต็มที่ไม่ใช่หรือ? ตอนนี้ข้ากลับมาแล้ว เจ้าก็ควรจะทำตามสัญญาที่ให้ไว้ใช่หรือไม่? "จากนั้น ม่านเตียงก็ปิดลง เขากดนางไว้ที่บนเตียง นัยน์ตาเต็มไปด้วยความปรารถนาตอนนี้หลินซวงเอ๋อร์รู้สึกหวาดกลัวจริงๆ ร่างผอมอันผอมเพรียวอดไม่ได้ที่จะหดตัวอยู่ตรงมุมสายตาของเยี่ยเป่ยเฉิงแทบอยากจะกลืนกินนางทั้งตัวนางเคยบอกว่าจะปลอบใจเขาให้เต็มที่จริงๆ แต่สิ่งที่นางหมายถึงไม่เหมือนกับสิ่งที่เยี่ยเป่ยเฉิงเข้าใจ" ท่านอ๋อง...ข้าหมายถึงว่ จะปรนนิบัติรับใช้ท่านอ๋องเป็นอย่างดี แต่ไม่ใช่การปรนนิบัติรับใช้แบบนี้... "ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาหลังจากที่เยี่ยเป่ยเฉิงจากไปแล้

    Last Updated : 2024-08-21
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 269

    หลินซวงเอ๋อร์ไอสองสามครั้ง ลมหายใจของนางเริ่มไม่เสถียรเล็กน้อยไข้ของนางเพิ่งลดลง เดิมที่ร่างกายก็อ่อนแออยู่แล้ว จึงไม่สามารถต้านทานการทรมานของเยี่ยเป่ยเฉิงได้เมื่อมองดูสีหน้าที่ซีดเซียวของนาง เยี่ยเป่ยเฉิงจึงทำได้แค่ระงับความปรารถนาที่อยู่ในใจของตนเองเอาไว้เขาพลิกตัวแล้วดึงตัวออกจากบนตัวของหลินซวงเอ๋อร์ แล้วนอนตะแคงข้างนางหลินซวงเอ๋อร์รู้สึกว่าร่างกายเบาขึ้น และความรู้สึกกดดันนั้นก็หายไปทันทีนางหันศีรษะไปมองเยี่ยเป่ยเฉิง ก็เห็นว่าเขาหลับตาลงเล็กน้อย ทำท่าทางราวกับว่าเหนื่อยสุดขีด“ ท่านอ๋อง ท่านพักผ่อนก่อนเถิด เดี๋ยวข้าจะออกไปก่อน” ขณะที่หลินซวงเอ๋อร์กำลังจะลุกขึ้น ก็เห็นชายที่อยู่ข้างๆตะแคงข้าง แล้วใช้แขนโอบเอวของนางไว้ทันที จากนั้นก็เอานางมาไว้ในอ้อมแขนเขาค่อยๆลืมตา มองดูนางอย่างลึกซึ้ง และพูดด้วยเสียงที่แผ่วเบาว่า: "ถ้าเจ้ายังขยับอีกครั้ง ข้าอาจจะทนไม่ไหว"ความปรารถนาพุ่งพล่านในดวงตาของเขา และความต้องการที่จะครอบครองนางรุนแรงมากยิ่งขึ้นหลินซวงเอ๋อร์ไม่กล้าขยับตัว แนบตัวเข้าไปในอ้อมแขนของเขาอย่างเชื่อฟังเยี่ยเป่ยเฉิงหลับตา ในสมองของเขาเต็มไปด้วยรูปร่างหน้าตาของหลินซ

    Last Updated : 2024-08-21
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 270

    ในตอนดึกจวนหย่งอันในตรอกซอยลานหลังจวน มีร่างร่างหนึ่งมองไปบริเวณรอบๆอย่างลับๆล่อๆ เมื่อไม่เห็นใคร ก็คิดที่จะหลบหนีออกจากจวนผ่านประตูทางด้านหลังคิดไม่ถึงว่า ทันทีที่ผลักประตูไม้หนักๆออก ก็มีดาบอันคบกริบด้ามหนึ่งพาดอยู่บนคอของนางเสวียนอู่เดินออกจากด้านข้างประตู ในมือดืโดยถือดาบยาวไว้ในมือ ดาบยาวอันวาววับภายใต้แสงจันทร์ น่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมาก“ ท่านป้าหลี่ ดึกมากแล้ว ท่านจะไปไหนหรือ?”สีหน้าของท่านป้าหลี่ซีดเผือดลงทันที และไม่กล้าก้าวไปข้างหน้าอีก ขาทั้งสองข้างก็อดไม่ได้ที่จะสั่นเทา"ไม่...ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับข้าเลย ขาไม่ได้ขายสาวใช้คนนั้น..."เสวียนอู่พูดอย่างเย็นชาว่า: "ข้ายังไม่ได้พูดอะไรสักหน่อย ท่านก็สารภาพของมาเองแล้วหรือ?"สีหน้าของท่านป้าหลี่ซีดลง น้ำเสียงก็เริ่มสั่น: "เจ้า... เจ้าคิดที่จะทำอะไร? ฉันอยากจะพบนายหญิง... "เสวียนอู่เอาแขนของท่านป้าหลี่ไขว้เอาไว้ด้านหลัง แล้วพานางไปที่ห้องโถงด้านหน้า: "บังเอิญว่า ท่านอ๋องก็อยู่ด้วย ไปพบพร้อมกันเลยดีกว่า!"เมื่อท่านป้าหลี่ได้ยินดังนี้ ก็ตกใจมากจนแทบจะเป็นลมทันที“ไม่ ข้าไม่อยากพบท่านอ๋อง ข้าลาออกกับนายหญิงแล้ว ข้าจะเ

    Last Updated : 2024-08-21

Latest chapter

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 655

    วันที่เจียงหว่านกำลังจะถูกเนรเทศ ในที่สุดเจียงเช่อก็มาหาถึงหน้าประตูเขาคุกเข่าเบื้องหน้าเยี่ยเป่ยเฉิง เว้าวอนขอเยี่ยเป่ยเฉิงปล่อยเจียงหว่านไปขณะที่เดินทางมา เขารับรู้เรื่องราวทั้งหมดแล้วเจียงหว่านลอบวางยาพระชายาเยี่ย ใช้ประชาชนที่ติดโรคทดลองยา เข่นฆ่าคนบริสุทธิ์ ผลาญชีวิตคนดุจผักดุจปลา นับเป็นอาชญากรรมอันชั่วร้ายที่สุด......แต่ไม่ว่าอย่างไร เจียงหว่านก็เป็นน้องสาวเขา เป็นคุณหนูหนึ่งเดียวของตระกูลเจียง เจียงเช่อมิอาจนั่งนิ่งดูดาย ปล่อยให้นางไปตายได้“ขอร้องท่านอ๋องไว้ชีวิตนางเถิด เป็นเพราะข้าตามใจนางจนเสียคน หากท่านอ๋องจะลงโทษ โปรดลงที่เจียงเช่อเถิดพะยะค่ะ”เมื่อเห็นเจียงเช่อ สายตาสิ้นหวังของเจียงหว่านพลันมีประกายความหวังขึ้น“พี่......ท่านพี่ ช่วยข้าด้วย ข้าไม่อยากไปแดนเถื่อน ข้าอยากกลับบ้าน ท่านพี่ช่วยข้าด้วย......”เจียงเช่อขมวดคิ้วเขม็งจ้องเจียงหว่าน สายตาแฝงเร้นด้วยแววเกยีดชังเข้าไส้เขารู้ว่าเจียงหว่านต้องโทษตาย ยามนี้แค่เนรเทศ ถือว่าเมตตามากแล้ว แต่เขาเองก็รู้ว่า สถานที่อย่างแดนเถื่อนนั้น มิใช่สถานที่ที่สตรีตัวคนเดียวจะไปได้ การเนรเทศนางไปที่นั่น เท่ากับส่งนางไปขุมนร

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 654

    “เลือดของนาง...”เจียงหว่านสีหน้าตกตะลึงตอนนั้น ตอนที่ฮุ่ยอี๋มอบยาถอนพิษใส่ในมือนาง นางเคยเอาทิ้งไว้หลายขวด เดิมทีคิดศึกษาส่วนผสมในนั้น ทว่าด้านในกลับมีส่วนผสมยาเพียงหนึ่งเดียว นั่นคือเลือดมนุษย์...แรกเริ่ม นางคิดว่าเป็นเรื่องเหลวไหล! กระทั่งยามนี้นางถึงได้เชื่อความจริง ส่วนประกอบของยานั้น มีเพียงเลือดมนุษย์จริงๆ! ทั้งยังเป็นเลือดของหลินซวงเอ๋อร์! เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว ในที่สุดนางก็เข้าใจ!มิน่า...ตอนนั้น นางใช้ยาปริมาณมาก แต่กลับไม่อาจทำให้หลินซวงเอ๋อร์ถึงตาย! ไม่คิดว่าเลือดของนางจะขจัดพิษในร่างนางโดยมองไม่เห็น...ฮุ่ยอี๋เอ่ย “เจ้ายังมีหน้าพูดว่าไม่ได้ฆ่าคนเป็นผักเป็นปลาอีก! เจียงหว่าน เจ้าลืมแล้วหรือว่าเจ้าวางยาซวงเอ๋อร์อย่างไร? เสด็จอาให้อภัยเจ้าครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ข้าไม่มีวันเกรงใจเจ้า!”คำพูดนี้สองแง่สองง่าม เห็นชัดว่ากำเย้ยหยันเยี่ยเป่ยเฉิงที่ดึงหมาป่าเจ้าเล่ห์เข้าบ้าน!เยี่ยเป่ยเฉิงตัวแข็งทื่ออยู่ที่เดิม ไร้ซึ่งแรงโต้กลับยามนี้ เขามิอาจชำระคืนได้ ซวงเอ๋อร์ของเขาไม่มีวันกลับมาอีกต่อไป!สิ่งเดียวที่ทำได้ตอนนี้ คือทำให้เจียงหว่านชดใช้อย่างสาสมที่สุด ส่วนตัวเขา ชีวิตที่

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 653

    เยี่ยเป่ยเฉิงมีสีหน้าเคร่งขรึม สายตาที่มองเจียงหว่านเยือกเย็นดุจน้ำแข็ง ไม่มีความอ่อนโยนเลยสักนิดเขาอยากฆ่านางตั้งนานแล้ว ที่ปล่อยนางรอดมาจนถึงตอนนี้ ก็แค่อยากให้นางได้รับความทรมานจนตายบัดนี้เห็นนางตกยากเช่นนี้ เยี่ยเป่ยเฉิงกลับรู้สึกว่าบทลงโทษแค่นี้ยังมิพอเจียงหว่านถูกทรมานจนเหมือนตายดีกว่าอยู่มานานแล้ว นางรู้ เยี่ยเป่ยเฉิงไม่มีทางปล่อยนางไปง่ายๆ หลังจากคิดดูแล้ว หากตายด้วยน้ำมือของเยี่ยเป่ยเฉิงได้ ก็คงจะดีกว่าตอนนี้ ที่ดูดซับยาเข้าสู่ร่างกายทุกวัน ถูกฝันร้ายหลอกหลอนทุกคืนสุดท้ายก็ไม่สามารถหนีจากพิษและเสียชีวิตลงได้!อย่างไรก็ตาย มิสู้ให้เยี่ยเป่ยเฉิงจบชีวิตนางด้วยมือเขาเอง!เมื่อคิดได้เช่นนี้ นางก็ยิ้มเยาะ จงใจกล่าวยั่วยุเขา “เยี่ยเป่ยเฉิง เจ้ามีฝีมือแค่นี้หรือ? แน่จริงก็ฆ่าข้าไปเลยสิ!”“ฆ่าข้าให้มันจบๆ ไปเสีย!”เยี่ยเป่ยเฉิงปรายตามองนาง พลางกล่าวอย่างเย็นชา “ตอนนั้น เจ้าก็ทรมานซวงเอ๋อร์เช่นนี้!”เจียงหว่านกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ใช่แล้วอย่างไร!”“ลูกในท้องนางข้าก็เป็นคนทำร้ายเอง! ร่างกายอ่อนแอแบบนั้นของนางต่อไปจะตั้งครรภ์ไม่ได้อีกแล้ว!”“ที่นางฝันร้ายทุกคืน ก็เป็นข้าที่ทำเอง

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 652

    หลายสิบปีมานี้ นางทำเรื่องชั่วมานับไม่ถ้วน ทุกเรื่อง นางจิตใจสงบ ไม่เคยรู้สึกผิดเลยมีเพียงเจียงหลิง…มีเพียงการตายของเจียงหลิง ทำให้นางยากจะข่มตานอนได้…ตลอดเวลาที่ผ่านมา ในฐานะคุณหนูรอง เจียงหว่านไม่เป็นที่ชื่นชอบของพ่อแม่มาตลอด พี่ชายก็ยิ่งไม่สนใจนาง ทว่าเจียงหลิงกลับได้รับความรักมากมาย…นางอิจฉาเจียงหลิง และแทบอยากทำให้อีกฝ่ายหายไปจากโลกใบนี้แต่เจียงหลิงกลับรักเอ็นดูนางมาตั้งแต่ต้นจนจบ ปกป้องนาง มอบของที่ดีที่สุดในโลกใบนี้ให้แก่นาง…เจียงหลิงเป็นพี่สาวที่ดีต่อนางที่สุดบนโลกใบนี้…ทว่าที่นางต้องการหาใช่แค่พี่สาวอย่างเดียว นางต้องการความรักของทุกคน นางต้องการให้พ่อแม่ พี่ชายรกนางแค่คนเดียว นางอยากครอบครองของที่ดีที่สุดไว้กับตัวเอง ไม่ใช่รอให้คนอื่นมอบให้!ดังนั้น ในคืนวันหิมะตก นางผลักเจียงหลิงตกน้ำ มองนางจมตายทั้งเป็นอยู่ใต้น้ำ หลังจากนั้นนางก็ติดวันเกิดเวลาเกิดของเจียงหลิงบนตุ๊กตาคุณไสย แทงเธอทุกวัน สวดภาวนาทุกคืน นางต้องการให้เจียงหลิงไม่มีโอกาสได้ผุดได้เกิด ไม่หวนกลับมาตลอดกาล!เพราะมีเพียงแค่ทำแบบนี้ นางถึงจะไม่มีโอกาสแก้แค้นตัวเอง!แต่ทำไม…ทำไมตอนนี้นางถึงยังหาตัวเอง

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 651

    ยาซึมเข้าสู่ร่างกายติดกันหลายวันทำให้เจียงหว่านค่อยๆ เป็นบ้าในห้องที่ปิดสนิท เจียงหว่านหดตัวอยู่บนพื้นเหมือนดินโคลนตัวนางเหม็นมาก ชุดกระโปรงสีรากบัวเปลี่ยนเป็นสกปรกและเก่าองครักษ์ทำให้เส้นเอ็นมือของนางขาด ตรงบาดแผลถูกทาขี้ผึ้งปิดแผลชั้นแล้วชั้นเล่าแม้ขี้ผึ้งปิดแผลจะเป็นยาสำหรับปกปิด ทว่ากลับมีผลดีต่อการหยุดเลือดบาดแผลแข็งตัวจนกลายเป็นสะเก็ดไปแล้ว เพียงแต่ไม่ได้รับการรักษาที่ดีกว่านี้ แม้จะดีขึ้นก็ยังเหลือรอยแผลเป็นอัปลักษณ์เอาไว้ธูปในห้องไม่เคยลดลงเลยทั้งวัน ประกอบกับกระกระตุ้นของต้นคลีเวีย ความคิดต่ำช้าที่อยู่ในตัวนางแทบจะถูกกระตุ้นออกมาทั้งหมดสองตานางแดงก่ำ ดูฉุนเฉียวไม่น้อย กรีดร้องโวยวายอยู่ในห้อง ประหนึ่งคนบ้าคนหนึ่งองครักษ์ที่เฝ้าอยู่หน้าห้องไม่สนใจนางสักนิด ได้แต่ทรมานนางไม่ให้นางตายทุกวันความเคียดแค้นฉายออกมาจากในตาเจียงหว่าน เวลานี้ นางได้ปล่อยว่างความหลงใหลต่อเยี่ยเป่ยเฉิงแล้ว ไม่ว่าจะรักมากขนาดไหนก็แปรเปลี่ยนเป็นความชิงชังเข้ากระดูก“เยี่ยเป่ยเฉิง! ปล่อยข้ากลับไป! ปล่อยข้ากลับไปสิ!”“แน่จริงก็ฆ่าข้าเลยสิ!ฆ่าข้าให้มันจบๆ ! ท่านมีสิทธิ์อะไรมาขังข้าไว้เช่นนี

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 650

    “ได้ยินว่าพ่อแม่ที่เลี้ยงดูเจ้าเสียไปนานแล้ว แล้วเจ้ากับพี่ชายอยู่มาได้อย่างไร?”“แล้วเหตุใดเจ้าจึงขายตัวไปเป็นบ่าวไพร่? หลายปีมานี้ เจ้าคงผ่านความลำบากมิใช่น้อย เคยถูกใครรังแกหรือไม่?”หลินซวงเอ๋อร์พลันเกิดความขมขื่นในจิตใจเดิมที หากไม่เอ่ยถึงเรื่องเหล่านี้ นางยังพออดทนได้บ้าง แต่เมื่ออวี๋หว่านหนิงถามขึ้นมา นางก็อดรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจเสียมิได้นางเม้มปากพลางจ้องมองนิ้วมือตนเอง น้ำตาเริ่มเอ่อล้น พร้อมหยดแหมะลงหลังมือทีละหยดนางอยู่สบายหรือไม่?นางเคยถามตนเองอยู่เช่นกันหลายปีมานี้ นางผ่านเรื่องราวมากมาย สูญเสียบิดามารดา สูญเสียพี่ชายไป กลายเป็นเด็กกำพร้าที่ไร้ญาติขาดมิตรโดยแท้แต่หากคิดดีๆ ชีวิตนางก็เคยอยู่สุขสบายมาช่วงหนึ่งนั่นคือตอนอยู่กับเยี่ยเป่ยเฉิง นางมีความสุขจริงๆในตอนนั้น เยี่ยเป่ยเฉิงเป็นกำลังใจให้นาง ซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ให้ หาของดีมาให้กิน สอนนางเรียนหนังสือ พาไปเดินเล่นท่องทะเลสาบ ให้ความรักต่อนางอย่างชนิดไร้ผู้เทียบเทียม...ในเวลานั้น นางมีความสุขเหลือล้น เป็นความสุขมากที่สุดในชีวิต แม้แต่ฝันก็ยังเป็นฝันหวาน...แต่ต่อมา ทุกอย่างกลับแปรเปลี่ยน ก่อนหน้านี้เคยสุ

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 649

    เมื่อได้ยินประโยคนี้ หลินซวงเอ๋อร์แทบชะงักงันไปที่บั้นเอวนางมีปานแดงรูปเสี้ยวจันทร์จริงๆ ท่านแม่บอกว่า มันมีติดตัวมาตั้งแต่นางเกิด เนื่องจากเป็นตำแหน่งที่บั้นเอว จึงมีน้อยคนที่จะรู้เรื่องนี้“ท่าน...คือแม่ของข้าจริงหรือ?” หลินซวงเอ๋อร์หัวใจเต้นแรง ขอบตาแดงเรื่อขึ้นอวี๋หว่านหนิงยื่นมือมาจับมือของนางไว้ พลางกล่าวเสียวเศร้า “ซวงเอ๋อร์ ข้าคือแม่เจ้าจริงๆ หลายปีนี้ทำให้เจ้าลำบากนัก...”แม่นมซุนอยู่ด้านข้างพลางกล่าวเสริม “องค์หญิง นางคือเสด็จแม่ของท่านจริงๆ หลายปีมานี้ ฮองเฮาไม่เคยเลิกราในการตามหาท่าน เพียงแต่ภาคกลางกว้างขวางนัก พวกท่านเองก็ข่าวคราวเงียบหาย หลายปีนี้ พวกท่านลำบากก็จริง ฮองเฮาก็ไม่ได้สุขสบายใจ...”หลินซวงเอ๋อร์นิ่งเงียบไปครู่ใหญ่ พลันหันไปมองอวี๋หว่านหนิงแล้วกล่าว “ที่จริง ข้าไม่เคยตำหนิท่านเลย เพียงแต่บางครั้งก็เคยคิด ว่าท่านแม่จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร ยังมีชีวิตอยู่ในโลกนี้หรือไม่”“ตอนยังเป็นเด็ก ข้าเคยคาดหวังให้นางมาหาบ้าง แต่พอโตขึ้นก็ไม่เห็นนางมาเสียที ข้าจึงภาวนาให้นางอยู่ดีมีสุขแทน แม้จะไม่ได้พบหน้า แต่ขอให้นางยังมีชีวิตอยู่ เป็นความคิดถึงในใจก็เพียงพอแล้ว...”

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 648

    อวี๋หว่านหนิงรับเอาผ้าเช็ดหน้ามาซับน้ำตา พลันเกิดความตื้นตันจนไม่รู้ตอบอย่างไรดีทันใดนั้น แม่นมซุนเดินขึ้นมาพร้อมกล่าว “องค์หญิง ที่นี่คือวังหลวงแห่งเป่ยหรง ฮองเฮาทรงตามหาท่านมานาน ทุ่มแทแรงกายแรงใจไม่น้อยกว่าจะหาพบ...”“องค์หญิง?” หลินซวงเอ๋อร์นึกว่าตนหูฝาดไป “ท่านเรียกข้าอยู่หรือ?”นางกล่าวตอบ “พวกท่านจำคนผิดหรือเปล่า ข้าไม่ใช่องค์หญิง ข้าคือหลินซวงเอ๋อร์ต่างหาก”นางเป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ถูกทอดทิ้ง เติบโตมาจากชนบทแร้นแค้น เป็นเพียงสาวใช้ต่ำต้อยผู้หนึ่งเท่านั้นองค์หญิงอะไรกัน ยังมีวังเป่ยหรงอีก แล้วใครคือฮองเฮา?พวกนางคงจำคนผิดเป็นแน่แม่นมซุนกล่าวตอบ “ไม่ผิดเจ้าค่ะ ไม่มีผิดแน่นอน ท่านก็คือองค์หญิงของเรา องค์หญิงที่พลัดพรากจากฮองเฮาไป...”หลินซวงเอ๋อร์คล้ายกับยังมึนงงอยู่ ความคิดนางเกิดความสับสน ปวดหัวเป็นอย่างมากแม่นมซุนอธิบายต่อ “สมัยที่อดีตฮ่องเต้สวรรคต ฮ่องเต้องค์ใหม่ยังไม่ได้ขึ้นครองราชย์ ราชสำนักเป่ยหรงเกิดความวุ่นวาย ตอนนั้นฮองเฮายังมีฐานะเป็นเพียงพระชายาแห่งรัชทายาท นางเสี่ยงอันตรายให้กำเนิดแฝดชายหญิงคู่หนึ่ง เพื่อปกป้องชีวิตของพวกท่านไว้ จึงให้คนสนิทส่งพวกท่านออก

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 647

    หลินซวงเอ๋อร์เปลือกตากระตุกเล็กน้อย นางก็อยากตื่น แต่ทำอย่างไรก็ไม่อาจตื่นขึ้นมาหน้าอกคล้ายถูกกรีดจนเป็นแผลเหวอะหวะ เหงื่อเย็นในตัวไหลพราก ลำคอคล้ายถูกงูพิษตัวหนึ่งรัดไว้ ยิ่งรัดก็ยิ่งแน่น จนนางใกล้จะหายใจไม่ออกข้างโสตนั้น ได้ยินเสียงคุ้นหูประเดี๋ยวไกลประเดี๋ยวใกล้ ถัดจากนั้น คล้ายมีมืออ่อนโยนลูบไล้ใบหน้านางเบาๆ“เด็กดี หมดเรื่องแล้ว เจ้าปลอดภัยดีแล้ว รีบตื่นมาเถิด ตื่นมาเร็วเข้า...”หลังจากได้ยินเสียงนั้นชัดเจนมากขึ้น ลำคอที่ถูกรัดแน่นก็ค่อยๆ คลายออก นางลืมตาช้าๆ ภาพเบื้องหน้าจากพร่ามัวจนกลายเป็นชัดเจน สิ่งแรกที่เข้าสู่ม่านตาก็คือม่านคลุมเตียงสีม่วงที่อยู่เหนือศีรษะขึ้นไป คล้ายเป็นภาพฝัน เสมือนเป็นแหยักษ์ที่ถูกเหวี่ยงลงมา เพื่อคลุมตัวนางให้อยู่ตรงกลางเตียงนี้เป็นเตียงที่สวยงาม จนแม้แต่เสาเตียงก็เป็นลวดลายที่นางไม่เคยเห็นมาก่อน หัวเตียงนอกจากจะแกะสลักลายดอกไม้แล้วยังฝังด้วยหยกเจียระไนงดงามและพลอยล้ำค่าอีกชั่วขณะนั้น นางรู้สึกมึนงงยิ่งนี่มันเป็นที่ไหนกัน?“ซวงเอ๋อร์ เจ้ารู้สึกตัวแล้วรึ?” จนกระทั่งข้างหูได้ยินเสียงนั้นอีกครั้ง นางจำได้ว่าตอนอยู่ในความฝัน ได้ยินเสียงนี้จนคุ

DMCA.com Protection Status