วินน์เดินลงมาจากชั้นบนสุดอย่างไร้เรี่ยวแรงและห่อเหี่ยวทำไม? ทำไมฟิลิปต้องปิดบังเรื่องพวกนี้กับเธอด้วย? เธอรู้สึกเจ็บปวดและถูกหักหลังอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนวินน์เริ่มตั้งคำถามกับตนเองว่า หรือเธอจะเป็นแค่ของเล่นของฟิลิปจริง ๆ ? เธอรู้สึกว่าโคลอี้นั้นดูจะอยู่เหนือเธอมากเกินไป ไม่ใช่คู่แข่งของเธอแม้แต่น้อยเธอจะทำยังไงดี? เธอจะเผชิญหน้ากับปัญหานี้ยังไง? วินน์รู้สึกเหนื่อยล้า เธอออกเดินไปโดยไร้จุดหมายและในตอนนั้นเอง กลุ่มชายที่ดูเหมือนนักเลงอันธพาลก็ตามหลังเธอมา พวกเขาได้รับสัญญานให้ลงมือและเฝ้ารออยู่ที่ชั้นหนึ่งเป็นเวลาสักพักแล้ว พวกเขามองหน้ากันก่อนจะถูกำปั้นไปมาและเข้าไปประชิดตัววินน์“ว่าไงจ๊ะ คนสวย เธอนี่สวยไม่เบาเลยนะ ผิวขาวผ่อง แถมขายังเรียงสวยอีก ป๊ะป๋าชอบผู้หญิงแบบนี้สุด ๆ ทำไมไม่มีหนุ่มเดินด้วยละจ๊ะ? เธออยากจะมาดื่มกับฉันและพวกหนุ่ม ๆ หน่อยไหม?” “ทำไมสาวสวยอย่างเธอถึงร้องไห้อยู่ล่ะ? ใครมันกล้ารังแกเธอ? บอกฉันสิ เดี๋ยวฉันจะฆ่ามันให้เธอเอง” พวกกลุ่มตามวินน์มาและพูดจาแทะโลมเธอ พวกเขายังพยายามจะแตะต้องตัวเธอและพาเธอไปที่ห้องส่วนตัวอีกด้วยลูกค้าและพนักงานสองสาม
ฟิลิปโอบกอดวินน์ในอ้อมแขนของเขา สายตาอันน่าสะพรึงกลัวของเขาสะท้อนถึงความเยือกเย็นที่อาจสร้างหายนะขึ้นมาได้เขาอาจจะอาละวาดออกมาได้ในวันนี้เขาจะให้คนพวกนี้ได้ชดใช้อย่างงามจนพวกเขาไม่อาจจะคาดคิดได้เชียวแหละ! “วินน์รอผมก่อนนะ ให้ผมจัดการเรื่องนี้แล้วเราค่อยกลับไปคุยกันตกลงไหม?” สายตาอ่อนโยนของฟิลิปจับจ้องไปที่ใบหน้าของวินน์“ก็ได้” วินน์พูดขึ้นพร้อมพยักหน้า สายตาเต็มไปด้วยความเชื่อมั่นในตัวฟิลิปชายคนนี้เป็นสามีของเธอ เขาเป็นผู้พิทักษ์ปกป้องเธอตลอดชีวิตนี้ทำไมเธอจะไม่เชื่อเขา? หรือเธอควรจะหวั่นไหวไปกับสิ่งที่โคลอี้พูด? วินน์ไม่ได้อยากรู้ว่าเมื่อก่อนฟิลิปเป็นอย่างไรหรือตระกูลคลาร์คมีอาชีพอะไรตราบใดที่ฟิลิปอยู่กับเธอ ทุกอย่างก็จะดีเอง ถึงแม้ฟิลิปจะไม่อยากบอกเธอ เธอก็จะไม่บังคับเขาเขาเองก็คงจะลำบากใจเช่นกันเธอเต็มใจที่จะรอวันที่ฟิลิปเปิดใจกับเธอเอง “ดั๊ก? ดั๊ก? นายเป็นอะไรหรือเปล่า?” เหล่าลูกน้องลุกขึ้นและมาล้อมรอบดั๊กไว้ จากนั้นพวกเขาจึงช่วยให้เขาลุกยืนขึ้นฟันหน้าของเขาหัก เลือดกลบปาก จมูกก็มีเลือดไหลย้อยจากการปะทะ“แม่งเอ๊ย! แกยืนทำอะไรอยู่อีก? ฆ่ามันซะ!” ดั๊กจั
“แก…ไอ้เวรเอ๊ย! แกกล้าดียังไงมาอัดฉัน! รนหาที่ตายเเล้ว!” ดั๊กมองที่ฟิลิปด้วยความหวาดกลัว เขาพูดกับฟิลิป “พี่ชายของฉันคือมิคาเอล โมสบี้! เขาเป็นผู้จัดการของร้านนี้เว้ย!” ตุ๊บ!ฟิลิปเตะเขาอีกครั้ง ครั้งนี้เขาเตะไปที่ท้อง อีกฝ่ายร้องโหยหวนออกมาพร้อมกับม้วนตัวกุมท้องด้วยความเจ็บปวด สีหน้าของเขาแดงก่ำสุด ๆ ตับของดั๊กครึ่งหนึ่งกำลังจะแตกออกเพราะแรงเตะนี้“ฉันจะถามแกอีกครั้ง ใครสั่งให้แกทำเรื่องนี้?” สีหน้าของฟิลิปถมึงทึง เขาดึงผมดั๊กพร้อมกับคำรามใส่หน้าดั๊กยังคงดื้อด้าน เขาหัวเราะออกมาสองสามครั้งพร้อมกับเลือดที่กลบปาก และพูดขึ้น “ฮี่ฮี่ ไม่มีใครสั่งฉัน ฉันแค่เห็นเมียสาวสุดสวยของแกและอยากได้เธอ แล้วมันจะทำไม?” เพี๊ยะ! ฟิลิปง้างมือขึ้นและตบหน้าดั๊กอีกครั้ง หลังจากนั้นดั๊กเริ่มรู้สึกหัวหมุน“ใครสั่งแกมา?” ฟิลิปตะโกนอีกครั้ง สายตาของเขาบ่งบอกชัดเจนว่าอยากจะฆ่าคนตรงหน้าเสียเหลือเกินดั๊กก็ยังคงดื้อด้านไม่ยอมบอก เขาเงยหน้าขึ้นก่อนจะหัวเราะออกมา “เมียแกมันโคตรน่ากิน หุ่นของเธอยั่วยวน ฉันเชื่อว่าแกทำให้เธอมีความสุขไม่ได้หรอก ใช่ไหม? ทำไมเราไม่ร่วมมือกันละ?”ปึก! ฟิลิปทุบตีดั๊กต่อไป
ตาของมิคาเอลกระตุก คนทั้งคู่มาพลอดรักต่อหน้าเขา นั่นมันไม่ให้เกียรติเขาแม้แต่น้อย!บ้าเอ๊ย! กล้าดียังไงมาดูถูกเขาแบบนี้?มิคาเอลโกรธจัด เขาชี้หน้าฟิลิปและตะโกนออกมา “ไอ้หนู อย่าหาว่าฉันทำร้ายเด็กก็แล้วกัน แกทำตัวแกเองนะ! ไป! จัดการมันให้ร่วงและเอาตัวผู้หญิงมา!” ลูกน้องของมิคาเอลกว่าสิบคนมุ่งตรงเข้าไปหาฟิลิปพร้อมรอยยิ้มเยาะคน ๆ เดียวจะสู้คนสิบได้ยังไงกัน? ประเมินค่าความสามารถของเขาสูงเกินไปแล้วผู้คนสองสามคนพากันส่ายหัวและถอนหายใจหย่างหมดหวังนั่นมันจบแล้ว เจ้าเด็กนั่นตายแน่แล้วนั่นมันมิคาเอล โมสบี้ เขาขึ้นชื่อลือชาว่าเป็นคนเหี้ยมโหด เมื่อไหร่ก็ตามที่มีคนทำให้เขาไม่พอใจนั่นจะเป็นราวกับว่าคน ๆ นั้นไปทำให้หมาบ้าโกรธเลยแหละ เขาจะตามกัดไม่ปล่อยแน่อย่างไรก็ตาม ฟิลิปยังคงนิ่งเฉยต่อเหตุการณ์นี้ เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาและกดเบอร์โทรออก พูดขึ้นด้วยเสียงเย็น “จิม เมื่อไหร่นายจะมาถึงที่นี่ ฉันถูกผู้จัดการร้านอาหารของนายล้อมตัวไว้อยู่เนี้ย” ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ชายวัยกลางคนในชุดสูทสีดำที่กำลังวิ่งมายังประตูทางเข้าร้านอาหารหลังจากลงมาจากรถแลนด์โรเวอร์ของเขา พูดขึ้นอย่างลนลาน “นายน้อย
จิมไม่อยากมาที่ร้านอาหารเท่าไหร่นัก โดยส่วนมากแล้วเขาจะให้มิคาเอลจัดการที่ร้านไปเลยเนื่องจากอยู่ไกลจากที่นี่ จิมจึงไม่ได้มาคอยควบคุมมิคาเอล ทำให้มิคาเอลแผ่ขยายอำนาจบารมีในร้านอาหารมากขึ้นไปเรื่อย ๆ อย่างไรก็ตามสำหรับจิมแล้ว เขาก็เป็นแค่เด็กน้อยคนนึง “โอ้ไม่นะ มิสเตอร์วิงเกอร์มาที่นี่แล้ว!” “ฮิ ฮิ ฉันเชื่อว่าเจ้าหนุ่มนั่นไม่มีทางหนีไปได้แน่งานนี้ ช่างโง่ยิ่งนัก!” “ใครสั่งใครสอนให้เขาทำตัวอวดดีขนาดนี้? เขาอาจจะลองแก้ปัญหานี้ด้วยการขอโทษและยอมจ่ายเงินชดเชย แต่ฉันเชื่อว่ามิสเตอร์วิงเกอร์คงไม่ยอมยกโทษให้เขาหรอกดั๊กถูกพยุงขึ้นจากพื้น ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยเลือด เมื่อเขาเห็นจิม เขาทำท่าราวกับได้เห็นผู้ช่วยชีวิต เขาโอดครวญขึ้นมา “ท่านครับ ท่านต้องช่วยผมนะ! เจ้าเด็กนั่นมันทำให้ผมเป็นแบบนี้ เขาป่าเถื่อนเกินไปแล้ว!” อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นกลับเหนือความคาดหมายของทุกคน จิมไม่ได้สนใจพี่น้องโมสบี้เลย ใครคือดั๊กและมิคาเอล โมสบี้กัน? พวกเขาเป็นแค่ขยะของเสียสำหรับเขาในตอนนี้ จิมไม่ลังเลที่จะลงโทษใครก็ตามที่มาทำให้นายน้อยไม่พอใจ ถึงแม้คน ๆ นั้นจะเป็นคนในครอบครัวเขาก็ตามพวกเขาไม
จิมรู้สึกเย็นเข้าไปถึงกระดูกดำหลังจากได้ยินประโยคนั้นนายน้อยโกรธจัด จิมพยักหน้าอย่างฉุนเฉียว สีหน้าดูกังวลในขณะที่พูดขึ้น “เข้าใจแล้วครับ!” จากนั้นเขาหันไปเตะเข้าที่ท้องของมิคาเอล มิคาเอลล้มหน้าคว่ำลง จิมตะโกนใส่มิคาเอลอย่างไม่แยแส “มิคาเอล โมสบี้ จากนี้ไปนายไม่ใช้ผู้จัดการร้านอาหารของฉันอีกต่อไป!” มิคาเอลโกรธจัด เขาตัวสั่นไปทั้งตัว“เวรเอ๊ย! จิม วิงเกอร์ อย่าคิดว่าฉันจะไม่ทำอะไรแกเพราะแกไล่ฉันออกนะ! ฉันมีลูกน้องมากกว่าสิบคนอยู่ที่นี่ แกคิดว่าแกจะรับมือได้งั้นเหรอถ้าพวกเราอาละวาดขึ้นมา?” มิคาเอลป่าเถื่อน เขาพึ่งพาลูกน้องที่อยู่แวดล้อมเขา จากนั้นเขาจึงลุกขึ้นยืนจากพื้นและลูบท้องของตัวเองเมื่อเขาพูดเช่นนั้น ลูกน้องของเขาก็เดินเข้ามา พวกเขาพยายามที่จะบังคับให้เขายอมจำนนสีหน้าของจิมเคร่งขรึมในขณะที่เขาตะโกนใส่ลูกน้องของมิคาเอล “พวกแกตาบอดงั้นเหรอ? พวกแกไม่รู้เหรอว่าฉันคือใคร? ฉัน จิม วิงเกอร์! ถ้าพวกแกกล้าก้าวเท้าเข้ามาอีกแม้แต่ก้าวเดียวฉันจะฆ่าโคตรเหง้าตระกูลพวกแกให้หมด!” สีหน้าของจิมเยือกเย็นแต่ประกายในตาลุกโชนถ้าไม่สามารถทำให้นายน้อยเห็นว่าเขาควบคุมสถานการณ์ได้ เขาคงต
เหล่าลูกค้าที่เฝ้ามองเหตุการณ์ที่ค่อย ๆ คลี่คลายต่างพากันสูดลมหายใจเข้าลึก เขาเจ๋งสุด ๆ! นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นคนเอาเงินมาแจกจ่ายเล่นแบบนี้นี่มันเศรษฐีชัด ๆ! หรือนี่เป็นวิถีทางของพวกคนรวยกันนะ? พวกเขาต่างอิจฉาตาร้อน ไม่มีทางเลยที่จะไม่อิจฉาเมื่อเห็นใคนสักคนทำเรื่องแบบนี้ อย่างไรก็ตามรูบี้และเพื่อนของเธอพลาดฉากเด็ดนี้ไปถ้าพวกเขาได้อยู่เห็น พวกเขาจะเข้าไปประจบประแจงฟิลิปยังไงนะ? รูบี้คงจะโยนทุกอย่างที่เธอมีทิ้งไปอย่างไม่ลังเลและพยายามมายั่วยวนฟิลิปเป็นแน่ณ จุดนี้ มิคาเอลตัวสั่นไปหมด เขาไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เขาเห็นลูกน้องของเขทิ้งเขาไปเพราะเงินหลายหมื่นดอลลาร์นั้นไอ้หนุ่มนั่นมันรวยจริง! มิคาเอลคลุ้มคลั่ง เขารู้สึกกลัวน้องชายของเขาไปทำให้คนแบบไหนไม่พอใจเข้ากันนะ? ฟิลิปมองไปที่มิคาเอลที่ดูตื่นกลัวและพูดขึ้น “แกคิดว่าฉันจะทำยังไงกับแกดี?” มิคาเอลเหงื่อแตกพลั่ก ๆ เมื่อได้ยินเช่นนั้นตุ๊บ! ในทันทีทันใด มิคาเอลคุกเข่าลงที่พื้นและโค้งคำนับให้ฟิลิปซ้ำ ๆ “นายท่านคลาร์ค ผมผิดไปแล้ว ผมสับสนไปหน่อย ผมมองไม่เห็นความยิ่งใหญ่ของท่าน ได้โปรดยกโทษให้ผมด้วย ได้
อย่างไรก็ตามก่อนที่เขาจะได้พูดต่อ วินน์ขยับตัวและหาท่าที่นั่งสบายได้ เธอโอบเอวฟิลิปและหลับตาลง “ฉันเหนื่อยแล้ว”ฟิลิปหยุดพูด เขาโอบเธอด้วยแขนขวาของเขาและทั้งสองก็เงียบไปเป็นเวลานานมากแล้วที่เขาได้ใกล้ชิดกับวินน์แบบนี้เขาจะบอกวินน์เกี่ยวกับตัวเขาได้อย่างไรบางทีเขาควรจะหาโอกาสอื่นฟิลิปลงจากรถและอุ้มวินน์กลับเข้าคฤหาสน์เก่าแก่ของตระกูลจอห์นสตันมาร์ธาอารมณ์ดีเป็นพิเศษวันนี้ เธอไม่เคยเห็นทองคำไปเครื่องเงิน เครื่องเพชรมากมายขนาดนี้มาก่อนและยังมีเงินสดสองล้านอีกด้วย มาร์ธาต้องการที่จะเข้านอนพร้อมกับกำเงินสดไว้ในมือด้วย”เอ๋ พวกเธอกลับมาแล้ว? วินน์เป็นอะไรไป?” เมื่อมาร์ธาได้ยินเสียงเคาะประตู เธอเปิดประตูและเห็นฟิลิปอุ้มวินน์มาฟิลิปอุ้มวินไปที่ห้องนอนของเธอและถอดรองเท้าและเสื้อโค้มของเธอออก ก่อนจะนั่งลงที่หัวเตียง สายตาของเขาเต็มไปด้วยความเอ็นดู เขานั่งลงมองวินน์ที่นอนหลับปุ๋ยคิ้วสวยได้รูปของเธอขมวดปมเล็กน้อย ใครก็สามารถบอกได้ว่าเธอเครียดแค่ไหน“วินนี่ สักวันหนึ่งคุณจะได้รู้ว่าผมเป็นใคร เมื่อวันนั้นมาถึงคุณจะได้เป็นผู้หญิงที่มีความสุขที่สุดในโลกใบนี้ มิล่าก็จะได้เป็นเจ้าหญิง
นั่นคือธีโอ แซนเดอร์!ฟิลิปไม่รู้ว่าอะไรดีต่อตัวเขา เขากล้าดียังไงถึงไม่แสดงความเคารพ?บ๊อบเป็นคนแรกที่โกรธ เขาตะโกนใส่ฟิลิปว่า “ฟิลิป เมื่อมิสเตอร์แซนเดอร์มาที่นี่เพราะนาย ทำไมนายถึงยังนั่งอยู่? นายคิดว่านายเป็นใคร? นายไม่มีมารยาททางสัมคมเหรอ?”หลังจากที่บ๊อบตะโกนอย่างโกรธจัด เอริค อารอน และคนอื่นๆ ก็เริ่มด่าเขาเช่นกัน“ฟิลิป ยืนขึ้นและขอโทษมิสเตอร์แซนเดอร์เดี๋ยวนี้!”“ไอ้ขยะคนนั้นคิดว่าเขาเป็นคนพิเศษ”พวกเขากำลังพูดถึงฟิลิปมากขึ้นและมากขึ้นคนเหล่านี้ไม่ชอบฟิลิปมานานแล้ว ในที่สุดพวกเขาก็มีโอกาสที่จะได้พูดสอดถ้าธีโอโกรธ ฟิลิปคงเสร็จแน่!อย่างไรก็ตาม ฟิลิปยกศีรษะขึ้นเล็กน้อยและมองทุกคน จากนั้นเขาก็คว้าทัพพีและตักซุปให้วินน์ เขากล่าวว่า “นี่ไม่เลว มันดีต่อร่างกายของเธอ เธอควรดื่มอีก”เวรเถอะ!บ๊อบ เดือดพลาด!ไอ้ขยะคนนี้ดูหมิ่นเขาอย่างสิ้นเชิง!เมื่อบ๊อบกำลังจะตะโกนใส่เขาอีกครั้ง ฟิลิปจึงพูดอย่างใจเย็นว่า “นั่ง”“ได้ครับ!”ธีโอถอนหายใจอย่างโล่งอกและนั่งลงอย่างมีความสุข เขานั่งถัดจากรัสเซลและพวกเขาก็พยักหน้าเมื่อสบตากันบ้าอะไรกัน?เกิดอะไรขึ้น? นี้เริ่มแปลกมากไปแล้วทุ
“ธีโอ แซนเดอร์? ธีโอ แซนเดอร์คนไหน?”"มิสเตอร์ธีโอ แซนเดอร์ จากองค์กรการกุศลธีโอดอร์?”“ราชาโลกของใต้ดินแห่งเมืองริเวอร์เดล ธีโอ แซนเดอร์ เหรอ? เขามาที่นี่ทำไม”ก่อนที่ญาติพี่น้องและรุ่นลูกหลานของครอบครัวเยทส์ที่อยู่ในลานบ้านจะฟื้นคืนสติ ทุกคนในห้องโถงเริ่มวิตกกังวลเมื่อเทียบกับผู้ประกอบการและนักสะสมที่มีชื่อเสียงอย่างรัสเซล ธีโอได้โด่งดังในเมืองริเวอร์เดลเนื่องจากเขามีอำนาจทางด้านมืดหากผู้มีอำนาจเช่นนั้นไม่ได้มาที่นี่อย่างจริงใจ อาจกล่าวได้ว่าเขามาที่นี่เพื่อปลิดชีพใครบางคนเป็นเรื่องธรรมดาที่บ๊อบจะประหม่าไม่ใช่ทุกคนที่จะติดต่อกับชายผู้มีอำนาจอย่างธีโอได้ อีกอย่างคือไม่มีบุคคลธรรมดาคนไหนที่จะเชิญเขาเพื่อทำอะไรบางอย่างได้ในขณะที่ทุกคนตกตะลึง ธีโอก็เดินเข้าไปในลานบ้านด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา ชุดสูทสีขาวและหมวกทรงฟีโดราของเขาเปล่งประกายไปทั่วอาณาเขต ใครบางคนอาจจะรู้สึกเหมือนถูกภูเขาบดขยี้ด้วยการปรากฏตัวของเขาแน่นอนว่านั่นคือธีโอ แซนเดอร์ ราชาของโลกใต้ดินแห่งเมืองริเวอร์เดล!การปรากฏตัวของเขามีอำนาจเหนือทั้งงานฉลองเจสตกใจมาก นี่คือชายผู้ทรงอำนาจและมีชื่อเสียงมากในเมืองริ
'จอร์จ โธมัส คุณมันโคตรจะทำลายชีวิตฉัน!'ฟิลิปไม่สามารถปฏิเสธเขาได้ ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงเตรียมตัวให้พร้อมและเดินผ่านหน้าทุกคน โดยมีวินน์อยู่ข้าง ๆ เขาเขารู้สึกได้ถึงการจ้องมองที่เย็นชาที่หลังของเขามากกว่าสิบครั้ง พวกมันแทงเข้าไปในร่างกายของเขาราวกับลูกศรพันดอกเมื่อพวกเขาอยู่ในลานบ้าน ทุกคนก็นั่งลง แน่นอนว่ารัสเซลนั่งอยู่ในห้องโถง หลังจากที่บ๊อบนั่งลงก่อนเมื่อเอริคเห็นว่าทุกคนอยู่ในห้องโถงและลานทางเดินกลาง เขาจึงตัดสินใจที่อยู่ตรงลานด้านนอก เขาเยาะเย้ยในขณะที่รู้สึกพอใจกับตัวเองว่า “ฟิลิป ไม่คิดว่าขยะอย่างนายจะรู้จักผู้ประกอบการและนักสะสมอย่างรัสเซล ช่างโชคดีเสียนี่กระไร!”แม้ว่าเขาจะยิ้ม แต่ทุกคนก็บอกได้เลยว่ามันเป็นน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยการเสียดสี ฟิลิปขมวดคิ้วเล็กน้อย ความทุกข์ในใจเริ่มรุนแรงขึ้นเอริคเป็นตัวเคราะห์ร้ายของครอบครัวเยทส์ถึงกระนั้นฟิลิปก็ยังเพิกเฉยต่อเขา เขาเป็นแค่คนโง่ที่ไร้ค่า แล้วทำไมเขาต้องไปยุ่งกับเอริคด้วย?อีกด้านหนึ่ง รัสเซลเพิ่งนั่งลง เมื่อเขาเห็นฟิลิปที่มุมของลานด้านนอก กำลังถูกดูถูกโดยเอริคด้วยรอยยิ้มจอมปลอมบนใบหน้า เขารู้สึกกระวนกระวายใจคนฉ
บ๊อบรู้สึกตื่นเต้นมากในขณะนี้รัสเซลอยู่ที่นี่และให้ของขวัญเป็นภาพ 'กุ้ง' โดยฉี ไป่ซี่ นี่เป็นของขวัญล้ำค่า!ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถให้ของขวัญที่หรูหราเช่นนี้ได้ทุกคนเดินตามบ๊อบและออกมาที่ลานด้านนอก จากนั้นพวกเขาก็มาถึงทางเข้าคฤหาสน์เอริคเป็นคนสุดท้ายที่มาถึง เมื่อเห็นว่าฟิลิปไม่ขยับตัวตามมา เขาก็พูดอย่างเกลียดชังว่า “เป็นอะไรไป? คนสำคัญอย่างรัสเซล ฟิลด์ อยู่ที่นี่ นายไม่อยากไปต้อนรับเขาเหรอ?”ผู้ชายคนนี้มีตะปูที่ก้นของเขาเหรอ?เขายังนั่งอยู่กับที่ได้อย่างไร?หลังจากเสียงเตือนของเอริค ฟิลิปครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้และได้ข้อสรุปว่าคำพูดของเอริคนั้นสมเหตุสมผล เขาลุกขึ้นและตามวินน์ไปพร้อม ๆ กับผู้คนที่เหลือ อย่างไรก็ตามเขายืนห่างจากฝูงชนเพียงไม่กี่เมตร เขาไม่ต้องการที่จะไปอยู่ด้านหน้า ฟิลิปไม่ต้องการเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องแบบนี้ทุกคนยืนที่ประตูด้วยความเคารพ รถมายบัคสีดำหยุดอยู่ที่ทางเข้าทันใดนั้นประตูรถก็เปิดออกและรัสเซลก็ลงมาจากรถด้วยใบหน้ายิ้มแย้มบ๊อบเดินออกไปพร้อมกับยิ้มกว้างบนใบหน้า เขากางมือและกล่าวด้วยความเคารพว่า “มิสเตอร์ฟิลด์ ฉันไม่ได้คาดคิดว่าคนสำคัญเช่นคุณจะมาที่
ปังประตูห้องน้ำเปิดออก และเจสก็เข้ามาเมื่อนางเห็นภาพตรงหน้าเธอจึงหันหลังเดินจากไป ก่อนที่เธอจะจากไป อย่างไรก็ตามเธอหันกลับมาและพูดว่า “พวกนายแต่งงานมานานแล้ว หาที่ที่ดีกว่านี้ ถ้าพวกนายอยากลึกซึ้งระหว่างกัน”หลังจากที่เจสจากไป ฟิลิปพูดด้วยความรำคาญว่า “ต้องมีอะไรผิดปกติกับความคิดของผู้หญิงคนนี้ เธอทนไม่ได้ที่เห็นสามีและภรรยามีความสุขกัน”วินน์กลอกตามองเขาและเดินเข้ามาหาเขา เธอยืดหลังให้ตรงและติดกระดุมเสื้อให้เขาฟิลิปอยากจะสานต่อแต่วินน์ปัดมือของเขาออก “หยุด หาเศษหาเลย ไปกันเถอะ."ฟิลิปยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้ เขาบ่นว่า “เราเป็นสามีภรรยากันมานานแล้ว เธอกลัวอะไร?"วินน์หันกลับมาและแสดงรอยยิ้มที่พึงพอใจ เธอดูเย้ายวนภายใต้แสงแดดเมื่อพวกเขากลับมาที่งานเลี้ยง ก็ใกล้จะสิ้นสุดแล้วฟิลิปเพิ่งนั่งลงได้หนึ่งนาทีเมื่อได้รับข้อความจากจอร์จ'นายน้อยพร้อมแล้ว รอการเซอร์ไพรส์ก่อนนะครับ'แปลกมันหมายความว่าอย่างไร?ฟิลิปตอบอย่างรวดเร็วว่า 'จอร์จ คุณหมายความว่าอย่างไร?'ในขณะนี้ จอร์จนั่งอยู่บนรถเบนท์ลีย์และกำลังเดินทางไปยังหมู่บ้านเยทส์เขาตอบว่า 'นายน้อย คุณเป็นตัวละครหลักของฉลองของคร
เอริคอ้าปากค้าง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความดูถูก เขาชี้ไปที่ฟิลิปและพูดว่า “เวรเถอะ! นายพูดว่าอะไรนะฟิลิป? นายกำลังจะพาวินน์ไปที่นั่นเหรอ? นายจะพาเธอไปที่นั่นได้อย่างไร? นายมันก็แค่เศษขยะ!“นายรู้ไหมว่าคฤหาสน์เซอร์รัสเป็นสถานที่แบบไหน? มันเป็นคฤหาสน์ที่ลึกลับที่สุดในเมืองริเวอร์เดล! เจ้าของใช้เงินหนึ่งพันล้านในการสร้าง!“นายกำลังจะบอกว่านายมีคุณสมบัติที่จะได้รับเชิญไปงานปาร์ตี้ด้วยเหรอ?”เอริคไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เขาพูดคำพูดที่เลวร้ายและคำเหน็บแนมทุกประเภทเขาดึงดูดความสนใจของคนจำนวนหนึ่งได้ในเวลาเพียงไม่นาน พวกเขาเริ่มหัวเราะเยาะฟิลิปเช่นกันฟิลิปเพิ่งทำให้ตัวเองอับอาย!เขายังคงพยายามโอ้อวดแม้ว่าทุกสิ่งจะมาถึงจุดนี้แล้วใบหน้าของวินน์ก็ถูกเผาไหม้ด้วยความอับอายเช่นกัน เธอเตะฟิลิปใต้โต๊ะเพื่อบอกให้เขาหยุดพูดเธออายเป็นอย่างมากแล้ว แต่ฟิลิปไม่ยอมหยุดพูด!เขาจะหยุดหลังจากที่เขามีปัญหากับทุกคนเหรอ?เมื่อเธอคิดถึงเรื่องนี้ วินน์ก็เริ่มโกรธอย่างไรก็ตาม เธอยังคงพอทนกับฟิลิปได้ เธอพูดเบา ๆ ว่า “พอแล้ว หยุดพูด นายอยากให้เราดูโง่เหรอ?”ฟิลิปพูดไม่ออก เขาจับจมูกของเขาและพยักหน้า
บ็อบจ้องมองฟิลิปซึ่งนั่งอยู่บนที่นั่งอย่างเย็นชา เขาพ่นลมหายใจและพูดว่า “เขาคิดว่าเขาเป็นใคร? ช่างเป็นภาพที่เจ็บปวดเสียนี่กระไร!”ด้วยการเยาะเย้ย บ็อบเดินออกไปพร้อมกับเอาไม้เท้าสีดำแตะพื้น เขากำลังจะออกไปพร้อมกับกลุ่มคนของเขาฟิลิปได้แต่อดทนกับการปฏิบัติแบบนี้มาเป็นเวลานาน เขานั่งบนที่นั่งอย่างเฉยเมยและจิบไวน์ของเขา เขาพูดอย่างใจเย็น “คุณปู่แน่ใจได้อย่างไรว่าผมไม่ใช่มิสเตอร์คลาร์ค”ตอนแรกทุกคนตกใจ จากนั้นพวกเขาก็เริ่มหัวเราะเสียงดังฟิลิปเป็นคนงี่เง่าหรือเปล่า?เขากล้าพูดแบบนี้ได้ยังไง?"เวร! ฟิลิป ทำไมนายไม่ลองส่องกระจกดูตัวเองดูล่ะ? นอกจากนามสกุลของนายแล้ว ส่วนไหนของนายที่ดูเป็นคนรวย”เอริคหัวเราะด้วยความหงุดหงิดคนไร้ยางอายเช่นนี้จะมีตัวตนได้อย่างไร? เขาเป็นคนที่ตลกมาก!ฟิลิปไม่ได้พูดอะไร เขารู้ว่าพวกเขาจะไม่เชื่อ แม้ว่าเขาจะบอกกับพวกเขาบ็อบและกลุ่มคนของเขาพ่นลมทางจมูกและเดินออกจากประตูไปในชั่วพริบตา เหลือเพียงไม่กี่คนในลานบ้านเจสไม่ได้ออกไป เธอมองฟิลิปและพูดอย่างเย็นชาว่า “ฟิลิป ฉันคิดว่านายเป็นตัวปัญหา นายโอ้อวดมากเกินไป ถ้านายยังทำตัวแบบนี้ต่อไป ฉันแนะนำให้นายหย่าก
ลงทุน 1 พันล้าน!ทรัพย์สินทั้งหมดของครอบครัวเยทส์มีมูลค่าเพียง 700 ถึง 800 ล้านเหรียญ!หากเพิ่มบริษัทของบ็อบกับของแซมซันและเท็ด พวกเขามีจะทรัพย์สินมากกว่าหนึ่งพันล้านไปเล็กน้อยเท่านั้น!การลงทุนหนึ่งพันล้านเหรียญนี้ไม่รู้ว่ามาจากไหน!เขาจะไม่ตื่นเต้นได้อย่างไร?บ๊อบยืนขึ้นอย่างตื่นเต้นและเบิกตากว้าง เขาถามพลางหายใจหอบ “อะไรนะ...นายพูดว่าอะไรนะ? พูดอีกครั้ง!"“นายท่านอาวุโส เรามีเงินลงทุนหนึ่งพันล้านดอร์ล่า!” ในที่สุดชายวัยกลางคนก็ปาดเหงื่อและพูดด้วยความตื่นเต้นเช่นเดียวกันทันใดนั้น บ๊อบก็หน้าแดง เขาเงยหน้าขึ้นและหัวเราะกับท้องฟ้า “วิเศษมาก! ครอบครัวเยทส์กำลังจะเข้าสู่สังคมชั้นสูงในที่สุด! ลงทุนหนึ่งพันล้านดอลล์! ไปหาว่าใครคือคนที่ลงทุนกับเรา เราต้องเชิญพวกเขามาที่นี่และดูแลพวกเขาให้ดี!”คนคนนี้ต้องเป็นมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยมากเขาต้องปฏิบัติต่อคนคนนี้ด้วยความเคารพบ๊อบพร้อมที่จะเชิญพวกเขามาที่นี่ด้วยตัวเองชายวัยกลางคนตอบว่า “เป็นนักลงทุนเทวดา เขาใช้ชื่อว่ามิสเตอร์คลาร์ค นายท่านอาวุโส คุณรู้จักใครที่มีนามสกุลคลาร์คไหม?”ชายวัยกลางคนงงงวย เขาอยู่กับบ๊อบมานานกว่าสิบปี เขารู้จักค
'รอสัญญาณจากฉัน ฉันไม่ชอบครอบครัวเยทส์” ฟิลิปตอบข้อความอย่างลับ ๆ และเก็บโทรศัพท์ของเขาจอร์จอยู่ที่สำนักงานของประธานในเอเปก กรุ๊ป หลังจากที่เขาได้รับข้อความ เขาเลิกคิ้วและบอกกับเลขาฯ ให้ประกาศเรื่องนี้ตราบใดที่ฟิลิปเอ่ยปาก เขาก็จะทำให้ครอบครัวเยทส์ล้มละลายคนโง่ตาบอดเหล่านี้จะต้องต่อต้านนายน้อย“ฟิลิป นายกำลังทำอะไร?” วินน์สังเกตว่าฟิลิปเล่นโทรศัพท์ของเขาตลอดเวลา เธอจึงถามด้วยความสงสัย“โอ้ มันไม่มีอะไร ศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์บอกฉันว่าเขาจะเตรียมการผ่าตัดของมิล่าในวันพุธหน้า” ฟิลิปตอบ"จริงเหรอ?" วินน์รู้สึกตื่นเต้น เธอจับมือฟิลิปด้วยอารมณ์อ่อนไหวมิล่าคือทุกสิ่งของเธอ คุณแม่คนไหนจะอยากเห็นลูกของตัวเองทนทุกข์?"ใช่" ฟิลิปตบหลังมือของวินน์ด้วยความรัก“เฮ้ เคยยินไหมว่าโครงการพัฒนาโอเอซิสทางตอนใต้ของเมืองริเวอร์เดล ได้รับการพัฒนาโดยจอร์จ โธมัส มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในริเวอร์เดล เท็ดทำให้พวกเราทุกคนภูมิใจด้วยการได้โครงการนั้น!”"งั้นเหรอ? ฉันได้ยินมาว่านายท่านที่อยู่เบื้องหลังโครงการนี้คือเศรษฐีใหม่ระดับโลก เขารวยเป็นบ้า!”“อนาคตของเท็ดจะสดใสมาก เห็นได้ชัดว่าบ๊อบต้องการฝึกให้