ฟิลิปนั่งถัดจากวินน์และแน่นอนว่าเขาสังเกตเห็นเอริคกับอารอนกำลังเดินไปมา พวกเขามีรอยยิ้มที่ไม่จริงใจบนใบหน้า“ฟิลิป ทำไมนายถึงมานั่งอยู่ที่ลานด้านนอกใกล้ประตูล่ะ? ตรงนี้คือที่ที่ฉันเคยให้อาหารหมาของฉันนะ”เอริคมองฟิลิปและยิ้มอย่างเย็นชา เผยแววตาของการเยาะเย้ยในดวงตาของเขาวินน์หน้าแดงด้วยความโกรธ เธออยากจะลุกขึ้นแต่มือใหญ่หยุดเธอไว้ฟิลิปยิ้มอย่างใจเย็น “ลานด้านนอกและห้องโถงก็เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับว่าใครจะนั่งกินตรงไหน แถมห้องโถงยังเป็นของครอบครัวเยทส์อีกด้วย ฉันไม่สนใจมันหรอก”ฟิลิปอดทนมานานแล้ว เขาไม่รังเกียจที่จะทำตัวอวดดีสักหน่อยที่สำคัญที่สุด เอริคแสดงออกถึงความเกลียดชังมากเกินไป เขาทำบางสิ่งที่เล็กน้อยให้เป็นเรื่องใหญ่“ฮิฮิ นายนี่มันไม่ธรรมดาจริง ๆ นายรู้วิธีที่จะคุยโม้ นายก็แค่เศษขยะ เรากำลังทำบุญโดยให้นายกินอาหารบนโต๊ะในบ้านร่วมกับครอบครัวเยทส์คนอื่น ๆ เข้าใจไหม ไอ้คนไร้ค่า?!” เอริคเย้ยหยันเจสขมวดคิ้ว ในตอนแรกนั้นเจสสามารถเข้าไปนั่งในห้องโถงได้ แต่เพื่อดูแลวินน์ เธอจึงตัดสินใจนั่งที่ลานด้านนอก“พอแล้วเอริค นายหุบปากไม่ได้เหรอ? จำเป็นต้องทะเลาะกับฟิลิปขนาดนั้นเลยใช่ไห
ทุกคนมองไปทางต้นเสียงนายท่านอาวุโสเยทส์กำลังจ้องมองฟิลิป ใบหน้าของเขาเย็นชา ความโกรธลุกโชนจากร่างของเขา ในขณะที่เขาตะโกนว่า “ถ้านายกล้าจะต่อยเขา ออกไปจากคฤหาสน์เยทส์เดี๋ยวนี้!”ในขณะนี้ลานด้านนอกเต็มไปด้วยผู้คน พวกเขาไม่ได้พยายามที่จะช่วย พวกเขาไม่ได้บอกให้หยุดด้วยซ้ำ แค่ยืนอยู่อีกด้านหนึ่ง ขณะเฝ้าดูสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นเมื่อเห็นนายท่านอาวุโสเยทส์ ทุกคนยืนอยู่ที่ด้านเดียวกันด้วยความกลัว พวกเขาทุกคนก้มศีรษะลงอย่างเงียบ ๆเขาเป็นหัวหน้าของครอบครัวเยทส์ ใครจะกล้ายั่วโมโหเขาถ้าพวกเขาทำให้นายท่านอาวุโสเยทส์ขุ่นเคือง พวกเขาควรจะออกไปจากเมืองริเวอร์เดลฟิลิปทำไปเพื่ออะไร!ภายใต้การจ้องมองด้วยความเคารพของทุกคน นายท่านอาวุโสเยทส์เดินเข้ามาใกล้ชายทั้งสองคน ในขณะที่ไม้เท้าของเขากระทบพื้นเสียงดัง เขาเปล่งประกายด้วยความโกรธ เขายกไม้เท้าขึ้นแล้วเหวี่ยงไปที่มือของฟิลิปที่ยกขึ้นกลางอากาศเพียะ!ฟิลิปรู้สึกถึงความเจ็บปวด แขนขวาของเขาชาไปหมด“ไอ้เศษขยะดื้อด้าน! แกกล้าดียังไงมาต่อยเอริค! นี่เป็นลูกเขยที่น่าภาคภูมิใจของเธอเหรอ มาร์ธา?” นายท่านอาวุโสเยทส์จ้องมองไปที่มาร์ธาซึ่งยืนอยู่ข้างหลังเขา
บัฟเฟอร์งั้นเหรอ?เจสมองฟิลิปอย่างไม่เข้าใจ ไม่มีร่องรอยของสิ่งที่ไร้สาระบนใบหน้าของเขาเขาหมายถึงอะไร?เขารู้หรือไม่ว่าบัฟเฟอร์คือใคร?เขาเป็นเทพเจ้าแห่งการลงทุน!เขามีทรัพย์สินหลายแสนล้านเหรียญและเป็นหนึ่งในมหาเศรษฐีอันดับต้น ๆ ในโลก ของนิตยสารฟอบส์!คนอย่างเขาเป็นที่นับถือโดยผู้คนมากมาย เธอจะได้เจอเขาอย่างนั้นเหรอ?“ฟิลิป นายเคยชินกับการพูดโม้แล้วใช่ไหม ฮะ?”ดังนั้น เจสจึงคิดว่าฟิลิปล้อเล่น เธอกลอกตามองเขาและไม่สนใจเขาถ้าฟิลิปรู้ว่าเจสคิดอะไรอยู่ตอนนี้ เขาก็คงจะหัวเราะออกมาอย่างหนักบัฟฟี่เยี่ยมมากงั้นเหรอ?เขามีทรัพย์สินจำนวนนั้นเพียงเพราะฟิลิปขอให้บัฟเฟอร์เก็บไว้ให้เขาเขาส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้และหัวเราะออกมาอย่างขมขื่น จากนั้นฟิลิปก็เดินออกจากลานบ้านและมายังที่ที่สงบกว่า เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาและค้นหาหมายเลขโทรศัพท์ของบัฟเฟอร์หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็โทรหาบัฟเฟอร์ในชั่วพริบตา เสียงที่น่าเคารพและตื่นเต้นก็ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านของโทรศัพท์ เสียงของเขาแหบเพราะอายุมาก และเขาพูดด้วยภาษาอังกฤษที่ไม่ค่อยจะถูกต้องว่า “นายน้อยฟิลิปที่รัก นั่นคุณเหรอ? ผมรอคุณโทรมาหามานานแล้ว ผ
เจสลุกขึ้นเมื่อถึงคราวของเธอ เธอมองไปที่วินน์และฟิลิปก่อนที่จะถอนหายใจ“คุณปู่ นี่คือจดหมายตอบรับจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ฉันจะไปเรียนปริญญาเอก” เจสหยิบจดหมายตอบรับออกมานี่เป็นวิธีการให้ของขวัญของนักเรียนชั้นยอด เธอช่างไม่ทำตัวเด่นเหลือเกิน!ฮาร์วาร์ด!สถานศึกษาที่ดีที่สุด!บ๊อบมีความสุขมากจนดวงตาของเขากลายเป็นสองเส้น เขารับจดหมายมาและเริ่มชมเชยซ้ำแล้วซ้ำเล่า “ยอดเยี่ยม! ลูกสาวของลูกชายคนโตของฉันไม่เคยทำให้ฉันผิดหวัง จะมียอดหญิงในหมู่ครอบครัวเยทส์!”ฮ่าฮ่าฮ่า!ทุกคนเริ่มชมเชยเจสบ๊อบมอบซองอั่งเปาให้เธอซึ่งเธอก็รับไว้เช่นกันจากนั้น ภายใต้สายตาที่คาดหวังของทุกคน เท็ดก็ลุกขึ้นหลังจากนั่งมาตลอด เขาเดินมือเปล่ามายืนหน้านายท่านอาวุโสและพูดอย่างใจเย็นว่า “คุณปู่ ตอนฉันมาที่นี่ ฉันรีบร้อน ดังนั้นฉันจึงไม่ได้นำอะไรมาด้วย”ทุกคนตกใจเมื่อได้ยินอย่างนั้นไม่ได้เอาอะไรมา?นี่ไม่ใช่สิ่งที่เท็ดควรทำปีเตอร์นั่งอยู่ที่นั่นอย่างสงบ ยิ่งไปกว่านั่นเขายังจิบชา เขาดูเฉยเมย ราวกับว่าเขาได้ทำนายสิ่งนี้ไว้แล้วเมื่อเอริคและอารอนได้ยินสิ่งนี้ พวกเขาก็โดดออกมาอย่างไม่อดทน พวกเขากล่าวหาว่า “เท็ด น
ทุกคนที่งานฉลองวันเกิดต่างมองมาที่วินน์ด้วยความรังเกียจและการดูถูกในสายตาของพวกเขาของขวัญของเอริคและอารอนที่เคยให้มาก่อนหน้านี้มีค่าเป็นอย่างยิ่งจากนั้นเท็ดก็ประกาศข่าวที่น่าตกตะลึงเกี่ยวกับการบรรลุผลในโครงการพัฒนาโอเอซิสทางตอนใต้ของริเวอร์เดลเขาจะทำเงิน 500 ล้านให้ครอบครัวเยทส์!ตอนนี้ถึงคราวของวินน์แล้ว วันนี้ครอบครัวของเธอจะมอบของขวัญอะไร?มาร์ธานั่งบนที่นั่ง เธอประหม่าเป็นอย่างมาก เธอเห็นสิ่งที่วินน์ถืออยู่ มันคือกล่องที่ฟิลิปมอบให้วินน์ก่อนหน้านี้ถ้าวินน์มอบสิ่งนั้นให้คุณพ่อของเธอ มันคงเป็นเรื่องตลกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งศตวรรษทุกคนจะมองพวกเขาราวกับว่าพวกเขาเป็นคนโง่!เอริคจ้องไปที่วินน์ด้วยใบหน้าเยาะเย้ย เขามองดูกล่องเล็ก ๆ ในมือของเธอและรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็กว้างขึ้น เขาเลิกคิ้วและพูดว่า “ไงจ๊ะ วินนี่ วันนี้วันเกิดครบรอบ 70 ปี ของคุณปู่ เธอจะให้กล่องเล็ก ๆ นี้กับเขาจริง ๆ เหรอ? ของมีค่าอะไรที่สามารถถือไว้ได้?”เอริคพึมพรำอยู่ในหัวของเขา เขาเห็นด้วยสองตาของเขาเองว่าสิ่งนี้ถูกมอบให้กับวินน์โดยฟิลิปผู้ไร้ประโยชน์เขาไม่มีเงินและไม่มีอำนาจ เขาจะซื้อของขวัญแบบไหนได้?
'รอสัญญาณจากฉัน ฉันไม่ชอบครอบครัวเยทส์” ฟิลิปตอบข้อความอย่างลับ ๆ และเก็บโทรศัพท์ของเขาจอร์จอยู่ที่สำนักงานของประธานในเอเปก กรุ๊ป หลังจากที่เขาได้รับข้อความ เขาเลิกคิ้วและบอกกับเลขาฯ ให้ประกาศเรื่องนี้ตราบใดที่ฟิลิปเอ่ยปาก เขาก็จะทำให้ครอบครัวเยทส์ล้มละลายคนโง่ตาบอดเหล่านี้จะต้องต่อต้านนายน้อย“ฟิลิป นายกำลังทำอะไร?” วินน์สังเกตว่าฟิลิปเล่นโทรศัพท์ของเขาตลอดเวลา เธอจึงถามด้วยความสงสัย“โอ้ มันไม่มีอะไร ศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์บอกฉันว่าเขาจะเตรียมการผ่าตัดของมิล่าในวันพุธหน้า” ฟิลิปตอบ"จริงเหรอ?" วินน์รู้สึกตื่นเต้น เธอจับมือฟิลิปด้วยอารมณ์อ่อนไหวมิล่าคือทุกสิ่งของเธอ คุณแม่คนไหนจะอยากเห็นลูกของตัวเองทนทุกข์?"ใช่" ฟิลิปตบหลังมือของวินน์ด้วยความรัก“เฮ้ เคยยินไหมว่าโครงการพัฒนาโอเอซิสทางตอนใต้ของเมืองริเวอร์เดล ได้รับการพัฒนาโดยจอร์จ โธมัส มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในริเวอร์เดล เท็ดทำให้พวกเราทุกคนภูมิใจด้วยการได้โครงการนั้น!”"งั้นเหรอ? ฉันได้ยินมาว่านายท่านที่อยู่เบื้องหลังโครงการนี้คือเศรษฐีใหม่ระดับโลก เขารวยเป็นบ้า!”“อนาคตของเท็ดจะสดใสมาก เห็นได้ชัดว่าบ๊อบต้องการฝึกให้
ลงทุน 1 พันล้าน!ทรัพย์สินทั้งหมดของครอบครัวเยทส์มีมูลค่าเพียง 700 ถึง 800 ล้านเหรียญ!หากเพิ่มบริษัทของบ็อบกับของแซมซันและเท็ด พวกเขามีจะทรัพย์สินมากกว่าหนึ่งพันล้านไปเล็กน้อยเท่านั้น!การลงทุนหนึ่งพันล้านเหรียญนี้ไม่รู้ว่ามาจากไหน!เขาจะไม่ตื่นเต้นได้อย่างไร?บ๊อบยืนขึ้นอย่างตื่นเต้นและเบิกตากว้าง เขาถามพลางหายใจหอบ “อะไรนะ...นายพูดว่าอะไรนะ? พูดอีกครั้ง!"“นายท่านอาวุโส เรามีเงินลงทุนหนึ่งพันล้านดอร์ล่า!” ในที่สุดชายวัยกลางคนก็ปาดเหงื่อและพูดด้วยความตื่นเต้นเช่นเดียวกันทันใดนั้น บ๊อบก็หน้าแดง เขาเงยหน้าขึ้นและหัวเราะกับท้องฟ้า “วิเศษมาก! ครอบครัวเยทส์กำลังจะเข้าสู่สังคมชั้นสูงในที่สุด! ลงทุนหนึ่งพันล้านดอลล์! ไปหาว่าใครคือคนที่ลงทุนกับเรา เราต้องเชิญพวกเขามาที่นี่และดูแลพวกเขาให้ดี!”คนคนนี้ต้องเป็นมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยมากเขาต้องปฏิบัติต่อคนคนนี้ด้วยความเคารพบ๊อบพร้อมที่จะเชิญพวกเขามาที่นี่ด้วยตัวเองชายวัยกลางคนตอบว่า “เป็นนักลงทุนเทวดา เขาใช้ชื่อว่ามิสเตอร์คลาร์ค นายท่านอาวุโส คุณรู้จักใครที่มีนามสกุลคลาร์คไหม?”ชายวัยกลางคนงงงวย เขาอยู่กับบ๊อบมานานกว่าสิบปี เขารู้จักค
บ็อบจ้องมองฟิลิปซึ่งนั่งอยู่บนที่นั่งอย่างเย็นชา เขาพ่นลมหายใจและพูดว่า “เขาคิดว่าเขาเป็นใคร? ช่างเป็นภาพที่เจ็บปวดเสียนี่กระไร!”ด้วยการเยาะเย้ย บ็อบเดินออกไปพร้อมกับเอาไม้เท้าสีดำแตะพื้น เขากำลังจะออกไปพร้อมกับกลุ่มคนของเขาฟิลิปได้แต่อดทนกับการปฏิบัติแบบนี้มาเป็นเวลานาน เขานั่งบนที่นั่งอย่างเฉยเมยและจิบไวน์ของเขา เขาพูดอย่างใจเย็น “คุณปู่แน่ใจได้อย่างไรว่าผมไม่ใช่มิสเตอร์คลาร์ค”ตอนแรกทุกคนตกใจ จากนั้นพวกเขาก็เริ่มหัวเราะเสียงดังฟิลิปเป็นคนงี่เง่าหรือเปล่า?เขากล้าพูดแบบนี้ได้ยังไง?"เวร! ฟิลิป ทำไมนายไม่ลองส่องกระจกดูตัวเองดูล่ะ? นอกจากนามสกุลของนายแล้ว ส่วนไหนของนายที่ดูเป็นคนรวย”เอริคหัวเราะด้วยความหงุดหงิดคนไร้ยางอายเช่นนี้จะมีตัวตนได้อย่างไร? เขาเป็นคนที่ตลกมาก!ฟิลิปไม่ได้พูดอะไร เขารู้ว่าพวกเขาจะไม่เชื่อ แม้ว่าเขาจะบอกกับพวกเขาบ็อบและกลุ่มคนของเขาพ่นลมทางจมูกและเดินออกจากประตูไปในชั่วพริบตา เหลือเพียงไม่กี่คนในลานบ้านเจสไม่ได้ออกไป เธอมองฟิลิปและพูดอย่างเย็นชาว่า “ฟิลิป ฉันคิดว่านายเป็นตัวปัญหา นายโอ้อวดมากเกินไป ถ้านายยังทำตัวแบบนี้ต่อไป ฉันแนะนำให้นายหย่าก