หลังจากเงียบมาเป็นเวลานาน ฟิลิปโยนก้นบุหรี่ทิ้งและเดินออกจากโรงพยาบาลไปขึ้นรถเบนซ์ที่จอดอยู่ด้านหน้าประตูทางเข้ารถค่อย ๆ เคลื่อนตัวออกไปช้า ๆ กลางดึกคืนนั้น ผ่านถนนเส้นหลักของเมืองริเวอร์เดล ข้ามสะพานสการ์เลตและมุ่งสู่ความมืดของหุบเขาสองฝากฝั่ง รถขับเลียบภูเขาไปเรื่อย ๆ และไปหยุดอยู่หน้าคฤหาสน์หลังหนึ่งที่ตั้งอยู่บนยอดเขาซีรัสคฤหาสน์ซีรัสที่นี่คือคฤหาสน์ที่หรูหราและราคาแพงที่สุดในริเวอร์เดลเพียงแค่ค่าก่อสร้างก็มีมูลค่าถึงหนึ่งพันล้านดอลลาร์! พวกเขาต้องถางป่ากว่าครึ่งเขาเพื่อสร้างคฤหาสน์หลังนี้การก่อสร้างเริ่มขึ้นเมื่อเจ็ดปีก่อน แล้วเสร็จสามปีให้หลังต้องใช้แรงงานคน ทรัพยากรและเงินจำนวนมากกับโครงการใหญ่โครงการนี้สิ่งที่ลึกลับที่สุดเกี่ยวกับคฤหาสน์นี้ก็คือไม่มีใครรู้ว่าเจ้าของคฤหาสน์แห่งนี้คือใครมีข่าวลือมากมายว่าเจ้าของคฤหาสน์แห่งนี้ร่ำรวยมหาศาลและทรงอิทธิพลเป็นอย่างมาก ผู้ทรงอิทธิพลบางคนถึงกับบอกว่าใครก็ตามที่ได้มาเป็นแขกที่คฤหาสน์แห่งนี้จะได้เป็นยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมของพวกเขาในอนาคต และนั่นก็เป็นเรื่องจริงสี่ปีก่อน เจ้าของคฤหาสน์เชิญแขกมาพักสี่คน และไม่นานหลังจากน
“คุณพยายามจะทำอะไร?” สีหน้าของฟิลิปเปลี่ยนเป็นเย็นชาและเขาเริ่มกังวลขึ้นมาเขารู้แนวทางของเกียด้าดี ผู้หญิงคนนี้ไม่ลังเลที่จะกำจัดคู่แข่งของเธอให้พ้นทางรวมถึงลูกชายในไส้ของเธอเองเมื่อตอนที่เขาอายุแปดขวบ เธอสั่งให้ใครบางคนขับรถชนเขาจนตายเหตุผลมีเพียงแค่อย่างเดียวเท่านั้น นั่นก็คือเธอเกรงว่าเขาจะเป็นอุปสรรคขัดขวางการครอบครองตระกูลคลาร์คเสือนั้นดุร้ายแต่มันก็ยังไม่กินลูกของมันแต่ในสายตาของเกียด้าแล้ว อำนาจเป็นสิ่งสำคัญเพียงอย่างเดียวสำหรับเธอ เมื่อเกียด้าพูดถึงการแต่งงานของฟิลิปและลูกสาวของเขา เขาเริ่มกระวนกระวายใจนี่เป็นเหตุผลหลักที่ว่าทำไมฟิลิปจึงไม่เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขา“ไม่ต้องกังวลไป พวกเขาเป็นลูกสะใภ้และเชื้อสายของตระกูลคลาร์ค ถ้านายอ้อนวอนฉัน ฉันจะปล่อยพวกเขาไป” รอยยิ้มของเกียด้านสามารถทำให้ทุกคนรู้สึกเย็นเข้าไปถึงกระดูกดำเลย มันเป็นรอยยิ้มที่น่าสะอิดสะเอียน“ผมขอเตือนคุณไว้ก่อนนะ อย่ามาแตะต้องวินน์และมิล่าไม่อย่างนั้นแล้วผมจะทำให้คุณต้องเสียใจ” ฟิลิปกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาเกียด้าหัวเราะออกมาแต่ยังคงท่าทีสงบนิ่ง เธอหยิบกล่องปักผ้าออกมาจากใต้โต๊ะกาแฟ มันเป็นก
เธอเป็นลูกสาวคนเดียวของป้าพอลล่า เธอทำตัวเหินห่างและดูถูกทุกคนเมื่อตอนที่พวกเขายังเด็ก ซาแมนธาอิจฉาวินน์มาตลอด เธอเปรียบเทียบตัวเองกับวินน์ตลอด“ซาแมนธา ช่วยรอพวกเราอีกเดี๋ยวเถอะนะ เราใกล้จะเสร็จแล้ว” วินน์พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงขอโทษขอโพยมุมปากของซาแมนธายกขึ้นพร้อมกับสีหน้าอวดดี เธอตะโกนใส่ฟิลิป “หลบทางสิ ขยะไร้ประโยชน์ มายืนทำอะไรตรงนี้?!” ฟิลิปยิ้มก่อนจะก้าวหลบให้พ้นทางเธอซาแมนธาพรวดพราดผลักเขาให้พ้นทาง เธอเช็ดมือที่เสื้ออย่างรังเกียจและพึมพำขึ้น “เหม็น”หลังจากที่ซาแมนธาเดินจากไปอย่างอวดดี ทุกคนในครอบครัวก็อารมณ์ไม่ค่อยดีนักมาร์ธาตบลงที่โต๊ะและเริ่มก่นด่า “ซาแมนธาหมายความว่ายังไง?! แม่ตัวดี! กล้ามาบ้านฉันแล้วยังมาบ่นนู่นนี่อีก! เธอมีอะไรให้อวดหนักหนา? สามีที่รวยของเธองั้นเหรอ? เธอยังบอกอีกว่าบ้านของเราเหม็นอับ ฉันล่ะโมโหจริง ๆ”ความโกรธของมาร์ธาปะทุออกมาเหมือนภูเขาไฟระเบิดเธอคาดเอาไว้แล้วว่ากลับไปที่บ้านวันนี้จะต้องโดนญาติ ๆ ของเธอพูดถากถางแน่นอนวินน์เองก็รู้สึกท้อแท้แต่เธอก็ยังคงปลอบแม่ของเธอ “แม่คะ ใจเย็นก่อน อย่างน้อยเธอก็ยังอุตส่าห์มารับพวกเรา เรามาพยายามรับมือทุกอ
ซาแมนธาช่างหลงตัวเองนักเมื่อเห็นวินน์ทำหน้าเศร้า เธอยิ่งรู้สึกภูมิใจมากขึ้น “วินนี่ เธอปล่อยให้ฟิลิปซื้อของแบบนี้ให้คุณตาได้ยังไง? ถ้าเธอไม่มีเงินเธอบอกฉันได้นะ เพราะถึงยังไงฉันก็เป็นลูกพี่ลูกน้องของเธอ”พูดเช่นนั้นแล้วซาแมนธาก็หยิบกระเป๋าเงินหลุยส์ของเธอออกมาจากกระเป๋าถือกุชชี่ หยิบบัตรออกมาและยื่นให้วินน์ “นี่ คิดซะว่าเป็นน้ำใจจากฉัน น่าจะมีประมาณ 10,000 ดอลลาร์ในบัตรนี้ มันเหลือจากที่แฟรงค์ซื้อกระเป๋าให้กับฉัน รับไปซะแล้วไปซื้ออะไรดี ๆ ให้คุณตา นี่มันก็แค่เศษเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ ของฉัน” สีหน้าของซาแมนธาในตอนนี้เต็มไปด้วนความหยิ่งยโสในสายตาเธอ วินน์ก็แค่ตัวตลก“ขอบใจนะ ซาแมนธา” ก่อนที่วินน์จะได้พูดอะไร ฟิลิปก็ยื่นมือไปรับบัตรมาจากซาแมนธาขณะที่ยิ้มกว้างซาแมนธาขำพรืดและส่ายหน้าอย่างเอือมระอา ‘ทำไมถึงหน้าไม่อายได้ขนาดนี้’วินน์จ้องเขม็งไปที่ฟิลิป เธอกำลังจะพูดแต่ฟิลิปก็กุมมือเธอไว้และพูดขึ้น “ซาแมนธาอุตส่าห์มีน้ำใจเราก็ควรรับไว้ ผมจะคืนเงินซาแมนธาทีหลังเอง” ฟิลิปไม่อยากให้มีเรื่องอึดอัดใจระหว่างวินน์และซาแมนธาวินน์ปิดปากเงียบไปและยอมรับฟังแต่ใบหน้าของเธอนั้นร้อนผ่าวเธอไม่เ
บ๊อบไม่ได้สนใจที่จะห้ามปรามแม้แต่น้อย เพราะถึงอย่างไรเขาก็ไม่ชอบฟิลิปเช่นกัน ดังนั้นเขาต้องให้บทเรียนแกไอ้หมอนั่นสักหน่อย ไอ้ขยะนั่นจำเป็นต้องรู้ว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถเข้ามาในบ้านตระกูลเยทส์ได้“คุณตาครับ ยังไม่แน่นอนว่าคนอื่น ๆ จะมาถึงตอนไหน คุณตาไปพักก่อนเถอะ ผมจะอยู่รอเอง”เอริคที่อยู่ข้าง ๆ บ๊อบพูดขึ้นด้วยท่าทีสำรวม โดยปกติแล้วเอริคเป็นคนเย็นชาและหยิ่งยโสมากบ๊อบพยักหน้า จ้องมองไปที่หลานชายอย่างรักใคร่หลังจากที่เขาส่งบ๊อบเข้าไปด้านใน เอริคก็เดินออกไปอีกครั้งครั้งนี้มีกลุ่มวัยรุ่นยืนอยู่ที่ประตู พวกเขาคือเหล่าเด็ก ๆ ตระกูลเยทส์“เอริค แกมีแผนยังไง?”หนุ่มน้อยคนนึงท่าทีหยิ่งยโส แต่งกายด้วยเสื้อผ้าราคาแพงพูดขึ้นเขาคือลูกชายคนเล็กของปีเตอร์ เยทส์ ที่เป็นพี่ใหญ่ของตระกูลเยทส์ เขาอายุเท่ากันกับเอริคและพวกเขาก็สนิทกันมาตั้งแต่เด็กดังนั้นลักษณะนิสัยของพวกเขาจึงคล้ายกัน พวกเขาทั้งคู่เป็นหนุ่มเพลย์บอยเงินหนาเอริคยิ้มเย็นออกมาและพูดขึ้น “มาลงโทษไอ้ขี้ขลาดนั่นให้ได้รับความอัปยศอดสูมากที่สุดกันเถอะแล้วก็ทำให้วินน์ต้องอับอายซะ”แอรอนพยักหน้าอย่าง เห็นด้วย เสียงหัวเราะเยาะอย่าง
ทุกคนตกตะลึงพูดไม่ออกไปเมื่อได้ยินในสิ่งที่ฟิลิปพูด! ไอ้คนไร้ค่าฟิลิปกล้าที่จะต่อปากต่อคำกับเอริคงั้นเหรอ?นั่นมันเหนือความคาดหมาย! ไอ้คนไม่เอาถ่านมันสู้กลับ! พวกเขายืนอยู่ที่เยทส์ คอร์ทยาร์ด ที่ปกครองโดยคนตระกูลเยทส์!เขาไม่ได้คิดถึงผลที่จะตามมาจากการกระทำนี้เลยงั้นเหรอ? เอริคหน้าเสีย ท่าทีของเขาหยิ่งจองหองและพูดขึ้นอย่างโกรธจัด “ฟิลิปนี่แกกล้าด่าฉันแบบนั้นงั้นเหรอ? แกคิดว่าแกเป็นใครถึงมาพูดกับฉันแบบนี้? แกเป็นใครถึงได้มางานวันเกิดครอบ 70 ปีของคุณปู่? ฉันจะไม่ปล่อยให้แกผ่านประตูไปได้แน่วันนี้! ไอ้ขยะเอ๊ย! แกคิดว่าแกเป็นใครวะ?” เอริครู้สึกรำคาญใจ เขาไม่คาดคิดว่าคนไม่เอาถ่านอย่างฟิลิปจะมาด่าเขาแบบนี้มันเป็นคำสบประมาทต่อตัวเขาและต่อตระกูลเยทส์อีกด้วยแอรอนรีบตอบรับเห็นด้วยกับเอริค เขาชี้หน้าฟิลิปด้วยท่าทีหยิ่งยโสและร้องลั่น “รีบขอโทษเอริคซะ ไม่อย่างนั้นแกจะไม่ได้รับการต้อนรับที่เยทส์ คอร์ดยาร์ดในวันนี้ ได้ยินรึเปล่า ไอ้คนไร้ค่า?!”ที่ประตูทางเข้าคอร์ทยาร์ด เหล่าสมาชิกตระกูลเยทส์และเครือญาติต่างพากันชะเง้อมอง เมื่อพวกเขาเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่างพากันชี้ไปที่ฟิปและวินน์พ
มาร์ธาก็ตื่นตระหนกเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอเห็นท่าทีโกรธจัดของฟิลิปในตอนนี้'อะไรคือสิ่งที่ทำให้ท่าทางของคนอ่อนแอเปลี่ยนไปในทันที? เขากล้าเถียงฉันกลับมาตั้งสองครั้งแล้ว'เอริคมีความสุขเกินจะบรรยาย เขายังไม่ได้ใช้กลอุบายอย่างเต็มที่เลยแต่ครอบครัวจอห์นสตันก็เริ่มทะเลาะกันเองแล้วดูเหมือนว่ามาร์ธาจะไม่ชอบฟิลิปจริง ๆ เขาใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้ได้มาร์ธาจ้องที่ฟิลิป ดึงชาร์ลส์แล้วเข้าไปในบริเวณบ้านซาแมนธาที่หายไปนาน เธอยืนอยู่ข้างพอลล่า คิ้วของเธอกระตุก ในขณะที่เธอสังเกตสิ่งที่แสนตลกนี้อย่างเย็นชา'วินน์ โอ้ วินน์ เธอมีชีวิตที่น่าเศร้า เธอแต่งงานกับคนไร้ประโยชน์'ซาแมนธาพึมพำคำสองสามคำในใจ และกำลังจะหันหลังกลับและเดินเข้าไปในบ้านอย่างไรก็ตาม เมื่อวินน์เดินนำฟิลิปเข้าไปในบ้าน เอริคก็หยุดพวกเขาอีกครั้ง“วินน์ อย่างที่ฉันพูดไปเมื่อกี้ ฟิลิปไม่คู่ควรจะเข้าสู่ประตูของครอบครัวเยทส์!” จมูกของเอริคเชิดขึ้น เขาดูหยิ่งยโสมากในสายตาของเขา ฟิลิปคือขยะ และครอบครัวเยทส์ไม่ต้อนรับคนไร้ประโยชน์เช่นนี้อารอนยังยืนอยู่ที่ประตูเพื่อกั้นพวกเขาวินน์ขมวดคิ้ว ใบหน้าของเธอก็เปลี่ยนเป็นเย็นชาอ
ฟิลิปนั่งถัดจากวินน์และแน่นอนว่าเขาสังเกตเห็นเอริคกับอารอนกำลังเดินไปมา พวกเขามีรอยยิ้มที่ไม่จริงใจบนใบหน้า“ฟิลิป ทำไมนายถึงมานั่งอยู่ที่ลานด้านนอกใกล้ประตูล่ะ? ตรงนี้คือที่ที่ฉันเคยให้อาหารหมาของฉันนะ”เอริคมองฟิลิปและยิ้มอย่างเย็นชา เผยแววตาของการเยาะเย้ยในดวงตาของเขาวินน์หน้าแดงด้วยความโกรธ เธออยากจะลุกขึ้นแต่มือใหญ่หยุดเธอไว้ฟิลิปยิ้มอย่างใจเย็น “ลานด้านนอกและห้องโถงก็เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับว่าใครจะนั่งกินตรงไหน แถมห้องโถงยังเป็นของครอบครัวเยทส์อีกด้วย ฉันไม่สนใจมันหรอก”ฟิลิปอดทนมานานแล้ว เขาไม่รังเกียจที่จะทำตัวอวดดีสักหน่อยที่สำคัญที่สุด เอริคแสดงออกถึงความเกลียดชังมากเกินไป เขาทำบางสิ่งที่เล็กน้อยให้เป็นเรื่องใหญ่“ฮิฮิ นายนี่มันไม่ธรรมดาจริง ๆ นายรู้วิธีที่จะคุยโม้ นายก็แค่เศษขยะ เรากำลังทำบุญโดยให้นายกินอาหารบนโต๊ะในบ้านร่วมกับครอบครัวเยทส์คนอื่น ๆ เข้าใจไหม ไอ้คนไร้ค่า?!” เอริคเย้ยหยันเจสขมวดคิ้ว ในตอนแรกนั้นเจสสามารถเข้าไปนั่งในห้องโถงได้ แต่เพื่อดูแลวินน์ เธอจึงตัดสินใจนั่งที่ลานด้านนอก“พอแล้วเอริค นายหุบปากไม่ได้เหรอ? จำเป็นต้องทะเลาะกับฟิลิปขนาดนั้นเลยใช่ไห
นั่นคือธีโอ แซนเดอร์!ฟิลิปไม่รู้ว่าอะไรดีต่อตัวเขา เขากล้าดียังไงถึงไม่แสดงความเคารพ?บ๊อบเป็นคนแรกที่โกรธ เขาตะโกนใส่ฟิลิปว่า “ฟิลิป เมื่อมิสเตอร์แซนเดอร์มาที่นี่เพราะนาย ทำไมนายถึงยังนั่งอยู่? นายคิดว่านายเป็นใคร? นายไม่มีมารยาททางสัมคมเหรอ?”หลังจากที่บ๊อบตะโกนอย่างโกรธจัด เอริค อารอน และคนอื่นๆ ก็เริ่มด่าเขาเช่นกัน“ฟิลิป ยืนขึ้นและขอโทษมิสเตอร์แซนเดอร์เดี๋ยวนี้!”“ไอ้ขยะคนนั้นคิดว่าเขาเป็นคนพิเศษ”พวกเขากำลังพูดถึงฟิลิปมากขึ้นและมากขึ้นคนเหล่านี้ไม่ชอบฟิลิปมานานแล้ว ในที่สุดพวกเขาก็มีโอกาสที่จะได้พูดสอดถ้าธีโอโกรธ ฟิลิปคงเสร็จแน่!อย่างไรก็ตาม ฟิลิปยกศีรษะขึ้นเล็กน้อยและมองทุกคน จากนั้นเขาก็คว้าทัพพีและตักซุปให้วินน์ เขากล่าวว่า “นี่ไม่เลว มันดีต่อร่างกายของเธอ เธอควรดื่มอีก”เวรเถอะ!บ๊อบ เดือดพลาด!ไอ้ขยะคนนี้ดูหมิ่นเขาอย่างสิ้นเชิง!เมื่อบ๊อบกำลังจะตะโกนใส่เขาอีกครั้ง ฟิลิปจึงพูดอย่างใจเย็นว่า “นั่ง”“ได้ครับ!”ธีโอถอนหายใจอย่างโล่งอกและนั่งลงอย่างมีความสุข เขานั่งถัดจากรัสเซลและพวกเขาก็พยักหน้าเมื่อสบตากันบ้าอะไรกัน?เกิดอะไรขึ้น? นี้เริ่มแปลกมากไปแล้วทุ
“ธีโอ แซนเดอร์? ธีโอ แซนเดอร์คนไหน?”"มิสเตอร์ธีโอ แซนเดอร์ จากองค์กรการกุศลธีโอดอร์?”“ราชาโลกของใต้ดินแห่งเมืองริเวอร์เดล ธีโอ แซนเดอร์ เหรอ? เขามาที่นี่ทำไม”ก่อนที่ญาติพี่น้องและรุ่นลูกหลานของครอบครัวเยทส์ที่อยู่ในลานบ้านจะฟื้นคืนสติ ทุกคนในห้องโถงเริ่มวิตกกังวลเมื่อเทียบกับผู้ประกอบการและนักสะสมที่มีชื่อเสียงอย่างรัสเซล ธีโอได้โด่งดังในเมืองริเวอร์เดลเนื่องจากเขามีอำนาจทางด้านมืดหากผู้มีอำนาจเช่นนั้นไม่ได้มาที่นี่อย่างจริงใจ อาจกล่าวได้ว่าเขามาที่นี่เพื่อปลิดชีพใครบางคนเป็นเรื่องธรรมดาที่บ๊อบจะประหม่าไม่ใช่ทุกคนที่จะติดต่อกับชายผู้มีอำนาจอย่างธีโอได้ อีกอย่างคือไม่มีบุคคลธรรมดาคนไหนที่จะเชิญเขาเพื่อทำอะไรบางอย่างได้ในขณะที่ทุกคนตกตะลึง ธีโอก็เดินเข้าไปในลานบ้านด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา ชุดสูทสีขาวและหมวกทรงฟีโดราของเขาเปล่งประกายไปทั่วอาณาเขต ใครบางคนอาจจะรู้สึกเหมือนถูกภูเขาบดขยี้ด้วยการปรากฏตัวของเขาแน่นอนว่านั่นคือธีโอ แซนเดอร์ ราชาของโลกใต้ดินแห่งเมืองริเวอร์เดล!การปรากฏตัวของเขามีอำนาจเหนือทั้งงานฉลองเจสตกใจมาก นี่คือชายผู้ทรงอำนาจและมีชื่อเสียงมากในเมืองริ
'จอร์จ โธมัส คุณมันโคตรจะทำลายชีวิตฉัน!'ฟิลิปไม่สามารถปฏิเสธเขาได้ ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงเตรียมตัวให้พร้อมและเดินผ่านหน้าทุกคน โดยมีวินน์อยู่ข้าง ๆ เขาเขารู้สึกได้ถึงการจ้องมองที่เย็นชาที่หลังของเขามากกว่าสิบครั้ง พวกมันแทงเข้าไปในร่างกายของเขาราวกับลูกศรพันดอกเมื่อพวกเขาอยู่ในลานบ้าน ทุกคนก็นั่งลง แน่นอนว่ารัสเซลนั่งอยู่ในห้องโถง หลังจากที่บ๊อบนั่งลงก่อนเมื่อเอริคเห็นว่าทุกคนอยู่ในห้องโถงและลานทางเดินกลาง เขาจึงตัดสินใจที่อยู่ตรงลานด้านนอก เขาเยาะเย้ยในขณะที่รู้สึกพอใจกับตัวเองว่า “ฟิลิป ไม่คิดว่าขยะอย่างนายจะรู้จักผู้ประกอบการและนักสะสมอย่างรัสเซล ช่างโชคดีเสียนี่กระไร!”แม้ว่าเขาจะยิ้ม แต่ทุกคนก็บอกได้เลยว่ามันเป็นน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยการเสียดสี ฟิลิปขมวดคิ้วเล็กน้อย ความทุกข์ในใจเริ่มรุนแรงขึ้นเอริคเป็นตัวเคราะห์ร้ายของครอบครัวเยทส์ถึงกระนั้นฟิลิปก็ยังเพิกเฉยต่อเขา เขาเป็นแค่คนโง่ที่ไร้ค่า แล้วทำไมเขาต้องไปยุ่งกับเอริคด้วย?อีกด้านหนึ่ง รัสเซลเพิ่งนั่งลง เมื่อเขาเห็นฟิลิปที่มุมของลานด้านนอก กำลังถูกดูถูกโดยเอริคด้วยรอยยิ้มจอมปลอมบนใบหน้า เขารู้สึกกระวนกระวายใจคนฉ
บ๊อบรู้สึกตื่นเต้นมากในขณะนี้รัสเซลอยู่ที่นี่และให้ของขวัญเป็นภาพ 'กุ้ง' โดยฉี ไป่ซี่ นี่เป็นของขวัญล้ำค่า!ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถให้ของขวัญที่หรูหราเช่นนี้ได้ทุกคนเดินตามบ๊อบและออกมาที่ลานด้านนอก จากนั้นพวกเขาก็มาถึงทางเข้าคฤหาสน์เอริคเป็นคนสุดท้ายที่มาถึง เมื่อเห็นว่าฟิลิปไม่ขยับตัวตามมา เขาก็พูดอย่างเกลียดชังว่า “เป็นอะไรไป? คนสำคัญอย่างรัสเซล ฟิลด์ อยู่ที่นี่ นายไม่อยากไปต้อนรับเขาเหรอ?”ผู้ชายคนนี้มีตะปูที่ก้นของเขาเหรอ?เขายังนั่งอยู่กับที่ได้อย่างไร?หลังจากเสียงเตือนของเอริค ฟิลิปครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้และได้ข้อสรุปว่าคำพูดของเอริคนั้นสมเหตุสมผล เขาลุกขึ้นและตามวินน์ไปพร้อม ๆ กับผู้คนที่เหลือ อย่างไรก็ตามเขายืนห่างจากฝูงชนเพียงไม่กี่เมตร เขาไม่ต้องการที่จะไปอยู่ด้านหน้า ฟิลิปไม่ต้องการเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องแบบนี้ทุกคนยืนที่ประตูด้วยความเคารพ รถมายบัคสีดำหยุดอยู่ที่ทางเข้าทันใดนั้นประตูรถก็เปิดออกและรัสเซลก็ลงมาจากรถด้วยใบหน้ายิ้มแย้มบ๊อบเดินออกไปพร้อมกับยิ้มกว้างบนใบหน้า เขากางมือและกล่าวด้วยความเคารพว่า “มิสเตอร์ฟิลด์ ฉันไม่ได้คาดคิดว่าคนสำคัญเช่นคุณจะมาที่
ปังประตูห้องน้ำเปิดออก และเจสก็เข้ามาเมื่อนางเห็นภาพตรงหน้าเธอจึงหันหลังเดินจากไป ก่อนที่เธอจะจากไป อย่างไรก็ตามเธอหันกลับมาและพูดว่า “พวกนายแต่งงานมานานแล้ว หาที่ที่ดีกว่านี้ ถ้าพวกนายอยากลึกซึ้งระหว่างกัน”หลังจากที่เจสจากไป ฟิลิปพูดด้วยความรำคาญว่า “ต้องมีอะไรผิดปกติกับความคิดของผู้หญิงคนนี้ เธอทนไม่ได้ที่เห็นสามีและภรรยามีความสุขกัน”วินน์กลอกตามองเขาและเดินเข้ามาหาเขา เธอยืดหลังให้ตรงและติดกระดุมเสื้อให้เขาฟิลิปอยากจะสานต่อแต่วินน์ปัดมือของเขาออก “หยุด หาเศษหาเลย ไปกันเถอะ."ฟิลิปยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้ เขาบ่นว่า “เราเป็นสามีภรรยากันมานานแล้ว เธอกลัวอะไร?"วินน์หันกลับมาและแสดงรอยยิ้มที่พึงพอใจ เธอดูเย้ายวนภายใต้แสงแดดเมื่อพวกเขากลับมาที่งานเลี้ยง ก็ใกล้จะสิ้นสุดแล้วฟิลิปเพิ่งนั่งลงได้หนึ่งนาทีเมื่อได้รับข้อความจากจอร์จ'นายน้อยพร้อมแล้ว รอการเซอร์ไพรส์ก่อนนะครับ'แปลกมันหมายความว่าอย่างไร?ฟิลิปตอบอย่างรวดเร็วว่า 'จอร์จ คุณหมายความว่าอย่างไร?'ในขณะนี้ จอร์จนั่งอยู่บนรถเบนท์ลีย์และกำลังเดินทางไปยังหมู่บ้านเยทส์เขาตอบว่า 'นายน้อย คุณเป็นตัวละครหลักของฉลองของคร
เอริคอ้าปากค้าง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความดูถูก เขาชี้ไปที่ฟิลิปและพูดว่า “เวรเถอะ! นายพูดว่าอะไรนะฟิลิป? นายกำลังจะพาวินน์ไปที่นั่นเหรอ? นายจะพาเธอไปที่นั่นได้อย่างไร? นายมันก็แค่เศษขยะ!“นายรู้ไหมว่าคฤหาสน์เซอร์รัสเป็นสถานที่แบบไหน? มันเป็นคฤหาสน์ที่ลึกลับที่สุดในเมืองริเวอร์เดล! เจ้าของใช้เงินหนึ่งพันล้านในการสร้าง!“นายกำลังจะบอกว่านายมีคุณสมบัติที่จะได้รับเชิญไปงานปาร์ตี้ด้วยเหรอ?”เอริคไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เขาพูดคำพูดที่เลวร้ายและคำเหน็บแนมทุกประเภทเขาดึงดูดความสนใจของคนจำนวนหนึ่งได้ในเวลาเพียงไม่นาน พวกเขาเริ่มหัวเราะเยาะฟิลิปเช่นกันฟิลิปเพิ่งทำให้ตัวเองอับอาย!เขายังคงพยายามโอ้อวดแม้ว่าทุกสิ่งจะมาถึงจุดนี้แล้วใบหน้าของวินน์ก็ถูกเผาไหม้ด้วยความอับอายเช่นกัน เธอเตะฟิลิปใต้โต๊ะเพื่อบอกให้เขาหยุดพูดเธออายเป็นอย่างมากแล้ว แต่ฟิลิปไม่ยอมหยุดพูด!เขาจะหยุดหลังจากที่เขามีปัญหากับทุกคนเหรอ?เมื่อเธอคิดถึงเรื่องนี้ วินน์ก็เริ่มโกรธอย่างไรก็ตาม เธอยังคงพอทนกับฟิลิปได้ เธอพูดเบา ๆ ว่า “พอแล้ว หยุดพูด นายอยากให้เราดูโง่เหรอ?”ฟิลิปพูดไม่ออก เขาจับจมูกของเขาและพยักหน้า
บ็อบจ้องมองฟิลิปซึ่งนั่งอยู่บนที่นั่งอย่างเย็นชา เขาพ่นลมหายใจและพูดว่า “เขาคิดว่าเขาเป็นใคร? ช่างเป็นภาพที่เจ็บปวดเสียนี่กระไร!”ด้วยการเยาะเย้ย บ็อบเดินออกไปพร้อมกับเอาไม้เท้าสีดำแตะพื้น เขากำลังจะออกไปพร้อมกับกลุ่มคนของเขาฟิลิปได้แต่อดทนกับการปฏิบัติแบบนี้มาเป็นเวลานาน เขานั่งบนที่นั่งอย่างเฉยเมยและจิบไวน์ของเขา เขาพูดอย่างใจเย็น “คุณปู่แน่ใจได้อย่างไรว่าผมไม่ใช่มิสเตอร์คลาร์ค”ตอนแรกทุกคนตกใจ จากนั้นพวกเขาก็เริ่มหัวเราะเสียงดังฟิลิปเป็นคนงี่เง่าหรือเปล่า?เขากล้าพูดแบบนี้ได้ยังไง?"เวร! ฟิลิป ทำไมนายไม่ลองส่องกระจกดูตัวเองดูล่ะ? นอกจากนามสกุลของนายแล้ว ส่วนไหนของนายที่ดูเป็นคนรวย”เอริคหัวเราะด้วยความหงุดหงิดคนไร้ยางอายเช่นนี้จะมีตัวตนได้อย่างไร? เขาเป็นคนที่ตลกมาก!ฟิลิปไม่ได้พูดอะไร เขารู้ว่าพวกเขาจะไม่เชื่อ แม้ว่าเขาจะบอกกับพวกเขาบ็อบและกลุ่มคนของเขาพ่นลมทางจมูกและเดินออกจากประตูไปในชั่วพริบตา เหลือเพียงไม่กี่คนในลานบ้านเจสไม่ได้ออกไป เธอมองฟิลิปและพูดอย่างเย็นชาว่า “ฟิลิป ฉันคิดว่านายเป็นตัวปัญหา นายโอ้อวดมากเกินไป ถ้านายยังทำตัวแบบนี้ต่อไป ฉันแนะนำให้นายหย่าก
ลงทุน 1 พันล้าน!ทรัพย์สินทั้งหมดของครอบครัวเยทส์มีมูลค่าเพียง 700 ถึง 800 ล้านเหรียญ!หากเพิ่มบริษัทของบ็อบกับของแซมซันและเท็ด พวกเขามีจะทรัพย์สินมากกว่าหนึ่งพันล้านไปเล็กน้อยเท่านั้น!การลงทุนหนึ่งพันล้านเหรียญนี้ไม่รู้ว่ามาจากไหน!เขาจะไม่ตื่นเต้นได้อย่างไร?บ๊อบยืนขึ้นอย่างตื่นเต้นและเบิกตากว้าง เขาถามพลางหายใจหอบ “อะไรนะ...นายพูดว่าอะไรนะ? พูดอีกครั้ง!"“นายท่านอาวุโส เรามีเงินลงทุนหนึ่งพันล้านดอร์ล่า!” ในที่สุดชายวัยกลางคนก็ปาดเหงื่อและพูดด้วยความตื่นเต้นเช่นเดียวกันทันใดนั้น บ๊อบก็หน้าแดง เขาเงยหน้าขึ้นและหัวเราะกับท้องฟ้า “วิเศษมาก! ครอบครัวเยทส์กำลังจะเข้าสู่สังคมชั้นสูงในที่สุด! ลงทุนหนึ่งพันล้านดอลล์! ไปหาว่าใครคือคนที่ลงทุนกับเรา เราต้องเชิญพวกเขามาที่นี่และดูแลพวกเขาให้ดี!”คนคนนี้ต้องเป็นมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยมากเขาต้องปฏิบัติต่อคนคนนี้ด้วยความเคารพบ๊อบพร้อมที่จะเชิญพวกเขามาที่นี่ด้วยตัวเองชายวัยกลางคนตอบว่า “เป็นนักลงทุนเทวดา เขาใช้ชื่อว่ามิสเตอร์คลาร์ค นายท่านอาวุโส คุณรู้จักใครที่มีนามสกุลคลาร์คไหม?”ชายวัยกลางคนงงงวย เขาอยู่กับบ๊อบมานานกว่าสิบปี เขารู้จักค
'รอสัญญาณจากฉัน ฉันไม่ชอบครอบครัวเยทส์” ฟิลิปตอบข้อความอย่างลับ ๆ และเก็บโทรศัพท์ของเขาจอร์จอยู่ที่สำนักงานของประธานในเอเปก กรุ๊ป หลังจากที่เขาได้รับข้อความ เขาเลิกคิ้วและบอกกับเลขาฯ ให้ประกาศเรื่องนี้ตราบใดที่ฟิลิปเอ่ยปาก เขาก็จะทำให้ครอบครัวเยทส์ล้มละลายคนโง่ตาบอดเหล่านี้จะต้องต่อต้านนายน้อย“ฟิลิป นายกำลังทำอะไร?” วินน์สังเกตว่าฟิลิปเล่นโทรศัพท์ของเขาตลอดเวลา เธอจึงถามด้วยความสงสัย“โอ้ มันไม่มีอะไร ศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์บอกฉันว่าเขาจะเตรียมการผ่าตัดของมิล่าในวันพุธหน้า” ฟิลิปตอบ"จริงเหรอ?" วินน์รู้สึกตื่นเต้น เธอจับมือฟิลิปด้วยอารมณ์อ่อนไหวมิล่าคือทุกสิ่งของเธอ คุณแม่คนไหนจะอยากเห็นลูกของตัวเองทนทุกข์?"ใช่" ฟิลิปตบหลังมือของวินน์ด้วยความรัก“เฮ้ เคยยินไหมว่าโครงการพัฒนาโอเอซิสทางตอนใต้ของเมืองริเวอร์เดล ได้รับการพัฒนาโดยจอร์จ โธมัส มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในริเวอร์เดล เท็ดทำให้พวกเราทุกคนภูมิใจด้วยการได้โครงการนั้น!”"งั้นเหรอ? ฉันได้ยินมาว่านายท่านที่อยู่เบื้องหลังโครงการนี้คือเศรษฐีใหม่ระดับโลก เขารวยเป็นบ้า!”“อนาคตของเท็ดจะสดใสมาก เห็นได้ชัดว่าบ๊อบต้องการฝึกให้