บุญทิ้งตื่นจากภวังค์ก่อนจะยิ้มและค่อยๆ เลียไล้ปลายยอดแข็งสู้ลิ้นอย่างบางเบา เพราะนางเรียมนี้จริตจะกร้านเกินตัวจริงๆ อย่างนี้แล้วเห็นทีนางเรียมจะได้เป็นทาสนางแรกที่คุณพระท่านพึงใจก็เป็นไปได้
“น้องเรียมจ๋า จำที่พี่สอนเอาไว้ให้ดี น้องเรียมต้องโอนอ่อนผ่อนตามที่คุณพระท่านต้องการทุกอย่าง และหากเป็นไปได้น้องเรียมต้องทำอย่างนี้”
“ทำอย่างไหนหรือจ๊ะ พี่ทิ้งจ๋า...”
“อย่างนี้ไงเล่า”
“ว้าย! พี่ทิ้งก็ อะไรก็ไม่รู้”
นางเรียมร้องวี้ดว้ายแต่ก็มองไอ้ทิ้งน้อยตาไม่กะพริบ เมื่อบุญทิ้งนอนราบกับผืนหญ้าและปล่อยให้ไอ้ทิ้งน้อยตั้งโด่ แข็งเด่นจนแทบจะทิ่มหน้าทิ่มตาของนางเรียม และไม่เพียงแค่นั้นเมื่อบุญทิ้งรั้งฝ่ามือของนางเรียมเข้ามาจับ นางเรียมก็กลัวเสียจนต้องฝืนมือเอาไว้
“จับเถอะน้องเรียม พี่กำลังจะสอนสิ่งที่ผู้ชายทุกคนต้องการ ถ้าน้องเรียมทำให้คุณพระท่านเยี่ยงนี้ น้องเรียมจะได้เรือนใหม่ แม่รินก็จะได้สบาย จับสิจ๊ะ พี่จะสอน”
นางเรียมกลืนน้ำลายลงคอ ทั้งกล้าทั้งหวั่นปะปนกัน ทว่าไอ้ทิ้งน้อยที่ผงกหัวทักทายก็ทำให้มันอยากรู้ว่าความแข็งขืนที่ทำให้ลมหายใจแทบขาดห้วงไปด้วย
แต่สิ่งที่แม่พิศคิดไว้กลับกลายเป็นอีกทางเมื่อคุณพระต้องไปรายงานข้อราชการในวัง จึงให้เจ้าเข้มล่วงหน้ามาแจ้งให้แม่พิศทราบว่าคุณพระจะกลับเรือนในช่วงเย็น เพื่อที่แม่พิศจะได้ไม่ต้องรอคอยแม่พิศนั้นเข้าใจในงานราชการของคุณพระดี เพราะอยู่กินเป็นผัวเมียร่วม 20 ปี ทว่าครานี้แม่พิศกลับร้อนรุ่มกลุ้มใจอยู่มาก เพราะความคาดหวังในอีกคราต้องพังทลาย เมื่อคราก่อนคุณพระก็รีบรุดออกจากเรือนแต่เช้าตรู่ แลครานี้ก็จะกลับมาในช่วงเย็นอีกหากแม้นว่าหล่อนจะสกัดกั้นตัวคุณพระไว้ที่เรือนใหญ่ คงต้องอับอายพวกบ่าวไพร่ที่ไม่ส่งคุณพระให้ร่วมห้องกับนางเรียมในค่ำคืนนี้เป็นแน่ ยิ่งคิดแม่พิศก็ยิ่งกลัดกลุ้มความกระสันซ่านในกามารมณ์ช่างมีพิษอานุภาพร้ายแรงถึงเพียงนี้ เพราะความรุนแรงของพิษดำฤษณานั้นกำลังเล่นงานแม่พิศให้อยู่ไม่เย็นเป็นไม่สุข ทั้งร้อนเร่ารุมเร้าจนเนื้อกายสะบัดร้อนสะบัดหนาว ทรมานกายและทรมานใจอย่างที่สุด“คุณเจ้าขา เป็นอันใดไปหรือเจ้าคะ ประเดี๋ยวช่วงเย็นคุณพระท่านก็กลับมาเรือนแล้วเจ้าค่ะ”นางอิ่มวางมือบนฝ่าเท้าของคุณนายพิศ สีหน้าไม่สดชื่นของนายสาวนั้นทำให้นางอิ่มไม่สบายใจเลย ทั้ง
เมื่อนั้นนางทาสสาวกับไอ้ทาสหนุ่มก็คงจะระเริงกามกันอย่างสุขี และคงไม่มีทางที่หล่อนจะไปแยกคนทั้งคู่ได้อีก “คืนนี้เอ็งรู้ใช่รึไม่ ว่าเอ็งต้องไปรับใช้คุณพระท่านที่เรือนรับรอง” “บ่าวรู้เจ้าค่ะ” นางเรียมรับคำสีหน้ามีแววกังวล “อืม... รู้ก็ดีแล้ว แล้วเอ็งรู้หรือไม่ว่า ต้องรับใช้คุณพระท่านเช่นไรบ้าง” “เอ่อ... บ่าว... บ่าวไม่รู้เจ้าค่ะ” “เอ็งเคยเล่นผัวเมียกับใครมาบ้างหรือยัง” นางเรียมที่สะดุ้งวาบพร้อมกับทำหน้าตื่นราวกับคนจะร้องไห้ทำให้แม่พิศยิ้ม แต่เป็นรอยยิ้มแห่งความสมใจที่สุดท้ายแล้วนางเรียมก็ไม่กล้าที่จะพูดว่าไปนอนกับใครมาบ้าง&n
นางเรียมช่างเป็นเด็กสาวที่มีเรือนกายอุดมสมบูรณ์ มิต่างจากเมื่อครั้งที่หล่อนยังเป็นสาวรุ่น ผิดแต่ว่าเนื้อกายที่หยาบจากการทำงานนี้คงต้องบำรุงประทินกันอีกนานกว่าจะงดงามได้มากเท่าหล่อน ทว่านางเรียมก็มีทรวดทรงที่น่าลูบไล้จับต้อง ตามธรรมดาของหญิงที่ต้องมือชายมาแล้ว “ดูแลห้องอาบน้ำให้คุณพระท่านให้เรียบร้อย ใยบวบต้องสะอาดนุ่ม เอ็งต้องตรวจดูไม่ให้มีเศษเปลือกหรือส่วนที่แข็งติดอยู่ ต้องแช่น้ำจนนิ่มก่อนจะนำมาขัดร่างกายให้คุณพระท่าน ต้องแยกชิ้นที่ขัดส่วนบนและส่วนล่างออกจากกันไม่ใช้ปะปนเด็ดขาด น้ำส้มมะขามต้องใช้ผ้ากรองเอาเศษเปลือกเศษแข็งออกให้หมด ไม่ใช่อย่างที่เอ็งเคยเอาส้มมะขามทั้งก้อนมาขัดถูเนื้อตัวตนเองดอกนะ สำหรับคุณพระท่าน เอ็งต้องจัดเตรียมเครื่องใช้ทุกอย่างให้ประณีตที่สุด” นางเรียมตั้งใจมองและฟังในสิ่งที่คุณนายพร่ำสอน แม้จะเขินอายที่ตนเองต้องเป็นคนทำทุกอย่างไม่ต่างจากหน้าที่เมียของคุณพระก็ตาม แต่ก็ตื่นตาตื่นใจเมื่อรู้ว่าคนเป็นเมียนั้
นิ้วมือสอดลึกเข้าไปในรอยแยกจนนางเรียมสะดุ้งจับยึดผนังไม้ด้านข้างไว้แน่น เพื่อพยุงตัวเองให้ยืนอยู่ให้ได้ เพราะขณะนี้แข้งขาที่สั่นไหวนั้นแทบจะยืนไม่อยู่อยู่แล้ว “อา... คุณเจ้าขา... อูย... บ่าวเสียว... อูย... เสียวเหลือเกิน... อูย...” “ต้องเสียวแน่ เพราะคุณพระท่านจะทำกับเอ็งแบบนี้ เอ็งจะซ่านเสียวอย่างที่สุด และจะเสียวยิ่งกว่านี้หากคุณพระท่านเป็นฝ่ายชะล้างร่างกายให้กับเอ็ง เพราะนั่นจะเท่ากับว่าเอ็งจะได้ขึ้นสวรรค์ทั้งเป็น” นางเรียมหลับตาพริ้มซึมซับถึงสวรรค์ตามที่คุณนายพิศบอกเล่า เพราะแค่นิ้วมือขยับเข้าๆ ออกๆ ในโพรงลึกมันก็ยังสั่นเสียจนสะท้าน และหากว่านิ้วมือนี้เป็นของคุณพระท่าน หรือจะดีกว่านั้นหากเป็นไอ้ทิ้งน้อยที่สอดแทรกเข้ามาอย่างรุนแรง มันก็คงจะต้องกรีดร้องด้วยความสุขสมอย่างที่สุดแน่ๆและเมื่อคุณนายพิศรัวนิ้วเร็วๆ นางเรียมก็ต้องซู้ดซี้ด
“จริงรึ พี่ว่าประเดี๋ยวมันก็เหมือนคนอื่นๆ ไม่มีใครจะสู้แม่พิศได้สักคน พี่อยากนอนกับเมียนี่นา นะ คืนนี้ให้พี่นอนกับแม่พิศ แล้ววันพรุ่งค่อยไปหานังเรียมมันก็ได้ นะแม่พิศ ทูนหัวของพี่ พี่อยากกลืนกินแม่พิศเหลือเกิน”ไม่วายที่คุณพระจะออดอ้อนอยากนอนกับเมีย เพราะเนื้อตัวหอมกรุ่นของแม่พิศที่คลอเคลียอยู่ด้านข้างก็เร้าอารมณ์ท่านมากที่สุดแล้ว ความปรารถนาที่กดเก็บมาหลายวัน ท่านอยากจะปลดปล่อยใส่เมียรัก เพราะไม่แน่ใจว่านางเรียมจะทำให้ท่านสมหวังได้ดังที่แม่พิศอวดสรรพคุณหรือเปล่า“เชื่อน้องสิเจ้าคะ พ้นคืนนี้ไปคุณพี่จะลืมน้องเสียกระมัง”“โธ่! แม่พิศจ๋า ไม่มีใครจะทำได้ถูกใจพี่เท่าแม่พิศดอก พี่อยากร่วมกับแม่พิศแค่คนเดียว ไม่อยากได้หญิงอื่นอีก ไม่มีดอกไม้ใดที่พี่จะกลืนกินหยาดน้ำหวานระรื่นลิ้นได้เท่าดอกไม้เบ่งบานของแม่พิศอีกแล้ว นะแม่พิศนะ พี่ขอ...”แม่พิศสะท้านตามคำกระซิบบอก แลอยากจะเปลี่ยนใจเสียเดี๋ยวนี้ แต่ก็ทำไม่ได้“ได้อย่างไรเล่าเจ้าคะ เผื่อนังเรียมจะให้ลูกกับคุณพี่ได้ และน้องก็ให้มันไปนอนคอยคุณพี่แล้วด้วย”&l
เรือนร่างสูงใหญ่เต็มไปด้วยความแข็งแกร่งของชาย เปลือยเปล่าอยู่กลางสายน้ำ เพราะค่ำคืนนี้ไม่มีใครออกมาให้ปลดเปลื้อง ด้วยคุณพระท่านคืนเรือน นางเรียมก็ต้องไปรับใช้ตามที่คุณนายพิศเรียกตัว คงมีเพียงสายน้ำเท่านั้นที่จะช่วยดับความร้อนรุ่มของมันลงได้ จึงต้องหลบมาว่ายน้ำให้หายร้อนรนบุญทิ้งจ้วงว่ายไปตามสายน้ำ ดำผุดดำว่าย หวังให้ความร้อนรุ่มจางลง ทว่าไม่เพียงจะไม่ลดน้อยลงเลย แต่ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น เมื่อรู้อยู่แก่ใจดีว่าทุกค่ำคืนที่ร่วมรักกับนางเรียมอย่างถึงอกถึงใจนั้น อยู่ในสายตาของใครบางคน คนที่แอบซุ่มรอคอยเวลาที่จะมาถึงแต่ก็ไม่กล้าเผยตัวให้รู้ คนที่มองมันด้วยแววตาตื่นตกใจเมื่อมันรู้แกวแล้วไปดักหน้าไว้ก่อนจะขึ้นเรือน“ไอ้ทิ้ง มึง... นรกจะกินหัวมึงแล้ว คิดกับคุณนายท่านแบบนี้ได้ยังไงวะ”แม้จะบอกกับตัวเองแบบนั้นแต่กลิ่นหอมจากเนื้อกาย ความอ่อนนุ่มและชุ่มชื้นของผิวพรรณที่มันได้กอดจูบลูบไล้ รวมทั้งความอวบอิ่มอย่างที่สุดของเต้าอวบนั้นก็ทำให้มันสั่นสะท้านสยิวกายไปทั้งลำ เพราะไม่อาจสลัดไล่ความงดงามและหอมกรุ่นนั้นออกไปได้ ทำให้ทุกครั้งที่ได้ร่วมกับนางเรียม มันจึงตื่
“อา... คุณนายขอรับ คุณนายสวยเหลือเกิน อืม... หอม... หอมที่สุด”จมูกซุกไซ้ลงที่ซอกคอหอม มันสูดดมให้แน่ชัดว่านี่ไม่ใช่ความฝัน เนื้อกายที่งดงามพิสุทธิ์นี้กำลังอยู่ใต้ร่างของมันจริง มันกำลังจะได้นางฟ้ามาเชยชมให้สมความอยากจนต้องกระหน่ำไอ้ทิ้งน้อยใส่โคกนางเรียมหลายต่อหลายครั้ง เพื่อให้ความฝันนั้นผ่อนคลายลง และกลิ่นหอมของเนื้อนวลที่สูดเข้าจนเต็มปอดก็ทำให้มันแน่ใจว่านี่ไม่ใช่ความฝัน แต่เป็นความจริงที่กำลังประสบฝ่ามือเคลื่อนคลึงเต้าอวบใหญ่เต่งตึง ก่อนที่หูจะได้ยินเสียงหวานครางแผ่วแว่วมา บุญทิ้งจะไม่ปล่อยให้เวลาที่มีค่านี้สูญเสียไปสักเสี้ยวหนึ่ง ริมฝีปากและฝ่ามือจึงร่วมประสานให้เจ้าของร่างงดงามนี้บิดเร้าเรือนกายซ่านเสียวจากสัมผัสของมันจมูกซุกไซ้ลงลึกสูดดมความหอมของเต้าอวบใหญ่ แน่ใจที่สุดว่าเนื้อกายนี้หอมเสียยิ่งกว่าหญิงใดที่มันเคยได้ร่วมมา และก็งดงามเต่งตึงเสียจนสาวๆ อย่างนางเรียมยังต้องอาย“อา... บุญทิ้ง... อืม... อา...” เสียงหวานๆ ที่ครวญครางเรียกชื่อยิ่งทำให้บุญทิ
ริมฝีปากของบุญทิ้งเคลื่อนไปตามใต้แนวราวนมก่อนจะเรื่อยลงมาทางสีข้างมาที่สะดือวงสวย เลียไล้ก็ตวัดหยอกเย้าเข้าไปในโพรงสะดือ ก่อนจะลากปลายลิ้นลงมาตามแนวสะโพกตวัดชอนชิมความหอมหวานของผิวเนื้อผ่านมาตามต้นขาสวยนวลเนียน เรื่อยลงมาตามปลีน่องเพรียวก่อนจะจูบประทับที่หลังเท้า“อา... บุญทิ้ง... อา... โอว... ซี้ด... โอว... บุญทิ้ง...”แม่พิศร้องครางเพราะบุญทิ้งกำลังสร้างความซ่านเสียวสะท้านให้หล่อนมากที่สุด เมื่อริมฝีปากนั้นไล่จูบไปตามนิ้วเท้าแต่ละนิ้ว นี่หล่อนกำลังพานพบกับอะไรกันนี่ บุญทิ้งกำลังทำอะไรกับตัวหล่อนกันแน่ เพราะสิ่งที่ได้รับจากริมฝีปากนั้นไม่ใช่สิ่งที่บุญทิ้งทำกับนางเรียมสักนิดมันมากกว่ามาก เพราะแม้แต่เท้าที่เป็นของต่ำสุดในร่างกาย ทาสหนุ่มกำยำนี้ก็ยังไม่คิดจะรังเกียจแต่กลับจูบประทับไปตามแต่ละนิ้วจนครบทั้งสองด้านก่อนจะลากเรื่อยริมฝีปากและปลายลิ้นขึ้นมาตามปลีน่องเพรียวยาวอีกด้านแม่พิศบิดกายดิ้นเร่าไปกับความอัศจรรย์ใจที่ทาสหนุ่มกำลังทำให้ ด้วยชีวิตที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาจนเกือบ 40 ปี ยังไม่เคยพานพบกับความเสียวซ่านสะท้านไปทั้งกายมากมายขนาดนี้ และหากว่าบุญทิ้งจะท
แม่จันทร์สะอื้นฮึกฮัก เพราะไม่อาจรู้ได้ว่าความเจ็บปวดร้าวรวดดั่งถูกมีดแหลมคมปักกรีดอยู่กึ่งกลางร่างกายนี้ จะมลายคลายลงได้อย่างไร เมื่อมันเจ็บเสียจนหล่อนไม่กล้าที่จะร่ำร้อง ด้วยกลัวว่าเพียงร่างกายขยับ ความเจ็บปวดนั้นจะทวีทบเท่า แลถึงตอนนั้นร่างกายนี้อาจตายเสียก็ได้ ทว่าแม้นเจ็บเพียงใด สัญชาตญาณก็ยังร้องสั่งให้แม่จันทร์มอง เพื่อให้รู้ที่มาของความเจ็บนั้น และสิ่งที่แม่จันทร์เห็นก็ทำให้ริมฝีปากต้องอ้าค้างมากขึ้น ด้วยไม่ใช่มีดพร้าที่ทิ่มตำร่างกาย แต่กลับเป็น ‘ท่อนเนื้อ’ ขนาดใหญ่ที่ยื่นออกมาจากกึ่งกลางกายของท่านกำลังทิ่มตำที่โพรงดอกไม้ สีหน้ารวดร้าวของท่านและคำสอนของแม่ที่แว่วมาในความคิดทำให้แม่จันทร์ต้องยิ้มทั้งที่เจ็บปวดอย่างแสนสาหัส เพราะนี่คงเป็นลำดับขั้นสุดท้ายก่อนที่หล่อนจะพานพบกับสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
เมื่อริมฝีปากของท่านทาบลงมาบนกลีบปากนุ่มก่อนจะบดเบียดยั่วเย้าอย่างอ่อนโยน ตามติดมาด้วยปลายลิ้นร้อนที่เกลี่ยไล้ไปมาอยู่บนกลีบปาก นั่นทำให้แม่จันทร์ถึงกับตัวแข็งทื่อทำอะไรไม่ถูก “เจ้าคุณอา...” พระยาสรเดชฯ อมยิ้มในสีหน้า ดวงตาคมเข้มเต็มเปี่ยมไปด้วยกาลเวลาทอดมองหญิงสาวที่สั่นประหม่าไปทั้งร่าง จนลืมเลือนไปเสียสิ้นว่าต้องรักษากิริยาและต้องเรียกท่านว่าเช่นไร ทว่าสิ่งที่แม่จันทร์เป็นอยู่นี้ก็ช่างน่าเอ็นดูนัก “ที่ไม่ให้เรียกเยี่ยงนั้น เพราะพี่อยากให้แม่จันทร์เรียกพี่ว่า ‘เจ้าคุณพี่’ จะได้รึไม่” “เจ้าค่ะ เจ้าคุณพี่”
เสียงมโหรีขับขานท่วงทำนองกล่อมหอดังแผ่วแว่วมาในห้อง ส่งผลให้ผู้เป็นเจ้าสาวที่นั่งนิ่งอยู่บนเตียงต้องกระชับฝ่ามือเข้าหากันแน่นด้วยประหม่านัก เพราะอีกไม่นานเจ้าบ่าวซึ่งออกไปส่งผู้หลักผู้ใหญ่และขอบคุณผู้ที่มาร่วมงานก็จะกลับเข้ามา และเมื่อนั้นลำดับขั้นของงานวิวาห์จึงจะถือว่าสัมฤทธิ์ผล เจ้าสาวคนสวยชำเลืองมองที่นอนหนานุ่มขึงผ้าปูสีชมพูปักลวดลายดอกไม้กระจิริดดูอ่อนหวาน ทั้งข้าวของที่ใช้ทำ ‘พิธีเรียงหมอน’ ก็ยังวางเรียงรายกันอยู่อย่างสงบนิ่ง ฟักเขียว แมวคราว ไก่ขาว ไม้เท้า ถ้วยน้ำ และหินบดยา ถูกวางอยู่มุมซ้ายของเตียง ถุงเงินและถุงทอง ที่บรรจุถั่วเขียว งาดำ ข้าวตอก ดอกรัก ดอกบานไม่รู้โรย ถูกเปิดและหยิบเอาถั่ว งา และดอกไม้เหล่านั้นออกมาโปรยบนที่นอนเพื่อเป็นมงคล เมื่อนึกถึงเหตุที่เพิ่งผ่านไปเจ้าสาวก
ฟาววววววว... ควับ! “กรี๊ดดดดด...” สิ้นสุดเสียงกรีดร้องร่างที่สะบักสะบอมไปด้วยบาดแผลของนางแพงก็มีอันสิ้นสติไปด้วยความเจ็บปวด แต่คุณพระท่านก็ยังไม่หนำใจ ทั้งที่ตนเองก็หอบตัวโยนด้วยลงแรงไปกับหวายทั้งตัว คุณพระท่านร้องสั่งให้ข้าทาสไปนำเกลือเม็ดละลายน้ำเอามาสาดใส่บาดแผลของนางแพงให้มันฟื้นคืนขึ้นมาอีก เพื่อจะให้เรือนร่างนี้ได้รับความเจ็บปวดอย่างต่อเนื่อง ให้สาสมกับสิ่งที่มันทำเอาไว้ เพราะมันเจ็บกาย แต่ท่านนั้นเจ็บปวดไปทั้งหัวใจ รักมากก็แค้นมาก หวงมากก็อยากจะให้ตายคามือด้วยความทรยศ “สาดเข้าไป! เอาให้มันเจ็บมันแสบ มันจะได้รู้ว่าใครอย่าบังอาจมาทำเรื่องอัปรีย์จัญไรบนเรือนกูอีก ไอ้อีหน้าไหนที่มันกล้า มันจะต้องโดนเยี่ยงน
ฉาด! ฝ่ามือกระทบใบหน้าของนางแพงอีกครั้งให้หันไปตามแรงตบ เมื่อนางแพงเอาแต่ยิ้มและหัวเราะขันกับคำพูดของตนเอง มันทำความเสื่อมเสียเพียงผู้เดียวยังไม่พอ ยังจะริปากดีป้ายสีให้แม่พิศเมียรักต้องมัวหมองไปด้วย “ตบอีกสิเจ้าคะ ตบให้อีแพงมันตายไปเลย ไม่ต้องรอหวายแล้วเจ้าค่ะ แค่น้ำมือคุณท่าน อีแพงก็แทบจะตายคามืออยู่แล้ว แต่ก่อนตายขออีแพงได้พูดให้หมดเปลือกเถิด อีแพงคบชู้ อีแพงยอมรับ แต่หากคุณนายพิศคบชู้เล่าเจ้าคะ คุณท่านจะทำเช่นไร จะลงโทษคุณนายเทียบเท่ากับอีแพงรึไม่ หรือจักส่งคุณนายไปให้กองโปลิศตัดสิน ให้ประณามหยามเหยียดไปทั่วพระนคร ว่าลูกสาวบ้านนี้สัญชาติคบชู้สู่ชาย บ้านใดนำไปเป็นลูกเป็นเมีย ก็รังแต่จะเสื่อมเสียคบชู้อยู่ร่ำไป” “อีแพง!” 
“เอ็งช่างกล้าพูดนักนังแพง...” น้ำเสียงเอ่ยออกมาด้วยความเข่นเครียด ยิ่งเห็นเรือนร่างอวบอิ่มของเมียสาวคราวลูกสั่นสะท้านไปด้วยแรงสะอื้น คุณพระท่านยิ่งสะท้อนไปถึงหัวใจ เพราะนางแพงเมียทาสผู้นี้ ท่านสนิทเสน่หามันยิ่งนัก กลับมาคืนเรือนครั้งนี้ ท่านก็หวังจะโอ้โลมมันให้มีความสุข เพราะทิ้งร้างให้เปล่าเปลี่ยวอยู่นาน จนต้องสั่งให้เจ้าเข้มมาแจ้งข่าวกับแม่พิศว่าท่านจะคืนเรือนในวันนี้ ให้นางแพงได้เตรียมตัวต้อนรับท่านเถิด แต่กลับกลายเป็นว่านางแพงมันมีความสุขจนแทบจะสำลักอยู่แล้ว แม้จะรู้ว่าท่านคืนเรือนวันนี้ มันก็ยังกล้าที่จะพาไอ้บุญทิ้งไปร่วมรักกันบนเรือน บนเตียงที่ทับรอยของท่าน รวมทั้งคำรักที่มันพร่ำพลอดแก่กันและกันนั้น แปลว่านางแพงผู้นี้ไม่เคยเห็นท่านอยู่ในสายตาสักนิด มันไม่คิดถึงความสุขสบายที่ท่านปรน
ริมฝีปากยังคงแนบชิดแต่ท่อนแขนช้อนเรือนร่างอวบอิ่มขึ้นโอบอุ้มพาก้าวเดินไปสู่เตียงสี่เสาที่มีม่านลูกไม้สีขาวประดับอยู่ ร่างงดงามถูกวางไว้บนฟูกนุ่มที่ขึงเรียบตึงด้วยผ้าปูเตียงสีชมพูอ่อน กอปรกับแสงไฟสีนวลจากตะเกียงก็ช่วยส่งขับให้ผิวกายสีน้ำผึ้งนวลเนียนนี้ให้ยิ่งนวลน่าลูบไล้ฝ่ามือลงไปสัมผัสมากยิ่งขึ้น “พี่บุญทิ้งจ๋า... แพงรักพี่เหลือเกิน” “พี่ก็รักแม่แพงยิ่งนัก” แม่แพงคล้องฝ่ามือรอบลำคอแกร่งของไอ้ทาสวัยหนุ่มพลางรั้งใบหน้าคมเข้มนั้นเข้าหาตัว ความแข็งแกร่งนี้ที่หล่อนปรารถนา ความเข้มแข็ง ดุดัน ของคนรุ่นหนุ่ม หาใช่ความแก่ชราของชายวัยคราวพ่อเฉกเช่นคุณพระท่าน และเมื่อใบหน้าคมเข้มนั้นเคลื่อนเข้าใกล้ แม่แพงก็หลับตาพ
“อา... บุญทิ้งจ๋า... กระแทกลงมาแรงๆ เลย บุญทิ้งจ๋า...” “ขอรับคุณท่าน ไอ้ทิ้งจะกระแทกให้แหลกคา...” ขาดคำของบุญทิ้ง ไอ้ทิ้งน้อยก็โจนทะยานไปข้างหน้า ทะลวงเข้าไปในโพรงฉ่ำน้ำของคุณนายพิศอย่างบ้าคลั่ง และเมื่อคุณนายกรีดร้องด้วยความสุข ไอ้ทิ้งน้อยก็พ่นพิษร้อนออกมาอย่างท่วมท้นเช่นเดียวกัน โพรงดอกไม้ตอดตุบจนบุญทิ้งต้องซุกซบใบหน้าลงไปที่เต้าอวบอิ่มของคุณนายพิศ พร้อมทั้งจูบซับปลายยอดงอนงามด้วยความซ่านเสียวและพิศวาส ความร้อนแรงของคุณนายเจ้าของเรือนยังมีให้มันอย่างไม่หยุดหย่อน ตราบจนเสียงไก่ขันดังแว่วมา ไอ้ทิ้งน้อยจึงจำต้องอำลาโพรงน้ำหวานกลับไป เพื่อทำหน้าที่ทาสในเรือนเฉกเช่นเดิม.. 
“ขอบใจแพง” “ใช่ ข้าขอบใจที่แม่แพงจะไม่นำเรื่องของบุญทิ้งไปบอกคุณพระท่าน” “เอ่อ... เจ้าค่ะ” แม่แพงก้มหน้าไม่กล้าสบสายตาคุณนายพิศ ด้วยไม่รู้ว่าคุณนายรู้เรื่องมากไปกว่านี้รึไม่ และคำพูดต่อมาของคุณนายก็ทำให้แม่แพงเข้าใจว่าคุณนายพิศไม่ได้รู้เรื่องระหว่างตนกับบุญทิ้ง “ข้าหลงผิดไปเอง ต่อแต่นี้ไปข้าจะไม่กระทำผิดเยี่ยงนั้นอีก” เสียงสะอื้นของคุณนายพิศทำให้แม่แพงต้องมองคุณนายใหญ่เจ้าของเรือนด้วยความเห็นใจและสะท้อนในหัวอกตัวเองอย่างที่สุด เพราะสิ่งที่คุณนายพิศตั้งมั่นว่าจะไม่ทำผิดนั้น บัดนี้ตัวของแม่แพงเองนั่นแหละที่กร