พอฟรานติโน่วางสายของพิชชาภาเสร็จก็ยิ้ม ก่อนจะหุบยิ้มลงทันทีเมื่อเมทีมันจ้องหน้าของเขาแล้วใช้สายตาแซวเขาโดยที่เขารู้ตัว“มองอะไรวะ ทำงานไปสิ” ฟรานติโน่พูดไปก็หมุนเก้าอี้หนีสายตาของเมทีที่มองมา มันชอบจับผิดเขาตลอดสิน่า“อะไรกันครับ ผมก็แค่มองคนอ้อนเมียเฉยๆน่ะครับ ฮ่าๆ รีบๆทำงานเถอะครับจะได้กลับไปทานข้าวกลับเมียที่บ้านต่อไงครับ” เมทีแซวไปก็หัวเราะใหญ่ จนฟรานติโน่หยิบเอาแฟ้มงานปาใส่เมทีอย่างหมั่นไส้“รุนแรงจังนะครับคุณฟราน ถ้าโดนหัวผมแตกล่ะก็ ผมจะฟ้องคุณพิชนะครับฮ่าๆ” เมทียังคงแซวต่ออย่างขำ ก่อนจะเดินออกไปเมื่อเห็นสายตาของฟรานติโน่มองเขาแบบจริงจังเข้า“อ่าวพี่ที รีบออกมาทำไมเนี่ย ผมกำลังจะเข้าไปหาพี่ฟรานพอดี” แฟรงก์เอ่ยถามเมทีที่กำลังออกมาจากห้องของพี่ชายของเขาด้วยท่าทางมีความสุขจนเขาสงสัย“อ่อ เข้าไปเลยครับ คุณฟรานรอคุณแฟรงก์อยู่พอดี” เมทีเอ่ยบอกก็ผายมือเชิญให้แฟรงก์เข้าไปด้วยท่าทางขี้เล่น ก่อนจะเดินกลับไปที่โต๊ะทำงานของตัวเอง“เฮียฟราน ตอนนี้ผมได้โลโก้ใหม่ของเครื่องเราแล้วนะ ส่วนนางแบบกับนายแบบโฆษณาผมก็เซ็นสัญญาแล้วเรียบแล้ว เฮียจะให้ผมเริ่มงานได้รึยัง” แฟรงก์มาบอกความคืบน้ำของงานให้กับ
ด้านพิชชาภาก็เปลี่ยนชุดมาใส่ชุดแม่ครัวที่ฟรานติโน่บอกให้เธอใส่เมื่อเธออยู่ที่บ้านหลังนี้ เพราะถ้าขืนเธอไม่ใส่เขาก็จะหาเรื่องให้เธอใส่อยู่ดี เธอเลยใส่ดักรอเขาซะเลย เขาจะได้อารมณ์ดีที่เธอใส่ชุดแม่ครัวเอาใจเขาแบบนี้ จากนั้นเธอก็ไปจัดเตรียมของเพื่อจะทำอาหารให้กับฟรานติโน่ทาน แต่เธอก็ได้ยินเสียงรถเข้ามาจอดที่หน้าบ้านเสียงเบรคดังเอี๊ยดจนเธอวางของลง แล้วเดินออกไปดูก็เห็นว่าเป็นรถของฟรานติโน่เธอก็ยิ้มอย่างดีใจ ก่อนจะเดินกลับเข้าไปหยิบน้ำในครัวออกมาให้กับฟรานิโน่ฟรานติโน่พอจอดรถได้ก็ดับเครื่องแล้วเดินลงมาด้วยท่าทางเงียบขรึม เพราะเขาอยากจะรู้ว่าพิชชาภาจะทำยังไงกับเขาหลังจากที่นัดชู้มาหาถึงบ้านของเขา“กลับมาแล้วเหรอคะคุณฟราน ทานน้ำเย็นๆก่อนสิคะ” พิชชาภาเดินออกมาพร้อมกับรอยยิ้มแล้วถือแก้วน้ำไว้ในมืออย่างยิ้มแย้ม จนฟรานติโน่ที่มองมานิ่งกว่าเดิมฟรานติโน่มองพิชชาภาอย่างอึ้งๆ เพราะเธอเล่นใส่ชุดแม่ครัวแบบคอสเพลย์มาอ่อยเขาแต่หัววันแบบนี้ก็แสดงว่าไอ้ผู้ชายที่มันมาก่อนหน้านี้มันก็ต้องเห็นพิชชาภาใส่ชุดนี้ แล้วมันก็ต้องคิดเรื่องบนเตียงไม่ต่างจากเขาแน่ ฟรานติโน่คิดในใจอย่างหึงๆ ก่อนจะเอามือปัดแก้วน้ำที่พิ
“อ้ะ อ้ะ มันแสบนะคะ อ้ะ ถ้ารุมันจะหลวมก็เพราะถูกคนหื่นแบบคุณเอานั่นแหละ อ้ะ พะ พอ แล้วค่ะ อ้ะ” พิชชาภาบอกไปก็เอามือของตัวเองไปรั้งมือของฟรานติโน่ให้เอาออกมาจากร่องสาวของเธอเอง“เริ่มเยิ้มแล้วนิ แน่ใจเหรอว่าจะให้ผมหยุด อืม แผล็บ แผล็บ อร่อยติดปากจริงๆ” ฟรานติโน่ถอนมือจากร่องสาว แล้วชูขึ้นมาให้พิชชาภาเห็นว่ามือของเขานั้นเลอะไปด้วยน้ำเมือกของเธอ พอเห็นเธอมองมา ฟรานติโน่ก็เลียนิ้วของเขาด้วยสายตาหื่นกระหายอย่างต้องการ“พิชไม่รู้จะทำยังไงกับคนหื่นแบบคุณแล้วนะคะ คนบ้า มาดูดเลียอะไรตรงนี้เล่า พอเลยนะ ไม่งั้นพิชไม่ทำอาหารให้คุณทานจริงๆด้วย” พิชชาภาบอกไปก็ทำหน้ามองค้อนแบบงอนๆ เพราะเธออายและเขินจนไม่รู้จะมองหน้าของเขายังไงแล้ว คนอะไรช่างกล้าทำอะไรแบบนี้ต่อหน้าเธอแบบไม่อาย“ก็ได้ แต่คุณไม่ต้องใส่ชุดนี้แล้ว ใส่แค่ผ้ากันเปื้อนก็พอ ผมว่ามันน่ารักดี” ฟรานติโน่พูดไปก็ยักคิ้ว แล้วเขาห็หยิบผ้ากันเปื้อนสีขาวดำมาใส่ให้เธอ แล้วมันก็ปกปิดแค่เพียงด้านหน้าเท่านั้น ส่วนด้านหลังเป้นแค่สายมัดเหมือนปกติทั่วไป ดีนะที่เขายังให้เธอใส่กระโปรงอยู่ ไม่งั้นเธอคงได้อายกว่านี้“แค่นี้ใช่ไหมคะ พิชจะได้ทำอาหารต่อ” พิชชาภาลง
“อ้ะ พิชแค่เช็ดพื้น พิชไม่ได้ยั่วคุณสักหน่อย คุณคิดเองเออเอง อ้ะ คุณฟราน อย่านะคะ” พิชชาภาบอกไปก็วางผ้าที่ซักไป ก่อนจะล้างมือทำความสะอาดแล้วเธอก็พยายามเอ่ยพูดห้ามเขาอย่างแกล้งๆ ก่อนจะหันตัวไปที่โต๊ะกลางห้องครัวแล้วเอามือยันโต๊ะไว้“อย่าอะไรกัน คุณยั่วจนผมแข็งขนาดนี้แล้ว คุณก็ต้องรับผิดชอบสิ” ฟรานติโน่เอ่ยบอกไปก็คุกเขาลงไปที่พื้น แล้วเอามือขย้ำก้นของพิชชาภาอย่างมั่นเขี้ยว ก่อนจะตบก้นเธอแรงๆ“เพี๊ยะ อ้ะ ยั่วนักใช่ไหม เพี๊ยะ อ้ะ เดี๋ยวจะเลียให้แตกคาปากเลยแม่ตัวดี เพี๊ยะ อ้ะ” ฟรานติโน่พูดไปก็ตบก้นของพิชชาภาไปจนเธอร้องครางออกมาทุกครั้งที่เขาตบก้นของเธอ“คุณฟรานขา อ่าส์” พิชชาภาครางไปก็แอ่นก้นใส่หน้าของฟรานติโน่อย่างไม่รู้ตัว ตอนนี้เธอรู้แค่ว่าเธอเสียวจนอยากจะปลดปล่อยออกมาเท่านั้น“ร่องแดงน่าเลียดีจริงๆ แผล็บ แผล็บ” ฟรานติโน่พูดไปก็เอามือแบะก้นของพิชชาภาออกจนรอยแยกกลีบกุหลาบมันโชว์ต่อหน้าเขา เขาก็มุดหน้าเข้าไปลิ้มรสน้ำหวานจากร่องสวาทของเธอทันที ก่อนจะเอามืออ้อมไปด้านหน้าแล้วเอานิ้วโป้งบี้คลึงปุ่มสวาทของเธอไปด้วย“อ้ะ ผัวขา อย่าทรมาน อ้ะ อ้ะ เมียสิคะ อ้ะ อ้ะ” พิชชาภาครางไปก็ส่ายก้นหนีฟรานติโ
พอผ่านไปสักัพกเขาก็ถอนแก่นกายออกจากร่องสาวแล้วปล่อยร่างบางให้ยืนที่พื้น แล้วเขาก็คุกเข่าลงไปจับขาข้างหนึ่งของพิชชาภาไปยันที่โต๊ะ แล้วเขาก็คุกเข่าลงไปที่พิ้นแล้วจ่อหน้าไปหาร่องสาวแล้วดูดเลียอย่างเมามันส์“แผล็บ แผล็บ แผล็บ จึก จึก จึก จึก” ฟรานติโน่เลียร่องสาวไปก็ส่งนิ้วเข้าไปในร่องสาว แล้วก็แยงนิ้วใส่ร่องสาวรัวๆไปพร้อมๆกัน ส่นมืออีกข้างก็ชักรูดท่อนเอ็นไปด้วย“อ้ะ อ้ะ อ้ะ ฮะ เฮียฟราน พิชเสียว อ้ะ อ้ะ กระแทกพิชเถอะค่ะ พิช พิช ไม่ไหวแล้ว อ้ะ อ้ะ อ้ะ” พิชชาภาครางบอกไป เพราะเธออยากแตกด้วยท่อนเอ็นมากกว่านิ้วของเขา“ได้ เดี๋ยวจะเอาแตกคาร่องเลย ถุ้ย” ฟรานติโน่พูดบอกไปก็ยืนขึ้นแล้วจับพิชชาภาหันตูกมาทางเขา แล้วเขาก็ถุยน้ำลายไปถูที่ท่อนเอ็นแล้วจับท่อนเอ็นใส่ร่องสาวอีกครั้งในท่าหมา“ใส่เข้ามาสิคะ อ้ะ ซี๊ด รอบนี้ไม่ต้องยั้งแรงนะคะ ผัวขา อ้ะ อ้ะ อ้ะ อ้ะ” พิชชาภาโดนฟรานติโน่สอดใส่ท่อนเอ็นเข้ามาก็ร้องครางบอกไปอย่างร่านๆ ก่อนจะก้มตัวลงไปเอามือวางที่โต๊ะแล้วปล่อยให้ฟรานติโน่รัวกระแทกท่อนเอ็นใส่ร่องสาวของเธออยู่แบบนั้น“อ่าส์ ร่านนักใช่ไหม เพี๊ยะ เพี๊ยะ โอว์ แม่ง อ่าส์ ซี๊ด” ฟรานติโน่ตอบกลับอย่างมั่นเขี
“ครับ ผมจะดูแลอย่างดีเลยครับ แต่ตอนนี้ผมต้องพาพลอยเข้าไปในเกรทแล้ว ไว้ช่วงปิดเทอมเจอกันนะครับคุณน้า พี่พิช” เจตรินตอบไปพร้อมกับรอยยิ้ม ก่อนจะยิ้มให้ทุกคน“จ้ะ โชคดีนะลูก ถึงแล้วโทรหาแม่ด้วยนะ แม่รักลูกนะ จุ๊บ” พิริมาเอ่ยบอกลูกสาวก็เข้าไปกอดแล้วหอมแก้มลูกสาวอย่างอาลัย ก่อนจะให้สามีได้บอกลาลูกสาวบ้าง“แด๊ดก็รักหนูนะลูก เดินทางปลอดภัยนะคนสวยของแด๊ด” โจเซฟบอกไปก็กอดลุกสาวแล้วหอมแก้มเช่นเดียวกับภรรยา ก่อนจะปล่อยให้พิชชาภาได้พูดต่อ“พี่ก็รักพลอยนะ อย่าลืมคิดถึงพี่บ้างนะ ตั้งใจเรียนล่ะ” พิชชาภาพูดไปก็พยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ เพราะไม่อยากจะร้องไห้ต่อหน้าน้องสาว เธอก็ฝืนยิ้มให้ไป แล้วมองน้องสาวอย่างรักใคร่เอ็นดู“พลอยรักทุกคนนะคะ พลอยไม่อยู่ก็ดูแลตัวเองกันด้วยนะคะ แด๊ดก็อย่าลืมทานยาด้วยนะคะ แม่ก็ห้ามทำงานจนลิมพักผ่อนนะคะ ส่วนพี่พิชก็อย่าเอาใจคนอื่นจนลืมตัวเองนะคะ พลอยไปก่อนนะคะ สวัสดีค่ะพ่อแม่ พี่พิช” พลอยลดาบอกไปก็ยกมือไหว้ทั้งสามคนก่อนจะเข้าปกอดแล้วจากนั้นเธอก็เดินเข้าเกรทไปพร้อมกับเจตริน ในวันนี้เธอต้องจากบ้านเกิดเมืองนอนไปเรียนต่อแล้วจริงๆสินะ“กลับกันเถอะลูก ยัยพลอยเข้าไปแล้ว” พิริมาหันมาบอ
“ไม่มีอะไรหรอกน่า” แฟรงก์พูดไปขณะถอดถุงยางอนายมัยที่เต็มไปด้วยน้ำรักทิ้งขยะไป ก่อนจะเอาทิชชู่เปียกมาเช็ดทำความสะอาดน้องชายของเขาให้สะอาด แล้วจัดการยัยท่อนเอ็นใส่ในกางเกงดังเดิม“คุณคะ ออกมาก่อนได้ไหมคะ ฉันจะอั้นฉี่ไม่ไหวแล้ว” พลอยลดาร้องบอกไปก็เอามือกุมท้องของตัวเองไว้อย่างอดทน นี่ไม่รู้จะเอากันไปถึงไหน ไม่เห็นจคนปวดฉี่บ้างรึไงนะ พลอยลดาคิดในใจอย่างเจ็บแค้นในใจที่เธอต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ในการเดินทางครั้งแรกพอแอร์สาวเห็นหนุ่มหล่อที่เธอสนุกด้วยแต่งตัวเสร็จเธอก็เปิดประตูห้องน้ำออกทันที ก่อนจะเด็กสาวหน้าตาน่ารักยืนทำหน้าปวดท้องอยู่ที่หน้าห้องน้ำ ส่วนแฟรงก์ก็อึ้งที่เห็นใบหน้าหวานที่เขาจำเธอได้แม่นเลยว่าเธอคือเด็กสาวที่เขาขับรถชนในวันนั้นพลอยลดาที่กำลังปั้นหน้าอดทนอยู่ก็เงยหน้ามองคนที่มาระเรงสวาทกันในห้องน้ำทันทีก่อนจะอึ้งไปเมื่อเจอกับเทพบุตรหนุ่มหล่อของเธอในวันนั้น ทำไมเขามาอยู่ตรงนี้ได้ ทำไมเขาถึงได้มีอะไรกับแอร์โอสเตสคนนี้ ทำไมเขาถึงกลายเป็นคนเจ้าชู้หื่นกามแบบนี้ แล้วเทพบุตรที่เธอเจอวันนั้นใช่เขาคนนี้จริงๆงั้นเหรอ พลอยลดาคิดไปก็อดทนไม่ไหวเธอจึงเอ่ยพูดออกไปอย่างอารมณ์เสียทันทีเพราะเธ
ด้านเจตรินพอเข้าห้องน้ำเสร็จก็มานั่งที่ของตัวเองจนแฟรงก์ที่มองเด็กสาวถึงกับเลิกคิ้วสงสัยว่าทั้งสองคนมาด้วยกันได้ยังไง ไหนคู่ขาของเขาบอกว่าไอ้เด็กคนนั้นมีคู่หมั้นแล้วไง ทำไมมันถึงมากับเด็กคนนี้ได้ แฟรงก์มองอย่างสงสัยก่อนจะมองทั้งสองอย่างสังเกต“เจ พลอยเจอผู้ชายที่ขับรถชนพลอยที่นี่ด้วยอ่ะ แต่พลอยไม่อยากยุ่งกับเขา เจช่วยแกล้งเป็นแฟนพลอยก่อนนะ” พลอยลดาพิมข้อความส่งให้เพื่อนหนุ่มอ่าน จนเจตรินทำหน้าสงสัยแล้วเงยหน้ามองหน้าคนที่พลอยลดาหมายถึงอยุ่ ก็เห็นเขากำลังมองมาที่พวกเขาอยู่ เจตรินจึงเล่นตามน้เลยทันทีเพราะรู้ว่าเพื่อนสาวต้องมีเหตุผลแน่“ที่รัก เดี๋ยวลงเครื่องแล้วเราไปหาอะไรอร่อยๆทานแล้วค่อยไปเที่ยวดีไหม” เจตรินพูดออกไปเป็นภาษาไทยเสียงดังพอที่ผู้ชายคนนั้นจะได้ยิน เพราะที่นั่งของพวกเขาก็ไม่ได้ไกลกันมาก“ตามใจที่รักเลยค่ะ พลอยยังไงก็ได้” พลอยลดาพูดไปก็แกล้งเอามือบีบแก้มของเจตรินอย่างอ้อนๆ จากนั้นพอเครื่องลงจอดพลอยลดาก็เกาะติดเจตรินอย่างกับปลิง เพราะกลัวว่าชายคนนั้นจะเข้ามาทำอะไรเธอแบบเมื่อคืนอีก จนตอนเอากระเป๋าเธอกับเจตรินก็แยกกันเอาคนละฝั่ง เพราะของเธออยู่อีกฝั่งหนึ่ง“หนักชะมัด” พลอยลดาบ่น
ด้านแฟรงก์และพลอยลดาก็นั่งแอบอยู่ที่ห้องของแฟรงก์ เพราะว่าห้องนอนของแฟรงก์มันมีระเบียงมองไปที่สระว่ายน้ำแบบชัดเจน และพวกเขาก็เชื่อมสายไฟต่างๆให้มาอยู่ในห้องของแฟรงก์ เพื่อสะดวกต่อการเซอร์ไพร์สครั้งนี้ ส่วนคนที่แฟรงก์ให้มันจัดการ เขาก็ให้กลับตั้งแต่ครึ่งช่วโมงก่อนหน้านี้ไปหมดแล้วด้านฟรานติโน่ก็พาพิชชาภาเดินออกมาแล้วคอยพยุงเธอมาจนถึงสระว่ายน้ำที่ถูกตกแต่งไปด้วยลูกโป่งพร้อมมีแสงสีหลากสีสวยงามอยู่รอบๆ ก่อนจะส่งสัญญาณบอกกับน้องชายที่อยู่กับพลอยลดาให้ทำตามแผน ด้วยการปิดไฟที่สระว่ายน้ำทั้งหมดเพื่อเขาจะเปิดตาของพิชชาภา“พี่ฟรานจะทำอะไรคะ เมื่อไหร่จะถึงสักที” พิชชาภาที่ถูกปิดตาเอ่ยถามออกไปอย่างตื่นเต้นว่าฟรานติโน่กำลังจะทำอะไรเธอถึงพาเธอปิดตาแล้วเดินมานานขนาดนี้“เดี๋ยวก่อนนะคนดี ยืนตรงนี้แปปนึงนะครับ” ฟรานติโน่พูดเสียงเพราะก็ยิ้มมุมปากก่อนจะมองไปรอบๆที่ไฟทั้งหมดถูกปิดแล้วจนมันมืด เขาก็เอามือเอื้อมไปปลดผ้าปิดตาของพิชชาภาออกมา“ลืมตาได้แล้วคนดี” ฟรานติโน่บอกไป พิชชาภาก็ค่อยลืมตามาก็เห็นฟรานติโน่ยืนยิ้มใส่เธออยู่“มีอะไรกันคะ ทำไมต้องปิดตาพิชด้วย” พิชชาภาเอ่ยถามอย่างสงสัย ก่อนจะเห็นว่ามันมืดมาก
พอเช้าของอีกวันฟรานติโน่และแฟรงก์ก็พาพิชชาภาเดินทางไปส่งพลอยลดาที่บ้านของอลิซ่าผู้ดูแลพลอยลดาที่นี่โดยรถสปอตคันหรู เพื่อเข้าไปพูดคุยเกี่ยวกับการย้ายที่อยู่ของพลอยลดาให้มาอยู่ในความดูแลของฟรานติโน่ แต่ก็เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้น กว่าฟรานติโน่และแฟรงก์จะเคลียร์ปัญหากับอดัมและอลิซ่าเสร็จก็นานเป็นชั่วโมง จากนั้นก็ช่วยกันขนของใช้ส่วนตัวของพลอยลดาออกมาบางส่วน แล้วก็กลับมาที่บ้านของฟรานติโน่“ช่วงที่พี่ยังอยู่ที่นี่พลอยก็พักห้องนั้นไปก่อนนะ เดี๋ยวถ้าพี่กับพิชกลับไทยไป พลอยก็ค่อยย้ายมาอยู่ห้องนี้ก็แล้วกันนะ ส่วนเรื่องที่พักเดี๋ยวพี่จะให้ไอ้แฟรงก์มันจัดการให้ ไม่ต้องห่วงนะ พิชพาน้องเอาของไปเก็บที่ห้องก่อนเถอะ” ฟรานติโน่บอกทั้งสองสาวไปด้วยรอยยิ้มเอ็นดู เพราะวันนี้เด็กสาวเจอแต่เรื่องไม่ดี เขาจึงพยายามพูดดีกับเธอให้เหมือนพี่ชายคนหนึ่งควรจะทำ“ไปกันเถอะยัยพลอย มาพี่ช่วยถือ” พิชชาภาเอ่ยพูดไปเสียงอ่อน ก็ช่วยน้องสาวที่ใบหน้าเศร้าเดินเข้าไปที่ห้องของน้องสาว พอแฟรงก์เห็นสองสาวเดินเข้าไปให้ห้องแล้ว เขาก็เอ่ยถามพี่ชายทันที“อ่าวเฮีย ทำไมเฮียไม่ไปจัดการเองอ่ะ ผมก็มีงานต้องทำนะครับ ไม่ได้มีเวลาไปทำอะไรให้ใคร โ
หลังจากนั้นทั้งสองก็หลับพักผ่อนจนเกือบเย็น ตื่นมาอีกทีก็เกือบจะหกโมงเย็นกว่าทั้งสองจะออกมาหาแฟรงก์และพลอยลดาที่ในบ้านหลังนี้ด้วย“อ่าวยัยพลอยทำไมมานั่งคนเดียว แล้วพี่แฟรงก์ล่ะ” พิชชาภาเดินออกมาจากห้องแล้วเดินไปที่ห้องโถงกลางบ้านก็เจอน้องสาวกำลังนั่งทำหน้ายักษ์อยู่ จึงเอ่ยถามออกไป“ไม่รู้สิคะ ป่านนี้คงนอนอืดตายแล้วมั้งคะ” พลอยลดาเอ่ยบอกไปด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ เพราะยิ่งเธอนึกถึงตอนที่เขามาแอบมองเธอเล่นน้ำ แล้วเขาก็เล่นกับเจ้านั่นของเขา ยิ่งนึกถึงเหตุการณ์เมื่อตอนบ่ายเธอก็อดโมโหไม่ได้“ยัยพลอย พี่แฟรงก์เขาแก่กว่าเราตั้งกี่ปี เคารพเขาบ้างสิเราน่ะ อีกอย่างต่อไปเราต้องอยู่กับพี่แฟรงก์ที่นี่ เพราะฉะนั้นเราต้องทำตัวดีๆกับพี่เขา เข้าใจไหม” พิชชาภาเอ่ยดุน้องสาวไปอย่างเตือนๆ เพราะยังไงแฟรงก์ก็อายุมากกว่าน้องสาวของเธอ“เคารพคนแบบนั้นไปทำไมล่ะคะ พี่พิชรู้ไหมว่าอีตานั่นมัน” พลอยลดาที่โมโหอยุ่พูดออกไปอย่างลืมตัว ก่อนจะหยุดพูดไปเพราะกลัวว่าพี่สาวจะเป็นห่วงมากกว่าเดิม“ทำไม พี่แฟรงก์ทำอะไรเรา บอกพี่มานะ” พิชชาภาเริ่มทำหน้าเครียดแบบจริงจัง พร้อมกับจ้องมองน้องสาวอย่างจับผิด“เปล่าค่ะ เขาก็แค่ชอบพูดกวนพลอย
ด้านฟรานติโน่ที่เขามารอพิชชาภาในห้องก็กระตุกยิ้มมุมปากเมื่อเขาคิดแผนอะไรดีๆออกแล้ว ว่าเขาควรจะเอาเวลาที่อยู่ที่นี่ทำอะไรดี แต่ก่อนที่เขาจะโทรหาเมที เขาจึงแอบส่งข้อความให้น้องชายช่วยดูแลน้องสาวของพิชชาภาระหว่างที่พวกเขาจะพักผ่อน จากนั้นเขาก็เดินไปล็อคประตูห้องแล้วเลือกที่จะโทรหาเมทีทันที“ว่าไงครับคุณแฟรงก์ มีอะไรให้ผมรับใช้ครับ” เมทีรับสายแล้วกรอกเสียงพูดไปอย่างเป็นกันเอง ก่อนจะคิดในใจว่าเจ้านายของเขาคงจะมีงานด่วนให้เขาทำแน่ๆถึงโทรมาเร็วขนาดนี้ ทั้งที่พึ่งจะกำลังถึงอเมริกา“มีแน่ๆ ฉันจะเซอร์ไพร์สขอเมียฉันแต่งงานที่นี่” ฟรานติโน่เอ่ยบอกออกไปก็คิดไปพร้อมกับรอยยิ้มที่ฉายออกมาอย่างอดไม่ได้ว่าพิชชาภาจะมีความสุขขนาดไหนถ้าเขาทำอะไรมุ้งมิ้งแบบนี้ให้เธอ“อะไรนะครับ นี่คุณฟรานจะขอคุณพิชแต่งงานที่นั่นเหรอครับ แต่คุณฟรานกับคุณพิชแต่งงานกันแล้วนิครับจะขอแต่งงานกันไปทำไมล่ะครับ ยังไงก็จดทะเบียนกันแล้วนิครับ” เมทีเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ เพราะทั้งสองก็จดทะเบียนสมรสกันไปแล้ว ทำไมต้องมาทำเซอร์ไพร์สอะไรอีก“ฉันไม่แปลกใจเลยว่าทำไมแกถึงไม่มีเมียจนถึงอายุปูนนี้ ไม่มีความโรแมนติกเลยนะแกเนี่ย ถึงฉันกับพิชจะจดท
หลังจากนั้นทั้งสี่คนก็นั่งรถเดินทางไปยังบ้านของฟรานติโน่ที่อยู่ในเมืองฮอลลีวูดซึ่งมันเป็นเมืองที่อยู่ในลอสแองเจลิสอีกที แต่ก็ถือว่าเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงอยู่เหมือนกัน นั่งรถมาครึ่งชั่วโมงก็ถึงบ้านที่อยู่ริมทะเล“นี่บ้านเหรอคะเนี่ย ใหญ่เวอร์วังไปอีก” พลอยลดาลงจากรถคันหรูก็มองบ้านของพี่เขยอย่างอึ้งๆ เพราะมันเรียกว่าบ้านไม่ได้ มันต้องเรียกว่าคฤหาสน์แล้ว ยิ่งอยู่ติดทะเลแบบนี้พี่เขยเธอคงจะรวยน่าดู เพราะคนที่นี่ถ้าไม่รวยจริงอยู่ติดทะเลแบบนี้ไม่ได้แน่“นี่บ้านของพี่ฟรานจริงๆเหรอคะ” พิชชาถาเองก็อึ้งไม่ต่างจากน้องสาว เพราะบ้านของเขาที่ไทยก็ใหญ่มากแล้ว แต่พอเจอที่นี่ไปบ้านที่ไทยดูธรรมดาไปเลย“ พี่กับไอ้แฟรงก์พึ่งซื้อได้ไม่นานเท่าไหร่ มันสวยดีพี่ก็เลยซื้อเก็บไว้เผื่อมาทำงานที่นี่จะได้มีบ้านนอนสบายๆ ” ฟรานติโน่เอ่ยบอกไปก็จูงมือของพิชชาภาเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ริมทะเล เขาเลือกซื้อที่นี่ไว้เพราะทำงานที่อเมริกาแต่ละครั้งก็หลายเดือน ซื้อบ้านไว้น่าจะสะดวกกว่า“จะไม่เข้าบ้านเหรอ มัวแต่ยืนยิ้มอยู่ได้ ไม่ร้อนไง” แฟรงก์พูดไปก็มองหน้าของเด็กสาวอย่างกวนๆ ก่อนจะเดินตามฟรานติโน่และพิชชาภาเข้าไปในบ้าน“หืม ไอ้บ้
ด้านพิชชาภาก็เดินทางมาถึงอเมริกาก็เกือบสิบโมงเช้า พอได้เห็นเมืองที่น้องสาวอยู่ก็รู้สึกดีใจที่น้องสาวได้มาเรียนที่นี่ นั่นก็คือเมืองลอสแองเจลิสที่อยู่ในรัฐแคลิฟอเนียซึ่งอยู่ในแทบทะเลถือว่าเป็นเมืองที่ใหญ่มากๆเมืองหนึ่งในอเมริกา“ไงเราตื่นเต้นละสิ ตาลุกวาวเลยนะ” แฟรงก์เอ่ยพูดกับพิชาภาอย่างแซวๆ เมื่อเธอยิ้มหน้าบานแถมยังทำท่าตื่นเต้นจนออกนอกหน้า ซึ่งต่างจากเขาและพี่ชายที่มาที่นี่บ่อยแล้วเพราะมีธุรกิจอยุ่ที่นี่เป็นส่วนใหญ่“เมืองนี้สวยมากเลยอ่ะพี่แฟรงก์ ตอนเครื่องลงพิชมองดูวิวแล้วนะ เริสมาก เดี๋ยวต้องไปอ้อนพี่ฟรานให้พาเที่ยวหน่อยแล้วล่ะค่ะ” พิชชาภาพูดบอกไปก็ยิ้มหน้าบานก่อนจะหันไปหาฟรานติโน่ที่ยืนส่ายหัวใส่เธออยู่ข้างๆแฟรงก์“นี่มาหาน้องสาวไม่ใช่เหรอเรา ยังไม่ทันไรก็จะให้พี่พาเที่ยวเหรอ เคลียร์เรื่องน้องสาวเราให้จบก่อนเถอะ” ฟรานติโน่เอ่ยพูดบอกไปพร้อมกับเก็กท่าหล่อใส่พิชชาภาจนพิชชาภามองเขาอย่างเบะปากแบบหมั่นไส้“เคลียร์แน่ค่ะ นี่ก็บอกว่าถ้าส่งงานอาจารย์แล้วจะมารอรับที่สนามบิน ทำไมยังไม่มาก็ไม่รู้” พิชชาภาพูดบอกไปก็แลสายตามองหาน้องสาว เพราะน้องสาวของเธอบอกจะมารอรับ เพราะไม่อยากอยู่บ้านคนเดียว
“เฮ้อ เบื่อพวกข้าวใหม่ปลามันจริงๆ ถ้าเฮียเป็นห่วงน้องพิชเดี๋ยวผมไปส่งน้องพิชเขาก่อนก็ได้ เพราะผมว่างงานมากเลยเฮีย ไม่ได้มีงานเต็มโต๊ะแบบเฮีย” แฟรงก์พูดไปอย่างกวนๆก็มองทั้งสองพูดคุยกันต่อ“มันจำเป็นต้องไปขนาดนั้นเลยเหรอ ก็ได้พี่จะให้พิชไปอเมริกา” ฟรานติโน่พูดไปอย่างไม่สนใจน้องชาย ก่อนจะยอมแพ้ลูกอ้อนของพิชชาภา เพราะแค่เห็นสายตาของเธอเขาก็สยบแทบเท้าของเธอแล้ว“เออโว้ย ยอมง่ายดีจริงพี่กู คนกลัวเมียสองพันสิบแปดชัดๆ” แฟรงก์พูดออกมาเบาๆอย่างงงๆ เมื่อกี้พี่ชายเขายังทำท่าแข็งขืนอยุ่เลย ตอนนี้กลับยอมง่ายๆ“พี่จะไปกับพิชด้วย ไปพรุ่งนี้ใช่ไหม พี่จะให้เมทีหาตั๋วเครื่องบินให้” ฟรานติโน่พูดออกไปจนพิชชาภายิ้มออกมาอย่างดีใจ“ขอบคุณนะคะ พี่ฟรานน่ารักที่สุดเลยค่ะ” พิชชาภาพูดบอกไปก็เอามือบีบแก้มของฟรานติโน่อย่างน่ารัก“อ่าวเฮียไหนบอกมีงานเยอะปลีกไปไม่ได้ไง แล้วงานที่นี่ใครจะทำเล่า” แฟรงก์เอ่ยถามออกไปอย่างงงๆ ปากอ้างว่ามีงานเยอะแต่พอพิชชาภาพูดว่าจะไปอเมริกาเท่านั้นแหละ พี่ชายของเขากลับเปลี่ยนใจทันที แบบนี้มันน่าน้อยใจจริงๆ“มันเรื่องของฉัน แกเองก็ไปเตรียมตัวด้วย เราจะไปอเมริกาพร้อมกัน” ฟรานติโน่เอ่ยบอกไปก
“อดัมพ่อเลี้ยงของอลิสค่ะพี่พิช เขาจะลวนลามพลอย อือๆ พลอยไม่จะทำยังไงดีคะ พลอยไม่กล้าบอกเจกับอลิสด้วย พลอยไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว พลอยอยากกลับบ้าน พี่พิชช่วยพลอยนะคะ อือๆ” พลอยลดาเอ่ยบอกพี่สาวด้วยเสียงสะอื้น เธอพยายามอดทนมานานแล้ว แต่วันนี้อดัมพยายามลวนลามเธอจนเธอทนไม่ได้แล้ว แล้วเธอก็ไม่รู้จะบอกอลิซ่าแม่ของอลิสยังไง เธอกลัวว่าพวกเขาจะไม่เชื่อเธอ“ใจเย็นๆนะพลอย เดี๋ยวพี่จะจัดการเรื่องนี้เองแล้วเราก็พยายามอยู่ห่างๆอดัมไว้อย่าไปใกล้เขา ถ้ามีอะไรก็เรียกให้เจช่วยนะพลอย แล้วก็ล็อคห้องดีๆ เข้าใจไหม เราไม่ต้องเป็นห่วงนะพี่จะไม่ยอมให้เราอยู่ที่นั่นอีกต่อไป” พิชชาภาเอ่ยบอกไปอย่างเป็นห่วงน้องสาว เธอไม่คิดเลยว่าน้องสาวของเธอจะเจอเรื่องแบบนี้ ขออย่าให้น้องสาวเธอโดนไอ้แก่อดัมนั่นทำอะไรเลย พิชชาภาคิดไปอย่างกังวล“ค่ะพี่พิช พลอยรู้นะคะว่าพ่อกับแม่ไม่มีเงินให้พลอยไปพักอยู่ที่อื่นหรอก เพราะที่พลอยมาเรียนที่นี่ได้ก็เพราะเงินของพี่พิช แต่ตอนนี้พลอยยอมกลับไปเรียนที่ไทยก็ได้ค่ะ แต่พลอยขอพี่พิชบอกพ่อกับแม่เรื่องนี้นะคะ พลอยไม่อยากให้พวกท่านเป็นห่วงพลอยค่ะ” พลอยลดาบอกไปอย่างท้อใจ เพราะเธอเจอเรื่องแบบนี้แล้วมัน
“อ่าส์ พิช เจ็บไหม พี่ทำแรงไปหน่อย” ฟรานติโน่เอายถามออกไปก็มองพิชชาภาอย่างสงสาร เพราะวันนี้เขาเผลอเอาเธอแรงไปหน่อย“ไม่ค่ะ เพื่อลูกของเราพิชทนได้” พิชชาภาบอกไปก็ยิ้มละมุมใส่ฟรานติโน่“บล็อก อ่าส์ แดงเชียว” ฟรานติโถอนท่อนเอ็นออกจากร่องสาวก็นั่งยองๆดูร่อร่องสาวของพิชชาภาที่แดงเผือก ก่อนจะเห็นน้ำรักของเขาไหลออกมาจากรูเล็กๆนั่น เขาก็เอื้มมือไปหยิบทิชชู่มาเช็ดคราบน้ำรักของเขาออกไป“เดี๋ยวพิชทำเอง พี่ฟรานจัดการของตัวเองเถอะค่ะ” พิชชาภาเอ่ยบอกไปก็ลุกขึ้นแล้วดึงกระโปรงของเธอลง ก่อนจะมองหากางเกงชั้นในของตัวเองที่วางอยู่ขอบโต๊ะทำงานของฟรานติโน่ เธอก็ลุกขึ้นไปหยิบมาทันที“งั้นไปพร้อมกันนั่นแหละ” ฟรานติโน่บอกไปก็จูงมือพาพิชชาภาไปเข้าห้องน้ำในห้องทำงานของเขาที่อยู่ในห้องทำงานทันทีหลังจากนั้นทั้งสองก็ช่วยกันทำความสะอาดของกันและกันจนเสร็จ ฟรานติโน่ก็มานั่งที่เก้าอี้ตรงโต๊ะทำงาน ส่วนพิชชาภาก็ไปนั่งที่เก้าอี้ตรงข้ามกับฟรานติโน่แล้วเธอก็เอามือท้าวคางมองฟรานติโน่ทำงานอย่างหลงใหล“คนอะไร ยิ่งดูยิ่งหล่อ ยิ่งดูยิ่งน่าเอา” พิชชาภาพูดไปก็มองฟรานติโน่ไป จนฟรานติโน่ที่กำลังอ่านเอกสารถึงกับเงยหน้ามามองพิชชาภาอ