Share

EP.04 เล่นสวาท

แม่พิศสะบัดใบหน้าร่ำร้องหาแต่ชื่อของแม่อ่ำอยู่ตลอด เพราะในเวลานี้หล่อนรู้แล้วว่าสะโพกผายนั้นจะแอ่นไปสูงได้แค่ไหนกัน และแค่ไหนที่หล่อนจะพอใจ เมื่อดอกไม้แรกแย้มนั้นเบ่งบานออกจากกันจนสุด และกำลังถูกชำแรกด้วยปลายลิ้นน้อยๆ ของแม่อ่ำอย่างรัวเร็ว

“อ้าย... พี่อ่ำจ๋า... พี่อ่ำจ๋า... พี่อ่ำ! อื้อ! พี่อ่ำ!”

เสียงกรีดร้องรัวเร็วราวกับจะเร่งเร้าจึงดังออกจากปากน้อยๆ นั้นอย่างไม่ขาดสาย ร่างกายเบาหวิวราวกับวิญญาณวิ่งพรวดออกจากร่างก่อนจะกระเด็นกระดอนกลับเข้าไปใหม่อย่างรุนแรง ทำให้ร่างเปล่าเปลือยกระตุกวาบติดกันหลายต่อหลายครั้ง

แม่พิศหอบหายใจและหมดเรี่ยวแรงราวกับวิ่งหนีอะไรมาเสียไกล ได้แต่นอนแผ่ร่างเปล่าเปลือยอวดเนื้อหนังมังสาให้เป็นอาหารตาแก่แม่อ่ำต่อไป และเพียงไม่นานแม่อ่ำก็เริ่มต้นกลืนกินเนื้อตัวของหล่อนอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้แม่พิศเองก็ครวญครางซู้ดซี้ดริมฝีปากของตัวเองไปมาราวกับได้กินของเผ็ดร้อนที่เอร็ดอร่อยที่สุดในชีวิต

.

.

นับจากนั้นการเล่นเพื่อนหรือเรียกอีกอย่างว่า ‘เล่นสวาท’ หากจะพูดให้ทะลึ่งตึงตังก็ไม่ได้น่ากลัวสำหรับแม่พิศอีกต่อไป แต่กลับทำให้แม่พิศได้มาเป็นนางพนักงานในตำหนักกรมหมื่นฯ ได้อยู่ดีกินดี มั่งมีศรีสุขเสียยิ่งกว่าเป็นนางพนักงานต้นเครื่องเสียไหนๆ

อีกทั้งกรมหมื่นฯ ท่านก็มีเมตตาผ่อนปรนให้นางพนักงานได้อยู่กันอย่างมีอิสระเสรี โดยมีแม่อ่ำต้นห้องคอยกำชับดูแล แม่พิศจึงสุขเสียยิ่งกว่าได้ขึ้นสวรรค์เพราะไม่ว่าจะต้องการสิ่งใดแม่อ่ำก็จัดหามาให้มิได้ขาด ทั้งแม่อ่ำยังพาแม่พิศไปเที่ยวเล่นหาซื้อข้าวของที่ ‘หน้าประตูศรีสุดาวงศ์’ อยู่เป็นนิจ

ประตูศรีสุดาวงศ์เป็นประตูด้านหลังของกำแพงพระราชวังฝ่ายใน อยู่ตรงกันข้ามกับ ‘ประตูช่องกุด’ ซึ่งเป็นประตูกำแพงวังชั้นนอก จะคึกคักที่สุดในช่วงเช้า เพราะเป็นเวลาที่พ่อค้าแม่ขายจากด้านนอกจะนำสินค้ามาขายให้กับสาวๆ ชาววังได้ซื้อหาของใช้ส่วนตัวไว้ใช้กัน ซึ่งถือเป็นโอกาสที่สาวชาววังจะได้พบปะกับผู้คนจากภายนอกบ้าง และอาจเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่บรรดาพ่อสื่อแม่สื่อจะชักพาหนุ่มๆ ให้มาดูตัวสาวที่หมายมั่นจะสู่ขอไปเป็นศรีภรรยาอีกด้วย และแม่พิศเองก็เป็นหนึ่งในนั้น

เมื่อความสวยของแม่พิศติดตาต้องใจข้าราชบริพารหนุ่มเล็กหนุ่มใหญ่อยู่หลายท่านด้วยกัน แม่อ่ำจึงไม่อนุญาตให้แม่พิศออกมาซื้อหาข้าวของที่หน้าประตูศรีสุดาวงศ์อีกเลย แต่จะเป็นผู้จัดหาให้ทุกอย่างตามที่แม่พิศต้องการ

ทว่าแม่พิศนั้นแม้จะสุขสบายที่ได้รับการปรนเปรอจากแม่อ่ำทุกอย่าง แต่วิสัยนกเมื่อปีกกล้าก็อยากจะโผบิน แม่พิศใคร่ไปเลือกซื้อและจับจ่ายซื้อหาข้าวของด้วยตนเองบ้าง ไม่ได้อยากเป็นนกที่ถูกแม่อ่ำขังเอาไว้เสียในกรง

นั่นจึงเป็นเหตุให้แม่พิศและแม่อ่ำทะเลาะเบาะแว้ง ด้วยแม่อ่ำหึงหวงไปเสียทุกสิ่ง

เมื่อความทราบถึงกรมหมื่นฯ แม้โดยวิสัยแล้ว ท่านจะมิยุ่งเกี่ยวในเรื่องส่วนตัวของผู้ใด เพราะคิดว่าหากปกครองกันได้ก็ปกครองกันไป แต่มาคราวนี้ไม่ยุ่งไม่ได้เพราะแม่อ่ำดูจะร้อนรนกว่าทุกครั้ง จนงานการไม่เป็นอันทำ ฟุ้งซ่านหึงหวงแม่พิศอยู่ทุกเมื่อไป ท่านจึงต้องยื่นมือเข้ายุ่ง

เมื่อมีแม่สื่อมาทาบทามแม่พิศให้กับขุนนางหนุ่มผู้หนึ่ง ทรงโปรดเรียกแม่พิศมาสอบถามความสมัครใจว่าต้องการจะตบแต่งมีเหย้ามีเรือนหรือไม่

ประจวบเหมาะในยามนั้นแม่พิศเองก็อิดหนาระอาใจกับความหึงหวงของแม่อ่ำนักหนา อีกทั้ง ‘หลวงสรเดชมนตรี’ หนุ่มใหญ่วัย 35 ปี ก็มิได้ขี้ริ้วขี้เหร่ แต่กลับอาจองสมสง่าชายชาตรี

แม่พิศสาวรุ่นที่ไม่เคยประสาในมือชาย แรกแค่สบสายตากับหนุ่มใหญ่ แม่พิศก็สะเทื้อนอายจนแทบจะเก็บกิริยาไว้ไม่อยู่ ใคร่ครวญพร้อมปรึกษากับคุณน้าพินแล้ว ทั้งหน้าที่งานราชการของคุณหลวงท่านก็ดูว่าจะก้าวไกล อีกไม่นานคงได้เป็น ‘คุณพระ’ แลหากวาสนาส่งอาจเป็นถึง ‘เจ้าพระยา’ เมื่อนั้นวาสนาก็จะตกถึงแม่พิศด้วย ให้ได้เป็นคุณนายคุณหญิงกับเขาบ้าง

คุณน้าพินท่านก็เห็นควรที่แม่พิศจะแต่งงานออกเหย้าออกเรือนไป ดีกว่าตกอยู่ใต้อาณัติของแม่อ่ำจนต้องกลายเป็นสาวเทื้ออยู่ในเขตวังกรมหมื่นฯ เยี่ยงนี้

แม่พิศจึงตกลงปลงใจและนับวันรอคอย ‘คุณพี่สน’ หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ หลวงสรเดชมนตรีจะจัดข้าวของตามธรรมเนียมมาสู่ขอ

.

.

“น้องพิศ ทำไมถึงได้ใจร้ายกับพี่เยี่ยงนี้ พี่ไม่ดีกับน้องพิศตรงไหน พี่รักน้องพิศยิ่งกว่าหญิงใดที่เคยได้ร่วม เหตุใดน้องพิศจึงตอบแทนความรักของพี่เยี่ยงนี้”

แม่อ่ำตัดพ้อน้ำตานองหน้า เมื่อทราบความว่าแม่พิศตกลงปลงใจจะออกเรือนไปกับหลวงสรเดชมนตรี ด้วยความที่เป็นนางพนักงานมาตั้งแต่เด็กยันเป็นสาวใหญ่ ทำให้แม่อ่ำเห็นการหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนของเหล่านางพนักงานมาช้านาน รู้และเห็นในยามนางเหล่านั้นออกเรือนไปกับขุนน้ำขุนนางก็บ่อยครั้ง รวมทั้งหญิงที่เคยหยอกเย้าเล่นเพื่อนกันนั้นก็มีอยู่หลายนางที่ออกเรือนไป แต่ก็ไม่เคยมีใครทำให้ทุกข์ใจได้เท่าแม่พิศอีกแล้ว

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status