ริมฝีปากของบุญทิ้งเคลื่อนไปตามใต้แนวราวนมก่อนจะเรื่อยลงมาทางสีข้างมาที่สะดือวงสวย เลียไล้ก็ตวัดหยอกเย้าเข้าไปในโพรงสะดือ ก่อนจะลากปลายลิ้นลงมาตามแนวสะโพกตวัดชอนชิมความหอมหวานของผิวเนื้อผ่านมาตามต้นขาสวยนวลเนียน เรื่อยลงมาตามปลีน่องเพรียวก่อนจะจูบประทับที่หลังเท้า
“อา... บุญทิ้ง... อา... โอว... ซี้ด... โอว... บุญทิ้ง...”
แม่พิศร้องครางเพราะบุญทิ้งกำลังสร้างความซ่านเสียวสะท้านให้หล่อนมากที่สุด เมื่อริมฝีปากนั้นไล่จูบไปตามนิ้วเท้าแต่ละนิ้ว นี่หล่อนกำลังพานพบกับอะไรกันนี่ บุญทิ้งกำลังทำอะไรกับตัวหล่อนกันแน่ เพราะสิ่งที่ได้รับจากริมฝีปากนั้นไม่ใช่สิ่งที่บุญทิ้งทำกับนางเรียมสักนิด
มันมากกว่ามาก เพราะแม้แต่เท้าที่เป็นของต่ำสุดในร่างกาย ทาสหนุ่มกำยำนี้ก็ยังไม่คิดจะรังเกียจแต่กลับจูบประทับไปตามแต่ละนิ้วจนครบทั้งสองด้านก่อนจะลากเรื่อยริมฝีปากและปลายลิ้นขึ้นมาตามปลีน่องเพรียวยาวอีกด้าน
แม่พิศบิดกายดิ้นเร่าไปกับความอัศจรรย์ใจที่ทาสหนุ่มกำลังทำให้ ด้วยชีวิตที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาจนเกือบ 40 ปี ยังไม่เคยพานพบกับความเสียวซ่านสะท้านไปทั้งกายมากมายขนาดนี้ และหากว่าบุญทิ้งจะท
ความอึดอัดคับแน่นที่แทรกลงแค่เพียงส่วนหัวแต่ก็ทำให้แม่พิศถึงกับเบิกดวงตากว้าง เพราะไม่คาดคิดว่าจะได้รับความยิ่งใหญ่ขนาดนี้มาก่อน มันอุ่นวาบซาบซ่านจนดอกไม้ไหวระริก จนหล่อนต้องยกสะโพกให้ลอยขึ้นสูงเพื่อให้ดอกไม้เบ่งบานรับความแข็งแกร่งของบุญทิ้งที่ทิ่มตำเข้ามาในโพรงดอกไม้ของหล่อนให้สุดๆและเมื่อไอ้ทิ้งน้อยจมดิ่งสู่โพรงฉ่ำน้ำจนมิด ก็ถึงคราที่มันจะสำรวจตรวจตราให้ทั่ว ไอ้ทิ้งน้อยค่อยๆ รูดเข้ารูดออกตามจังหวะชั้นเชิงที่มันชำนาญ และเพียงมันเคลื่อนออก เจ้าของโพรงดอกไม้ก็ผวาขึ้นโผกอดรอบลำคอไว้แน่น เพราะกลัวว่ามันจะหนีห่างไปจริงๆทว่ามันเพียงประวิงเวลาให้ความซ่านเสียวมาเยือนคุณนายให้มากที่สุดเท่านั้น เพื่อการส่งอัดไอ้ทิ้งน้อยเข้าสู่โพรงน้ำในครั้งต่อไปจะตามมาด้วยความซ่านเสียวมากมายเสียจนคุณนายต้องร่ำร้องขอให้มันเอาอีกๆ ไม่หยุด“โอว... บุญทิ้งจ๋า... โอว...”แม่พิศครวญครางเสียงหวานเมื่อความซ่านเสียวกระหน่ำใส่ดอกไม้ฉ่ำน้ำของหล่อนไม่ลดล่ะ สิ่งที่ต้องการเป็นจริง ความคิดที่ว่าตนเองนั้นคือคนที่บุญทิ้งกำลังสอดแทรกความแข็งแกร่งกระหน่ำใส่ลงมาอย่างรุนแรง เป็นจริงได้ในครั้งนี้
“อูย... คุณนายขอรับ... ของคุณนายช่างแน่นเหลือเกิน อูย... ทำไมคุณนายถึงได้สาวและสวยมากขนาดนี้ ดอกไม้ของคุณนายงดงามที่สุดเลยขอรับ โอว... แน่น... โอว... เสียว... อูย...”บั้นท้ายของบุญทิ้งกระหน่ำใส่สะโพกผายเสียงดังผับๆ มือจับยึดสะโพกให้สวนเข้าใส่ทั้งเร็วและแรงได้ตามที่ต้องการ แต่บุญทิ้งก็ยังไม่ถึงสวรรค์ จึงเปลี่ยนมาเป็นทรุดกายลงนั่งก่อนจะรั้งร่างอ่อนระโหยของแม่พิศขึ้นมาให้นั่งคร่อมอยู่บนหน้าตักของมัน กอดกระชับรอบร่างอวบอิ่มพร้อมกับดูดดึงยอดเต้าอวบไปพร้อมๆ กับที่ดอกไม้เบ่งบานของคุณนายอ้าอมเอาไอ้ทิ้งน้อยเข้าไปจนสุดฝ่ามือยกสะโพกผายให้กระหน่ำใส่ความแข็งแกร่งของตนเอง จมูก ริมฝีปาก และปลายลิ้น ก็ปลุกระดมสร้างความกระสันอยากไม่มีที่สิ้นสุด ไอ้ทิ้งน้อยแทรกผ่านช่องทางคับแคบทว่าตอดรัดและบีบกระชับเป็นจังหวะสม่ำเสมอจนบุญทิ้งอดไม่ได้ที่จะกัดฟันกรอดเพราะความซ่านเสียวจู่โจมจนแทบจะทนไม่ไหว แต่มันก็อยากให้คุณนายสุขยิ่งกว่านี้ อยากทำให้คุณนายคิดถึงแต่มันทุกวันทุกคืน อยากให้คุณนายเป็นฝ่ายเดินเข้ามาหามันเอง ร่ำร้องให้มันทำแบบนี้“อา... บุญทิ้งจ๋า... ฉันไม่ไหวแล้ว อูย
ส่วนแม่พิศนั้นเล่าได้แต่นอนนิ่งน้ำตากบ เพราะแม้คุณพระจะกลับคืนเรือนมาในยามสาย ตรงตามที่คาดคิดไว้ไม่มีผิดว่านางเรียมจะต้องทำให้คุณพระพึงพอใจได้แน่ และการเจ็บป่วยของตนเองนั้นก็ไม่ได้มาจากความละเลยอันใดจากผัวรักเลยสักนิด แต่เป็นเพราะตนเองทั้งนั้นที่ลักลอบไปทำเรื่องบัดสีเอาไว้ แลเมื่อผัวรักแสดงความห่วงหา ความละอายในสิ่งที่ตนเองกระทำลงไปแล้วจึงกระทบหัวใจแม่พิศอย่างแรง“น้องไม่ได้เป็นอันใดเจ้าค่ะคุณพี่ แค่เมื่อคืนนอนดึกก็เท่านั้นเอง ได้นอนพักสักหน่อย ช่วงเพลก็คงจะลุกนั่งได้เจ้าค่ะ คุณพี่ไม่ต้องเป็นห่วง” แม่พิศพยายามยิ้มแม้ว่ามันแทบจะเจือไปด้วยแรงสะอื้นก็ตาม“ไม่ให้ห่วงได้อย่างไรเล่าแม่พิศ แม่พิศเป็นเมียของพี่ เป็นเมียที่พี่รักมากที่สุด ไม่ให้พี่ห่วงแม่พิศแล้วจะให้พี่ไปห่วงผู้ใดเล่า”คุณพระพูดอย่างเอาใจพลางลูบไล้ที่เรือนผมนุ่มของเมียรักอย่างทะนุถนอม คิดชั่งใจในสิ่งที่จะพูดกับเมียรัก“แล้วนังเรียมเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ มันทำได้ดีอย่างที่น้องบอกหรือไม่”สีหน้าที่นิ่งไปของผัวรัก คล้ายไม่อยากจะพูดบางสิ่งออกมาก็ยิ่งทำให้แม่พิ
ทุกความแข็งขืนที่สอดกระหวัดรัดรึงจากด้านหลัง ช่างส่งผ่านให้ความซ่านเสียวพวยพุ่งกระจายวาบไปทั้งร่าง ความอึดอัดคับแน่นที่แทรกเข้าแทรกออกนั้น มันครูดคราดไปกับปากโพรงและเกสรดอกไม้จนหล่อนต้องแหงนใบหน้าครวญครางราวคนละเมออา... ฝ่ามือบอบบางที่ลูบไล้ไปตามเนื้อกายตนเองในขณะนี้กำลังจะทำให้แม่พิศหมดความยับยั้งชั่งใจ ความคิดตีรวนระหว่างความอยากกับความถูกต้อง หัวใจเต้นเร้าตัดสินใจไม่ถูก และเมื่อคิดไม่ตกสิ่งที่แม่พิศทำได้ก็คือ ปรับความแรงของละอองน้ำและแหงนหน้ารับหวังให้ความเจ็บแทรกซึมสู่หัวใจ หวังให้ทดแทนความกระสันอยากที่มีแต่จะมากขึ้น จนหล่อนอาจหยุดมันไว้ไม่ได้ทว่าเสียงประตูห้องน้ำที่ถูกเปิดออกพร้อมกับกายแกร่งที่แทรกร่างเข้ามาก่อนจะรีบปิดประตูโดยเร็ว ก็ทำให้แม่พิศต้องป้องปากตัวเองไม่ให้กรีดร้องเรียกผู้ใดมาช่วย เพราะคนที่ก้าวเข้ามานั้น ช่วยหล่อนได้แล้วร่างเปล่าเปลือยยืนเกาะเกี่ยวผนังห้องที่ฉ่ำชื้นไปด้วยละอองน้ำ พลางแหงนใบหน้าขึ้นสูงเพื่อสูดเอาลมหายใจให้เข้าลึกที่สุด เมื่อท่อนขาที่กางออกจากกันอยู่นี้กำลังถูกรุกรานด้วยปลายลิ้นร้อนๆ ของใครบางคนแม่พิศวางฝ่ามือไว
“อา... บุญทิ้งจ๋า... อา... โอว... เสียว... โอว... ฉันเสียวเหลือเกิน... โอว... บุญทิ้งจ๋า... โอว... ทำไมถึงเสียวอย่างนี้ โอว...” “ไอ้ทิ้งจะทำให้คุณนายสมอยาก ไอ้ทิ้งอยากทำคุณนายเหลือเกินขอรับ มันรักคุณนาย มันอยากจะกระแทกคุณนายทั้งวันทั้งคืน โอว... คุณนายขอรับ... โอว... คุณนาย... โอว...” “ฉันก็อยากให้บุญทิ้งกระแทกฉันทั้งวันทั้งคืน โอว... อยากให้บุญทิ้งทำฉันไม่หยุด โอว... บุญทิ้งจ๋า... แรงอีก... โอว... แรงอีก... แรงกว่านี้อีก! โอว... โอว... บุญทิ้งจ๋า... อา... เสียว... อา... เสียว...” บุญทิ้งตอบสนองเสียงร่ำร้องโดยการส่งอัดบั้นท้ายกระแทกกระทั้นรัวแรงเข้าสู่โพรงดอกไม้ของแม่พิศไม่หยุด และเสียงเนื้อกระทบเนื้อก็ยิ่งทำให้แม่พิศเร่าร้อนมากขึ้น จวบจนเสียงหวานครวญครางรา
บุญทิ้งสะดุ้งวาบเมื่อรับรู้ได้ถึงความฉ่ำชื้นของปลายลิ้นที่ไล้เลียอยู่บนหัวไอ้ทิ้งน้อย มันคิดไม่ผิด คุณนายจะทำให้มันด้วยความเต็มใจ เมื่อความซ่านเสียวก่อเกิดในหัวใจอย่างกู่ไม่กลับ แม่พิศสะดุ้งตกใจกับสิ่งที่ทำลงไป เพราะเสียงของบุญทิ้งดังชัดขณะที่อุ้งปากของหล่อนนั้นอ้าอมเอาไอ้ทิ้งน้อยเข้าไปจนเกือบสุดลำ และเมื่อรู้ตัวอยากจะคายออกก็ทำไม่ได้เพราะบั้นท้ายของบุญทิ้งที่อัดไอ้ทิ้งน้อยส่งเข้ามาจนสุด ก่อนจะชักออกชักเข้าเป็นจังหวะไม่ต่างจากปากของหล่อนเป็นเส้นทางกามารมณ์ที่ไอ้ทิ้งน้อยจะเข้ามาปลดเปลื้องหล่อนหมดแรงที่จะต่อต้านเมื่อดอกไม้ฉ่ำน้ำกำลังถูกรุกรานด้วยปลายลิ้นและนิ้วมือของบุญทิ้งพร้อมๆ จนหล่อนต้องแอ่นสะโพกร่อนไปตามที่ปลายลิ้นและนิ้วมือของบุญทิ้งส่งอัดเข้ามาเสียงครวญครางได้ยินเพียงอือออในลำคอเพราะไอ้ทิ้งน้อยใหญ่โตคับปากจนหล่อนต้องละเลียดปลายลิ้นอย่างยอมรับแล้ว บุญทิ้งจึงยกสะโพกขึ้นให้หล่อนได้ครวญครางตามความต้องการที่พวยพุ่งไม่หยุด และยิ่งซ่านเสียวจากปลายลิ้นของบุญทิ้งมากเท่าไร ลิ้นน้อยและร้อนรนก็ตวัดเลี
ทว่าเมื่อคุณพระสั่งให้ช่างมาสร้างสะพานเชื่อมต่อไปยังเกาะแก่ง เพื่อจะจัดสร้างศาลาเล็กๆ ไว้ให้แม่พิศได้ทอดอารมณ์ในช่วงวัน สวรรค์จึงแปรเปลี่ยนจากพื้นดินมาเป็นที่นอนนุ่มๆ ที่บุญทิ้งสามารถกระแทกกระทั้นไอ้ทิ้งน้อยใส่ดอกไม้ฉ่ำน้ำของแม่พิศได้รัวแรงมากขึ้นทว่าความลับของแม่พิศกลับไม่เป็นความลับตลอดไป เมื่อค่ำคืนหนึ่งที่คุณพระไปราชการหัวเมือง แม่พิศซึ่งรอเวลาที่จะดอดออกมาลักลอบเสพสมกับบุญทิ้ง ก็รีบรุดออกจากเรือนใหญ่โดยไม่ได้ห่วงหน้าพะวงหลังว่าจะมีใครตามติดมาด้วย และในจังหวะที่บุญทิ้งกำลังกระหน่ำตัวตนใส่บั้นท้ายงอนงามของแม่พิศอย่างตายอดตายอยากมาหลายวัน คนที่ก้าวออกมาจากความมืดก็ทำให้แม่พิศและบุญทิ้งผละออกจากกันในทันที.. ในเวลาแดดร่มลมตก แม่เรียมกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนฟูกนิ่มอย่างมีความสุข ด้วยมีบ่าวไพร่คอยปรนนิบัติพัดวีมิได้ขาด รวมทั้งอาหารหวานคาวแลผลไม้มากมี คุณนายพิศก็สั่งบ่าวไพร่จัดเตรียมเอาไว้ให้ ทำให้แม่เรียมมีชีวิตที่แสนจ
“ไปตลาดยามนี้ก็ไม่รู้ว่าจะมีใครเอาปลาแห้งมาขายบ้างหรือเปล่า ไม่ใช่หน้ามันซะด้วย” บ่าวที่ได้รับหน้าที่ให้ไปซื้อหาปลาแห้งบอกกับแม่ครัว“เถอะน่า ไปดูก่อน ถ้าไม่มีจริงๆ ก็หาปลาแห้งอย่างอื่นที่พอทำได้มาละกัน ปลากดแห้งก็ได้”“และถ้าไม่มีอีกล่ะ”“ไม่มีก็กลับมา แต่เอ็งน่ะนังแพง ก็รอฟังคุณเรียมบ่นหน่อยแล้วกัน” แม่ครัวหันมาบอกกับนางแพง เพราะรู้ฤทธิ์เดชของแม่เรียมดีว่าหากไม่ได้ดังใจแล้วนั้น บ่าวไพร่จะถูกดุด่าแค่ไหน“จะว่าไปแม่เรียมนี่ยังไงนะ ได้เป็นเมียท่านไม่นานก็วางอำนาจซะขนาดนี้แล้ว คุณนายใหญ่ดูแลพวกเรามายี่สิบปี ยังไม่เคยมาจ้ำจี้จ้ำไชขนาดนี้ ท่านอยากจะกินอะไรก็บอกล่วงหน้ากันเป็นวัน เพื่อจะได้ซื้อหาข้าวของได้ทัน แต่แม่เรียมนี่ อยากกินอะไรก็ต้องกินให้ได้”“เฮ้อ! ข้าล่ะหนักใจจริงๆ หากแม่เรียมมีคุณเล็กๆ ให้กับคุณพระท่านได้จริง พวกเราจะอยู่กันยังไงนะ อีกทั้งคุณนายท่านด้วย แค่คุณเรียมเป็นคนโปรดเยี่ยงนี้ คุณพระยังแทบไม่ได้กลับไปนอนที่เรือนใหญ่ หากมีลูก คุณพระท่านไม่ย้ายไปนอนถาวรที่เรือนหลังเล็กเรอ
แม่จันทร์สะอื้นฮึกฮัก เพราะไม่อาจรู้ได้ว่าความเจ็บปวดร้าวรวดดั่งถูกมีดแหลมคมปักกรีดอยู่กึ่งกลางร่างกายนี้ จะมลายคลายลงได้อย่างไร เมื่อมันเจ็บเสียจนหล่อนไม่กล้าที่จะร่ำร้อง ด้วยกลัวว่าเพียงร่างกายขยับ ความเจ็บปวดนั้นจะทวีทบเท่า แลถึงตอนนั้นร่างกายนี้อาจตายเสียก็ได้ ทว่าแม้นเจ็บเพียงใด สัญชาตญาณก็ยังร้องสั่งให้แม่จันทร์มอง เพื่อให้รู้ที่มาของความเจ็บนั้น และสิ่งที่แม่จันทร์เห็นก็ทำให้ริมฝีปากต้องอ้าค้างมากขึ้น ด้วยไม่ใช่มีดพร้าที่ทิ่มตำร่างกาย แต่กลับเป็น ‘ท่อนเนื้อ’ ขนาดใหญ่ที่ยื่นออกมาจากกึ่งกลางกายของท่านกำลังทิ่มตำที่โพรงดอกไม้ สีหน้ารวดร้าวของท่านและคำสอนของแม่ที่แว่วมาในความคิดทำให้แม่จันทร์ต้องยิ้มทั้งที่เจ็บปวดอย่างแสนสาหัส เพราะนี่คงเป็นลำดับขั้นสุดท้ายก่อนที่หล่อนจะพานพบกับสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
เมื่อริมฝีปากของท่านทาบลงมาบนกลีบปากนุ่มก่อนจะบดเบียดยั่วเย้าอย่างอ่อนโยน ตามติดมาด้วยปลายลิ้นร้อนที่เกลี่ยไล้ไปมาอยู่บนกลีบปาก นั่นทำให้แม่จันทร์ถึงกับตัวแข็งทื่อทำอะไรไม่ถูก “เจ้าคุณอา...” พระยาสรเดชฯ อมยิ้มในสีหน้า ดวงตาคมเข้มเต็มเปี่ยมไปด้วยกาลเวลาทอดมองหญิงสาวที่สั่นประหม่าไปทั้งร่าง จนลืมเลือนไปเสียสิ้นว่าต้องรักษากิริยาและต้องเรียกท่านว่าเช่นไร ทว่าสิ่งที่แม่จันทร์เป็นอยู่นี้ก็ช่างน่าเอ็นดูนัก “ที่ไม่ให้เรียกเยี่ยงนั้น เพราะพี่อยากให้แม่จันทร์เรียกพี่ว่า ‘เจ้าคุณพี่’ จะได้รึไม่” “เจ้าค่ะ เจ้าคุณพี่”
เสียงมโหรีขับขานท่วงทำนองกล่อมหอดังแผ่วแว่วมาในห้อง ส่งผลให้ผู้เป็นเจ้าสาวที่นั่งนิ่งอยู่บนเตียงต้องกระชับฝ่ามือเข้าหากันแน่นด้วยประหม่านัก เพราะอีกไม่นานเจ้าบ่าวซึ่งออกไปส่งผู้หลักผู้ใหญ่และขอบคุณผู้ที่มาร่วมงานก็จะกลับเข้ามา และเมื่อนั้นลำดับขั้นของงานวิวาห์จึงจะถือว่าสัมฤทธิ์ผล เจ้าสาวคนสวยชำเลืองมองที่นอนหนานุ่มขึงผ้าปูสีชมพูปักลวดลายดอกไม้กระจิริดดูอ่อนหวาน ทั้งข้าวของที่ใช้ทำ ‘พิธีเรียงหมอน’ ก็ยังวางเรียงรายกันอยู่อย่างสงบนิ่ง ฟักเขียว แมวคราว ไก่ขาว ไม้เท้า ถ้วยน้ำ และหินบดยา ถูกวางอยู่มุมซ้ายของเตียง ถุงเงินและถุงทอง ที่บรรจุถั่วเขียว งาดำ ข้าวตอก ดอกรัก ดอกบานไม่รู้โรย ถูกเปิดและหยิบเอาถั่ว งา และดอกไม้เหล่านั้นออกมาโปรยบนที่นอนเพื่อเป็นมงคล เมื่อนึกถึงเหตุที่เพิ่งผ่านไปเจ้าสาวก
ฟาววววววว... ควับ! “กรี๊ดดดดด...” สิ้นสุดเสียงกรีดร้องร่างที่สะบักสะบอมไปด้วยบาดแผลของนางแพงก็มีอันสิ้นสติไปด้วยความเจ็บปวด แต่คุณพระท่านก็ยังไม่หนำใจ ทั้งที่ตนเองก็หอบตัวโยนด้วยลงแรงไปกับหวายทั้งตัว คุณพระท่านร้องสั่งให้ข้าทาสไปนำเกลือเม็ดละลายน้ำเอามาสาดใส่บาดแผลของนางแพงให้มันฟื้นคืนขึ้นมาอีก เพื่อจะให้เรือนร่างนี้ได้รับความเจ็บปวดอย่างต่อเนื่อง ให้สาสมกับสิ่งที่มันทำเอาไว้ เพราะมันเจ็บกาย แต่ท่านนั้นเจ็บปวดไปทั้งหัวใจ รักมากก็แค้นมาก หวงมากก็อยากจะให้ตายคามือด้วยความทรยศ “สาดเข้าไป! เอาให้มันเจ็บมันแสบ มันจะได้รู้ว่าใครอย่าบังอาจมาทำเรื่องอัปรีย์จัญไรบนเรือนกูอีก ไอ้อีหน้าไหนที่มันกล้า มันจะต้องโดนเยี่ยงน
ฉาด! ฝ่ามือกระทบใบหน้าของนางแพงอีกครั้งให้หันไปตามแรงตบ เมื่อนางแพงเอาแต่ยิ้มและหัวเราะขันกับคำพูดของตนเอง มันทำความเสื่อมเสียเพียงผู้เดียวยังไม่พอ ยังจะริปากดีป้ายสีให้แม่พิศเมียรักต้องมัวหมองไปด้วย “ตบอีกสิเจ้าคะ ตบให้อีแพงมันตายไปเลย ไม่ต้องรอหวายแล้วเจ้าค่ะ แค่น้ำมือคุณท่าน อีแพงก็แทบจะตายคามืออยู่แล้ว แต่ก่อนตายขออีแพงได้พูดให้หมดเปลือกเถิด อีแพงคบชู้ อีแพงยอมรับ แต่หากคุณนายพิศคบชู้เล่าเจ้าคะ คุณท่านจะทำเช่นไร จะลงโทษคุณนายเทียบเท่ากับอีแพงรึไม่ หรือจักส่งคุณนายไปให้กองโปลิศตัดสิน ให้ประณามหยามเหยียดไปทั่วพระนคร ว่าลูกสาวบ้านนี้สัญชาติคบชู้สู่ชาย บ้านใดนำไปเป็นลูกเป็นเมีย ก็รังแต่จะเสื่อมเสียคบชู้อยู่ร่ำไป” “อีแพง!” 
“เอ็งช่างกล้าพูดนักนังแพง...” น้ำเสียงเอ่ยออกมาด้วยความเข่นเครียด ยิ่งเห็นเรือนร่างอวบอิ่มของเมียสาวคราวลูกสั่นสะท้านไปด้วยแรงสะอื้น คุณพระท่านยิ่งสะท้อนไปถึงหัวใจ เพราะนางแพงเมียทาสผู้นี้ ท่านสนิทเสน่หามันยิ่งนัก กลับมาคืนเรือนครั้งนี้ ท่านก็หวังจะโอ้โลมมันให้มีความสุข เพราะทิ้งร้างให้เปล่าเปลี่ยวอยู่นาน จนต้องสั่งให้เจ้าเข้มมาแจ้งข่าวกับแม่พิศว่าท่านจะคืนเรือนในวันนี้ ให้นางแพงได้เตรียมตัวต้อนรับท่านเถิด แต่กลับกลายเป็นว่านางแพงมันมีความสุขจนแทบจะสำลักอยู่แล้ว แม้จะรู้ว่าท่านคืนเรือนวันนี้ มันก็ยังกล้าที่จะพาไอ้บุญทิ้งไปร่วมรักกันบนเรือน บนเตียงที่ทับรอยของท่าน รวมทั้งคำรักที่มันพร่ำพลอดแก่กันและกันนั้น แปลว่านางแพงผู้นี้ไม่เคยเห็นท่านอยู่ในสายตาสักนิด มันไม่คิดถึงความสุขสบายที่ท่านปรน
ริมฝีปากยังคงแนบชิดแต่ท่อนแขนช้อนเรือนร่างอวบอิ่มขึ้นโอบอุ้มพาก้าวเดินไปสู่เตียงสี่เสาที่มีม่านลูกไม้สีขาวประดับอยู่ ร่างงดงามถูกวางไว้บนฟูกนุ่มที่ขึงเรียบตึงด้วยผ้าปูเตียงสีชมพูอ่อน กอปรกับแสงไฟสีนวลจากตะเกียงก็ช่วยส่งขับให้ผิวกายสีน้ำผึ้งนวลเนียนนี้ให้ยิ่งนวลน่าลูบไล้ฝ่ามือลงไปสัมผัสมากยิ่งขึ้น “พี่บุญทิ้งจ๋า... แพงรักพี่เหลือเกิน” “พี่ก็รักแม่แพงยิ่งนัก” แม่แพงคล้องฝ่ามือรอบลำคอแกร่งของไอ้ทาสวัยหนุ่มพลางรั้งใบหน้าคมเข้มนั้นเข้าหาตัว ความแข็งแกร่งนี้ที่หล่อนปรารถนา ความเข้มแข็ง ดุดัน ของคนรุ่นหนุ่ม หาใช่ความแก่ชราของชายวัยคราวพ่อเฉกเช่นคุณพระท่าน และเมื่อใบหน้าคมเข้มนั้นเคลื่อนเข้าใกล้ แม่แพงก็หลับตาพ
“อา... บุญทิ้งจ๋า... กระแทกลงมาแรงๆ เลย บุญทิ้งจ๋า...” “ขอรับคุณท่าน ไอ้ทิ้งจะกระแทกให้แหลกคา...” ขาดคำของบุญทิ้ง ไอ้ทิ้งน้อยก็โจนทะยานไปข้างหน้า ทะลวงเข้าไปในโพรงฉ่ำน้ำของคุณนายพิศอย่างบ้าคลั่ง และเมื่อคุณนายกรีดร้องด้วยความสุข ไอ้ทิ้งน้อยก็พ่นพิษร้อนออกมาอย่างท่วมท้นเช่นเดียวกัน โพรงดอกไม้ตอดตุบจนบุญทิ้งต้องซุกซบใบหน้าลงไปที่เต้าอวบอิ่มของคุณนายพิศ พร้อมทั้งจูบซับปลายยอดงอนงามด้วยความซ่านเสียวและพิศวาส ความร้อนแรงของคุณนายเจ้าของเรือนยังมีให้มันอย่างไม่หยุดหย่อน ตราบจนเสียงไก่ขันดังแว่วมา ไอ้ทิ้งน้อยจึงจำต้องอำลาโพรงน้ำหวานกลับไป เพื่อทำหน้าที่ทาสในเรือนเฉกเช่นเดิม.. 
“ขอบใจแพง” “ใช่ ข้าขอบใจที่แม่แพงจะไม่นำเรื่องของบุญทิ้งไปบอกคุณพระท่าน” “เอ่อ... เจ้าค่ะ” แม่แพงก้มหน้าไม่กล้าสบสายตาคุณนายพิศ ด้วยไม่รู้ว่าคุณนายรู้เรื่องมากไปกว่านี้รึไม่ และคำพูดต่อมาของคุณนายก็ทำให้แม่แพงเข้าใจว่าคุณนายพิศไม่ได้รู้เรื่องระหว่างตนกับบุญทิ้ง “ข้าหลงผิดไปเอง ต่อแต่นี้ไปข้าจะไม่กระทำผิดเยี่ยงนั้นอีก” เสียงสะอื้นของคุณนายพิศทำให้แม่แพงต้องมองคุณนายใหญ่เจ้าของเรือนด้วยความเห็นใจและสะท้อนในหัวอกตัวเองอย่างที่สุด เพราะสิ่งที่คุณนายพิศตั้งมั่นว่าจะไม่ทำผิดนั้น บัดนี้ตัวของแม่แพงเองนั่นแหละที่กร